ดีบูนDboon by mu

ดีบูนDboon by mu Shark Cartilage (กระดูกอ่อนปลาฉลาม) 100 มก. Pine Bark Extract Powder (สารสกัดจากเปลือกสน) 60 มก. Ascorbic Acid (แอสคอร์บิค เอซิด) 60 มก.

D-Boon (ดีบูน)
อาหารเสริมที่มียอดขายสูงสุดทั้งในยุโรปและอเมริกา ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกระดูกและข้อต่อด้วยส่วนผสมที่ลงตัวเพื่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนรอบๆข้อต่อ เอ็นร้อยหวาย และเอ็นยึดข้อ
ส่วนประกอบที่สำคัญ
สารสกัดที่เป็นส่วนประกอบของดีบูน แคปซูล DBoon Capsule อาหารเสริมบำรุงกระดูกและข้อ
Active Ingredient ส่วนประกอบสำคัญ
Salmon Collagen Peptide (คอลลเจนจากปลาทะเล) 250 มก. Turmeric Extract Powder (สารสกัดจากขมิ้น) 30 มก. Vitamin D3 100 SD/S (วิตามิน ดี3) 2 มก. Inactive Ingredient
Maltodextrin (USP)
Capsule No. 096
– Gelatin 94.08 มก. (USP)
– Titanium Dioxide 1.92 มก. (USP)
สรรพคุณของสารสกัดที่เป็นส่วนประกอบของดีบูน แคปซูล DBoon Capsule อาหารเสริมบำรุงกระดูกและข้อ
Glucosamine HCL น้ำตาลอะมิโน
เป็นสารอาหารที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเซลล์กระดูกอ่อน โดยเป็นสารตั้งต้นที่สร้างของเหลว เช่น น้ำไขข้อ ช่วยลดอาการข้อเสื่อม และลดการทุกข์ทรมานจากอาการปวดกระดูกได้อย่างชัดเจน
Condroitin
สารสกัดจากกระดูกอ่อนของครีบปลาฉลาม เสริมเยื่อเมือก ลดการเสียดสีของกระดูกบริเวณข้อ ช่วยในการคงสภาพของน้ำไขข้อกระดูก บรรเทาและฟื้นฟูอาการข้อเสื่อม
Hydrolized Fish Collagen
เป็นองค์ประกอบของโครงสร้างหลัก และสารเคลือบผิว กระดูกอ่อน กระดูกและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ ปริมาณของ Collagen ที่สะสมในเนื้อเยื่อ มักจะลดลงจากปัจจัยของอายุที่เพิ่มขึ้น และจากปัจจัยสิ่งแวดล้อม ดังนั้นในชีวิตประจำวันเราควรให้ความใส่ใจ และเติมสารอาหารในปริมาณพอเพียงต่อความต้องการของร่างกาย
Pine Bark Extract สารสกัดจากเปลือกสน
เป็นสารจำพวก MSM หรือสาร Methylsulfonymethane ที่เป็นแหล่งธรรมชาติของสารอาหารซัลเฟอร์ ที่สร้างความแข็งแรงให้กับไขข้อกระดูก เป็นองค์ประกอบของการสังเคราะห์สารคอลลาเจนภายในไขข้อ
Vitamin C วิตามินซี
วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และมีประโยชน์กับผิวหนัง คือวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำได้ จะช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวเต่งตึง และช่วยให้เซลล์ผิวหนังได้ปรับสภาพคอลลาเจนที่เป็นใยโปรตีนในหนังแท้ ทำให้ผิวดูสวยงาม
Vitamin D3 วิตามินดี
ป้องกันโรคกระดูกอ่อน ป้องกันโรคกระดูกพรุน กระดูกหัก กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myopathy) การลื่นล้ม งานวิจัยพบว่าการกินวิตามินดี 3 วันละ 700 – 800 IU ควบคู่กับแคลเซียมเสริมวันละ 500 – 1,200 มก. สามารถช่วยลดความเสี่ยงของอาการกระดูกพรุน กระดูกหัก จากการลื่นล้มของผู้สูงอายุ อายุ 62-85 ปีได้
Turmeric ผงขมิ้น
ช่วยบรรเทาอาการปวดจากไขข้ออักเสบ มีฤทธิ์สามารถลดอาการอักเสบและช่วยยับยั้งการสร้างเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์สารที่ก่อให้เกิดการอักเสบได้
Pearl Calcium
แคลเซียมสกัดจากไข่มุก เสริมสร้างและเชื่อมต่อกระดูกอ่อนได้ดีมาก
Calcium Carbonate (แคลเซียม คาร์บอเนต)
ช่วยให้กล้ามเนื้อหดตัวได้เป็นปกติ ที่สำคัญคือกล้ามเนื้อหัวใจ ควรพยายามรับประทาน แคลเซียม ให้เพียงพอและต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งจะทำให้ร่างกายไปสะสมแคลเซียม ที่กระดูก และทำให้กระดูกแข็งแรง หากเราได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ ก็จะทำให้กระดูกบางลง และทำให้กระดูกหักได้ง่าย ความสูงไม่เพิ่มขึ้น หรือเตี้ยกว่าที่ควรจะเป็น หรือรับประทานอาหารเสริมแคลเซียม ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการสูญเสียมวลกระดูก และการเกิดอาการกระดูกหักได้ อีกทั้งในรายที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดหลัง ลองรับประทาน แคลเซียม ร่วมกับ แมกนีเซียม ซึ่งจะช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น และลดอาการดังกล่าวได้
เหมาะสำหรับ
~ โรคข้อเข่าเสื่อม
~ โรคกระดูกพรุน
~ โรคข้ออักเสบ,รูมาตอย,เก๊าท์
~ โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน, กระดูกทับเส้นประสาท
~ นิ้วล็อค โรคฮิตของคนทำงาน
~ กลุ่มนักกีฬา
~ ผู้ที่ต้องการเพิ่มความสูง
~ ช่วยเรื่องความเสื่อมของอวัยวะต่างๆในร่างกาย
~ ผู้ที่ปวดเมื่อยตามกระดูก ข้อเข่า สันหลัง ไหล่บ่า คอ
~ วัยหมดประจำเดือน ขาดแคลเซียม
~ อาชีพที่ต้องยืนนาน
bu mu #ดีบูน

รู้หรือไม่!!! "การดื่มน้ำถูกวธีมีประโยชน์"วิธีดื่มน้ำ ดื่มน้ำรักษาโรค ดื่มน้ำผิดวิธี ดื่มน้ำถูกวิธี จุดประสงค์ เพื่อ1. ใ...
08/09/2017

รู้หรือไม่!!! "การดื่มน้ำถูกวธีมีประโยชน์"

วิธีดื่มน้ำ ดื่มน้ำรักษาโรค ดื่มน้ำผิดวิธี ดื่มน้ำถูกวิธี
จุดประสงค์ เพื่อ

1. ให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป

2. ลดโรคที่เกิดจากการดื่มน้ำผิดวิธี น้อย หรือมากจนเกิน

3. ทำให้ร่างกายย่อยอาหารที่กินเข้าไปได้ดีขึ้น

4. ปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร

ในหนึ่งวันควรจะดื่มน้ำกี่แก้ว?

ดื่มน้ำถูกวิธี (ดื่มน้ำให้ เพียงพอ ไม่มาก หรือ น้อยจนเกินไป) เป็นสิ่งที่สำคัญในการดูแลสุขภาพ ปริมาณน้ำที่แพทย์แนะนำให้ดื่มในแต่ละวันคือ [1]

แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการจริงๆนั้นแต่ละคนไม่เหมือนกัน (ธาตุแต่ละคนไม่เหมือนกัน ) ทางเดียวที่จะรู้ได้คือต้องสังเกตตัวเอง บางท่านทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำเยอะก็จะต้องการน้ำน้อยกว่าคนปรกติ บางท่านเสียเหงื่อเยอะร่างกายก็ต้องการน้ำมากกว่าคนปรกติ

ดื่มน้ำผิดวิธี ดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรือ เยอะเกินไป เป็นสาเหตุของโรคที่คุณคาดไม่ถึง

คุณเชื่อหรือไม่ว่าการ ดื่มน้ำผิดวิธีนั้นเป็นสาเหตุหลักของหลายๆโรคในปัจจุบันที่คนคาดไม่ถึง เช่น กรดไหลย้อน ร้อนใน ภูมิแพ้ ปวดตามอวัยวะต่างๆ เบาหวาน ๆลๆ

ดื่มน้ำผิดวิธี

การดื่มน้ำผิดวิธีจะส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานไม่ดี ร่างกายเสียสมดุล เมื่อร่างกายเสียสมดุลร่างกายก็จะเสื่อมเร็ว พอร่างกายเสื่อมโรคต่างๆก็ตามมาครับ ยกตัวอย่างเช่น

การดื่มน้ำมากจนเกินไประหว่างรับประทานอาหารจะทำให้ร่างกายย่อยอาหารไม่ดี (ความมากน้อยของน้ำที่แต่ละคนจะทานระหว่างมื้ออาหารขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และ ธาตุตามธรรมชาติของแต่ละคน เช่น คนที่ร่างกายแห้ง ธาตุลม สามารถทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำได้ค่อยข้างมาก ส่วนคนที่ร่างกาย ชื้น ไฟย่อยอาหารต่ำ ร่างกายเย็น ก็จะทานน้ำในระหว่างมื้อาหารได้น้อยกว่า เป็นต้น) ตามหลักของแพทย์แผนไทยและจีน ระบบย่อยอาหารจะทำงานได้ดีนั้นต้องอาศัยธาตุไฟในการย่อย การดื่มน้ำมาก หรือ รับประทานอาหารฤทธิ์เย็นมากจนเกินไป ระหว่างมื้ออาหารจะ ไปดับไฟย่อยอาหารทำให้อาหารถูกย่อยไม่ดี พออาหารถูกย่อยไม่สมบูรณ์ ร่างกายก็ดูดซึมสารอาหารได้ไม่เต็มที่ (ขาดสารอาหาร) อาหารที่ย่อยไม่ได้ก็มีสิทธิ์หลุดเข้าไปในลำไส้ (สาเหตุของภูมิแพ้) ยิ่งไปกว่านั้นพอกระเพราะอาหารทำงานไม่ดี เส้นลมปราณกระเพราะอาหารจะวิ่งติดขัดส่งผลให้ ปวดเมื่อยขา เป็นตะคริว ปวดสันหน้าแข้ง ๆลๆ


วิธีดื่มน้ำ ดื่มน้ำรักษาโรค

ที่กล่าวมานี่เป็นแค่โรคที่เกิดจากกระเพาะอาหารทำงานไม่ดี แต่การดื่มน้ำผิดวิธียังส่งผลต่ออวัยวะอื่นอีกเยาะ เช่น

- การดื่มน้ำน้อยจะทำให้เลือดข้น เลือดไหลเวียนไม่สะดวก อุดตัน (เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบหลักของเลือด) ลำไส้ก็จะแห้ง ระบบขับถ่ายก็จะไม่ดี

- การดื่มน้ำมากเกินไปจะทำให้อวัยวะต่างๆในร่างกายทำงานหนักโดยเฉพาะไต

จากที่กล่าวมาสรุปได้ว่าการดื่มน้ำผิดวิธี เป็นระยะเวลา นานๆ จะส่งผลให้ร่างกายค่อยๆเสื่อมลง และเป็น 1 ในสาเหตุของโรคครับ


วิธีดื่มน้ำรักษาโรค

- หลังตื่นนอนตอนเช้าควรจะดื่มน้ำอุ่น หรือ น้ำที่อุณหภูมิห้อง 1-3 แก้ว (ค่อยๆดื่ม) เพราะร่างกายขาดน้ำ และ เพื่อกระตุ้นระบบขับถ่าย

- ระหว่างวันควรดื่มน้ำบ่อยๆ ครั้งละ น้อยๆ ค่อยค่อยดื่ม (ครั้งละไม่เกิน 3 อึก)

- ไม่ควรรอให้หิวน้ำมากแล้วดื่มทีละเยอะๆ เพราะ การดื่มน้ำทีละมากๆร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมน้ำได้ทัน

- ควรจะดื่มน้ำอุ่น หรือ น้ำที่อุณหภูมิห้อง (ไม่ควรดื่มน้ำเย็น น้ำแข็ง น้ำอัดลม น้ำหวาน)

- ถ้ามีภาวะร้อนเกินแล้วดื่มน้ำอุ่นแล้วไม่สบายตัวให้ดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้องแทน

- 30 นาทีก่อนอาหาร ระหว่างทานอาหาร และหลังทานอาหาร 30 นาที ทั้ง 3 เวลานี้ ไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไป

Note

รวมถึงน้ำผักผลไม้ น้ำแกง น้ำข้าวกล้อง น้ำอัดลม ๆลๆ ด้วยนะครับ

Cr.Yuzu Health

ด้วยความปราถนาดีจาก
ศูนย์รวมสาระเพื่อสุขภาพ กระดูกและข้อ
ติดต่อ คุณ อิม
โทร.062-6244556,062-4162659
line:id 0626244556
Line@:
คลิ๊กดูรายละเอียดเว็บไซค์
www.http://dboonnp.lnwshop.com

เก๊าท์ (Gout) เป็นโรคข้ออักเสบที่ทำให้มีอาการปวดแสบร้อน บวม แดงตามข้อต่ออย่างเฉียบพลันเป็นระยะ ๆ อาจเกิดขึ้นกับข้อต่อเดี...
14/07/2017

เก๊าท์ (Gout) เป็นโรคข้ออักเสบที่ทำให้มีอาการปวดแสบร้อน บวม แดงตามข้อต่ออย่างเฉียบพลันเป็นระยะ ๆ อาจเกิดขึ้นกับข้อต่อเดียวหรือหลายข้อต่อพร้อมกัน

อาการของโรคเก๊าท์

อาการปวดอย่างรุนแรงตามข้อต่อเป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะนิ้วหัวแม่เท้า แต่ก็สามารถเกิดกับข้อต่อหลายส่วนตามร่างกายได้ เช่น ข้อเท้า ข้อศอก หัวเข่า ข้อต่อกระดูกมือ หรือข้อมือ อาการปวดจะรุนแรงในช่วง 4-12 ชั่วโมงแรก จากนั้นจะเริ่มปวดน้อยลงและมีอาการดีขึ้นภายใน 7-10 วัน แต่ในบางรายอาจมีอาการปวดได้นานหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นได้ เช่น

ข้อต่อเกิดการอักเสบและติดเชื้อ อาจเกิดขึ้นกับข้อต่อเพียงข้อเดียวหรือหลายข้อต่อ จนทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเป็นสีแดง บวมแดง และแสบร้อน
เคลื่อนไหวร่างกายได้ไม่สะดวกจากภาวะข้อติด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกความรุนแรงของโรคที่เพิ่มมากขึ้น
ผิวหนังบริเวณข้อต่อเกิดการลอกหรือคันหลังจากอาการของโรคดีขึ้น
อาการของโรคเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน มักเป็น ๆ หาย ๆ จนกว่าจะได้รับการรักษา โดยมักเกิดขึ้นในเวลากลางคืนได้บ่อยกว่าช่วงเวลาอื่น อย่างไรก็ตามควรรีบไปพบแพทย์หากผู้ป่วยมีไข้ ปวดข้ออย่างรุนแรง จนทำให้ผิวหนังบวมแดงและแสบร้อนขึ้น เพราะอาการปวดข้ออาจทำให้ผู้ป่วยเข้าใจผิดได้ว่าเป็นสัญญาณของโรคข้ออื่น ๆ การปล่อยให้โรคพัฒนารุนแรงขึ้นโดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจนำไปสู่อาการปวดอย่างเรื้อรังและสร้างความเสียหายให้กับข้อต่อได้
สาเหตุของโรคเก๊าท์

โรคเก๊าท์เป็นผลมาจากภาวะกรดยูริกในเลือดสูง (Hyperuricemia) ซึ่งเป็นภาวะของร่างกายที่มีการสะสมของกรดยูริกในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้เกิดการตกผลึกตามข้อต่าง ๆ จนเกิดอาการปวดบวมตามข้ออย่างรุนแรงและอาการอื่น ๆ ของโรคตามมา

กรดยูริกเป็นสารเคมีชนิดหนึ่งในเลือดที่ได้มาจากการย่อยสลายสารพิวรีน (Purines) ในเนื้อเยื่อทั่วร่างกายและอาหารที่รับประทานเข้าไป โดยร่างกายจะมีการปรับสมดุลของกรดยูริกด้วยการกรองจากไตก่อนมีการขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ เมื่อมีปริมาณกรดยูริกมากขึ้นจากการสร้างของร่างกาย จากการรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง หรือไตมีความผิดปกติในการกรองสารพิวรีน มักนำไปสู่ภาวะกรดยูริกในเลือดสูงได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิด แต่พบว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่มีความเกี่ยวข้องกัน เช่น

การดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก
การรับประทานอาหารทีมีสารพิวรีนมากเกินไป เช่น สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ยอดผัก กุ้งเคยหรือกะปิ ปลาซาร์ดีน หอยแมลงภู่ สารสกัดจากยีสต์
ได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอ
การดื่มน้ำอัดลมเกินปริมาณที่พอดีต่อวัน ซึ่งมีการศึกษาพบว่าการดื่มน้ำอัดลมประเภทที่มีน้ำตาลฟรุกโตสอาจเพิ่มการสะสมกรดยูริกในเลือดได้สูงถึง 85% นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผลไม้และน้ำผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลฟรุกโตสอยู่มาก
อาการเจ็บป่วยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเซลล์ในร่างกายอย่างรวดเร็ว เช่น โรคสะเก็ดเงินขั้นรุนแรง หรือความผิดปกติทางเลือดบางอย่าง
ยาบางประเภทที่ส่งผลต่อระดับกรดยูริกในร่างกาย เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาเคมีบำบัดบางชนิด ยาแอสไพริน และยาลดความดันโลหิตบางชนิด
โรคประจำตัวหรือสภาวะของร่างกายบางอย่าง เช่น ภาวะอ้วน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ ไตทำงานผิดปกติ โรคเบาหวาน โรคพร่องเอนไซม์ ความผิดปกติของไขกระดูก โรคหลอดเลือดผิดปกติ
มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคเก๊าท์ โดยพบว่า 1 ใน 5 ของผู้ป่วยโรคเก๊าท์จะมีบุคคลในครอบครัวเจ็บป่วย
การวินิจฉัยโรคเก๊าท์
แพทย์จะมีการสอบถามอาการ ประวัติการเป็นโรคเก๊าท์ของบุคคลในครอบครัว การตรวจร่างกายทั่วไป ตลอดจนดูสัญญาณบ่งบอกของโรคอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลช่วยในการวินิจฉัยโรค หลังจากนั้นจะมีการตรวจพิเศษเพิ่มเติมอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ เช่น

การเจาะข้อ มักถูกใช้เป็นวิธีหลักในการตรวจวินิจฉัย แพทย์จะนำเข็มเจาะบริเวณข้อที่มีอาการ เพื่อดูดเอาน้ำในข้อออกมาตรวจดูการสะสมของผลึกยูเรต (Urate Crystals) ภายใต้กล้องจุลทรรศน์
การตรวจเลือด เมื่อการตรวจวินิจฉัยโดยการเจาะข้อไม่สามารถทำได้ แพทย์อาจจะให้มีการเจาะเลือด เพื่อตรวจวัดระดับของกรดยูริกและสารครีเอตินินว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ แต่วิธีนี้อาจเกิดความผิดพลาดได้ เช่น ผู้ป่วยบางรายมีระดับกรดยูริกสูงผิดปกติ แต่อาจไม่เป็นโรคเก๊าท์ หรือบางรายที่มีอาการของโรคก็อาจตรวจพบระดับกรดยูริกได้ในระดับปกติ
การเอกซเรย์ การถ่ายเอกซเรย์บริเวณข้อที่มีอาการ เพื่อตรวจดูว่าเกิดการอักเสบตามข้อหรือไม่
การอัลตราซาวด์ จะช่วยตรวจพบการสะสมของผลึกยูเรตตามข้อจนเป็นปุ่มนูนหรือก้อนที่เรียกว่า โทฟี่ (Tophi)
เอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือซีทีสแกน เพื่อตรวจหาการสะสมของผลึกยูเรตตามข้อ แต่มักเป็นวิธีที่ไม่ค่อยนิยม และมีค่าใช้จ่ายสูง
การตรวจปัสสาวะ เพื่อดูกรดยูริกที่ปะปนในน้ำปัสสาวะ
การรักษาโรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาเป็นหลัก ซึ่งแพทย์จะพิจารณาดูจากหลายปัจจัยประกอบในการเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ทั้งอาการของโรค สุขภาพโดยรวม หรือการพูดคุยกับผู้ป่วย ควบคู่กับการปฏิบัติตนเพื่อเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงของโรค ในบางรายที่ปล่อยให้โรคดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้รักษา แพทย์อาจใช้วิธีการผ่าตัดทดแทนการใช้ยา ซึ่งเป้าหมายของการรักษาจะช่วยในการบรรเทาอาการปวดให้ลดลงอย่างรวดเร็ว และป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดของโรคเก๊าท์ในบริเวณข้ออื่น ๆ ในอนาคต รวมไปถึงลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากโรค เช่น โครงสร้างข้อต่อผิดรูป ไตเกิดความผิดปกติ

การปฏิบัติตนเมื่อเป็นโรคเก๊าท์ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางส่วนอาจมีส่วนช่วยให้อาการของโรคทุเลาลงได้ตามคำแนะนำต่อไปนี้

ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายขับกรดยูริกออกทางปัสสาวะ และไม่ทำให้เกิดการตกตะกอนในระบบทางเดินปัสสาวะที่นำไปสู่การเกิดนิ่วในไต
หลีกเลี่ยงหรือจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ให้อยู่ในปริมาณที่พอดี
ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีความหวานมาก โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลฟรุกโตส
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล สัตว์ปีก ถั่วบางชนิด สารสกัดจากยีสต์ แต่อาจทดแทนด้วยโปรตีนที่ได้จากผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำ
ผู้ที่มีภาวะอ้วนควรลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่ไม่ควรอดอาหารหรือลดน้ำหนักรวดเร็วจนเกินไป
การดูแลเพื่อลดอาการปวด ผู้ป่วยสามารถบรรเทาอาการปวดในเบื้องต้นได้ด้วยการหยุดเคลื่อนไหวบริเวณที่มีอาการปวดอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังมีอาการ โดยพยายามยกบริเวณข้อต่อที่ปวดให้อยู่สูง หากมีอาการบวมแดงอาจบรรเทาด้วยการประคบน้ำแข็ง หรือรับประทานยาในกลุ่มยาแก้ปวด ยาลดไข้ และยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ แต่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแอสไพริน
การรักษาด้วยการใช้ยา เป็นการใช้ยาในการบรรเทาอาการของโรคให้ลดลงและช่วยป้องกันอาการของโรคที่อาจกำเริบขึ้นในอนาคต ซึ่งตัวยาที่ใช้รักษาโรคเก๊าท์มีอยู่หลายกลุ่ม เช่น

ยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-steroidal Anti-inflammatory Drugs: NSAIDs) หรือที่รู้จักกันดีว่า ยาเอ็นเสด ซึ่งอาจเป็นยาที่หาซื้อได้ทั่วไป เช่น ยาไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) ยานาพรอกเซน (Naproxen) หรือแพทย์สั่งจ่าย เช่น ยาอินโดเมธาซิน (Indomethacin) ยาเซเลโคซิบ (Celecoxib) หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรง แพทย์อาจสั่งจ่ายยาในปริมาณที่สูงขึ้น แล้วค่อยลดปริมาณการใช้ยาลง เพื่อช่วยป้องกันอาการของโรคในอนาคต แต่ผลข้างเคียงของยากลุ่มนี้อาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดท้อง เกิดภาวะเลือดออก และแผลในกระเพาะอาหารได้
ยาโคลชิซิน (Colchicine) แพทย์จะสั่งจ่ายยาโคลชิซินเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดจากโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในช่วงแรกอาจมีการใช้ยาในปริมาณที่สูงก่อนจะลดปริมาณยาลงเมื่ออาการปวดของผู้ป่วยทุเลาลง แต่ผลข้างเคียงของการใช้ยาชนิดนี้อาจส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย
ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) โดยทั่วไปมักใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถใช้ยาต้านอักเสบหรือยาโคลชิซินได้ เพื่อช่วยควบคุมการอักเสบและอาการปวดของโรค มีทั้งรูปแบบยาเม็ดและยาฉีด ผลข้างเคียงของยาอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตตสูงขึ้น มีอารมณ์แปรปรวน
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการของโรคเกิดขึ้นนาน ๆ ครั้ง หรือไม่บ่อย แต่มีความรุนแรงค่อนข้างมาก แพทย์อาจสั่งจ่ายยากลุ่มอื่นที่ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเก๊าท์ เช่น
ยายับยั้งการสร้างกรดยูริก (Xanthine Oxidase Inhibitors) เป็นยาที่ช่วยจำกัดการผลิตกรดยูริกของร่างกาย เช่น ยาอัลโลพูรินอล (Allopurinol) ยาฟีบัคโซสตัต (Febuxostat) ซึ่งจะช่วยให้ระดับกรดยูริกในเลือดลดลงและเสี่ยงต่อการเกิดอาการของโรคน้อยลงเช่นกัน แต่อาจส่งผลข้างเคียงให้เกิดผื่น คลื่นไส้ และลดการทำงานของตับ
ยาช่วยขับกรดยูริก เป็นยาที่ช่วยเพิ่มการทำงานของไตให้มีการขับกรดยูริกออกมากับปัสสาวะมากขึ้น เช่น โพรเบเนซิด (Probenecid) ซึ่งทำให้กรดยูริกในเลือดมีปริมาณลดลงและเสี่ยงต่อการเกิดอาการของโรคลดลงเช่นกัน แต่อาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีผื่นขึ้น ปวดท้อง หรือเกิดนิ่วในไต ที่เป็นผลข้างเคียงของการใช้ยา
การผ่าตัด มักใช้ในกรณีที่อาการของโรคมีการพัฒนาจนรุนแรงขึ้นกลายเป็นปุ่มนูนหรือก้อนโทฟี่ เนื่องจากการสะสมของผลึกยูเรตตามเนื้อเยื่อและข้อต่อต่าง ๆ และการรักษาด้วยยาไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
ภาวะแทรกซ้อนของโรคเก๊าท์

โรคเก๊าท์สามารถพัฒนาอาการของโรคให้รุนแรงมากขึ้นเมื่อไม่มีการรักษาอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการของโรคบ่อยมากขึ้นไปจนถึงการเกิดก้อนโทฟี่หรือปุ่มนูนใต้ผิวหนังในหลายส่วนของร่างกาย เช่น ตามนิ้วมือ เท้า ข้อศอก หรือเอ็นร้อยหวาย แต่โดยปกติมักไม่ก่ออาการเจ็บปวด แต่เมื่ออาการของโรคกำเริบอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ปวดตามข้อ ข้อต่อบิดเบี้ยวจนผิดรูปไปจากเดิม นอกจากนี้ยังมีโอกาสเกิดนิ่วในไตจากการสะสมของผลึกยูเรตในระบบทางเดินปัสสาวะของผู้ป่วยโรคเก๊าท์ ซึ่งอาจนำไปสู่การทำงานของไตที่ปกติหรือเกิดภาวะไตวาย

การป้องกันโรคเก๊าท์

โรคเก๊าท์ยังไม่สามารถป้องกันได้โดยตรง เนื่องจากการสะสมของผลึกยูเรตทีละน้อยในข้อต่อและเนื้อเยื่อรอบ ๆ เป็นเวลานานหลายปี จึงทำให้ทราบได้ยากว่าระดับกรดยูริกในเลือดอยู่เท่าใดจนกระทั่งเริ่มมีอาการของโรคแสดงขึ้นมา อีกทั้งสาเหตุที่ทำให้กรดยูริกเพิ่มขึ้นนั้นมาจากหลายปัจจัยและสรุปได้ไม่ชัดเจน

การป้องกันจึงเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเช่นเดียวกับการปฏิบัติตนของผู้ป่วยที่เป็นโรค เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของโรคลง เช่น หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง โดยเฉพาะ อาหารทะเล เครื่องในสัตว์ และสัตว์ปีก ดื่มน้ำให้เพียงพอ ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์และน้ำอัดลม

ติดต่อสอบถามรายละเอียด
คุณ อิม
โทร.062-6244556,062-4162659
line:id 0626244556
Line@:
คลิ๊กดูรายละเอียดเว็บไซค์
www.http://dboonnp.lnwshop.com

*****  โรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม   *****อาการที่คอ: ปวดคอ บ่า หรือไหล่เรื้อรัง ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดร้าวไปจนถึงบ...
09/07/2017

***** โรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม *****

อาการที่คอ: ปวดคอ บ่า หรือไหล่เรื้อรัง ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดร้าวไปจนถึงบริเวณท้ายทอยได้ อาการปวดนี้อาจบรรเทาได้ด้วยการนวดหรือฝังเข็ม แต่ก็มีการกลับมาเป็นซ้ำเรื่อยๆ ไม่หายขาด

😧 อาการที่แขน: อาการแสดงที่แขนมีได้ 3 แบบ คือ 1.อาการปวด ชา หรือการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ อาการแสดงที่แขนนี้เกิดจากการที่เส้นประสาทสันหลังส่วนคอถูกรบกวน
2.ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดหรือชาลงมาตามบริเวณแขน ข้อศอก หรือนิ้วมือได้
3,การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อก็มีลักษณะคล้ายอาการปวดและชา คือจะมีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมัดที่เลี้ยงด้วยเส้นประสาทเส้นที่ถูกกดทับนั้น บางรายมาพบแพทย์เพราะไม่สามารถใช้มือทำงานละเอียดอ่อนได้เหมือนเดิม เช่น การเซ็นชื่อเขียนหนังสือ การเล่นดนตรี หรือการติดกระดุม เป็นต้น

😨 อาการที่ขา: หากมีการกดทับของไขสันหลังมักไม่มีอาการปวด แต่อาการจะแสดงออกในลักษณะการเดินที่ผิดปกติ เช่น ขาตึงผิดปกติ รู้สึกโคลงเคลงเหมือนล้มง่าย เดินก้าวสั้น เดินตามคนอื่นไม่ทัน ผู้ป่วยบางรายอธิบายว่าเดินเหมือนขาเป็นตะเกียบ หรือเดินเหมือนหุ่นยนต์ อาการเหล่านี้หากทิ้งไว้นานอาการอาจแย่ลงจนมีกล้ามเนื้อลีบจนกระทั่งไม่สามารถเดินได้ในที่สุด

.สาเหตุของโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม
การก้ม แหงนหรือสะบัดคอบ่อยๆ เป็นนิสัย
นั่งทำงานด้วยอิริยาบถที่ไม่ถูกต้องนานๆ
อุบัติเหตุและการบาดเจ็บต่อกระดูกสันหลัง

การรักษาโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม

** การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าโพรงประสาท

** การผ่าตัดเชื่อมข้อกระดูกสันหลังส่วนคอ

** การผ่าตัดเปลี่ยนหมอนรองกระดูกเทียมบริเวณคอ

** การผ่าตัดกระดูกส่วนที่กดทับเส้นประสาท

สอบถามข้อเพิ่มเต

หรือคลิกลิ้ง: http://line.me/ti/p/

****** อาการไหล่ติด  ****ระยะที่หนึ่ง : ระยะเจ็บไหล่มีอาการดังนี้๑. เจ็บเมื่อมีการเคลื่อนไหวของ แขน๒. เจ็บทั่วไปบริเวณหั...
03/07/2017

****** อาการไหล่ติด ****

ระยะที่หนึ่ง : ระยะเจ็บไหล่มีอาการดังนี้

๑. เจ็บเมื่อมีการเคลื่อนไหวของ แขน

๒. เจ็บทั่วไปบริเวณหัวไหล่ แต่ ไม่มี
จุดกดเจ็บที่แน่นอน

๓. มีกล้ามเนื้อเกร็งตัว (muscle spasm)

๔. เจ็บมากขึ้นในเวลากลางคืน
หรือเมื่ออยู่นิ่งๆ

ระยะที่สอง : ระยะข้อไหล่ติด มีอาการดังนี้

๑. อาการเจ็บไหล่ เจ็บแขนลดลง

๒. เพิ่มอาการติดขัด และจำกัด การเคลื่อนไหวของหัวไหล่

๓. อาการเจ็บตอนกลางคืนและ
ตอนอยู่นิ่งๆ ลดลง

๔. รู้สึกเจ็บเมื่อมีการเคลื่อนไหว ช่วงสุดท้ายของแขนข้างนั้น

ระยะที่สาม : ระยะฟื้นตัวมีอาการดังนี้

๑. อาการเจ็บลดลงเรื่อยๆ

๒. แขนข้างที่เจ็บจะเคลื่อนไหวได้
มากขึ้นอย่างช้าๆ

๓. การฟื้นตัวจะหายเองได้แต่มักจะเคลื่อนไหวแขนได้ไม่สุดเหมือนที่
เคยทำได้

#สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดข้อไหล่ติด

ยังไม่ทราบแน่ชัด การเกิด ข้อไหล่
ติดมักจะเกี่ยวข้องกับโรคอื่นๆ
หลายโรค ที่พบบ่อยคือ ในคน ที่มี
อาการอัมพาตครึ่งซีก
อาการเจ็บข้อไหล่ (ขัดยอกหัวไหล่)
ถ้ารีบแก้ไขตั้งแต่แรกเป็นจะไม่ลุก
ลาม แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ โดยพยา
ยามหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหว ใน
ทิศทางที่เจ็บ อาจจะเป็นสาเหตุ
ให้เกิดอาการไหล่ติด ไปจนถึงข้อ
ไหล่ ติดแข็งได้ในที่สุด

#ปรึกษาปัญหากระดูกฟรี!

ปรึกษา/สั่งซื้อ โทร. อิม 062-6244556

💪💪D-Boon (ดีบูน)💪💪อาหารเสริมที่มียอดขายสูงสุดทั้งในยุโรปและอเมริกา ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกระดูกและข้อต่อด้วยส่วนผ...
02/07/2017

💪💪D-Boon (ดีบูน)💪💪
อาหารเสริมที่มียอดขายสูงสุดทั้งในยุโรปและอเมริกา ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกระดูกและข้อต่อ
ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวเพื่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนรอบๆ ข้อต่อ เอ็นร้อยหวาย และเอ็นยึดข้อ

☆ส่วนประกอบที่สำคัญ☆
1.คอลลาเจนจากปลาทะเล (Hydrolyed Fish Collagen)
2.สารสกัดจากเปลือกสน (Pine bark extract ) MSM
3.วิตามิน ซี (Vitamin C)
4.สารสกัดจากขมิ้น (Turmeric Extract)
5.วิตามิน ดี 3 (Vitamin D 3)
6.แคลเซียม คาร์บอเนต (Calcium Carbonate )

>>เหมาะสำหรับ
~ โรคข้อเข่าเสื่อม
~ โรคกระดูกพรุน
~ โรคข้ออักเสบ,รูมาตอย,เก๊าท์
~ โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน, กระดูกทับเส้นประสาท
~ นิ้วล็อค โรคฮิตของคนทำงาน
~ กลุ่มนักกีฬา
~ ผู้ที่ต้องการเพิ่มความสูง
~ ช่วยเรื่องความเสื่อมของอวัยวะต่างๆในร่างกาย
~ ผู้ที่ปวดเมื่อยตามกระดูก ข้อเข่า สันหลัง ไหล่บ่า คอ
~ วัยหมดประจำเดือน ขาดแคลเซียม
~ อาชีพที่ต้องยืนนาน

🔮ขนาดบรรจุ : 30 แคปซูล
📚อย.10-1-06045-1-0038 รับรองฮาลาล

สินค้าพร้อมส่ง ของแท้ บ.จัดส่งเองถึงหน้าบ้านท่าน
สนใจติดต่อ
☏ 062-6244-556 อิมค่ะ

📲Line:

📮คลิกเพื่อแอดไลน์📮
http://line.me/ti/p/
www.dboonnp.lnwshop.com

ท่านที่มีปัญหา ปวดข้อ ปวดเข่า ข้อเสื่อม อย่าทนเจ็บทั้งตัว ชาลงขาโทร.062-4162659 หมูครับ
30/06/2017

ท่านที่มีปัญหา ปวดข้อ ปวดเข่า ข้อเสื่อม อย่าทนเจ็บทั้งตัว ชาลงขา
โทร.062-4162659 หมูครับ

ดีบูนนวัตกรรมการดูแลกระดูกและข้อต่อ อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องมาจากในผลิตภัณฑ์ดีบูนประกอบด้วย กระดูกอ่อนปลาฉลาม หอยไข่มุก แคลเซียม ที่ช่วยให้ลดความทุกข์ทรมานจากอาการปวดกระดูกได้อย่างชัดเจน ..เช่น อาการปวดเข่า เวลาขึ้นบันได. ...ดีบูน แก้ได้ คนที่กระดูกหรือข้อเข่าไม่แข็งแรง สาเหตุหลักๆ ของอาการปวดเข่า เ...

ดีบูนนวัตกรรมการดูแลกระดูกและข้อต่อ อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องมาจากในผลิตภัณฑ์ดีบูนประกอบด้วย กระดูกอ่อนปลาฉลาม หอยไข่มุก ...
30/06/2017

ดีบูนนวัตกรรมการดูแลกระดูกและข้อต่อ อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องมาจากในผลิตภัณฑ์ดีบูนประกอบด้วย กระดูกอ่อนปลาฉลาม หอยไข่มุก แคลเซียม ที่ช่วยให้ลดความทุกข์ทรมานจากอาการปวดกระดูกได้อย่างชัดเจน ..เช่น อาการปวดเข่า เวลาขึ้นบันได. ...ดีบูน แก้ได้
คนที่กระดูกหรือข้อเข่าไม่แข็งแรง
สาเหตุหลักๆ ของอาการปวดเข่า เมื่ออายุมากขึ้น น้ำหล่อลื่นหรือคอลลาเจนที่อยูในข้อต่อ ของหัวเข่าก็จะเสื่อมไปด้วย แม้แต่การทำกิจวัตรประจำวัน ก็เป็นปัจจัยให้ข้อเข่าเสื่อมได้

แม้ว่าบางท่านจะออกกำลังกาย แต่อาการปวดเข่าก็ไม่ลดลง เพราะอาการข้อเข่าเสื่อมเกิดจาก คอลลาเจน ที่เสื่อมลง

ดังนั้นการทานเสริมอาหารไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การเลือก เสริมอาหารต่างหาก ที่สำคัญว่าจะสามารถช่วยให้ คุณหายปวดข้อเข่าหรือไม่
ควรเลือกดีบูนได้คอลลาเจนที่ บริสุทธิ์ 100% เมื่อทานไปแล้วไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย ดูดซึมได้ทันที

💪💪D-Boon (ดีบูน)💪💪
อาหารเสริมที่มียอดขายสูงสุดทั้งในยุโรปและอเมริกา ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกระดูกและข้อต่อ
ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวเพื่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนรอบๆข้อต่อ เอ็นร้อยหวาย และเอ็นยึดข้อ

☆ส่วนประกอบที่สำคัญ☆
1.คอลลาเจนจากปลาทะเล (Hydrolyed Fish Collagen)
2.สารสกัดจากเปลือกสน (Pine bark extract ) MSM
3.วิตามิน ซี (Vitamin C)
4.สารสกัดจากขมิ้น (Turmeric Extract)
5.วิตามิน ดี 3 (Vitamin D 3)
6.แคลเซียม คาร์บอเนต (Calcium Carbonate )

>>เหมาะสำหรับ
~ โรคข้อเข่าเสื่อม
~ โรคกระดูกพรุน
~ โรคข้ออักเสบ,รูมาตอย,เก๊าท์
~ โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน, กระดูกทับเส้นประสาท
~ นิ้วล็อค โรคฮิตของคนทำงาน
~ กลุ่มนักกีฬา
~ ผู้ที่ต้องการเพิ่มความสูง
~ ช่วยเรื่องความเสื่อมของอวัยวะต่างๆในร่างกาย
~ ผู้ที่ปวดเมื่อยตามกระดูก ข้อเข่า สันหลัง ไหล่บ่า คอ
~ วัยหมดประจำเดือน ขาดแคลเซียม
~ อาชีพที่ต้องยืนนาน

🔮ขนาดบรรจุ : 30 แคปซูล
📚อย.10-1-06045-1-0038 รับร
องฮาลาล

สินค้าพร้อมส่ง ของแท้
สนใจทักมาเลยที่
คุณหมู 062-4162659.
ไลน์I:. 0624162459
ลิ้งค์ไลน์:
คลิกเว็บไซค์
www.mrsophon1959.lnwshop.com

4 วิธี ช่วยกระดูกแข็งแรง (ธรรมลีลา)          "ทำอย่างไรดี ไปตรวจความหน้าแน่นของกระดูกแล้วพบว่า กระดูกบางลง"           โร...
27/06/2017

4 วิธี ช่วยกระดูกแข็งแรง (ธรรมลีลา)

"ทำอย่างไรดี ไปตรวจความหน้าแน่นของกระดูกแล้วพบว่า กระดูกบางลง"

โรคกระดูกพรุน คือ ภาวะที่มีเนื้อกระดูกบางตัวลง เนื่องจากมีการสร้างกระดูกน้อยกว่าการทำลายกระดูก ทำให้เสี่ยงต่อภาวะกระดูกหัก หรือยุบตัวได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณกระดูกหลัง กระดูกสะโพก และกระดูกข้อมือ พบมากในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะสตรีที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

เมื่อเป็นโรคกระดูกพรุนจะทำใหเกิดอาการต่าง ๆ เช่น ปวดหลัง กระดูกสันหลังยุบตัวลง หลังค่อม ตัวเตี้ยลง กระดูกแขนขาเปราะและหัก บางรายอาจมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกข้อมือ กระดูกสะโพก กระดูกสันหลัง ทำให้พิการเดินไม่ได้

ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดภาวะกระดูกพรุน เรามีวิธีบำรุงรักษากระดูกให้แข็งแรงมาฝากค่ะ

1. รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงและรับประทานแคลเซียมเสริม

ผู้ใหญ่อายุน้อยกว่า 50 ปี ต้องการแคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัม อายุมากกว่า 50 ปีต้องการแคลเซียมวันละ 1,200 มิลลิกรัม แหล่งที่มาของแคลเซียมได้จากอาหารหลายประเภท เช่น นมโยเกิร์ต ชีส ปลาตัวเล็กทอด กุ้งแห้ง กะปิ ผักคะน้า ใบยอ ดอกแค เต้าหู้แข็ง ถั่วแดง และงาดำ โดยทั่วไปการรับประทานอาหารไทยจะได้รับแคลเซียมประมาณ 400-500 มิลลิกรัมต่อวัน หรือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งที่ร่างกายควรได้รับ จึงควรดื่มนมเสริม แต่หากไม่ได้รับแคลเซียมจากอาหารอย่างเพียงพอ แนะนำให้รับประทานแคลเซียมชนิดเม็ด ซึ่งมีหลักการเลือกผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมดังนี้

ดูตัวยาสำคัญที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ ว่ามีวิตามินอื่นผสมหรือไม่ เพราะหากผสมวิตามินซี หรือวิตามินดีมากเกินไปอาจทำให้เกิดอันตราย

ดูว่าใน 1 เม็ด ให้อนุมูลแคลเซียมเท่าไร เพราะร่างกายต้องการแคลเซียมอย่างน้อยวันละ 800 มิลลิกรัม

ดูว่าผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมอยู่ในรูปแบบใด เนื่องจากแคลเซียมละลายน้ำจะถูกดูดซึมได้ยาก ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมแบบเม็ดฟู่ เพราะจะละลายและดูดซึมได้ดีกว่าแบบธรรมดา

ต้องดูว่าแคลเซียมในผลิตภัณฑ์เป็นเกลือแคลเซียมอะไร เนื่องจากเกลือแคลเซียมแต่ละชนิด จะดูดซึมต่างกันในสภาวะกรดในกระเพาะต่าง ๆ กัน เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต จะดูดซึมได้น้อยลงถ้าผู้ป่วยมีกรดในกระเพาะอาหารน้อย

อย่างไรก็ตาม การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อความปลอดภัย

2. ออกกำลังกายแบบลงน้ำหนัก (weight-bearing exercise) อย่างสม่ำเสมอ

ควรออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที โดยเฉพาะผู้สูงอายุและวัยหมดประจำเดือน เน้นการออกกำลังกายที่ลงน้ำหนัก เช่น เดินไกล วิ่งเหยาะ ๆ รำมวยจีน เต้นรำ เพื่อป้องกันการสูญเสียกระดูก การออกกำลังกายชนิดนี้ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังทำให้กล้ามเนื้อและระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้นด้วย

3. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน

ได้แก่ การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ลดเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ เนื่องจากจะทำให้การดูดซึมแคลเซียมในลำไส้ลดลง ระวังการใช้ยาสเตียรอยด์และยาลูกกลอน ซึ่งมีผลทำให้เกิดกระดูกพรุนมากขึ้นได้

4. ปรึกษาแพทย์เมื่อมีข้อสงสัย เพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสม

ส่งตรวจมวลกระดูกหรือความหนาแน่นของกระดูกในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยง และให้การรักษาเมื่อตรวจพบภาวะโรคกระดูกพรุน

สุดท้ายคงต้องบอกว่า การเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงสามารถทำได้ทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนอายุ 30 ปี เป็นการป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนที่ดีที่สุด และต้องไม่ลืมว่าการออกกำลังกายแต่พอเหมาะ และรับประทานอาหารอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ท่านมีสุขภาพดีไปอีกนาน

Cr. ธรรมลีลา

ด้วยความปรารถนาดีจาก
ดีบูนเน่ DBOONE-by mu
ติดต่อ คุณ หมู
โทร.062-4162659
line:id 0624163659
line:@. https://line.me/R/ti/p/
คลิ๊กดูรายละเอียดเว็บไซค์
www.mrsophon1959.lnwshop.com

โอ้ยปวด โอ้ยเจ็บ...😣😣😣คุณอาจเป็น..โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เอ๊ะ..เกิดจากอะไรได้บ้าง??ทำความรู้จักโรคหมอนรองกระดูกสั...
26/06/2017

โอ้ยปวด โอ้ยเจ็บ...😣😣😣
คุณอาจเป็น..โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
เอ๊ะ..เกิดจากอะไรได้บ้าง??

ทำความรู้จักโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทกันก่อน

🔴สาเหตุเกิดจาก 2 ปัจจัยหลักดังนี้🔴
1.เกิดจากความเสื่อม ของอายุที่เพิ่มขึ้น
ส่วนใหญ่หมอนรองกระดูกที่เสื่อมเอง มีหลายปัจจัยรวมๆ กัน คือ 1.อายุที่เพิ่มขึ้น 2.พันธุกรรม 3.พฤติกรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมเป็นเวลานาน, การเล่นกอล์ฟเล่นเทนนิสแล้วบิดตัวอย่างรวดเร็วผิดจังหวะ, การยกของหนัก, การนั่งขับรถเป็นเวลานาน, ทำงานบ้านที่ต้องก้มๆเงยๆบ่อยๆ

2.เกิดจากอุบัติเหตุ เช่น หกล้มก้นกระแทกพื้น หรืออุบัติที่เกิดแรงกระทำในแนวตรง ก็มีโอกาสให้หมอนรองกระดูกปลิ้นออกมาได้ทั้งสิ้น

โรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท คือการที่หมอนรองกระดูกของเราปลิ้น โป่งออกมาจากแนวกระดูกสันหลังจนไปเบียดทับกับเส้นประสาทรอบๆแนวกระดูกสันหลัง หรือเยื่อหุ้มหมอนรองกระดูกสันหลังอาจฉีกขาดจนทำให้ของเหลวลักษณะคล้ายเจลที่อยู่ภายในไปกดทับเส้นประสาทโดยรอบแนวกระดูกสันหลังนั่นเอง

🐟อาการของโรคหมอนรองกระดูก🐟
อาการกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทระดับหลัง
สาเหตุของอาการเกิดจากการที่ หมอนรองกระดูกปลิ้นหรือแตกจนของเหลวภายในไปเบียดทับเส้นประสาทบริเวณหลังส่วนล่างหรือบริเวณกระดูกสันหลังชิ้นที่ L3 L4 L5 S1 ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาทส่วนเอวไปถึงขา เริ่มแรกผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดหลังบริเวณเอว เป็น ๆ หาย ๆ มาก่อน ซึ่งอาการดังกล่าวจะเป็นมากเวลาทำงาน เช่นยืน ก้มเงย หรือนั่งนาน ๆ และจะดีขึ้นเมื่อได้นอนพัก ต่อมาจึงปรากฎอาการสำคัญที่บ่งบอกว่าหมอนรองกระดูกสันหลังเกิดโป่งขึ้นมากดทับเส้นประสาทคืออาการปวดหลังรุนแรงอย่างเฉียบพลัน และมีอาการปวดร้าวลงมาที่ขา น่อง ตาตุ่มหรือเท้า ร่วมกับมีอาการชาขาหรือเท้าด้วย

🐟อาการกระดูกทับสันหลังเส้นประสาทระดับคอ🐟
สาเหตุของอาการเกิดจากการที่ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทบริเวณกระดูกสันหลังชิ้นที่ C3 – C7 ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาทส่วนแขน ซึ่งจะทำให้เกิดอาการชาบริเวณฝ่ามือเริ่มจากปลายนิ้วหรืออาการปวดร้าวที่บริเวณแขน อาจเป็นข้างใดข้างหนึ่ง อาการร่วมของโรคหมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาทคือ การปวดคอ ปวดเมื่อยบริเวณสะบักเรื้อรังและการไม่สามารถเคลื่อนไหวคอได้อย่างอิสระ

!!ทำไมอยู่ดีๆ หมอนรองกระดูกถึงปลิ้นหรือ
โป่งจนแตกออกได้
➡ จริงๆแล้วอาการหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท มักเริ่มพบในวัยหนุ่มสาวที่เป็นวัยทำงาน ช่วงอายุ 20-40 ปี ซึ่งสาเหตุเกิดจากการเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลังตามอายุและการใช้งานตามปรกติซึ่งถูกกดทับจากน้ำหนักร่างกายและการทำกิจวัตรประจำวันของเรา ทำให้หมอนรองกระดูกมีอาการอ่อนแอจนปลิ้นออก หรือเส้นใยที่เป็นผนังหุ้มเนื้อหมอนรองกระดูกฉีกขาดบางส่วนอยู่ก่อน
บางรายปลิ้นออกมาก ถึงแม้ยังไม่แตกแต่ก็ไปเบียดทับกับเส้นประสาทโดยรอบจนมีอาการปวดอย่างเฉียบพลันและเรื้อรัง
หรือบางรายเนื่องจากหมอนรองกระดูกมีความอ่อนแออยู่ก่อนแล้ว ต่อมาเมื่อมีแรงมากระทำต่อกระดูกสันหลังอย่างรวดเร็ว เช่นก้มหลัง ยกของหนัก จะทำให้เกิดความดันในหมอนรองกระดูกสันหลังเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เนื้อในของหมอนรองกระดูกสันหลัง เกิดดันและโป่งออกมาตามรอยฉีกขาดของผนังหุ้มหมอนรองกระดูก และกดทับต่อเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียง

ผู้ป่วยจะมีอาการปวดมากหรือปวดน้อยขึ้นอยู่ว่ากดมากหรือน้อยเป็นสำคัญ ถ้าทิ้งไว้นานเส้นประสาทจะทำงานได้น้อยลง กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง เดินและควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ อาจถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต ดังนั้นเมื่อมีอาการปวดหลังและร้าวลงขา

💪จะดีกว่ามั้ยถ้าคุณมีตัวช่วย💪
✔ปลอดภัย 100% ฟื้นฟูโดยไม่พึ่งเคมี
- ไม่ต้องผ่า (ไม่เจ็บตัว)
- ไม่มีสเตรียรอยด์
- ไม่มีผลข้างเคียง
- ไม่ต้องทนปวด

!!!.. 😵 😵จะทนปวด...อยู่ทำไม 😵 😵...!!!
อีกทางเลือกของการฟื้นฟูกระดูกด้วยสารสกัดจากธรรมชาติปลอดภัยเห็นผลในระยะเวลาสั้นๆ!!!
🔉ท่านที่ทำงานหนัก ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ ชานิ้วมือ นิ้วล็อค
หมอนรองกระดูกเสื่อม หมอนรองกระดูกทรุด 🔉ข้อเข่าเสื่อม รูมาตอยด์
💪ดีบูน นวัตกรรมใหม่ในการดูแลกระดูกและข้อ เห็นผลไว
🌿ช่วยบรรเทาอาการปวดจากข้ออักเสบ
🌿ผู้ที่มีปัญหา ปวดหลัง ปวดคอ 🌿ปวดไหล่ ปวดตามข้อ รูมาตอยด์
🌿ป้องกันภาวะกระดูกบาง กระดูกพรุน
🌿วัยหมดประจำเดือน
🌿นักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา เช่น เอ็นร้อยหวายอักเสบ
🌿ผู้ที่ต้องการความสูง

🎯ส่วนประกอบที่สำคัญ
1.คอลลาเจนจากปลาทะเล
2.กระดูกอ่อนปลาฉลาม
3.แคลเซียม
4.สารสกัดจากเปลือกสน
5.สารสกัดจากขมิ้น
6.วิตามินซี
7.วิตามินดี 3
✔เลขที่ อ.ย. 10-1-15456-10006
✔บริการดุจญาติมิตรด้วยจิตและรรยาบรรณ


โทรติดต่อสอบถาม
062-6244-556,062-4162659 อิมค่ะ

😍มีบริการเก็บเงินปลายทางหน้าบ้าน
😍คลิ๊กแชทสอบถามในไลน์
https://line.me/R/ti/p/
www.dboonnp.lnwshop.com

***แจ้งข่าวดี !!!!***สินค้าใหม่  " Alpha G " มีจำหน่ายแล้ว วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1-2 เม็ด (เม็ด 1,000 mg.) วันล...
26/06/2017

***แจ้งข่าวดี !!!!***
สินค้าใหม่ " Alpha G " มีจำหน่ายแล้ว

วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1-2 เม็ด (เม็ด 1,000 mg.) วันละ 1 ครั้ง

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Age-Reverse Gene Recovery
Proprietary gene expression dietary supplement

เนื่องมาจากการทำงานของยีน ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้น เผชิญกับมลภาวะต่างๆ จะส่งผลให้ยีนมีการแสดงออกที่เปลี่ยนไป บางยีนทำงานมากขึ้น บางยีนทำงานน้อยลง นั้นก็หมายความว่ายีนนั้นเสื่อมสภาพไป แต่ด้วยกลไกการทำงานของ ADM supplement จะทำให้ยีนที่เสื่อมสภาพและทำงานผิดปกติไปจากเดิม กลับมาทำงานได้เหมือนยีนตอนเป็นหนุ่มสาว

ปัจจัยที่มีบทบาทต่อการเกิดริ้วรอย ได้แก่
-Telomere shortening เทโลเมียร์ กุญแจดอกสำคัญที่จะนำเราไปสู่การไขความลับของกระบวนการเสื่อมชรา ทุกๆครั้งที่เซลล์มีการแบ่งตัว เทโลเมียร์จะสั้นลง ระบบการทำงานในร่างกายจะเสื่อมถอยลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น หากเปรียบร่างกายเราเป็นขวดน้ำที่มีน้ำบรรจุอยู่เต็ม ทุกครั้งที่เปิดจุกน้ำจะไหลออกและปริมาณน้ำในขวดจะลดลงเรื่อยๆจนหมด เปรียบเหมือนกะเราอายุมากขึ้น เทโลเมียก็จะสั้นลงจนไม่สามารถที่จะแบ่งตัวได้อีกต่อไปและทำให้เราหมดอายุขัยลงในที่สุด ดังนั้นความยาวจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเร็วหรือช้าในการเสื่อม เมื่อเทโลเมียร์มาจนถึงจุดวิกฤติ มันจะก่อให้เกิดความตายหรือโรคต่างๆ
-Chronological age ริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น
-Oxidative stress หรือ การที่เซลล์ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ เป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่เร่งการที่ผิวหนังดูสูงวัย oxidative stress เกิดขึ้นจากไลฟ์สไตล์และสารบางชนิดที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งทำร้ายโครงสร้างของเซลล์ผิว ทำให้ผิวอ่อนแอและมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย และสูญเสียความหนาแน่นได้
- Glycation การรับประทานของหวานในปริมาณมากเป็นประจำ นั้นส่งผลให้ ร่างกายมีระดับนํ้าตาลในเลือดสูง ก่อให้เกิดปฏิกิริยาไกลเคชั่น (Glycation) อันเป็นสาเหตุของความชราก่อนวัยอันควร
เนื่องจากโมเลกุลของนํ้าตาลที่เรารับประทานเข้าไปจะไปเกาะติดกับโปรตีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของอวัยวะรวมถึงเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย ก่อให้เกิดสารตัวหนึ่งที่เรียกว่า AGEs (Advanced Glycation End-Products ) เมื่อสารตัวนี้ผ่านเข้าสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกายก็จะส่งผลให้เซลล์บริเวณนั้นตายหรือเสื่อมสมรรถภาพในการทำ งานลง จากการวิจัยพบว่า AGEs เป็นตัวทำลายคอลลาเจนรวมไปถึงใยโปรตีนในผิวหนัง ส่งผลให้เกิดริ้วรอยและมีจุดด่างดำ ตามมา
ต้องสินค้าและเป็นตัวแทนจำหน่าย
อย่าลืมแชร์เพื่อเป็นวิทยาทาน

🌸สนใจสั่งซื้อสินค้าหรือปรึกษาปัญหาฟรี🌸
☎ทางโทรศัพท์ คุณหมู 062-6244556
📲 ทางไลน์ ID: -im

✨คลิ๊กลิงค์เพื่อแอดไลน์✨
📮 Lineส่วนตัว: http://line.me/ti/p/-im

D-Boon (ดีบูน)อาหารเสริมที่มียอดขายสูงสุดทั้งในยุโรปและอเมริกา ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกระดูกและข้อต่อด้วยส่วนผสมที...
24/06/2017

D-Boon (ดีบูน)
อาหารเสริมที่มียอดขายสูงสุดทั้งในยุโรปและอเมริกา ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกระดูกและข้อต่อ

ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวเพื่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนรอบๆข้อต่อ เอ็นร้อยหวาย และเอ็นยึดข้อ ข้ออักเสบ กระดูกพรุน กระดูกทับเส้นประสาท ปวดเมื่อย ไหล่ บ่า คอ ชาแขน ชาขา หมอนรองกระดูก รูมาตอยด์ โรคเก๊าท์ นิ้วล็อค ของคุณด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียง

*ส่วนประกอบสำคัญ คุณประโยชน์
1. คอลาเจนจากปลาทะเล เป็นสารเคลือบผิวกระดูกอ่อนกระดูกและอวัยวะต่างๆของร่างกาย
2. กระดูกอ่อนปลาฉลาม สารสกัดจากกระดูกอ่อนของครีบปลาฉลาม เสริมเยื้อเมือก ลดการเสียสีของกระดูกบริเวณข้อ ช่วยในการคงสภาพของน้ำไขข้อกระดูก บรรเทาและฟื้นฟูอาการ ข้ออักเสบ ข้อเสื่อม
3. แคลเซี่ยม แคลเซี่ยมสกัดจากไข่มุกทะเลเสริมสร้างและเชื่อมต่อกระดูกอ่อนได้ดีมาก
4. สารสกัดจากเปลือกสน เป็นแหล่งธรรมชาติของสารอาหารซัลเฟอร์ที่สร้างความแข็งแรงให้กับไขข้อ กระดูก เป็นองค์ประกอบของการสังเคราะห์สารคอลลาเจนในข้อ
5. สารสกัดจากขมิ้น ช่วยบรรเทาอาการปวดจากไขข้ออักเสบ
6. วิตามินซี . วิตามินดี 3 ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่เซลล์ร่างกาย

เลขที่ อย 10-1-15456-1-0006

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
คุณหมู 062-4162659.
ไลน์I:. 0624162459
ลิ้งค์ไลน์:
คลิกเว็บไซค์
www.mrsophon1959.lnwshop.com

โอ้ยปวด โอ้ยเจ็บ...😣😣😣คุณอาจเป็น..โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เอ๊ะ..เกิดจากอะไรได้บ้าง??ทำความรู้จักโรคหมอนรองกระดูกสั...
23/06/2017

โอ้ยปวด โอ้ยเจ็บ...😣😣😣
คุณอาจเป็น..โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
เอ๊ะ..เกิดจากอะไรได้บ้าง??

ทำความรู้จักโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทกันก่อน

🔴สาเหตุเกิดจาก 2 ปัจจัยหลักดังนี้🔴
1.เกิดจากความเสื่อม ของอายุที่เพิ่มขึ้น
ส่วนใหญ่หมอนรองกระดูกที่เสื่อมเอง มีหลายปัจจัยรวมๆ กัน คือ 1.อายุที่เพิ่มขึ้น 2.พันธุกรรม 3.พฤติกรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมเป็นเวลานาน, การเล่นกอล์ฟเล่นเทนนิสแล้วบิดตัวอย่างรวดเร็วผิดจังหวะ, การยกของหนัก, การนั่งขับรถเป็นเวลานาน, ทำงานบ้านที่ต้องก้มๆเงยๆบ่อยๆ

2.เกิดจากอุบัติเหตุ เช่น หกล้มก้นกระแทกพื้น หรืออุบัติที่เกิดแรงกระทำในแนวตรง ก็มีโอกาสให้หมอนรองกระดูกปลิ้นออกมาได้ทั้งสิ้น

โรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท คือการที่หมอนรองกระดูกของเราปลิ้น โป่งออกมาจากแนวกระดูกสันหลังจนไปเบียดทับกับเส้นประสาทรอบๆแนวกระดูกสันหลัง หรือเยื่อหุ้มหมอนรองกระดูกสันหลังอาจฉีกขาดจนทำให้ของเหลวลักษณะคล้ายเจลที่อยู่ภายในไปกดทับเส้นประสาทโดยรอบแนวกระดูกสันหลังนั่นเอง

🐟อาการของโรคหมอนรองกระดูก🐟
อาการกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทระดับหลัง
สาเหตุของอาการเกิดจากการที่ หมอนรองกระดูกปลิ้นหรือแตกจนของเหลวภายในไปเบียดทับเส้นประสาทบริเวณหลังส่วนล่างหรือบริเวณกระดูกสันหลังชิ้นที่ L3 L4 L5 S1 ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาทส่วนเอวไปถึงขา เริ่มแรกผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดหลังบริเวณเอว เป็น ๆ หาย ๆ มาก่อน ซึ่งอาการดังกล่าวจะเป็นมากเวลาทำงาน เช่นยืน ก้มเงย หรือนั่งนาน ๆ และจะดีขึ้นเมื่อได้นอนพัก ต่อมาจึงปรากฎอาการสำคัญที่บ่งบอกว่าหมอนรองกระดูกสันหลังเกิดโป่งขึ้นมากดทับเส้นประสาทคืออาการปวดหลังรุนแรงอย่างเฉียบพลัน และมีอาการปวดร้าวลงมาที่ขา น่อง ตาตุ่มหรือเท้า ร่วมกับมีอาการชาขาหรือเท้าด้วย

🐟อาการกระดูกทับสันหลังเส้นประสาทระดับคอ🐟
สาเหตุของอาการเกิดจากการที่ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทบริเวณกระดูกสันหลังชิ้นที่ C3 – C7 ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาทส่วนแขน ซึ่งจะทำให้เกิดอาการชาบริเวณฝ่ามือเริ่มจากปลายนิ้วหรืออาการปวดร้าวที่บริเวณแขน อาจเป็นข้างใดข้างหนึ่ง อาการร่วมของโรคหมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาทคือ การปวดคอ ปวดเมื่อยบริเวณสะบักเรื้อรังและการไม่สามารถเคลื่อนไหวคอได้อย่างอิสระ

!!ทำไมอยู่ดีๆ หมอนรองกระดูกถึงปลิ้นหรือ
โป่งจนแตกออกได้
➡ จริงๆแล้วอาการหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท มักเริ่มพบในวัยหนุ่มสาวที่เป็นวัยทำงาน ช่วงอายุ 20-40 ปี ซึ่งสาเหตุเกิดจากการเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลังตามอายุและการใช้งานตามปรกติซึ่งถูกกดทับจากน้ำหนักร่างกายและการทำกิจวัตรประจำวันของเรา ทำให้หมอนรองกระดูกมีอาการอ่อนแอจนปลิ้นออก หรือเส้นใยที่เป็นผนังหุ้มเนื้อหมอนรองกระดูกฉีกขาดบางส่วนอยู่ก่อน
บางรายปลิ้นออกมาก ถึงแม้ยังไม่แตกแต่ก็ไปเบียดทับกับเส้นประสาทโดยรอบจนมีอาการปวดอย่างเฉียบพลันและเรื้อรัง
หรือบางรายเนื่องจากหมอนรองกระดูกมีความอ่อนแออยู่ก่อนแล้ว ต่อมาเมื่อมีแรงมากระทำต่อกระดูกสันหลังอย่างรวดเร็ว เช่นก้มหลัง ยกของหนัก จะทำให้เกิดความดันในหมอนรองกระดูกสันหลังเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เนื้อในของหมอนรองกระดูกสันหลัง เกิดดันและโป่งออกมาตามรอยฉีกขาดของผนังหุ้มหมอนรองกระดูก และกดทับต่อเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียง

ผู้ป่วยจะมีอาการปวดมากหรือปวดน้อยขึ้นอยู่ว่ากดมากหรือน้อยเป็นสำคัญ ถ้าทิ้งไว้นานเส้นประสาทจะทำงานได้น้อยลง กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง เดินและควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ อาจถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต ดังนั้นเมื่อมีอาการปวดหลังและร้าวลงขา

💪จะดีกว่ามั้ยถ้าคุณมีตัวช่วย💪
✔ปลอดภัย 100% ฟื้นฟูโดยไม่พึ่งเคมี
- ไม่ต้องผ่า (ไม่เจ็บตัว)
- ไม่มีสเตรียรอยด์
- ไม่มีผลข้างเคียง
- ไม่ต้องทนปวด

!!!.. 😵 😵จะทนปวด...อยู่ทำไม 😵 😵...!!!
อีกทางเลือกของการฟื้นฟูกระดูกด้วยสารสกัดจากธรรมชาติปลอดภัยเห็นผลในระยะเวลาสั้นๆ!!!
🔉ท่านที่ทำงานหนัก ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ ชานิ้วมือ นิ้วล็อค
หมอนรองกระดูกเสื่อม หมอนรองกระดูกทรุด 🔉ข้อเข่าเสื่อม รูมาตอยด์
💪ดีบูน นวัตกรรมใหม่ในการดูแลกระดูกและข้อ เห็นผลไว
🌿ช่วยบรรเทาอาการปวดจากข้ออักเสบ
🌿ผู้ที่มีปัญหา ปวดหลัง ปวดคอ 🌿ปวดไหล่ ปวดตามข้อ รูมาตอยด์
🌿ป้องกันภาวะกระดูกบาง กระดูกพรุน
🌿วัยหมดประจำเดือน
🌿นักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา เช่น เอ็นร้อยหวายอักเสบ
🌿ผู้ที่ต้องการความสูง

🎯ส่วนประกอบที่สำคัญ
1.คอลลาเจนจากปลาทะเล
2.กระดูกอ่อนปลาฉลาม
3.แคลเซียม
4.สารสกัดจากเปลือกสน
5.สารสกัดจากขมิ้น
6.วิตามินซี
7.วิตามินดี 3
✔เลขที่ อ.ย. 10-1-15456-10006
✔บริการดุจญาติมิตรด้วยจิตและรรยาบรรณ


โทรติดต่อสอบถาม
062-6244-556 อิมค่ะ

😍มีบริการเก็บเงินปลายทางหน้าบ้าน
😍คลิ๊กแชทสอบถามในไลน์
https://line.me/R/ti/p/
www.dboonnp.lnwshop.com

ที่อยู่

Bangkok
10510

เบอร์โทรศัพท์

0624162659

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ดีบูนDboon by muผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง ดีบูนDboon by mu:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram