Boom iz บูมไอซี่ สิ่งดีดีเพื่อดวงตา

Boom iz บูมไอซี่ สิ่งดีดีเพื่อดวงตา Boom iz บูมไอซี ผลิตภัณฑ์ดูแลดวงตา เพราะดวงตาเรามีเพียงคู่เดียว

โปรโมชั่นพิเศษ สำหรับคุณ ทักด่วน‼️สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อินบ๊อก หรือ📞: 094 046 8196 ,094 741 9195จัดส่งฟรี มีบ...
29/04/2023

โปรโมชั่นพิเศษ สำหรับคุณ ทักด่วน‼️

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อินบ๊อก หรือ
📞: 094 046 8196 ,094 741 9195
จัดส่งฟรี มีบริการเก็บเงินปลายทาง

5 ประโยชน์ดีๆ จาก “ย่านาง” ดีท็อกซ์ผิว-ลดน้ำตาลในเลือดย่านาง คืออะไร?ย่านางเป็นพืชที่เรานำส่วนใบมาประกอบอาหาร ส่วนใหญ่เป...
10/04/2023

5 ประโยชน์ดีๆ จาก “ย่านาง” ดีท็อกซ์ผิว-ลดน้ำตาลในเลือดย่านาง คืออะไร?

ย่านางเป็นพืชที่เรานำส่วนใบมาประกอบอาหาร ส่วนใหญ่เป็นอาหารพื้นบ้าน มักนำมาต้มกับอาหารที่มีรสขม เพื่อลดรสชาติขมๆ ออกไป นอกจากจะช่วยลดความขมแล้ว ยังมีสารอาหารหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
ประโยชน์ของย่านาง

1. มีวิตามินเอ และซีสูง จึงช่วยบำรุงสายตา และบำรุงฟัน ป้องกันโรคหวัดได้เป็นอย่างดี

2. มีฤทธิ์เย็น ช่วยดับพิษ และลดไข้

3. น้ำต้มกับใบย่านาง หรือน้ำย่านางสกัดเย็น (อาจผสมใบเตย) ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน

4. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณกระชับเต่งตึง และป้องกันมะเร็งได้
5. ช่วยลดอาการหอบ ของผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ช่วยให้หายใจโล่งขึ้น

ถึงแม้ว่าย่านางจะมีประโยชน์ที่ทำให้ใครหลายคนอยากลองทาน แต่ผู้ที่มีธาตุเย็น หรือความดันโลหิตต่ำ เลือดจาง และอ่อนเพลียง่าย ไม่ควรกินติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะจะยิ่งทำให้เลือดจางและอ่อนเพลียมากขึ้นค่ะ

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก นิตยสารชีวจิต
ภาพประกอบจาก istockphoto
ขอบคุณ​ข้อมูล​จาก : www.sanook.com/health/4901

บำรุงดวงตาคู่เดียวของคุณ พร้อมความอร่อย สดชื่นนแบบไม่มีน้ำตาลBoom iZ ทานง่าย สรรพคุณครบ สุดดดปังงง!!! BoomiZxPPkrittBoom...
10/04/2023

บำรุงดวงตาคู่เดียวของคุณ
พร้อมความอร่อย สดชื่นน
แบบไม่มีน้ำตาล

Boom iZ

ทานง่าย สรรพคุณครบ
สุดดดปังงง!!!

BoomiZxPPkritt
BoomiZ PPkritt
มีความสุขทุกการมองเห็นBOOMiZ

แกล้งกะเพรา วิธีปลูกกะเพรา ให้ใบเยอะ ต้นใหญ่ ตายยากเทรนด์ปลูกผักกินเองยังคงมาแรงอยู่ตลอด หนึ่งในนั้นที่นิยมปลูกกันก็คือ ...
08/04/2023

แกล้งกะเพรา วิธีปลูกกะเพรา ให้ใบเยอะ ต้นใหญ่ ตายยาก
เทรนด์ปลูกผักกินเองยังคงมาแรงอยู่ตลอด หนึ่งในนั้นที่นิยมปลูกกันก็คือ กะเพรา เพราะเป็นผักสวนครัวที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย ใช้เวลาไม่นานก็เก็บมากินได้แล้ว วันนี้จะมาบอกต่อ เทคนิคปลูกกะเพราให้ดก ยืดอายุกะเพราให้นานขึ้น ให้มีใบเยอะๆ ต้นสูงใหญ่ เอาไว้เก็บใบกินได้นานๆ ซึ่งเค้าเรียกกันว่า วิธี แกล้งกะเพรารู้จัก
กะเพรามี 3 ประเภท คือ
1.ใบเขียว ก้านแดง : เป็นพันธุ์ที่มีใบ และดอกเป็นสีขาว แต่มีลักษณะก้านใบ และก้านดอกเป็นสีแดง รวมถึงใบเขียวหรือเขียวอมแดง เป็นกะเพราที่มีกลิ่นฉุน และ เผ็ดร้อน กำลังพอดี เหมาะสำหรับนำมาทำผัดกะเพรา เพราะจะได้รสชาติกะเพราที่กลมกล่อม หอมกำลังพอดี
2.ใบเขียว ก้านเขียว : หรือก้านขาว เป็นพันธุ์ที่มี ก้านใบ ก้านดอก ใบ เป็นสีเขียว และดอกเป็นสีขาว มีใบใหญ่ รสชาติออกหวาน ไม่ค่อยมีกลิ่นฉุนหรือรสเผ็ด
3.ใบแดง ก้านแดง : เป็นพันธุ์ที่มี ก้านใบ ก้านดอก โดยดอกเป็นสีแดงอมม่วง ใบมีสีแดงม่วงอมเขียว เป็นกะเพราที่มีกลิ่นฉุนมาก และมีรสเผ็ดร้อนมากที่สุดในกะเพราทั้งหมด เหมาะสำหรับนำมาทำอาหารที่ต้องการปรุงรสให้เผ็ดร้อน เช่น ต้มโคล้ง หรือ ผัดกะเพราที่มีรสจัด

กะเพราปลูกได้ 2 แบบ
สามารถปลูกได้ 2 แบบ ได้แก่ ปลูกกะเพราะด้วยเมล็ด และปลูกกะเพราะด้วยการปักชำ

วิธีการปลูกกะเพราด้วยการปักชำทำได้โดยการเลือกเอากิ่ง กลางแก่ กลางอ่อน มาเด็ดส่วนยอดดอก นำไปปักชำในกระถาง หรือแปลงที่เตรียมไว้ เทคนิคการปักคือ ให้ปักต้นเฉียง 45 องศา แล้วนำดินมากลบส่วนที่ปักชำบาง ๆ จากนั้น เอาฟางคลุมและรดน้ำให้ชุ่มเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

วิธีการปลูกกะเพราด้วยเมล็ด
1.เตรียมดินละเอียดเทลงไปในกระถาง
2.หว่านเมล็ดให้ทั่วแปลง ใช้ฟางกลบ หรือปุ๋ยคอกโรยทับบางๆ
3.รดน้ำตามทันที ควรใช้บัวรดน้ำต้นไม้รูเล็กๆ นะคะ เพราะไม่ได้ต้องการน้ำมาก รดพอชุ่ม
4.จากนั้นอีกประมาณ 7 วัน เมล็ดจะงอกเป็นต้นกล้า
5.รอจนต้นกล้าอายุ 1 เดือน ก็ค่อยๆ ถอนแยกจัดระยะต้นให้มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 20-30 เซนติเมตร
6.รอให้ต้นกล้าโตเต็มที่จากนั้นก็เก็บใบมารับประทานได้

ข้อดีของการ กะเพราปลูกในกระถาง เหมาะกับคนพื้นที่น้อย เช่น คอนโด หอพัก
✨ประหยัดพื้นที่ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีที่ดินหรือมีที่ดินน้อย
✨สามารถปลูกได้บนดาดฟ้าหรือระเบียงห้องบนตึกหรืออาคารสูง
✨ง่ายต่อการดูแล และการให้น้ำ
✨ยกหรือเคลื่อนย้ายได้ง่าย

เทคนิค แกล้งกะเพรา
หมั่นเด็ดยอดอ่อนของใบกะเพราในทุกเช้าทุกวัน โดยเด็ดเฉพาะยอดที่เป็นดอกเท่านั้นเพื่อไม่ให้ออกดอกได้ ถ้ากะเพราออกดอกเมื่อไหร่ต้นจะเหี่ยวเฉาและหมดอายุในที่สุด ดังนั้น เราต้องทำให้ต้นกะเพราเข้าใจว่าไม่สามารถขยายพันธุ์ต่อได้อีกต่อไป ทำให้ต้องรีบแตกหน่อ ออกดอก ออกใบให้เยอะขึ้น จึงเรียกวิธีนี้ว่า แกล้งกะเพรา จากเดิมที่ต้องปักกิ่งใหม่ เพาะเมล็ดใหม่ เราก็จะได้ต้นกะเพราสูงใหญ่ไว้เก็บใบกินได้ตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องแรงปลูกใหม่ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเด็ดยอดดอกอ่อนออกในทุกวันเป็นประจำด้วย

กะเพราดูแล รดน้ำอย่างไร
รดน้ำเช้า – เย็น ให้สม่ำเสมอ ต้นกะเพราก็เติบโตตามธรรมชาติได้เอง เพราะเป็นพืชที่ทนแล้งได้

วิธีปลูกกะเพราไม่ได้ยุ่งยากจนเกินไปป ทุกคนสามารถนำทริคไปปลูกกันได้ ถือเป็นการประหยัดและได้ปลูกผักกินเองแบบไร้สารพิษ ปลอดภัยดีต่อสุขภาพแน่นอน

ขอบคุณ​ข้อมูลดีๆจาก : -​- mono29.com/life/395616.htmI

BOOM iZ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงดวงตาเราคัดสรรสารสกัดมากมายอาทิ Lutein ,Astaxanthin และ Bilberon"ถึงเว...
08/04/2023

BOOM iZ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงดวงตา

เราคัดสรรสารสกัดมากมาย
อาทิ Lutein ,Astaxanthin และ Bilberon

"ถึงเวลาหรือยัง
ที่จะเริ่มดูแลดวงตา"

TheiConGroup
BoomiZ
BOOMiZxPPKritt

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น คนเป็น.. ฮีทสโตรก Heat Strokeฤดูร้อน อุณหภูมิสูงเสี่ยงต่อการเป็นโรคฮีทสโตรก Heat Stroke หรือโรคลม...
07/04/2023

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น คนเป็น.. ฮีทสโตรก Heat Stroke
ฤดูร้อน อุณหภูมิสูงเสี่ยงต่อการเป็นโรคฮีทสโตรก Heat Stroke หรือโรคลมแดด หรือ โรคลมร้อน เพราะอุณหภูมิภายนอกที่สูงขึ้นทำให้กลไกการรักษาสมดุลของร่างกายเสียไป อุณหภูมิในร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ทำให้ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต และระบบสมอง

สัญญาณเตือนของโรคฮีทสโตรก Heat Stroke ที่สำคัญ คือ

ตัวร้อนจัด อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
หน้าแดง
ไม่มีเหงื่อ แม้อากาศจะร้อน
กระหายน้ำ
วิงเวียนศีรษะ
หายใจเร็ว หายใจถี่
คลื่นไส้ อาเจียน
ความรู้สึกตัวลดลง หน้ามืด หมดสติ
หากพบเจอผู้ที่เป็นโรคฮีทสโตรก ควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นดังนี้

ให้นำผู้ป่วยเข้าที่ร่ม
กันคนที่ห้อมล้อมผู้ป่วยออก เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกขึ้น
นอนศีรษะราบ ยกขาสูงทั้งสองข้าง โดยหาของมารองปลายเท้า เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้ดีขึ้น
คลายเสื้อผ้าที่รัดแน่น ปลดเข็มขัด ถอดรองเท้า ถุงเท้า
ถอดเครื่องประดับที่ไม่จำเป็นออก
ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิห้อง เช็ดใบหน้า ลำตัว ท้ายทอย และข้อพับ โดยการเช็ดทวนรูขุมขนขึ้นไป เช็ดแบบทางเดียว
หรือใช้น้ำแข็งประคบที่ซอกคอ ขาหนีบ รักแร้
-แล้วจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

ขอบคุณ​ข้อมูลจาก : vichaivej-nongkhaem.com/health-info

ใช้สายตามาทั้งวันแล้ว...บำรุงด้วย Boom iZกันหน่อยนะค้าาา ทานง่าย อร่อยสดชื่นนน...BoomiZxPPkrittBoomiZ PPkrittมีความสุขทุ...
07/04/2023

ใช้สายตามาทั้งวันแล้ว...
บำรุงด้วย Boom iZ
กันหน่อยนะค้าาา

ทานง่าย อร่อย
สดชื่นนน...

BoomiZxPPkritt
BoomiZ PPkritt
มีความสุขทุกการมองเห็นBOOMiZ

วันจักรี 6 เมษายน ประวัติวันจักรี วันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์วันจักรี (Chakri Memorial Day) ตรงกับวันที่ 6 เมษายนของทุ...
06/04/2023

วันจักรี 6 เมษายน ประวัติวันจักรี วันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์
วันจักรี (Chakri Memorial Day) ตรงกับวันที่ 6 เมษายนของทุกปี อันเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงเสด็จปราบดาภิเษกขี้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีและเป็นวันครบรอบการก่อตั้งราชวงศ์จักรี ในวันนี้จึงถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่พวกเราชาวไทยควรให้ความระลึกถึง กว่าจะมาเป็นสยามได้ในทุกวันนี้
ความสำคัญของวันจักรี
วันจักรี (Chakri Memorial Day) คือ วันที่ระลึกถึงมหาจักรีบรมราชวงศ์ เป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจักรีบรมนาถ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี อีกทั้งยังเริ่มก่อสร้างพระนครแห่งใหม่ในนาม กรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร์ ที่นับว่าเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ถัดจากกรุงธนบุรี ซึ่งเมื่อครั้งที่กรุงธนบุรีเป็นราชธานีนั้น มีอาณาบริเวณรวมทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เป็นเมืองหลวงที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเปลี่ยนนามใหม่ จาก กรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร์ เป็น กรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ ซึ่งช่วงเวลาตั้งแต่ก่อตั้งกรุงเทพมหานครฯ เมื่อปี พ.ศ. 2325 มักเรียกกันว่า สมัยรัตนโกสินทร์ เช่นเดียวกันกับที่เคยเรียกยุคสมัยที่ผ่านมาในสยาม โดยพระเจ้าแผ่นดินในสมัยรัตนโกสินทร์นี้ได้สืบสันตติวงศ์ต่อเนื่องกันมาในราชวงศ์เดียวกันจนถึงปัจจุบัน มี 9 รัชกาล รวมระยะเวลาแล้วกว่า 234 ปี

จากบันทึกตามประวัติศาสตร์ระบุว่า ในปี พ.ศ. 2416 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระบรมรูปของบูรพมหากษัตริย์ 4 พระองค์ (รัชกาลที่ 1 – รัชกาลที่ 4) ขึ้นประดิษฐานเอาไว้สำหรับให้พระมหากษัตริย์พระองค์ต่อๆ ไป ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนทั่วไปได้ถวายความเคารพสักการะ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นธรรมเนียมปีละหนึ่งครั้ง และได้โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ต่อมาก็ได้มีการเปลี่ยนสถานที่ประดิษฐานหลายต่อหลายครั้ง

จนมาถึงในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระองค์ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เคลื่อนย้ายพระบรมรูปของบูรพมหากษัตริย์ 4 พระองค์มาไว้ ณ ปราสาทเทพบิดร ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5 พระชนกชาถ ซึ่งพระที่นั่งสำหรับประดิษฐานพระบรมรูปองค์นี้ รัชกาลที่ 6 ทรงโปรดให้ซ่อมแซมจากพุทธปรางค์ปราสาทเพื่อการนี้โดยเฉพาะ และได้พระราชทานพระนามว่า ปราสาทเทพบิดร โดยได้มีการซ่อมแซ่มและประดิษฐานพระบรมรูปทั้ง 5 รัชกาลแล้วเสร็จในเดือนเมษายน พ.ศ. 2461 จากนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมีพระบรมราชโองการประกาศตั้งพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูปขึ้นในวันที่ 6 เมษายนปีเดียวกัน อีกทั้ยังโปรดให้เรียกวันที่ 6 เมษายนนี้ว่า วันจักรี

กิจกรรมที่นิยมปฏิบัติในวันจักรี
เนื่องในวันจักรี 6 เมษายนของทุกปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ จะเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ไปเป็นประธานในพิธีทางศาสนาประกอบการบำเพ็ญพระราชกุศลให้กับบูรพมหากษัตริย์ ณ พระอุโบสถ และจะทรงสักการะพระบรมรูป สมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ ณ ปราสาทเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่อจากนั้นจะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ที่ชานชาลา เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า

ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นิสิต นักศึกษา หน่วยงานรัฐบาลและเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไปจากทุกสาขาอาชีพ ต่างพร้อมใจกันเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา และบำเพ็ญกุศลให้กับพระมหากษัตริย์ ผู้ที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อความสงบสุขของอาณาประชาราษฎรอย่างแท้จริง

นอกจากนั้น ในวันที่ 6 เมษายน ซึ่งเป็นวันจักรีของทุกปี รัฐบาลยังได้ประกาศเป็นวันหยุดราชการ แต่หากในปีใดที่วันจักรีตรงกับวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ก็ให้หยุดชดเชยได้ในวันทำการวันต่อไป

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก :
sanook.com/... day/.. chakriday
ภาพประกอบ airportthai.co.t //h

ขอบคุณข้อมูล: Wikipedia.org / 247friend.net ++ ปราสาทพระเทพบิดร

บำรุงดวงตาคู่เดียวของคุณพร้อมความอร่อย สดชื่นแบบไม่มีน้ำตาลตอบโจทย์คนรักสายตามากเลยค่าาBoom iZ BoomiZxPPkrittBoomiZ PPkr...
06/04/2023

บำรุงดวงตาคู่เดียวของคุณ
พร้อมความอร่อย สดชื่น
แบบไม่มีน้ำตาล

ตอบโจทย์คนรักสายตา
มากเลยค่าา

Boom iZ

BoomiZxPPkritt
BoomiZ PPkritt
มีความสุขทุกการมองเห็นBOOMiZ

เก๊กฮวย สรรพคุณไม่ธรรมดา จัดเป็นยากลิ่นหอม สมุนไพรดับร้อนให้ร่างกายดอกเก๊กฮวยที่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสีสวย สร...
05/04/2023

เก๊กฮวย สรรพคุณไม่ธรรมดา จัดเป็นยากลิ่นหอม สมุนไพรดับร้อนให้ร่างกาย
ดอกเก๊กฮวยที่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสีสวย สรรพคุณของเก๊กฮวยก็ใช่ว่าจะน้อยหน้ารสชาติและกลิ่นหอม ๆ ล้อมรอบไปด้วยประโยชน์ดีต่อสุขภาพ !เก๊กฮวย สรรพคุณสมุนไพรชนิดนี้ไม่ได้มีไว้ทำเครื่องดื่มแก้กระหายอย่างเดียว แต่ดอกเก๊กฮวยที่นำมาต้มเป็นชาเก๊กฮวยก็ดี หรือน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพก็ดี ล้วนแล้วแต่แฝงสรรพคุณเป็นยามาด้วย และหากอยากรู้จักสรรพคุณของเก๊กฮวยให้ถ่องแท้ ลองอ่านบทความด้านล่าง แล้วไปหาน้ำเก๊กฮวยดื่มกันเลย !เก๊กฮวย มีดีที่ดอก

เก๊กฮวยเป็นดอกไม้ตระกูลเดียวกับดอกทานตะวันและดอกดาวเรือง เก๊กฮวยในภาษาจีนเรียกว่า จวี๋ฮัว ถ้าแปลเป็นไทยก็จะเรียกกันว่า ดอกเบญจมาศสวน หรือดอกเบญจมาศหนู ส่วนเก๊กฮวยในภาษาอังกฤษ มีชื่อว่า Chrysanthemum
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นเก๊กฮวย

ต้นเก๊กฮวยเป็นไม้ล้มลุก ขนาดต้นสูงประมาณ​ 60-150 เซนติเมตร เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่อากาศหนาว ในไทยจึงนิยมปลูกเก๊กฮวยบนที่ราบสูงเป็นส่วนใหญ่ ส่วนดอกเก๊กฮวยเป็นดอกขนาดเล็ก มีทั้งดอกเก๊กฮวยสีเหลืองและดอกเก๊กฮวยสีขาว ต้นเก๊กฮวยจะออกดอกได้ดีในช่วงฤดูหนาว โดยส่วนใหญ่จะนิยมเก็บดอกมาตากแห้ง นึ่ง หรืออบแห้ง แล้วนำมาทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร
เก๊กฮวย สรรพคุณไม่ธรรมดา

สรรพคุณทางยาของดอกเก๊กฮวยมีดีอยู่หลายด้าน โดยสามารถจำแนกประโยชน์ของดอกเก๊กฮวยที่เกี่ยวกับสุขภาพได้ ดังนี้

1. ช่วยดับร้อน ดอกเก๊กฮวยมีฤทธิ์เย็น ช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย แก้อาการร้อนใน แก้กระหาย แก้ไข้ โดยใช้ดอกเก๊กฮวยแห้งประมาณ 5-9 กรัม ต้มกิน หรือทำเป็นชา แล้วดื่มในปริมาณที่เหมาะสม

2. ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะดื่มชาเก๊กฮวยร้อน ๆ จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องจากอาหารไม่ย่อยได้ ทั้งนี้ให้ใช้ดอกเก๊กฮวยแห้งประมาณ 5-9 กรัม ต้มกิน หรือทำเป็นชา แล้วดื่มในปริมาณที่เหมาะสม

3. ดีต่อหัวใจ เก๊กฮวยเป็นพืชสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ เพราะมีฤทธิ์ลดระดับความดันโลหิต นอกจากนี้ทางมูลนิธิโรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ยังระบุว่า เก๊กฮวยช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อีกด้วย

4. แก้ตาบวมแดง ในตำรับยาสมุนไพรจีนมักใช้ดอกเก๊กฮวยผสมกับใบหม่อน เก๋ากี้ หรือชุมเห็ดไทย รักษาอาการตาบวมแดงจากการตากลม หรือตาบวมแดงจากภาวะตับพร่อง ไฟในตับมาก โดยใช้ดอกสดล้างสะอาด ตำให้แหลก แล้วนำมาประคบที่ดวงตา
5. แก้วิงเวียน หากมีอาการปวดศีรษะ วิงเวียน เนื่องจากการกำเริบของหยางในตับ สามารถใช้เก๊กฮวยร่วมกับโกฐสอและสมุนไพรฤทธิ์เย็นชนิดอื่นเพื่อบรรเทาอาการได้

6. รักษาแผลฝีหนอง และแผลบวม โดยใช้ดอกเก๊กฮวยสด 1 กำมือ ล้างให้สะอาด บดผสมน้ำแล้วดื่ม จากนั้นนำกากดอกเก๊กฮวยมาพอกตามแผล

7. รักษาผมร่วง ตำรับยาจากประเทศเวียดนามใช้ดอกเก๊กฮวยสดตำละเอียดแล้วกลั่นเอาแต่น้ำมาหมักผม โดยเชื่อว่าดอกเก๊กฮวยสามารถรักษาอาการผมร่วง ช่วยให้สีผมดำ เงางาม ไม่เปลี่ยนเป็นสีเทาก่อนวัยอันควร

การใช้ดอกเก๊กฮวยให้เป็นประโยชน์เพื่อสุขภาพ ในปัจจุบันจะนิยมนำดอกเก๊กฮวยแห้งมาต้มเป็นน้ำสมุนไพร หรือจิบเป็นชาสมุนไพรกันเสียมากกว่าจะนำดอกเก๊กฮวยมาใช้ภายนอก ดังนั้นเรามาดูวิธีทำน้ำเก๊กฮวยกันค่ะ
วิธีทำน้ำเก๊กฮวย

1. ใช้ดอกเก๊กฮวยแห้งประมาณ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำเดือดประมาณ 2 ลิตร

2. ต้มดอกเก๊กฮวยสัก 2-3 นาที แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป (ความหวานตามชอบ)

3. คนสักพักพอให้น้ำตาลทรายละลายจนหมด ปิดไฟ พักไว้จนเย็น

4. เมื่อน้ำเก๊กฮวยพออุ่น ๆ สามารถเทใส่แก้วแล้วดื่มได้เลย หรือจะพักน้ำเก๊กฮวยให้เย็นจากนั้นเติมน้ำแข็งดื่มแบบเย็น ๆ ให้ชื่นใจก็ได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
health.kapook.co... M
โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ
มูลนิธิโรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สรุปให้...เปิดแอร์หน้าร้อน วิธีใช้งานให้ประหยัดไฟที่สุด วิธีใช้งานให้ประหยัดไฟที่สุดเปิดแอร์หน้าร้อน วิธีใช้งานให้ประหยั...
04/04/2023

สรุปให้...เปิดแอร์หน้าร้อน วิธีใช้งานให้ประหยัดไฟที่สุด
วิธีใช้งานให้ประหยัดไฟที่สุดเปิดแอร์หน้าร้อน วิธีใช้งานให้ประหยัดไฟที่สุด รวมความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการเปิด แอร์ หรือ เครื่องปรับอากาศ หน้าร้อนนี้ทำค่าไฟพุ่ง เดี๋ยวโอ๋สรุปให้

เปิดแอร์หน้าร้อน วิธีใช้งานให้ประหยัดไฟที่สุด รวมความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการเปิด แอร์ หรือ เครื่องปรับอากาศ หน้าร้อนนี้ทำค่าไฟพุ่ง เดี๋ยวโอ๋สรุปให้ฟัง

How to เปิดแอร์ยังไง ให้ประหยัดไฟ
กินไฟ น้อยที่สุด! ไม่จกตา
หลายคนยังมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการใช้แอร์
และหน้าร้อนนี้ แอร์ทำงานหนัก สู้กับอุณหภูมิ
ค่าไฟเม.ย. นี้ อาจแพงหูฉีกที่สุด จะใช้แอร์ยังไง ให้ประหยัดที่สุด แบบที่เป็นเรื่องจริง เด่วโอ๋สรุปให้ฟัง

1.ยิ่งอากาศร้อน แอร์กินไฟมากขึ้น จริงไหม?
จริง เพราะแอร์ ดูดอากาศเข้า เปลี่ยน ให้เท่ากับอุณหภูมิ ที่เรากำหนด ยิ่งอากาศภายนอก กับ อากาศที่เราต้องการ องศา ต่างกันมากแค่ไหน
แอร์ก็ต้องยิ่งทำงานหนัก มากขึ้น ค่าไฟก็แพงขึ้น

2. เปิดแอร์พร้อมพัดลม ช่วยประหยัดไฟ ?

จริง MEA แนะ เปิดแอร์ 26 °C เปิดพัดลมช่วย เย็นไวขึ้น ประหยัดไฟกว่า เพราะพัดลมช่วยเพิ่มความเร็วลม เพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศ ทำให้เกิดการระบายความร้อนจากร่างกาย ทำให้รู้สึกเย็นสบายขึ้น แต่จะประหยัดไฟได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับระบบและเทคโนฯ แอร์

3. เปิด-ปิดแอร์บ่อยๆ ประหยัดไฟกว่าเปิดไว้นานๆ

ไม่จริง เพราะบางบ้านอาจจะชอบเปิดแอร์ไว้ช่วงหนึ่งแล้วปิด เปิดพัดลมแทน คิดว่าอาจจะช่วยประหยัดไฟ แต่จริงๆแล้วนั้น ช่วงการทำงานของแอร์ที่กินไฟที่สุดคือ
ช่วงเริ่มเปิดแอร์และสตาร์ทมอเตอร์ ยิ่งเปิดบ่อย ก็ยิ่งกินไฟ

ขอบคุณ​ข้อมูล​จาก ​: www.springnews.co.t/h

“มะเขือพวง” ประโยชน์มหาศาล สรรพคุณทางยากระฉ่อนโลก ปลูกง่าย แถมไม่ต้องใช้สารพิษมะเขือพวง” พืชผักสมุนไพรชนิดกินผลที่ปลูกง่...
03/04/2023

“มะเขือพวง” ประโยชน์มหาศาล สรรพคุณทางยากระฉ่อนโลก ปลูกง่าย แถมไม่ต้องใช้สารพิษ
มะเขือพวง” พืชผักสมุนไพรชนิดกินผลที่ปลูกง่าย โตเร็ว ไม่มีปัญหาเรื่องโรคพืชและแมลงศัตรูพืช ในแถบเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกนิยมเพาะปลูกใช้เป็นพืชอาหาร

มีถิ่นกำเนิดในแอนทิลลีส (Antilles) ตั้งแต่เขตฟลอริดา หมู่เกาะเวสต์ อินดีส์ เม็กซิโก จนถึงอเมริกากลาง และทวีปอเมริกาใต้แถบประเทศบราซิล เป็นวัชพืชขึ้นกระจัดกระจายเกือบทั่วเขตร้อน ปัจจุบันพบในทวีปแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิกไกล ถึงมลรัฐฮาวายในสหรัฐอเมริกา

“มะเขือพวง” ประโยชน์มหาศาล สรรพคุณทางยากระฉ่อนโลก ปลูกง่าย แถมไม่ต้องใช้สารพิษ

“มะเขือพวง” พืชผักสมุนไพรชนิดกินผลที่ปลูกง่าย โตเร็ว ไม่มีปัญหาเรื่องโรคพืชและแมลงศัตรูพืช ในแถบเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกนิยมเพาะปลูกใช้เป็นพืชอาหาร
มีชื่ออื่นๆ อาทิ เช่น มะเขือพวง (กลาง) มะแคว้งกุลา (เหนือ) หมากแข้ง (อีสาน) มะเขือละคร (โคราช) เขือน้อย เขือพวง ลูกแว้ง เขือเทศ (ใต้) มะแว้งช้าง (สงขลา)

ชื่อสามัญ : Common Asiatic w**d, Turkey berry, Devil's fig, Prickly nightshade, Shoo-shoo bush, Pea eggplant แถบแคริบเบียนเรียก Susumba ภาษาทมิฬและอินเดียใต้เรียก Sundakkai ชื่อวิทยาศาสตร์ : Solanum torvum Swartz. วงศ์ : SOLANACEAE

ลักษณะทั่วไปของมะเขือพวง เป็นไม้พุ่มเตี้ย สูง 1- 2 เมตร ใบแน่น ทรงพุ่ม ไม่มีรูปแบบที่แน่นนอน ลำต้นตั้งตรงและแข็งแรง ลำต้นมีขนนุ่มขึ้นปกคลุม ลำต้นและใบมีหนามเล็กๆ ห่างขึ้นทั่วไปประโยชน์ต่อสุขภาพ

มะเขือพวงเป็นพืชที่ช่วยเสริมสุขภาพ โดยมีสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนไทยคือ ช่วยเจริญอาหาร ย่อยอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงธาตุ ขับเสมหะ แก้ไอ ช่วยให้โลหิตหมุนเวียนดี แก้ฟกช้ำ ไอเป็นเลือด ฝีบวมมีหนอง

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ได้แสดงคุณสมบัติที่เด่นชัดของมะเขือพวงในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของลำไส้ เพื่อตอบสนองต่อสารพิษที่เข้ามายังระบบทางเดินอาหาร มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันความเสื่อมและแก่ก่อนวัย มีฤทธิ์ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในโรคเบาหวาน อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด

- สารโซลาโซดีน (Solasodine) ในมะเขือพวงช่วยต่อต้านโรคมะเร็งได้
- สารสกัดจากมะเขือพวงมีผลยับยั้ง Platelet activating factor (PAF) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหอบหืด
- มะเขือพวงมีสารทอร์โวไซด์ เอ, เอช (Torvoside A, H) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสเริมชนิดที่ 1 (Herpes simplex virus type 1) โดยมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งไวรัสได้มากกว่าอะไซโคลเวียร์ถึง 3 เท่า
- มะเขือพวงมีสารทอร์โวนินบี (Torvonin B) ซึ่งเป็นซาโพนินชนิดหนึ่ง โดยเชื่อว่ามีฤทธิ์ในการขับเสมหะ
- มะเขือพวงมีสารเพกติน (Pectin) ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยสารนี้จะมีหน้าที่ช่วยเคลือบผิวในลำไส้ ทำให้อาหารเคลื่อนตัวผ่านลำไส้ได้ช้า จึงช่วยดูดซึมแป้งและน้ำตาลที่ย่อยแล้วได้ช้าลง ทำให้ระดับของน้ำตาลในเลือดคงที่ มีคุณสมบัติช่วยดูดซับไขมันส่วนเกินและอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต
- สารต่อต้านอนุมูลอิสระในมะเขือพวง ช่วยป้องกันความเสื่อมและช่วยชะลอความแก่
สรรพคุณ

- ต้น ใบ และ ผล เป็นยาเย็นรสจืด ทำให้โลหิตหมุนเวียนดี แก้ปวด ฟกช้ำ ตรากตรำทำงานหนัก กล้ามเนื้อบริเวณเอวฟกช้ำ ไอเป็นเลือด ปวดกระเพาะ ฝีบวมมีหนอง อาการบวมอักเสบ ขับเสมหะ

- ต้น อินเดียใช้น้ำสกัดจากต้นมะเขือพวงแก้พิษแมลงกัดต่อย

-ใบสด น้ำคั้นใบสดใช้ลดไข้ ในแคเมอรูนใช้ใบห้ามเลือด ใช้เป็นยาระงับประสาท พอกให้ฝีหนองแตกเร็วขึ้น แก้ปวด ทำให้ฝียุบ แก้ชัก ไอหืด ปวดข้อ โรคผิวหนัง ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ และแก้ซิฟิลิส

- ผล ของมะเขือพวงมีรสขื่น เฝื่อน อมเปรี้ยวเล็กน้อย หลายประเทศนำผลมาต้มน้ำกรองน้ำดื่ม มีสรรพคุณในการขับเสมหะ ช่วยระบบย่อยอาหาร รักษาอาการเบาหวาน / ประเทศจีนใช้ต้มน้ำดื่มแก้ไอและบำรุงเลือด ทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ผลแห้งย่างกินแกล้มอาหารบำรุงสายตาและรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรีย / อินเดียกินผลเพื่อบำรุงตับ ช่วยบรรเทาโรคแผลในกระเพาะอาหาร ขับปัสสาวะ ช่วยย่อย และช่วยให้ผ่อนคลายง่วงนอน บำรุงตับ / อินเดียทางตอนใต้ใช้ผลอ่อนบำรุงกำลังให้ร่างกาย ผลแห้งหุงน้ำมันเล็กน้อย บดเป็นผงกินครั้งละ 1 ช้อนชา ลดอาการไอและเสมหะ / และแคเมอรูนใช้ผลมะเขือพวงรักษาโรคความดันโลหิตสูง

- เมล็ด มาเลเซียนำเมล็ดไปเผาให้เกิดควัน สูดเอาควันรมแก้ปวดฟัน

- ราก มาเลเซียใช้รากสดตำพอกรอยแตกที่เท้า หรือโรคตาปลา / อินเดียนำน้ำมะขามแช่รากมะเขือพวงต้มดื่มลดพิษในร่างกาย

โดยทั่วไปที่ประเทศอินเดียใช้มะเขือพวงกำจัดพยาธิในระบบทางเดินอาหาร และรักษาแผลกระเพาะอาหาร แต่หมอเท้าเปล่าของอินเดียใช้มะเขือพวงอยู่เสมอเป็นอาหารเสริมเพื่อควบคุมความดันโลหิต
ข้อควรระวัง

มะเขือพวงมีสาร “โซลานีน (Solanine)” ซึ่งเป็น “อัลคาลอยด์” ผู้ที่เป็น “โรคไขข้อ” ควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน เพราะสารนี้อาจจะทำให้เกิดความไม่สมดุลของแคลเซียมในร่างกายได้

สำหรับประเทศไทยเรานั้นรู้จักมะเขือพวงกันมานานแล้ว โดยนิยมนำผลมาใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะนำมาทำเป็นแกงหรือน้ำพริก เช่น แกงเขียวหวาน แกงเนื้อ แกงป่า น้ำพริกกะปิ น้ำพริกแมงดา น้ำพริกกุ้งสด ปลาร้าทรงเครื่อง ผัดเผ็ด เป็นต้น

ขอบคุณ​ข้อมูลดีๆจาก
ผู้จัดการออนไลน์​
-clgc.agri.kps.ku.ac.th/resources/herb/---solanum.html medthai.com/มะเขือพวง/

ที่อยู่

888/65 แขวงออเงิน เขตสายไหม
Bangkok
10220

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Boom iz บูมไอซี่ สิ่งดีดีเพื่อดวงตาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram