ศิษย์เก่าอาจารย์โกเอ็นก้า NL

ศิษย์เก่าอาจารย์โกเอ็นก้า NL ข่าวสารข้อมูล การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในเนเธอร์แลนด์และเบลเยี่ยม (จัดทำโดยศิษย์เก่าท่านอาจารย์โกเอ็นก้า)

ขอเชิญศิษย์เก่าปฏิบัติร่วมกัน เพื่อเป็นอาจาริยบูชา 29 กันยายน 2568
03/09/2025

ขอเชิญศิษย์เก่าปฏิบัติร่วมกัน เพื่อเป็นอาจาริยบูชา 29 กันยายน 2568

ฝ่ายทะเบียน ศูนย์วิปัสสนา Dhamma Taḷākaฝากประชาสัมพันธ์---------------------------------------หลักสูตรวิปัสสนา 10 วัน ภา...
09/05/2025

ฝ่ายทะเบียน ศูนย์วิปัสสนา Dhamma Taḷāka
ฝากประชาสัมพันธ์
---------------------------------------
หลักสูตรวิปัสสนา 10 วัน ภาคภาษาไทย
(ดำเนินการอบรมโดย อาจารย์ผู้ช่วยสอนคนไทย)
ณ ศูนย์ธรรมะ Taḷāka เมือง Almere ประเทศเนเธอร์แลนด์
ในวันที่ 16 - 27 กรกฎาคม 2568

ยังมีที่ว่างนะคะ

ทางศูนย์ฯ ให้สิทธิผู้สมัครชาวไทย สามารถลงทะเบียนสมัครเข้ารับการอบรมได้ก่อนสัญชาติอื่น ๆ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2568ค่ะ
ณ ขณะนี้ยังมีที่ว่างนะคะ

ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม เป็นต้นไป จะเปิดโอกาสให้ผู้สนใจสัญชาติอื่น ๆ ลงทะเบียนได้จนกว่าจะเต็มหลักสูตรค่ะ

ไฟล์เสียงอ่านหนังสือ "ศิลปะในการดำเนินชีวิต" วิปัสสนากรรมฐาน สอนโดยท่านอาจารย์โกเอ็นก้า มีทั้งหมด 12 ไฟล์1. บทนำเรื่อง ว...
05/05/2025

ไฟล์เสียงอ่านหนังสือ "ศิลปะในการดำเนินชีวิต"
วิปัสสนากรรมฐาน สอนโดยท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

มีทั้งหมด 12 ไฟล์

1. บทนำ
เรื่อง วิชาว่ายน้ำศาสตร์
https://www.youtube.com/watch?v=sZ-18ZG-S8w&list=PL802RT4KbjHaBxCOnYr5FldCOSC9Fxhhz&index=1

2. การค้นหา
เรื่อง บนหนทางแห่งอริยมรรค
https://www.youtube.com/watch?v=r3KwllugBbA&list=PL802RT4KbjHaBxCOnYr5FldCOSC9Fxhhz&index=2

3. จุดเริ่มต้น
เรื่อง พระพุทธเจ้ากับนักวิทยาศาสตร์
https://www.youtube.com/watch?v=pSvnnWtCdJU&list=PL802RT4KbjHaBxCOnYr5FldCOSC9Fxhhz&index=3

4. เหตุปัจจุบัน
เรื่อง ผลไม้และเมล็ด
https://www.youtube.com/watch?v=fSpkYK63PV4&list=PL802RT4KbjHaBxCOnYr5FldCOSC9Fxhhz&index=4

5. รากเหง้าของปัญหา
เรื่อง ก้อนกรวดและน้ำมันเนย
https://www.youtube.com/watch?v=nsjUn15b-hU&list=PL802RT4KbjHaBxCOnYr5FldCOSC9Fxhhz&index=5

6. การรักษาศีล
เรื่อง ใบสั่งยา
https://www.youtube.com/watch?v=qZfiMcTRR78&list=PL802RT4KbjHaBxCOnYr5FldCOSC9Fxhhz&index=6

7. การฝึกสมาธิ
เรื่อง ขนมคีร์ที่คดงอ
https://www.youtube.com/watch?v=J5Gy57Kl3k4&list=PL802RT4KbjHaBxCOnYr5FldCOSC9Fxhhz&index=7

8. การพัฒนาปัญญา
เรื่อง แหวนสองวง
https://www.youtube.com/watch?v=0KbYueThd5U&list=PL802RT4KbjHaBxCOnYr5FldCOSC9Fxhhz&index=8

9. สติและอุเบกขา
เรื่อง เห็นก็สักแต่ว่าเห็น
https://www.youtube.com/watch?v=cIun00RyI-w&list=PL802RT4KbjHaBxCOnYr5FldCOSC9Fxhhz&index=9

10. จุดหมายปลายทาง
เรื่อง เติมน้ำมันให้เต็มขวด
https://www.youtube.com/watch?v=J6ui4gGpZ7E&list=PL802RT4KbjHaBxCOnYr5FldCOSC9Fxhhz&index=10

11. ศิลปะในการดำเนินชีวิต
เรื่อง นาฬิกาแห่งวิปัสสนาเริ่มเดินแล้ว
https://www.youtube.com/watch?v=8OlJN8dhcO4&list=PL802RT4KbjHaBxCOnYr5FldCOSC9Fxhhz&index=11

12. ภาคผนวก 1
ความสำคัญของเวทนาในคำสอนของพระพุทธเจ้า

ภาคผนวก 2
ข้อความบางตอนในพระสูตรเกี่ยวกับเวทนา
https://www.youtube.com/watch?v=BYGOYQPV5IA&t=27s

E-book สามารถดาวน์โหลดได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ https://www.thaidhamma.net/images/stories/EBookPDF/Book_The%20Art%20of%20Living.pdf

-----------------------

ศิลปะในการดำเนินชีวิต
วิปัสสนากรรมฐาน สอนโดยท่านอาจารย์โกเอ็นก้า
วิลเลียม ฮาร์ท เขียน
ISBN : 978-616-90317-0-3

มูลนิธิฯ อนุญาตให้นำหนังสือนี้ (ไม่รวมภาพประกอบ) ไปใชเ้ผยแพร่เป็นธรรมทานในรูปแบบอื่นๆ ต่อไปได้ เช่น นำไปอ่านบันทึกเสียง ฯลฯ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
1. อ้างอิงแหล่งที่มา ได้แก่ ชื่อผู้เขียนและชื่อหนังสือ
2. ห้ามนำข้อความจากหนังสือนี้ไปใช้เพื่อการค้า หรือเพื่อผลประโยชน์ตอบแทนด้วยการเผยแพร่ ทุกรูปแบบ
3. ห้ามเพิ่มเติม ตัดทอน ดัดแปลง หรือแก้ไขข้อความจากต้นฉบับ
ทั้งนี้ขอให้แจ้งความประสงค์แก่มูลนิธิฯ ก่อนดำเนินการใดๆ เนื่องจากหนังสือส่วนใหญ่มีลิขสิทธิ์ของต่างประเทศ

มูลนิธิส่งเสริมวิปัสสนากรรมฐานในพระสังฆราชูปถัมภ์
42/660 หมู่บ้านเค.ซี.การ์เด้นโฮม ถ.นิมิตใหม่ เขตคลองสามวา กทม. 10510
โทร.0-2993-2711 (ในเวลาราชการ)
อีเมล : vipassana_foundation@hotmail.com
เว็บไซต์ : www.thai.dhamma.org

เปิดรับสมัครลงทะเบียนแล้วนะคะ-----------------------------หลักสูตรวิปัสสนา 10 วัน ภาคภาษาไทย(ดำเนินการอบรมโดย อาจารย์ผู้...
29/04/2025

เปิดรับสมัครลงทะเบียนแล้วนะคะ
-----------------------------
หลักสูตรวิปัสสนา 10 วัน ภาคภาษาไทย
(ดำเนินการอบรมโดย อาจารย์ผู้ช่วยสอนคนไทย)
ณ ศูนย์ธรรมะ Taḷāka เมือง Almere ประเทศเนเธอร์แลนด์

ในวันที่ 16 - 27 กรกฎาคม 2568

ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ที่
https://www.dhamma.org/en/schedules/schtalaka

เว็บไซต์ของศูนย์ Dhamma Taḷāka
https://talaka.dhamma.org/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าอบรมโพสไว้ในคอมเมต์ด้านล่างค่ะ

การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานวิปัสสนา เป็นวิธีการปฏิบัติกรรมฐานที่เก่าแก่ที่สุดวิธีหนึ่งของอินเดีย ซึ่งได้สาบสูญไปจากมนุษยชา...
29/04/2025

การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

วิปัสสนา เป็นวิธีการปฏิบัติกรรมฐานที่เก่าแก่ที่สุดวิธีหนึ่งของอินเดีย ซึ่งได้สาบสูญไปจากมนุษยชาติมาเป็นเวลานาน แต่ก็ได้กลับมาค้นพบอีกครั้งโดยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว วิปัสสนาหมายถึง "การมองดูสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง" อันเป็นกระบวนการในการทำจิตให้บริสุทธิ์โดยการเฝ้าดูตนเอง เราจะเริ่มต้นด้วยการเฝ้าสังเกตดูลมหายใจตามธรรมชาติ เพื่อทำให้จิตมีสมาธิ เมื่อมีสติที่มั่นคง เราก็จะก้าวไปสู่การเฝ้าสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของกายและจิต ซึ่งจะทำให้ได้พบกับสัจธรรมที่เป็นสากลคือ ได้เห็นความไม่เที่ยง(อนิจจัง) ความทุกข์ (ทุกขัง) และความไม่มีตัวตน (อนัตตา) การที่ได้รู้เห็นถึงสภาพธรรมตามความเป็นจริงเหล่านี้จากประสบการณ์ของท่านเองโดยตรง จึงเป็นวิธีการในการชำระจิตให้บริสุทธิ์ ธรรมะเป็นเรื่องสากล มีไว้สำหรับแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เป็นสากล มิได้ผูกขาดเฉพาะศาสนาใดศาสนาหนึ่งหรือลัทธิใดลัทธิหนึ่ง ด้วยเหตุนี้บุคคลทุกคนจึงสามารถจะปฏิบัติได้อย่างเสรี โดยไม่มีข้อขัดแย้งในเรื่องของเชื้อชาติ ชั้นวรรณะ หรือศาสนา ในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ และจะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆ คนโดยทั่วถึงกัน

วิปัสสนานั้นมิใช่เป็น
* พิธีกรรมที่มีพื้นฐานทางความเชื่อถืออย่างงมงาย
* เรื่องบันเทิงทางปัญญาหรือปรัชญา
* การพักฟื้น การหยุดพักผ่อน หรือโอกาสที่จะมาสังสรรค์กัน
* การหลีกหนีจากปัญหาและความยุ่งยากในชีวิตประจำวัน

หากแต่วิปัสสนาเป็น
* วิธีการในการขจัดความทุกข์
* ศิลปะของการดำเนินชีวิตที่จะทำให้คนเราอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
* วิธีการทำจิตให้บริสุทธิ์ ซึ่งจะทำให้คนเราสามารถเผชิญกับความตึงเครียดและปัญหาในชีวิตได้ด้วยความสงบและความสมดุลทางจิตใจ

วิปัสสนากรรมฐานจึงมุ่งไปยังเป้าหมายทางจิตใจในระดับสูงสุด เพื่อการหลุดพ้นโดยสิ้นเชิงและเพื่อการบรรลุธรรม มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการบำบัดรักษาโรคทางกาย แต่เนื่องจากเป็นผลพลอยได้จากการทำจิตให้บริสุทธิ์ จึงทำให้ความเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากความเก็บกดในจิตใจหมดไป แท้จริงแล้ว วิปัสสนาสามารถที่จะขจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ 3 ประการ คือ โลภ โกรธ หลง ได้ ถ้าได้ปฏิบัติต่อเนื่องกัน วิปัสสนาจะระบายความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันและแก้ปมในใจที่ผูกอยู่ เนื่องจากนิสัยดั้งเดิมที่ชอบปรุงแต่งต่อสถานการณ์ต่างๆ เช่น ปรุงแต่งไปในทางที่ชอบหรือพอใจ (อันทำให้เกิดโลภะ) และไม่ชอบหรือไม่พอใจ (อันทำให้เกิดโทสะ) แม้ว่าวิปัสสนาจะพัฒนาขึ้นมาโดยที่เป็นวิธีการหนึ่งของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่การปฏิบัติก็มิได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาพุทธเท่านั้น จึงไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของศาสนาแต่อย่างใด วิธีปฏิบัติตั้งอยู่บนพื้นฐานธรรมดาสามัญที่ว่า มนุษย์ทุกคนต่างมีปัญหาเหมือนๆ กัน และวิธีการที่สามารถขจัดปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้ จะต้องเป็นวิธีที่เป็นสากล มีผู้ที่นับถือศาสนาอื่นๆ เคยได้รับผลจากการปฏิบัติวิปัสสนามาแล้ว โดยมิได้มีความขัดแย้งกับความเชื่อที่มีอยู่เดิม

ที่มา https://www.thaidhamma.net/index.php?option=com_content&task=view&id=14&Itemid=29

ตารางเวลาปฏิบัติ
13/01/2025

ตารางเวลาปฏิบัติ

คำแนะนำในการเข้าอบรม-----------------------ขอให้การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของท่านจงยังประโยชน์สูงสุดให้แก่ท่าน  เพื่อให้บ...
13/01/2025

คำแนะนำในการเข้าอบรม
-----------------------
ขอให้การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของท่านจงยังประโยชน์สูงสุดให้แก่ท่าน เพื่อให้บรรลุผลดังกล่าว จึงขอเสนอข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้ ด้วยความปรารถนาดีต่อความสำเร็จของท่าน โปรดทำความเข้าใจให้ตลอดก่อนกรอกใบสมัครเพื่อขอเข้ารับการฝึกอบรม

คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติ
---------------------------
วิปัสสนาเป็นวิธีการปฏิบัติกรรมฐานที่เก่าแก่ที่สุดวิธีหนึ่งของอินเดีย ซึ่งได้สาบสูญไปจากมนุษยชาติมาเป็นเวลานาน แต่ก็ได้กลับมาค้นพบอีกครั้งโดยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว วิปัสสนาหมายถึง "การมองดูสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง" อันเป็นกระบวนการในการทำจิตให้บริสุทธิ์โดยการเฝ้าดูตนเอง เราจะเริ่มต้นด้วยการเฝ้าสังเกตดูลมหายใจตามธรรมชาติ เพื่อทำให้จิตมีสมาธิ เมื่อมีสติที่มั่นคง เราก็จะก้าวไปสู่การเฝ้าสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของกายและจิต ซึ่งจะทำให้ได้พบกับสัจธรรมที่เป็นสากลคือ ได้เห็นความไม่เที่ยง(อนิจจัง) ความทุกข์ (ทุกขัง) และความไม่มีตัวตน (อนัตตา) การที่ได้รู้เห็นถึงสภาพธรรมตามความเป็นจริงเหล่านี้จากประสบการณ์ของท่านเองโดยตรง จึงเป็นวิธีการในการชำระจิตให้บริสุทธิ์ ธรรมะเป็นเรื่องสากล มีไว้สำหรับแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เป็นสากล มิได้ผูกขาดเฉพาะศาสนาใดศาสนาหนึ่งหรือลัทธิใดลัทธิหนึ่ง ด้วยเหตุนี้บุคคลทุกคนจึงสามารถจะปฏิบัติได้อย่างเสรี โดยไม่มีข้อขัดแย้งในเรื่องของเชื้อชาติ ชั้นวรรณะ หรือศาสนา ในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ และจะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆ คนโดยทั่วถึงกัน

วิปัสสนานั้นมิใช่เป็น
------------------
* พิธีกรรมที่มีพื้นฐานทางความเชื่อถืออย่างงมงาย
* เรื่องบันเทิงทางปัญญาหรือปรัชญา
* การพักฟื้น การหยุดพักผ่อน หรือโอกาสที่จะมาสังสรรค์กัน
* การหลีกหนีจากปัญหาและความยุ่งยากในชีวิตประจำวัน

หากแต่วิปัสสนาเป็น
-----------------
* วิธีการในการขจัดความทุกข์
* ศิลปะของการดำเนินชีวิตที่จะทำให้คนเราอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
* วิธีการทำจิตให้บริสุทธิ์ ซึ่งจะทำให้คนเราสามารถเผชิญกับความตึงเครียดและปัญหาในชีวิตได้ด้วยความสงบและความสมดุลทางจิตใจ

วิปัสสนากรรมฐานจึงมุ่งไปยังเป้าหมายทางจิตใจในระดับสูงสุด เพื่อการหลุดพ้นโดยสิ้นเชิงและเพื่อการบรรลุธรรม มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการบำบัดรักษาโรคทางกาย แต่เนื่องจากเป็นผลพลอยได้จากการทำจิตให้บริสุทธิ์ จึงทำให้ความเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากความเก็บกดในจิตใจหมดไป

แท้จริงแล้ว วิปัสสนาสามารถที่จะขจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ 3 ประการ คือ โลภ โกรธ หลง ได้ ถ้าได้ปฏิบัติต่อเนื่องกัน วิปัสสนาจะระบายความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันและแก้ปมในใจที่ผูกอยู่ เนื่องจากนิสัยดั้งเดิมที่ชอบปรุงแต่งต่อสถานการณ์ต่างๆ เช่น ปรุงแต่งไปในทางที่ชอบหรือพอใจ (อันทำให้เกิดโลภะ) และไม่ชอบหรือไม่พอใจ (อันทำให้เกิดโทสะ)

แม้ว่าวิปัสสนาจะพัฒนาขึ้นมาโดยที่เป็นวิธีการหนึ่งของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่การปฏิบัติก็มิได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาพุทธเท่านั้น จึงไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของศาสนาแต่อย่างใด วิธีปฏิบัติตั้งอยู่บนพื้นฐานธรรมดาสามัญที่ว่า มนุษย์ทุกคนต่างมีปัญหาเหมือนๆ กัน และวิธีการที่สามารถขจัดปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้ จะต้องเป็นวิธีที่เป็นสากล มีผู้ที่นับถือศาสนาอื่นๆ เคยได้รับผลจากการปฏิบัติวิปัสสนามาแล้ว โดยมิได้มีความขัดแย้งกับความเชื่อที่มีอยู่เดิม

วินัยในการปฏิบัติ
---------------
กระบวนการทำจิตให้บริสุทธิ์โดยการสังเกตดูตนเองนี้ มิใช่เป็นเรื่องง่ายอย่างแน่นอน เราจะต้องปฏิบัติอย่างจริงจัง ผู้เข้ารับการฝึกจะต้องใช้ความพยายามของตนเองเท่านั้น จึงจะเข้าถึงการรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเอง ไม่มีใครอื่นที่จะทำให้ได้ ดังนั้นวิปัสสนากรรมฐานจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะปฏิบัติ และมีความเคร่งครัดต่อระเบียบ เพื่อประโยชน์แก่ตนเอง และเป็นการคุ้มครองตนเองด้วย กฎระเบียบต่างๆ จะเป็นส่วนที่ทำให้การปฏิบัติกรรมฐานสมบูรณ์ขึ้น เวลา 10 วันนี้นับว่าเป็นระยะเวลาที่สั้นในการที่จะเจาะลึกเข้าไปถึงระดับจิตใต้สำนึก และเรียนรู้วิธีการที่ขจัดกิเลสที่ตกตะกอนอยู่ในส่วนลึกสุด (อนุสัยกิเลส) การปฏิบัติให้ต่อเนื่องโดยไม่พูดจาหรือเกี่ยวข้องกับใคร เป็นเคล็ดลับของความสำเร็จของวิธีการนี้
กฎระเบียบต่างๆ ที่กำหนดขึ้น ก็เพื่อรักษาการปฏิบัติแนวนี้ให้คงอยู่ได้ กฎเกณฑ์ต่างๆ มิได้ตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ของอาจารย์ผู้สอน หรือเพื่อความสะดวกในการบริหาร หรือเพื่อคัดค้านประเพณีคำสอน หรือความเชื่องมงายที่มีอยู่ในบางศาสนา แต่เป็นสิ่งที่มีพื้นฐานมาจากประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติกรรมฐานนับพันๆ คนเป็นเวลาหลายปี และยังเป็นสิ่งที่มีเหตุผลเป็นวิทยาศาสตร์

การรักษากฎระเบียบจะก่อให้เกิดบรรยากาศที่เป็นระเบียบอันเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการปฏิบัติกรรมฐาน การฝ่าฝืนกฎระเบียบย่อมจะทำให้เกิดมลภาวะ ผู้เข้ารับการฝึกจะต้องอยู่ให้ครบ 10 วัน และจะต้องอ่านกฎระเบียบต่างๆอย่างใคร่ครวญ
ผู้ที่คิดว่าสามารถปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหล่านี้ได้เท่านั้น จึงควรจะสมัครเข้าปฏิบัติ ผู้ที่มิได้เตรียมตัวที่จะใช้ความพยายามในการปฏิบัติอย่างเต็มที่ ไม่ควรสมัคร เพราะจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ นอกจากนี้ยังจะเป็นการรบกวนบุคคลอื่นที่ตั้งใจเข้ามาปฏิบัติด้วยความเคร่งครัดอีกด้วย ผู้เข้ารับการฝึกจะได้รับคำเตือนว่า หากเลิกฝึกก่อนที่จะจบการอบรม เนื่องจากเห็นว่ากฎระเบียบต่างๆ ยากที่จะปฏิบัติ จะทำให้เกิดอันตรายแก่ตัวผู้นั้น รวมทั้งจะก่อให้เกิดความไม่สบายใจขึ้นมาได้ ในกรณีที่นับว่าร้ายแรงที่สุดก็คือ เมื่อถูกเตือนหลายครั้งแล้ว ยังไม่สามารถจะปฏิบัติตามกฎระเบียบได้ ก็จะถูกขอให้ออกไปจากการฝึกอบรม

ผู้ป่วยด้วยโรคทางจิตประสาท
--------------------------
บุคคลที่ป่วยด้วยโรคทางจิต บางครั้งอาจต้องการสมัครมาเข้ารับการฝึกวิปัสสนาด้วยความเข้าใจผิดว่า การปฏิบัติวิปัสสนาจะช่วยรักษา หรือบรรเทาอาการป่วยทางจิตของตน แท้จริงแล้ว ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ไม่ปกติสุขตลอดจนการได้รับการเยียวยาทางจิตประสาทด้วยวิธีต่างๆ มาแล้วนั้น กลับจะเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติภาวนาจนถึงขั้นที่ทำให้ไม่ได้รับประโยน์ใดๆ เลยจากการมาเข้ารับการฝึกอบรม หรืออาจทำให้ไม่สามารถอยู่รับการฝึกให้ตลอดหลักสูตรได้ด้วย แม้การปฏิบัติวิปัสสนาจะเป็นประโยชน์สำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ก็มิใช่เป็นการทดแทนการรักษาพยาบาลด้วยยาหรืออื่นใด เนื่องจากศูนย์ปฏิบัติของเราให้บริการโดยอาสาสมัครทั้งสิ้น จึงทำให้ไม่สามารถที่จะดูแลบุคคลผู้มีปัญหาเหล่านี้โดยถูกต้องได้ ผู้มีปัญหาทางจิตประสาทจึงไม่ควรสมัครเข้ารับการอบรม

กฎระเบียบ
----------
พื้นฐานในการปฏิบัติวิปัสสนา คือ ศีล ศีลจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาสมาธิ และกระบวนการทำจิตให้บริสุทธิ์นั้นจะเกิดขึ้นจากปัญญา คือการรู้แจ้งเห็นจริง

ศีล
---
ผู้เข้าปฏิบัติวิปัสสนาทุกท่านจะต้องรักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด ได้แก่
1. เว้นจากการฆ่าสัตว์
2. เว้นจากการลักทรัพย์
3. เว้นจากการประพฤติผิดในกาม
4. เว้นจากการพูดเท็จ
5. เว้นจากการดื่มน้ำเมา
สำหรับผู้ที่เคยผ่านหลักสูตรนี้มาแล้ว จะต้องถือศีล 8 ซึ่งมีเพิ่มเติม คือ
6. เว้นจากการบริโภคอาหารในยามวิกาล
7. เว้นจากการดูละครฟ้อนรำ และการใช้เครื่องหอมตกแต่งร่างกาย
8. เว้นจากการนอนบนที่นอนที่หนาและอ่อนนุ่ม
ผู้ที่ได้เคยปฏิบัติมาแล้ว จะรักษาศีลข้อ 6 ได้ด้วยการดื่มแต่เพียงน้ำปานะหลังจากการพักในเวลา 5 โมงเย็น ในขณะที่ผู้ปฏิบัติใหม่ อาจจะดื่มนม น้ำชา หรือรับประทานผลไม้ได้ อาจารย์ผู้สอนอาจจะยอมให้ผู้ที่เคยปฏิบัติมาแล้วบางคนยกเว้นการรักษาศีลข้อนี้ได้ ถ้าหากบุคคลผู้นั้นมีปัญหาด้านสุขภาพ ส่วนศีลข้อ 7 และ 8 นั้น ทุกคนจะต้องรักษา

การยอมรับอาจารย์ผู้สอนและวิธีการปฏิบัติ
--------------------------------------
ในระหว่างการฝึก ผู้เข้ารับการฝึกจะต้องรับที่จะปฏิบัติตามวิธีการ และคำแนะนำของอาจารย์ผู้สอนทุกประการนั่นคือ ผู้เข้ารับการฝึกจะต้องปฏิบัติตามวิธีการปฏิบัติที่อาจารย์สอน โดยไม่มีการแต่งเติมหรือตัดทอนใดๆ ทั้งสิ้น การยอมรับด้วยความเชื่อถือเท่านั้น ที่จะทำให้ผู้เข้ารับการฝึกสามารถปฏิบัติได้อย่างขยันขันแข็งโดยตลอด ซึ่งการยอมรับนี้ก็ควรจะมีการแยกแยะและทำความเข้าใจด้วย มิใช่เป็นไปเพราะถูกบังคับหรือหลงงมงายเหมือนคนตาบอด ความเชื่อมั่นที่มีต่ออาจารย์ผู้สอนและวิธีการปฏิบัติ จำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการปฏิบัติวิปัสสนา

พิธีกรรมและวัตรทางศาสนาตลอดจนวิธีการปฏิบัติอื่นๆ
------------------------------------------------
ในระหว่างการฝึก สิ่งที่สำคัญมากคือ จะต้องงดพิธีกรรมและวัตรทางศาสนาต่างๆ ทั้งหมด เช่น การจุดตะเกียงนับลูกประคำ ท่องมนต์ อดอาหาร สวดมนต์ เป็นต้น การปฏิบัติกรรมฐานแบบอื่นๆ หรือการปฏิบัติเพื่อการบำบัดรักษาอื่นๆ จะต้องเว้นด้วย เช่น การเดินจงกรม การฝึกโยคะโดยใช้สมาธิ ทั้งนี้มิใช่เป็นการคัดค้านการปฏิบัติวิธีอื่นๆ แต่เพื่อให้ได้ทดลองฝึกวิธีวิปัสสนาแบบนี้เพียงแบบเดียว เพราะการนำวิธีปฏิบัติวิธีอื่นมาผสมปนเปกับวิธีปฏิบัตินี้ จะทำให้เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในการปฏิบัติ หรืออาจจะทำให้การปฏิบัติไม่ได้ผลเลย แม้ว่าอาจารย์ผู้สอนจะคอยเตือนซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ตาม แต่ก็ยังมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นในอดีต เมื่อผู้รับการฝึกนำเอาวิธีการปฏิบัตินี้ไปรวมกับพิธีกรรมอื่นๆ จนทำให้เกิดอันตรายต่อผู้นั้น ความสงสัยและความสับสนที่อาจเกิดขึ้นนั้นสามารถจะแก้ไขให้กระจ่างได้ โดยการไปพบอาจารย์ผู้สอน

การเข้าพบอาจารย์ผู้สอน
----------------------
หากมีปัญหาหรือความสับสนใดๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติวิปัสสนา ควรจะไปขอคำอธิบายจากอาจารย์ผู้สอนเท่านั้น เวลาระหว่าง 12.00 - 13.00 น.จะเป็นเวลาที่จัดไว้ให้สำหรับเข้าพบเป็นการส่วนตัวกับอาจารย์ที่ที่พัก แต่ท่านก็สามารถตั้งคำถามถามอาจารย์ได้ระหว่างเวลา 21.00 - 21.30 น.ในห้องปฏิบัติรวม
การพบกับอาจารย์ผู้สอนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อขอคำอธิบายสำหรับปัญหาทั่วๆ ไปเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติ จึงไม่ควรใช้โอกาสนี้ให้เสียไปกับการอภิปรายในเรื่องเกี่ยวกับปรัชญา หรือถกเถียงกันในประเด็นที่ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ผู้ปฏิบัติเท่านั้นจึงจะรู้ได้ ผู้ที่เข้ารับการฝึกจึงควรมุ่งที่จะปฏิบัติเพียงอย่างเดียว

การรักษาความเงียบ
------------------
ผู้เข้ารับการฝึกทุกคนจะต้องรักษาความเงียบ นับตั้งแต่เริ่มต้นฝึกจนกระทั่ง 10.00 น. ของการฝึกวันที่ 10 การรักษาความเงียบนี้ รวมไปถึงความเงียบทั้งทางกาย วาจา และใจ โดยจะต้องไม่มีการพูดจากับใครเลย และจะต้องงดการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม ทั้งการออกท่าทาง การเขียนโน้ต หรือทำสัญญาณต่างๆ แต่ผู้เข้ารับการฝึกสามารถพูดคุยกับอาจารย์ผู้สอนได้หากจำเป็น และติดต่อกับผู้ดำเนินงานได้หากมีปัญหาเกี่ยวกับที่พัก อาหาร และอื่นๆ แต่การติดต่อพูดจาเหล่านี้ ก็ควรมีให้น้อยที่สุด ผู้เข้าฝึกทุกคนควรจะสร้างความรู้สึกว่า ตนเองกำลังปฏิบัติอย่างจริงจังเสมือนอยู่คนเดียว

คู่สมรส
-------
จะมีการแยกชายหญิง แม้กระทั่งคู่สมรสก็ไม่ควรมีการติดต่อกันในระหว่างการฝึก

การสัมผัสทางกาย
----------------
จะต้องไม่มีการสัมผัสทางร่างกายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะระหว่างเพศเดียวกันหรือต่างเพศ ตลอดระยะการฝึกและระหว่างที่อยู่ในศูนย์ฯ

โยคะและการออกกำลังกาย
------------------------
แม้การทำโยคะหรือการออกกำลังกายจะไม่ขัดต่อการปฏิบัติ แต่ระหว่างการเข้ารับการฝึกอบรม 10 วันนี้ ก็ขออย่าให้มีการออกกำลังกายใดๆ ไม่ว่าจะเป็นโยคะ ท่าดัดตนบริหารร่างกายมือเปล่า หรือวิ่งจ๊อกกิ้ง ทั้งนี้เนื่องจากศูนย์ปฏิบัติไม่มีสถานที่ที่จัดไว้โดยเฉพาะในเรื่องนี้ ถ้าต้องการออกกำลังกาย ให้ทำได้เฉพาะการเดินไปมาในระหว่างชั่วโมงพักผ่อน ในบริเวณที่กำหนดให้เท่านั้น

เครื่องราง ลูกประคำ หรืออื่นๆ
--------------------------
สิ่งเหล่านี้ห้ามนำเข้ามาในบริเวณที่พัก หากมีการนำเข้ามาโดยมิได้ตั้งใจ จะต้องนำไปฝากไว้กับผู้ให้บริการตลอด 10 วัน

ของมึนเมาและยา
---------------
ห้ามนำเอายา เหล้า หรือของมึนเมา รวมทั้งยากล่อมประสาท ยานอนหลับ และยาระงับประสาท หากจะต้องรับประทานยาเหล่านี้ตามที่แพทย์สั่ง จะต้องแจ้งให้อาจารย์ผู้สอนทราบล่วงหน้าก่อนการฝึก

สูบบุหรี่
------
ห้ามสูบบุหรี่หรือเคี้ยวยาเส้นตลอดระยะเวลาการฝึก

อาหาร
------
เนื่องจากศูนย์ฯ ไม่สามารถที่จะจัดหาอาหารพิเศษตามความต้องการของผู้ปฏิบัติกรรมฐานได้ จึงต้องขอให้ผู้เข้ารับการฝึกรับประทานอาหารมังสวิรัติที่จัดเตรียมไว้ให้ หากผู้ใดที่แพทย์สั่งให้รับประทานอาหารพิเศษ เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ ก็ขอให้แจ้งให้ผู้ดำเนินงานทราบในเวลาลงทะเบียน

เสื้อผ้า
------
เสื้อผ้าที่ใช้ควรเรียบง่ายและสวมสบาย ไม่จำกัดสีหรือแบบ แต่ไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดตึง โปร่งบาง เสื้อไม่มีแขน หรือกางเกงรัดรูป ห้ามนุ่งกางเกงขาสั้นทั้งชายหญิง และห้ามอาบแดดหรือเปลือยบางส่วนโดยเด็ดขาด ข้อห้ามเหล่านี้มีความสำคัญมาก ทั้งนี้เพื่อมิให้รบกวนบุคคลอื่น

ความสะอาด
-----------
ผู้เข้ารับการฝึกจะต้องอยู่ และปฏิบัติร่วมกันในห้องปฏิบัติธรรม จึงจำเป็นที่จะต้องอาบน้ำทุกวัน และรักษาเสื้อผ้าให้สะอาด ในบางครั้งอาจไม่มีบริการซักผ้า ผู้เข้ารับการฝึกจะต้องซักเสื้อผ้าเอง แต่ก็ควรทำในช่วงเวลาพักเท่านั้น หากเป็นไปได้ ควรเตรียมเสื้อผ้าให้เพียงพอที่จะใช้ตลอดระยะเวลาปฏิบัติ

การติดต่อภายนอก
-----------------
ผู้เข้ารับการฝึกจะต้องอยู่ในบริเวณที่ใช้ฝึกตลอดการฝึก จะออกไปภายนอกได้เฉพาะในกรณีจำเป็นอย่างยิ่ง และจะต้องได้รับอนุญาตจากอาจารย์ผู้สอนก่อน ผู้เข้ารับการฝึกจะต้องงดการโทรศัพท์ การเขียนจดหมาย และการพบปะกับผู้ที่มาเยี่ยมเยียน นอกจากในกรณีฉุกเฉิน ผู้ที่มาเยี่ยมจะต้องมาติดต่อกับฝ่ายจัดการ

ดนตรี อ่านหนังสือ และเขียนหนังสือ
-------------------------------
ห้ามเล่นดนตรี ฟังวิทยุ และห้ามนำสิ่งที่ใช้เขียน หรืออ่านเข้ามาในสถานที่ฝึก ผู้เข้ารับการฝึกไม่ควรรบกวนตนเองโดยการเขียนบันทึก การห้ามเขียนและอ่าน ก็เพื่อที่จะได้ปฏิบัติกรรมฐานได้อย่างเคร่งครัด

เครื่องบันทึกเทปและกล้องถ่ายรูป
-----------------------------
สิ่งเหล่านี้จะใช้ได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากอาจารย์ผู้สอนเป็นพิเศษเท่านั้น

นาฬิกาปลุก นาฬิกาข้อมือที่มีเสียงบอกเวลา
--------------------------------------
ห้ามนำมาใช้ในห้องปฏิบัติรวมอย่างเด็ดขาด และไม่ควรใช้นาฬิกาปลุกในที่พัก เพราะจะเป็นการรบกวนผู้อื่น

ทุนทรัพย์ในการดำเนินงาน
-----------------------
เพื่อให้การเผยแพร่ธรรมะเป็นไปโดยบริสุทธิ์ การฝึกอบรมดำเนินได้ด้วยเงินบริจาคเพียงอย่างเดียว และการบริจาคก็จะรับจากผู้ที่ผ่านการฝึกมาแล้วเท่านั้น เหตุผลก็คือ การบริจาคควรมาจากผู้ที่ได้ตระหนักถึงประโยชน์ของธรรมะที่มีต่อตนเอง ซึ่งจะทำให้การบริจาคนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติ หากท่านมีความปรารถนาที่จะแบ่งปันประโยชน์เหล่านี้กับผู้อื่น ท่านก็อาจจะกระทำได้ด้วยการบริจาคในวันสิ้นสุดการอบรม

การรับบริจาคจากผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการอบรมธรรมะนี้ เป็นรายได้ทางเดียวสำหรับที่จะนำมาใช้จ่ายในการจัดการฝึกอบรม โดยมิได้มีความสนับสนุนในด้านการเงินอื่นใด ทั้งอาจารย์ผู้สอนและผู้ดำเนินงานก็ล้วนไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ จากการจัดการฝึกนี้ โดยวิธีนี้ ธรรมะจึงเผยแพร่ออกไปได้ด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น ไม่ว่าการบริจาคของท่านจะมากหรือน้อย ก็ขอให้มาจากเจตนาที่บริสุทธิ์ เจตนาที่จะช่วยให้ผู้อื่นได้มีโอกาสพบกับธรรมะอันบริสุทธิ์เช่นเดียวกับท่าน "เพราะเหตุว่า มีผู้ที่ได้ออกค่าใช้จ่ายให้กับการฝึกของข้าพเจ้ามาแล้ว ตอนนี้ขอให้เป็นโอกาสที่ข้าพเจ้าจะได้ให้กับผู้อื่นบ้าง"

สรุป
----
สาระของกฎเกณฑ์และระเบียบต่างๆ อาจสรุปได้ดังนี้ "จงระมัดระวังการกระทำของตนให้มาก อย่ารบกวนผู้อื่น อย่าสนใจหากมีผู้อื่นรบกวน" อาจเป็นไปได้ว่า ผู้เข้ารับการฝึกไม่สามารถเข้าใจเหตุผลของกฎระเบียบต่างๆ เหล่านี้หากเป็นเช่นนี้ควรจะไปขอคำอธิบายในเรื่องเหล่านี้กับอาจารย์ผู้สอน มิใช่ปล่อยให้ตนเองเกิดความเข้าใจผิด หรือเกิดความสงสัยมากขึ้น
ดังนั้นการปฏิบัติตามระเบียบและความพยายามที่จะปฏิบัติให้มากที่สุดเท่านั้น ที่จะทำให้ผู้เข้ารับการฝึกปฏิบัติได้ผลดี และได้รับผลตามความมุ่งหมาย สิ่งที่จะต้องเน้นใน 10 วันนี้ก็คือ "ปฏิบัติ" ปฏิบัติให้เหมือนกับว่า เราอยู่เพียงคนเดียวในการฝึก เพิกเฉยต่อสิ่งรบกวน และความไม่สะดวกสบายที่ต้องเผชิญอยู่ทั้งหมด ปฏิบัติด้วยจิตที่มุ่งเข้าสู่ภายในเท่านั้น
ประการสุดท้าย ผู้เข้ารับการฝึกควรระลึกไว้เสมอว่า ความก้าวหน้าในการปฏิบัติวิปัสสนาขึ้นอยู่กับบารมี (กุศลที่ได้สะสมมาแต่ปางก่อน) และปัจจัย 5 ประการคือ ความเพียร ความศรัทธา ความจริงใจ สุขภาพอนามัย และปัญญา

ขอให้กฎเกณฑ์ต่างๆ และข้อแนะนำเหล่านี้เป็นประโยชน์แก่ท่าน ขอให้ท่านได้รับผลสูงสุดจากการฝึกกรรมฐานนี้ เรายินดีที่ได้มีโอกาสให้บริการแก่ท่าน ขอให้ทุกท่านได้รับความสงบและสันติสุขจากการปฏิบัติวิปัสสนาโดยทั่วกัน

ตารางเวลา
----------
04:00 น. ระฆังปลุก
04:30 น. - 06:30 น. นั่งปฏิบัติในห้องปฏิบัติรวมหรือในที่พักส่วนตัว

06:30 น. - 08:00 น. อาหารเช้า

08:00 น. - 09:00 น. ปฏิบัติร่วมกันในห้องปฏิบัติรวม
09:00 น. - 11:00 น. ปฏิบัติในห้องปฏิบัติรวม หรือในที่พักส่วนตัวตามที่อาจารย์กำหนด

11:00 น. - 12:00 น. อาหารกลางวัน

12:00 น. - 13:00 น. พักผ่อน
13:00 น. - 14:30 น. ปฏิบัติในห้องปฏิบัติรวมหรือในที่พักส่วนตัว
14:30 น. - 15:30 น. ปฏิบัติร่วมกันในห้องปฏิบัติรวม
15:30 น - 17:00 น. ปฏิบัติในห้องปฏิบัติรวมหรือในที่พักตามที่อาจารย์กำหนด

17:00 น. - 18:00 น. พักดื่มน้ำปานะ

18:00 น. - 19:00 น. ปฏิบัติร่วมกันในห้องปฏิบัติรวม
19:00 น. - 20:15 น. ฟังธรรมบรรยายในห้องปฏิบัติรวม
20:15 น. - 21:00 น. ปฏิบัติร่วมกันในห้องปฏิบัติรวม
21:00 น. - 2130 น. สอบถามข้อสงสัยกับอาจารย์
เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม
21:30 น. พักผ่อน

หลังจากอ่านคำแนะนำในการเข้าอบรมนี้แล้ว หากท่านพร้อมจะเข้ารับการอบรมและปฏิบัติตามกฎระเบียบข้างต้น ท่านสามารถตรวจสอบ ตารางการอบรม และศูนย์ฯ ที่ปรารถนาจะเข้ารับการอบรมก่อนกรอกใบสมัคร

คลิกที่นี่เพื่อเลือกตารางอบรม

ศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน Dhamma Talaka ประเทศเนเธอร์แลนด์
https://www.dhamma.org/en/schedules/schtalaka

ศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน Dhamma Pajjota ประเทศเบลเยี่ยม
https://www.dhamma.org/en/schedules/schpajjota

ศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน ในประเทศไทย
https://www.thaidhamma.net/index.php?option=com_thaidhamma&Itemid=39&filter_locationid=0

ที่มาของข้อมูล
https://www.thaidhamma.net/index.php?option=com_content&task=view&id=14&Itemid=29

ภาษาดัชต์และอังกฤษ
https://talaka.dhamma.org/about-vipassana/

ข่าวประชาสัมพันธ์----------------ศูนย์ธรรมะ Taḷāka เมือง Almere ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้จัดหลักสูตรวิปัสสนา 10 วัน ภาคภาษา...
13/01/2025

ข่าวประชาสัมพันธ์
----------------
ศูนย์ธรรมะ Taḷāka เมือง Almere ประเทศเนเธอร์แลนด์

ได้จัดหลักสูตรวิปัสสนา 10 วัน ภาคภาษาไทย ดำเนินการอบรมโดย อาจารย์ผู้ช่วยสอนคนไทย

ในวันที่ 16 - 27 กรกฎาคม 2568

เปิดรับสมัคร 16 เมษายน เป็นต้นไป (สำหรับผู้ปฏิบัติที่เข้าใจภาษาไทย) และสำหรับผู้สมัครทั้่วไปตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม

ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ที่
https://www.dhamma.org/en/schedules/schtalaka

เว็บไซต์ของศูนย์ Dhamma Taḷāka
https://talaka.dhamma.org/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าอบรมโพสไว้ในคอมเมต์ด้านล่างค่ะ

ลิงก์เพื่อการดาวน์โหลดหนังสืออีบุ๊ค (PDF File) สืบเนื่องจากท่านอาจารย์โกเอ็นก้าได้เขียนบันทึก “เรื่องนโยบายสมบัติทางปัญญ...
21/11/2024

ลิงก์เพื่อการดาวน์โหลดหนังสืออีบุ๊ค (PDF File)

สืบเนื่องจากท่านอาจารย์โกเอ็นก้าได้เขียนบันทึก “เรื่องนโยบายสมบัติทางปัญญาเกี่ยวกับวิปัสสนา” เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2006 ไว้ว่าขอมอบลิขสิทธิ์ของผลงานที่ท่านประพันธ์ทั้งหมดรวมทั้งคำสอนทั้งหมดให้แก่สถาบันวิจัยวิปัสสนา(วี.อาร์.ไอ)ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ไม่หวังผลกำไร ดังนั้นการเผยแพร่สื่อธรรมะต่างๆทางมูลนิธิฯจึงต้องดำเนินการขออนุญาตผ่านทางวี.อาร์.ไอ โดยขณะนี้ทางวี.อาร์.ไอ ยินดีที่จะเปิดลิงก์ให้ศิษย์ไทยได้ดาวน์โหลดผ่านเว็บไซด์ของวี.อาร์.ไอ

เกี่ยวกับ วี.อาร์.ไอ เว็บไซด์

เว็บไซด์ www.vridhamma.org ได้เริ่มเผยแพร่ครั้งแรกในวันที่ 11 พ.ค. 2541 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเว็บไซด์นี้เป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยวิปัสสนากรรมฐานและเป็นที่รวมข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนาที่สอนโดยท่านอาจารย์โกเอ็นก้าในแนวทางของท่านอาจารย์อูบาขิ่นจากที่ต่างๆทั่วโลก

ความจำเป็นในการก่อตั้งสถาบันวิจัยวิปัสสนา (VRI)

ถาม : ธรรมคีรีกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว นอกจากจะมีการจัดการอบรมหลักสูตรต่างๆ แล้ว ตอนนี้เรายังมีสถาบันวิจัยวิปัสสนา แผนกคอมพิวเตอร์ แผนกภาษาบาลี รวมทั้งงานก่อสร้างอีกไม่น้อย ในบรรดางานทั้งหลายเหล่านี้ อย่างไหนที่เป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของศูนย์ปฏิบัติธรรมครับ เราควรให้ความสำคัญกับเรื่องไหนเป็นอันดับแรก ใครเป็นผู้ที่มีความสำคัญที่สุดในศูนย์ฯ ครับ (จาก FOR THE BENEFIT OF MANY หน้า 57)

ท่านอาจารย์ : งานหลักๆ ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมทุกศูนย์ของเราทั่วโลกต้องทำคือ การอบรมวิปัสสนา แต่ธรรมคีรีถือเป็นศูนย์กลาง เป็นศูนย์ฯที่มีความสำคัญที่สุดที่เรามีกิจกรรมอย่างอื่นด้วย นั่นคือ การทำวิจัยในเรื่องปริยัติ ซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า

ในด้านที่เป็นทฤษฎีของธรรมะนั้นยังมีความสับสนอยู่มาก เช่น มีหนังสือที่ผู้ไม่เคยปฏิบัติธรรมเขียนขึ้น โดยประกอบไปด้วยคำแปลพระพุทธพจน์ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเราก็พบว่าการตีความที่ผิดพลาดนี้ได้สร้างความสับสนขึ้นในจิตใจของผู้ปฏิบัติ สำหรับผู้ปฏิบัติวิปัสสนาที่มีศรัทธาเต็มเปี่ยมในคำสอน จึงไม่จำเป็นต้องไปศึกษาปริยัติเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจ หรือเพื่อคำแนะนำเพิ่มเติม แต่ถ้าผู้ปฏิบัติไปพบหนังสือที่มีการแปลคำสอนของพระพุทธองค์แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ก็จะเกิดความสับสนขึ้นในจิตใจอย่างแน่นอน ซึ่งนั่นย่อมส่งผลต่อความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมของเขา

ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นถึงความจำเป็นในการก่อตั้งสถาบันวิจัยวิปัสสนาขึ้นมา เพื่อส่งเสริมคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าในด้านการปฏิบัติ สถาบันแห่งนี้จะทำงานวิจัยครอบคลุมพระพุทธพจน์ อรรถกถา และฎีกา อีกทั้งยังจะจัดพิมพ์คำอธิบายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติด้วย งานวิจัยดังกล่าวไม่ได้มีวัตถุประสงค์อื่นใด นอกจากจะทำให้เกิดความกระจ่างในวิธีการปฏิบัติวิปัสสนา และเพื่อช่วยให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจว่าปริยัติคืออะไร ทั้งนี้มิได้หมายความว่า กิจกรรมของศูนย์ฯในด้านการอบรมวิปัสสนาจะย่อหย่อนลงไป การปฏิบัติวิปัสสนาจะยังคงเป็นกิจกรรมที่สำคัญที่สุดเสมอ

งานวิจัยนี้ไม่ควรทำกันทุกศูนย์ฯ แต่เนื่องจากธรรมคีรีอยู่ในสถานะพิเศษ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม และอาณาบริเวณที่กว้างขวาง โดยได้มีการกันพื้นที่ส่วนหนึ่งออกไปเพื่อทำงานวิจัยนี้

เพื่อสนับสนุนงานของ VRI ท่านสามารถร่วมบริจาคได้ที่บัญชี "มูลนิธิส่งเสริมวิปัสสนาในพระสังฆราชูปถัมภ์ " ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางเดื่อ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 036-3-62750-1

กรุณาส่งหลักฐานการโอนเงินพร้อมชื่อ-ที่อยู่ โดยระบุว่า "เพื่อสนับสนุนงานของ วี.อาร์.ไอ." ไปที่อีเมล์ info@thaidhamma.net เพื่อการจัดส่งใบอนุโมทนา

เนื่องจากมิได้เป็นเงินบริจาคเพื่อสาธารณกุศลภายในประเทศ ใบอนุโมทนานี้จะไม่สามารถนำไปใช้ในการลดหย่อนภาษีประจำปีได้

ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสืออีบุ๊ค (PDF File) ได้ที่

https://www.thaidhamma.net/index.php?option=com_content&task=view&id=136&Itemid=122

ที่มา thaidhamma.net

ขอเชิญศิษย์เก่าปฏิบัติร่วมกันเพื่อเป็นอาจาริยบูชาเนื่องในวาระครบรอบ ๑๑ ปีแห่งการมรณกรรมของท่านอาจารย์โกเอ็นก้าวันอาทิตย์...
09/09/2024

ขอเชิญศิษย์เก่าปฏิบัติร่วมกันเพื่อเป็นอาจาริยบูชา
เนื่องในวาระครบรอบ ๑๑ ปีแห่งการมรณกรรมของท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

วันอาทิตย์ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๗

ปฏิบัติร่วมกัน ๑ ชั่วโมง - ๒ รอบ
เวลา ๐๙:๐๐ น.-๑๐:๐๐ น.และ
๑๐:๑๐ น.-๑๑:๑๐ น.

ทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันซูม (Zoom)
ลิงก์สำหรับการปฏิบัติร่วมกัน : https://zoom.us/j/92560851062
Meeting ID: 925 6085 1062 รหัสผ่าน: behappy

ที่มา https://www.thaidhamma.net

จุลสารวิปัสสนา จัดทำขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข่าวสารความรู้แก่ผู้ปฏิบัติธรรมในแนวทางของท่านอาจารย์อูบาขิ่น สอนโดย...
28/08/2024

จุลสารวิปัสสนา

จัดทำขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข่าวสารความรู้แก่ผู้ปฏิบัติธรรมในแนวทางของท่านอาจารย์อูบาขิ่น สอนโดยท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

จัดทำโดยมูลนิธิส่งเสริมวิปัสสนากรรมฐานในพระสังฆราชูปถัมภ์

ท่านสามารถอ่านจุลสารทางออนไลน์ได้ โดยคลิกเลือกฉบับที่ท่านสนใจ และสามารถสั่งพิมพ์จุลสารฉบับดังกล่าวได้โดยตรงจากหน้าเว็บ thaidhamma.net

สำหรับท่านที่ประสงค์จะบอกรับจุลสารทางอีเมล กรุณาแจ้งความจำนงพร้อมชื่อนามสกุลและอีเมล ไปยัง : member.tvnl@thaidhamma.net

ท่านสามารถอ่านจุลสารวิปัสสนาฉบับอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซต์ https://www.thaidhamma.net
เลือกเมนู รวมลิงก์ดาวน์โหลด ที่อยู่ด้านบนของเว็บไซต์ หรือคลิกที่นี่ https://www.thaidhamma.net/index.php?option=com_content&task=view&id=47&Itemid=50

ประวัติท่านอาจารย์โกเอ็นก้า-------------------------ท่านอาจารย์โกเอ็นก้าเป็นชาวอินเดียที่ถือกำเนิดในประเทศพม่าเมื่อปี พ....
28/08/2024

ประวัติท่านอาจารย์โกเอ็นก้า
-------------------------
ท่านอาจารย์โกเอ็นก้าเป็นชาวอินเดียที่ถือกำเนิดในประเทศพม่าเมื่อปี พ.ศ.2467 ท่านได้ประกอบธุรกิจจนประสบความ สำเร็จมีชื่อเสียงมากตั้งแต่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม ทั้งได้รับเลือกให้เป็นผู้นำชุมชนชาวอินเดียในพม่า รวมทั้งเป็นประธานองค์กรต่างๆ อาทิเช่น หอการค้ามาร์วารีแห่งพม่าและสมาคมพานิชย์และอุตสาหกรรมแห่งร่างกุ้ง นอกจากนี้ยังร่วมเดินทางไปต่างประเทศกับคณะผู้แทนการค้าของสหภาพพม่าในฐานะ ที่ปรึกษาอยู่บ่อยๆ

เมื่ออายุ 31 ปี ท่านได้ทดลองเข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานหลักสูตร 10 วันเป็นครั้งแรกกับท่านอาจารย์อูบาขิ่น (วิปัสสนา-จารย์ที่ชาวพม่าให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่งผู้หนึ่ง) หลังจบจากการปฏิบัติตามหลักสูตร 10 วันแล้ว ท่านโกเอ็นก้าเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในเนื้อหาสาระของคำสอนและในแนวทาง ปฏิบัติเป็นอย่างมาก จึงปวารณาตัวเข้าปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและจริงจัง จนต่อมาท่านอาจารย์อูบาขิ่นได้แต่งตั้งให้ท่านทำหน้าที่เป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอน

ปีพ.ศ.2512 ท่านได้เดินทางกลับไปยังประเทศอินเดียเพื่อเยี่ยมมารดาที่ล้มป่วย ระหว่างที่อยู่ในอินเดีย ท่านได้จัดอบรม วิปัสสนาให้แก่มารดาและญาติพี่น้อง ซึ่งปรากฎว่ามีผู้ให้ความสนใจเป็นอันมาก นับจากนั้นขบวนการเอหิปัสสิโกก็ได้เริ่มต้น จากปากต่อปากที่บอกต่อๆ กันไป ทำให้มีผู้มาขอเข้าปฏิบัติกันมากขึ้น

และจากการที่ท่านอาจารย์อูบาขิ่นมีความฝังใจอยู่แต่เดิมว่า ประเทศอินเดียมีบุญคุณอย่างล้นเหลือที่ได้หยิบยื่นธรรมอันบริสุทธิ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้แก่ประเทศพม่า ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน แต่ธรรมอันล้ำค่านี้กลับได้สูญหายไปจากประเทศอินเดียอันเป็นต้นกำเนิดจน เกือบหมดสิ้น ท่านโกเอ็นก้าจึงมีความปรารถนาที่จะทดแทนคุณประเทศอินเดีย ด้วยการหาทางนำเอาธรรมะอันล้ำค่านี้กลับไปเผยแผ่อีกครั้ง ซึ่งท่านอาจารย์อูบาขิ่นก็ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ท่านเปิดการอบรม วิปัสสนาในแนวทางนี้ขึ้นในประเทศอินเดียอย่างต่อเนื่อง

ปี พ.ศ.2517 ท่านจึงได้ก่อตั้งสถาบันวิปัสสนานานาชาติ "ธรรมคีรี" ขึ้นที่เมืองอิกัตปุรี ใกล้ๆ กับเมืองบอมเบย์ ประเทศอินเดียนับจากนั้นมาก็ได้มีการจัดอบรมวิปัสสนาหลักสูตร 10 วันและหลักสูตรระยะยาวต่อเนื่องเรื่อยมา ปีพ.ศ.2522 ท่านเริ่มเดินทางไปเผยแผ่วิปัสสนาตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก ท่านได้อำนวยการสอนวิปัสสนาหลักสูตร 10 วันในประเทศอินเดียและประเทศอื่นๆ ทั้งในซีกโลกตะวันตกและตะวันออกกว่า 400 หลักสูตร หลักการสอนของท่านโกเอ็นก้าได้รับการยอมรับโดยทั่วไป ทั้งในอินเดีย ประเทศที่ยังคงมีความแตกต่างทางด้านชนชั้นและศาสนาอย่างมาก และจากทั่วโลก ทั้งนี้เพราะคำสอนที่มีลักษณะเป็นสากล มิได้ขัดต่อหลักศาสนาใด ท่านเน้นเสมอว่ามนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติใด นับถือศาสนาใด และมีผิวสีอะไร ต่างก็มีความทุกข์ในรูปแบบเดียวกันทั้งสิ้น ในเมื่อความทุกข์ของมนุษย์เป็นสากล วิธีการปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากความทุกข์จึงต้องเป็นสากลเช่นกัน

ท่านอาจารย์โกเอ็นก้าได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่อคืนวันที่ 29 กันยายน 2556 ด้วยวัย 90 ปี พิธีฌาปนกิจได้จัดขึ้นที่อินเดียในวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2556 เวลา10.30 น.(ตรงกับเวลา 12.00น. ในประเทศไทย)

อ้างอิง https://www.thaidhamma.net/index.php?option=com_content&task=view&id=16&Itemid=30

เครดิตภาพ Vipassana Research Institute

Adres

The Hague

Website

Meldingen

Wees de eerste die het weet en laat ons u een e-mail sturen wanneer ศิษย์เก่าอาจารย์โกเอ็นก้า NL nieuws en promoties plaatst. Uw e-mailadres wordt niet voor andere doeleinden gebruikt en u kunt zich op elk gewenst moment afmelden.

Delen

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram