19/01/2023
1)
คือมื้อกลางวันอะเป็นมื้อที่ทุกคนพร้อมจะสวาปามอะ
เพราะมื้อเช้ามันรีบมันไม่ได้กิน ถ้ากินก็ต้องกินน้อย
เพราะเดี๋ยวเข้างานไม่ทัน หาอะไรง่ายๆหน้าออฟฟิศ
สรุปจบที่หมูเจียงฮายมันๆ กับ กาแฟหวานแสบคอ
มื้อกลางวันจะกินอะไรค่อยไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน..
2)
คือก็ธรรมดาบ้านเมืองเราถนนในซอยหน้าออฟฟิศ
คือแบบอาหารล้านเจ็ดแปดอย่างอยากกินอะไรมีหมด
คือยิ่งแบบเงินเดือนออกมาใหม่ แทบจะกินทุกร้านที่ขาย
กินข้าวร้านเจ๊นั้น ออกมาซื้อน่ำร้านเจ๊นี้
ก่อนขึ้นตึกแวะซื้อผลไม้ลุง เหลือเห็นเจ๊ขายขนมเอาวะ
สรุปตอนบ่ายแม่งกองเต็มโต๊ะ ... แล้วมันจะลดยังไง ?..
3)
คือถ้าจะเอาแบบเลเวล 1 สำหรับมนุษย์ออฟฟิศ
สมมติถ้าจะกินขนมร้านนี้หลังกินข้าวเสร็จ
วันนี้ก็ไม่ต้องกินน้ำหวานหรือผลไม้แล้วเลือกเอา
ถ้าจะกินน้ำหวาน (ชาไข่มุก) ก็ไม่ต้องกินขนมหวาน
ถ้าจะกินผลไม้ถุงเบอเริ่ม ก็ไม่ต้องเอาขนมหวาน
ถ้าวันนี้ตอนเย็นแล้วยังไม่ได้กินขนมก็ไปลดมื้อเย็นนิดนึง..
4)
ถ้าจะกินขนมทุกวันทำยังไง มีทางเลือกสองทางคือ
กินขนมที่พลังงานน้อยไม่เว่อวังไปเช่น
ขนมห่อเล็ก ขนมไม่หวานจัด ขนมขนาดเล็ก
ขนมคลีน สุขภาพหน่อย ฯลฯ
หรือ ถ้าจะกินขนมแบบบัดซบไร้สาระ
วันนั้นก็ต้องออกกำลังกาย ถ้าไม่ออกก็อดกิน..
5)
กำหนดวันกินให้มันเด็ดขาดไปเช่น จะกินได้ก็ต่อเมื่อเป็นวันออกกำลังกาย
หรือกินขนมเฉพาะทุกวัน อังคาร , ศุกร์ วันอื่นไม่กินเป็นต้น
หรือจะกินแค่เสาร์ อาทิตย์ เป็นต้น
ถ้าจะกินมันทุกวันก็ต้องหาขนมที่ไม่อลังการเกินไป..
6)
เลือกประเภทขนมหน่อยพวกติดขนมถุง 20 บาท
ก็เลือกพวกที่มันเป็นประเภท อบ กรอบ ไม่ทอด
ก็พอลดได้หลายร้อยแคลลอรี่
ถ้าเป็นขนมหวานตามสตรีทฟู้ดก็กินได้
เลือกเอาที่พอจะไม่บัดซบเกินไปอันนี้ให้ตัดสินใจเอาเอง..
สรุป
ถ้าจะกินอะไรก็ต้องไปลดอย่างอื่น พลิกแพลงเอา
ไม่อยากลด อยากกินมันทุกอย่างก็ต้องออกกำลังกายแลก
ไม่ออก แต่อยากกิน ก็กำหนดวันกินให้ชัดเจน แล้วกินน้อยๆ
ไ่ม่เอาอะไรเลยไม่ยอมแลก แต่อยากกินก็รอดูน้ำหนักขึ้นได้เลย