24/05/2024
ช้างที่ขาข้างหนึ่งของมันถูกล่ามโซ่ไว้กับเสาหลัก
อย่างไรก็ตาม เสาต้นนั้นเป็นเพียงหลักท่อนไม้ที่มนุษย์ผู้เลี้ยงปักไว้เ ตอกลงพื้นเพียงไม่กี่ฟุตถึง แม้โซ่จะใหญ่และทนทาน แต่ก็มั่นใจได้ว่า สัตว์ที่ล้มต้นไม้ได้ด้วยแรงของตนเอง ย่อมปลดตัวเองให้เป็นอิสระจากเสาหลัก และหนี จากหลักนั้นไปได้แน่ๆอยู่แล้ว แต่ทำไม เคยบ้างไหมที่จะฝึกและชวนชั่งสังเกตุและชั่งสงสัยและตั้งคำถามและพยามหาคำตอบพิสูจน์
คนกับสัตว์ถึงจุดหนึ่ง หลักจิตวิทยาถึงความลี้ลับดังกล่าวจนบัดนี้ อะไรกันแน่ที่เหนี่ยวรั้งมันไว้ ทำไมมันจึง ไม่หลุดไม่หนีไป
ความลี้ลับข้อนี้ ของช้าง บางคนส่วนมากบอกว่า ช้างไม่หนี เพราะมันถูกฝึก ให้เชื่อง ใช่ทั้งหมดไหม?
“ถ้ามันถูกฝึกให้เชื่องแล้ว ทำไมยังต้องล่ามโซ่มันอีก”ล่ะ ?
การที่เจ้าช้าง ที่เลี้ยงไว้ตั้งแต่เกิด มันไม่หนี
เพราะ มันถูกล่ามกับเสาคล้ายๆ กันจนหลงลืมตัว ในความเคยชิน ตั้งแต่ จำความแรกเกิด หรือเปล่า?
ช้างแรกเกิด ที่ไม่มีทางสู้ ไม่มีสันชาตญาณ ธรรมชาติที่ อยู่เองตามธรรมชาติมาก่อน
เกิด มาก็ ถูกผูกล่ามไว้กับเสาหลัก
แน่ใจว่าตอนนั้น ช้างตัวน้อย จะทั้งผลัก ทั้งดึง เพื่อดิ้นรนให้เป็นอิสระ
แม้มันจะพยายาม แค่ไหน ก็อาจไม่สำเร็จ ในตอนวัยเด็ก
เสาต้นนั้นในภาพการกระทำของมัน จดจำไว้แล้ว ว่า มันแข็งแกร่งเกินไปสำหรับมัน จนหมดแรงในช่วงวัยเด็ก และวันต่อมา มันก็ลองพยายามอีก วันแล้ววันเล่า กระทั่งวันหนึ่ง วันที่จิตใต้สำนึกของชีวิต เจ้าสัตว์ตัวนี้ก็ยอมรับความอ่อนแอของตน และปลงใจในช่วงวัยในความเป็นพลังช้างที่มีในตัวเองในตอนโตขึ้น แต่แค่ในช่วงวัยแค่เป็นช่วงวัยช้างเด็กนั้น กับตัดสิน ปิดกั้นตัวเองไปแล้ว
“ช้างตัวใหญ่ยักษ์มีแรงมหาศาลที่เราเห็น
ถูกล่ามไว้ ไม่หนี เพราะเจ้าสัตว์ น่าสงสาร นั้นคิดว่าหนีไม่ได้
แม้ว่าโซ่หรือสิ่งที่นำมาใช้ผูกล่าม เส้นนั้น จะกลายเป็นโซ่เส้นเล็กๆ ที่ใช้แรงเพียงเล็กน้อยก็ขาดแล้วก็ตาม”
“มันยังคง จดจำ ความอ่อนแอ ไร้กำลัง ที่รู้สึกช่วงหลังลืมตาดูโลกในช่วงวัยเด็กนั้น ได้ ฝังใจ สิ่งที่แย่ที่สุดให้กับมันไปแล้ว ก็คือ มันไม่เคยกลับไป ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความทรงจำนั้น อย่างจริงจังอีกเลย มันจึง ไม่เคยทดสอบกำลังของตนเองอีกไม่เคยเลย”
มนุษย์ คนเราก็คงไม่ต่างกัน กับช้างตัวนี้ ถ้าเรามัวแต่คิดว่า
สังคมที่เราอยู่เกิดมา ตั้งแต่ใน สมัยอดีตของช่วงพ่อแม่เลี้ยงดูมาบนสภาพมุมมองที่เขาหลงเสพติดเคยชินในสิ่งมารยาคติ ที่ภาครัฐฯบีบปรุงแต่ง หลอมหลอกใช้มาให้เชื่ออย่างไร ว่า
ห้ามคิด ห้ามเห็นต่าง ทางการเมืองไม่ได้ นะ เราก็จะถูกสังคมหล่อหลอมออกมาให้ไม่มีความสามารถมากพอที่จะมีสติ กล้า ยืนหยัด กล้าตั้งคำถาม เรียกร้องทำ ในสิ่งที่ถูกต้อง ในช่วงวันที่พอเติบโตทางความคิดความอ่าน ที่ยังพอมีเวลาอยู่ ของอิสระภาพที่ยังคงเหลืออยู่น้อยลงไปทุกๆปีแล้ว ที่ตลิดเวลาถูกปิดกั้นห้ามมุ่งสนใจมาตลอด ก็เหมือนกับเรา ถูกล่าม ไว้กับเสาความกลัว ที่ มันมองไม่เห็น ที่คอยกดความกล้า ในการแสดงออกสิทเสรีภาพ ของสังคมไว้ ทั้งๆ ที่มันอาจจะ ไม่มีเสาหลักปักอยู่จริงๆ หรือเสามันอาจ จะถูกฝั่งเคยใช้ เก่าผุพังไปแล้วเมื่อยุค 30-40-50ปีก่อนมาแล้ว
และตัวเราเองที่การเวลานำพาให้มีความโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ที่บ้างคน อาจแค่อายุ และร่างกาย แข็งแกร่งมากขึ้น
แต่สิ่งสำคัญ ทางความตื่นรู้ ทางความคิด อย่างแท้จริงทางความคิด ยังถูกกดปิดกั้น บังตาไว้
จนไม่สามารถ ที่จะดึงตัวเองออกจากเสา นี้เพื่อใช้ในการช่วยกันปกป้อง อธิปไตย เสรีภาพทางประชาธิปไตย ที่แท้จริง ยังไม่ได้
ถ้าเรา ยัง มองกันไม่ออก และ ไม่เปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่
แค่เพียงคิดว่า เราทำได้ แล้วก็ลองลงมือ ทำ พิสูจน์ก้าวข้ามความ กลัว และกล้า ทำสิ่งที่ถูกต้องให้กับ ประเทศชาติในช่วงรุ่นของตัวท่านเองกันดู ก่อนจะสาย
จงอย่ามัวลังเล ให้เสียเวลา และ แต่หลงใน สิ่งที่รัฐฯ เอาเสาเมื่อ 40-50ปีมาล่ามไว้กับเสาเลยนะครับ ^^
จะเฉยๆหรืออยู่เป็นสุขหรือไม่ แต่…ควรโฟกัสตัวเองในปัจจุบันระบบประเทศยังขนาดนี้ แล้ว อนาคตจะทิศทางไหน หากถูกเพิกเฉยกันแบบนี้
มุมมอง จะทำให้เราเกิดพลัง หรือหมดพลัง ขึ้นกับการเลือกของเรา
ว่าเพื่อส่วนรวม หรือ ส่วนพวกพ้องส่วนตน แค่นั้น
เส้นทางที่ว่างเปล่า โล่ง พวกเขา (กลุ่มที่กำลังจะนำกฎฯที่ปชช.รู้ไม่ทัน เข้ามายึดอิสระภาพมวลชน)
เราควรขับไล่ มันต้องขวางกั้นให้ตื่นรู้กันหน่อย
ตอนนี้เรา ควรหันมาโฟกัส ประเทศไทย
เราเป็นคนไทย กันอยู่ (หรือเปล่า?)
ในตอนที่มีโอกาส ช่วยได้ ควรช่วยประเทศหรือยัง?
ไม่ใช่หลับหูหลับตา นิ่งเฉย
เอาแต่ มอง และ วิงวรขอพร แต่ไม่ทำอะไรเลย มันยากที่จะ
เป็นไปในทาง อธิปไตยยังคงอยู่ได้ ไม่โลกสวยนะ
แต่การกระทำ ของ คนในชาติ เท่านั้น
หากไม่คัดค้าน ออกมาแสดงออกทำอะไร อธิปไตย สาธารณสุข ถูกขายให้ไปกับ องค์กรอนามัยโลกยึดไปอย่างแน่นอน
https://t.me/stopWHOTreatyinthai
คนไทย จริงๆ จะยอมนิ่งเฉย เพิกเฉย ปล่อยให้ประเทศ
เรายื่นอิสรภาพอธิปไตย ทางสาธารณสุข การแพทย์ ยาและวิธีการรักษาโรคด้วยพืชสมุนไพรถูกควบคุมจำกัดลง โดยคณะรัฐบาลมันกำลังจะ ยกใส่พาน มอบ ให้องค์การอนามัยโลก WHO
อันจะ ทำให้คนไทย จะกลายเป็น ลเมืองชั้น2 ภายใต้ระบบ ทาสเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง แก่นายทุนในประเทศตะวันตก อย่างนั้นหรือ?
Please !! ตื่นกันเสียที เถอะนะครับ
แพทย์แผนปัจจุบัน และแผนไทย เภสัชกร นักวิทยาศาสตร์ชีวภาพ นักวิชาการ จะยอมโดนซื้อ หรือ ทนนิ่งดูดาย ไม่สนใจ หรือ เสียสละเวลาศึกษาหาข้อมูล เพื่อทำความเข้าใจ กับภาระผูกพันธ์
ในเอกสาร2ฉบับข้างล่าง ถ่ายทอด บอกเล่า
เปิดหูเปิดตาให้ชาวไทย จริงๆถ้าคุณเป็นคนไทยนะ
เพื่อให้ผู้หวงแหน ตนเอง และในครอบครัว ญาติ เพื่อนพ้อง และพลเมืองทั่วไป ที่ยังคงรักชาติ รักอิสรภาพ แผ่นดินชาติไทยอยู่
ในการเลือกหนทางเลือก หนทางเยียวยารักษา ได้ตามที่ต้องการ ได้อย่างอิสระได้
จงลุกขึ้น ร่วมแรงต่อสู้ ป้องกันไทย กำลังจะถูกยก ให้ตกเป็น ทาสทางสาธารณสุข และ ทางเศรษฐกิจ ที่กำลังจะลงคะแนนกันตามกำหนดการปลายเดือนนี้ พค.67-มิย.67 นี้แล้ว
ไม่เพิกเฉย หลับหูหลับตา ส่งต่อ มรดก ที่ กำลังถูกลิทลอนอิสระภาพในการใช้ชีวิต ของคนปัจจุบันและต่อไป ไปให้รุ่นน้อง รุ่นลูก รุ่นหลาน และ ต่อๆไปด้วย
จากการนิ่งเฉย ไม่กระทำ อะไรที่นิ่งเฉย ของคนรุ่นปัจจุบัน ส่วนมาก และผู้พ่อผู้แม่ในปัจจุบัน อย่างงั้น มันสมควรแล้วอย่างงั้นหรอ?
ที่จะส่งไป หากร่างอนุสัญญานี้ เกิดขึ้น และถูกบังคับใช้ได้ สำเร็จ
ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
ผู้จุดประกายสิ่งสำคัญิยิ่งในเรื่องนี้ครับ
(ร่าง) ข้อตกลงว่าด้วยโรคระบาดองค์การอนามัยโลก
Revised Draft of World Health Organisation (WHO) Pandemic
Agreement
https://apps.who.int/gb/inb/pdf_files/inb9/A_inb9_3-en.pdf
การแก้ไขกฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ
Amendments to the International Health Regulations (IHR)
https://apps.who.int/gb/wgihr/pdf_files/wgihr1/WGIHR_Compilation-en.pdf
คลิปเข้าใจสนธิสัญญาใน8นาที👇
https://youtu.be/xW_wQQxA9OY
(ที่โดน ปิดกั้นนั้น เพราะ FB ต้องการปกปิดเซนเซอร์ไว้ ห้ามให้คนรู้)
#ผีเสื้อกระพือปีกสะเทือนไปทั้งจักรวาล
#หยุดสนธิสัญญาโรคระบาด
#หยุดเผด็จการการแพทย์
ลงนามหยุดสนธิสัญญา Pandemic Treaty และ IHR (International Health Regulations) ที่นี่ครับ https://www.rookon.com/?p=696