กลุ่มแพทย์แผนไทย/สินค้าชุมชนสงขลา

กลุ่มแพทย์แผนไทย/สินค้าชุมชนสงขลา รับปรึกษา ดูแลสุขภาพ และบำบัดรักษา ? ผลิตภัณท์ส่งเสริมสุขภาพและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพเพื่อความยั่งยืนของชีวิตตามแนวทางการแพทย์แผนไทย ส่งเสริมผลิตภัณท์ชุมชน

06/10/2025

อาการกล้ามเนื้อ "เป็นแผ่นหนา" ที่เรียกว่า "พังผืด" - มันคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะรักษายังไง

บทความโดย พท.กมลลาสน์ ชีวสาธน์เวชกุล
(แพทย์แผนไทย พท.ว เวชกรรมไทย / พท.น นวดไทย)

เนื่องจากมีคนไข้ทั้งถามทั้งมารับการรักษาที่คลินิกเราด้วยอาการนี้ค่อนข้างเยอะมาก ๆ คนไข้มักจะถามว่ามันคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะรักษาอย่างไร เราเลยถือโอกาส เราเรื่องนี้มาอธิบายให้ฟัง

*** พังผืดหนา ๆ ที่จับเจอที่ "สะบัก" หรือ "หลัง" ภาษาอังกฤษเรียกว่า "Fibrosis" แปลง่าย ๆ ตามที่บางคนเข้าใจ ก็คือ "พังผืด"

ในยามปรกติ ในร่างกายของเราจะมี "พังผืด" เหล่านี้หุ้มอยู่ตามกล้ามเนื้อต่าง ๆ ของร่างกายอยู่แล้ว กล้ามเนื้อมัดไหนใช้เยอะหน่อยก็มี "พังผืด" เกาะอยู่หนาหน่อย มัดไหนใช้น้อยก็หนาน้อยหน่อย

*******************************

พังผืดเหล่านี้จะจะหนาขึ้นมา ด้วยสาเหตุดังต่อไปนี้

1) ได้รับอุบัติเหตุเฉียบพลันขึ้นที่กล้ามเนื้อ
2) ได้รับการบาดเจ็บเรื้อรังที่กล้ามเนื้อ
3) กล้ามเนื้อถูกใช้งานมากเกินไป

*** ในบรรดาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ "พังผืดหนา" ทั้งหมด หัวข้อที่ท่านควรจะใส่ใจมากที่สุด คือ "ได้รับการบาดเจ็บเรื้อรังที่กล้ามเนื้อ" ยกตัวอย่างอาการทีทำให้เกิดอาการบาดเจ็บเรื้อรังเช่น

- กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรังแล้วไม่ได้รักษาให้ถูกต้อง
- กล้ามเนื้ออักเสบแล้วยังฟื้นใช้งานซ้ำ ๆ
- โดนนวดหยี้หนัก ๆ แรง ๆ มากเกินไป บ่อย ๆ
- และอื่น ๆ ที่ไม่สามารถบอกได้

******************************

การรักษาอาการแบบนี้ จำเป็นต้องใช้หัคถการทางการแพทย์แผนไทยอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการนวดกดจุดสัญญาณแบบทั่วไป

*** เพราะ "พังผืดเหล่านี้" บางส่วนอยู่ชั้นลึกแต่อยู่เป็นจุด บางส่วนอยู่กล้ามเนื้อชั้นบนแต่ก่อนบริเวณกว้าง

หากสลายพังผืดเหล่านี้ด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับตัวคนไข้ที่ถูกนวดคือ

- อาจเกิดอาการอักเสบซ้ำที่พังผืดเดิม ทำให้หนาตัวขึ้นมาอีก
- เมือเกิดอาการอักเสบซ้ำ อาจทำให้เป็นไข้ขึ้นมา ที่เรียกกันว่า "ไข้เส้น"

ข้อมูลที่เหลือ เดี๋ยวจะเอาไปอธิบายในห้อง พท. ในช่วงเวลา Live สด ท่านใดติดงานตามชมย้อนหลังได้เลย เดี๋ยวจะทำเอกสารเอกใน Database ของห้อง พท. ด้วย

ท่านใดต้องการสมัครห้อง พท. ติดต่อทางไลน์ได้เลย Line ID : revthai

06/10/2025

อาการ "ต่อมน้ำเหลืองคอบวม อักเสบ" กับอาการโรค 2 โรคจาก 2 กลุ่มอาการ "ไข้กาฬทูมจากตักศิลา" และ "ซางกะตังจากปฐมจินดา" - ใครที่คิดว่าบางโรคเกิดได้เฉพาะเด็กเท่านั้น แนะนำให้ทำความเข้าใจใหม่ เพราะผู้ใหญ่ก็เป็นได้ แค่อาจเปลี่ยนชื่อโรคไปเท่านั้น

*** สมาชิกห้อง VIP สาขาเวชกรรมไทยขอมา

บทความโดย พท.กมลลาสน์ ชีสาธน์เวชกุล
(แพทย์แผนไทย พท.ว เวชกรรมไทย / พท.ภ เภสัชกรรมไทย)

โรคกลุ่มตักศิลา มีทั้งโรคที่เป็นกลุ่ม "เอกโทษปิตตะ" และ "เอกโทษเสมหะ" ซึ่งบอกเลยว่าโรคทั้ง 2 กลุ่มนี้จ่ายยาไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าทุกโรคจะจ่ายยาเบญจโลกวิเชียรได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นเช็คก่อนว่าอาการของคนไข้เกิดจากอะไร

*** อาการ "ต่อมน้ำเหลืองคอบวม อักเสบ" มีหลายโรคที่ทำให้เกิดอาการแบบนี้ได้ แต่วันนี้จตะเปรียบเทียบกับโรคจาก 2 กลุ่มอาการ นั้นคือ

1) ไข้กาฬทูม จากกลุ่มโรคตักศิลา
2) ซางกะตัง จากกลุ่มโรคปฐมจินดา

*** โรคทั้งสองให้ผลบางอย่างที่เหมือนกันคือ ต่อมน้ำเหลืองคอบวม แต่บอกเลยว่า "เอกโทษ" ของทั้ง 2 โรคนั้นไม่เหมือนกัน และถึงแม้จะติดเชื้อแบคทีเรียแกรมลบเหมือนกัน แต่ก็เป็นแบคทีเรียคนละกลุ่มอยู่ดี

****************************************

1) ไข้กาฬทูม โรคนี้ถ้าดูผ่าน ๆ อาจจะมองเป็น "เอกโทษเสมหะ" แต่บอกเลยว่าโรคนี้ไม่ใช่เอกโทษเสมหะ ถึงแม้พิกัดเกิดโรคจะอยู่แถว ๆ ศอเสมหะก็ตามที แต่ไม่ว่าจะยังไงก็เป็น "เอกโทษปิตตะ"

*** เชื้อก่อโรคนี้คือไวรัสในกลุ่ม Paramyxovirus ซึ่งเวลารับเชื้อจะรับผ่านทางศอเสมหะ แต่อาการจะไม่เกิดเอกโทษทางศอกเสมหะ แต่ไปเกิดกับเอกโทษปิตตะแทน

ยกตัวอย่าง ลักษณะอาการที่อาจเจอกับคนไข้ เช่น

1) มีอาการไข้กำเดาสูง 38 องศา
2) มีอาการปากแห้งคอแห้ง กระหายน้ำ
3) มีอาการเบื่ออาหาร ปวดหัว คล้ายลมจันทะกลา
4) มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ
5) มีอาการต่อมน้ำเหลืองใต้คาง ที่คอ บวมโต
และอื่น ๆ อีกหลายอาการ

*** อาการที่เขียนเอาไว้ในตำราการแพทย์แผนไทย บอกเลยว่าบางทีก็ต้องตรวจเพิ่มเติม เพราะจะไปดูแค่มีอาการบวมที่ค้างอย่างเดียวมันก็ไม่ได้ เพราะมีหลายโรคที่มีอาการแบบนี้เหมือนกัน

**************************************

2) ซางกะตัง แพทย์แผนไทยหลายคนพอเห็นชื่อโรคนี้ มักจะคิดว่ามีแต่เด็กเท่านั้นที่เป็นได้ เพราะเป็นโรคกลุ่มปฐมจิดา แต่บอกเลยว่าผู้ใหญ่ก็เป็นได้ถ้าร่างกายไม่แข็งแรงมากพอ และถึงแม้อาการบางอย่างจะคล้ายกับไข้กาฬทูมแต่บอกเลยว่า "ซางกะตัง" ยังไงก็เป็นเอกโทษเสมหะ

*** เชื้อก่อโรคนี้คือ Corynebacterium diphtheria เป็นแบคทีเรียแกรมบวก และที่สำคัญคือ เป็นแบคทีเรียประจำถิ่นอยู่แล้ว นั้นหมายถึงมันพร้อมบวกกับท่านได้ตลอดถ้าร่างกายอ่อนแอ

ยกตัวอย่างลักษณะอาการของคนไข้ บางส่วนเช่น

1) มีไข้กำเดาสูง 38 องศาขึ้นไป
2) มีอาการน้ำมูกไหล
3) มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
4) มีอาการต่อมน้ำเหลืองในคอบวม
และอื่น ๆ อีกหลายอาการ

*** อย่างที่บอกซางกะตังผูใหญ่ก็เป็นได้ อาการที่แตกต่างที่เห็นชัดเจนคือ "เอกโทษสมหะ" ที่ชัดมาก และไข้กาฬทูมไม่มีอาการแบบนี้

******************************************

จากโรคทั้งสองจะเห็นว่า มีโรคหนึ่งมาจากไวรัสและมีโรคหนึ่งมาจากแบคทีเรีย เพราะฉะนั้นจะมีอยู่โรคหนึ่งที่ไม่ควรจ่ายเบญจโลกวิเชียร และบอกเลยว่าถ้าฝืนจ่ายยาไป ไข้กำเดาของคนไข้พุ่งแน่นอน

ข้อมูลที่เหลือ เดี๋ยวจะเอาไปอธิบายในห้อง พท. สาขานวดไทย ในช่วงเวลา Live สด ท่านใดติดงานตามชมย้อนหลังได้เลย เดี๋ยวจะทำเอกสารเอกใน Database ของห้อง พท. ด้วย

ท่านใดต้องการสมัครห้อง พท. ติดต่อทางไลน์ได้เลย Line ID : revthai

28/09/2025

บอระเพ็ดเป็นไม้เถาเลื้อยที่หลายคนรู้จักในรสขมจัด จนมีคำพูดเปรียบว่า “ขมยิ่งกว่าบอระเพ็ด” แต่เบื้องหลังความขมนี้กลับแฝงด้วยพลังลับที่คนไม่ค่อยรู้ ดังนี้ครับ

---

🔮 ความลับที่ซ่อนอยู่ในความขม

สารขมที่ชื่อว่า Tinosporine และ Berberine ไม่ได้มีแค่ช่วยดับกระหายหรือแก้ร้อนใน แต่ยังถูกพบว่ามีฤทธิ์ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี

รสขมของบอระเพ็ดมีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ให้ทำงานดียิ่งขึ้น ร่างกายจึงมีความต้านทานต่อโรคหวัดและการติดเชื้อเล็ก ๆ น้อย ๆ

---

🌱 ความลับในส่วนต่าง ๆ ของเถา

เถาแก่ : ช่วยเรื่องเบาหวาน และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงกว่าที่หลายคนคาด

ใบอ่อน : คนโบราณนำมาตำพอกแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แต่แทบไม่ถูกเล่าต่อในปัจจุบัน

น้ำคั้นจากเถาสด : มีฤทธิ์เป็นเหมือน “ยาเย็น” ช่วยถอนพิษร้อนจากการกินของเผ็ดจัดหรือร่างกายอักเสบ

---

🪶 ความเชื่อโบราณที่ถูกลืม

บางตำราหมอพื้นบ้านเชื่อว่า บอระเพ็ดเป็นไม้กันเสนียดจัญไร ถ้านำเถามาตากแห้งแล้วแขวนหน้าบ้าน จะช่วยกันภูตผีและพลังลบ

อีกเคล็ดลับโบราณคือ เถาบอระเพ็ดที่ทอดเงาข้ามบ่อน้ำ ถือว่าเป็นสิริมงคล ดื่มน้ำจากบ่อนั้นแล้วไม่เจ็บป่วยง่าย

---

🍵 สูตรลับที่ไม่ค่อยมีใครบอก

ชาเถาบอระเพ็ดแห้ง + มะนาว

1. หั่นเถาบอระเพ็ดแก่เป็นแว่นบาง ๆ ตากแดดจนแห้ง

2. นำมาต้มกับน้ำเดือดประมาณ 10 นาที

3. เติมน้ำมะนาวเล็กน้อย จะช่วยลดความขมและเสริมฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ

👉 เคล็ดลับ: การใส่มะนาวช่วย “เปิดฤทธิ์” บอระเพ็ดให้ซึมเข้าสู่ร่างกายง่ายขึ้น
#สมุนไพรไทย #สมุนไพรพื้นบ้าน #บอระเพ็ด

28/09/2025

มะแว้งนก (ชื่อวิทยาศาสตร์ Solanum indicum L.) เป็นพืชสมุนไพรตระกูลเดียวกับมะเขือ ที่มักขึ้นตามริมทางหรือป่ารกร้าง หลายคนอาจมองข้ามว่ามันเป็นเพียงวัชพืช แต่แท้จริงแล้วซ่อนพลังลับทางสมุนไพรที่น้อยคนจะรู้ดังนี้ครับ 👇

---

🔮 ความลับที่ซ่อนอยู่ในผลเล็ก ๆ

ผลมะแว้งนก มีรสขมฝาด คนโบราณเคี้ยวสด ๆ หรือคั้นน้ำดื่มเพื่อช่วยบรรเทาอาการไอ มีเสมหะ หรือเสียงแหบ

สารในผล เช่น glycoalkaloids และ saponins ช่วยละลายเสมหะ และลดการอักเสบของหลอดลม

บางหมอพื้นบ้านเชื่อว่า การกินผลสด วันละ 5–7 ลูกตอนเช้า จะช่วย “ปรับสมดุลปอด” ทำให้หายใจโล่ง

---

🌱 ความลับในรากและใบ

รากมะแว้งนก : ตำรับยาไทยใช้ต้มกินแก้ไข้จับสั่น (ไข้มาลาเรียในอดีต) และยังมีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะอ่อน ๆ

ใบสด : ใช้ตำพอกแก้พิษงูกัด แมลงสัตว์กัดต่อย ช่วยลดบวมและปวดได้ ซึ่งไม่ค่อยถูกพูดถึงในสมัยใหม่

---

🪶 ความเชื่อโบราณ

คนสมัยก่อนเชื่อว่า ปลูกมะแว้งนกไว้หน้าบ้าน จะช่วยปัดเป่าโรคภัยและสิ่งไม่ดีออกไป

บางพื้นที่ภาคเหนือเรียกผลมะแว้งนกว่า “หมากแว้ง” และมักให้เด็ก ๆ เคี้ยวเมื่อไอเรื้อรัง เชื่อว่าช่วยให้แข็งแรงและทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศ

---

🍵 สูตรลับที่ไม่ค่อยเผยแพร่

ชามะแว้งนกผสมน้ำผึ้ง

1. นำผลมะแว้งนกสด 1 กำมือ ล้างให้สะอาด

2. ตำเบา ๆ พอแตก แล้วต้มกับน้ำ 2 ถ้วย

3. กรองเอาน้ำ เติมน้ำผึ้งเล็กน้อย ดื่มอุ่น ๆ

👉 เคล็ดลับ: น้ำผึ้งช่วยลดความขมและเสริมฤทธิ์บรรเทาอาการไอได้ดียิ่งขึ้น

🚫 กลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยง

1. หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร

ผลมะแว้งนกมีสาร alkaloids ที่อาจส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนและระบบประสาท

ไม่มีข้อมูลเพียงพอว่าสารเหล่านี้ปลอดภัยสำหรับทารก

2. เด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 6 ขวบ)

รสขมแรงและฤทธิ์ขับเสมหะอาจกระตุ้นระบบทางเดินหายใจและทำให้ระคายคอในเด็ก

3. ผู้ที่มีโรคตับหรือไต

สาร glycoalkaloids ในมะแว้งนกอาจทำให้ตับและไตทำงานหนักขึ้น

หากต้องใช้ ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์แผนไทยหรือแพทย์แผนปัจจุบัน

4. ผู้ที่แพ้พืชในตระกูล Solanaceae (เช่น มะเขือเทศ มันฝรั่ง มะเขือ)

อาจเกิดอาการแพ้ เช่น คัน ปากบวม หรือแน่นหน้าอก

---

⚠️ ข้อควรระวังในการใช้ทั่วไป

ไม่ควรกินผลสดเกิน 7–10 ลูกต่อวัน เพราะอาจทำให้คลื่นไส้ ปวดท้อง หรือท้องเสีย

ไม่ควรใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่พัก เพราะอาจสะสมในร่างกาย

ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น เวียนหัว ใจสั่น หรือผื่นคัน ควรหยุดทันที
#สมุนไพรไทย #สมุนไพรพื้นบ้าน #มะแว้งนก

28/09/2025

กระชาย (Fingerroot) เป็นสมุนไพรที่คนไทยใช้คู่ครัวมานาน มักเอาไปผัด แกง หรือดองเหล้า แต่จริง ๆ แล้วกระชายมี พลังลับ ที่หลายคนอาจไม่รู้เลยค่ะ

---

🔮 ความลับที่ซ่อนอยู่ในกระชาย

1. ต้านอนุมูลอิสระสูงมาก
งานวิจัยพบว่าสารสำคัญในกระชาย เช่น Panduratin A ช่วยชะลอวัยและลดการอักเสบในระดับเซลล์

2. กระชายขาวกับภูมิคุ้มกัน
ในโควิด-19 ที่ผ่านมา มีกระแสว่ากระชายขาวช่วยเสริมภูมิร่างกายให้แข็งแรงขึ้น แม้ไม่ใช่ยารักษาโรค แต่ก็ช่วยฟื้นร่างกายจากความอ่อนเพลีย

3. พลังบำรุงสมอง
มีงานวิจัยใหม่ ๆ พบว่า สารสกัดจากกระชายอาจช่วยเรื่องความจำ และการทำงานของสมองได้ดี

4. เพิ่มพลังชีวิต (โดยไม่คาดคิด)
เดิมเชื่อว่ากระชายช่วยบำรุงกำลังทางเพศ แต่ความลับคือ มันช่วย “ฟื้นฟูระบบเลือดลม” ทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่ามากขึ้นโดยรวม

5. ดีต่อกระดูกและข้อ
กระชายมีฤทธิ์ลดการอักเสบเล็กน้อย และช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกได้

🍵 สูตรชากระชายชะลอวัย

ส่วนผสม

กระชายสดหั่นบาง 5–7 แว่น

ดอกอัญชันแห้ง 5 ดอก

ขิงสดหั่นบาง 3 แว่น

น้ำผึ้งแท้ 1–2 ช้อนชา (ปรับตามชอบ)

น้ำสะอาด 3 ถ้วย

---

วิธีทำ

1. ล้างกระชายและขิงให้สะอาด หั่นเป็นแว่นบาง ๆ

2. ต้มน้ำให้เดือด ใส่กระชายและขิงลงไป ต้ม 7–10 นาที

3. ปิดไฟ ใส่ดอกอัญชันลงไปแช่ไว้ 2 นาที จะได้สีน้ำเงินม่วงสวย

4. กรองใส่ถ้วย เติมน้ำผึ้งแท้เล็กน้อยเพื่อปรับรส

---

🚫 ใครไม่ควรกินเยอะ

คนที่มีปัญหา ความดันสูง (เพราะกระชายอาจทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้น)

คนที่ตับและไตไม่แข็งแรง

เด็กเล็ก และสตรีมีครรภ์

---

👉 จะเห็นว่ากระชายไม่ได้มีดีแค่ “บำรุงกำลัง” อย่างที่เคยได้ยิน แต่ยังซ่อนพลังลับเรื่องสมอง ภูมิคุ้มกัน และการชะลอวัยเอาไว้ด้วย

28/09/2025

🍋✨ แก้วเดียวดูแลเส้นเลือด ลดไขมัน เลือดไหลลื่น เสริมภูมิ…สูตรสมุนไพรใกล้ตัวทำง่าย ดื่มทุกวันสุขภาพดี!
สูตรลดไขมันในเส้นเลือดด้วยสมุนไพร

สูตรนี้ใช้สมุนไพร 3 ชนิดที่ขึ้นชื่อว่ามีฤทธิ์ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไขมันในหลอดเลือด พร้อมเพิ่มคุณประโยชน์ด้านอื่นๆ ให้ร่างกายแข็งแรง ดื่มวันละ 1 แก้วก่อนอาหารเป็นประจำ

ส่วนผสม

ขิงสด หั่นเป็นชิ้น 1 ช้อนโต๊ะ

กระชายสด หั่นเป็นชิ้น 1 ช้อนโต๊ะ

กระเทียมสด หั่นเป็นชิ้น 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำโซดา 1 แก้ว (หรือใช้น้ำอุ่นแทนได้)

น้ำมะนาว ½ ซีก

น้ำผึ้ง เล็กน้อย (ตามชอบ)

วิธีทำ
1. ใส่ขิง กระชาย และกระเทียมลงในเครื่องปั่น
2. ปั่นจนละเอียด
3. ตักส่วนผสมที่ปั่นแล้วใส่แก้ว
4. เติมน้ำโซดาให้เต็มแก้ว (หรือน้ำอุ่นหากไม่มีน้ำโซดา)
5. บีบน้ำมะนาวครึ่งซีกลงไป
6. เติมน้ำผึ้งเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสหวาน
7. คนให้เข้ากัน ตั้งทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
8. ดื่มวันละ 1 แก้ว ก่อนอาหารทุกวัน

ประโยชน์หลัก

ลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยปรับสมดุลคอเลสเตอรอล

กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดความเสี่ยงเส้นเลือดอุดตัน

ประโยชน์เสริมจากสมุนไพรแต่ละชนิด

ขิง : กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดอาการท้องอืด คลื่นไส้ ต้านการอักเสบ

กระชาย : บำรุงกำลัง ลดอ่อนเพลีย ปรับสมดุลฮอร์โมน เสริมสมรรถภาพเพศ และมีสารต้านอนุมูลอิสระ

กระเทียม : ลดความดัน ลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือด เสริมภูมิคุ้มกัน และลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด

น้ำมะนาว : วิตามินซีสูง ช่วยขับของเสีย ดีท็อกซ์ตับ และบำรุงผิว

น้ำผึ้ง : เพิ่มพลังงาน ลดการอักเสบ และบำรุงคอ

คำแนะนำและข้อควรระวัง

ใช้สมุนไพรสดเพื่อให้ได้สารสำคัญสูงสุด

ผู้มีโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน ความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่ทานยาละลายลิ่มเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม

สูตรนี้เป็นอาหารเสริมสุขภาพ ไม่ใช่การรักษาทางการแพทย์

ดื่มเป็นประจำช่วยดูแลทั้งเส้นเลือด ภูมิคุ้มกัน และระบบย่อยอาหารได้ในแก้วเดียว 💚

ที่อยู่

20 ถ. ทะเลหลวง อ. เมือง จ. สงชลา
Amphoe Muang Songkhla
90000

เบอร์โทรศัพท์

0815989414

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ กลุ่มแพทย์แผนไทย/สินค้าชุมชนสงขลาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram