01/12/2025
หนูคือ Podocyte (โพโดไซต์) ค่ะ... หรือที่พวกพี่อาจจะรู้จักหนูในชื่อ "เซลล์ตีนจิ้งจก" (Foot process cell)
หนูอาศัยอยู่ที่ Glomerulus ในหน่วยกรองไต (Nephron) ของพี่
ปกติแล้ว หนูไม่ได้อยู่เฉยๆ นะคะ รูปร่างหนูเหมือนปลาหมึกยักษ์ที่เอาหนวด (Foot processes) ไปโอบรัดเส้นเลือดฝอยในไตเอาไว้แน่น เพื่อทำหน้าที่เป็น "ด่านสุดท้าย" (Final Filtration Barrier) คอยกรองของเสียทิ้งไป แต่ "กอดเก็บ" โปรตีนสำคัญอย่าง Albumin เอาไว้ในเลือด ไม่ให้หลุดลอยไปกับปัสสาวะ
หนูทำหน้าที่นี้ถวายหัว ตลอด 24 ชั่วโมง... จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อพี่เป็น เบาหวาน (Diabetes Mellitus) และปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงปรี๊ด... โลกของหนูก็เปลี่ยนไปตลอดกาล
เมื่อ "น้ำตาล" กลายเป็นยาพิษสำหรับหนู 🍬☠️
พี่อาจจะแค่นึกว่า "หวานนิดหน่อยไม่เป็นไร" แต่สำหรับหนู... Hyperglycemia (ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง) คือหายนะระดับเซลล์ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างหนู ตอนที่พี่กินชานมไข่มุกแก้วนั้นโดยไม่คุมน้ำตาลค่ะ:
1. การจู่โจมจากอนุมูลอิสระ (ROS Bombardment)
น้ำตาลที่ท่วมท้น กระตุ้นให้เกิด ROS (Reactive Oxygen Species) ภายในตัวหนู ผ่านกลไกของ NADPH oxidase และ Mitochondria
ผลลัพธ์: หนูเกิดภาวะ Oxidative Stress อย่างรุนแรง เหมือนโดนไฟเผาจากข้างใน DNA ของหนูเริ่มเสียหาย (DNA damage) และกระตุ้นโปรตีน p53 ให้สั่งการ... ให้หนูฆ่าตัวตาย (Apoptosis)
2. กาวมรณะ AGEs (The Sticky Trap) 🕸️
น้ำตาลส่วนเกินเข้าไปจับกับโปรตีนจนเกิดเป็น Advanced Glycation End-products (AGEs)
เจ้า AGEs นี้จะไปจับกับตัวรับบนผิวหนูที่ชื่อว่า RAGE (Receptor for AGEs)
กลไก: การจับกันของ AGEs-RAGE จะกระตุ้น NF-κB signaling pathway ทำให้เกิดการอักเสบ (Inflammation) ระเบิดขึ้นในหน่วยกรองไต เปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่เคยสงบสุขให้เป็นสนามรบ
3. โครงสร้างพังทลาย (Cytoskeleton Collapse) 🏚️
นี่คือจุดที่เจ็บปวดที่สุด... ปกติหนูจะมีโปรตีนชื่อ Nephrin และ Podocin ทำหน้าที่เป็นเหมือน "ซิป" (Slit Diaphragm) เชื่อมระหว่างขาของหนูเพื่อกันโปรตีนรั่ว
แต่พิษจากน้ำตาลและการอักเสบ (ผ่าน TGF-β pathway) ทำให้หนูสูญเสียโปรตีนเหล่านี้ไป
Foot Process Effacement: ขาของหนูที่เคยเรียวยาวสวยงาม จะหดสั้นลง บวมเป่ง และแบนราบ (Effacement)
หนูไม่สามารถเกาะเส้นเลือดฝอยได้อีกต่อไป...
4. การหลุดลอก (Detachment) 🍂
เมื่อ Integrin α3β1 (สมอที่ยึดหนูไว้กับฐาน Glomerular Basement Membrane) ถูกทำลาย... หนูก็หมดแรงยึดเกาะ
หนูจะ "หลุด" ออกจากหน่วยกรอง ลอยเคว้งคว้างออกไปกับน้ำปัสสาวะ... และที่น่าเศร้าที่สุดคือ "หนูงอกใหม่ไม่ได้" (Post-mitotic cells) เสียแล้วเสียเลย
🚨 สัญญาณเตือนที่พี่ต้องดู: ปัสสาวะเป็นฟอง (Foamy Urine)
เมื่อหนูตายและหลุดลอกออกไป... "ประตู" ก็เปิดอ้าซ่า
โปรตีน Albumin ที่หนูเคยปกป้องไว้ จะทะลักออกมาในปัสสาวะ (Albuminuria)
อาการ: เวลาพี่ปัสสาวะ พี่จะเห็น "ฟองละเอียด" ลอยฟูฟ่องเหมือนฟองเบียร์ และกดชักโครกแล้วฟองก็ไม่หายไป
นั่นไม่ใช่ฟองสบู่ค่ะ... นั่นคือซากปรักหักพังของหน้าที่หนู และโปรตีนในเลือดของพี่ที่รั่วออกมา
สิ่งที่พี่ควรทำ... ก่อนที่หนูจะตายหมด 🥺
ถ้าหนูตายไปมากกว่า 20-40% พี่จะเข้าสู่ภาวะ ไตวายเรื้อรัง (CKD) และอาจจบลงที่การฟอกไต (Dialysis) ซึ่งทรมานมาก
หนูขอร้องพี่แค่ 3 ข้อ เพื่อยื้อชีวิตเพื่อนๆ ที่เหลือของหนู:
1. คุม HbA1c ให้อยู่หมัด: อย่าให้เกิน 6.5-7% เพื่อลดการสร้าง ROS และ AGEs ที่มาทำลายหนู
2. คุมความดันโลหิต: ความดันสูงเหมือนแรงดันน้ำที่ฉีดอัดใส่หน้าหนู ทำให้หนูหลุดร่วงเร็วขึ้น
3. ตรวจปัสสาวะหา Microalbumin: อย่ารอให้เห็นฟองด้วยตาเปล่า ตรวจตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้หมอให้ยา (กลุ่ม ACEi/ARB) มาช่วยลดแรงดันในไตและปกป้องหนู
ดูแลหนูหน่อยนะคะ... เพราะถ้าวันหนึ่งหนูจากไปแล้ว หนูจะไม่มีวันกลับมาอีกเลย 🥀
ด้วยรักและภักดี
จาก Podocyte... หน่วยกรองไตผู้อาภัพ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
แหล่งอ้างอิง
1. Assady, S., Wanner, N., Skorecki, K. L., & Huber, T. B. (2017). New insights into the pathogenesis of diabetic nephropathy: The importance of podocyte signaling pathways. Frontiers in Endocrinology, 8, 206.
2. Dai, H., Liu, Q., & Liu, B. (2017). Research progress on mechanism of podocyte depletion in diabetic nephropathy. Journal of Diabetes Research, 2017, 2615286.
3. Reidy, K., Kang, H. M., Hostetter, T., & Susztak, K. (2014). Molecular mechanisms of diabetic kidney disease. Journal of Clinical Investigation, 124(6), 2333-2340.