Healthy By Rose นวัตกรรมอาหารเสริมลิขสิทธิ์1เดียว

Healthy By Rose นวัตกรรมอาหารเสริมลิขสิทธิ์1เดียว จำหน่ายอาหาหารเสริมดูแลสุขภาพทั้ง 10 ระบบของร่างกาย rosesy_indy

สายตาดีด้วยดีคอนแทคมาบำรุงสายตากันเถอะ เพราะ 90%ของคนยุคปัจจุบันใช้สายตา อยู่กับหน้า
คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์ ทำให้มีปัญหา
✅สายตาฝ้าฟาง ✅ตามัว ✅มองไม่ชัด ✅เคืองคันแสบ ✅ต้อชนิดต่างๆ ✅กลางคืนมองไม่ชัด ✅ประสาทตาเสื่อม ✅ตาแห้ง ✅เยื่อบุตาอักเสบ ✅วุ้นในตาเสื่อม
✨มาบำรุงและป้องกันดวงตาด้วย✨ดีคอนแทค✨
✨สารสกัดที่สกัดจากดอกดาวเรื่องแมคซิโก
✨บิลเบอร์รี่✨ยีสต์สกัด✨เบต้า-แคโรทีน
✨วิตามิน บี2✨เจลาติน✨ที่จะช่วยยืดอายุดวงตาให้สวยใส เป็นประกาย

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังประสบปัญหา "เกี่ยวกับดวงตา" ... ดีคอนแทค dcontact ช่วยได้มาก ๆๆๆๆๆ
อยากแชร์ให้ทุกคนเริ่มก้าวแรกกันค่ะ อย่ามัวรอวันโน้น วันนี้ ... ดวงตาสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตนะค่ะ ที่สำคัญต้องทานของแท้นะค่ะ!!

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์บำรุงดวงตา “ดีคอนแทค”
สามารถป้องกันและแก้ปัญหาตามัว มองไม่ชัด วุ้นในตาเสื่อม จอประสาทตาเสื่อม สั้น ยาว เอียง
และต้อทุกประเภทของคุณได้อย่างชัดเจน เห็นผลเร็ว
รับประกันความพอใจ 100%
เลขทะเบียน อย. เลขที่ 24-1-20555-1-0060
ขนาดบรรจุ 1 กล่อง 30 แคปซูล

เน้นของแท้ ของคุณภาพ เห็นผลลัพธ์
บริการดุจญาติมิตรด้วยจิตและจรรยาบรรณ
โทร.099-5848236
ไลน์.

"ยับยั้งโรคร้ายอย่างมะเร็งด้วยทับทิมทับทิม ผลไม้สีแดงรสหวานชื่นใจ ที่นอกจากจะเป็นผลไม้แล้ว ยังช่วยยับยั้งการเกิดโรคภัยต่...
09/06/2017

"ยับยั้งโรคร้ายอย่างมะเร็งด้วยทับทิม

ทับทิม ผลไม้สีแดงรสหวานชื่นใจ ที่นอกจากจะเป็นผลไม้แล้ว ยังช่วยยับยั้งการเกิดโรคภัยต่างๆ ได้อีกด้วย อย่างส่วนเปลือกของทับทิมช่วยแก้โรคท้องเสีย โรคบิด และยังสามารถช่วยฆ่าแบคทีเรียหลายชนิดได้ และที่สำคัญยังช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม เป็นต้น ไม่ให้เซลล์มะเร็งนั้นเพิ่มจำนวนเซลล์ให้มากขึ้น

นอกจากนี้แล้วยังช่วยในเรื่องต่างๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่สรรพคุณเต็มเปี่ยม เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คนรักสุขภาพควรจะรับประทาน

ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสารเรื่องผู้หญิง ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต"

10 สุดยอดผักใยอาหารสูงช่วยให้ขับถ่ายคล่อง ป้องกันมะเร็ง และโรคร้าย
27/05/2017

10 สุดยอดผักใยอาหารสูง
ช่วยให้ขับถ่ายคล่อง ป้องกันมะเร็ง และโรคร้าย

11 ประโยชน์ของงาดำ คุณค่าล้นเมล็ด ซูเปอร์ฟู้ดเพื่อสุขภาพ ประโยชน์ของงาดำ ซูเปอร์ฟู้ดทรงคุณค่า มากด้วยสรรพคุณ ของดีบำรุงส...
20/05/2017

11 ประโยชน์ของงาดำ คุณค่าล้นเมล็ด ซูเปอร์ฟู้ดเพื่อสุขภาพ

ประโยชน์ของงาดำ ซูเปอร์ฟู้ดทรงคุณค่า มากด้วยสรรพคุณ ของดีบำรุงสุขภาพที่ควรหามาลิ้มลอง

งาดำ เมล็ดธัญพืชเล็ก ๆ ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร และสรรพคุณในการบำรุงสุขภาพ จึงทำให้งาดำขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฟู้ดที่คนรักสุขภาพไม่ควรพลาด แต่เคยทราบกันบ้างหรือไม่ว่าในเมล็ดเล็กจิ๋วของงาดำนี้มีสารอาหารอะไร และมีประโยชน์อย่างไรกับสุขภาพบ้าง ลองไปดูพร้อมกันเลยดีกว่า จะได้มั่นใจว่างาดำน่ะดีกับสุขภาพจริง ๆ

งาดำ ภาษาอังกฤษ คือ Black Sesame Seeds มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sesamum indicum Linn. เป็นพืชที่มีแหล่งกำเนิดในแถบประเทศเอธิโอเปีย ถูกนำเข้ามาในอินเดีย จีน แอฟริกาเหนือ และเอเชียใต้เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน งาดำเป็นงาชนิดเดียวกับงาขาว แต่แตกต่างกันที่สีของเมล็ดเท่านั้นเอง

ในประเทศไทยงาดำถูกนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านยารักษาโรค อาหาร และเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นขนม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ นำไปเติมลงในอาหาร หรือแม้แต่นำไปสกัดเป็นน้ำมันงาดำ เนื่องจากอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร โดยในงาดำปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 573 กิโลแคลอรี และมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้

- น้ำ 4.69 กรัม
- โปรตีน 17.73 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 23.45 กรัม
- ไฟเบอร์ 11.8 กรัม
- น้ำตาล 0.30 กรัม
- แคลเซียม 975 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 14.55 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 351 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 629 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 468 มิลลิกรัม
- โซเดียม 11 มิลลิกรัม
- สังกะสี 7.75 มิลลิกรัม
- ไทอะมีน 0.791 มิลลิกรัม
- ไรโบฟลาวิน 0.247 มิลลิกรัม
- ไนอะซิน 4.515 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 6 0.790 มิลลิกรัม
- โฟเลต 97 ไมโครกรัม
- วิตามินอี 0.25 มิลลิกรัม
- ไขมันอิ่มตัว 6.957 กรัม
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 18.759 กรัม
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 21.773 กรัม

ประโยชน์ของงาดำ สรรพคุณมากล้ำ รักษาโรคอะไรได้บ้าง

งาดำ ถือเป็นซูเปอร์ฟู้ดมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่ง จึงทำให้เราได้เห็นว่าในปัจจุบันมีการนำงาดำมาสกัดเป็นอาหารเสริมบำรุงสุขภาพมากมาย โดยประโยชน์ของงาดำมีดังนี้

1. บรรเทาอาการปวดข้ออักเสบรูมาตอยด์

สำหรับคนที่มีปัญหาข้อต่ออักเสบรูมาตอยด์ การรับประทานงาดำสามารถลดอาการปวดได้ เพราะธาตุทองแดงที่อยู่ในงาดำมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ทำให้อาการปวดลดลง นอกจากนี้ธาตุทองแดงยังมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนนั้นสำคัญต่อการเสริมสร้างเนื้อเยื่อ ข้อต่อ กระดูกอ่อน และหลอดเลือดให้แข็งแรง

2. บำรุงผิวพรรณและกระดูก

งาดำขึ้นชื่อว่าเป็นธัญพืชอีกชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมที่อยู่ในงาดำนั้นมีมากกว่านมถึง 6 เท่า นอกจากนี้ก็ยังมีสังกะสีที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เพิ่มมวลกระดูก จึงเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน ขณะที่วิตามินอีที่อยู่ในงาดำก็ยังมีส่วนสำคัญในการบำรุงผิวพรรณให้นุ่มชุ่มชื้น หากรับประทานเป็นประจำรับรองได้เลยว่ากระดูกแข็งแรง ผิวพรรณดี ห่างไกลจากริ้วรอยแห่งวัย ดูเด็กลงได้อีกหลายปีเลย

3. ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

สารเซซามีนและสานเซซาโมลีน เป็นไฟเบอร์ในกลุ่มลิกแนน (Lignans) ที่มีคุณสมบัติในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ซึ่งเจ้าสารชนิดนี้เป็นสารที่อุดมอยู่ในงาดำ นอกจากนี้ในงาดำก็ยังอุดมด้วยสารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) ที่มึโครงสร้างใกล้เคียงกับคอเลสเตอรอล แต่ไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพ ยิ่งรับประทานก็ยิ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย

4. บำรุงหัวใจ

เพราะงาดำสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ จึงทำให้สุขภาพหัวใจแข็งแรงขึ้น เพราะเมื่อร่างกายมีระดับคอเลสเตอรอลที่ลดลง ก็จะส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจสะอาดขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดก็ดีขึ้น ลดความเสี่ยงได้ทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคความดันโลหิตสูง

5. ป้องกันโรคมะเร็ง

สารต้านอนุมูลอิสระที่อัดแน่นเต็มเมล็ดงาดำ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้งาดำกลายเป็นอาหารต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็งลำไส้ เพราะไฟเบอร์ที่อยู่ในงาดำจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ก็ลดลง นอกจากนี้สารเซซามีนที่มีอยู่ในงาดำก็ยังช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระไปทำลายตับและเมื่อตับสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว ก็จะไม่มีสารพิษสะสมในร่างกายจนก่อให้เกิดโรคมะเร็งนั่นเอง แต่ทั้งนี้เอง หากรับประทานมากเกินไปก็อาจทำให้เสี่ยงกับโรคมะเร็งได้เหมือนกัน ฉะนั้นต้องรับประทานในปริมาณที่พอดีจะดีที่สุดค่ะ

6. ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย

แม้จะเป็นเพียงธัญพืชเมล็ดเล็ก ๆ แต่งาดำก็อุดมไปด้วยไฟเบอร์จำนวนมาก ซึ่งถ้ารับประทานบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น หมดปัญหาเรื่องท้องผูกไปได้เลยล่ะค่ะ ใครที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายลองหางาดำมารับประทานกันดูนะคะ

7. บรรเทากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS)

กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนถือเป็นปัญหาของคุณสาว ๆ หลายคน เพราะทำให้อารมณ์แปรปรวน หรือเกิดอาการปวดท้อง ปวดศีรษะ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว นอนไม่หลับ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต แต่ถ้าอยากจะลดอาการเหล่านี้แนะนำให้รับประทานงาดำค่ะ เพราะงาดำอุดมไปด้วยวิตามินบี แคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ที่ช่วยลดอาการ PMS ได้เป็นอย่างดี บอกลาอาการต่าง ๆ ก่อนมีประจำเดือนไปได้เลย

8. แก้ผมร่วง บำรุงเส้นผม

งาดำเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยไขมันที่ดี ไม่ว่าจะเป็นไขมันโอเมก้า 3,6 และ 9 ซึ่งล้วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม อีกทั้งช่วยบำรุงให้หนังศีรษะและเส้นผมชุ่มชื้นมีสุขภาพดี ยิ่งถ้าหากใช้น้ำมันงาดำมานวดศีรษะเป็นประจำด้วยละก็ จะยิ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณศีรษะทำให้เส้นผมได้รับแร่ธาตุและวิตามินมากขึ้น ไม่หลุดร่วงและยังดกดำเงางามขึ้นค่ะ

9. ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

แคลเซียมและแมกนีเซียมที่อยู่ในงาดำ มีส่วนสำคัญที่ช่วยบรรเทาความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ทริปโตเฟน (tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีในงาดำก็ยังเข้าไปช่วยเสริมสร้างทำงานของเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

10. บำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Ethnopharmacology พบว่า การรับประทานสารสกัดจากงาดำสามารถช่วยป้องกัน และชะลอกการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ โดยในการศึกษาได้ให้อาสาสมัครที่อยู่ในกลุ่มสูงวัยรับประทานสารสกัดจากงาดำแบบแคปซูลปริมาณ 500 มิลลิกรัม ทุกวันติดต่อกัน 9 สัปดาห์ พบว่าหลังจาก 9 สัปดาห์ผ่านไป อาสาสมัครเหล่านี้มีพัฒนาการในด้านความจำและการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ดีแบบนี้ต้องรีบหามาลองแล้ว

11. บำรุงสายตา

ในการแพทย์แผนจีนเชื่อว่าดวงตานั้นสัมพันธ์กับตับ ดังนั้นหากตับมีปัญหาก็จะทำให้ดวงตาอ่อนล้า ตาแห้ง และมองเห็นไม่ชัดได้ จึงทำให้มีการนำงาดำมาใช้ในแพทย์แผนจีนเพื่อบำรุงสายตาและตับไปพร้อม ๆ กัน เมื่อตับมีสุขภาพดี ดวงตาก็จะชุ่มชื้นและใสปิ๊ง หมดปัญหาสุขภาพตาไปได้เลย

ข้อควรระวังในการรับประทานงาดำ

แม้งาดำจะมีประโยชน์ในเรื่องการบำรุงสุขภาพแต่ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะการรับประทานงาดำอาจส่งผลข้างเคียงได้โดยเฉพาะผู้ที่มีการแพ้ถั่ว เพราะงาดำมีสารบางชนิดที่คล้ายกับถั่วลิสง ซึ่งถ้าหากรับประทานเข้าไปอาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้ และอันตรายถึงชีวิตได้ ฉะนั้นผู้ที่มีอาการแพ้ถั่วจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีงาดำดีที่สุด

ขณะที่ตำราอายุรเวท ยังระบุด้วยว่า สตรีมีครรภ์ในช่วง 3 เดือนแรก ก็ไม่ควรทานงาดำเช่นกัน เพราะงาดำมีฤทธิ์เป็นยาขับประจำเดือน อาจทำให้แท้งได้

กินงาดำอ้วนไหม ควรกินงาดำวันละเท่าไร ?

งาดำเป็นอาหารที่ดีกับสุขภาพก็จริง ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่างาดำเป็นธัญพืชที่มีแคลอรีสูง ซึ่งถ้าหากรับประทานมาก ๆ ก็อาจจะทำให้ได้รับไขมันและแคลอรีมากเกินไปจนเป็นสาเหตุทำให้อ้วน ดังนั้นถ้าจะรับประทานควรรับประทานแต่น้อย โดยปริมาณงาดำที่ควรรับประทานต่อวันคือ 10-15 กรัม หรือไม่เกินวันละ 1 ช้อนโต๊ะ

งาดำ กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ดีที่สุด ?

งาดำมีประโยชน์มากมาย และสามารถนำไปเติมในอาหารหรือเครื่องดื่มใด ๆ ก็ได้ แต่ถ้าอยากให้ร่างกายได้ประโยชน์จากงาดำสูงสุด แนะนำว่าเวลารับประทานควรเคี้ยวงาดำให้แตกก่อนแล้วค่อยกลืน หรือนำมาบดเป็นผงก่อนแล้วจึงนำมาโรยในอาหาร ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารจากงาดำมากขึ้น

วิธีซื้องาดำ ควรเลือกอย่างไร ?

งาดำเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารแห้ง ซึ่งควรเลือกซื้องาดำอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากงาดำอย่างเต็มที่ โดยควรเลือกซื้องาดำที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้มีเชื้อราหรือสิ่งสกปรกปะปนกับงาดำ อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการซื้องาดำแบบที่บดสำเร็จแล้ว เพราะอาจมีเชื้อราที่เป็นอันตรายปนเปื้อน เมื่อซื้อมาแล้วก็ควรจะเก็บไว้ในที่แห้งและสะอาดจะช่วยยืดอายุของงาดำได้นานขึ้นค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
livestrong
whfoods
urbol
foodallergyawareness
greenmedinfo.com

Cr:kapook

8 เหตุผลที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงปัจจุบันนี้พฤติกรรมการติดหวาน กลายเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของคนไทย เพราะมีคนจำนวนไม่น...
19/05/2017

8 เหตุผลที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง

ปัจจุบันนี้พฤติกรรมการติดหวาน กลายเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของคนไทย เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ติดการเติมน้ำตาลไปในอาหาร ติดน้ำอัดลม หรือน้ำหวานมาก ๆ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและกลายเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน

โดยโรคเบาหวานนั้น เป็นภาวะความผิดปกติของระดับน้ำตาลในเลือดที่เกิดจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือภาวะการดื้ออินซูลินของร่างกาย ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายไม่สามารถดูดซึมน้ำตาลในเลือดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้อ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำบ่อย หากระดับน้ำตาลสูงเป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้หลอดเลือดเสียหาย หรือเกิดภาวะเบาหวานขึ้นตาซึ่งส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาวได้

ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นนั้น ไม่ได้เกิดจากการรับประทานหวานเพียงอย่างเดียว แต่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาหาร สารเคมี พฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย และนี่คือ 8 สาเหตุที่ส่งผลกระทบให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งควรระวังเพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน

สารให้ความหวานแทนน้ำตาล

ในปัจจุบันคนมักเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล และเลือกใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลในการปรุง แต่จริง ๆ แล้ว การรับประทานสารให้ความหวานแทนน้ำตาลสามารถส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นกว่าเดิมได้ หากเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลชนิดให้พลังงาน ได้แก่ สารให้ความหวานกลุ่มฟรุกโทส เช่น มอลทิทอล ซอร์บิทอล ไซลิทอล เพราะสารเหล่านี้จัดเป็นคาร์โบไฮเดรต แม้ร่างกายจะดูดซึมไปใช้ได้น้อยกว่าน้ำตาล แต่ก็จะถูกดูดซึมไปอยู่ในรูปของกลูโคสอยู่ดี ซึ่งอาจมีผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นนั่นเอง ดังนั้นก่อนรับประทานควรดูให้มั่นใจก่อนว่าเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลชนิดใด

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุของระดับน้ำตาลในเลือดสูง เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ที่จะแปรสภาพเป็นน้ำตาล ยิ่งถ้าดื่มมาก น้ำตาลในเลือดก็จะยิ่งสูง ส่งผลเสียต่อผู้ป่วยเบาหวานโดยตรง และเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้ที่ไม่ได้ป่วยด้วยโรคเบาหวานอีกด้วย โดยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างไวน์แดง 1 แก้ว (148 มิลลิลิตร) มีน้ำตาล 1.2 กรัม ส่วนเบียร์ก็มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ 12.64 กรัมหากถูกย่อยสลายเป็นกลูโคสแล้วก็ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นได้มากเลยทีเดียว

อาหารที่มีไขมันสูง

ของทอด หรืออาหารมัน ๆ ทั้งหลายที่เป็นของโปรดของใครหลายคน ส่งผลเสียกับสุขภาพกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายต้องเสี่ยงกับภาวะไขมันในเส้นเลือดแล้ว ไขมันยังส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้ช้าอีกด้วย เพราะไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์จะเข้าไปชะลอกระบวนการดูดซึมกลูโคสเข้าในเซลล์ อาหารจำพวก เฟรนช์ฟราย หรือพิซซ่า ที่มีคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูง ทำให้เกิดปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดสูงแน่นอน

เครื่องดื่มเกลือแร่

เครื่องดื่มเกลือแร่เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่คนมักจะนึกถึงเวลารู้สึกเหนื่อย ๆ หรือเวลาที่ต้องเจออากาศร้อน เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีน้ำตาลสูง โดยเครื่องดื่มเกลือแร่เพียง 1 ขวด ในปริมาณ 250 มิลลิลิตร มีน้ำตาลอยู่ที่ 1.7 ช้อนชา หรือ ประมาณ 7 กรัม ซึ่งดื่มแล้วอาจทำให้รู้สึกสดชื่นก็จริง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นเงาตามตัว ไม่เพียงเท่านั้น เครื่องดื่มเหล่านี้ยังมีแคลอรี่สูงอีกด้วย ส่งผลเสียทั้งในเรื่องระดับน้ำตาลในเลือด และ หากดื่มบ่อย ๆ ก็ยิ่งทำให้น้ำหนักขึ้นแบบไม่รู้ตัว

ยาสเตียรอยด์

ยาสเตียรอยด์บางชนิดส่งผลกระทบโดยตรงต่อระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ที่ใช้ในการรักษาอาการผื่นคัน อาการข้ออักเสบ หรือโรคหอบหืด หากรับประทานต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นผิดปกติ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วย

รอบเดือนของผู้หญิง

ความเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายผู้หญิงช่วงก่อนมีประจำเดือน ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดอาการก่อนมีประจำเดือนอย่าง ท้องอืด ท้องเฟ้อ อารมณ์แปรปรวน เท่านั้น แต่ส่งผลให้ อินซูลินที่อยู่ในร่างกายมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง จนทำให้ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างที่ควรจะเป็น เนื่องจากความแปรปรวนของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงช่วงมีประจำเดือนจะทำให้เซลล์ในร่างกายตอบสนองต่อการทำงานของอินซูลินน้อยลงนั่นเอง

ความเครียด

สาเหตุที่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด นั่นก็คือความเครียด เพราะเมื่ออยู่ในภาวะเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา และฮอร์โมนดังกล่าวจะกระตุ้นร่างกายให้ปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบของน้ำตาล ยิ่งเครียดมากเท่าไหร่ ระดับน้ำตาลในเลือดก็ยิ่งสูงขึ้น

การนอนหลับไม่เพียงพอ

โทษของการพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นมีมากมาย รวมทั้งผลกระทบในเรื่องของระดับน้ำตาลในเลือดด้วย โดยมีการพบว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่หนึ่ง หากนอนหลับน้อยกว่าวันละ 4 ชั่วโมงจะส่งผลให้ความไวต่ออินซูลินลดลง 14-21% จนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น นอกจากนี้การพักผ่อนไม่เพียงพอยังส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้นจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตอีกด้วย

ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานเท่านั้น แต่สำหรับคนปกติทั่วไปก็ถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในระยะยาวด้วย ฉะนั้นหากไม่ต้องตกอยู่ในความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวาน ก็ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะดีที่สุด

Cr:pobpad

👼👼แจ้งข่าวดี  !!!👼👼สินค้า “ดีคอนเทค” แบบเม็ด สูตรเพิ่มพลัง ฟาร์อินฟาเรด จะเริ่มจำหน่ายหลังสงกรานต์นี้ 🙄🙄🙄         🥇   ฟา...
11/04/2017

👼👼แจ้งข่าวดี !!!👼👼

สินค้า “ดีคอนเทค” แบบเม็ด สูตรเพิ่มพลัง ฟาร์อินฟาเรด จะเริ่มจำหน่ายหลังสงกรานต์นี้ 🙄🙄🙄

🥇 ฟาร์ อินฟราเรด คือคลื่นพลังงาน ระดับไมครอน ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เพียงคลื่นแสงที่มองเห็นซึ่งมีชื่อต่อมาว่า อินฟราเรด ฟาร์ อินฟราเรด คือ รัสสีที่ทำให้สุขภาพดี ตอนสนองกับการสังเคราะห์แสงสามารถแทรกซึมเข้าไปในจำนวนมาก

🎖 ข้อดีของ ฟาร์ อินฟราเรด คือ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย เพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด เพิ่มการดูดซึมและเหนี่ยวนำสารอาหารที่ดีเข้าสู่กระบวนการของร่างกาย มากถึง 70%
ข้อดีของฟาร์ อินฟราเรดในอาหารเสิรม คือ นวัตกรรมนาโนไบโอเทค ช่วยในเรื่องการกักเก็บพลังงานจากน้ำสู่กระบวนการผลิตในแต่ละสารสกัดเพื่อเหนี่ยวนำพลังานนั้นเข้าสู่เซลล์ต่างๆในร่างกายเพื่อเร่งซ่อมแซมในแต่ละจุดของร่างกาย 😮😮😮

***บรรยากาศงานแถลงข่าวการปรับปรุงสูตร "ดีคอนแทค" ด้วยนวัตกรรมใหม่โดยใช้พลังงาน ฟาร์อินฟาเรด สิทธิบัตรจากประเทศเกาหลี ***

►สนใจสั่งซื้อ
📞Tel : 06-521-66614 คุณโรส
📱Line :
📮สั่งซื้อคลิ๊ก! https://line.me/R/ti/p/

ต้นหอม..ผักโรยหน้าที่มีดีถึงขั้นต้านมะเร็ง      ต้นหอมเป็นผักที่มีกลิ่นฉุน มักนิยมเอาไปเป็นผักเครื่องเคียงทานคู่กับข้าวห...
23/02/2017

ต้นหอม..ผักโรยหน้าที่มีดีถึงขั้นต้านมะเร็ง

ต้นหอมเป็นผักที่มีกลิ่นฉุน มักนิยมเอาไปเป็นผักเครื่องเคียงทานคู่กับข้าวหมูแดง ข้าวผัด หรือซอยเป็นผักโรยหน้าบนจานอาหาร หลายคนมองข้ามการรับประทานผักชนิดนี้ หากรู้ประโยชน์ของต้นหอม คุณอาจจะต้องเปลี่ยนใจ..

ต้นหอมมีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยต้านมะเร็ง ช่วยป้องกันไขมันไม่ให้เกาะตามผนังเส้นเลือด ช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเหลือหัวใจและโรคเส้นเลือดสมองอุดตัน ช่วยลดคอเลสเตอรอลและยังไปเพิ่มหรือช่วยสร้างคอเลสเตอรอลดี หรือ HDL ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตันได้ แถมยังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส เบต้า-แคโรทีน

สรรพคุณของต้นหอม - ขับเหงื่อ แก้อักเสบบวมแดง บำรุงไต บำรุงสายตา ขับพยาธิ เพิ่มอุณหภูมิร่างกาย บำรุงสมอง ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย

ยาลดความอ้วน..บางทีก็เราคิดไปเอง       สาวๆ หลายคนที่อยากลดน้ำหนัก บางคนก็อยากจะเห็นผลไว ไม่สนใจวิธีที่ถูกต้องคือการควบค...
09/02/2017

ยาลดความอ้วน..บางทีก็เราคิดไปเอง

สาวๆ หลายคนที่อยากลดน้ำหนัก บางคนก็อยากจะเห็นผลไว ไม่สนใจวิธีที่ถูกต้องคือการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย หันไปหายาลดความอ้วน ซึ่งก็อาจจะมีผลข้างเคียงที่อันตราย

ส่วนผสมในยาลดความอ้วนที่ก่อให้เกิดอันตราย สรรพคุณบางอย่างที่ผลิตภัณฑ์กล่าวอ้างอาจจะไม่ได้เช่นนั้น

ยาขับปัสสาวะ ... เป็นการสูญเสียน้ำในร่างกาย จนบางครั้งทำให้เราคิดไปเองว่าผอมลง น้ำหนักลดลง

อนุพันธ์ยาบ้า ... เข้าไปยับยั้งความอยากอาหาร อาจทำให้หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ ความดันสูง

ยาดักไขมัน ... มีฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ย่อยไขมัน ยับยั้งการดูดซึมไขมันได้บางส่วน

แอลคาร์นิทีน ... ยังไม่มีข้อสรุปได้ว่าช่วยในการเผาผลาญได้จริง!!

ไธรอยด์ฮอร์โมน ... ฮอร์โมนนี้ร่างกายเราผลิตได้เอง กินเสริมทั้งๆ ที่ร่างกายไม่ได้ขาด อาจส่งผลเสีย เกิดภาวะไฮเปอร์ไธรอยด์

ยาสตรี..คิดจะกิน..ต้องรู้จัก        การรับประทานยาสตรี สาวๆ อาจจะรับประทานจากสรรพคุณในการบำรุงโลหิต แก้ประจำเดือนมาไม่ปก...
09/02/2017

ยาสตรี..คิดจะกิน..ต้องรู้จัก

การรับประทานยาสตรี สาวๆ อาจจะรับประทานจากสรรพคุณในการบำรุงโลหิต แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือเพื่อให้ผิวพรรณดี รวมไปถึงช่วยขับน้ำคาวปลาในผู้หญิงหลังคลอดบุตรด้วย แต่ไม่ว่าจะรับประทานเพื่อจุดประสงค์อะไรควรรู้จักยาสตรีให้ดีก่อน จะได้รู้ว่าควรรับประทานอย่างไรดี รับประทานได้นานแค่ไหน ส่งผลอะไรต่อสุขภาพของเราบ้าง

1. ทางการแพทย์ปัจจุบันไม่ได้สนับสนุนให้รับประทาน แต่ก็ไม่ได้ห้าม
2. ยาสตรีช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมน เพราะตัวยามีสารโฟโตเอสโตรเจน คล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิง
3. ประจำเดือนเป็นเรื่องของสุขภาพ หากมาน้อยก็ไม่ได้จำเป็นต้องกินยาสตรีเพื่อขับออก
4. ยาสตรีส่วนใหญ่มีแอลกอฮอล์ การดื่มยาสตรีเป็นเวลานานก็เท่ากับการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลานาน อาจส่งผลเสีย
5. ไม่มีการวิจัยยาสตรี ว่าการรับประทานเป็นระยะเวลานานจะมีสารตกค้างกับร่างกายหรือไม่
6. การรับประทานยาสตรีเพื่อขับน้ำคาวปลาหลังคลอดบุตร ไม่แนะนำสำหรับคุณแม่ที่ให้นมแม่กับลูกน้อย เพราะลูกจะได้รับแอลกอฮอล์
7. สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยมีไข้ แพ้แอลกอฮอล์ ผู้ที่กินยาต้านการแข็งตัวของเลือด ห้ามกินยาสตรี

ลดความอ้วน..ด้วยการเลือกแป้งที่ดี      แป้งในการลดความอ้วนก็คือคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง หลายคนเลือกที่จะงดแป้ง งดคาร์โบ แต่จะ...
09/02/2017

ลดความอ้วน..ด้วยการเลือกแป้งที่ดี

แป้งในการลดความอ้วนก็คือคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง หลายคนเลือกที่จะงดแป้ง งดคาร์โบ แต่จะบอกว่ามันทำได้ไม่นานหรอก และระหว่างนั้นอาจเกิดอาการหงุดหงิด หมดแรงได้ด้วย เมื่อกลับมารับประทานอาหารปกติ ร่างกายจะโหย อาจจะกินมากกว่าเดิมนั่นเอง

ทางที่ดีเราไม่ควรงดแป้งทั้งหมด แต่ควรเลือกกินแป้งที่ดีและจำกัดปริมาณ

1. ทานข้าวแต่น้อย และเปลี่ยนจากข้าวขาวมาเป็นข้าวกล้อง

2. เปลี่ยนจากขนมปัง เค้ก มาเลือกเป็นขนมโฮลวีทแทน

3. จะลดน้ำหนัก ควรงดของว่างไปก่อน เลิกนิสัยกินจุบจิบ ถ้าหิวมากๆ ให้หยิบผลไม้ที่ไม่หวานแทนการหยิบขนม

4. ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำผลไม้ กาแฟเย็น ดื่มน้ำเปล่าก่อนมื้ออาหารทุกมื้อ

เพื่อให้การลดความอ้วนมีประสิทธิภาพและเห็นผลไวขึ้น ควรควบคุมปริมาณอาหาร ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย

น้ำตาลในชาเขียว..เกินค่าที่ร่างกายต้องการ       ""ใน 1 วัน ร่างกายของคนเราไม่ควรได้รับน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา""        แต่รู...
09/02/2017

น้ำตาลในชาเขียว..เกินค่าที่ร่างกายต้องการ

""ใน 1 วัน ร่างกายของคนเราไม่ควรได้รับน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา""

แต่รู้ไหม ว่าเครื่องดื่มที่เราโปรดปราน ไม่ว่าจะชาเขียว กาแฟเย็น บางแก้วบางขวด เราได้รับปริมาณน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาไปแล้ว

เพื่อสุขภาพที่ดีควรระวังในการเลือกเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง ทางที่ดีควรดื่มน้ำเปล่าจะดีที่สุด เพราะการได้รับน้ำตาลมากเกินไป ส่งผลเสียกับร่างกาย เสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกิน โรคอ้วน รวมไปถึงโรคเบาหวาน

นวดคอ...ไม่ระวัง เสี่ยงตาบอดได้นะ       หลายๆคน ชอบเข้าร้านนวดแผนโบราณ เพื่อนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกหายเมื่อย ผ...
09/02/2017

นวดคอ...ไม่ระวัง เสี่ยงตาบอดได้นะ

หลายๆคน ชอบเข้าร้านนวดแผนโบราณ เพื่อนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกหายเมื่อย ผ่อนคลาย แต่สำหรับคนที่มีความผิดปกติของเส้นเลือด การนวดบริเวณคออาจเสี่ยงทำให้ตาบอดได้

การนวดกดจุดบริเวณท้ายทอย จะเป็นการปิดการทำงานของเส้นเลือดคู่หลังไม่ให้ส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง ส่งผลให้สมองส่วนการรับจอภาพเกิดการมืดลง อาจจะมองไม่เห็นชั่วขณะ และเมื่อปล่อยจึงจะกลับมาสว่างอีกครั้ง ในการนวดลักษณะนี้หากเป็นคนที่ความผิดปกติของเส้นเลือดอยู่แล้ว หรือกดนานเกินไป อาจจะทำให้เกิดภาวะตาบอดชั่วคราวนาน 2-3 วัน หรือหากเป็นผู้ที่มีปัญหาเส้นเลือดตีบตันอาจจะทำให้เกิดภาวะตาบอดถาวรได้

การบริหารคอที่ดีคอจะต้องอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนที่ จะได้ไม่กระทบกับเส้นเลือดและเส้นประสาท

สูตรลับ! ทำน้ำนมข้าวโพด กินเองหรือทำขายอร่อยๆได้ที่บ้านวัตถุดิบและส่วนผสม1) ข้าวโพดหวานฝานเมล็ดบางๆ   5   ฝัก2) ใบเตยหอม...
08/02/2017

สูตรลับ! ทำน้ำนมข้าวโพด กินเองหรือทำขายอร่อยๆได้ที่บ้าน

วัตถุดิบและส่วนผสม

1) ข้าวโพดหวานฝานเมล็ดบางๆ 5 ฝัก

2) ใบเตยหอมใบใหญ่มัดเป็นปม 2-3 ใบ

3) น้ำ 10 ถ้วย

4) เกลือสมุทร ¼ ช้อนชา

วิธีทำน้ำนมข้าวโพด

1. ตั้งหม้อบนไฟขนาดกลาง จากนั้นใส่น้ำ ใบเตย และเมล็ดข้าวโพดที่ฝานลงไปต้มจนเดือด เมื่อต้มจนได้กลิ่นหอมของใบเตยแล้วจึงยกลงพักไว้ แล้วกรองเอาเมล็ดข้าวโพดออก

2. ใส่เมล็ดข้าวโพดที่กรองออกมากับน้ำต้มลงในโถปั่น ปั่นจนละเอียดเข้ากัน จากนั้นกรองเอาแต่น้ำ นำไปใส่หม้อเดิม แล้วตั้งบนไฟขนาดกลางอีกรอบ

3. ใส่เกลือ แล้วลดเป็นไฟขนาดอ่อน ขณะต้มคอยคนตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ก้นไหม้ ใส่น้ำตาลปรุงรสเพิ่มหากชอบหวาน ใช้เวลาต้มประมาณ 10-15 นาที ปิดไฟ แล้วยกลงพักไว้

3. รอให้อุ่นรินใส่แก้ว แล้วพร้อมเสิร์ฟค่ะ

สำหรับคุณประโยชน์ของน้ำนมข้าวโพด

1. ประกอบไปด้วยไขมันและโซเดียม ที่ต่ำ ทำให้ไปเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคไต และไม่ทำให้อ้วน

2. มีสารเบต้าแคโรทีนที่ช่วยบำรุงผิวและบำรุงสายตา และยังมีมีแคลเซียมช่วยกระตุ้นการเจริญของกระดูก ผม และฟันในเด็กวัยเรียน

ยังมี คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แมกนีเซียม โพแตสเซียม เมไธโอนีน วิตามิน เอ บี และอื่นๆ

3. ยังเป็นเครื่องดื่มเพิ่มพลังงานในคนฟื้นจากไข้ หรือผู้มีอาการอ่อนเพลีย

อ้างอิงข้อมูลจาก: หนังสือพิมพ์มติชน

◘ ◘ ◘ ◘

ที่อยู่

54/4-5 ถนนสุวินทวงศ์
Min Buri
10510

เบอร์โทรศัพท์

0995848236

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Healthy By Rose นวัตกรรมอาหารเสริมลิขสิทธิ์1เดียวผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Healthy By Rose นวัตกรรมอาหารเสริมลิขสิทธิ์1เดียว:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram