05/02/2016
การสูญเสียการได้ยินมีผลต่อสุขภาพและความสุขของเราอย่างไร?
การสูญเสียการได้ยินอาจเป็นสาเหตุในการแยกตัวออกจากสังคมและภาวะซึมเศร้า ซึ่งมักจะเกิดกับผู้สูงอายุ ผู้ที่สูญเสียการได้ยินแต่กำเนิดหรือผู้ที่สูญเสียการได้ยินจากการทำงาน อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนและการทำงานได้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าในอนาคตการสูญเสียการได้ยินจะถูกจัดลำดับให้เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญ
ดอกเตอร์สเตฟานี่ วูลฟ์นักแก้ไขการได้ยินคลินิกในเขต Nassau กล่าวไว้ว่า “ดิฉันคิดว่าการได้ยินเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตของเรา การสูญเสียการได้ยินไม่ควรเป็นสิ่งที่คนยอมรับว่าเกิดขึ้นโดยธรรมชาติตามอายุ ฉันถูกเติมเต็มด้วยงานของฉัน มันเหมือนการนำแสงสว่างและเปลี่ยนชีวิตให้กับพวกเขา ฉันช่วยผู้คนที่สูญเสียการได้ยินด้วยเครื่องมือที่เขาต้องการใช้ในการสื่อสาร”
คนไข้ของวูลฟ์ส่วนใหญ่จะมีอายุ 65 ปีขึ้นไป หนึ่งในสามนั้นจะมีปัญหาการสูญเสียการได้ยิน นอกจากนั้นเธอก็ดูแลรักษาบุคคลที่มีภาวะการสูญเสียการได้ยินโดยกำเนิดด้วยเช่นกัน วูลฟ์กล่าวว่า เธอเริ่มสังเกตเห็นว่าคนที่มีการเปลี่ยนแปลงของการได้ยินและเข้ามารับการตรวจการได้ยินนั้นมีอายุน้อยลง และเชื่อว่าส่วนหนึ่งการสูญเสียการได้ยินมีผลมาจากเทคโนโลยีในปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น การใช้หูฟังแบบใส่ในช่องหู
ระดับความดังของเสียงจะวัดด้วยหน่วยเดซิเบล ระดับความดังที่เพิ่มขึ้นนั้นมาพร้อมกับภัยคุกคามของการได้ยิน เสียงการสนทนาที่ปกติในระยะ 3 ฟุตจากผู้พูดจะอยู่ที่ 60 เดซิเบล ขณะที่รถเก็บขยะ, มอเตอร์ไซค์, เครื่องตัดหญ้า หรือว่ารถขุดเจาะจะดังประมาณ 85 เดซิเบล ถึง 100 เดซิเบล ขีดจำกัดของเสียงในการรับฟังของมนุษย์จะอยู่ที่ 130 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับที่จะทำให้รู้สึกปวดหูได้
ตามที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติกล่าว อัตรายของการฟังเสียงดังต่อเนื่องเป็นเวลานานเช่น คอนเสิร์ต, เสียงเครื่องยนต์, เสียงปืน, เสียงไซเรนรถฉุกเฉิน, เสียงเลื่อยไฟฟ้า และเครื่องเสียงที่เปิดเสียงดังสุด เสียงพวกนี้จะอยู่ในระดับ110 เดซิเบลถึง140 เดซิเบลและการที่ได้รับเสียงพวกนี้เพียงแค่ 1 นาทีอาจทำให้เกิดการสูญเสียการได้ยินแบบถาวรได้ นอกจากนี้เสียงปืนและระเบิดยังเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการสูญเสียการได้ยินในกลุ่มคนที่ผ่านการต่อสู้ในสงคราม
ผู้ปกครองส่วนใหญ่ตั้งคำถามว่าหูฟังแบบใส่ในช่องหูจะมีผลกระทบกับการได้ยินของลูกพวกเขาอย่างไร โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาได้ยินเสียงเพลงดังออกมาจากหูฟังอีกที นั่นเป็นเสียงที่บ่งชี้ว่าเป็นระดับที่สามารถทำให้สูญเสียการได้ยิน วูลฟ์แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการเปิดเพลงดังๆเพื่อกลบเสียงรบกวนรอบๆตัว เช่น เวลาคุณใช้รถไฟฟ้า คุณจะรู้สึกทันทีว่ามันยากแค่ไหนที่จะทำให้เสียงเพลงที่เราฟังอยู่ดังกว่าเสียงรบกวนโดยรอบที่เกิดขึ้นในขณะนั้น นอกจากคุณจะปรับเสียงให้ดังที่สุด
หูฟังราคาแพงมีเทคโนโลยีตัดเสียงที่ดีนั้นสามารถป้องกันหูของคุณจากเสียงดนตรีที่ดังและตัดเสียงรบกวนออกได้ดี วูลฟ์กล่าวเสริมว่า “มันขึ้นอยู่กับระดับเสียงที่ส่งออกมา” เราไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินมากมายเพื่อป้องกันหูของเรา แต่ว่าให้ระวังและควบคุมระดับความดังของเสียงจากหูฟัง เครื่องเสียง และเสียงดังในสิ่งแวดล้อม แล้วมันจะถนอมการได้ยินของคุณได้เป็นอย่างดี สิ่งที่สำคัญคือพวกเราทุกคนไม่ควรมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวัน เช่น เสียงรถที่วิ่งผ่านเรา ฟังเสียงเด็กร้องไห้ หรือเข้าประชุมในที่ทำงาน
ในขณะที่ปัญหาการสูญเสียการได้ยินไม่ได้รับการแก้ไขสามารถส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงาน และผลตอบแทนที่ลดลง วูลฟ์กล่าว “ปัญหาใหญ่ก็คือคนที่สูญเสียการได้ยินไม่อยากให้คนอื่นเห็นพวกเขาเป็นตัวตลก พวกเขามักจะพยักหน้าและทำเป็นรู้เรื่องในสิ่งที่คนอื่นพูด ทั้งๆที่ไม่เข้าใจแต่แกล้งทำเป็นเข้าใจ”
จากรายงานของ American Speech-Language-Hearing Association ผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาประมาณ20%มีปัญหาการได้ยิน และอีกกว่า 48% ที่ประสบปัญหามีสูญเสียการได้ยินในบางส่วน นี่เป็นสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดภาวะแยกตัวจากสังคมเมื่อไม่ได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวและบ่อยครั้งที่ยังเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะซึมเศร้าเพราะขาดการสื่อสารกับคนรอบข้าง เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงและมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วแต่วูลฟ์กล่าวว่าการทำงานกับผู้ป่วยที่มีปัญหาการได้ยินและการปรับเครื่องช่วยฟังให้พวกเขานั้นมีหลายขั้นตอน ไม่ใช้แค่การขายสินค้าทั่วๆไป ปัจจุบันนี้มีการโฆษณาเครื่องช่วยฟังรุ่นใหม่ทุกวัน และเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าใครเหมาะกับเครื่องช่วยฟังตัวไหน บางทีข้อมูลที่เยอะเกินไปทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสน และทำให้พวกเขาไม่ต้องการที่จะได้รับการฟื้นฟูเพื่อรักษาการสูญเสียการได้ยิน การใส่เครื่องช่วยฟังจึงควรได้รับคำแนะที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ
---------------------------------------------------------------------------------------
ต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการได้ยินและทดสอบการได้ยินโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ติดต่อเราได้ที่
โทร. 06-0002-4110 เวลา 9.30-18.30 น.
Line ID: hearingexperts1 , hearingexperts2
หรืออ่านข้อมูลเพิ่มได้ที่ http://www.hearingexperts.asia