ผลิตภัณดูเเลกระดูกเเละข้อ D-Boon

ผลิตภัณดูเเลกระดูกเเละข้อ D-Boon #โรคกระดูกทับเส้นหายยาก ?
เรามีทางเเก้ให้คุณ บรรเทาเเละรักษาอาการกระดูกและข้อ ของคุณให้หายดี

หยุด!! ทรมาน ร้องโอดโอย จากการปวดเข่า ปวดเอว เข่าบวม รูมอตอยด์ ชามือ กระดูกทับเส้นประสาท  ร้าวลงแขน/ขา   เสียงดังก๊อปแก๊...
04/07/2018

หยุด!! ทรมาน ร้องโอดโอย จากการปวดเข่า ปวดเอว เข่าบวม รูมอตอยด์ ชามือ กระดูกทับเส้นประสาท ร้าวลงแขน/ขา เสียงดังก๊อปแก๊ป
#โทรปรึกษา 091-3919393
สัญญานเตือน...อาการกระดูกทับเส้นประสาท!! เช็คด่วน!!👌🏻
มี 6 อาการดั้งนี้!!
👉🏻1.อาการปวดคอ ร้าวลงเเขน😖
👉🏻2.อาการปวดหลัง ร้างลงขา😖
👉🏻3.อาการปวดเฉพาะที่😣
👉🏻4.อาการยืนนานก็ปวด นั้งนานก็ปวด😣
👉🏻5.ปวดเป็นๆ หายๆ😫
👉🏻6.อาการปวดเรื้อรัง รักษาไม่หาย😫
#กรณีรุนเเรง อาจกลั้นปัสวะหรือoุจาระได้😩
#อาการปวด ข้อ,กระดูก,เส้นเอ็นสามารถรักษาได้👍🏻
#โทรปรึกษาได้ที่เบอร์ 091-3919393
#ช่องทางติดต่อเรา Inbox มาที่เพจ หรือ
LINEติดต่อ https://line.me/R/ti/p/%40xpv8525p

ไมเกรน ถือเป็นปัญหาสุขภาพอย่างหนึ่งที่พบในผู้คนจำนวนมากทั่วโลก ในไทยพบว่ามีผู้ป่วยไมเกรน 17% และมีจำนวนผู้หญิงมากกว่าผู้...
21/04/2018

ไมเกรน ถือเป็นปัญหาสุขภาพอย่างหนึ่งที่พบในผู้คนจำนวนมากทั่วโลก ในไทยพบว่ามีผู้ป่วยไมเกรน 17% และมีจำนวนผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึงสามเท่า

ไมเกรนเป็นอาการปวดหัวอย่างรุนแรง ซึ่งมักเกิดขึ้นที่ด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ และอาจมีอาการอื่นๆ อีกหลายอย่างร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการที่ต่างกันไปในแต่ละคน โดยเริ่มจากอาการหนึ่ง ก่อนจะมีอาการต่างๆ ตามมา และนี่คือ 17 สัญญาณของอาการที่บอกว่าคุณกำลังเป็นไมเกรน

1. เห็นแสงที่ออกมาจากสิ่งต่างๆ
หนึ่งในอาการหลักของไมเกรนคือ ผู้ป่วยจะไวต่อสีและแสง ทำให้บางครั้งผู้ที่เป็นไมเกรนจะเริ่มเห็นแสงบางอย่างจากภาพ แสงกระพริบ ภาพต่างๆ เป็นจุดหรือเป็นเส้น โดยอาจจะเห็นแสงเปล่งออกมาจากสิ่งนั้นๆ เล็กน้อย ก่อนจะเห็นเพิ่มขึ้นเป็นเส้นโค้งยาวได้ อาการนี้มักเกิดขึ้นประมาณห้านาทีถึงหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะปวดหัวรุนแรง หรือในผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการปวดหัวเลยก็ได้

2. อาการซึมเศร้า หงุดหงิด หรือตื่นเต้น
การเปลี่ยนแปลงอารมณ์อาจเป็นสัญญาณของไมเกรน ผู้ป่วยบางรายจะรู้สึกหดหู่ หรือรู้สึกแย่โดยไม่มีเหตุผล ในขณะที่บางกลุ่มอาจจะรู้สึกตื่นเต้นหรือรู้สึกดีมากๆ ซึ่งจากการวิจัยพบว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจมีความเชื่อมโยงทางพันธุกรรมระหว่างภาวะซึมเศร้าและไมเกรน

นอกจากนี้ข้อมูลจาก American Academy of Neurology 2010 เปิดเผยให้เห็นว่าภาวะซึมเศร้าในระดับปานกลางหรือรุนแรง สามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคไมเกรนเรื้อรัง

3. การนอนไม่พอ
เมื่อตื่นนอนแล้วรู้สึกเหนื่อย หรือมีปัญหาอื่นๆ ในการนอน ถือเป็นปัญหาทั่วไปในผู้ที่มีอาการไมเกรน จากการศึกษาพบว่าการนอนหลับไม่เต็มอิ่ม และปัญหาการนอนอื่นๆ มีความสัมพันธ์กับไมเกรน และความรุนแรงของไมเกรน ทั้งการนอนไม่พอทำให้เกิดไมเกรน และการเกิดไมเกรนทำให้มีปัญหาในการนอนหลับ

4. คัดจมูกหรือน้ำตาไหล
ในผู้ป่วยบางรายที่เป็นไมเกรน อาจมีอาการไซนัสร่วมด้วย เช่น อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล หนักบริเวณเปลือกตา หรือน้ำตาไหล จากการศึกษาพบว่าในกลุ่มคนมีอาการปวดหัวไซนัสเกือบ 90% มีอาการไมเกรน

5. ความอยากอาหาร
ก่อนที่อาการไมเกรนจะเกิดขึ้น บางคนจะรู้สึกอยากกินอาหารมากเป็นพิเศษ ซึ่งโดยทั่วไปส่วนใหญ่จะเป็นการอยากกินช็อกโกแลต

6. อาการปวดหัวหนึ่งหรือสองข้างของศีรษะ
อาการปวดหัวอย่างรุนแรงเป็นสัญญาณทั่วไปของไมเกรน โดยจะมีอาการรู้สึกปวดตุ้บๆ ด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ

ในการสำรวจทางออนไลน์ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการไมเกรน มูลนิธิ National Headache Foundation พบว่าในผู้ป่วยไมเกรน 50% มีอาการปวดหัวด้านเดียวตลอดเวลา ขณะที่ผู้ป่วยอีก 34% กล่าวว่ามีอาการเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

7. ปวดตา
อาการปวดไมเกรนมักจะมีอาการปวดโพรงตาร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการที่ทำให้คนส่วนใหญ่หงุดหงิด และทำให้รู้สึกปวดล้าที่ตา สำหรับบางคนอาจจะปวดมากจนต้องไปตรวจตา แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้อาการปวดตาหรือปวดหัวดีขึ้นได้ เพราะต้นเหตุจริงๆ แล้วคือไมเกรน

8. ปวดคอ
ในผู้ป่วยหลายรายมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีอาการคอแข็ง แล้วจากนั้นก็ปวดหัว ซึ่งอาจเป็นอาการเริ่มต้นของไมเกรน หรือหลังจากเป็นไมเกรนแล้ว บางคนจะรู้สึกปวดตุ้บๆ ที่คอ ในการสำรวจทางออนไลน์โดยมูลนิธิ National Headache Foundation พบว่า 38% ของผู้ป่วยไมเกรนมีอาการปวดคออยู่ตลอดเวลา และ 31% มีอาการปวดคอบ่อยครั้งในช่วงที่มีอาการปวดหัวไมเกรน

9. ปัสสาวะบ่อย
ถ้าหากมีอาการปวดปัสสาวะมากกว่าปกติ อาจสันนิษฐานได้ว่าเป็นสัญญาณหนึ่งก่อนที่อาการไมเกรนต่างๆ จะตามมา ซึ่งเป็นหนึ่งของอาการทั่วไปในคนที่เป็นไมเกรน โดยจะมีอาการหนึ่งชั่วโมง หรืออย่างมากที่สุดสองวัน ก่อนที่จะเริ่มปวดหัว

10. หาวบ่อย
การหาวบ่อยๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณไมเกรน โดยจะแตกต่างจากการหาวเพราะเบื่อหรือง่วงโดยทั่วไป แต่จะหาวบ่อยๆ อาจจะทุกๆ 2-3 นาที จากการศึกษาในนิตยสาร Cephalalgia เมื่อปี 2006 ผู้ป่วยโรคไมเกรนประมาณ 36% ระบุว่าการหาวบ่อยๆ เป็นสัญญาณหนึ่งของอาการไมเกรนที่กำลังจะเกิดขึ้น

11. มีอาการชา
ในผู้ป่วยไมเกรนบางราย จะมีอาการชา ไม่รับรู้ประสาทสัมผัสชั่วคราว หรือรู้สึกเหมือนมีเข็มเล็กๆ มาจิ้ม โดยปกติจะเกิดที่ด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย อาจจะเริ่มจากปลายนิ้ว เคลื่อนไปทางแขน และเคลื่อนไปที่ใบหน้า

12. คลื่นไส้อาเจียน
จากผลสำรวจของ American Migraine Study พบว่าจาก 3,700 คนที่มีอาการปวดหัวไมเกรน 73% มีอาการคลื่นไส้ และ 29% มีอาการอาเจียน โดยผู้ที่มีอาการคลื่นไส้บ่อยครั้งร่วมด้วย จะมีอาการปวดหัวมากขึ้น

13. แสง เสียง หรือกลิ่น
กระตุ้นและทำให้อาการแย่ลง ในผู้ที่มีอาการไมเกรน ส่วนใหญ่จะชอบอยู่ในที่ที่มืด และเงียบสงบ เพราะแสงไฟ หรือเสียงดัง รวมถึงกลิ่นบางอย่างจะทำให้อาการไมเกรนแย่ลง เพราะผู้ป่วยไมเกรนจะไวต่อแสงและเสียง อาจทำให้ประสาทสัมผัสได้รับมากกว่าคนทั่วไป และกลิ่นบางกลิ่นยังสามารถกระตุ้นอาการไมเกรนได้ในคนที่ไม่เคยมีอาการมาก่อน

14. การทำกิจกรรมต่างๆ
แม้ว่าอาจจะดูเป็นกิจกรรมทั่วไป เช่นการเดิน หรือการวิ่ง ก็อาจทำให้อาการแย่ลงได้ ซึ่งไมเกรนบางชนิดก็เกิดจากการออกกำลังกาย ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะที่เกิดจากการออกกำลัง จะต้องมีการวินิจฉัยหาสาเหตุอย่างละเอียด เพราะอาจเกิดหลอดเลือดในสมองโป่งพอง หรือจากสาเหตุอื่นๆ ได้

15. รู้สึกอ่อนแรงด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย
บางคนอาจมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่ด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย ก่อนที่จะมีอาการไมเกรน นอกจากนี้ยังอาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดในสมอง ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์เพื่อความแน่ใจ

16. วิงเวียนศีรษะ หรือตาลาย
บางครั้งไมเกรนอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หรือสูญเสียการมองเห็น จากการศึกษาพบว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างความรุนแรงของไมเกรนและอาการวิงเวียนศีรษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีอาการหนัก จะรู้สึกวิงเวียนมาก

17. ปวดหัวค้าง
มักมีอาการเมื่อยล้า ไม่มีสมาธิ รู้สึกอ่อนแรง เวียนศีรษะ และรู้สึกสูญเสียพลังงานในช่วงเป็นไมเกรน ทำให้รู้สึกเหนื่อยและปวดหัวมาก

สมองดีมีขายสนใจติดต่อสอบถามได้ที่ 083 631 9933 ครับ
15/04/2018

สมองดีมีขายสนใจติดต่อสอบถามได้ที่ 083 631 9933 ครับ

สวัสดี​วัน​ปีใหม่​ไทย​ครับ​
14/04/2018

สวัสดี​วัน​ปีใหม่​ไทย​ครับ​

โรคอาหารเป็นพิษเกิดจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำ น้ำแข็ง ที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรค (แบคทีเรีย ไวรัส และพยาธิ) สารพิษ หรือสารเคม...
03/04/2018

โรคอาหารเป็นพิษเกิดจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำ น้ำแข็ง ที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรค (แบคทีเรีย ไวรัส และพยาธิ) สารพิษ หรือสารเคมี ซึ่งมักพบในอาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ อาหารไม่สะอาด และอาหารที่ปรุงไว้นานแล้ว ไม่ได้แช่เย็นหรือไม่นำมาอุ่นก่อนในส่วนน้ำแข็งที่ประชาชนรับประทาน อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ จากภาชนะเก็บที่ไม่ได้มาตรฐาน สกปรก หรือวิธีการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ

นอกจากนี้ 10 เมนูอาหารเสี่ยงในช่วงหน้าร้อนที่ประชาชนควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่
1.ลาบ/ก้อยดิบ
2.ยำกุ้งเต้น
3.ยำหอยแครง/ยำทะเล
4.ข้าวผัดโรยเนื้อปู
5.อาหารหรือขนมที่มีส่วนประกอบของกะทิสด
6.ขนมจีน
7.ข้าวมันไก่
8.ส้มตำ
9.สลัดผัก
10.น้ำแข็งที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน

กรมควบคุมโรค แนะนำประชาชนก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง ขอให้สำรวจอาหารก่อน หากมีกลิ่น รส หรือรูปเปลี่ยนไป ไม่ควรรับประทานต่อ อาหารที่ไม่เปลี่ยนแปลงควรอุ่นอาหารให้ร้อนก่อนรับประทาน

พร้อมยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” โดยปฏิบัติดังนี้ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ด้วยความร้อนและสะอาด ใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกัน รวมถึงล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ ทั้งก่อนและหลังปรุงประกอบอาหาร และหลังขับถ่าย

สำหรับอาการผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษ คือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระ ปวดหัว คอแห้ง กระหายน้ำ อาจมีไข้ เป็นต้น ในการช่วยเหลือเบื้องต้น ควรให้จิบสารละลายเกลือแร่ (โออาร์เอส) ผสมน้ำสะอาดบ่อยๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำและถ่ายเหลวมากกว่าปกติ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

โรคอาหารเป็นพิษโรคอาหารเป็นพิษเกิดจากการที่ลำไส้ ติดเชื้อจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าซัลโมเนลลา (Salmonella bacter...
03/04/2018

โรคอาหารเป็นพิษ

โรคอาหารเป็นพิษเกิดจากการที่ลำไส้ ติดเชื้อจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าซัลโมเนลลา (Salmonella bacteria) ซึ่งอาการของโรคเกิดขึ้น 12-48 ชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหารที่มีเชื้อแบคทีเรียโมเนลลาปนเปื้อนอยู๋เข้าไป อาการที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะคล้ายกับคนเป็นไข้คือ ปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และมีอาการท้องร่วงซึ่งอาการจะคงอยู่ประมาณ 2-3 วัน หรือมากกว่านั้น ผู้ป่วยจะมีอาการเพลียและหมดแรง

แม้ว่าโรคอาหารเป็นพิษจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงเท่าไหร่นัก แต่หากมีอาการหนักมากๆ ก็อาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ

คำแนะนำดังต่อไปนี้เป็นหลักปฏิบัติเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน

ขณะทำการปรุงอาหารควรคำนึงอยู่เสมอว่า สิ่งที่กำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ดีคือความร้อนและความสะอาด อุณหภูมิที่มากกว่า 68 องศาเซลเซียส สามารถทำลายเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลาลงได้ ส่วนความสะอาดก็สามารถหยุดการแพร่พันธุ์ของเชื้อแบคทีเรียลงได้ อุปกรณ์ เช่น มีด หรือจานชามที่ใช้เป็นภาชนะสำหรับใส่อาหารสดก่อนการประกอบอาหาร ควรเปลี่ยนเป็นอย่างละชุดกับมีด หรือจานชามที่เตรียมไว้ใส่อาหารที่ปรุงเสร็จแล้ว การล้างมือและอุปกรณ์ทำครัวทุกชนิดก่อนและหลังการทำอาหารเป็นสิ่งจำเป็น
ควรแยกประเภทอาหารในการเก็บใส่ช่องแช่แข็ง การน้ำเนื้อสัตว์วางปนกับอาหารอย่างอื่นเป็นสิ่งที่ไม่สมควรปฏิบัติ
เชื้อแบคที่เรียเจริญเติบดตอยู่ระหว่าง 7-46 องศาเซลเซียส ดังนั้นจึงไม่ควรเก็บอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ที่ปรุงเสร็จแล้วไว้ในที่ซึ่งมีอุณหภูมิดังกล่าวเกิน 2 ชั่วโมง
เชื้อแบคทีเรียโมเนลลามีอยู่ในสัตว์อย่างเช่น แมลง หนู รวมทั้งสัตว์เลี้ยงอย่าง เต่า นก แมว และสุนัขเช่นกัน การใกล้ชิดกับสัตว์ดังกล่าวก็อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียติดต่อมาสู๋เราได้ จึงไม่ควรให้ของใช้ของสัตว์เลี้ยงมาปนกับของใช้ในบ้านชนิดอื่นๆ ควรล้างมือทุกครั้งหลังจากดูแลสัตว์เลี้ยง และอย่าลืมสอนลูกให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน

" โ ร ค ส ลั ก เ พ ช ร จ ม " หรือ "โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท‬           จ ะ ฟื้ น ฟู อ ย่ า ง ไ ร ดี  ใคร?เป็นอยู...
02/04/2018

" โ ร ค ส ลั ก เ พ ช ร จ ม " หรือ "
โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท‬
จ ะ ฟื้ น ฟู อ ย่ า ง ไ ร ดี ใคร?เป็นอยู่รีบอ่านเลย

เกิดจากกล้ามเนื้อสะโพกมีการหนีบทับเส้นประสาท เกิดขึ้น กล้ามเนื้อที่พบบ่อยว่ากดทับหรือหนีบทับเส้นประสาท คือ กล้ามเนื้อ (Piriformis) ชึ่งโรคนี้ชื่อว่า (Piriformis Syndrome) ผู้ป่วยจะมีอาการปวดสะโพกร้าวลงขาเรื้อรัง และมีอาการปวดสะโพกบริเวณที่นั่งทับ อาจจะมีอาการเล็กน้อย จนถึงขั้นรุนแรง และเดินไม่ได้

อ า ก า ร

ปวดสะโพกร้าวลงขาจากกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท มักถูกวินิจฉัยว่าเป็น โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการนี้ อย่างไรก็ตามพบว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่ง ที่มีอาการปวดร้าวลงขานั้น ไม่ได้เกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาทเพียงอย่างเดียว ผู้ป่วยบางรายได้รับการทำ MRI เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท (Herniated disc) แต่พบว่ากระดูกสันหลังปกติทั้งหมด แต่ยังมีอาการปวดขาอย่างรุนแรงอยู่ ทำให้ไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

‎ส า เ ห ตุ ข อ ง โ ร ค‬

การนั่งทำงานหรือขับรถเป็นเวลานาน,นั่งบนเก้าอี้แข็งๆนานๆ,ตั้งครรภ์ นอกเหนือจากนี้ก็มาจากสาเหตุกล้ามเนื้อ Piriformis มีขนาดสั้น และมีความตึงตัวมากผิดปกติ หรือมีการอักเสบของกล้ามเนื้อ Piriformis

หากข้อมูลมีประโยชน์ช่วยกดไรท์กดแชร์ด้วยนะครับ

รับข้อมูลฟื้นฟูคลิกลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับ

https://fb.com/canvas_doc/150711522233269

หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร. 083-631-9933
หรือ.084-538-3643​

8.5 แสนคนที่ต้องเสียชีวิตเนื่องจากพยาธิทุกปี ซึ่งพยาธิเหล่านี้ถูกพบในปลา ผักและผลไม้ชนิดต่าง ๆ ที่ที่เราสามารถหาซื้อได้ต...
29/03/2018

8.5 แสนคนที่ต้องเสียชีวิตเนื่องจากพยาธิทุกปี ซึ่งพยาธิเหล่านี้ถูกพบในปลา ผักและผลไม้ชนิดต่าง ๆ ที่ที่เราสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดหรือตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป!
จากการตรวจสอบพบว่า 87% ของประชากรในเมืองใหญ่กำลังถูกพยาธิคุกคามอย่างหนัก!

มีอาหารอะไรบ้างในตู้เย็นที่เราจำเป็นต้องตรวจสอบ พบกับบทสัมภาษณ์ของหัวหน้าสถาบันปรสิตวิทยาแห่งชาติ!

จากบรรณาธิการ:
จากรายงานขององค์การอนามัยโลกพบว่า พยาธิที่แฝงตัวอยู่ในร่างกายของมนุษย์ มีความเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงหลายชนิด รวมไปถึงโรคไวรัสตับอักเสบ แผลในกระเพาะอาหาร และมะเร็งด้วย พยาธิเป็นสาเหตุที่ทำให้คนราว 15 ล้านคนต้องเสียชีวิตลงในแต่ละปี ถือว่าเป็นการแพร่กระจายและแฝงตัวอยู่เป็นจำนวนมหาศาล เนื่องจากในร่างกายของมนุษย์เกือบทุกคนมีพยาธิแฝงอยู่

นายแพทย์ธีระ อัครพานิชย์
อาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญและหัวหน้าสถาบันปรสิตวิทยา
ประสบการณ์ในสายงาน 46 ปี

วันนี้เราจะมีพูดคุยกันถึงปัญหานี้กับนายแพทย์ธีระ อัครพานิชย์ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถาบันปรสิตวิทยา

สวัสดีครับคุณหมอ สืบเนื่องจากรายงานขององค์การอนามัยโลก ถือว่าเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ไหมครับ เป็นความจริงหรือไม่ว่าการซื้อเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ต่าง ๆ จากห้างหรือซุปเปอร์มาเก็ตชื่อดัง ก็ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าอาหารเหล่านั้นจะปลอดจากพยาธิ 100%

โดยส่วนตัวของผมแล้ว ผมเชื่อถือข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกครับ และยิ่งไปกว่านั้น ผลที่ได้จากงานวิจัยที่เราจัดทำขึ้นก็สอดคล้อดคล้องกับข้อมูลนี้ ประมาณ 92% ของสาเหตุการเสียชีวิตมีสาเหตุมาจากพยาธิครับ ไม่ว่าจะเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต “ตามธรรมชาติ” ก็ตาม การเสียชีวิตจากธรรมชาติส่วนใหญ่แล้วเป็นผลมาร่างกายถูกพยาธิทำลายทั้งสิ้น

กรมอนามัยได้ตรวจสอบอาหารที่มีวางขายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในเขตเมือง พบว่า 95% ของอาหารทั้งหมดมีพยาธิเจือปนอยู่ ซึ่งหลายชนิดเป็นพยาธิที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์มาก
ให้เราลองมาดูในปลา ผักและผลไม้ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ถูกจัดเก็บและวางขายอยู่ตามซุปเปอร์มาเก็ตและตามตลาดสดกันดูบ้าง เรามักจะเห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สดสะอาด แต่เรารู้หรือไม่ว่า วัตถุดิบทุกประเภทจะถูกเก็บรวมไว้ด้วยกันก่อนการบรรจุลงบรรจุภัณฑ์ที่เราเห็นกันอยู่ หลายครั้งผู้ขายมักจะเอาอาหารสดที่ใกล้จะเสียแล้วไว้ด้านบนของอาหารสดที่สดกว่า

รู้เรื่องกลิ่นปาก โดย อาจารย์เนตรชนก  เจริญสุข1        สำหรับปัญหาการมีกลิ่นปากนั้นถือได้ว่าเป็นปัญหาที่หลายๆ ท่านมักจะพ...
28/03/2018

รู้เรื่องกลิ่นปาก
โดย อาจารย์เนตรชนก เจริญสุข

1 สำหรับปัญหาการมีกลิ่นปากนั้นถือได้ว่าเป็นปัญหาที่หลายๆ ท่านมักจะพบบ่อย และยังเป็นปัญหาที่ทำให้หลายหลายคนรู้สึกหงุดหงิด อารมณ์เสีย ไม่สบายใจ กังวลจนกระทั่งขาดความมั่นใจในตัวเองซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งของการมีบุคลิกภาพที่ไม่ดีในการเข้าสังคมได้ นอกจากนี้ แล้วปัญหากลิ่นปากยังสามารถเป็นได้ทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นปัญหาอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่น เนื่องจากเป็นวัยที่อยู่ในระยะกำลังสนใจเพศตรงข้าม มีความรักสวยรักงาม จึงมีความกังวลในเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษ ซึ่งคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (2555: ออนไลน์) ได้ให้ความหมายว่า กลิ่นปาก หมายถึง ภาวะที่มีกลิ่นไม่พึงปรารถนาจากช่องปาก แต่บางครั้งเราก็รวมเอาภาวะกลุ่มที่ลมหายใจมีกลิ่นด้วย ดังนั้น เราจะพบคำศัพท์หลายคำ เช่น oral malodor, halitosis,badbreath หรือ breath odor

รู้ได้อย่างไรว่ามีกลิ่นปาก

ปัญหากลิ่นปากนั้นเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาสำหรับทุกคน และในบางครั้งกลิ่นปากก็เกิดขึ้นโดยที่บุคคลนั้นไม่รู้ตัว ซึ่งถือได้ว่าเป็นความผิดพลาดอย่างยิ่งในการเข้าสังคม เพราะจะเป็นที่รังเกียจแก่คนรอบข้างอย่างแน่นอน ดังนั้น ถ้าเราสามารถรู้สภาพกลิ่นปากของตนเองก่อนเข้าสังคมได้ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ตนเองได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

เราสามารถทดสอบได้ว่ามีปัญหากลิ่นปากหรือไม่ด้วยวิธีง่าย ๆ โดยหายใจเข้าให้เต็มที่ และใช้มือป้องปากและจมูกเอาไว้แล้วให้หายใจออกจากทางปาก จากนั้นสูดลมหายใจเข้าทางจมูก ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันบ่อย สามารถทำได้ด้วยตัวเองและใช้เวลาน้อย อีกทั้งยังทำให้เรามั่นใจในผลการทดสอบสภาพกลิ่นปากของตนเองด้วย เนื่องจากถ้าคุณไปถามคนใกล้ชิดจะเป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่งที่คุณจะรู้ว่าจริงๆ แล้วคุณมีปัญหากลิ่นปากหรือไม่ เพราะคุณต้องมั่นใจว่าสามารถไว้ใจคนนั้นได้จริงๆ และสิ่งที่เขาบอกคุณเป็นเรื่องจริง ไม่เช่นนั้นอาจจะมีปัญหาตามมาได้อย่างแน่นอน

น้ำลายมีผลต่อการเกิดกลิ่นปากหรือไม่

น้ำลายถือว่าเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาภายในปาก ซึ่งมีหน้าที่หลายอย่างในกระบวนการย่อยอาหาร คือ ช่วยคลุกเคล้าอาหารที่รับประทานเข้าไปให้อ่อนนุ่มลงและทำให้อาหารเป็นก้อนเพื่อให้กลืนได้ง่ายขึ้น มีเอนไซม์อะไมเลสซึ่งสามารถย่อยแป้งให้กลายเป็นน้ำตาล และยังช่วยชะล้างสิ่งสกปรกภายในช่องปากด้วย ดังที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่กล่าวว่า “น้ำลายเปรียบเสมือนน้ำยาบ้วนปากธรรมชาติ” ถ้าหากน้ำลายนั้นมีการหลั่งออกมาน้อย เช่น เวลานอน การอดอาหาร การดื่มน้ำไม่เพียงพอ อากาศร้อน ตลอดจนภาวะทางจิตใจ ความเครียด เป็นต้น จะมีน้ำลายหมุนเวียนอยู่ในปากน้อย เศษอาหารที่ตกค้างสะสมอยู่จึงมีการบูด จนเกิดเป็นกลิ่นปากค่อนข้างแรงได้ และในขณะที่น้ำลายมีการหลั่งมากขึ้น เช่น ขณะเคี้ยวอาหาร รับประทานของเปรี้ยว การคิดถึงอาหารที่ชอบ หรือการได้กลิ่นหอมของอาหาร เป็นต้น จะทำให้ภายในปากก็จะมีการไหลเวียนของน้ำลายมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้กลิ่นปากนั้นบรรเทาลงได้ด้วย

อะไรเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก

ปัญหากลิ่นปากนั้น บางคนอาจจะมองว่าเป็นปัญหาที่ไม่มีสาเหตุหรือเป็นเรื่องที่ธรรมชาติสร้างขึ้นหรืออาจจะพูดได้ว่า ใครไม่มีกลิ่นปากย่อมหมายถึงไม่มีปาก แต่ความจริงแล้วทุกปัญหาที่เกิดขึ้นมาก็ย่อมมีสาเหตุทั้งนั้น ซึ่งสาเหตุของการเกิดกลิ่นปาก รศ.นพ.ปารยะ อาศนเสน (2554: ออนไลน์) ได้กล่าวไว้ว่า มี 2 สาเหตุ คือ

สาเหตุจากในช่องปาก ส่วนมากการมีกลิ่นปากมีสาเหตุมาจากในช่องปากเอง ได้แก่
การแปรงฟันไม่สะอาด ทำให้มีเศษอาหารตกค้างอยู่ตามรูของฟันผุ ตามซอกฟันที่ขนแปรงสีฟันแปรงไม่ถึง
มีแผลร้อนใน มีฟันผุ
โรคเหงือกอักเสบ
หินปูนรอบๆ ฟัน เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
คนที่ใส่ฟันปลอม ถ้าดูแลทำความสะอาดฟันปลอมไม่ดี มีคราบอาหารติดอยู่ มีการบูดของอาหารก็ทำให้เกิดมีกลิ่นปากได้
สาเหตุจากอย่างอื่น ได้แก่
มีการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น เป็นโพรงไซนัสอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ
โรคติดเชื้อของปอด เช่น วัณโรคปอด ฝีในปาก
โรคของระบบทางเดินอาหาร เช่น การมีกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อน
มีเนื้องอกในช่องปาก ช่องคอ หรือหลังโพรงจมูก
การรับประทานอาหารบางชนิดที่มีกลิ่นรุนแรง เช่น ทุเรียน หอม กระเทียม


ปัจจัยเสริมอะไรที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก

นอกจากปัญหาเกี่ยวกับภายในช่องปาก ระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหารแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดกลิ่นปากด้วย สิ่งนั้น คือ บุหรี่ เนื่องจากบางคนอาจจะมีความเชื่อที่ผิดว่า ปัญหากลิ่นปากนั้นสามารถแก้ได้โดยการสูบบุหรี่ เนื่องจากเมื่อสูบบุหรี่แล้วจะทำให้คนรอบข้างได้กลิ่นบุหรี่ ซึ่งทำให้ผู้มีปัญหากลิ่นปากนั้นมีความรู้สึกที่ดีกว่าการถูกมองว่ามีปัญหากลิ่นปาก แต่แท้จริงแล้วการสูบบุหรี่กลับจะยิ่งทำให้เกิดปัญหากลิ่นปากได้มากขึ้น เนื่องจากการการสูบบุหรี่นั้นเป็นปัจจัยเสริมของการเกิดโรคต่างๆ ภายในช่องปาก เช่น โรคปริทันต์ เหงือกอักเสบ การอักเสบและการเกิดแผลภายในช่องปาก เป็นต้น นอกจากนี้ กลิ่นของบุหรี่เองจะเกิดการตกค้างอยู่ในช่องปาก ซึ่งถ้าสูบบุหรี่มาก จะยิ่งมีกลิ่นตกค้างอยู่มาก ซึ่งกลิ่นนี้จะผสมกับกลิ่นอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในช่องปาก จนทำให้เกิดกลิ่นเหม็นที่เฉพาะขึ้นได้

มีกลิ่นปากจะเป็นอันตรายไหม

การมีกลิ่นปากเกิดขึ้นนั้นมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ถ้ามีสาเหตุจากการอักเสบภายในช่องปากและปล่อยทิ้งไว้ จะทำให้การอักเสบเหล่านี้ลุกลามจนเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อที่ยึดฟันได้ แต่ถ้ามีสาเหตุจากพฤติกรรมการดูแลสุขภาพปากและฟันไม่ถูกสุขลักษณะ จนทำให้มีเศษอาหารตกค้างอยู่ตามซอกฟันและภายในช่องปาก ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีทำให้เกิดฟันผุได้ และถ้าเราไม่สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ประสาทฟันและรากฟันจะถูกทำลายจนเกิดเป็นหนองที่ปลายรากฟัน ซึ่งเป็นช่องทางให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ แต่สำหรับปัญหากลิ่นปากหลังตื่นนอนนั้น สามารถกำจัดได้เพียงแค่แปรงฟันเท่านั้น ดังนั้น ปัญหากลิ่นปากเองไม่ได้มีอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด เพียงแต่จะเป็นที่รังเกียจของสังคมและคนรอบข้าง นอกจากนี้ ปัญหากลิ่นปากยังเป็นสัญญาณเตือนเพื่อบ่งบอกถึงโรคต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นตามมาอีกด้วย

น้ำยาบ้วนปากแก้ปัญหากลิ่นปากได้จริงหรือ

ในปัจจุบันนี้สิ่งที่คนส่วนใหญ่มักนึกถึงเมื่อต้องการแก้ปัญหากลิ่นปากโดยปราศจากการคำนึงถึงสาเหตุที่แท้จริง คือ น้ำยาบ้วนปากหรือน้ำยาระงับกลิ่นปาก ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบเพื่อให้สะดวกและตอบสนองต่อการใช้ของผู้ใช้ เช่น สเปรย์กลิ่นมินท์ ลูกอมกลิ่นเปปเปอร์มินท์ เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์การใช้ดังชื่อของผลิตภัณฑ์ คือ เพื่อระงับกลิ่นปาก แต่ในบางครั้งการใช้น้ำยาบ้วนปากหรือน้ำยาระงับกลิ่นปากนั้นเป็นเพียงแค่การใช้ตามกระแสนิยมและการชวนเชื่อของสื่อ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจของตนเองในการเข้าสังคมเท่านั้น ไม่ใช่ใช้เพื่อแก้ปัญหากลิ่นปากแต่อย่างใด และน้ำยาบ้วนปากหรือน้ำยาระงับกลิ่นปากนี้ก็เป็นแค่ตัวช่วยในการลดปัญหากลิ่นปากได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หากใช้ในระยะยาวจะส่งผลเสียทำให้เกิดคราบสีที่ฟันได้ และในบางครั้งกลิ่นของน้ำยาบ้วนปากอาจผสมกับกลิ่นปากทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้จากการแข่งขันในการค้าสูงทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีการแต่งสีแต่งกลิ่นแต่งรสเพื่อให้ถูกใจผู้ใช้ และถ้าผู้ใช้ใช้อย่างไม่ถูกต้องจะทำให้เกิดอันตรายภายในช่องปากได้ เช่น ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก เป็นต้น

จะป้องกันปัญหากลิ่นปากได้อย่างไร

การป้องกันการเกิดปัญหากลิ่นปากถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งมีวิธีปฏิบัติตนเพื่อดูแลตนเอง ดังนี้

ควรแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร และกรณีที่แปรงฟันไม่ทั่วถึงต้องใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย และขณะแปรงฟันควรใช้แปรงสีฟัน แปรงฝ้าขาวบนลิ้นเบาๆ จากโคนลิ้นออกมาทางด้านปลายลิ้น 2-3 ครั้ง
ควรรักษาความสะอาดภายในช่องปากและฟันอย่างสม่ำเสมอ
หากมีการอักเสบเกิดขึ้นภายในช่องปาก เช่น เหงือกอักเสบ กระพุ้งแก้มเป็นแผล มีแผลร้อนในในปาก และฟันผุ เป็นต้น ควรรีบรักษาให้หายอย่าปล่อยทิ้งไว้ และควรรีบไปพบแพทย์
กรณีที่ใส่ฟันปลอม ควรทำความสะอาดฟันทุกครั้ง หลังจากการรับประทานอาหารและควรถอดฟันปลอมที่ล้างสะอาดแล้วแช่น้ำในตอนกลางคืน
ไม่ควรใช้ยาบ้วนปาก หรือยาอมเป็นประจำ
ทำจิตใจให้สดชื่น ไม่ควรตกอยู่ในภาวะทางจิตใจที่มีความเครียด

ยินดีต้อนรับสู่ศูนย์สุขภาพ
27/03/2018

ยินดีต้อนรับสู่ศูนย์สุขภาพ

Se encontró en Google desde manager.co.th

หลายคนไม่ต้องการให้มีอาหารเช้าของพวกเขา เราไม่รู้สึกหิวตามปกติเมื่อเราตื่นขึ้นมาเพราะเราได้ใช้เวลาทั้งหมดนอนหลับ แต่คุณจ...
26/03/2018

หลายคนไม่ต้องการให้มีอาหารเช้าของพวกเขา เราไม่รู้สึกหิวตามปกติเมื่อเราตื่นขึ้นมาเพราะเราได้ใช้เวลาทั้งหมดนอนหลับ แต่คุณจะเริ่มรู้สึกหิวหลังจากไม่กี่ชั่วโมง เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ผู้คนมักจะกินมากและเพราะเวลาที่คุณจะใช้ "เช้า" ของคุณเพื่อให้ใกล้เคียงกับเวลาอาหารกลางวันของคุณ, อาหารจะเริ่มหมักหมมภายในคุณ

โปรดจำไว้ว่าคุณต้องกินอาหารเช้าของคุณเพื่อให้มีพลัง การรับประทานอาหารมื้อใหญ่ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ของเวลาจะมีก้อนเนื้อขึ้นแคลอรี่ทั้งหมด เนื่องจากอัตราการเผาผลาญของคุณยังคงเหมือนเดิมร่างกายของคุณจะเปิดแคลอรี่พิเศษเหล่านี้เป็นไขมัน!

ตกลงฉันรู้ว่านี้อาจฟังดูโง่เล็กน้อยสำหรับบางคน แต่ความจริงก็คืออาหารรสเผ็ดช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายของเรา อาหารที่มีรสเผ็ดเช่นแกงเครื่องเทศหรือซอสพริกก็จะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและเซลล์ของเราเพิ่มขึ้นความต้องการพลังงานและแคลอรี่

ถ้าคุณไม่ได้ใช้ในการมีอาหารรสเผ็ดคุณก็สามารถเริ่มต้นด้วยการจุ่มชิพของคุณเป็นซอสพริก หากคุณยังไม่สามารถใช้วิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพการสูญเสียไขมันอย่างรวดเร็วข้ามมัน มีอีกอย่างหนึ่งเคล็ดลับเพิ่มเติมขึ้นมาซึ่งคุณจะพบว่าการผลิตรายการแปลกใจในการส่งเสริมการเผาผลาญอาหารของร่างกายของเรา

คุณต้องออกกำลังกายให้ร่างกายของคุณเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงต่อวันสามวันต่อสัปดาห์เพื่อที่จะลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว การออกกำลังกายให้ร่างกายของคุณยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ เช่นการผ่าตัดที่เจ็บปวดและวางแผนการรับประทานอาหารที่ไม่น่ามอง ตั้งค่าวางแผนการออกกำลังกาย คุณสามารถหาคนที่จะออกกำลังกายกับคุณเพียงเพื่อกระตุ้นให้คุณ

ถ้าคุณกำลังพยายามที่จะเกิดขึ้นกับผมด้วยเหตุผลเช่นคุณไม่ได้มีเวลาที่คุณกำลังยุ่งเกินไปหรือคุณไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกการออกกำลังกาย, ตอบคำถามนี้ วิธีการที่ไม่ดีมันเป็นอย่างไรคุณต้องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วและมีความมั่นใจในตัวเอง? จะดำเนินการในวันนี้และผมมั่นใจว่าคุณจะเห็นผลในสัปดาห์หน้า

ที่อยู่

Min Buri
10510

เบอร์โทรศัพท์

092-8590779

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ผลิตภัณดูเเลกระดูกเเละข้อ D-Boonผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram