สถาบันฟี้นฟูกระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ เส้นประสาท ครบองค์รวม โทร. 087-106-8723

  • Home
  • สถาบันฟี้นฟูกระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ เส้นประสาท ครบองค์รวม โทร. 087-106-8723

สถาบันฟี้นฟูกระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ เส้นประสาท ครบองค์รวม โทร. 087-106-8723 ฟื้นฟูรักษากระดูก ข้อเสื่อม เข่าเสื่อม กระดูกทับเส้น กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท

ฟื้นฟูโรคกระดุก ข้อเสื่อม กระดูกพรุน ปวดหลัง ปวดเข่า เก๊าต์ รูมาตอยด์ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทหายขาดได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

 #สินค้ามหัศจรรย์เก๊าท์ขั้นรุนแรง..... ก่อนและหลังทานทานดีกลูแคน เช้า 1 เย็น 1 ต่อเนื่อง 10 วันโกเรจินส์เช้า 1 ก่อนนอน 1...
03/05/2019

#สินค้ามหัศจรรย์

เก๊าท์ขั้นรุนแรง..... ก่อนและหลังทาน
ทานดีกลูแคน เช้า 1 เย็น 1 ต่อเนื่อง 10 วัน
โกเรจินส์เช้า 1 ก่อนนอน 1
หลังจากทาน ดีกลูแคนครบ 10 วัน ต่อด้วยดีบูนเม็ด วันละ 3 เม็ด หรือดีบูนผงวันละ1ซองก็ได้

จากคำบอกเล่าของลูกค้า เราดีใจที่ท่านดีขึ้น นั้นคือสิ่งที่เรา ดีเน็ทเวิร์คทุกคน หวังไว้เป็นอันดับแรก

#ปรึกษา /สอบถาม/สั่งซื้อ 094-876-0009,ไลน์ไอดี

 #วินิจฉัยผิดมีสิทธิเจ็บฟรี #ปวดชาร้าวลามลงขา...อย่าพึ่งคิดว่าเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้น มีอีกโรคที่น้อยคนจะรู้จัก!!โรคกล้...
30/04/2019

#วินิจฉัยผิดมีสิทธิเจ็บฟรี #
ปวดชาร้าวลามลงขา...อย่าพึ่งคิดว่าเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้น มีอีกโรคที่น้อยคนจะรู้จัก!!

โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (piriformis syndrome)

จากประสบการณ์คนไข้ที่มีอาการชาร้าวลงขามา พอตรวจร่างกายเสร็จสรรพจะรู้ทันทีว่าอาการชาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท แต่เกิดจากกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท เกือบร้อยละ 90 คนไข้ส่วนใหญ่ไม่รู้จักโรคนี้กันเลย เพราะในมุมมองของคนส่วนใหญ่เมื่อมีอาการชาร้าวลงขา หรือรู้สึกขาหนักๆยกขาไม่ขึ้น จะคิดแต่ว่าเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทแน่นอน
**ความแตกต่างของโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท กับ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (piriformis syndrome)

- เกิดอาการปวดลึกๆที่แก้มก้น หรือก้นย้อยเท่านั้น มักจะคลำหาจุดกดเจ็บได้ยาก รู้สึกแค่ว่าปวดที่ก้นลึกๆ
- เมื่อปวดมากขึ้นอาจมีอาการปวดก้น และร้าวลงต้นขาด้านหลัง หน้าแข้ง บางรายอาจมีอาการปวดที่ข้อเท้าร่วมด้วย
- อาการปวดเพิ่มมากขึ้น เมื่อนั่งนานๆ โดยเฉพาะคนที่มีอาชีพขับรถ
- อาการปวดจะทุเลาลงเมื่อลุกขึ้นยืน เดิน (แต่ในบางรายที่ปวดเรื้อรังอาจจะปวดตลอดเวลาไม่ว่าจะนั่งหรือยืน)
- บางรายมีอาการชาที่ขาร่วมด้วย และจะชามากขึ้นเมื่อนั่งเป็นเวลานาน จนทนไม่ไหวต้องลุกขึ้นมายืนก็มี
- พบจุดกดเจ็บที่ก้น และเมื่อใช้นิ้วกดลงไปที่จุดกดเจ็บนั้น จะรู้สึกปวดร้าวชาร้าวลงไปของขาข้างนั้นๆ

โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

- มีอาการชาร้าวลงขา (อาการคล้ายกับ piriformis syndrome นะครับ)
- พบจุดกดเจ็บกระดูกสันหลังของข้อที่หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน และในรายที่เป็นมากจะมีอาการปวดแปล๊บทั่วไปทั้งแผ่นหลัง แม้เพียงแตะเล็กน้อยก็จะเจ็บมากจนต้องร้องโอดโอย (ในโรค piriformis syndrome จะปวดลึกๆที่ก้นเท่านั้น ไม่มีอาการปวดหลังใดๆ)
- ไอ จามจะกระตุ้นให้ปวดมากขึ้น (โรค piriformis syndrome ต่อให้ไอทั้งวันก็ไม่ทำให้อาการปวดเพิ่มขึ้น)
- เมื่อนั่งจะรู้สึกสบาย อาการปวดแปล๊บและชาลดลง แต่เมื่อยืนเดินอาการปวดแปล๊บและชาจะเพิ่มมากขึ้น ในผู้ป่วยบางรายเดินเพียง 5 นาทีก็ต้องนั่งแล้วเพราะทนอาการชาไม่ไหว (ผู้ที่เป็นโรค piriformis syndrome อาการปวดจะค่อยๆเพิ่มขึ้นเมื่อนั่งนาน และรู้สึกปวดลึกๆหน่วงๆไม่ใช่อาการปวดแปล๊บเหมือนไฟช็อต)
- กล้ามเนื้อหลังตึงเกร็งจนสังเกตุเห็นได้ว่าผู้ป่วยจะเดินหลังแข็งเหมือนหุ่นยนต์ก็ไม่ปาน (ในโรค piriformis syndrome ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจะเดินขากระเพกเหมือนคนขาเจ็บ แต่ในรายที่ปวดไม่มากนั้นเดินเหมือนคนปกติทั่วไป)
- ในรายที่ไม่ได้เข้ารับการรักษา จะพบว่ากล้ามเนื้อขาข้างที่ชานั้นมีการฝ่อลีบเมื่อเทียบกับข้างปกติ (การฝ่อลีบของกล้ามเนื้อก็เกิดขึ้นได้เช่นกันในผู้ป่วย piriformis syndrome)
- เมื่อแอ่นหลังผู้ป่วยจะปวดและชามากขึ้น แต่เมื่อก้มหลังอาการจะทะเลาลง (จะแอ่นจนหลังหัก หรือก้มหลังจนมองลอดหว่างขาก็ไม่สามาารถกระตุ้นให้เกิดอาการปวดมากขึ้นได้ในโรค piriformis syndrome)

หลักการสังเกตุของทั้ง 2 โรคอย่างง่ายๆเบื้องต้นโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือตรวจให้ยุ่งยากเรารู้วิธีการแยกโรคกันแล้ว ทีนี้เรามากรู้จักกับ "โรคกล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาท" กัน

กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (piriformis syndrome) ชื่อของโรคนี้ก็บอกชัดเจนแล้วว่า เกิดจากกล้ามเนื้อมัดเล็กๆมัดหนึ่งในก้นที่ชื่อ piriformis muscle ซึ่งทำหน้าที่ช่วยกางขาและหมุนขาออก และเป็นกล้ามเนื้อมัดลึกสุด ฉะนั้น ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเรากดไม่เจอ มันเกิดการตึงตัวจากการใช้งานจนไปหนีบเส้นประสาทที่อยู่ใต้กล้ามเนื้อมัดนี้ซึ่งเป็นเส้นประสาทแขนงใหญ่ที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณประสาทไปเลี้ยงกล้ามเนื้อขาทั้งขา แล้วเส้นประสาทที่ว่านั้นก็คือ sciatic nerve (ถ้าเส้นประสาทนี้ขาดก็เตรียมตัวเป็นอัมพาตช่วงล่างได้เลย) เมื่อกล้ามเนื้อไปหนีบเส้นประสาทแขนงใหญ่นี้เข้า จึงเกิดอาการชาขึ้น ในช่วงแรกที่กล้ามเนื้อมันตึงตัวมากๆแต่ยังไม่หนีบเส้นประสาทเราจะรู้สึกปวดลึกๆปวดหน่วงๆที่ก้นจนบางครั้งเราต้องใช้นิ้วกดจิกตรงที่ปวดอาการทุเลาลงบ้างแต่พอนั่งไปอีกสักระยะอาการก็กลับเป็นขึ้นมาใหม่

ถ้าเรามีอาการของโรค piriformis syndrome แล้วไปตรวจ x-ray หรือmri ทั้งที่หลังและที่แก้มก้น จะไม่พบเห็นความผิดปกติแต่อย่างใด เพราะการ x-ray /mri นั้นจะเห็นแต่กระดูก แต่โรคนี้มันเป็นที่กล้ามเนื้อ ดังนั้นจึงไม่สามารถตรวจวิเคราะห์โรคนี้ด้วยวิธีการดังกล่าวได้เลย
แต่ด้วยความปวดหมอจำต้องผ่าตัดแต่อาการปวดก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมเพราะมันคนละสาเหตุนั่นเอง กรณีนี้จึงเป็นการ"วินิจฉัยผิดจึงได้สิทธิเจ็บตัวฟรี" แถมยังเสี่ยงพิการอีกต่างหาก

#ขอบคุณที่เลือกใช้ศูนย์กระดูก ข้อ ดีบูนสำนักงานใหญ่ ให้เป็นแพทย์ทางเลือกในการดูแลรักษาคุณ!!
**ที่นี่เรารักษาที่ต้นเหตุของอาการโดยวิธีธรรมชาติบำบัดจากตัวยาสกัดจากธรรมชาติล้วนๆ100% นวัตกรรมล้ำยุคจากประเทศสวิสฯช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมมวลกระดูก กล้ามเนื้อ และระบบเส้นประสาทที่เสียหายให้กลับคืนสู่สภาพเดิม "เห็นผลไว ได้ผลจริง ไม่เน้นการผ่า ไม่เสียเวลา ไม่มีสารสเตียรอยด์ ไม่มีผลข้างเคียง หรือสารตกค้าง หายแล้วหายขาดไม่กลับมาเป็นอีกแน่นอน"
**ปรึกษาปัญหาฟรี 087-106-8723,ไลน์ไอดี :
☺ หรือคลิกลิงค์นี้แอดไลน์เลย ค่ะ >>>
Line@ : https://line.me/R/ti/p/%40yxw6053w
**กดแชร์ได้ค่ะเป็นวิทยาทาน**

ปวด "แผ่นหลัง" สะเทือนถึง "ดวงตา"  #โรคของคนยุคใหม่ ปวด "คอ บ่า ไหล่" อันตรายกว่าที่คิด⁉️  #แชร์ให้คนที่รักอาการเกิดได้ ...
06/11/2018

ปวด "แผ่นหลัง" สะเทือนถึง "ดวงตา"
#โรคของคนยุคใหม่ ปวด "คอ บ่า ไหล่"
อันตรายกว่าที่คิด⁉️ #แชร์ให้คนที่รัก
อาการเกิดได้ 3 ที่ หลักๆ👇👇👇
1. 😭เกิดจากกระดูก และข้อ: เวลาขยับจะมีเสียงกรอบแกรบ มีอาการเสียวแปลบๆ ซึ่งจะมีลักษณะคือ คอยื่นไปข้างหน้า หลังค่อม หลังทรุด กระดูกสันหลังคด กระดูกสันหลังแง่นงอ
2. 😭เกิดจากเส้นประสาท: อาการคือกล้ามเนื้อไม่ค่อยมีแรง ชา กล้ามเนื้อกระตุก
3. 😭เกิดจากกล้ามเนื้อ: จะมีอาการปวดเมื่อย อ่อนล้า เพลีย เส้นตึง เส้นยึด ปวดขึ้นไปที่ขมับ กล้ามเนื้ออักเสบ เกิดพังผืดสะสมที่กล้ามเนื้อ ปวดกล้ามเนื้อต้นคอ ปวดขึ้นที่กระบอกตา
😱เรามีอาการเหล่านี้หรือไม่?
😱ปล่อยไว้นานอาจเป็นปัญหาใหญ่ ทรมานชีวิตเราตลอดไป....
#ทางเรายินดีให้คำแนะนำ
#นวัตกรรมใหม่ สารสกัดจากธรรมชาติ100% ไม่มีสารสเตียรอยด์ ไม่ต้องทนปวดอีกต่อไป....
#มีปัญหาปรึกษาได้ค่ะ 094-876-0009 ไลน์ไอดี:
หรือกดลิงค์ด้านล่างแอดไลน์เพิ่มเพื่อนในไลน์ทักมาน่ะค่ะ>>>

https://line.me/R/ti/p/%40yxw6053w

 #ปวดต้นคอ!!!...อย่ารอช้าควรรีบรักษาโดยเร็ว!!!- รู้สึกปวดมากขึ้นเมื่อต้องหันคอไปด้านใดด้านหนึ่งเป็นเวลานาน เช่น ขับรถหรื...
02/10/2018

#ปวดต้นคอ!!!...อย่ารอช้าควรรีบรักษาโดยเร็ว!!!

- รู้สึกปวดมากขึ้นเมื่อต้องหันคอไปด้านใดด้านหนึ่งเป็นเวลานาน เช่น ขับรถหรือนั่งทำงานท่าเดิมนาน ๆ
กล้ามเนื้อตึงหรือกระตุก
หันศีรษะหรือคอไม่ค่อยได้
นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจเกิดอาการอื่นร่วมด้วย ได้แก่

- ชา
- เสียวแปลบ
- กลืนอาหารลำบาก
- ได้ยินเสียงคล้ายหวดไม้อยู่ในหัว
- ปวดศีรษะและวิงเวียนศีรษะ
- ต่อมน้ำเหลืองบวม
บางรายอาจมีอาการปวดหัว เจ็บใบหน้า ปวดไหล่ แขนชาและรู้เสียวแปลบ ซึ่งอาการเหล่านี้มักเป็นอาการที่เกิดจากเส้นประสาทคอถูกกดทับ และบางรายก็อาจเกิดอาการปวดหลังช่วงบนหรือหลังช่วงล่างด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากกระดูกสันหลังอักเสบด้วยโรคข้อสันหลังอักเสบยึดติด (Ankylosing Spondylitis)
#ปรึกษา โทร.094-876-009ไลน์ไอดี
หรือคลิกแอดไลน์ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านได้เลยค่ะ>>>
https://line.me/R/ti/p/%40yxw6053w

 #โรครูมาตอยด์......อาการปวดข้อเรื้อรัง ระวังวายร้ายทำลายกระดูก!!โรครูมาตอยด์ คือ กลุ่มอาการของโรคที่มีการอักเสบของทุกระ...
29/09/2018

#โรครูมาตอยด์......อาการปวดข้อเรื้อรัง ระวังวายร้ายทำลายกระดูก!!

โรครูมาตอยด์ คือ กลุ่มอาการของโรคที่มีการอักเสบของทุกระบบในร่างกาย แต่ที่เห็นได้ชัดคือ บริเวณเยื่อบุข้อและเยื่อบุเส้นเอ็น ลักษณะเด่นของโลกนี้คือ มีการเจริญของเยื่อหุ้มไขข้ออย่างมาก จนทำให้เกิดการลุกลามและทำลายกระดูก ในจะมีอาการเกี่ยวกับระบบอื่นเช่น ตา เส้นประสาท กล้ามเนื้อ
โรครูมาตอยด์สามารถสังเกตได้ชัดจากการผิดปกติของข้อ ระยะแรกจะมีอาการอ่อนเพลีย ปวดตามข้อ ข้อต่างๆ ในร่างกายอาจจะมีอาการฝืดขัดเนื่องจากเนื้อเยื้อบุข้อหนาขึ้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นในตอนเช้า เมื่ออาการเริ่มชัดเจน บริเวณข้อต่างๆจะมีอาการ บวม ร้อนปวด ซึ่งบางรายอาจจะมีอาการแบบเฉียบพลันรุนแรงเช่นเบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซึ่งสามารถสังเกตและเช็คอาการได้ดังนี้

- มีอาการอักเสบเรื้อรังของข้อต่อในร่างกายหลายๆ ข้อพร้อมกัน และมีอาการติดต่อกันเกิน 6 สัปดาห์
- บริเวณที่อักเสบส่วนใหญ่จะเป็นข้อ ข้อโคน นิ้วมือ ข้อเข่า ข้อเท้า มีอาการปวด บวม และเมื่อกดจะมีอาการเจ็บ
- มีอาการข้อฝืด ข้อแข็ง ไม่สามารถขยับตัวได้ สะดวก ในเวลาเช้าหลังตื่นนอน และจะต้องใช้เวลา อย่างน้อย 1 ช.ม.จึงจะเริ่มขยับตัวได้
- มีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ด้วย เช่น เบื่ออาหาร กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดเมื่อยทั้งตัว มีไข้ต่ำๆ น้ำหนักลด ต่อมน้ำเหลืองและหลอดเลือดอักเสบ และโลหิตจาง

โรครูมาตอยด์ ใครเสี่ยงบ้าง

เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่จะพบมากในกลุ่มอายุ 30 ถึง 50 ปีแรกพบผู้หญิงป่วยมากกว่าผู้ชาย ถึง 5 เท่าแต่ถ้าหากมีอาการในเด็กอาการที่จะเกิดจะต่างออกไปและมีความรุนแรงมากกว่า

สนใจติดต่อสอบถามฟรี..
โทร. 094-876-0009
Line id:
หรือคลิกลิงค์ด้านล่างแอดไลน์ทักมาเลยค่ะ>>>

ปวด "แผ่นหลัง" สะเทือนถึง "ดวงตา"  #โรคของคนยุคใหม่ ปวด "คอ บ่า ไหล่" อันตรายกว่าที่คิด⁉️  #แชร์ให้คนที่รักอาการเกิดได้ ...
26/09/2018

ปวด "แผ่นหลัง" สะเทือนถึง "ดวงตา"
#โรคของคนยุคใหม่ ปวด "คอ บ่า ไหล่"
อันตรายกว่าที่คิด⁉️ #แชร์ให้คนที่รัก
อาการเกิดได้ 3 ที่ หลักๆ👇👇👇
1. 😭เกิดจากกระดูก และข้อ: เวลาขยับจะมีเสียงกรอบแกรบ มีอาการเสียวแปลบๆ ซึ่งจะมีลักษณะคือ คอยื่นไปข้างหน้า หลังค่อม หลังทรุด กระดูกสันหลังคด กระดูกสันหลังแง่นงอ
2. 😭เกิดจากเส้นประสาท: อาการคือกล้ามเนื้อไม่ค่อยมีแรง ชา กล้ามเนื้อกระตุก
3. 😭เกิดจากกล้ามเนื้อ: จะมีอาการปวดเมื่อย อ่อนล้า เพลีย เส้นตึง เส้นยึด ปวดขึ้นไปที่ขมับ กล้ามเนื้ออักเสบ เกิดพังผืดสะสมที่กล้ามเนื้อ ปวดกล้ามเนื้อต้นคอ ปวดขึ้นที่กระบอกตา
😱เรามีอาการเหล่านี้หรือไม่?
😱ปล่อยไว้นานอาจเป็นปัญหาใหญ่ ทรมานชีวิตเราตลอดไป....
#ทางเรายินดีให้คำแนะนำ
#นวัตกรรมใหม่ สารสกัดจากธรรมชาติ100% ไม่มีสารสเตียรอยด์ ไม่ต้องทนปวดอีกต่อไป....
#มีปัญหาปรึกษาได้ค่ะ 087-106-8723 ,094-876-0009,ไลน์ไอดี:
หรือกดลิงค์ด้านล่างแอดไลน์เพิ่มเพื่อนในไลน์ทักมาน่ะค่ะ>>>

https://line.me/R/ti/p/%40yxw6053w

 #ปวดคอ  #ปวดบ่า  #ปวดไหล่  #ปวดหลัง  #เข่าเสื่อม  #กล้ามเนื้อหดเกร็ง  #หมอนรองกระดูกทับเส้น  #กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นปร...
11/09/2018

#ปวดคอ #ปวดบ่า #ปวดไหล่ #ปวดหลัง #เข่าเสื่อม
#กล้ามเนื้อหดเกร็ง #หมอนรองกระดูกทับเส้น #กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท #เก๊าท์ #รูมาตอยด์ #นิ้วล๊อค #ไมเกรน #ดีบูน #ดีออฟฟิศ #อเลอไทด์ #โกเรจินส์ #ดีเก๊าท์ #กรดยูริก #กระดูก #ข้อต่อ

ปรึกษาฟรี โทร.094-876-0009 ไลน์ไอดี
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามคลิก

https://line.me/R/ti/p/%40yxw6053w

 #ปวดหลัง ปวดไหล่  โรคฮิตของคนออฟฟิศ!!!ปวดไหล่ทำไงดี อาการยอดฮิตที่ชาวออฟฟิตเป็นประจำหนึ่งปัญหาที่พนักงานออฟฟิศบ่นถึงกัน...
18/05/2018

#ปวดหลัง ปวดไหล่ โรคฮิตของคนออฟฟิศ!!!

ปวดไหล่ทำไงดี อาการยอดฮิตที่ชาวออฟฟิตเป็นประจำ

หนึ่งปัญหาที่พนักงานออฟฟิศบ่นถึงกันบ่อยๆ คือ อาการปวดเมื่อยบริเวณสะบักไหล่ ในความเป็นจริงแล้วอาการปวดเมื่อยหัวไหล่เป็นอาการปกติของคนที่ทำงานโดยวางมือไว้ข้างหน้าตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ ทำอาหาร เลี้ยงเด็ก ยกของหนักหรือล้างจาน ยังมีสาเหตุอื่นๆ ให้ปวดไหล่อีก เช่น แขนหักหรือกระดูไหปลาร้าหัก อาการอักเสบของข้อต่อที่หัวไหล่ ไหล่ร้าว ภาวะโรคไหล่ติด โรคข้อเข่าเสื่อม เส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด เคล็ดขัดยอก การติดเชื้อ และปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาท

การปวดไหล่อาจเกิดขึ้นจากข้อต่อไหล่หรือจากกล้ามเนื้อรอบข้าง รวมไปถึงเส้นเอ็น อาการปวดเกิดขึ้นจากข้อต่อที่เสื่อมพร้อมการขยับร่างกายทั้งแขนและหัวไหล่ เมื่อคุณเจ็บปวดหัวไหล่ มันทำให้คุณเคลื่อนไหวได้ยาก อาการปวดไหล่ใช้เวลานานในการรักษา ฉะนั้นเราควรเริ่มรักษาตั้งแต่ตอนนี้เพื่อให้มันดีขึ้น

เรามีวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพและได้ผลมาช่วยคุณไม่ให้เจ็บหัวไหล่และพัฒนาการเคลื่อนไหวให้คุณได้ และนี่คือ 4 วิธีระงับการปวดไหล่

1. ประคบเย็น โดยนำผ้าห่อน้ำแข็งมาประคบบริเวณที่ปวด 10-15 นาที ทำทุกๆ 2 ชั่วโมงใน 48 ชั่วโมงแรกหลังจากรับรู้อาการปวด

2. ประคบร้อน โดยนำน้ำร้อนใส่ถุงร้อนและประคบไว้บริเวณที่ปวด 10-15 นาที ทำ 2-3 ครั้งต่อวันจนกว่าอาการจะดีขึ้น

3. นวดไหล่ คุณจะรู้สึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อในขณะที่นวดซึ่งมันจะลดอาการปวดลง นอกจากนี้ การนวดยังทำให้คุณหลับได้ดีขึ้นด้วย

4. ยืดไหล่ โดยยืนตรง ยกไหล่ขึ้น 5 วินาที ดึงไหล่ไปข้างหลัง 5 วินาทีและดึงไหล่ลง 5 วินาที ทำจนกว่าจะครบ 10 นาที ซึ่งใน 1 วัน ควรทำ 4-5 ครั้ง
และ5.บำบัดรักษาโดยใช้ยาสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ 100%นวัตกรรมล้ำยุคจากต่างประเทศฟื้นฟูรักษาเป็นการรักษาที่ต้นเหตุ/สาเหตุของอาการแล้วอาการต่างๆจะหายเป็นปกติค่ะ
"เห็นผลไว ได้ผลจริง ประหยัดเงินและเวลา ไม่มีผลข้างเคียง" ที่สำคัญเมื่อหายแล้วจะหายขาดไม่กลับมาเป็นอีกแน่นอน
#ปรึกษาปัญหา โทร.087-106-8723 line id:
หรือคลิกลิงค์เพิ่มเพื่อนในไลน์
https://line.me/R/ti/p/%40yxw6053w

14/05/2018
14/05/2018
ยาไมเกรน ภัยร้ายใกล้ตัว กินติดต่อกันทุกวันเป็นการใช้ยาที่ผิด“ไมเกรน” หรือโรคปวดศีรษะไมเกรน เป็นโรคที่พบได้บ่อยและรู้จักก...
04/05/2018

ยาไมเกรน ภัยร้ายใกล้ตัว กินติดต่อกันทุกวันเป็นการใช้ยาที่ผิด

“ไมเกรน” หรือโรคปวดศีรษะไมเกรน เป็นโรคที่พบได้บ่อยและรู้จักกันดีในคนทั่วไป ไมเกรนเป็นโรคปวดศีรษะที่เกิดจากสมองมีความไวมากกว่าปกติ เวลามีสิ่งกระตุ้น เช่น นอนน้อย, มีความเครียด, อากาศเปลี่ยน, เจอแสงแดด ก็จะทำให้ระบบสมองหลั่งสารเคมีบางชนิดออกมา ทำให้เกิดการอักเสบของเส้นเลือดและเส้นประสาท รวมทั้งทำให้เกิดการคลื่นไส้และอาเจียนอีกด้วย

ประมาณการณ์ว่าคนไทยเป็นโรคปวดศีรษะไมเกรนมากถึง 8 ล้านคน ซึ่งส่วนมากมักจะซื้อยามารับประทานเอง ยาที่นิยมรับประทาน เนื่องจากเป็นยาที่ราคาไม่แพงและสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยา คือ “ยาเออโกทามีน” (Ergotamine) หรือที่เรารู้จักในชื่อการค้าว่า “คาเฟอร์กอต” (Cafergot®)

เออร์โกทามีนคืออะไร?

สารเออร์กอต (Ergot) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของตัวยาเออร์โกทามีนนั้น ถูกค้นพบครั้งแรกตั้งแต่สมัยกรีกและโรมัน โดยคนที่รับประทานธัญพืชหรือขนมปังที่มีการติดเชื้อราชนิดหนึ่งเข้าไป (Claviceps purpurea) แล้วเกิดอาการแสบร้อนและเกิดการเน่าที่ปลายมือ-ปลายเท้าจากการขาดเลือด

เชื้อรา Claviceps purpurea ที่ติดบนธัญพืช เช่น ไรน์. บาร์เล่ย์ หรือเรียกอีอย่างว่า ‘Ergot fungus’ นำมาสกัดสารเออร์กอตได้
ในปี คศ.1918 นักเคมี ชาวสวิสเซอร์แลนด์ สามารถสกัดตัวยาเออร์โกทามีนออกมาจากสารเออร์กอตได้เป็นผลสำเร็จ ในปี คศ.1925 ได้นำตัวยาเออร์โกทามีนมาใช้ในการรักษาไมเกรนได้เป็นผลดี จึงมีการใช้ยาเออร์โกทามีนมาใช้การรักษาไมเกรนอย่างแพร่หลายมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ตัวยาเออร์โกทามีน จะออกฤทธิ์ไม่จำเพาะเจาะจงในระบบประสาท โดยจะไปกระตุ้นตัวรับในสมองหลายชนิด ทำให้สารสื่อประสาทในสมอง เช่น สารซีโรโทนิน (serotonin), โดปามีน (dopamine), นอร์เอพิเนฟริน (norepinephrine) มีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งยังทำให้เส้นเลือดเกิดการหดตัว

ประเทศไทย มีตัวยาเออร์โกทามีนจำหน่ายในท้องตลาดอยู่หลายยี่ห้อ อาทิเช่น คาเฟอร์กอต (Cafergot®), อะวาไมแกรน (Avamigran®) , เออร์โกเซีย (Ergosia®), โทฟาโก (Tofago®), โพลีกอต-ซีเอฟ (Poligot-CF®), ดีแกรน (Degran®) โดยในเม็ดยานั้นจะประกอบไปด้วยตัวยาเออร์โกทามีน และคาเฟอีน เพื่อเพิ่มการดูดซึมยา

เออร์โกทามีนอันตรายอย่างไร?จากผลของตัวยาเออร์โกทามีนเองทำให้เกิดอาการคลื่นไส้-อาเจียนได้ ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ใช้ยาชนิดนี้ในการรักษาผู้ที่มีอาการไมเกรนร่วมกับอาการคลื่นไส้-อาเจียนทำให้ความดันโลหิตสูง จากฤทธิ์ที่ทำให้หลอดเลือดหดตัวในกรณีที่ใช้ยามากกว่า 10 เม็ดต่อเดือน อาจทำให้อาการปวดไมเกรนเป็นมากขึ้นได้ เรียกว่า ปวดศีรษะจากการใช้ยาแก้ปวดเกินขนาด (Medication overuse headache)ผลกระทบจากยาอื่นๆ (drug interaction) เช่น ยาต้านเศร้า (Antidepressants), ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics), ยาฆ่าเชื้อรา (Antifungals), ยาต้านไวรัส HIV, ยารักษาโรคจิต (Antipsychotics) เมื่อรับประทานกลุ่มต่างๆเหล่านี้ ร่วมกับยาเออร์โกทามีน จะทำให้ระดับยาเออร์โกทามีนในร่างกายสูงขึ้นเป็นอย่างมาก จนเกิดเส้นเลือดหดตัวอย่างรุนแรง ทำให้ สมองขาดเลือด หัวใจขาดเลือด ปลายมือ-ปลายเท้าเน่าจากการขาดเลือดได้ และอาจถึงแก่ชีวิตได้

ข้อห้ามในการใช้ยาเออร์โกทามีนห้ามใช้ในผู้ที่มีโรคเส้นเลือดตีบตันหรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อเส้นเลือดตีบตัน เช่น ผู้ป่วยโรคเส้นเลือดสมอง โรคเส้นเลือดหัวใจ โรคเส้นเลือดส่วนปลายผิดปกติ เนื่องจากตัวยามีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดเกิดการหดตัว ทำให้เส้นเลือดตีบตันที่เป็นอยู่เดิม เกิดการตีบตันมากขึ้น จนอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ห้ามใช้คู่กับยาแก้ปวดไมเกรน ชนิดทริปแทน (Triptans) เนื่องจากจะทำให้เส้นเลือดหดตัวอย่างรุนแรงห้ามใช้ยาที่มีเออร์โกทามีน ในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจทำให้แท้งบุตรได้ห้ามใช้ในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงที่ยังควบคุมไม่ได้ห้ามใช้ในผู้ที่มีการทำงานของตับหรือไตผิดปกติการรักษาไมเกรนที่ถูกต้อง ทำอย่างไร?

ในกรณีที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนไม่บ่อย (น้อยกว่า 2 ครั้งต่อเดือน) และไม่มีโรคประจำตัว หรือ ไม่ได้รับประทานยาชนิดอื่นๆอยู่ สามารถรับประทาน ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol), ยาลดการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs; Ibuprofen, Naproxen, Mefenamic acid, Diclofenac เป็นต้น), ยาเออร์โกทามีน, หรือ ยาในกลุ่มทริปแทนได้

การใช้ยาเออร์โกทามีนอย่างถูกต้องนั้น แนะนำให้ใช้ “เฉพาะเวลาปวดศีรษะไมเกรน” เท่านั้น การรับประทานติดต่อกันทุกวันเป็นการใช้ยาที่ผิด ยาชนิดนี้ไม่ควรรับประทานเกิน 3 เม็ดต่อสัปดาห์ หรือทานต่อเนื่องมากกว่า 3 วัน เนื่องจากการรับประทานยาที่มากเกินไปนั้น นอกจากจะเกิดผลข้างเคียงจากตัวยาแล้วยังทำให้เกิดอาการปวดศีรษะมากขึ้น ถ้าอาการปวดศีรษะยังไม่หายหลังจากทานยา ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโรคปวดศีรษะไมเกรนจริงหรือไม่ รวมทั้งให้การรักษาอย่างเหมาะสม

ในกรณีมีอาการปวดศีรษะไมเกรนบ่อย (มากกว่า 2 ครั้งต่อเดือนหรือปวดรุนแรง) ควรได้รับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจมีความจำเป็นต้องได้รับ “ยาป้องกันไมเกรน” เพื่อควบคุมความรุนแรงของอาการปวดศีรษะไมเกรน รวมทั้งยังทำให้ตอบสนองต่อยาแก้ปวดได้ดีมากขึ้น
#ปรึกษาปัญหา โทร.087-106-8723 ไลน์ไอดี :
หรือกดลิงค์ด้านล่างแอดไลน์สอบถามได้เลยค่ะ>>>
https://line.me/R/ti/p/%40yxw6053w

Address


10510

Opening Hours

Monday 00:00 - 23:59
Tuesday 00:00 - 23:59
Wednesday 00:00 - 23:59
Thursday 00:00 - 23:59
Friday 00:00 - 23:59
Saturday 00:00 - 23:59
Sunday 00:00 - 23:59

Telephone

+66809762445

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when สถาบันฟี้นฟูกระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ เส้นประสาท ครบองค์รวม โทร. 087-106-8723 posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Practice

Send a message to สถาบันฟี้นฟูกระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ เส้นประสาท ครบองค์รวม โทร. 087-106-8723:

  • Want your practice to be the top-listed Clinic?

Share

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

Our Story

ฟื้นฟูโรคกระดุก ข้อเสื่อม กระดูกพรุน ปวดหลัง ปวดเข่า เก๊าต์ รูมาตอยด์ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทหายขาดได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีผลข้างเคียง