Coach note

Coach note Contact information, map and directions, contact form, opening hours, services, ratings, photos, videos and announcements from Coach note, ร้านจำหน่ายอาหารเสริมวิตามิน, อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ เลขที่ 33/4 อาคาร A ชั้น 17, .

10/05/2017

ตอนนี้ใครเล่น Face,Line,IG อยู่บ้างครับ

ถ้าเล่นแล้วได้ตัง.....สนไหม???

แล้วถ้าสอนฟรีละ....สนไหม ???

ผู้ชายคนนี้ชื่อพี่ต่าย ภคพงษ์ ครับ

ตอนนี้พี่ต่ายทำธุรกิจ Online จากมือถือเครื่องเดียว

4ปี รับ 40ล้าน อยากรู้เคล็บลับจากพี่ต่ายไหม

อยากรู้คลิก

ลงทะเบียน/ดูรายละเอียดคลิก-->https://goo.gl/forms/I1oTupvZdXbun4hI3

ปัจจุบันคนเราหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ทั้งการเลือกกินอาหารเพื่อสุขภาพ การกินวิตามินเสริมต่างๆ ออกกำลังกาย เล่นโย...
28/04/2017

ปัจจุบันคนเราหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ทั้งการเลือกกินอาหารเพื่อสุขภาพ การกินวิตามินเสริมต่างๆ ออกกำลังกาย เล่นโยคะ ฯลฯ ซึ่งวันนี้คอลัมน์ “ศุกร์สุขภาพ” ก็มีเคล็ดลับการดูแลสุขภาพแบบง่ายๆ มาฝากกัน เพียงแค่ปฏิบัติตามหลัก “3 อ. 2 ส.” ซึ่งได้แก่ อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย ไม่ดื่มสุรา และไม่สูบบุหรี่ โดยมีหลักการ ดังนี้
อาหาร เริ่มจากการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อ นอกจากนี้ควรลดอาหารหวานโดยการชิมก่อนปรุง อ่านฉลากก่อนซื้อ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน และขนมหวาน เพราะการกินหวานมากเกินไป ?ร่างกายไม่สามารถใช้พลังงานได้หมดและเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมตามอวัยวะต่างๆ ส่งผลให้อ้วน และเกิดโรคอื่นๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด
งดกินเค็ม เพราะการกินโซเดียมหรืออาหารรสเค็มมากเกินไป ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งจะทำให้มีโรคแทรกซ้อนตามมา เช่น เส้นเลือดในสมองแตก ไตวาย เป็นต้น เราควรได้รับปริมาณของโซเดียมไม่เกิน 2,400 มิลลิกรัมต่อวันหรือเท่ากับ 1 ช้อนชา จึงควรลดการเติมเครื่องปรุงรสเค็ม หลักเลี่ยงการกินอาหารแปรรูป เช่น ผักผลไม้ดอง ไข่เค็ม ไส้กรอก ปลาร้า งดกินอาหารสำเร็จรูปทุกชนิด ตลอดจนขนมขบเคี้ยวต่างๆ และอ่านฉลากก่อนซื้ออาหารแปรรูปและสำเร็จรูป
อารมณ์ เป็นเรื่องทางใจที่ทุกคนต้องให้ความใส่ใจไปไม่น้อยกว่าสุขภาพกาย เพราะหากใจป่วยแล้วก็จะทำให้กายพลอยป่วยไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่าความเครียดนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่หากเราเครียดในระดับพอดี จะช่วยกระตุ้นให้เรามีพลังที่จะเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้ดีขึ้น
หากรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเครียด ควรรีบจัดการแก้ปัญหานั้นให้เร็วที่สุด โดยไม่ควรใช้อารมณ์ อย่าหนีปัญหา อย่าคิดโทษตัวเอง หรือโยนความผิดให้คนอื่น แต่ควรใช้เหตุผลคิดพิจารณาก่อนแล้วจึงลงมือแก้ปัญหา และพยายามมองโลกในแง่ดี
นอกจากนี้ยังควรพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ เล่นดนตรี ท่องเที่ยว หรือเลือกทำกิจกรรมที่ตนเองชื่นชอบ ก็จะช่วยคลายความเครียดลงได้
ออกกำลังกาย การออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ทั้งทางร่างกายและยังช่วยให้จิตใจร่าเริงแจ่มใส คลายเครียดได้อีกด้วย คุณสามารถเลือกออกกำลังกายที่คุณชื่นชอบหรือถนัด โดยควรออกกำลังกายครั้งละ 30 นาทีขึ้นไป และทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน
ไม่ดื่มสุรา เพราะการดื่มสุรามีโทษต่อร่างกายหลายอย่าง ทั้งระบบประสาท สมอง หัวใจ สูญเสียการทรงตัว ความทรงจำ เป็นแผลในกระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะบวม ตับอ่อนอักเสบ ตับแข็ง และนำไปสู่การเป็นโรคมะเร็งตับ สตรีตั้งครรภ์ หากดื่มสุราก็จะทำให้ลูกพิการ ส่งผลเสียต่อสังคม เพราะการดื่มสุราจะออกฤทธิ์กดระบบประสาท ทำให้การตัดสินใจบกพร่อง และก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เป็นอันตรายต่อตัวเองและคนรอบข้าง การไม่ดื่มสุราจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ในกรณีของคนไข้ หากเลิกสุราได้ก็จะทำให้มีสุขภาพดีขึ้น
ไม่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่นั้นเป็นอันตรายอย่างมาก กล่าวคือ ทำให้ผมร่วง สมองฝ่อ ต้อกระจก ฟันผุ ผิวหนังอักเสบ แผลในกระเพาะอาหาร เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เสี่ยงต่อโรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็งปอด นอกจากนี้ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับคนที่สูบบุหรี่เป็นเวลานาน ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับบุหรี่ด้วยเช่นกัน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดบุหรี่ ก็ควรเลิกเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง และคนที่คุณรัก หากต้องการปรึกษาและขอคำแนะนำโทร. 1600
เห็นความสำคัญของหลัก “3 อ.2 ส.” กันแล้ว หากทุกคนปฏิบัติตามได้ครบถ้วน ก็จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ

อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ

28/04/2017
เมื่อพูดถึงโรคลมชัก คนส่วนใหญ่จะนึกถึงโรคลมบ้าหมูที่ผู้มีอาการชักนั้นจะชักเกร็งกระตุก หมดสติและมีการกัดลิ้น ต้องให้การช่...
27/04/2017

เมื่อพูดถึงโรคลมชัก คนส่วนใหญ่จะนึกถึงโรคลมบ้าหมูที่ผู้มีอาการชักนั้นจะชักเกร็งกระตุก หมดสติและมีการกัดลิ้น ต้องให้การช่วยเหลือด้วยการกดตรึงแขน ขาไม่ให้ชัก ต้องรีบหาวัสดุแข็งๆ งัดปาก เพื่อไม่ให้กัดลิ้น ซึ่งต้องบอกว่าความคิดดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง วันนี้เรามาทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับโรคลมชัก ดังนี้
1.อาการชักนั้นมีหลายแบบไม่ใช่การชักแบบลมบ้าหมูเพียงอย่างเดียว การชักแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ การชักแบบเฉพาะส่วนของร่างกายแต่ไม่หมดสติ ซึ่งอาจชักแบบเกร็งหรือกระตุกเฉพาะส่วนของร่างกาย แบบพฤติกรรมผิดปกติ และอาจลุกลามเป็นทั้งตัวจนหมดสติ การชักกลุ่มที่สองเป็นการชักแบบทั้งตัว และไม่รู้สติ ประกอบด้วยการชักแบบลมบ้าหมู การชักแบบกระตุกทั้งตัวครั้งเดียว การชักแบบเกร็งทั้งตัว การชักแบบกระตุกทั้งตัว การชักแบบล้มลงทันที และการชักแบบนิ่ง เหม่อลอย (absence seizure)ดังนั้นถ้าเราเข้าใจผิดว่าการชักมีแบบลมบ้าหมูเพียงอย่างเดียว ผู้มีอาการชัก รูปแบบอื่นๆ ก็จะไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม
2.การชักเกิดจากความผิดปกติของกระแสไฟฟ้าในสมองขึ้นมาเป็นครั้งคราวจึงมีลักษณะเป็นๆ หายๆ และทุกครั้งที่มีอาการ ก็จะมีอาการคล้ายกัน โดยการชักนั้นมีสาเหตุเนื่องจากมีความผิดปกติในสมอง ทั้งแบบที่ตรวจหาสาเหตุพบ และหาสาเหตุไม่พบ โดยสาเหตุนั้นก็แตกต่างกันตามกลุ่มอายุ เช่น เด็กแรกเกิด สาเหตุที่พบบ่อย คือ เกี่ยวกับการคลอด การติดเชื้อในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ กลุ่มช่วงอายุวัยรุ่น สาเหตุที่พบบ่อย คือ อุบัติเหตุที่ศีรษะ การติดเชื้อระบบประสาท ถ้าเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ สาเหตุที่พบบ่อย คือ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเนื้องอกสมอง เป็นต้น
3.การวินิจฉัยว่าใครมีอาการชัก หรือเป็นโรคลมชักหรือไม่ แพทย์จะใช้ข้อมูลจากอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นเป็นหลัก ว่ามีลักษณะเข้าได้กับอาการชักหรือไม่ บางครั้งก็มีความจำเป็นต้องส่งตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง เพื่อยืนยันว่าเป็นอาการชักหรือไม่ โดยไม่จำเป็นต้องส่งตรวจทุกคนที่มีอาการผิดปกติ เมื่อแพทย์ให้การวินิจฉัยว่าเป็นอาการชักแล้ว ก็จะต้องตรวจหาสาเหตุการชักต่อไป โดยการส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง หรือการตรวจแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (เอ็มอาร์ไอ) รวมทั้งการตรวจเลือดเพื่อหาสาเหตุการชักตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย
4.การรักษาโรคลมชัก ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยจะได้รับการรักษาด้วยยากันชักเกือบทุกคน ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยากันชัก จะตอบสนองต่อการรักษาด้วยยากันชัก ชนิดเดียวสูงถึงร้อยละ 65 และอีกร้อยละ 20 ถึง 25 ต้องใช้ยากันชักมากกว่าหนึ่งชนิด ผู้ป่วยส่วนหนึ่งเท่านั้นที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดสมอง
5.การรักษาด้วยยากันชักนั้น ต้องทานยากันชักต่อเนื่องประมาณ 3-5 ปี คืออย่างน้อยเป็นระยะเวลานาน 24 เดือนหรือ 2 ปีนับตั้งแต่อาการชักควบคุมได้ เมื่อควบคุมอาการชักได้ดี ก็จะค่อยลดยากันชัก จนหยุดยาได้ภายในระยะเวลา 4-6 เดือนโดยประมาณ
6.การช่วยเหลือผู้ที่มีอาการชักนั้น กรณีเป็นการชักแบบลมบ้าหมู คือ การป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการชัก จับผู้ป่วยนอนลง ตะแคงศีรษะด้านข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสำลักน้ำลาย หรืออาหาร ไม่ควรงัดปาก หรือกด ยึดตรึงแขน ขาให้หยุดชัก เพราะยิ่งก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ กรณีการชักแบบพฤติกรรมผิดปกติแบบเดินไปมา ไม่สามารถควบคุมสติได้นั้น เพียงแค่เดินประคองผู้ป่วยไม่ให้เดินไปบริเวณที่อาจเกิดอันตรายได้ เช่น แหล่งน้ำ ถนน ที่สูง ไม่ควรจับตัวผู้ป่วยเขย่า หรือเรียกเสียงดังๆ อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการชักรุนแรงขึ้นได้ และไม่ควรนำยา มะนาว พริกใส่ปากผู้ป่วยขณะมีอาการชัก
7.กรณีผู้ป่วยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากการชัก หรือชักนานกว่าปกติ ชักนานกว่า 5 นาที หรือหลังจากหยุดชักแล้วไม่ฟื้นคืนสติดี ควรรีบนำส่งโรงพยาบาล การชักทุกครั้ง ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิก และไม่ควรให้ผู้ป่วยทานยากันชักเพิ่มเองทุกครั้งหลังการชัก เพราะจะทำให้เกิดปัญหาได้รับยาเกินขนาดได้8.ปัจจัยกระตุ้นหรือสิ่งที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการชักได้บ่อยขึ้น ได้แก่ การขาดยากันชัก การทานยากันชักไม่ตรงเวลา ไม่สม่ำเสมอ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การอดนอน นอนดึก นอนไม่พอ ความเครียด การออกกำลังกายอย่างหนัก การมีรอบประจำเดือน อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากดังนั้นผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นข้างต้น เพื่อที่จะได้ไม่มีอาการชัก
9.ผู้มีอาการชักที่ทานยากันชักสามารถแต่งงาน มีเพศสัมพันธ์ได้ เพียงแต่ต้องมีการพูดคุยกับแพทย์ผู้ให้การรักษาเกี่ยวกับการวางแผนครอบครัว เนื่องจากยากันชักอาจส่งผลให้เกิดความพิการของทารกในครรภ์ตั้งแต่กำเนิดได้ และถ้ามีบุตรก็สามารถให้นมบุตรได้ ถึงแม้ยาจะผ่านออกมาทางน้ำนม แต่เป็นปริมาณที่ต่ำมาก ไม่ส่งผลเสียต่อทารกที่ดื่มนมแม่
10.การพบแพทย์ควรพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ ถ้าไม่พร้อมก็ควรแจ้งให้แพทย์ พยาบาลทราบ แต่ไม่ควรขาดยา หรือขาดการรักษาไปเลย และไม่แนะนำให้ซื้อยากันชักทานเองโดยไม่ได้พบแพทย์เลย กรณีที่มีปัญหาสงสัยแพ้ยา เช่น ผื่นขึ้น มีไข้ แผลในปาก เซ ซึม ให้รีบพบแพทย์ก่อนนัดได้ กรณีมีอาการชักหลายครั้งใน 1 วัน หรือชักบ่อยๆ รุนแรงมากขึ้นก็สามารถพบแพทย์ก่อนนัดได้ ถ้าเจ็บป่วยด้วยปัญหาสุขภาพอื่นๆ ควรแจ้งให้แพทย์ผู้ทำการรักษาทราบด้วยว่าเราเป็นโรคลมชัก ทานยากันชักชนิดเม็ดอยู่ เพื่อป้องกันปัญหาการตีกันของยา
โรคลมชักไม่อันตรายอย่างที่คิด สามารถรักษาให้หายขาดได้ เพียงแค่ท่านรู้ เข้าใจและปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องในการรักษาโรคลมชัก

การรับประทานคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอจะกระตุ้นให้ร่างกายต้องการแป้งเพิ่มมากขึ้น หรือเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวได้โดยไม่รู้ตัว กระทั...
27/04/2017

การรับประทานคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอจะกระตุ้นให้ร่างกายต้องการแป้งเพิ่มมากขึ้น หรือเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวได้โดยไม่รู้ตัว กระทั่งในปีที่ผ่านมา "คาร์โบไฮเดรตได้กลายเป็นศัตรูของการกิน หรือทำลายสุขภาพเป็นอย่างมาก" แต่มันถึงเวลาที่เราทุกคนต้องหันกลับไปบริโภคอาหารกลุ่มนี้อีกครั้ง
"เคต" เทรนเนอร์สอนออกกำลังกาย และนักโภชนาการชาวสกอต กล่าวว่า "ร่างกายของมนุษย์ต้องการคาร์โบไฮเดรต เพราะเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย และระบบโครงสร้างภายในของแป้งที่ซับซ้อนกันจะประกอบด้วยกากใยและเส้นใยอาหารที่ช่วยป้องกันโรคต่างๆ และทำให้ผู้บริโภครู้สึกอิ่มได้นานมากขึ้น"
อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำได้รับความนิยมในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และถึงแม้ว่าคนในหลายประเทศจะนิยมลดปริมาณพลังงานในร่างกายด้วยการเลือกรับประทานแป้งน้อยลง แต่ก็ไม่ได้แนะนำให้ตัดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตออกไปเลย
แม้ว่า การบริโภคพิซซ่าในปริมาณมากเกินไปจะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคควรหลีกเลี่ยง แต่ "เคต" นักโภชนาการได้ออกมาบอกว่าเจ้าตัวไม่เชื่อว่าปริมาณพลังงานที่ได้จากอาหารฟาสต์ฟู้ดเหล่านั้นจะให้พลังงานสูงกว่าคาร์โบไฮเดรตที่ได้มาจากการกลั่น หรือคาร์โบไฮเดรตที่ได้จาก "อาหารแปรรูป" ซึ่งปริมาณแป้งที่ได้กลุ่มหลังนั้นมีข้อมูลระบุว่าเป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดโรคอ้วน, เบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมองและโรคมะเร็ง
สำหรับ คนรักสุขภาพที่มองหาอาหารกลุ่มพลังงานที่ใช่ แนะนำว่าให้เปลี่ยนมาบริโภค ข้าวกล้องและขนมปังธัญพืช, มันฝรั่งหวานที่อุดมไปด้วยวิตามิน, เมล็ดคิวนัว, ข้าวบาร์เลย์ เพราะอย่าลืมว่าคาร์โบไฮเดรตในกลุ่มอาหารที่กล่าวมาเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งยังช่วยสร้างสมดุลให้ร่างกายของคุณ
ต่อไปนี้เป็นวิธีสังเกตว่าคุณได้รับ "คาร์โบไฮเดรต" เพียงพอต่อร่างกายหรือไม่?
1.คุณรู้สึกเบื่ออาหารอยู่เสมอ
เราจำเป็นต้องกินคาร์โบไฮเดรตเพื่อให้พลังงานกับร่างกาย เพราะร่างกายของเราต้องทำงานหนักเพื่อปรับเปลี่ยนไขมันและดึงเอาโปรตีนที่มีประโยชน์มาใช้งาน เพราะหากเราได้รับพลังงานจากแป้งที่ต่ำ หรือกินแป้งน้อย คุณจะตื่นเช้าแบบเพลียๆ ไม่กระตือรือร้น และคุณจะรู้สึกง่วงตลอดทั้งวัน แต่จะหายก็เมื่อได้นอนหลับสนิทเท่านั้น
2.คุณไม่ควบคุมน้ำหนัก
แม้ในระยะยาวการบริโภคอาหารพลังงานต่ำจะทำให้คุณสามารถควบคุมน้ำหนักตัวได้ แต่นักโภชนาการเตือนว่า "องค์ประกอบสำคัญของน้ำหนักตัว คือน้ำ ดังนั้นตับอ่อนของคุณจะต้องทำงานหนักขึ้นหากร่างกายต้องสูญเสียน้ำตาลจากภาวะที่ร่างกายบริโภคอาหารที่ให้พลังงานน้อยลง จะกระตุ้นให้ตับอ่อนต้องผลิตน้ำตาลด้วยตัวเอง สรุปได้ว่าเมื่อร่างกายทำงานหนักขึ้น ตับอ่อนจะหลั่งฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยลง (ฮอร์โมนอินซูลินทำหน้าที่เผาผลาญคาร์โบไฮเดรตในร่างกาย) นั่นจึงทำให้น้ำหนักตัวสูงขึ้นนั่นเอง
3.คุณปวดหัวบ่อยๆ
คำถามคือ คุณซื้อยาแก้ปวดศีรษะบ่อยแค่ไหน? เพราะการที่คุณปวดหัวบ่อยนั้นเกิดจากการบริโภคคาร์โบไฮเดรตน้อยเกินไป หรือแม้การบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ หรือ "อาหารแปรรูป" เช่น "พลาสต้า" จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยลงจนกระทั่งทำให้คุณปวดศีรษะนั่นเอง และหากอาการปวดทวีความรุนแรงมากขึ้นก็จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์
4.การจริงจังมากเกินไปจะทำให้ คุณเจ็บป่วย
จากการศึกษาชี้ของ "เคต" บอกไว้ว่า "อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ (อาหารแปรรูป) จะส่งผลต่อความจำของคุณ และทำให้คุณมีสมาธิได้ยากขึ้น ดังนั้นถ้าคุณจริงจังอยู่กับการทำงานมากเกินไป แกกำลังกายที่ทำอยู่
หากคุณกำลังหักโหมกับนะนำว่าให้ลองหาเวลาพักงีบสักครู่บนโต๊ะทำงาน หรือหันมากินอาหารที่อยากกินจะดีต่อสุขภาพของคุณ
5.คุณกำลังฝืนการออกกำลังกายที่ทำอยู่
การออกกำลังกายอะไรสักอย่าง เช่น การเล่นคาร์ดิโอ แต่หากร่างกายของคุณไม่ได้รับคาร์โบไฮเดรตที่เพียงพอ จะทำให้การฝึกซ้อมของคุณมีปัญหา ยกตัวอย่างนักกีฬามืออาชีพที่บางครั้งยังต้องกินอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำเพียงแค่ครั้งคราวเท่านั้น ดังนั้นคนที่ออกกำลังกายทั่วไปที่บริโภคแป้งในปริมาณที่น้อย ก็อาจทำให้ร่างกายมีพลังงานไม่เพียงพอต่อการทำกิจกรรมในแต่ละวันนั่นเอง
6.คุณเกิดอาการชาตามร่างกายตลอดเวลา
ปัญหามือและเท้าชาอาจเป็นสัญญาณที่บอกเกี่ยวกับปัญหาต่อมไทรอยด์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่คุณกินแป้งน้อยลง และการบริโภคคาร์โบไฮเดรตน้อยหรือเลือกกินแต่อาหารสำเร็จรูปอาจทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพในระยะยาว หรือแม้แต่การที่ผู้บริโภคเลือกกินอาหารตามแผนผังการบริโภคอาหาร หรือเลือกควบคุมน้ำหนักตามสูตร "Atkins" (การควบคุมน้ำหนักที่เน้นกินโปรตีนสูง และบริโภคคาร์โบไฮเดรตน้อยลง) ซึ่งได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง และยังทำให้ร่างกายได้รับพลังงานในปริมาณที่ไม่สมดุล ดังนั้นคนรักสุขภาพจึงจำเป็นต้องเลือกบริโภคอาหารให้สอดคล้องกับร่างกาย
7.คุณปล่อยให้ตัวเองหิวมากเกินไป
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ได้บอกเอาไว้ว่า การที่คุณปล่อยให้ตัวเองหิวมากเกินไปอันเนื่องจากการที่คุณจำกัดหรือกินแป้งน้อยลง อาจทำให้เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวได้ง่าย เพราะ "คาร์โบไฮเดรต" มีความสำคัญต่อการผลิตฮอร์โมน "เซโรโทนิน" หรือฮอร์โมนที่ผลิตสารแห่งความสุข ดังนั้นหันกลับมากินแป้งที่อุดมไปด้วยกากใยและเส้นใยอาหารจำนวนมาก จะช่วยปรับอารมณ์ของคุณให้แฮปปี้ได้อีกครั้ง
8.ลมหายใจของคุณดีหรือไม่ดี
การที่คุณพ่นลมหายใจเหม็นออกมา นั่นเป็นผลมาจากการที่ร่างกายใช้ไขมันในการเผาผลาญพลังงาน ซึ่งคุณสามารถทดสอบกลิ่นด้วยการเลียที่ข้อมือ จากนั้นให้รอเป็นเวลา 5 วินาทีแล้วให้คุณลองดม ถ้าหากที่ข้อมือมีกลิ่นเหม็น แปลว่าคุณควรรับประทานคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งให้มากกว่าปกติ ทั้งนี้เพื่อทำให้ลมหายใจที่พ่นออกมาไร้กลิ่นรบกวนใจ ที่สำคัญคุณยังสามารถกำจัดกลิ่นปากได้ด้วยการหมั่นดื่มน้ำเปล่ามากๆ
9.คุณท้องผูก
เคตกล่าวไว้ว่า "คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งอาหารที่ดี เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือกากใยอาหารจำนวนมาก เพราะการที่คุณท้องผูกมาจากการที่คุณลดการบริโภคแป้งลงนั่นเอง จึงทำให้ปฏิเสธกากใยอาหารที่ช่วยย่อยไปโดยปริยาย ดังนั้นนอกจากการหันมากินแป้งแล้ว ก็ควรรับประทานอาหารที่หลากหลายเช่นผักผลไม้และธัญพืชร่วมด้วย เพื่อป้องกันอาการท้องผูก

อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ

เชื่อว่าคุณทุกคนเคยง่วงนอนในที่ทำงานจนอยากจะใช้ไม้จิ้มฟันถ่างตาตัวเอง ถ้าหากว่าคุณกำลังพยายามหยุดนิสัยติดกาแฟ คุณทำมันได...
27/04/2017

เชื่อว่าคุณทุกคนเคยง่วงนอนในที่ทำงานจนอยากจะใช้ไม้จิ้มฟันถ่างตาตัวเอง ถ้าหากว่าคุณกำลังพยายามหยุดนิสัยติดกาแฟ คุณทำมันได้อย่างแน่นอน! เมื่อคุณรู้สึกง่วงนอนให้ปฏิบัติตามเคล็ดลับต่อไปนี้ เพื่อให้วันทำงานของคุณดำเนินไปได้ด้วยดีโดยปราศจากกาแฟ
1. พักสายตา
ทุกๆ 20 นาที ให้มองไปที่ภาพไกลๆ 20-30 วินาที ช่วยให้กล้ามเนื้อตาผ่อนคลาย
2. ยืดเส้นยืดสาย
ช่วยให้ร่างกาย ไม่เหนื่อย ไม่อ่อนล้า
3. เดิน
เดินประมาณ 20 นาที เพิ่มระดับการทำงาน ลดอาการอ่อนล้า
4. ฟังเพลง
ช่วยให้คุณรู้สึกตื่นตัว และช่วยเพิ่มสมาธิด้วย
5. กินของขบเคี้ยว
กินมื้อหลักให้น้อยลง ระหว่างวันกินของขบเคี้ยว เช่น ผลไม้ เป็นต้น
6. ดื่มน้ำแก้ง่วง
ถ้าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ ระดับออกซิเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น สมองจะคิดงานได้ดี

วันนี้ ทุกข์ พรุ่งนี้สุข คละเคล้าสลับกันไป มีสิ่งที่ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ และกระทบจิตใจด้วยเช่นกันเหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้...
27/04/2017

วันนี้ ทุกข์ พรุ่งนี้สุข คละเคล้าสลับกันไป
มีสิ่งที่ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ และกระทบจิตใจด้วยเช่นกัน
เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ จนบางทีรู้สึกท้อ
แต่เราลืมถามตัวเองว่าดีเท่าไหร่แล้วที่เรายังหายใจ
มีคนอยากใช้ชีวิตอยู่ต่อ แต่เขาไม่มีโอกาส
เราอยู่กับความโชคดีนี้จนเคยชิน
เรายังได้อยู่เพื่อทำอะไรดีดีอีกมากมาย
เรายังโชคดีแค่ไหนที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก
ที่สำคัญเรา....จะมีวันพรุ่งนี้ได้อีกซักกี่วัน
ทุกข์ สุขเป็นเรื่องธรรมดา รีบใช้ชีวิตวันนี้ให้คุ้มค่า จะได้ไม่เสียเวลามานั่งทุกข์ใจ

NARAI PROPERTY
อยากเห็นคุณมีความสุขในทุกๆวัน

สวัสดีครับพี่น้องชาวเพชรบุรีโน๊ตเป็นคนเพชรบุรี บ้านเกิดอยู่ท่ายางประวัติคราวๆชั้นประถมจากร.ร.บ้านท่ายางมัทธยมจากร.ร.คงคา...
14/04/2017

สวัสดีครับพี่น้องชาวเพชรบุรี
โน๊ตเป็นคนเพชรบุรี บ้านเกิดอยู่ท่ายาง
ประวัติคราวๆชั้นประถมจากร.ร.บ้านท่ายาง
มัทธยมจากร.ร.คงคารามและจบปวส.จากเทคนิคเพชรบุรี
หลังจบได้ดิ้นรนหางานทำจนมาเจอโปรเจกหนึ่งคือในการหาเงินง่ายๆ

แค่ใช้โทรศัพท์ ซึ่งปัจจุบันก็เล่นเฟส เล่นไลน์ ไอจี อยู่แล้ว
แต่ที่นี่สอนเล่นอย่างไรให้ได้เงินรวมถึงสอนเทคนิคต่างๆ
สำหรับคนที่ทำธุรกิจอยู่ มีเทคนิคเพิ่มยอดขายอย่างไรให้ปัง

โน๊ตจึงอยากเชิญชวนคนที่อยากมีรายได้เสริมหรือต้องการเพิ่มยอดขาย
จากโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียว
พบกัน
วันที่16 เมษายนนี้ พบกันที่ร้านคัดสรร ข้างวัดถ้ำแก้ว
เวลา12.30-15.00น.

สนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
โน๊ต 063-1932255
หรือ
👉คลิ๊กเลย💥Http://line.me/ti/p/~

ลดความอ้วนได้แล้วนะ ถ้าเป็นแบบนี้
13/04/2017

ลดความอ้วนได้แล้วนะ ถ้าเป็นแบบนี้

เปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาส
13/04/2017

เปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาส

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั้งหลายไม่ต้องให้ใคร inbox มาถามราคาแล้วนะครับแจ้งได้เลย
12/04/2017

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั้งหลาย
ไม่ต้องให้ใคร inbox มาถามราคาแล้วนะครับ
แจ้งได้เลย

Address

อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ เลขที่ 33/4 อาคาร A ชั้น 17

10310

Telephone

063-1932255

Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Coach note posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

  • Want your practice to be the top-listed Clinic?

Share

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram