07/09/2022
คุณแม่ : วันก่อนพาลูกอายุ 9 เดือนไปหาหมอ นน. 8.5 กก.หมอบอกว่าน้อยไป ให้เปลี่ยนนมแม่เป็นนมผงได้แล้ว นมแม่ไม่มีประโยชน์แล้ว ใสเป็นน้ำแล้ว แนะนำให้เอาบอระเพ็ดป้ายหัวนม
ป้าหมอ : (ตกใจมาก เศร้าใจมาก ที่ยังมีหมอแบบนี้ที่คอยบ่อนทำลายนมแม่ด้วยความคิดของตัวเองล้วนๆ ไม่มีวิชาการใดๆ แค่เสิร์ชกูเกิ้ลหาข้อมูลทางวิชาการประโยชน์ของนมแม่ก็ขึ้นมาให้เห็นแล้ว ก็เลยต้องเขียนโพสต์อธิบายประโยชน์ของนมแม่ ข้อเท็จจริงของนมแม่ และชี้แจงให้คุณแม่ได้เห็นว่า การเสียสละให้นมแม่กับลูกมา 9 เดือนหรือหลายปีนั้น นั้นมีผลงานเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนอย่างไรบ้าง ไม่ใช่ลัทธิ ไม่ใช่ความงมงาย ไม่ใช่ความสุดโต่ง เพื่อให้แม่มั่นใจในตัวเอง และสามารถเดินหน้าให้นมแม่ต่อไปได้อย่างไม่หวั่นไหว)
แต่เมื่อเขียนเสร็จ ก็ได้ผลตอบรับสองแบบ คือ กลุ่มคุณแม่ที่ให้นมแม่อยู่ต่างโล่งใจ สบายใจ ดีใจ ภูมิใจ ที่ลูกยังได้ทานนมแม่อยู่ หลายคนบอกว่า โชคดีที่ได้อ่านเจอโพสต์นี้ ทำให้ไม่ตัดสินใจเลิกให้นมแม่ เพราะโดนหมอเด็กบอกมาแบบนี้เหมือนกัน ..ผลตอบรับแบบนี้ คือ ผลตอบรับที่ป้าหมอต้องการ
แต่อีกกลุ่มหนึ่ง เขียนคอมเม้นท์สั้นๆว่า "แม่ให้นมผงอยู่ รู้สึกเศร้าเลย"
บ้างก็เขียนด้วยอารมณ์ "เขียนแบบนี้ แม่ให้นมผงไม่รู้สึกแย่จนอยากผูกคอตายไปเหรอ"
บ้างก็เขียนด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเอง "เข้าใจไหม แม่มีนมน้อย ทำทุกอย่างแล้ว ก็ไม่มี ต้องให้นมผง ลูกก็โตมาแข็งแรง ฉลาด มันขึ้นกับการเลี้ยงดูไหม ไม่เกี่ยวกับกินนมอะไร"
บ้างก็ใช้คำพูดสร้างความเกลียดชังป้ายสี เพื่อให้คนอ่านรู้สึกอารมณ์รุนแรง คล้อยตามเกลียดชังคนที่บอกว่า นมผงมีข้อเสียอะไรบ้าง "นมผงไม่ใช่ยาพิษ"
บ้างก็เขียนให้ความเห็นส่วนตัวที่ไม่มีหลักวิชาการที่ถูกต้อง แต่มโนเองคิดเอง เออเอง "ถ้าแม่กินอาหารไม่ครบ สารอาหารก็สู้นมผงไม่ได้ เพราะนมผงมีการเติมนั่นนี่เข้าไป"
เรื่องความเห็นส่วนตัว แต่ก็ยังกล้าเอามาพูด กระทั่งนักจัดรายการท่านหนึ่งที่ไม่เคยมีลูกยังเอามาพูดวิจารณ์นมแม่ออกสื่อที่มีคนติดตามจำนวนมาก "รู้ไหมทำไมรณรงค์นมแม่ ก็เพราะว่านมผงถ้าใช้น้ำไม่สะอาดชงก็จะท้องเสีย เค้ากลัวคนจนแห่กันมาเลี้ยงด้วยนมผงเลียนแบบคนชั้นสูงคนรวย แต่ไม่มีน้ำสะอาดชงก็ติดเชื้อเสียชีวิตกัน ก็เลยต้องบอกให้ให้นมแม่กันไป จะได้ไม่เสี่ยง คนรวยใช้น้ำสะอาดชงก็เลยมีสิทธิ์ใช้นมผงได้อย่างสบายใจปลอดภัย"
บ้างก็ใช้คำพูดสะเทือนใจ "แม่ทุกคนรักลูก การให้ลูกกินนมอะไร ไม่ได้วัดคุณค่าของความเป็นแม่"
เวลาเจอคอมเม้นท์แบบนี้ ป้าหมอก็ต้องกลับมาทบทวนตัวเองว่า เราเขียนอะไรผิดไปไหม เราบูลลี่แม่นมผงจริงๆหรือ ก็ได้คำตอบดังนี้
+เขียนแต่ข้อเท็จจริง เรื่องสารอาหารในนมแม่ ข้อเสียของการใช้นมผง ประโยชน์ของนมแม่ที่มีต่อลูก แม่ และโลกใบนี้ จากการค้นคว้าทางวิชาการงานวิจัยที่ศึกษาในเด็กเป็นหมื่นเป็นแสน และติดตามกันเป็นระยะสิบๆปี ไม่ใช่แค่คนสองคนหรือสามคนในลูกแต่ละครอบครัว ดังนั้นคนที่ออกมาพูดว่า ลูกชั้น 2 คนกินนมผงอยู่แข็งแรงดีไม่มีปัญหาอะไรเลย เอามาเป็นมาตรฐานไม่ได้ เพราะลูกยังเล็ก ยังไม่ได้เข้าโรงเรียน ยังโตไม่พอที่จะเอามาเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ ส่วนใหญ่พอเข้าโรงเรียนแล้วก็จะเห็นได้ชัดว่าที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร ไหนจะผลต่อสุขภาพระยะยาวจนโตเป็นผู้ใหญ่อีก ซึ่งยังไม่ได้แสดงออกตอนนี้ เช่น เบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง แต่งานวิจัยมีข้อมูลเหล่านี้ครบถ้วน
+อธิบายวิธีนำไปสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างละเอียด สำหรับแม่ฟูลไทม์ แม่ทำงานนอกบ้านแต่อยากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่ทำให้ให้นมแม่ไม่สำเร็จ พร้อมวิธีแก้ไขอย่างถูกต้อง มีหลายท่านที่เขียนว่า ทำมาทุกอย่างแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ เท่าที่ป้าหมอรับทราบข้อมูล มักเป็นหนทางที่ไม่ช่วยแต่เสียเงินมาก เช่น จ้างคนมานวดเปิดท่อ กินอาหารเสริมเพิ่มน้ำนม พยายามกินทุกอย่าง แต่สิ่งที่ยังไม่ได้ทำคือ เอาลูกเข้าเต้าบ่อยๆ เช็คท่าดูดว่าถูกต้องไหม มีพังผืดใต้ลิ้นไหม แต่มักใช้วิธีปั๊มออกมาใส่ขวดให้ดูด ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างน้ำนมได้น้อย
+สำหรับแม่นมผง แม่นมน้อย ป้าหมอก็ไม่เคยละเลยความรู้สึก ไม่เคยตำหนิว่ากล่าว ว่าเป็นแม่ที่ไม่อดทน ไม่เก่ง ไม่รักลูก มีแต่ความเห็นใจที่เป็นฝ่ายถูกกระทำจากโรงพยาบาลที่ไม่สนับสนัน ช่วยเหลือให้แม่ประสบความสำเร็จ และคอยให้ข้อมูลกับคุณแม่ว่า ถ้าจะกู้น้ำนมทำได้อย่างไร ถ้าลูกมีปัญหาป่วยบ่อย เกิดจากแพ้นมวัวไหม ให้สังเกตอาการและลองเปลี่ยนนม เพื่อให้ลูกกลับมาแข็งแรงสุขภาพดี
+ความรักลูกไม่ได้วัดด้วยการให้นมอะไร เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ความรู้ที่แท้จริง จะช่วยให้ลูกสุขภาพแข็งแรงมากกว่า อย่ารู้สึกโกรธแค้นคนที่ให้ข้อมูลเรื่องนมแม่นมผง ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่โรงพยาบาลทีมแพทย์พยาบาลที่ทำงานที่ไม่สนับสนุนช่วยเหลือให้คุณแม่สามารถให้นมแม่ได้ อย่าปิดหูปิดตาไม่ยอมรับข้อมูลที่แท้จริง เพียงเพราะว่า รู้สึกผิดที่ไม่ได้ให้นมลูก หลับหูหลับตาเชียร์นมผงด้วยข้อมูลผิดๆว่า "นมอะไรก็ดีเหมือนกัน" เพราะมันไม่เหมือนกันเลยค่ะ ส่วนคำพูดว่า "แม่ทุกคนก็ดีเหมือนกัน" อันนี้เป็นเรื่องจริงค่ะ อย่าโยงคุณค่าของแม่กับการเลือกใช้นมค่ะ
+แม่ทุกคนที่ให้นมผงอยู่ ก็ให้ต่อไปได้ค่ะ คุณไม่ได้ทำผิดอยู่ แต่ขอให้เลือกนมถูกสูตร กินแล้วลูกไม่แพ้ ไม่ป่วยบ่อย ไม่กรน ไม่ครืดคราด ไม่เลือดกำเดาไหล ไม่มีผื่นคัน เพียงเท่านี้คุณก็ไม่ต้องเครียดแล้วค่ะ