เภไทย พื้นที่ประชาสัมพันธ์ และแลกเปลี่ยนข่าวสารงานด้านเภสัชกรรมเพื่อประชาชน

เภไทย เป็นพื้นที่การประชาสัมพันธ์ข่าวสาร กิจกรรม และการรณรงค์งานด้านเภสัชกรรม และสุขภาพเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และพี่น้องสหวิชาชีพทางสุขภาพในการร่วมกันทำเพื่อประชาชน และประเทศชาติ

30/11/2025

ลงทะเบียนมาตรการเยียวยาเพื่อนสมาชิกเภสัชกรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้


แจ้งเพื่อนสมาชิกเภสัชกรที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์มหาอุทกภัย ช่วงระหว่างวันที่ 21-25 พ.ย. 2568


***เพื่ออำนวยความสะดวกให้การช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกเภสัชกรไปเป็นด้วยความสะดวกของเภสัชกรที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แบบฟอร์มนี้จะไม่ปิดการรับข้อมูล ทางคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปเก็บข้อมูลประเมินและแบ่งแยกความความรุนแรงเพื่อให้การช่วยเหลือ ด้วยความถี่อาทิตย์ต่ออาทิตย์***


สภาเภสัชกรรมร่วมให้กำลังใจ . . เภสัชกรหนึ่งในจำนวนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม
เภสัชกรปริญวัฒน์ ตันติตุลยเวทย์
ศิษย์เก่าสำนักวิชาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ รุ่นที่ 1
ร้านยาหมอยาจิระเวช (ตรงข้ามสนามกลาง จิระนครหาดใหญ่)

#ช่วยเพื่อนสมาชิกเภสัชกรของเรา
#เภสัชศาสตร์เราเป็นหนึ่งเดียวกัน

24/11/2025

ขอเป็นกำลังใจ และภาวนาให้ทุกท่าน ทุกชีวิตจงปลอดภัย ไม่ป่วย ไม่หนาว ไม่เจ็บ มีกิน มีที่พักนอนหลับอย่างปลอดภัย #น้ำท่วมหาดใหญ่

20/11/2025

ชมรมแพทย์ชนบทกำลังบอกให้รพ.ประหยัดการใช้ไฟขณะที่สปสช.กำลังตัดสายไฟ

เมื่อ ชมรมแพทย์ชนบท เอ่ยปากพูดเรื่อง การแก้ปัญหา บัตรทอง

ข้อเสนอทั้ง 10 ข้อ ดีแต่เป็นระดับ “โรงพยาบาลจัดการตัวเอง” ทั้งหมด
แต่ปัญหาที่แท้จริงอยู่ในระดับ โครงสร้างงบประมาณ–กติกา–สปสช.–DRG–ระบบClaim–งบบัตรทองไม่พอ
ดังนั้นข้อเสนอของชมรมฯ จึงเหมือน

> "บอกให้โรงพยาบาลประหยัดน้ำประหยัดไฟ ในขณะที่สปสช.ตัดสายไฟทิ้ง

วิเคราะห์ทีละข้อแบบตรงไปตรงมา

1) Smart OPD – Fast Track – One Stop Service

ดีมาก แต่ ไม่ใช่ปัญหาหลักของปี 2568–2569
ตอนนี้รพ.แออัดเพราะ

งบเหมาจ่ายรายหัวต่ำกว่าโครงสร้างต้นทุนจริง

DRG ถูกดันลงต่ำกว่าต้นทุน (RW 8,300 → 5,100 ในบางกลุ่ม)

สปสช.ไม่จ่ายเงินรพ.ตามงานจริง (ค้างค่าวัคซีน, ค้างค่ายาแพง, ค้างเคส high cost)

Smart OPD เป็นแค่ "ปลายท่อ" ไม่ใช่ “สาเหตุความแออัด”

คอมเมนต์:

> เป็นการแก้ปัญหาภายในรพ. แต่ไม่ได้แตะโครงสร้างงบที่ทำให้คนต้องมาแออัดตั้งแต่แรก

---

2) ยกระดับศูนย์เฉพาะทาง Stroke/Heart/Trauma

ทำได้ แต่ติดอุปสรรคใหญ่คือ

❗ High-cost DRG ถูกสปสช. “จ่ายไม่เต็ม”

Stroke thrombolytic ต้นทุน 40,000–60,000 แต่จ่ายจริงบางพื้นที่ไม่ถึง

PCI STEMI บางแห่งติดลบ 20,000–40,000/เคส

Trauma ค่าเลือด–ICU–OR–ยาแพง ไม่มีงบชดเชยจริง

จะ “ยกระดับ” ได้อย่างไร ในเมื่อ รพ.ขาดทุนในทุกเคสหนัก

คอมเมนต์:

> เหมือนบอกให้โรงพยาบาลบินขึ้นฟ้า ในขณะที่ตัดงบค่าน้ำมันเครื่องบิน

---

3) Reverse Referral

ถูกต้องเลย แต่ปัญหาคือ

สปสช.จ่ายเงินให้ รพ.สต./ปฐมภูมิน้อยมากจนรับภาระไม่ได้

คนไข้โรคเรื้อรังถูกผลักมาที่รพท./รพศ.เพราะระบบยามีปัญหา

Digital chronic clinic ยังไม่เกิดจริง

คอมเมนต์:

> Reverse referral จะเกิดจริงได้ต่อเมื่อ “เงินจากสปสช.” ไหลกลับสู่ปฐมภูมิอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่แบบปัจจุบันที่เงินถูกดึงไว้ส่วนกลาง

---

4) รวมศูนย์เวชภัณฑ์–ยา–วัสดุ

ข้อดี: ลดราคาได้
ข้อเสียตอนนี้:

❗หลายเขตทำอยู่แล้วแต่ “รพ.ไม่มีเงินจ่าย”

หนี้ค่ายาจากการที่สปสช.ค้างจ่าย > ระบบรวมศูนย์ช่วยไม่ได้เลย

คอมเมนต์:

> รวมศูนย์จัดซื้อดี แต่ถ้าต้นน้ำ (งบ) ไม่พอ ผลลัพธ์คือ “รวมศูนย์หนี้”

---

5) เพิ่มประสิทธิภาพ OR – ICU – Ward

ดีในเชิงบริหาร แต่ความจริงคือ

OR หลายที่ว่างเพราะ ไม่มีพยาบาล–วิสัญญี

ICU ว่างเพราะ ไม่มีงบบรรจุคน

เตียงว่างแต่ ขาดคนดูแล

คอมเมนต์:

> ประสิทธิภาพจะดีไม่ได้ ในระบบที่บุคลากรลาออกนับพันรายต่อปีเพราะค่าตอบแทนต่ำและทำงานเกินแรง

---

6) ลดภาระงานบุคลากรด้วย Workload-based scheduling

เห็นด้วยมากที่สุดใน 10 ข้อนี้
แต่ประเด็นหลักคือ

❗ Workload ของ รพ.รัฐเพิ่มขึ้นเพราะ “กติกาของสปสช.”

เช่น

Claim เอกสาร

Claim

ตัวชี้วัดแฟ้ม

รายงานต่าง ๆ ข้อมูลมากมายในระบบ health Link

KPI ที่ไม่ได้เกี่ยวกับคนไข้

นวัตกรรมใหม่ๆมีมาเรื่อยๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลโดยตรง แล้วแต่อัศวินอนาล็อกจะคิดค้นขึ้นมา เพื่อตอบสนองฝ่ายการเมือง

ชมรมแพทย์ชนบท “ไม่เคยวิจารณ์เรื่องนี้เลย”

คอมเมนต์:

> ลดภาระงานบุคลากรต้องเริ่มจากลดภาระเอกสารของสปสช. ไม่ สร้างนวัตกรรม มากมาย จนเกินภาระของโรงพยาบาล จนลืมภารกิจหลักของโรงพยาบาล แล้วโยนภาระให้รพ.ปรับตัวฝ่ายเดียว

---

7) พัฒนา HIS – Telehealth – VNA – Dashboard

นโยบายดีมาก แต่เป็น การลงทุนเพิ่ม
ซึ่งตอนนี้รพ.หลายแห่ง

ไม่มีงบลงทุน

ไม่มีงบซ่อมบำรุง

ไม่มีงบคนไอทีประจำ

นี่เป็นนโยบายที่ดี ถ้า รพ.ไม่ขาดทุน
แต่ประเทศไทยปี 2568 คือ รพ.ขาดเงินหมุนเวียน–หนี้สะสม การวาดฝันเรื่องระบบดีเลิศประเสริฐศรี มันก็ต้องมาพร้อมกับงบประมาณในการลงทุนวางระบบ และบุคคลไม่ใช่จะเนรมิตอะไรขึ้นมาได้ คำพูดสวยหรู แต่กินไม่ได้

คอมเมนต์:

> HIS ดีๆ ต้องใช้เงิน ...แต่ตอนนี้โรงพยาบาลกำลัง “ขอให้สปสช.จ่ายเงินที่ค้าง” ก่อนคับ

---

8) ทำ Costing ให้แม่น

สุดยอดข้อเสนอ
แต่ pointless ในระบบปัจจุบัน เพราะ

❗ Costing แม่นแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ หากสปสช. “ไม่จ่ายตามต้นทุนจริง”

ตอนนี้ DRG ถูกปั่นลงต่ำกว่า Minimum Safe Cost
Costing จึงกลายเป็นแค่

> “เอกสารความจริง ที่ใช้ไม่ได้ในระบบจริง”

เสียเวลาคิดถ้าไม่ยอม จ่ายตามที่คิด

9) การมีส่วนร่วมของชุมชน

ดีในหลักการ แต่ไม่ใช่ปัญหาหลักของปีนี้

ปัญหาไม่ใช่ประชาชน
ปัญหาคือ “กลไกงบประมาณจากสปสช.”

10) Lean Hospital

แนวคิดดี
แต่ Lean ต้องมี

ข้อมูลครบ

บุคลากรพอ

เวลาในการวิเคราะห์

งบลงทุนเครื่องมือ

ตอนนี้รพ.รัฐคือ

> “Lean โดยจำใจเพราะไม่มีงบ”

******สรุปเชิงนโยบาย: 10 ข้อของชมรมแพทย์ชนบท = การแก้ปลายเหตุทั้งหมด

ชมรมแพทย์ชนบทพูด 10 ข้อนี้ได้ เพราะมัน “ไม่แตะสปสช.”
แต่ไม่แตะต้นเหตุ

งบเหมาจ่ายต่ำ

DRG ไม่สะท้อนต้นทุนจริง

กลไกจ่ายช้า/จ่ายไม่ครบ

Claim ยุ่งยาก

งบ preventive ไม่เปลี่ยนมา 20 ปี

งบยาแพง high-cost ไม่เพียงพอ

เงินกองทุน 200,000 ล้าน ไม่พอสำหรับ 47 ล้านคน

ดังนั้น 10 ข้อนี้คือ

> “มาตรการที่ดีในกระดาษ แต่แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ หากสปสช.ไม่ปฏิรูประบบจัดสรรงบประมาณ”

ฝ่ายยุทธศาสตร์ ของชมรมแพทย์ชนบท
ถ้าคิดได้ 10 ข้อนี้ ก็เป็นชุดความคิดเดียวกับอัศวินอนาล็อก ส่วนกลาง และอาจเรียกได้ว่า ชมรมแพทย์ชนบท คืออัศวินอนาล็อกส่วนภูมิภาค
ที่ไม่เคย แตะต้องใจกลางของปัญหา คือสปสช.
เพราะ มีต้นน้ำ มาจาก อัศวินเผ่าพันธุ์เดียวกัน

ขอบคุณ ข่าว จาก HFocus อ่านข่าว ต้นฉบับ ตามลิงค์ ใน Comment

แอดมิน ประชาคมแพทย์
19 พย.2568

บ้านเราล่ะ อินฟลู ทั้งคนทั่วไป แพทย์ เภสัช บุคลากรทางการแพทย์ โฆษณาเฉี่ยวๆ รวยเอาๆ https://www.facebook.com/share/p/1Cyg...
20/11/2025

บ้านเราล่ะ อินฟลู ทั้งคนทั่วไป แพทย์ เภสัช บุคลากรทางการแพทย์ โฆษณาเฉี่ยวๆ รวยเอาๆ

https://www.facebook.com/share/p/1Cyg5bZijN/

ศาลประชาชนนครโฮจิมินห์มีคำตัดสินจำคุก "เหงียน ตุ๊ก ตุย เตียน" หรือ "ควีนเทียน" มิสแกรนด์อินเตอร์ฯ 2021 และอินฟลูเอนเซอร์อีก 2 คน คือ "เหงียน ถิ ท้าย หั่ง" และ "ฝ่าม กวาง ลิญ" คนละ 2 ปี ในข้อหา "หลอกลวงลูกค้า" ฐานหลอกลวงผู้บริโภคจากการโฆษณาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัมมีผัก "เครา" (Kera) ขณะที่ผู้บริหารบริษัทถูกลงโทษสูงกว่า ด้านทางการเวียดนามส่งสัญญาณเดินหน้าปราบปรามสินค้าลอกเลียนแบบและโฆษณาเท็จอย่างจริงจัง

อ่านข่าว
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2896839

19/11/2025
19/11/2025

โรงพยาบาลไม่ใช่เครื่องสร้างปาฏิหาริย์ — งบเฉลี่ย 13 ล้าน ทำให้เราช่วยคนไข้ได้ไม่เท่าที่ควร

🩺 วันที่โรงพยาบาลทั้งประเทศเหลือเงินเฉลี่ย 13 ล้าน… ผมเริ่มกลัวว่าเรากำลังรักษาคนไข้ด้วยระบบที่ทรุดหนักลงทุกวัน

🏥 902 โรงพยาบาล → เงินบำรุงรวม 12,000 ล้านบาท

แปลว่า โรงพยาบาลไทยมีเงินเฉลี่ยแห่งละแค่ 13 ล้านบาท

13 ล้านบาท…
สำหรับโรงพยาบาล มัน “น้อยจนเจ็บปวดใจ”

เพราะแค่

ค่ายา

ค่าเวชภัณฑ์

ค่าเครื่องมือพัง

ค่าโอทีบุคลากร

ก็เกินกว่านั้นหลายเท่าแล้ว

และตัวเลขที่เจ็บปวดยิ่งกว่าเดิมคือ

495 โรงพยาบาลติดลบรวม 16,539 ล้านบาท

136 โรงพยาบาลอยู่ระดับวิกฤต 7 (ขั้นก่อนล้ม)

ผมไม่ได้กลัวตัวเลข
ผมกลัว “ชีวิตคนไข้” ที่จะได้รับผลกระทบจากตัวเลขเหล่านี้ต่างหาก

---

🩸 สิ่งที่คนหน้างานเห็น… แต่ระบบทำเป็นมองไม่เห็น

ทุกวันที่ขึ้นเวร

เตียงเต็ม

คนไข้ล้นห้องฉุกเฉิน

ต้นทุนรักษาเพิ่มขึ้น

เวรหนักขึ้น

บุคลากรล้าเกินมนุษย์ แต่ต้องทำต่อ

แต่… เงินโรงพยาบาลกลับน้อยลงทุกปี

งบเหมาจ่ายรายหัวที่ใช้มา 20 ปี
ไม่เคยอัปเดตตามภาระโรคจริง
ประเทศไทยแก่ลง คนไข้ซับซ้อนขึ้น
แต่ “สูตร” กลับเหมือนเดิมราวกับโลกไม่เคยเปลี่ยน

---

⚠️ ปัญหาใหญ่ที่สุด—โครงสร้าง สปสช. ที่ไม่สอดคล้องยุคปัจจุบัน

นี่คือสิ่งที่ หมอวีระพันธ์ พูดชัด และผมเห็นด้วยอย่างหมดใจ

เพราะทุกครั้งที่มีปัญหา
คำตอบที่ออกมาคือ

> “เป็นมติบอร์ด สปสช.”

แต่บอร์ดนั้นมี

คนเพียงราว 10 คน

ถืออำนาจจัดสรรงบ 2 แสนล้านบาทต่อปี

และ เวียนตำแหน่งกัน 12–16 ปี

ไม่แปลกที่ความคิดใหม่ไม่เกิด
ไม่แปลกที่ระบบหยุดนิ่ง
และไม่แปลกที่คนหน้างานรู้สึกเหมือน “ไม่มีใครได้ยินเสียงเราเลย”

---

🔥 ข้อเสนอของหมอวีระพันธ์ — ซึ่งผมในฐานะหมอคนหนึ่ง เห็นด้วยทุกข้อ

เพราะนี่คือสิ่งที่คนในระบบ “รู้จริง” แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าพูดออกมา

---

1) ปฏิรูปบอร์ด สปสช. ให้โปร่งใสและมีธรรมาภิบาล

จำกัดวาระ

ห้ามหมุนเวียนข้ามบอร์ด

ห้ามนั่งยาว 10–16 ปี

เพิ่มเสียงจากหน้างานจริง

เปิดโครงสร้างให้โปร่งใส ตรวจสอบได้

งบ 2 แสนล้านบาทไม่ควรอยู่ในมือคนกลุ่มเดิมชุดเล็กๆ อีกต่อไป

---

2) เพิ่มงบสาธารณสุขตามความเป็นจริง—เลิกพูดว่า “งบพอ”

ไทยใช้งบสุขภาพ 3% ของ GDP
ประเทศระบบดีใช้งบ 10%

ต่างกัน “สามเท่า” แล้วเรายังบอกว่างบพอได้อย่างไร?

---

3) หยุดเพิ่มสิทธิใหม่ในช่วงนี้—ไม่ใช่เพราะไม่ดี แต่เพราะประเทศยังไม่มีเงินพอ

ตัวอย่างเช่น

แปลงเพศฟรี + ฮอร์โมนตลอดชีวิต

เด็กหลอดแก้ว

หัตถการราคาแพงในสิทธิพื้นฐาน

นโยบายดี แต่ “อยู่ผิดเวลา”
และกระทบงบตรงๆ

---

4) เลิกใช้วิธีดึงงบปีหน้า (2569) มาโปะปัญหาปีนี้

หมอวีระพันธ์เรียกมันว่า

> “พฤติกรรมรูดบัตรเครดิตแบบไม่ดูวงเงิน”

ปีหน้าเราจะเจอวิกฤตหนักกว่าเดิม
เพราะเงินที่ควรมี… ถูกใช้ล่วงหน้าไปแล้ว

---

5) กล้าพูดเรื่อง “ร่วมจ่ายแบบยุติธรรม”

ตอนนี้ประชาชน
ร่วมจ่ายอยู่แล้ว
ผ่านค่ารถ–ค่าเดินทาง
แต่เงินไม่ได้ช่วยคุณภาพโรงพยาบาลเลย

ร่วมจ่ายที่ถูกต้องต้อง

ไม่กระทบคนจน

ใช้เฉพาะบางกรณี
เช่น เมาแล้วขับ ต้องร่วมจ่ายเองบางส่วน

นี่คือความยุติธรรม และช่วยรักษาระบบให้ยืนอยู่ได้

---

6) รมว.สาธารณสุข ควรเป็น Technocrat ไม่ใช่โควตาพรรคการเมือง

นี่คือคำถามแรง แต่จำเป็นต้องถามว่า…

> “47 ล้านชีวิตควรอยู่ในมือผู้เชี่ยวชาญ หรือโควตาพรรค?”

ถ้าไม่แก้จุดนี้
เราก็จะวนลูปเดิมไม่รู้จบ

---

🩹 ในฐานะหมอคนหนึ่ง… ผมอยากเห็นระบบที่รักษาคุณได้อย่างดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะอยู่จังหวัดไหน

ผมไม่ได้เขียนสิ่งนี้เพื่อโจมตีใคร
ไม่ได้เขียนเพื่อสร้างดราม่า
แต่เขียนในฐานะหมอที่รู้ว่า

> “ระบบที่พัง = คนไข้ที่เสียโอกาสจริงๆ”

เราจะพยายามสุดความสามารถ
แต่ถ้าโรงพยาบาลไม่มีเงินซื้อยา
ไม่มีงบจ้างคน
ไม่มีเครื่องมือเพียงพอ

ต่อให้หมอเก่งแค่ไหน
เราก็ช่วยคุณได้ไม่เต็มที่

และนั่น… เจ็บปวดที่สุดสำหรับหมอทุกคน

ถึงเวลาพูดความจริง
เพราะถ้าไม่ปฏิรูปวันนี้…
วันหนึ่งอาจไม่เหลือโรงพยาบาลให้ปฏิรูปแล้ว

หมอคนหนึ่ง
15_11_68

18/11/2025

อุปสรรคในการพัฒนาประเทศนอกจากนักการเมืองที่โกง+ปกป้องแต่พวกตัวเองแล้วยังมี NGO เป็นนักสิทธิของใครก็ไม่รู้แต่ไม่ปกป้องคนไทย+ชาติไทย

18/11/2025
15/11/2025

ที่อยู่

คณะเภสัชศาตร์ทุกสถาบัน และสภาเภสัชกรรม
Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เภไทยผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram