จิต-ปรุง-แต่ง

จิต-ปรุง-แต่ง การปรุง อารมณ์ ความคิด และจิตใจ

ใครที่คิดถึงบรรยากาศสนุกสนาน ที่แฝงไปด้วยมิตรภาพ และทักษะทางจิตวิทยาที่เอาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันปีนี้... เรากลับมาแ...
28/07/2023

ใครที่คิดถึงบรรยากาศสนุกสนาน ที่แฝงไปด้วยมิตรภาพ และทักษะทางจิตวิทยาที่เอาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

ปีนี้... เรากลับมาแบบเบิ้มๆ กับค่ายเกาลัด เกลาใจ ... กิจกรรมที่ทำให้เข้าใจความคิด ความรู้สึก ตลอดจนอารมณ์ตนเองและผู้อื่น เรียนรู้ทักษะที่ไม่มีสอนในห้องเรียน ทั้งการฟังเชิงลึก - การจัดการความเครียด - การตัดสินใจอย่างเป็นระบบ - วิธีการรับมือกับคนรอบข้างด้วยความรู้ทางจิตเวชศาสตร์ และอีกมากมาย

3 วัน 2 คืน ... สนุก มีสาระ สไตล์จิตปรุงแต่ง ในราคาสุดพิเศษ ... 3,490 บาท เท่านั้น มาแต่ตัว กลับไปพร้อมเกียรติบัตร ความสุข และประสบการณ์ แบบปังๆ

แพ็คของให้พร้อม แล้วเติบโตไปด้วยกัน ...
12-14 สิงหาคม 2566 ณ เดอะไพน์รีสอร์ท จ.ปทุมธานี (รวมพลขึ้นรถ ณ สถานีรถไฟฟ้า BTS)

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.camphub.in.th/jitpungtang-jul2023/
https://www.dek-d.com/activity/view/64990

22/12/2021

#ความทุกข์ของเด็กเหรียญทอง #โรคซึมเศร้า
💔เสียใจกับข่าววันนี้ที่นักเรียนชั้นม. 4 กระโดดจากชั้น 10 ลงมาเสียชีวิตในวันเกิดของตัวเอง น้องเป็นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติที่เคยคว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันระดับนานาชาติหลายครั้งเสียด้วย

เสียใจสำหรับชีวิตที่เพิ่งจะเริ่มต้น ราวกับดอกกุหลาบแสนสวยที่กำลังเบ่งบาน แต่แล้วก้านดอกก็หักลงมา และดอกก็เหี่ยวเฉาโดยที่ไม่มีโอกาสช่วยให้ฟื้นคืนมาได้เลย

🔶อาจารย์เคยดูแลเด็กวัยรุ่นหลายคนที่เป็นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติ เป็นนักเรียนเหรียญทอง และเด็ก straight -A ที่ได้ที่หนึ่งเสมอ พบว่าเด็กเหล่านี้มีความตึงเครียดที่ผู้ปกครองไม่รู้ รวมทั้งเป็นโรคซึมเศร้าที่ไม่ได้รับการรักษา

มองดูเผินๆอาจคิดว่าเด็กที่มีฝีมือแบบนี้มีชีวิตที่ดี น่าอิจฉา มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จ เรียกว่า เป็น "rare item ของหายาก" แต่แท้จริงแล้วเด็กกลุ่มนี้น่าเห็นใจมากๆ

😬ข้อมูลจาก คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (the International Olympic Committee ) บอกว่า ในกลุ่มนักกีฬาที่มีฝีมือและมีชื่อเสียง รวมทั้งนักกีฬาโอลิมปิก มีอัตราของโรควิตกกังวลและซึมเศร้าสูงถึง 45%.

💔ทำไมเด็กเก่งๆ มีพรสวรรค์จึงซึมเศร้า?
มีเหตุผลหลายอย่าง ขอยกมาบางข้อเท่านั้น
1. มีแรงกดดันทั้งจากตัวเองและจากครอบครัวให้ต้องชนะ
2. มีความเหน็ดเหนื่อยจากการซ้อม (หรือการเรียน) ที่ต้องทำต่อเนื่อง
3. ถูกตัดสิน ทั้งจากตัวเองและจากคนอื่น ตลอดเวลาว่าดีพอหรือไม่ เก่งพอหรือไม่
4. ต้องอุทิศ พลัง และเวลา รวมทั้งโอกาสที่จะได้สนุก เพื่อการแข่งขัน (ที่เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆของชีวิตเท่านั้น)
5. ชีวิตมีสิ่งเดียวก็คือการแข่งขัน ต้องได้เหรียญ ต้องได้ที่หนึ่ง เหมือนต้องทิ้งสิ่งอื่นๆที่สำคัญไป เช่น เพื่อนฝูง งานอดิเรก สิ่งที่ชอบอื่นๆ
6. ขาดโอกาสเติบโตขึ้นไปในแบบรอบด้าน รวมทั้งโอกาสเรียนรู้อย่างรอบด้านด้วย เพราะต้องมาโฟกัสที่สิ่งเดียว
7. มีความกดดันที่จะต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่สามารถอยู่จุดเดิมได้
8. "ตัวตน-self" อิงอยู่กับสิ่งเดียว นั่นคือความสำเร็จ การอิงแบบนี้ทำให้ตัวตนเปราะบาง เพราะความสำเร็จเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนและต้องไขว่คว้าไม่หยุด
9. ขาดโอกาสพัฒนา เอกลักษณ์ หรือ identity ในด้านอื่นๆ นอกเหนือจากการกีฬา การเรียนเก่ง และการแข่งขัน
10. ขาดโอกาสสนุก โอกาสที่จะได้ผ่อนคลาย ได้เล่น ได้ทำตามใจตัวเอง ต่างจากเด็กทั่วไป

😭ที่สำคัญคือ เด็กแบบนี้ จะยอมรับว่าตัวเอง เปราะ ได้ยาก ดังนั้นเมื่อรู้สึกแย่ รู้สึกกดดัน อยากร้องไห้ ก็ไม่กล้ายอมรับความรู้สึกดังกล่าว "ฉันอ่อนแอไม่ได้" "ฉันเปราะบางไม่ได้"
และไม่กล้าปรึกษาใคร ทำให้ไม่ได้รับความช่วยเหลือ ต้องอยู่โดดเดี่ยวคนเดียวกับความรู้สึกเศร้า กลัว กังวล

คราวหน้ามาคุยกันต่อว่าจะช่วยเด็กเก่งแบบนี้ได้อย่างไร

#ปั้นใหม่

ค่าย ต่อเติมจิต by จิต-ปรุง-แต่ง 😁😁😀"บางคนพยายามจะเป็นในแบบที่คนอื่นต้องการ 🤔ในขณะที่บางคนแสดงออกถึงความเป็นตัวเองได้อย่...
04/02/2021

ค่าย ต่อเติมจิต by จิต-ปรุง-แต่ง 😁😁😀

"บางคนพยายามจะเป็นในแบบที่คนอื่นต้องการ 🤔
ในขณะที่บางคนแสดงออกถึงความเป็นตัวเองได้อย่างชัดเจน
แล้วตัวเราเองล่ะ...เป็นแบบไหน
“ตัวตน” ของเราคืออะไร ? เราเข้าใจตัวเองหรือยัง ?"😶

สิ่งที่จะได้รับจากค่าย(จิต-ปรุง-แต่ง)
น้องๆจะได้สนุกกับกิจกรรมที่จะชวนให้สำรวจตัวเองในแง่มุมต่างๆ
ทั้งความคิด อารมณ์ และการแสดงออก รวมทั้งเรียนรู้กระบวนการทางจิตวิทยา
การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ช่วยให้เข้าใจความเป็นตัวเองได้อย่างชัดเจน
เพื่อเผชิญสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสม

น้องๆ จะได้รับความรู้เกี่ยวกับ…
• Self exploration
• Self-understanding
• Viewpoint theory
• Child needs Shadow Persona
• Basic Cognitive Behavioral Therapy Model

*น้องๆจะได้รับเกียรติบัตรจากการเข้าร่วมค่ายในครั้งนี้

สำหรับน้องๆอายุ 15-20 ปี

รับจำนวนจำกัด 40 คน
วันที่: 27-28 กุมภาพันธ์ 2564 (ทั้ง 2 วัน ไม่ค้างคืน)
เวลา: 9.00-17.00 น.
สถานที่จัด: S64 Co-Working เชื่อม BTSศาลาแดง (MRT สีลม)
ค่าใช้จ่าย: 1,๙oo uาท
โอนผ่านเลขบัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 072-2-63605-8
ชื่อบัญชี พิมพ์ชนก วชิรปราการสกุล

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
พี่วิน 092-6969968 😊
พี่เก้า 063-2171069
Facebook fanpage: จิต-ปรุง-แต่ง
LINE Official:
LINE คลิกเลย : https://lin.ee/3bAP6Fz
หรือสนใจสมัคร กรอกรายละเอียดที่ https://forms.gle/XQE8Rqmf9QgTcETj8

บางคนพยายามจะเป็นในแบบที่คนอื่นต้องการ ในขณะที่บางคนแสดงออกถึงความเป็นตัวเองได้อย่างชัดเจน แล้วตัวเรา....

อากาศหนาว ๆ เย็น ๆ ในช่วงนี้ ที่นอกจากจะเป็นการเพิ่มคุณค่าให้อ้อมกอดของใครสักคนแล้วนั้น ❤️ก็อาจทำให้ S.A.D ได้ด้วยนะ (เอ...
13/01/2021

อากาศหนาว ๆ เย็น ๆ ในช่วงนี้ ที่นอกจากจะเป็น
การเพิ่มคุณค่าให้อ้อมกอดของใครสักคนแล้วนั้น ❤️
ก็อาจทำให้ S.A.D ได้ด้วยนะ (เอ๊ะ...ยังไง)
S.A.D ย่อมาจาก Seasonal affective disorder
คือ โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล 😢
มักเกิดในฤดูหนาว❄️ และฤดูใบไม้ร่วง🍂
โดยการเปลี่ยนแปลงของอากาศจะส่งผลกระทบกับ
Melatonin และ Serotonin สารสื่อประสาทในสมอง
ที่มีบทบาทกับเวลาการนอนและอารมณ์ของเรา
และนาฬิกาชีวิตในร่างกายก็ได้รับผลกระทบจาก
ช่วงเวลากลางวันที่สั้นลง การได้รับแสงแดดน้อยลง
ร่างกายก็รับรู้ถึงความผิดแปลกนี้และทำให้ซึมเศร้าได้ง่าย

นอกจากนี้มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
และพบในคนอายุน้อยมากกว่าผู้ใหญ่อีกด้วย
อาการความ S.A.D
😟 ภาวะซึมเศร้า (Depression)
เช่น สูญเสียความมั่นใจในตนเอง สิ้นหวัง รู้สึกผิด
ไม่สนใจใคร ขาดความสนใจในการทำกิจกรรมต่าง ๆ

😫 ภาวะวิตกกังวล (Anxiety)
เช่น รู้สึกตึงเครียด แบกรับความตึงเครียดได้น้อยลง

😵 อารมณ์เปลี่ยนแปลง (Mood changes)
เช่น มีอารมณ์รุนแรงสุดขั้ว

🥱 ปัญหาการนอนหลับ (Sleep problems)
เช่น ต้องการนอนมากขึ้น นอนหลับไม่เต็มที่
ตื่นเช้ากว่าปกติ

🥴 อาการอ่อนเพลีย (Lethargy)
เช่น รู้สึกทำกิจวัตรประจำวันได้ไม่เต็มที่

🤢 ทานมากเกิน (Overeating)
เช่น อยากทานอาหารจำพวกแป้งและของหวานมากขึ้น
แล้วเราจะบรรเทาความ S.A.D นี้ได้อย่างไร ?
1️⃣ อาบแดดสักหน่อย
นอกจากจะได้ผิวสีแทนตามความชอบแล้ว
การรับแสงแดดยามเช้ายังช่วยเพิ่มระดับ Serotonin
และช่วยให้อารณ์ดีขึ้นได้

2️⃣ ออกกำลังกายสักนิด
การทำงานบ้าน การเดินเล่น หรือการออกกำลังแบบจริงจัง
จะช่วยเพิ่มระดับ Serotonin และสารอื่น ๆ ที่สำคัญในสมอง
ทำให้อารมณ์ดีขึ้น นอนหลับได้ดีขึ้น และ
เพิ่มการเห็นคุณค่าในตนเอง

3️⃣ ทานอาหารดีมีประโยชน์
การทานอาหารที่ดีจะช่วยให้ได้รับพลังงานและสารอาหาร
ที่เหมาะสม และลดความแปรปรวนของอารมณ์ได้

อย่างไรก็ตาม ถ้ารู้สึกว่าจัดการกับความแปรปรวน
ของอารมณ์ได้ไม่ดี หรือเป็นทุกข์มากจนควบคุมไม่ไหว
อย่าลังเลที่จะไปปรึกษาแพทย์นะครับ 👩‍⚕️👨‍⚕️
ลมหนาวคราวนี้คงอยู่กับเราไปอีกสักพัก
อย่าลืมเตรียมร่างกายและจิตใจให้เข้มแข็งเข้าไว้นะ
ส่วนตอนนี้...ผมขอตัวไปนอนต่อล่ะ
อากาศกำลังสบายเลย 💤
#แอดแซลมอนโรล
#จิตปรุงแต่ง #สุขภาพจิต #หน้าหนาว #ลมหนาว

ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก…
https://nph.go.th/?p=4758 #:~:text=จิตใจก็เหมือนกับร่างกายเมื่อ,หรือหดหู่อย่างไม่มีสาเหตุ

https://hellokhunmor.com/สุขภาพชีวิตที่ดี/สุขภาพจิต/ความผิดปกติของอารมณ์ตามฤดูกาล-ซึมเศร้าตามฤดูกาล/

https://www.psychologytoday.com/us/blog/how-help-friend/201706/could-the-seasons-affect-your-mood-1 #:~:text=The%20change%20in%20seasons%20can,factors%20may%20lead%20to%20SAD

ช่วงเวลาเช้ามืดของวันหนึ่งในปี 1964 หญิงสาวชื่อ Catherine Genovese หรือ Kitty ผู้จัดการบาร์แห่งหนึ่งกำลังกลับที่พักหลังจ...
10/01/2021

ช่วงเวลาเช้ามืดของวันหนึ่งในปี 1964 หญิงสาวชื่อ
Catherine Genovese หรือ Kitty ผู้จัดการบาร์แห่งหนึ่ง
กำลังกลับที่พักหลังจากเลิกงาน
แต่มีใครบางคนตามเธอมาด้วยตลอดทาง
เธอพยายามวิ่งหนีหลังจากที่รู้สึกตัว สุดท้าย...
ชายปริศนาก็จับเธอไว้ได้แล้วใช้มีดแทงเข้าที่หลัง
เสียงร้องขอความช่วยเหลือเรียกคนบริเวณนั้นให้ออกมา
ตะโกนไล่คนร้าย ทำให้บุคคลนั้นวิ่งหนีไป
Kitty พาร่างกายโชกเลือดคลานไปบนพื้น
และร้องขอความช่วยเหลือ ที่ไหนได้…
คนร้ายที่เหมือนจะหนีไปแล้วนั้นย้อนกลับมา😢
จ้วงแทงเธออีกหลายครั้งจนเสียงร้องที่น่าสงสารเงียบลง
คนร้ายจึงข่มขืนเธอแล้วหลบหนีไป
เหตุฆาตกรรมนี้ดำเนินไปกว่าครึ่งชั่วโมง และมีพยาน
กว่า 38 คนตามที่ระบุในหนังสือพิมพ์ New York Times
แน่นอนว่าตำรวจก็ตามจับคนร้ายมารับโทษได้ในภายหลัง
แต่สิ่งที่น่าจับตามองนอกจากความรุนแรงของคดีนี้
ก็คือ…
🤫ก่อนจะเฉลยก็มีอีกเหตุการณ์มาฝากเพื่อน ๆ ครับ
ในปี 2011 ที่ประเทศจีน เด็กหญิงอายุเพียง 2 ขวบ
ถูกรถขนของชนแล้วทับ ในบริเวณที่มีคนสัญจรผ่านไปมา
และมีคนขับมอเตอร์ไซค์ที่หยุดดูเด็กคนนี้ ไม่นานนัก
รถขนของอีกคันก็แล่นมาทับร่างซ้ำอีก เวลายังคงผ่านไป
จนกระทั่งหญิงชราคนหนึ่งเข้ามาอุ้มเด็กน้อย👐
ไปยังที่ปลอดภัย และร้องขอความช่วยเหลือ
เพื่อน ๆ สังเกตเห็นอะไรจากเหตุการณ์ข้างต้นบ้างครับ
ทีนี้ผมจะลองชวนเพื่อน ๆ สังเกตสิ่งหนึ่งที่มีอยู่
ในทั้งสองเหตุการณ์นั้น คือ “ผู้เห็นเหตุการณ์” นั่นเอง ..ใช่แล้วครับ จุดร่วมของทั้งสองเหตุการณ์นี้ก็คือ
👁‍🗨 ผู้เห็นเหตุการณ์ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายเลย
พฤติกรรมนี้เรียกว่า The Bystander Effect 👀
ที่แปลว่า “ผู้ยืนดู” หรือ Genovese Syndrome
หมายถึง แนวโน้มที่บุคคลที่รับรู้ถึงเหตุการณ์ร้ายแรง
แต่ไม่มีใครยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ เพราะเห็นว่า
ไม่ได้มีแค่ตนที่อยู่ในเหตุการณ์ คิดว่าคนอื่นน่าจะ
เข้าไปช่วยเหลือ หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่า
😔 ต่างคนต่างคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตนเอง 😔
ถูกอธิบายเป็นครั้งแรกโดย John M. Darley และ
Bibb Latané ในปีค.ศ. 1968 ที่สนใจคดีของ Kitty ว่า
ปรากฏพยานถึง 38 คน แต่ไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ
จนกระทั่งเพื่อนข้างห้องตัดสินใจยืมโทรศัพท์ของห้อง
หญิงชราคนหนึ่งโทรแจ้งตำรวจหลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง
เพราะเขาไม่อยากเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ และมีเพียง
หญิงชราและผู้หญิงคนอื่นออกมาข้างนอกที่พักระหว่างรอ
ตำรวจ มีหญิงชราจับมือผู้เคราะห์ร้ายไว้ขณะรอรถพยาบาล
แต่เธอก็เสียชีวิตระหว่างนำส่งไปโรงพยาบาล
หนึ่งในผลการศึกษาทดลองของพวกเขาพบว่า ถ้าพบผู้หญิง
ยืนเสียใจในที่สาธารณะ กว่า 70% ที่จะเข้าไปช่วยเหลือ
หากในบริเวณนั้นมีแค่เธอและผู้พบเห็น แต่หาก
มีบุคคลอื่นอยู่ด้วย การเข้าไปช่วยเหลือจะลดลง
เหลือเพียง 40%
อีกการทดลองหนึ่งถูกเรียกว่า "Smoke filled room" 🌪
มี 3 กลุ่มทดลอง ทำการทดลองดังนี้

📝 กลุ่มที่ 1 อาสาสมัคร 1 คนนั่งทำแบบทดสอบในห้อง
📝 กลุ่มที่ 2 อาสาสมัคร 3 คนนั่งทำแบบทดสอบในห้อง
📝 กลุ่มที่ 3 มีหน้าม้า 2 คนนั่งอยู่ในห้อง แล้วค่อยให้
อาสาสมัคร 1 คนเข้าไปนั่งทำแบบทดสอบ

วิธีการทดลองคือ เมื่อทำแบบทดสอบไปสักพักจะมี
ควันสีแดงถูกปล่อยผ่านช่องระบายอากาศเข้าไปในห้อง
แล้วดูผลว่าอาสาสมัครจะออกจากห้องมาแจ้งเรื่องควันกับ
นักวิจัยหรือไม่ (หน้าม้า 2 คนในกลุ่มที่ 3 มีหน้าที่
แสดงท่าทีว่าไม่สนใจควันและจะไม่ออกมาแจ้งนักวิจัย
อย่างเด็ดขาด)

📋 ในกลุ่มที่ 1 อาสาสมัครที่ออกมาแจ้งนักวิจัยมี 75%
📋 ในกลุ่มที่ 2 อาสาสมัครที่ออกมาแจ้งนักวิจัยลดลง
เหลือ 38%
📋 ในกลุ่มที่ 3 อาสาสมัครที่ออกมาแจ้งนักวิจัยมีเพียง
10% เท่านั้น
เพื่อน ๆ คิดว่าอะไรที่มีผลกับพฤติกรรมของอาสาสมัคร ?
ทำไมเมื่อเกิดเหตุร้ายแรงคนหมู่มากถึงเพิกเฉย ?
พฤติกรรมนี้มีผลกับชีวิตประจำวันทั่วไปอย่างไร ?
ถ้าเป็นตัวเราที่อยู่ในเหตุการณ์จะเข้าไปช่วยหรือไม่ ?
แล้วพบกันใหม่ใน The Bystander Effect EP.2 😉
#แอดแซลมอนโรล
#จิตปรุงแต่ง #สุขภาพจิต

ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก...
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา
Psychology for modern life มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

https://www.blockdit.com/posts/5c0c878b05140c065d43e578

http://johjaionline.com/opinion/ธุระไม่ใช่-bystander-effect/

https://www.noozup.me/2157531/

https://thematter.co/thinkers/murder-of-kitty-genovese/103864

ย่อหน้าสุดท้ายของบันทึก 2020 📖📚สำหรับปี 2020 ที่ผ่านมามีทั้งสุข รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ 😋มีทั้งเศร้า ร้องไห้ เสียใจ มีทั้งผ...
31/12/2020

ย่อหน้าสุดท้ายของบันทึก 2020 📖📚
สำหรับปี 2020 ที่ผ่านมา
มีทั้งสุข รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ 😋
มีทั้งเศร้า ร้องไห้ เสียใจ
มีทั้งผิดหวัง พร้อมๆกับคราบน้ำตา 😥
งานก็หาย
ยอดขายก็ไม่ดี
หนี้ก็ต้องจ่าย 💸💸
ไปเรียนต่อก็งดบิน
จะกินก็ต้องเดลิเวอรี่
ความรักก็ไม่มี
ไหว้พระทั้งปีก็ไม่ได้
เหงาจนร้องไห้
ไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้
อะไร ๆ ก็พัง
ยังไม่ได้ทำอีกหลายเรื่อง
ที่ผ่านมามีอุปสรรคหลายอย่าง
แต่เมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว
มันอาจไม่ง่ายเลย
ที่เราจะผ่านมันมาได้ 😁
หลายๆครั้งเราคงมองเห็นแต่ปัญหา
และอุปสรรค แต่เคยมองไหมว่า
อะไรที่ทำให้เราผ่านมันมาได้
เคยมองไหมว่า "ตัวเราก็เก่งเหมือนกันนะ"
ที่อดทนและพยายามผ่านสิ่งต่างๆมา
ทั้งด้วยตัวเองและด้วยตัวช่วยอื่นๆ 😎
เรา...
ได้รู้จักการใช้ชีวิตมากขึ้น
ได้เติบโตขึ้น 🦾
ได้ปรับตัวกับทุกเรื่อง

ขอบคุณตัวเองที่พยายาม
ขอบคุณคนรอบข้าง 👭
ที่ยังก้าวเดินไปพร้อมเรา
จงภูมิใจกับสิ่งที่เราก้าวผ่านมา
ไม่ว่าที่แล้วมาจะเป็นอย่างไร
ในปีนี้เราก็ยังคงก้าวต่อ
ขอส่งพลัง ทั้งแรงกาย 🐎
และกำลังใจให้ทุกคน
ได้เริ่มเป้าหมายใหม่
หรือทำในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ
สวัสดีปีใหม่ทุกคน :)
มาร่วมแชร์เรื่องราวที่
“จะเริ่มใหม่ เริ่มทำ”
เพื่อเป็นเป้าหมายให้ตัวเอง
ในปี 2021 นี้กันนะครับ
#แอดที่น่ารักทุกคนเล้ยย

โลกของเรามีภาษาที่หลากหลายเช่นใด“ความรัก” เองก็มีมากกว่าหนึ่งภาษาเช่นนั้น 💕💖 “ภาษารัก” คืออะไรแนวคิดภาษารักนี้มาจาก Dr. ...
30/12/2020

โลกของเรามีภาษาที่หลากหลายเช่นใด
“ความรัก” เองก็มีมากกว่าหนึ่งภาษาเช่นนั้น 💕

💖 “ภาษารัก” คืออะไร
แนวคิดภาษารักนี้มาจาก Dr. Gary Chapman ผู้เชี่ยวชาญ
ด้านการให้คำปรึกษาด้านความรักที่เผยแพร่ผ่านหนังสือ
The 5 Love Languages (ฉบับภาษาไทยชื่อ “ภาษารัก”)
มีทั้งหมด 5 ประเภท โดยแต่ละคนนั้นมีภาษารักที่เป็น
ภาษาหลัก 1 ภาษา และยังอาจมีภาษารักแบบอื่น ๆ
เป็นภาษารองได้ด้วย โดยภาษารักของแต่ละคน
หมายความว่า เขาจะรู้สึกได้รับความรักอย่างแท้จริง
เมื่ออีกฝ่ายแสดงภาษารักแบบนั้น ๆ ต่อเขา

💖 “ภาษารักทั้ง 5” มีดังนี้
1️⃣ คำพูดที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ (Word of Affirmation)
การบอกความรู้สึกดี ๆ ด้วยคำพูดเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย
และตรงไปตรงมา โดยไม่ต้องคาดเดาหรือตีความเอาเอง
เราอาจพูดหรือส่งข้อความเพื่อบอกความรัก ความคิดถึง
ความเป็นห่วง ไปจนถึงการให้กำลังใจให้กับคนที่เรารัก
เพื่อเป็นการยืนยันความรักที่มีให้แก่กัน
ตัวอย่างเช่น “ผมรักคุณ” “คุณน่ารักที่สุดเลย”
“เป็นห่วงนะเธอ” “เธอทำได้อยู่แล้วจ้ะคนเก่ง”
สิ่งที่ต้องระวัง คือ หากคนที่มีภาษารักนี้เป็นภาษาหลัก
จะค่อนข้างจับความรู้สึกจากคำพูดได้ดี เราต้องพูดด้วย
ความรู้สึกจากใจจริง ไม่ควรพูดแบบไม่จริงใจหรือพูดส่ง ๆ
โดยไม่คิดอะไร เพราะจะทำให้คน ๆ นั้นรู้สึกแย่ต่อคุณได้นะ
❤️

2️⃣ ให้เวลาอย่างมีคุณค่า (Quality Time)
เป็นการใช้ช่วงเวลาหนึ่งเพื่ออยู่ด้วยกันทั้งกายและใจ
คือ แสดงถึงความสนใจและให้ความสำคัญแก่กันและกัน
ไม่เกี่ยวกับการต้องใช้เวลาร่วมกันให้นานที่สุด
แค่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่คุณได้แสดงออกว่าเขาคือ
คนสำคัญที่สุดหมายเลขหนึ่งของคุณในขณะนั้นก็เพียงพอ
(อย่างที่เขาว่ากันว่า คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณไงล่ะ)
ตัวอย่างเช่น การพูดคุยกันที่ต่างฝ่ายต่างรับฟังกัน
อย่างสนอกสนใจ การทำกิจกรรมมที่ชอบร่วมกัน
สิ่งที่ต้องระวัง คือ คนที่มีภาษารักแบบนี้มักให้
ความสำคัญกับช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันเป็นอย่างมาก
พยายามอย่าเล่นโทรศัพท์มือถือในระหว่างที่เขากำลัง
พูดคุยกับคุณ หรือแสดงอาการอื่นใดที่จะทำให้เขารับรู้ได้
ว่าคุณกำลังไม่สนใจเขา ในทางตรงข้าม คนที่ต้องการ
ภาษารักนี้ก็ต้องระวังการต้องการเวลาที่มากเกินไปจนอีกฝ่าย
รู้สึกว่าขาดอิสระในชีวิต ลองให้เขามีเวลาส่วนตัวบ้าง
ห่างกันสักพักอาจคิดถึงกันมากขึ้นเวลาได้กลับมาเจอกันนะ
หรือการเรียกร้องให้ทำกิจกรรมที่ตนเองชอบแต่เขากลับ
ไม่ชอบเลย ลองพูดคุยกันถึงกิจกรรมที่แต่ละฝ่ายชอบ
แล้วใช้เวลาที่มีทำกิจกรรมที่ทั้งสองฝ่ายต้องการกันดีกว่า
❤️

3️⃣ ให้ของขวัญ (Giving Gifts)
ภาษารักนี้สามารถเห็นได้ทั่วไปในทุกโอกาสพิเศษ
ซึ่งของขวัญที่ให้นี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นของมีราคาสูง
หรือของแบรนด์เนมรุ่นลิมิเต็ดแต่อย่างใด
แต่ควรที่จะเต็มไปด้วยความหมาย บางครั้งเขาอาจ
ดีใจมากกว่าหากได้รับของที่คุณทำเองกับมือ หรือ
ของฝากจากสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณชื่นชอบและ
อยากพาเขาไปด้วยในครั้งหน้า การให้ของขวัญนี้จะทำให้
เขาได้รับรู้ถึงความรัก ความคิดถึง ความเอาใจใส่
และความรู้สึกว่าได้เป็นคนสำคัญต่อคุณ
สิ่งที่ต้องระวัง คือ คนที่มีภาษารักแบบนี้ไม่ได้เป็น
พวกวัตถุนิยม แค่เขารู้สึกได้รับความรักเมื่อได้รับของขวัญ
ที่มีคุณค่าเท่านั้น (เขาเองก็เลือกของขวัญให้คนอื่นเก่ง
เช่นกัน ถ้าคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรเป็นของขวัญดีก็ลอง
ปรึกษาเพื่อนของคุณที่มีภาษารักนี้ดูได้) และบางคนมักจะ
แสดงภาษารักนี้เป็นหลักทดแทนภาษารักอื่น ๆไปเลย
เช่น คุณพ่อที่ทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว และ
มักแสดงความรักโดยการซื้อของขวัญสุดหรูให้ภรรยา และ
ซื้อของเล่นชั้นดีให้ลูก ๆ ต้องระวังว่าคนที่คุณรักอาจ
ไม่ได้ต้องการความรักในรูปแบบของขวัญ แต่อาจต้องการ
แค่การใช้เวลาร่วมกัน หรือการหอมแก้มทุกคืนก่อนนอน
เท่านั้นก็ได้
❤️

4️⃣ ทำบางสิ่งบางอย่างให้ (Act of Service)
เป็นการดูแลและให้บริการในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะ
เป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ เป็นการแสดงออกถึงความเอาใจใส่
ได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่างเช่น การขับรถไปรับไปส่ง
การช่วยทำงานบ้าน การดูแลเมื่อยามเจ็บป่วย
สิ่งที่ต้องระวัง คือ บางคนไม่ชอบให้การดูแลที่
มากเกินไป เพราะจะรู้สึกว่าขาดอิสระ ถูกควบคุมตลอดเวลา
เช่น การจัดของบนโต๊ะทำงานของเขาก็อาจทำให้
เขาหงุดหงิดได้เพราะหาของไม่เจอในตำแหน่งเดิม
ดังนั้นคุณอาจไม่แปลกใจที่ได้ยินการบอกเลิกใครสักคน
ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘คุณดีเกินไป’
เพราะว่าเขาไม่ชอบการดูแลที่มากเกินไปนั่นเอง
❤️

5️⃣ สัมผัสทางกาย (Physical Touch)
ภาษารักนี้แสดงออกได้ง่ายกับทุกช่วงวัย
(จึงไม่แปลกใจเลยว่าเด็กอายุน้อยขนาดไหนก็รับรู้ถึง
ความรักจากพ่อแม่ได้) เราสามารถแสดงความรักแบบนี้ด้วย
การจับมือ การหอมแก้ม การกอด การจูบ
ไปจนถึงเรื่องเพศสัมพันธ์ แต่ต้องระวังไว้เลยว่าคนที่ชอบ
การสัมผัสทางกายไม่ได้ต้องการมีเพศสัมพันธ์
เพียงอย่างเดียว การสัมผัสเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถทำให้
เขารับรู้ถึงความรัก ความห่วงใย ความอิ่มใจ และ
ความรู้สึกใกล้ชิดที่มากขึ้นได้เช่นกัน
สิ่งที่ต้องระวัง คือ การสัมผัสอย่างเหมาะสมกับ
คนที่คุณรัก หากเขาไม่ชอบที่จะถูกสัมผัส ต้องระวังไม่ให้
มันมากเกินไปจนเขารู้สึกหงุดหงิดรำคาญได้ และต้องระวัง
เกี่ยวกับบริบททางสังคมและวัฒนธรรมด้วย เช่น
ในบางพื้นที่อาจรู้สึกว่าการกอดหรือการจูบกันในที่สาธารณะ
เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น

ภาษารักข้างต้นนี้ไม่ได้ใช้กับความสัมพันธ์ของคู่รักเท่านั้น
แต่ยังใช้ได้กับความสัมพันธ์กับพ่อแม่ กับครอบครัว
กับเพื่อน กับเจ้านาย และอีกหลายความสัมพันธ์
ที่คุณมีส่วนเกี่ยวข้อง ลองนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับ
ตัวคุณและคนที่คุณรักดูนะครับ😃

หากใครอยากรู้ว่าภาษารักของตัวเองจะเป็นแบบไหน
ลองเข้าไปทำแบบทดสอบได้ที่
https://www.5lovelanguages.com/quizzes/
สามารถทำได้ทั้งคนโสด คนมีคู่ เด็ก และวัยรุ่น
ซึ่งวิเคราะห์ได้ละเอียดเลยทีเดียว 👍
เนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษนะครับ (ส่วนฉบับแบบทดสอบ
ฉบับภาษาไทยมีในหนังสือ “ภาษารัก” ครับผม)
พอรู้แล้วว่าคุณมีภาษารักแบบไหนเป็นหลักลองแชร์มา
ในคอมเมนท์กันนะ
(ส่วนแอดแซลมอนโรลได้ Physical Touch ครับ😁)

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนมีความรักที่มีความสุข
ในปีใหม่ที่จะถึงนี้นะครับ🥰
#แอดแซลมอนโรล
#ความรัก #ภาษารัก
#จิตปรุงแต่ง #สุขภาพจิต

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก
หนังสือ “ภาษารัก”
https://www.urbinner.com/post/understanding-the-five-love-languages
https://www.healthtodaythailand.in.th/ภาษารัก-love-language/
https://www.facebook.com/ThaiPsychiatricAssociation/photos/a.499791366791551/509927432444611/

เตรียมจิต ดูแลใจ ระลอกใหม่กำลังมา!ตั้งแต่ที่ทั่วโลกได้รู้จักกับ “โควิด-19” 👾🧬และไทยเราเองก็มีมาตรการต่าง ๆ มากมายที่จะป้...
26/12/2020

เตรียมจิต ดูแลใจ ระลอกใหม่กำลังมา!
ตั้งแต่ที่ทั่วโลกได้รู้จักกับ “โควิด-19” 👾🧬
และไทยเราเองก็มีมาตรการต่าง ๆ มากมาย
ที่จะป้องกันไม่ให้โควิด-19 เกิดการระบาด
จนต้อง Lockdown ให้ทุกคนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ
เปลี่ยนบ้านให้เป็นออฟฟิศ ทำงานกันที่บ้าน
ชีวิตแบบ New Normal ได้เริ่มต้นขึ้น
ทุกวันที่ออกจากบ้านก็จะเห็นทุกคน
สวมหน้ากากอนามัย 😷
ในกระเป๋าของบางคนก็ต้องพกเจลแอลกอฮอล์
ไปที่ไหนก็ต้องสแกน วัดอุณหภูมิร่างกาย
จนหลายๆคน
เริ่มจะชินกับรูปแบบชีวิตวิถีใหม่นี้แล้ว
ทุกคนอยู่ในสถานการณ์นี้ร่วมกันมาหลายเดือน
จนเมื่อเร็วๆนี้ ทุกท่านคงได้ติดตามข่าว
ที่มีจำนวนการติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง
ทุกคนเริ่มให้ความสนใจ และตื่นตัวมากขึ้น
เพราะเจ้าโควิด-19 ซึ่งก็ร้ายไม่เบา
ยิ่งอยู่นานก็ส่งผลต่อสังคม เศรษฐกิจ ฯลฯ
หลายคนที่ต้องปรับตัวอาจเกิดความเครียด
วิตกกังวล หรือเกิดปัญหาทางสุขภาพจิต
และเจ็บป่วยด้วยโรคทางจิตเวชเพิ่มขึ้น
ในช่วงนี้จึงอยาก
ฝากให้ทุกคนเตรียมความพร้อม
รับมือกับสถานการณ์
ที่อาจจะต้องดูแลจิตใจกันสักหน่อย
จึงมีคำแนะนำเบื้องต้น ดังนี้
1.จัดการกับความเครียด😌
หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะกระตุ้นความเครียด
ผ่อนคลายด้วยการทำกิจกรรม
งานอดิเรก หรือพูดคุย แลกเปลี่ยน
กับคนใกล้ชิด หรือเพื่อน
ให้ช่วยคลายเครียด
สำหรับบางคนที่ทำฟรีแลนซ์
หรือกำลังอยุ่ในช่วงหางานใหม่
อาจจะทำให้เครียดสักหน่อย
ใช้ช่วงเวลานี้ในการมองหาโอกาส
เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ
เชื่อว่าหากจัดการดีดี
งานก็จะเข้ามาหาแน่นอน
2.มีสติและอยู่กับปัจจุบัน🕑
การตั้งสติ และทำความเข้าใจต่อเหตุการณ์
จะทำให้เรารู้ทันสถานการณ์
สามารถเปิดรับข้อมูลอย่างเป็นเหตุผลและ
เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆได้ดีขึ้น
โดยเฉพาะสถานการณ์ในช่วงนี้
3.ติดตามข่าวสารแต่พอดี🗞
การรับรู้ข้อมูลมากเกินไป
อาจทำให้เราวิตกกังวลได้
(จึงแนะนำให้ย้อนกลับไปทำแบบข้อ 1)
แนะนำให้อ่านแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้
ไม่ส่งต่อข่าวที่ไม่ได้กรอง
ซึ่งอาจเป็น Fake News
4.ดูแลใจกันและกัน ❤️
เราสามารถคอยดูคอยเตือน
ให้คนใกล้ชิดระมัดระวัง
ให้มีความปลอดภัย
และใส่ใจในการป้องกันมากขึ้น
หากมีเรื่องกังวลใจก็พูดคุย ปรึกษา
ให้กำลังใจกัน
แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย
แต่ก็ช่วยคลายความเครียดของตัวเราเอง
และคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี
5.ดูแลร่างกายให้สตรอง💪🏼
การดูแลสุขภาพไม่ว่าสถานการณ์ไหนก็สำคัญ
ดูแลทั้งการใช้ชีวิต ดูเรื่องอาหาร
สุขอนามัยที่ดี
ในช่วงนี้อาจต้องดูแลป้องกันตนเอง
ปฏิบัติตามคำแนะนำและมาตรการ
6.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ นักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์💡
การรับมือของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน
บางคนปรับตัวได้เร็ว แต่บางคนอาจมีปัญหารุมเร้า
จนส่งผลกระทบให้จัดการกับความเครียดได้ไม่ดีพอ
จึงอาจต้องเข้ารับการปรึกษากับนักจิตวิทยา
หรือสำหรับผู้ที่มีอาการทางจิตเวช ที่ต้องพบจิตแพทย์
เพื่อหาวิธีการบรรเทา ให้สามารถรับมือต่อ
สถานการณ์ต่างๆได้เหมาะสมมากขึ้น
ในช่วงนี้ทางเราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน
เราจะผ่านช่วงเวลานี้กันไปได้อย่างปลอดภัย
ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง :)
#แอดฮันนี่โทสต์
#แอดหมูกระเทียม

เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด...?เห็นด้วยหรือไม่ว่าช่วงเวลาวัยรุ่นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหมือนอย่างชื่อหนังสือข้างต้น เราต่า...
21/12/2020

เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด...?

เห็นด้วยหรือไม่ว่าช่วงเวลาวัยรุ่นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เหมือนอย่างชื่อหนังสือข้างต้น เราต่างรู้กันดีว่า
วัยรุ่นคือช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลง รับเอาประสบการณ์
รอบตัวมาปรับใช้กับตัวเอง จนบางครั้งวัยรุ่นก็อาจสับสน
ใน “ตัวตน” จากการเก็บเกี่ยวสิ่งรอบตัวที่มากมายเหล่านั้น

Erik Erikson นักจิตวิทยาคลินิกชาวเยอรมันได้เสนอ
ทฤษฎีพัฒนาการทางจิตสังคมของมนุษย์ตั้งแต่
ช่วงแรกเกิดจนถึงวัยชรา หนึ่งในนั้นกล่าวถึงช่วงวัยรุ่นที่ว่า
ช่วงเวลาที่เด็กเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยรุ่นนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลง
ด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมอย่างมาก หากมีพัฒนาการที่
เหมาะสมก็จะเกิดการพัฒนา “อัตลักษณ์ (Identity)” ✨
คือมีการสร้างเอกลักษณ์ สร้างทัศนคติ และค่านิยมของตนเอง
มองและเห็นตนเองตามที่ผู้อื่นเห็น เข้าใจตัวเองตามที่เป็นจริง
ไม่ได้มองแต่ตัวตนตามที่ตนอยากจะเป็น เรียนรู้และยอมรับ
ความสามารถของตน เลือกแสดงบทบาทได้เหมาะสมกับ
ค่านิยมของสังคม ถ้าบุคคลรอบข้างให้การยอมรับก็จะเกิด
ความมั่นใจในตัวเอง แต่หากพัฒนาการในช่วงวัยนี้เกิดขึ้น
อย่างไม่เหมาะสมจะเกิดเป็น “ความสับสนในบทบาทและ
ความสำคัญของตนเอง (Role confusion)” 🤨 ทำให้ขาด
ความเป็นตัวของตัวเอง เกิดความสงสัย ไม่มั่นใจและไม่เชื่อ
ว่าผู้อื่นจะยอมรับตน อาจนำไปสู่พัฒนาการที่ไม่เหมาะสม
ในช่วงวัยต่อ ๆ ไปได้

วัยรุ่นมีความคิดเกี่ยวกับตนเอง (Self awareness) ดังนี้
1️⃣ เอกลักษณ์ (Identity) คือ เริ่มแสดงออกถึงสิ่งตนเองชอบ
หรือสิ่งที่ถนัด ได้แก่ วิชาเรียนหรือกีฬาที่ชอบ งานอดิเรก
กลุ่มเพื่อนที่สนิทด้วย โดยมีลักษณะคล้ายกันหรือเข้ากันได้
จึงเกิดการเรียนรู้และถ่ายทอดแบบอย่างจากกลุ่มเพื่อน
ทั้งแนวคิด ค่านิยม การแสดงออกและการแก้ปัญหาต่าง ๆ
ซึ่งจะพัฒนาควบคู่ไปกับความชอบในด้านอื่น ๆ
จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของตนต่อไป

2️⃣ ภาพลักษณ์ของตนเอง (Self image) คือ การมองตนเอง
ในด้านต่าง ๆ เช่น รูปร่างหน้าตา ข้อดีข้อด้อยทางร่างกาย
วัยรุ่นจะสนใจรูปร่างและลักษณะทางร่างกายมากกว่าวัยอื่น ๆ
ถ้าตนเองมีข้อด้อยกว่าคนอื่นก็อาจเกิดความอับอาย
จนเสียความมั่นใจได้ง่าย

3️⃣ การได้รับการยอมรับจากผู้อื่น (Acceptance) วัยรุ่นต้องการ
การยอมรับจากกลุ่มเพื่อนอย่างมาก เนื่องจากเริ่มห่างพ่อแม่
ทำให้มิตรภาพในกลุ่มเพื่อนกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
อย่างหนึ่งของวัยรุ่น การได้รับการยอมรับจะช่วยให้เกิด
ความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย เห็นคุณค่าและมั่นใจในตนเอง
ในช่วงวัยรุ่นนี้จึงอยากให้มีคนรู้จักตัวเขามาก ๆ

4️⃣ คุณค่าในตนเอง (Self esteem) เกิดจากการที่
ตนเองเป็นที่ยอมรับของเพื่อนและบุคคลรอบข้าง รู้สึกว่า
ตนเองมีคุณค่า เป็นคนดีและมีประโยชน์ต่อผู้อื่น
รวมถึงภูมิใจที่ตนเองทำสิ่งต่าง ๆ ได้สำเร็จ

5️⃣ ความเป็นตัวของตัวเอง (Independent) วัยรุ่นรักอิสระ
ต้องการมีเสรีภาพ ชอบที่จะคิดเอง ทำเอง พึ่งตัวเอง
และเชื่อในความคิดตนเอง มีความอยากรู้อยากเห็นอยากลอง
ทำให้อาจเกิดพฤติกรรมเสี่ยงได้ง่าย การได้ทำอะไรด้วยตนเอง
และทำได้สำเร็จจะช่วยให้เกิดความมั่นใจในตนเองได้

6️⃣ การควบคุมตนเอง (Self control) ในช่วงวัยนี้จะเรียนรู้
เกี่ยวกับการควบคุมความคิด การรู้จักยั้งคิด
การคิดให้เป็นระบบ เพื่อให้สามารถใช้ความคิดได้
อย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้

เพื่อน ๆ คิดว่า วัยรุ่นควรพัฒนาความเป็นตัวเองอย่างไร
ให้เหมาะสม หรือว่าอยากรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวตนของวัยรุ่น
อีกบ้าง (ลองคอมเมนท์บอกกันได้นะ😉)

ในครั้งหน้า เราจะนำเสนอเกี่ยวกับความเป็นตัวตนของวัยรุ่น
เพิ่มเติมอย่างไร โปรดติดตามนะครับ❤️
#แอดแซลมอนโรล
#สุขภาพจิต #วัยรุ่น #ตัวตนวัยรุ่น

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก...
หนังสือ “ตำราพฤติกรรมศาสตร์ทางการแพทย์”
https://www.psyclin.co.th/new_page_56.htm
https://med.mahidol.ac.th/ramamental/generaldoctor/06062014-0847

สวยจากภายใน EP.2จากคราวที่แล้วเราพูดกันไว้ถึงเรื่องของ Self-Esteem หรือ การเห็นคุณค่าในของตนเอง👑 ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อ...
16/12/2020

สวยจากภายใน EP.2
จากคราวที่แล้วเราพูดกันไว้ถึงเรื่องของ Self-Esteem
หรือ การเห็นคุณค่าในของตนเอง👑 ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผล
ต่อการใช้ชีวิตของเรา เมื่อ Self-Esteem ลดลง
ก็จะมีผลกระทบเกิดขึ้นได้ ในครั้งนี้ตามสัญญา
เราก็จะมาสร้าง Self-Esteem ให้เพิ่มขึ้นกัน 😊
จึงกลับมาที่เรื่องความสวย💃 หลายคนมี
นิยามความสวยที่แตกต่างกัน จะขอยกตัวอย่าง
ของการประกวดนางงาม ที่หากใครได้ติดตาม
ก็จะเห็นว่าการเลือกผู้ที่จะคว้ามงกุฏ ทุกวันนี้
ไม่ได้มาจากความสวยที่ปรากฏภายนอกอย่างเดียว
นางงามต้องมีความมั่นใจ ฉลาด มีความรู้ ความสนใจ
และมีมุมมองที่ดีต่อตัวเอง หรือแม้กระทั่งสนใจ
สิ่งที่อยู่รอบตัว และเป็นพลังของการขับเคลื่อนสังคม
ซึ่งจะแสดงให้เห็นผ่านการตอบคำถามของพวกเธอ
เป็นคุณลักษณะที่มีอยู่ภายในจิตใจ ซึ่งอาจนิยามได้ว่า
เป็น “ความสวยจากภายใน สู่ภายนอก”
ความสวยก็ปรากฏสู่ทุกสายตา ✨
ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เราสามารถมีมุมมองที่ดีกับตัวเอง
มีความสบายใจกับร่างกาย ก้าวข้ามผ่านความรู้สึกที่
ลดทอนคุณค่า ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
และเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น 🥰
แล้วเราจะสร้าง Self-Esteem ได้ยังไง?
พวกเราจึงมีคำแนะนำบางอย่างที่จะช่วย
ให้คุณสร้างการเห็นคุณค่าในตัวเองได้ ดังนี้
• ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น (Self-Acceptance)
• คิดเกี่ยวกับตัวเองในแง่บวก นึกถึงข้อดีและความสำเร็จของตนเอง
• ทำในสิ่งที่มีความสุข กล้าปฏิเสธในสิ่งที่ไม่ต้องการ
• รับผิดชอบ และลงมือทำอย่างมีความหนักแน่นในตัวเอง
(Self-Assertiveness)
• ตั้งเป้าหมายในสิ่งที่สามารถทำได้จริง (SMART Goal)
• ไม่เปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น
• มีวิธีในการจัดการกับความเครียดของตัวเอง
• ใช้เวลากับคนใกล้ชิดมากขึ้น และหลีกเลี่ยงการอยู่
ร่วมกับคนที่ทำให้รู้สึกแย่
ก็จะเห็นว่ามันมีความเป็นไปได้ที่เราจะสร้าง
มุมมองที่ดีต่อตนเอง ซึ่งมีผลอย่างมากเมื่อเรา
ต้องใช้ชีวิตในสังคม ที่อาจพบว่ายังมีการตัดสิน
กันแค่ภายนอก ยังถูกบูลลี่ หรือยังมีการมองเรื่อง
รูปลักษณ์เป็นเรื่องสำคัญ ตราบใดที่เราเชื่อมั่นใน
ตัวเองว่าเรามีคุณค่ามากพอ เข้มแข็งมากพอที่จะ
ไม่สนใจว่าใครจะว่าอย่างไรเกี่ยวกับลักษณะภายนอกของเรา
เราเชื่อมั่นว่า...เราก็คือเรา
สวยในแบบของเรา 😉
ไหนๆก็พูดถึงนางงามแล้ว ขอทิ้งท้ายด้วยคำกล่าว
จากการประกวดนางงาม Miss Universe 2019 ซึ่งเป็น
การพูดในรอบสุดท้าย ของ Zozibini Tunzi ที่เป็น
ผู้คว้ามงกุฏในปีนั้น เธอกล่าวไว้ว่า “ฉันเกิดมาในโลกที่
ผู้หญิงที่เหมือนฉัน มีสีผิวแบบฉัน มีผมแบบฉัน
ไม่เคยถูกมองว่าสวย และฉันคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว
ที่ความคิดแบบนี้จะหมดไป-ในวันนี้ ฉันอยากให้
เด็กๆมองมาที่ฉัน ดูใบหน้าฉัน แล้วเห็นใบหน้า
ของตนเองสะท้อนอยู่บนใบหน้าฉัน” 🌟
#แอดฮันนี่โทสต์

Address

Alawwa

Telephone

+66926969968

Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when จิต-ปรุง-แต่ง posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Practice

Send a message to จิต-ปรุง-แต่ง:

Share

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram