11/07/2022
โรคอ้วนสามารถนำไปสู่ผลที่ตามมา:
โรคหัวใจ: เนื้อเยื่อไขมันปกคลุมหัวใจ ทำให้หัวใจหดตัวได้ยาก ไขมันยังทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบแคบ ขัดขวางการไหลเวียนของเลือดไปยังหัวใจ นำไปสู่อาการหัวใจวายได้
- ความดันโลหิตสูง
- Dyslipidemia : โรคอ้วนเพิ่มความเข้มข้นของไตรกลีเซอไรด์และ LDL - คอเลสเตอรอล ลดความเข้มข้นของ HDL - คอเลสเตอรอลในเลือด ผู้ที่มีไขมันหน้าท้องมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคไขมันในเลือดสูง
โรคเบาหวาน: โรคอ้วนทั่วไปและโรคอ้วนในช่องท้องเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ผู้หญิงอ้วนมีโอกาสเป็นเบาหวานมากกว่าคนทั่วไป 2.5 เท่า
โรคหลอดเลือดสมอง: ผู้ที่มีดัชนีมวลกายมากกว่า 30 มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมอง หากมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ (เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ) โรคหลอดเลือดสมองอาจเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีดัชนีมวลกายต่ำกว่า (25.0 – 29.9)
-ภาวะเจริญพันธุ์ลดลง: ในคนอ้วน เนื้อเยื่อไขมันรบกวนการทำงานของรังไข่ ไข่ทุกเดือนจะไม่โตและโตเต็มที่ ไข่จะไม่ถูกปล่อยออกมา คุณภาพไข่ไม่ดี ประจำเดือนผิดปกติ ไขมันมากเกินไปจะเติมรังไข่และทำให้ประจำเดือนหมด โรคอ้วนยังทำให้เกิดโรคถุงน้ำหลายใบได้ง่าย การปฏิสนธิยาก การแท้งบุตรง่าย ควรสังเกตว่าเมื่อหมดประจำเดือนผู้หญิงบางคนจะมีไขมันหน้าท้องได้ง่าย
-ฟังก์ชั่นทางเดินหายใจลดลง : ไขมันสะสมในไดอะแฟรมทำให้ไดอะแฟรมมีความยืดหยุ่นน้อยลง ลดการระบายอากาศ ทำให้หายใจถี่ ทำให้สมองขาดออกซิเจน สร้างกลุ่มอาการ Pìckwick (นอนตลอดเวลา ตื่นนอน ตื่นนอน) ) ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ที่อ้วนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีไขมันหน้าท้องและคอใหญ่
-โรคข้อเข่าเสื่อมที่เพิ่มขึ้น: ข้อต่อที่มีน้ำหนักเกินมีแนวโน้มที่จะเจ็บปวด ปริมาณกรดยูริกในคนอ้วนเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดโรคเกาต์ได้ง่าย การศึกษาจำนวนมากยืนยันว่าเมื่อ BMI เพิ่มขึ้น ปริมาณกรดยูริกในเลือดจะเพิ่มขึ้น
-มะเร็ง: ผู้ชายอ้วนมักจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ในขณะที่ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งท่อน้ำดี เต้านม มดลูก และรังไข่
- โรคทางเดินอาหาร: คนอ้วนมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคถุงน้ำดี, ความผิดปกติของตับ, ไขมันพอกตับ, ไขมันในลำไส้, การเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลง (ทำให้ท้องอืด, ท้องผูก); ระบบหลอดเลือดในลำไส้อุดตัน ทำให้เกิดริดสีดวงทวาร
******สำหรับเด็ก โรคอ้วนก็อันตรายเช่นกัน เด็กเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนในวัยผู้ใหญ่ เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด (โรคหลอดเลือดหัวใจ: สองเท่า, หลอดเลือด: 7 ครั้ง, โรคหลอดเลือดสมอง: 13 ครั้ง)