อเลอไทด์ดูแลสมอง by Tick

  • Home
  • อเลอไทด์ดูแลสมอง by Tick

อเลอไทด์ดูแลสมอง by Tick อเลอไทด์บำรุงสมอง เด็กสมาธิสั้น เรียนไม่เก่ง เพิ่มความจำ

07/12/2020

Alertide (อเลอไทด์) อาหารเสริมบํารุงสมองและระบบประสาท ถูกพัฒนาสูตรมาจากดีเบรม ช่วยบำรุงสมองและเส้นประสาท ช่วยในเรื่องของความจำให้ทำงานได้ดีขึ้น พร้อมสารอาหารบำรุงร่างกายถึง 10 ชนิด ทำให้สดชื่นแจ่มใส มีสุขภาพดี ถ้าคุณมีปัญหา ความจำระยะสั้น จำไม่ได้ เด็กสมาธิสั้น ไม่อยู่เฉย สมองเสื่อม ขี้หลง ขี้ลืม กังวล เครียด นอนหลับยาก อเลอไทด์ช่วยคุณได้ จากส่วนประกอบที่ถูกคัดสรรค์ จากกระบวนการวิทยาศาสตร์ มาเป็นสุดยอดอาหารเสริมบำรุงสมอง ที่ช่วยเหลือคุณและคนที่คุณรักได้
อเลอไทด์ดีต่อสมองและระบบประสาท พัฒนาความจำ หัวดีสมองไว คิดไว เรียนเก่งเหมาะสำหรับ
*ผู้ที่ต้องการเพิ่มทักษะ ดูแลสมองและเส้นประสาท
*ผู้ที่มีอาการสมาธิสั้น จำยาก ลืมง่าย
*ผู้ที่อยู่ในวัยศึกษา เล่าเรียน ผลการเรียนไม่ดี
*วัยทำงานซึ้งใช้สมองเยอะ แก้ปัญหา สมองล้าบ่อยๆ
*ผู้ที่วิตกกังวล เครียด
*ผู้ที่ความจำเสื่อม หรือเสื่อมจากอายุที่มากขึ้น
*อัลไซเมอร์ สูญเสียความทรงจำ
*ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ สมองเบลอ ไม่ปลอดโปร่ง

ลักษณะเด็กสมาธิสั้นเด็กสมาธิสั้น หรือเรียก "ไฮเปอร์" มีประวัติ ใน วัยเด็กทั้งเหม่อและซน อยู่ไม่นิ่ง ชอบปีนป่ายทำกิจกรรม ...
03/08/2020

ลักษณะเด็กสมาธิสั้นเด็กสมาธิสั้น หรือเรียก "ไฮเปอร์" มีประวัติ ใน วัยเด็กทั้งเหม่อและซน อยู่ไม่นิ่ง ชอบปีนป่ายทำกิจกรรม มากมาย โดยเฉพาะการวิ่งเล่นซน ไม่รู้จักเหน็ด เหนื่อยทั้งวัน ยกเว้นการทำอะไร ที่ไม่สนใจจะทำได้ จะทำได้ไม่นาน หยุกหยิก เหม่อเหมือนไม่ฟังเวลาพูดคุยด้วยแต่กลับรู้เรื่องหมด เพราะสมองไวเหมือนเรดาร์ แบ่งภาคการรับรู้ได้มาก จึงเลือก ตรวจจับ รับข้อมูลหรือคำสั่งเฉพาะเรื่องที่สนใจและสำคัญ เช่น เสียงเรียกของแม่ที่เริ่ม อารมณ์เสีย หงุดหงิดกับการบอกหลายครั้งแล้วยังไม่ฟัง ไม่ทำตาม เพราะกำลังเพลิน มีสมาธิมากกับการเล่น ในเด็กผู้ชาย มักเป็นสมาธิสั้นแบบซน เคลื่อนไหวเร็ว เหมือนรถที่มีเครื่องยนต์แรงแต่เบรกไม่ค่อยดี พูดมาก เล่นสนุกส่งเสียงดัง ไม่ค่อยระวัง ทำอะไรรีบเร็ว ไม่เรียบร้อย ซุ่มซ่าม ของตกหล่น แตกบ่อย โดยไม่ตั้งใจ มีความว่องไวแบบนักวิ่งลมกรด หรือนักรักบี้ตัวน้อย ที่พละกำลังมากวิ่งชนคู่ต่อสู้หรือหลบ ดิ้นหลุดจากการถูกกอดรัด จับตัวไว้ได้ในเด็กผู้หญิงมักพบสมาธิสั้นแบบเหม่อมากกว่า ความซนจะน้อยกว่าเด็กผู้ชาย และทำอะไรเรื่อยๆ อืดอาดช้า ไม่ทันกำหนดเวลา ต้องคอยบอก กำกับ เหมือนไม่รู้เวลา เหม่อและหลงลืมบ่อย ผู้ใหญ่ที่ใจร้อน
ก็คือเด็กไฮเปอร์มาก่อน เป็นคนที่คิดเร็ว พูดเร็ว ทำเร็วแสดงออกท่าทางมากเวลาพูด เปลี่ยนใจในเรื่องต่างๆ
ง่ายเพราะมองเห็นความเป็นไปได้หลายมิติของสถานการณ์ จึงปรับตัวรับมือต่อความเปลี่ยนแปลง ที่พลิกผันได้ดี ชอบลักษณะงานที่ไม่อยู่กับที่ รักอิสระไม่ชอบถูกตีกรอบความคิดเป็นคนที่คิดนอกกรอบ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง จนบางครั้งดื้อรั้น ไม่ฟังใคร(อาจมีมาแต่วัยเด็ก เพราะดื้อคือลักษณะที่พบบ่อยในเด็กสมาธิสั้น) ความคิดและจินตนาการที่แปลกใหม่พรั่งพรูในสมอง คิดโครงการใหญ่ หรือบริหารกิจกรรมหลายอย่าง เบื่องานซ้ำๆ งานที่เข้าทำตามเวลา หรือถูกเร่งรัด ด้วยเวลาเด็กสมาธิสั้นมีสมาธิมาก แบบจดจ่อ อยู่ในภวังค์ ในเรื่องที่ชอบและสนใจไม่ใช่ไแต่เฉพาะการ์ตูน (ที่ผู้ใหญ่มองว่าไม่เป็นสาระ) แต่ยังสนใจภาพยนตร์สารคดี
เรื่องราวของธรรมชาติ และสัตว์โลก ที่มีสีสันเป็นภาพเคลื่อนไหว และเนื้อหาแปลกใหม่ เป็นเด็กช่างสังเกต อยากรู้อยากเห็นมาก มีข้อสงสัย คำถามในใจมากมาย มาซักถามจนผู้ใหญ่เหนื่อยที่จะตอบ รวมถึงชอบเล่นแกะรื้อ ต่อประกอบอุปกรณ์ ของเล่นส่วนใหญ่มักกระจุยกระจาย แยกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพราะความอยากรู้อยากเห็น ผู้ใหญ่เข้าใจว่าซนไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อโตขึ้นก็รู้จักต่อประกอบใหม่ ซ่อมเครื่องยนต์ กลไกต่างๆ
โดยไม่ต้องมีใครสอน เรียนรู้สิ่งต่างๆด้วยตนเอง จากการสังเกต ทดลองซ้ำ ฝึกปฏิบัติบ่อยๆ พื้นฐานเดิม เป็นเด็กที่อารมณ์ดี สนุกสนาน รับรู้อารมณ์คนรอบข้างไว จึงอ่อนไหวง่าย ขี้น้อยใจมากจากการที่ถูกดุว่าบ่อย เรื่องซน เหม่อและดื้อ ฉลาดโต้ตอบด้วยไหวพริบ คารมคมคาย น้ำเสียงพูดสูงๆ ต่ำๆ มีลีลาแบบจังหวะดนตรี เจ้าบทเจ้ากลอนเจ้าบทบาท เลียนแบบ แสดงสีหน้า อารมณ์เก่ง และมีธรรมชาติของความเก่ง ความสามารถ ด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา เพราะเหตุนี้จึงกล่าวได้ว่า เด็กสมาธิสั้นพันธุ์แท้ ล้วนแต่ปัญญาดี ฉลาด เก่งหลายด้าน แต่หากลักษณะซน, เหม่อขาดสมาธิ และหุนหันพลันแล่น มีมากจนก่อให้เกิดปัญหาการปรับตัว ทั้งด้านอารมณ์ พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน หรือมีปัญหาการเรียนมาก
ทางการแพทย์ จึงจะถือว่าเป็น โรคสมาธิสั้น (Attention Deficit/Hyperactivity Disorder) หรือ ADHD
สนใจดูแลลูกรักของท่านด้วยสารสกัดจากธรรมชาติไม่มีผลข้างเคียงสอบถามโทร 061 383 1896

ปัญหาลูกเรียนไม่เก่ง น่าจะเป็นปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่ยุคนี้กลุ้มอกกลุ้มใจมากที่สุด เพราะสังคมสมัยนี้เต็มไปด้วยการแข่งขัน ซึ...
14/05/2020

ปัญหาลูกเรียนไม่เก่ง น่าจะเป็นปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่ยุคนี้กลุ้มอกกลุ้มใจมากที่สุด เพราะสังคมสมัยนี้เต็มไปด้วยการแข่งขัน ซึ่งทัศนคติที่ลูกเราต้องเก่งนั้น
ในแง่หนึ่งเป็นทัศนคติที่ผลักดันให้พ่อแม่ให้ความสำคัญและใส่ใจในการเรียนของลูกมากขึ้น แต่อีกแง่หนึ่งเราควรระวังว่าทัศนคตินี้อาจกลับทำให้ลูกเกิดความเครียด
ได้มากขึ้นเช่นกัน และมักจะทำให้ลูกเติบโตขึ้นเป็นคนเก่ง แต่มีความสุขและภาคภูมิใจกับความเก่งของตัวเองในระยะสั้นๆ เท่านั้น
(เพราะต้องกังวลต่อว่าแล้วจากนี้ ตนจะรักษาความเก่งไว้ได้อย่างไร) ดังนั้น อยากให้พ่อแม่มีทัศนคติเพิ่มอีกสักนิดว่าอยากให้ลูกเป็นคนเก่งด้วยความสนุกกับสิ่งที่ทำ
ทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่ใช่พ่อแม่อยากให้ทำ และไม่ใช่ทำในสิ่งที่ต้องทำหรือควรทำ
การจะเลี้ยงลูกให้เป็นคนเก่งนั้น ต้องเริ่มจาก Passion หรือ ฉันทะ ความชอบในสิ่งนั้นก่อน หากเด็กไม่ชอบ สิ่งนั้นก็จะกลายเป็นสิ่งที่ต้องทำทันที
ไม่ใช่สิ่งที่อยากทำ เช่น จูงใจหรือเปิดโอกาสให้ลูกได้สนุกกับสิ่งที่เรียน ไม่ใช่สิ่งที่ต้องเรียนและต้องทำคะแนนให้ดีกว่าคนอื่น เป็นต้น จากนั้นต้องให้ลูกได้มีโอกาส
ลงมือลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง เขาถึงจะเห็นความสามารถหรือศักยภาพในการเรียนรู้และแก้ไขปัญหาของเขา และเน้นความสนุกในการเรียนรู้และเห็นตัวเองเติบโต
ไม่ใช่เน้นที่ผลลัพธ์ว่าคะแนนหรือเกรด หรือการชนะคนอื่นเป็นเครื่องแสดงความสำเร็จ

แต่การเปลี่ยนทัศนคติอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้ลูกเรียนเก่งขึ้นได้ แต่พ่อแม่ยังต้องหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ลูกเรียนไม่เก่งให้ได้ด้วย จึงจะแก้ไขปัญหาได้ถูกทาง ดังนี้
1. ข้อจำกัดทางร่างกาย เช่น สายตาสั้น สายตาเอียง ตาขี้เกียจ ปัญหาการฟัง ปัญหาในการอ่านผสมเสียงไม่ได้ หรือโรค Dyslexia ปัญหาในการจับประเด็นตีความ
ปัญหาสมาธิสั้น ออทิสติก แอสเพอร์เกอร์ ฯลฯ ซึ่งโรคต่างๆ เหล่านี้ พ่อแม่ต้องสำรวจด้วยใจเป็นกลาง อย่ากลุ้มใจและไม่ยอมรับ หรือ มองข้ามว่าเป็นพฤติกรรมน่ารักหรือซนตามปกติ
ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อแก้ปัญหาให้ถูกจุดแต่เนิ่นๆ

2. ปัญหาทางด้านจิตใจ เช่น กลัวครูดุ ถูกเพื่อนแกล้งหรือข่มขู่เพราะขาดทักษะทางสังคมในการรับมืออย่างเหมาะสม ความเครียดจากครอบครัวทำให้เด็กครุ่นคิดถึง
ปัญหาและขาดสมาธิในการเรียน ความรู้สึกว่าตนเองไม่เก่งไม่ฉลาดเท่าคนอื่น ซึ่งเกิดจากการถูกเปรียบเทียบทั้งทางตรงและทางอ้อม
เด็กบางคนอาจมีข้อจำกัดเรื่องความเจ็บป่วยซึ่งพ่อแม่อาจเผลอตอกย้ำด้วยความกังวลมากเกินไปจนทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าคนอื่นเพราะมีข้อจำกัด
ครูเคทเจอเคสเด็กบางคนป่วยเป็นโรคประจำตัวอย่างหอบหืด หรือเบาหวาน ซึ่งได้รับการดูแลจากแพทย์เป็นอย่างดี
แต่พ่อแม่ก็กังวลใจว่าลูกจะเจ็บป่วยที่โรงเรียนจนทำให้เด็กไม่กล้าทำอะไร ไม่ให้วิ่งเล่นกับเพื่อน ไม่ให้ไปทัศนศึกษา ฯลฯ ซึ่งเรื่องนี้อ่อนไหวทางจิตใจสำหรับเด็กๆ มาก
พ่อแม่ควรช่วยให้ลูกดำเนินชีวิตให้เป็นปกติให้มากที่สุด

3. ปัญหาด้านวิธีการเรียนรู้ คนเรามีวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน เช่น บางคนเรียนรู้ได้ดีจากการฟัง เด็กกลุ่มนี้จะนั่งฟังครูตาแป๋ว มีสมาธิดีในห้องเรียน เด็กบางคนเรียนรู้ได้ดีจากการอ่าน
ก็มักไม่ฟังครูแต่ชอบอ่านหนังสือเอง บางคนเรียนรู้ได้ดีจากการดูภาพหรือแผนภูมิ ก็อาจนั่งจดเล็คเชอร์ไปวาดภาพไป บางคนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ กลุ่มนี้จะไม่ทนฟังครูจนจบ
แต่ละลงมือทำแบบฝึกหัดหรือการทดลองด้วยตัวเอง บางคนต้องการกระบวนการเรียนรู้ที่พิเศษกว่าคนอื่น แต่วิธีการสอนในบ้านเราส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบเดียว
ครูเคทเคยเจอเคสผู้ปกครองมาปรึกษาว่าลูกเรียนได้เกรด 1 บางเทอมก็ไม่ถึง 1 แต่พอได้คุยกับเด็กพบว่าเฉลียวฉลาดมาก ด้วยความสงสัยจึงพาเด็กไปวัด IQ
กับจิตแพทย์ และพบว่าเด็กมี IQ สูงถึง 149 และมีตรรกะดีมาก แต่การวัดผลที่โรงเรียนเน้นการท่องจำ เด็กจึงได้เกรดไม่ดี นอกจากนี้ ปัญหาการเรียนรู้แบบสำเร็จรูปในปัจจุบัน
ทำให้เด็กๆ ไม่ต้องขวนขวายหรือตั้งคำถามแล้วค้นหาคำตอบด้วยตนเอง แต่ทุกอย่างพร้อมให้อยู่แล้ว จึงทำให้ขาดโอกาสในการฝึกสมองตามกระบวนการที่ควรจะเป็น

4. นอกจากนี้ ต้องมองปัญหาอื่นๆ อีก เช่น สภาพแวดล้อมของบ้านและโรงเรียนมีมลพิษสูง เด็กอดนอนจากการตื่นเช้าหรือนอนดึกมากเกินไป การเดินทางไกล
การขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อสมอง การติดเกม การเรียนพิเศษมากเกินไป จนไม่มีเวลาอยู่นิ่งๆ กับตัวเองบ้าง ฯลฯ

อยากให้ลูกเรียนเก่งความจำดี
คลิกเลย
https://lin.ee/wdCpTMm

เด็กติดเกม พ่อแม่ต้องรีบแก้ไขก่อนจะสาย"เด็กติดเกม" อาจเป็นปัญหาที่พ่อแม่หลายๆบ้านต้องเผชิญ โดยเฉพาะบ้านที่มีลูกในวัยเรีย...
03/05/2020

เด็กติดเกม พ่อแม่ต้องรีบแก้ไขก่อนจะสาย

"เด็กติดเกม" อาจเป็นปัญหาที่พ่อแม่หลายๆบ้านต้องเผชิญ โดยเฉพาะบ้านที่มีลูกในวัยเรียน เมื่อเขาเริ่มโตพอที่จะใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ท
และยังมีสังคมของเพื่อนๆที่เล่นเกมเหมือนกันกับเขา พ่อแม่จะทราบได้อย่างไรว่าลูกเราเล่นเกมจนติดแล้วหรือยัง ถ้าติดแล้ว จัดว่าอยู่ในระดับไหน และจะบำบัดอย่างไร ติดตามในบทความนี้ได้เลยค่ะ
จะรู้ได้อย่างไร? ว่าลูกติดเกม
สัญญาณของการเริ่มติดเกม คือ เด็กจะหมกมุ่นอยู่กับเกมแบบไม่รู้เวลาและไม่สามารถควบคุมตัวเองให้เลิกเล่นได้ พยายามดิ้นรนที่จะเล่นเกมมากขึ้น
เมื่อพ่อแม่บอกให้หยุดเล่นเกมก็จะแสดงอาการหงุดหงิด กระวนกระวาย บางครั้งถึงกับอาละวาด แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว รวมทั้งมีการใช้เงินที่มากกว่าปกติ
ใช้เงินไปกับการเล่นเกม หรือแอบหยิบเงินคนอื่น หาเงินทางอื่นเพื่อนำไปใช้กับการเล่นเกม
ต่างๆไม่เป็นเวลานอกจากนี้ยังเกิดผลกระทบต่อร่างกาย เพราะนอนดึก นอนไม่เป็นเวลา เวลานอนไม่เพียงพอ การเรียนตกต่ำลง ขาดความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง หรือแม้กระทั่งทำให้พัฒนาการช้าในเด็กเล็ก
ระดับความรุนแรงของการติดเกม
ในทางการแพทย์จะมีข้อกำหนดถึงลักษณะความรุนแรงของการติดเกมอยู่ พ่อแม่บางคนอาจจะเห็นลูกใช้เล่นเกมนานกว่าที่ตัวเองชอบใจก็อาจจะเรียกว่าเป็นการติดเกมแล้ว
หากพ่อแม่อยากรู้ว่าลูกติดเกมไหม สามารถดูได้จากพฤติกรรมตามระดับความรุนแรงของการติด ดังต่อไปนี้
1. ชอบ แต่ไม่ได้ติด
เด็กสามารถมีความชอบได้ แต่ต้องไม่เสียการควบคุมตนเอง เด็กบางคนชอบร้องเพลง เด็กบางคนชอบอ่านหนังสือว ขณะที่บางคนชอบเล่นกีฬา ความชอบเหล่านั้นทำให้เจ้าตัวมีความสุข
แต่ยังสามารถที่จะทำกิจกรรมอื่นๆได้อีก
2. คลั่งไคล้
เด็กเริ่มไม่สนใจที่จะทำกิจกรรมอื่น เด็กที่คลั่งไคล้จะเริ่มคุมตัวเองไม่ได้ เช่น วันนี้ตั้งใจจะไม่เล่นเกม พยายามบอกตัวเองว่างดเล่นเกมสักวัน แต่อดใจไม่ไหว ควบคุมตัวเองไม่ได้
สุดท้ายก็เล่นเหมือนเดิม แต่การคลั่งไคล้ยังไม่ถึงขั้นติด แค่เริ่มเสียการควบคุมตนเอง
3. การติด
อาการของเด็กติดเกมโดยทั่วไปสังเกตได้จากเริ่มละเลยการทำหน้าที่ รวมถึงทำกิจกรรมอย่างอื่นน้อยลง เช่น
ไม่สามารถควบคุมตัวเองให้เล่นในเวลาที่กำหนด ใช้เวลาในการเล่นนานติดต่อกันหลายๆชั่วโมง หรือเล่นนานขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มเป็นหลายชั่วโมงต่อวัน
เด็กบางคนเล่นข้ามวันข้ามคืน
หากถูกบังคับให้เลิกหรือหยุดเล่นจะเกิดการต่อต้าน หรือแสดงอาการหงุดหงิดไม่พอใจอย่างรุนแรง เด็กบางคนถึงขั้นอาละวาด
การเล่นเกมของเด็กมีผลกระทบต่อหน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ไม่สนใจการเรียน ไม่ทำการบ้าน หนีเรียน หรือแอบหนีออกจากบ้านเพื่อจะไปเล่นเกม
รวมถึงผลการเรียนตกลงอย่างมาก ละเลยการเข้าสังคม หรือการทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว
บางรายอาจมีปัญหาพฤติกรรมอื่นๆร่วมด้วย เช่น โกหก ขโมย ดื้อ ต่อต้าน แยกตัว เก็บตัว เป็นต้น
สนใจดูแลสุขภาพด้วยสารสกัดจากธรรมชาติไม่มีผลข้าง
สอบถามเพิ่มเติมโทร 061 383 1896

ลูกดื้อ... จัดการอย่างไร ลูกน้อยสามารถมีการแสดงออกถึงพฤติกรรมดื้อได้หลากหลาย เช่น ไม่เชื่อฟังคำสั่ง ต่อต้าน หรือไม่ร่วมม...
08/04/2020

ลูกดื้อ... จัดการอย่างไร
ลูกน้อยสามารถมีการแสดงออกถึงพฤติกรรมดื้อได้หลากหลาย เช่น ไม่เชื่อฟังคำสั่ง ต่อต้าน หรือไม่ร่วมมือ ทั้งนี้พ่อแม่ควรดูให้แน่ใจว่าพฤติกรรมดื้อนั้นเป็นการแสดงออก
ถึงความเป็นอิสระหรือความเป็นตัวของตัวเองหรือไม่ โดยเฉพาะในเด็กวัย 2-4 ปีที่ต้องการทำอะไรใหม่ๆ ด้วยตนเอง อยากสำรวจหรือค้นคว้า ผู้ใหญ่ไม่ควรขัดขวางเพียงแต่คอยดูว่า สิ่งนั้นจะนำไปสู่อันตราย หรือนำไปสู่การละเมิดสิทธิของผู้อื่นหรือไม่ แนวทางการจัดการกับพฤติกรรมดังกล่าว พ่อแม่ไม่ควรใช้วิธีลงโทษรุนแรง แต่ควรมีการป้องกันการเกิดพฤติกรรมดื้อโดยคาดการณ์และวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อน เช่น วันนี้แม่จะพาลูกไปช้อปปิ้ง พ่อแม่ควรตกลงกับลูกไว้ก่อนว่าวันนี้จะไปทำอะไรบ้าง และอนุญาตให้ลูกซื้อของเล่นได้เพียง 1 ชิ้นเท่านั้น และถ้าลูกไม่ทำตามที่ตกลงไว้จะเป็นอย่างไร เช่น พ่อแม่จะพากลับบ้านทันที หรือไม่พาไปสนามเด็กเล่นต่อ
ซึ่งทำให้ลูกน้อยได้เรียนรู้ผลจากการกระทำที่ติดตามมาด้วยตนเองถ้าลูกมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พ่อแม่อาจกำหนดกติกาหรือกฎเกณฑ์ที่สามารถปฏิบัติตามได้จริง
เมื่อลูกดื้อหรือไม่เชื่อฟังแต่ยังไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว พ่อแม่ควรลงโทษโดยวิธีการใช้เวลานอก ให้แยกเด็กอยู่ลำพัง นั่งเข้ามุมสงบแต่ต้องไม่อยู่ในบรรยากาศที่น่ากลัว
เช่น ขังในห้องน้ำ โดยไม่ให้ความสนใจเด็กเป็นระยะเวลานานเท่ากับอายุเด็กเป็นนาที เช่น ถ้าเด็กอายุ 5 ปีก็ให้นั่งนานประมาณ 5 นาที และเริ่มจับเวลาตั้งแต่ลูกสามารถเริ่มนั่งนิ่งได้
เพื่อฝึกให้ลูกรู้จักควบคุมอารมณ์ตนเองจนกว่าลูกจะสงบลง จึงค่อยพูดทำความเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาและเหตุผลที่ต้องถูกทำโทษ ทั้งนี้พ่อแม่ต้องจัดการกับความรู้สึกคับข้องใจหรือความรู้สึกโกรธ โมโห ของตนเองด้วยเมื่อลูกดื้อ โดยไม่ยอมแพ้ต่อการต่อรองหรือการอ้อนวอนของลูกน้อย
พ่อแม่ต้องปรับพฤติกรรมลูกเมื่อดื้ออย่างสม่ำเสมอ จริงจัง ค่อยเป็นค่อยไป และต่อเนื่อง จะทำให้ลูกพัฒนาทักษะทางอารมณ์และเรียนรู้ได้ว่าอะไรถูก อะไรผิด
หรือสิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้ ซึ่งเป็นรากฐานให้เด็กมีการพัฒนาคุณธรรมที่เหมาะสมต่อไป นอกจากนี้พ่อแม่ไม่ควรบังคับลูกน้อยมากเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรตามใจมากเกินไป ถ้าทำตามไม่ได้หรือให้ไม่ได้ ก็ควรบอกด้วยว่าทำไม่ได้เพราะอะไร ต้องยืนยันตามเหตุผลนั้นอย่างจริงจัง การกระทำอย่างอ่อนโยนแต่เด็ดขาดชัดเจน
เป็นวิธีหนึ่งที่แสดงให้เด็กรู้ว่ามีคนรักและเอาใจใส่ความรู้สึกของเด็ก ในกรณีที่เด็กมีพฤติกรรมดื้อรั้น ต่อต้าน ร้องไห้โวยวาย วิธีแก้ไขที่ง่ายที่สุดในขณะนั้นคือ ต้องใจเย็น
อย่ายอมให้สิ่งที่เด็กต้องการในขณะที่เด็กเกิดพฤติกรรมเช่นนั้น ให้ทำเป็นไม่สนใจ อย่าแสดงอาการวิตกกังวลกับพฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้น เด็กจะค่อยๆ สงบและเงียบลง
เมื่อเด็กเงียบควรเบี่ยงเบนความสนใจไปทางอื่น การดื้อรั้นจะลดลง ถ้าสอนเด็กแล้วตนเองไม่ทำตามที่สอนหรือไม่ทำตามที่พูด เด็กจะเรียนรู้ว่าผู้ใหญ่ไม่ทำจริง เช่น บอกว่าถ้าทำอย่างนั้นอย่างนี้แล้วจะต้องถูกลงโทษ เมื่อเด็กแสดงพฤติกรรมนั้นจริงกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เด็กก็จะรู้ว่าพ่อแม่ไม่เอาจริง เด็กก็จะยิ่งแสดงพฤติกรรมนั้นมากขึ้น ทำให้พ่อแม่ต้องขู่มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้เด็กไม่สามารถเรียนรู้หรือเข้าใจพฤติกรรมนั้นได้ กลับเข้าใจว่าเป็นเพียงคำขู่ ไม่มีอะไรจริงจัง กรณีเช่นนี้
เป็นการส่งเสริมให้เด็กกลายเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมดื้อรั้นมากขึ้น
หากลูกหลานมีอาการสมาธิสั้น ไม่นิ่ง สนใจดูแลด้วยสารสกัดจากธรรมชาติไม่มีผลข้างเคียง
สอบถามโทร 061 383 1896

โรคสมาธิสั้น หรือ Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder (ADHD) กลุ่มอาการขาดสมาธิ อยู่ไม่นิ่งและวู่วาม หุนหันพลันแล่น...
30/03/2020

โรคสมาธิสั้น หรือ Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder (ADHD) กลุ่มอาการขาดสมาธิ
อยู่ไม่นิ่งและวู่วาม หุนหันพลันแล่น อาจมีสาเหตุมาจากการได้รับการถ่ายทอดทาง พันธุ์กรรม หรือเกิดจากภาวะที่มีผลต่อสมองนับตั้งแต่อยู่ในครรภ
เช่น มารดาขาดสารอาหารหรือได้รับสารพิษ การคลอดมีปัญหา เด็กเป็นโรคลมชักหรือสมองอักเสบ ส่งผลให้สารโดปามีนและนอร์เอปิเนฟริน
ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่คุมสมาธิมีปริมาณน้อยกว่าเด็กปกติเด็กจึงมีสมาธิ สั้น แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่สภาพแวดล้อมในการเลี้ยงดูที่ดีสามารถช่วยทำให้เด็กมี อาการดีขึ้นได้
การเลี้ยงดูของพ่อแม่เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหลายครอบครัวอาจมองข้ามไปว่าการที่เด็กดื้อ ซน อยู่ไม่นิ่ง ชอบปีนป่าย หุนหันพลันแล่น หรือ เหม่อลอย หลงลืมบ่อย
ทำการบ้านไม่เสร็จ ไม่เป็นระเบียบ มักเป็นธรรมชาติของเด็กที่กำลังโต มีพัฒนาการ จนเกิดความชะล่าใจ เมื่อปล่อยนานไปก็ยิ่งมีอาการเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งแท้จริงแล้วเด็กอาจเป็นโรคสมาธิสั้น และหากไม่ได้รับการรักษาและดูแลที่ถูกต้อง อาจส่งผลกระทบด้านการเรียนและพฤติกรรมของเด็ก เช่น สอบตก เกเร หนีเรียน และก้าวร้าวได้
จิตแพทย์ขยายความถึงความสำคัญของการเลี้ยงดู ที่มีผลต่อเด็กสมาธิสั้นว่า "จริงๆ แล้วโรคสมาธิสั้นเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องพันธุกรรมด้วย อาจจะ
ไม่สามารถป้องกันได้ แต่พฤติกรรมหรืออาการที่เป็นปัญหาอาจจะดีขึ้นได้ หรือแตกต่างกันได้ด้วยเรื่องของการเลี้ยงดู บางทีถ้าคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูเอาใจใส่
แม้ว่าเด็กจะดื้อซน แต่เราหนักแน่น ก็จะช่วยให้อาการสมาธิสั้นรบกวนเวลาเรียน รบกวนคุณพ่อคุณแม่น้อยลงไปได้ อีกส่วนหนึ่งก็คือการเอาใจใส่ดูแล
สร้างความผูกพันกับลูก จะทำให้เขาเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น"
การดูแลเด็กที่เป็น สมาธิสั้นนอกเหนือจาก พ่อแม่แล้ว คุณครูก็มีส่วนสำคัญ เพราะจะเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเด็กและเห็นถึงความแตกต่าง
ถ้าคุณครูมีโอกาสคุยกับคุณพ่อคุณแม่ก็จะช่วยให้เด็กเข้าสู่การรักษาที่เร็ว ขึ้น นอกจากนี้เพื่อนๆ ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือเด็กสมาธิสั้นได้
เช่น บางทีเด็กที่ต้องกินยารักษาอาจรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอยู่บ้าง การไม่ล้อ ไม่ว่า แล้วก็เข้าใจ มันจะทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกดีกับสิ่งที่เขาเป็นมากขึ้น
หรือในกรณีที่เด็กสมาธิสั้นอาจจะมีจดการบ้านหรือสิ่งที่ครูสอนไม่ทัน หรือจดผิดๆ บ้าง เพื่อนก็สามารถช่วยได้
สนใจดูแลลูกหลานของท่านด้วยสารสกัดจากธรรมชาติไม่มีผลข้างเคียง สอบถามโทร 061 383 1896

พัฒนาการลูกน้อยด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ
19/03/2020

พัฒนาการลูกน้อยด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ

สมาธิสั้น จะเรียนดีได้อย่างไรอยากให้ลูกเรียนดีมีสมาธิด้วยสารสกัดจากธรรมชาติไม่มีผลข้างเคียง สนใจโทร 061 383 1896หรือกดที...
17/03/2020

สมาธิสั้น จะเรียนดีได้อย่างไร
อยากให้ลูกเรียนดีมีสมาธิด้วยสารสกัดจากธรรมชาติไม่มีผลข้างเคียง สนใจโทร 061 383 1896

หรือกดที่ลิงค์
https://lin.ee/wdCpTMm

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when อเลอไทด์ดูแลสมอง by Tick posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Practice

Send a message to อเลอไทด์ดูแลสมอง by Tick:

  • Want your practice to be the top-listed Clinic?

Share

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram