ร้านพลอย ดอกไม้ไหว้ บูชาพระ

ร้านพลอย ดอกไม้ไหว้ บูชาพระ งานเอาท์เล็ท งานมือสองคัดเกรด เริ่มต้น 25.- เสื้อแฟชั่นรวมญี่ปุ่น 🌸เสื้อชีฟองญี่ปุ่น🌸

02/09/2024

🙏ถวายของอันปราณีตย่อมได้อานิสงส์มาก เสริมความร่ำรวย เสริมทรัพย์ บารมี ด้วยชุด 🌻
👏 #ดอกบัวมงคล ดอกบัวเศรษฐี ดอกกุหลาบ 🌹
ให้โต๊ะบูชา ดูสวยงามลงตัว ชอบชุดไหน เลือกได้เลยค่ะ 🌹♥️
👍งานดี งานฝีมือ คุ้มค่า ‼️การันตี สินค้าไม่ตรงปก

✅ อายุการใช้งานอยู่ได้นาน
✅ จัดส่งฟรีทั้งแบบโอนและเก็บเงินปลายทาง
✅ รับประกันสินค้าเสียหายจากการขนส่ง

#เสริมดวง
#ดอกบัวถวายพระ #ดอกบัวบูชาพระ #ถวายพระ #ดอกบัวประดิษฐ์ #ตกแต่งหิ้งพระ #ดอกกุหลาบ #ดอกบัวถวายพระ #ของตกแต่งบ้าน #ตกแต่ง #ของขวัญ #สินค้าพร้อมส่ง #ชุดกุหลาบ #สายมู #กุหลาบแดง #ท้าวเวสสุวรรณ #พระพิฆเนศ #พระแม่ลักษมี #เทพ #มูเตลู #เสริมดวง #ช่อดอกไม้ #ช่อดอกบัว #รายการแฉ #แฉ

02/09/2024

🙏ถวายของอันปราณีตย่อมได้อานิสงส์มาก เสริมความร่ำรวย เสริมทรัพย์ บารมี ด้วยชุด 🌻
👏 ดอกบัวมงคล ดอกบัวเศรษฐี 🌹
ให้โต๊ะบูชา ดูสวยงามลงตัว ชอบชุดไหน เลือกได้เลยค่ะ 🌹♥️
👍งานดี งานฝีมือ คุ้มค่า ‼️การันตี สินค้าไม่ตรงปก

✅ อายุการใช้งานอยู่ได้นาน
✅ จัดส่งฟรีทั้งแบบโอนและเก็บเงินปลายทาง
✅ รับประกันสินค้าเสียหายจากการขนส่ง

#เสริมดวง
#ดอกบัวถวายพระ #ดอกบัวบูชาพระ #ถวายพระ #ดอกบัวประดิษฐ์ #ตกแต่งหิ้งพระ #ดอกกุหลาบ #ดอกบัวถวายพระ #ของตกแต่งบ้าน #ตกแต่ง #ของขวัญ #สินค้าพร้อมส่ง #ชุดกุหลาบ #สายมู #กุหลาบแดง #ท้าวเวสสุวรรณ #พระพิฆเนศ #พระแม่ลักษมี #เทพ #มูเตลู #เสริมดวง #ช่อดอกไม้ #ช่อดอกบัว #รายการแฉ #แฉ

🥰
02/09/2024

🥰

อรุณสวัสดิ์ ประเทศเรา😬
20/04/2019

อรุณสวัสดิ์ ประเทศเรา😬

ขอบคุณ facebook
04/04/2019

ขอบคุณ facebook

ขิง ประโยชน์และโทษที่คุณอาจคาดไม่ถึงแม้ว่าขิงจะเป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ทำอาหารและมีสรรพคุณในการรักษาโรค แม้ว่าขิงจะมีกลิ่...
04/04/2019

ขิง ประโยชน์และโทษที่คุณอาจคาดไม่ถึง

แม้ว่าขิงจะเป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ทำอาหารและมีสรรพคุณในการรักษาโรค แม้ว่าขิงจะมีกลิ่นฉุนและมีรสชาติเผ็ดร้อน เลยทำให้ไม่ถูกปากหลายคนนั้น แต่ขิงก็เป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ทำอาหารและมีสรรพคุณรักษาโรค เรามาดูกันดีกว่าว่าสมุนไพรดี ๆ อย่างขิงนั้นมีประโยชน์และโทษอะไรที่เราคาดไม่ถึงบ้าง

ประโยชน์ของขิง

+ ลดอาการท้องอืด

หากคุณรู้สึกท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อยให้จิบชาน้ำขิงหรือกินขิงสดจะทำให้คุณรู้ดีขึ้น หรือถ้าหากคุณเกิดอาการท้องอืดจากการกินถั่วละก็ คราวหน้าลองฝานถั่วบาง ๆ ลงไปในอาหารที่มีถั่ว นั่นก็จะช่วยลดอาหารท้องอืดได้เช่นกันค่ะ เพราะขิงนั้นเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน สามารถช่วยขับลม และกระตุ้นการทำงานของลำไส้ทำให้ อาการท้องอืดบรรเทาลงได้

+ ช่วยบรรเทาอาการไมเกรน

จากการศึกษาพบว่า การรับประทานขิงตอนที่อาการไมเกรนใกล้กำเริบนั้น จะช่วยทำให้ความเจ็บปวดจากอาการไมเกรนลดลงได้ เพราะขิงจะไปช่วยสกัดการฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาอื่น แสดงให้เห็นอีกว่าขิงสามารถช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ โดยพบว่าผู้ที่มีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมหรือโรครูมาตอยด์มีอาการลดลงเมื่อบริโภคขิงผงเป็นประจำทุกวัน

+ ช่วยป้องกันมะเร็ง

ขิงมีคุณสมบัติในการช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยมีการศึกษาพบว่าขิงช่วยทำให้เซลล์มะเร็งภายในรังไข่ตาย เพราะในขิงมีสารเคมีธรรมชาติที่ไปช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอรเรส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันมะเร็งได้ นอกจากนี้ยังพบอีกว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีขิงเป็นส่วนประกอบยังช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย

+ ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้

ขิงสามารถบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ โดยชาวเอเชียนั้นมักจะใช้ขิงในการช่วยบรรเทาอาการเมารถ หรือเมาเรือ นอกจากนี้ยังมีหลายการศึกษาพบว่าขิงสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการอาเจียนหลังจากการผ่าตัดและยังช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียนในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เข้ารับเคมีบำบัดได้อีกด้วย

+ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

มีการศึกษาใหม่พบว่า ขิงผงนั้นสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานขิงร่วมกับยา เพราะขิงอาจทำปฏิกิริยากับยาที่ใช้รักษาได้ และควรติดตามผลระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิด เพราะหากรับประทานขิงมากเกินไปก็อาจจะทำให้ระดับอินซูลินลดลงมากเกินไปจนอยู่ในขีดอันตรายได้

ขิงดอง สรรพคุณดีก็มีนะ รู้ยัง?

เราอาจจะเคยได้ยินกันมาว่าการรับประทานของหมักดองไม่ดีกับสุขภาพ แต่ต้องขอยกเว้นไว้สำหรับขิงดองค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วแม้ขิงดองจะเป็นอาหารที่ผ่านการหมักด้วยน้ำส้มสายชู แต่เรื่องสรรพคุณ และประโยชน์เพื่อสุขภาพ ขิงดองก็มีดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าขิงสด ๆ เลยล่ะค่ะ ซึ่งประโยชน์ของขิงดองมีดังนี้

* ช่วยแก้อาการเมาเรือ เมารถ และอาการแพ้ท้อง

เนื่องจากขิงดองเป็นอาหารที่มีกลิ่นแรงอีกทั้งยังมีรสชาติเผ็ดอมเปรี้ยว เลยทำให้กลายเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคนที่มีอาการเมาเรือ เมารถ และสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งมักจะมีอาการแพ้ท้อง เอาไว้รับประทานเวลาที่รู้สึกคลื่นไส้ เพราะจะช่วยบรรเทาอาการได้ค่ะ ไม่ต้องพึ่งยาแก้เมา หรือยาแก้แพ้ท้อง ลองใช้ขิงดองดูนี่ล่ะค่ะ เด็ด !

* ช่วยล้างปากเวลารับประทานอาหาร

สำหรับหลายคนที่สงสัยว่าทำไมเวลาไปรับประทานอาหารญี่ปุ่นแล้วบนจานอาหารญี่ปุ่นจะมีขิงดอง คำตอบก็คือขิงดองเหล่านั้นมีไว้รับประทานล้างปากค่ะ โดยส่วนใหญ่ในการรับประทานอาหารญี่ปุ่น จะรับประทานขิงดองตามเข้าไปหลังจากรับประทานอาหารจานนั้นหมดแล้ว เพื่อไม่ให้รสชาติอาหารจานเดิมติดอยู่ในปากจนทำให้รู้สึกเลี่ยนและรับประทานจานต่อไปไม่ไหว อีกทั้งยังทำให้ลิ้มรสอาหารจานต่อไปได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

* โซเดียมต่ำ

แม้ขิงดองจะมีรสจัด แต่น่าแปลกที่ขิงดองเป็นอาหารที่มีโซเดียมต่ำมากเมื่อเทียบกับอาหารหมักดองชนิดอื่น ๆ เมื่อนำมารับประทานแล้วก็ทำให้ไม่ต้องกังวลกับปริมาณโซเดียม ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความดันโลหิตสูงลงไปได้อีกเยอะเลย

ข้อควรระวังในการทานขิง

- อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ได้

มีบางการศึกษาพบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์และการแท้ง แต่ในการตั้งครรภ์รายอื่น ๆ นั้นไม่พบว่าการรับประทานขิงจะทำให้เกิดอาการเหล่านั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการคลื่นไส้จากการแพ้ท้องได้อีกด้วย ดังนั้นคุณควรไปปรึกษาแพทย์ก่อนจะที่ใช้ขิงในการรักษาอาการแพ้ท้องด้วยตนเองค่ะ

- ทำให้เกิดแผลร้อนในภายในปากได้

ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าหากรับประทานเข้าไปในปริมาณที่มากก็จะสามารถเยื่อบุภายในช่องปากเกิดการอักเสบจนเป็นอาการร้อนในได้ ดังนั้นไม่ควรรับประทานขิงมากจนเกินไปค่ะ

- ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด

การศึกษาหนึ่งในออสเตรเลียพบว่า ขิงนั้นมีสรรพคุณในการต้านการแข็งตัวของเลือดมากกว่ายาแอสไพริน สถาบันสุขภาพของออสเตรเลียได้ออกคำเตือนให้งดการรับประทานขิงในขณะที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดเพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอาการห้อเลือดหรืออาการเลือดออกได้ ดังนั้นถ้าหากคุณมีอาการเลือดออกผิดปกติหรือกำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขิงค่ะ

ขอบคุณ health.kapook

Cr. Facebook
01/04/2019

Cr. Facebook

4 เทคนิค ล้างพิษ ทั่วร่างกายล้างพิษ เป็นวิธีที่จะช่วยให้เรากำจัดพิษ (Toxin) ที่เกิดขึ้นในร่างกาย เนื่องมาจากพฤติกรรมในชี...
29/03/2019

4 เทคนิค ล้างพิษ ทั่วร่างกาย

ล้างพิษ เป็นวิธีที่จะช่วยให้เรากำจัดพิษ (Toxin) ที่เกิดขึ้นในร่างกาย เนื่องมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งอาหารการกิน

นายแพทย์แอนดรูว์ ไวล์ (Andrew Weil) พ่อมดแห่งวงการแพทย์ทางเลือก กล่าวไว้ใน หนังสือ พลังบำบัด : ร่างกายคุณรักษาตนเองได้ สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ ว่า

“ความสามารถในการขจัดสารพิษ ขึ้นอยู่กับการทำงานของร่างกาย 4 ระบบ คือ ระบบปัสสาวะ ระบบขับถ่าย ระบบทางเดินหายใจ และระบบผิวหนัง ทั้ง 4 ระบบนี้ ทำให้ร่างกายสามารถขับของเสียออกทางปัสสาวะ อุจจาระ ลมหายใจ และเหงื่อ โดยตับจะช่วยกรองสารเคมีแปลกปลอมที่ผ่านเข้ามา แล้วปรับสภาพให้หมดพิษ หรือย่อยสารพิษให้เล็กลง จนเป็นสารประกอบที่ร่างกายสามารถขับออกผ่านทางระบบใดระบบหนึ่ง”



4 ระบบ คือ ไต ลำไส้ เลือดลมหายใจและผิวหนัง ล้างพิษ ดังนี้
1. อาหารช่วยไตขับพิษ
ไต คือ อวัยวะสำคัญที่ช่วยขับพิษออกทางปัสสาวะ หากกินอาหารไม่ดีจะเร่งให้ไตเสื่อมเร็วขึ้นจนไม่สามารถกรองของเสียได้ตามปกติ ทำให้สารอาหารบางชนิด เช่น โพแทสเซียม (Potassium) เกิดการคั่งค้างภายในร่างกาย ส่งผลให้หัวใจเต้น ผิดปกติและหยุดเต้นได้

หลังอายุ 30 ปี ไตจะเสื่อมลงเฉลี่ยปีละ 1 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นต้องหลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานและเค็ม อาหารแปรรูป อาหารกระป๋องที่มีส่วนประกอบของเกลือและน้ำตาลปริมาณสูง เพื่อป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่โรคไตเรื้อรัง ควรกินอาหารสดใหม่จากธรรมชาติ

ควรดื่มน้ำวันละ 6 - 8 แก้ว เพื่อช่วยเจือจางสารพิษและลดความเข้มข้นของปัสสาวะ หากดื่มน้ำน้อยเกินไปจนปัสสาวะมีความเข้มข้นสูง สารละลายในปัสสาวะอาจรวมตัวและตกผลึกกลายเป็นก้อนนิ่วได้

อาการเริ่มแรกที่แสดงว่าร่างกายมีของเสียสะสมในลำไส้มากและไม่สามารถขจัดออกได้ทัน คือ โรคท้องผูกส่วนใหญ่มีอาการถ่ายไม่ออกติดต่อกันนานเกิน 3 วันร่วมกับมีอาการแน่นท้อง อุจจาระแข็ง และต้องอาศัยแรงเบ่งมากเวลาขับถ่าย

ควรแก้ปัญหาด้วยการดื่มน้ำตลอดวัน อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร กินอาหารที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย เช่น ลูกพรุน มะละกอสุก หลีกเลี่ยงการกินยาระบายเพราะทำให้ลำไส้เคยชินต่อการถูกกระตุ้นจากยา และการกินยาระบายเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการท้องผูกขั้นรุนแรง

นอกจากนี้ควรเน้นกินอาหารที่มีใยอาหารไม่ละลายน้ำ (Insoluble Fiber) สูง เพราะมีคุณสมบัติช่วยดักจับเจือจางสารพิษ ทั้งช่วยเพิ่มปริมาณและน้ำหนักอุจจาระจึงกระตุ้นให้ร่างกายขับถ่ายและขจัดของเสียได้เร็วขึ้น

ตัวอย่างอาหารที่มีใยอาหารไม่ละลายน้ำสูง เช่นข้าวสาลี รำข้าวสาลี ข้าวกล้อง ข้าวโพด ถั่วเปลือกแข็งบวบ ขึ้นฉ่าย บรอกโคลี กะหล่ำปลี หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ แครอต แตงกวา ผักใบสีเขียวเข้ม

3. อาหารทำความสะอาดเลือด
หลอดเลือดทำหน้าที่คล้ายท่อขนส่งสายยาวโยงใยไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกายทั้งลำเลียงออกซิเจนจากปอด ขนส่งฮอร์โมนไปยังอวัยวะเป้าหมาย ส่งผ่านแอนติบอดี(Antibody) เพื่อไปต่อสู้กับเชื้อโรค ที่สำคัญ ยังช่วยขนส่งสารอาหารที่ผ่านการย่อยจากลำไส้เล็ก ทั้งน้ำตาล โปรตีน และไขมัน ไปยังเซลล์ทั่วร่างกาย

ฉะนั้นหากไม่รักษาหลอดเลือดให้ดี กินแต่อาหารไม่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอล (Cholesterol) สูง อาจเกิดการฝังตัวของไขมันตามผนังหลอดเลือด จนทำให้หลอดเลือดอุดตัน ขาดความยืดหยุ่น เปราะแตกง่ายไม่สามารถขนส่งสารอาหารได้ตามปกติ ส่งผลให้อวัยวะปลายทางไม่ได้รับออกซิเจนและสารอาหารที่เพียงพอ

โครงการศึกษาคอเลสเตอรอลแห่งชาติ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (The National Cholesterol Education Program of the U.S. National Institutes of Health) แนะนำให้กินอาหารล้างไขมันในหลอดเลือดตามแนวทางทีแอลซี [Therapeutic Lifestyle Changes (TLC) Diet Recommendations] ดังนี้

1. ไม่ควรกินไขมันอิ่มตัวมากกว่าวันละ 7 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานทั้งหมด โดยการหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ติดหนังติดมัน ไขมันจากนม เนย อาหารทอดน้ำมันท่วม

2. ไม่ควรกินคอเลสเตอรอลเกินวันละ 200 มิลลิกรัม โดยหลีกเลี่ยงการกินไข่แดง (ห้ามกินไข่แดงมากกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง) เครื่องในสัตว์ เช่น ปอด ไส้ ตับ หัวใจ กระเพาะอาหาร และเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น เบคอน กุนเชียง ไส้กรอก

3. ไม่ควรกินไขมันทรานส์ (Trans Fatty Acid) ซึ่งพบในอาหารจำพวกเบเกอรี่ขนมอบที่ทำจากเนยขาว เนยเทียม มาร์การีน

4. ควรกินไขมันอิ่มตัวตำแหน่งเดียว (Monounsaturated Fat) และไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (Polyunsaturated Fat) ซึ่งเป็นไขมันดี วันละไม่เกิน 20 และ 10 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานทั้งหมดตามลำดับ โดยไขมันดีพบในน้ำมันมะกอก น้ำมัน รำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง

5. กินเนื้อปลาไม่เกินวันละ 5 ออนซ์ (140 กรัม) สามารถทดแทนด้วยถั่วเมล็ดแห้งได้ โดยเนื้อปลา 1 ออนซ์ (28 กรัม) เท่ากับถั่วเมล็ดแห้ง ถ้วยตวง

6. กินโยเกิร์ตไขมันต่ำวันละ 2 - 3 ถ้วย

7. กินผลไม้วันละ 2 - 4 ส่วน โดย 1 ส่วนเท่ากับแอ๊ปเปิ้ล 1 ผล ส้ม 1 ผลกล้วยหอมครึ่งลูก ผลไม้หั่นชิ้น 8 - 12 ชิ้นคำ เช่น สับปะรด มะละกอ หรือน้ำผลไม้แก้ว

8. กินผักวันละ 3 - 5 ส่วน เน้นผักใบเขียว โดย 1 ส่วนเท่ากับผักดิบ 1 ถ้วยตวงหรือผักสุกครึ่งถ้วยตวง

9. กินธัญพืชไม่ขัดสีวันละ 6 ส่วน โดย 1 ส่วนเท่ากับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่นข้าวกล้องหรือข้าวโอ๊ต 1 ทัพพี

การกินอาหารทีแอลซีได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยล้างไขมันในหลอดเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอลร้ายได้ โดยให้ผลใกล้เคียงกับการรักษาด้วยยา แถมสุขภาพแข็งแรงและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง อีกด้วย

4. ออกกำลังล้างพิษผ่านลมหายใจและผิวหนัง
ใน 1 วัน ร่างกายสามารถขับน้ำผ่านทางลมหายใจเฉลี่ยวันละ 250 – 400 ลูกบาศก์เซนติเมตร ขับน้ำในรูปของเหงื่อผ่านทางผิวหนังเฉลี่ยวันละ 1 ลิตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและกิจกรรมที่ทำหากอยู่ในสภาวะอากาศร้อน ทำงานกลางแจ้ง หรือเล่นกีฬาร่างกายจะขับน้ำเพิ่มขึ้น

น้ำช่วยขับเกลือส่วนเกินออกจากร่างกาย ทั้งยังช่วยขับสารพิษที่ร่างกายได้รับจากสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ล่าสุด Journal of Environmental and Public Health ตีพิมพ์ผลงานวิจัยเรื่อง Arsenic, Cadmium, Lead, and Mercury in Sweat: A Systematic Review ซึ่งรวบรวมหลายการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า เหงื่อสามารถขจัดโลหะหนักที่ร่างกายได้รับจากสิ่งแวดล้อมได้จริง โดยยกให้การออกกำลังกายและการอบซาวน่าเพื่อขับเหงื่อเป็นวิธีการบำบัดเพื่อขจัดสารพิษที่ให้ผลดี

มีการตรวจพบสารหนู (Arsenic) ในเหงื่อและปัสสาวะมากกว่าในเลือด พบว่า ร่างกายขับแคดเมียม (Cadmium) ออกทางเหงื่อได้ดีที่สุด และยังสามารถขับตะกั่ว (Lead) ออกทางเหงื่อและน้ำดีได้ แต่ร่างกายไม่สามารถขับตะกั่วออกทางปัสสาวะ ส่วนปรอท (Mercury) พบว่า ร่างกายขับออกด้วยวิธีออกกำลังกายทุกวันควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์

การออกกำลังกายเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยขับพิษผ่านทางผิวหนังและลมหายใจ ทั้งยังมีผลพลอยได้คือ ทำให้ร่างกายและหัวใจแข็งแรง

สมาคมโรคหัวใจ ประเทศสหรัฐอเมริกา (American Heart Association) แนะนำวิธีการออกกำลังกายที่ให้ผลดีต่อสุขภาพ 2 แนวทาง ดังนี้

1. ออกกำลังกายระดับปานกลาง (Moderate-intensity Aerobic Activity) เช่น เดินเร็ว เต้นแอโรบิก (Aerobic) อย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน

2. ออกกำลังกายระดับหนัก (Vigorous-intensity Aerobic Activity) เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ อย่างน้อย 25 นาทีสัปดาห์ละ 3 วัน

แนะนำให้เลือกออกกำลังกายแนวทางใดแนวทางหนึ่งร่วมกับออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เช่น ขาสะโพก หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

ขอบคุณ goodlifeupdate

ที่อยู่

Bangkok
10230

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ร้านพลอย ดอกไม้ไหว้ บูชาพระผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

Our Story

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก สูตรสกัดจากธรรมชาติ ปลอดภัย100%