สุขภาพดีเลือกได้

สุขภาพดีเลือกได้ ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก สุขภาพดีเลือกได้, การแพทย์และสุขภาพ, กทม.

31/01/2017
Nature's tea ชาเนเจอร์ทีคุณสมบัติดูแลลำไส้ให้สะอาด ด้วยชาสมุนไพรแมชเมโล และคาโมมายล์ อีกทั้งยังมีสมุนไพรอื่นๆอีกหลายชนิด...
18/01/2017

Nature's tea ชาเนเจอร์ที

คุณสมบัติ
ดูแลลำไส้ให้สะอาด ด้วยชาสมุนไพรแมชเมโล และคาโมมายล์ อีกทั้งยังมีสมุนไพรอื่นๆอีกหลายชนิด ที่ชาวจีนและชาวอเมริกันนิยมใช้ มีรสหวาน กลมกล่อม ไม่มีกาเฟอีน

คุณประโยชน์
- ล้างสารพิษที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ สมุนไพร แมชเมโลช่วยคลายเมือกคราบที่เกาะตกค้างในลำไส้
- แก้อาการท้องผูก แก้ปัญหาคนที่ติดยาระบาย
- เปปเปอร์มินท์ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
- ลดการสะสมไขมัน และเซลลูไลท์
- ช่วยขับปัสสาวะและควบคุมความหิว
- ป้องกันการเกิดแผลในลำไส้
- ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้
- ผู้เป็นโรคภูมิแพ้ ร้อนในบ่อย การล้างพิษจะช่วยลดอาการได้

ดื่มครั้งแรก ควรต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 14 คืน เพื่อดีท็อกซ์ของเสียที่อยู่ในลำไส้ออกมาในคราวเดียวกัน หลังจากผ่าน 14 วันแล้ว ควรรักษาสภาพลำไส้ให้สะอาดอยู่เสมอด้วยการดื่มชา Nature's Tea อีก 1 หรือ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง หรือหลังวันที่รับประทานอาหารที่มีเนื้อสัตว์หรือไขมันเป็นปริมาณมาก

เนเจอรส์ ที (Nature's T) ล้างสารพิษในผนังลำไส้ รายละเอียด: ชาสมุนไพรล้างสารพิษในผนังลำไส้ เสริมการเคลื่อนตัวของลำไส้ ขับเมือกสารพิษ แค่ดื่มก่อนนอน ไม่ต้องสวนทวาร มีรสหวาน กลมกล่อม ไม่มีคาเฟอีน ลำใส้ของคนเรายาว 27 ฟุต การล้างสารพิษโดยการสวนทวารจะล้างได้แค่ 4 -5 ฟุต แล้วทรมารกับการสวนทวาร มีวิธีง่ายๆ ในการล้างลำใส้ ด้วยชาล้างลำใส ของยูนิซิตี้ ล้างได้หมดจดทั้ง 27 ฟุต โดยมีผลการวิจัยรับลองลำใส้ ที่ไม่ได้ล้าง จะมีสารพิษ ไขมัน สะสม และเกิดเป็นโรคต่างๆ รวมทั้ง มะเร็งต่างๆ

คุณประโยชน์
- ชาสมุนไพรล้างสารพิษในผนังลำไส้ ธรรมชาติบำบัดจากสมุนไพร 9 ชนิด ปลอดสารพิษ
- ช่วยเสริมโปรแกรมการดีท็อกซ์ (Detoxification) ชงดื่มง่าย รสชาติดี แค่ดื่มก่อนนอนไม่ต้องสวนทวาร
- เสริมการเคลื่อนตัวของลำไส้ ขับเมือกสารพิษตกค้างในระบบย่อยอาหาร
- ช่วยระบาย ทำให้ลำไส้บีบรัดและคลายตัวเคลื่อนสู่ลำไส้ใหญ่
- ช่วยสมานแผลฝีหนองในลำไส้ ลดการอักเสบ ลดการติดเชื้อในทางเดินอาหาร
- เสริมระบบย่อยอาหารได้สมบูรณ์
- ลดการสะสมของกรดยูริค ปัญหาเกิดนิ่ว, โรคเก๊าท์, อาการภูมแพ้
- ลดเซลลูไลท์ เสริมโปรแกรมลดน้ำหนัก
- Made in U.S.A.
- สกัดจากสมุนไพร 9 ชนิด
- ป้องกันมะเร็งลำใส้

วิธีรับประทาน
แช่ในน้ำร้อนจัด 2-5 นาที ในแก้วใหญ่ 250 ml. แล้วนำถุงชาออกจากแก้ว (คนท้องผูกให้แช่นาน 10-15 นาที) ดื่มก่อนนอนหรือหลังอาหารเย็น ดื่มติดต่อกัน 14 วัน คนทานเจ ควรดื่มติดต่อกันเพียง 7 วัน หลังจากนั้น ดื่มสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ปฏิกิริยา 1-5 วันแรก จะมีกลิ่น สี ที่รุนแรง ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภคของแต่ละคน(สำหรับคนที่มีปัญหาท้องผูก ดื่มวันแรกควรแช่นานประมาณ 5-7 นาทีก่อน แล้วค่อยแช่ให้นานขึ้น เนื่องจากร่างกายต้องการปรับสภาพก่อน คอยเช็คจำนวนครั้งในการขับถ่ายต่อวัน หากถ่ายบ่อยให้ลดเวลาในการแช่ถุงชาลง) เด็กและสตรีมีครรภ์ ผู้ที่ตัดต่อลำไส้และป่วยเป็นโรคกระเพาะขั้นรุนแรงไม่ควรรับประทาน

ยาแผนโบราณเลขทะเบียน K 8/48

โรคหลอดเลือดหัวใจโรคหลอดเลือดหัวใจ (coronary artery disease) หมายถึง โรคที่เกิดจากหลอดเลือดแดงที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (...
18/01/2017

โรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจ (coronary artery disease) หมายถึง โรคที่เกิดจากหลอดเลือดแดงที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (coronary artery) ตีบหรือตัน
การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
อาการนำที่สำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์
การตรวจวินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจ
แนวทางการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ
การป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ

การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจส่วนใหญ่เกิดจากไขมันและเนื้อเยื่อสะสมในผนังของหลอดเลือด ทำให้เยื่อบุผนังหลอดเลือดชั้นในตำแหน่งนั้นหนาตัวขึ้น ทำให้หลอดเลือดมีการตีบแคบลง ทำให้เลือดซึ่งนำออกซิเจนไหลผ่านได้น้อยลง ส่งผลให้เลือดไหลไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ไม่เพียงพอ จนเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ซึ่งจะทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกเกิดขึ้น หากเกิดการอุดตันของหลอดเลือดเฉียบพลันซึ่งมักเกิดจากคราบไขมันที่สะสมอยู่ที่ผนังของหลอดเลือดชั้นในแตกออกและกลายเป็นลิ่มเลือดจะส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันอันนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ หรือเสียชีวิตกะทันหันได้

ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ได้แก่
ประวัติครอบครัว หากมีบุคคลในครอบครัว เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ พี่ น้อง เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ก็มีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น
อายุ เมื่ออายุมากขึ้นเกิดการเสื่อมสภาพของหลอดเลือดเพิ่มขึ้น
เพศ ผู้ชายมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้มากกว่าผู้หญิง แต่ในผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้วมีโอกาสเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจใกล้เคียงกับผู้ชาย

ปัจจัยเสี่ยงที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ จากการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดในประเทศไทย ครั้งที่ 4 พ.ศ.2551-2552 พบว่าปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมีสาเหตุจากพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้องโดยอาจมีปัจจัยเสี่ยงเดียวหรือหลายปัจจัยเสี่ยงรวมกันก็ได้ ดังนี้

น้ำหนักเกินและอ้วน การปล่อยให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การมีดัชนีมวลกายที่มากขึ้น เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งนี้คนในประเทศเอเชียควรมีค่าดัชนีมวลกายมาตรฐานไม่เกิน 23 กิโลกรัมต่อตารางเมตร

กลุ่มอาการที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับภาวะน้ำหนักเกินหรือภาวะอ้วนร่วมกับปัจจัยเสี่ยงด้านอื่นๆ หรือเรียกว่ากลุ่มอาการเมตาโบลิก (metabolic syndrome หรือ insulin resistance) สามารถวินิจฉัยได้เมื่อมีคุณสมบัติ 3 ข้อใน 5 ข้อดังนี้ (1) มีภาวะอ้วนลงพุง จุดตัดของภาวะอ้วนลงพุงใช้การวัดเส้นรอบเอวในผู้หญิงและผู้ชาย เท่ากับ 80 และ 90 เซนติเมตรตามลำดับ (2) มีภาวะความดันโลหิตสูง หรือมีความดันโลหิตสูงกว่าหรือเท่ากับ 130/85 มิลลิเมตรปรอท (3) เป็นโรคเบาหวานหรือมีระดับน้ำตาลในเลือดหลังงดอาหารและเครื่องดื่ม 8 ชั่วโมงขึ้นไปสูงกว่าหรือเท่ากับ 110 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (4) มีระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดหลังงดอาหารและเครื่องดื่ม 12 ชั่วโมงขึ้นไปสูงกว่าหรือเท่ากับ 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หรือเป็นผู้ที่รับประทานยาลดไขมันอยู่แล้ว (5) ระดับของเอชดีแอลคอเลสเตอรอล (HDL-C) หรือไขมันดีในเลือดน้อยกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในผู้ชาย หรือน้อยกว่า 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในผู้หญิง

ภาวะความดันโลหิตสูง มีเกณฑ์ในการวินิจฉัย คือ มีค่าสูงกว่าหรือเท่ากับ 140/90 มิลลิเมตรปรอท โดยภาวะความดันโลหิตสูงจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายหนาตัวขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งนี้พบว่าการรับประทานเกลือโซเดียมมากเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ความดันโลหิตสูงเพิ่มมากขึ้นด้วย
ความเครียด ปัจจัยทางด้านความเครียด 5 ประการที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด คือ สภาพจิตใจที่โศกเศร้ามีความเครียดเรื้อรังเป็นเวลานานติดต่อกันและยังไม่สามารถจัดการกับสาเหตุของความเครียดนั้นได้ ภาวะเก็บกดด้านอารมณ์ ความรู้สึกไม่เป็นมิตร ขาดการเชื่อมสัมพันธ์และแรงสนับสนุนทางสังคมและครอบครัว และคิดว่าตนเองมีปมด้อยด้านฐานะเศรษฐกิจและสถานะทางสังคม
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือโรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังส่งผลให้เกิดการเสื่อมของหลอดเลือดทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ทำให้เซลล์เยื่อบุภายในหลอดเลือดทำงานผิดปกติ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดหลอดเลือดแดงแข็งซึ่งทำให้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายเสื่อมสภาพและถูกทำลาย และก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตามมาได้
ภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ คือ ระดับไขมันในเลือดที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดแดงตีบตัน ระดับไขมันในเลือดที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ไม่เป็นโรคหรือไม่มีปัจจัยเสี่ยงด้านไขมันผิดปกติและควรใช้เป็นค่าสำหรับควบคุมตัวเองในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ คือ ระดับคอเลสเตอรอลรวมน้อยกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ระดับแอลดีแอลคอเลสเตอรอล (LDL-C) หรือไขมันตัวร้ายน้อยกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร เอชดีแอลคอเลสเตอรอล (HDL-C) หรือไขมันตัวดีมากกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในผู้หญิง และมากกว่า 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในผู้ชาย และระดับไตรกลีเซอไรด์น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
การไม่ออกกำลังกาย พบว่าการไม่มีกิจกรรมทางกายหรือการไม่ออกกำลังกายจะทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า
การรับประทานผักและผลไม้ในแต่ละวันน้อยเกินไป พบว่าปัจจุบันนี้คนเรารับประทานอาหารที่มีรสหวาน อาหารที่มีไขมันและแคลอรีสูง แต่รับประทานผักและผลไม้น้อย ซึ่งเป็นผลก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

การสูบบุหรี่ หมายความถึงผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่แต่ได้รับควันบุหรี่จากผู้อื่น (ผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง) ผู้ที่บริโภคยาสูบแบบไม่มีควัน เช่น ยาฉุน ยาเส้น รวมถึงผู้ที่เคยสูบบุหรี่ติดต่อกันมาเป็นเวลานานและเพิ่งหยุดสูบได้ไม่นาน พบว่าผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 2.4 เท่า เนื่องจากสารพิษในบุหรี่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรค เช่น นิโคตินมีผลทำให้เกิดการทำลายเยื่อบุผนังหลอดเลือดชั้นในของหลอดเลือดแดง คาร์บอนมอนอกไซด์จะทำลายคุณสมบัติในการเป็นพาหนะนำออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยเป็นผลให้หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น ไฮโดรเจนไซยาไนด์ทำให้เกิดหลอดเลือดแดงแข็ง นอกจากนี้ควันบุหรี่ยังทำให้เกล็ดเลือดเกาะกันมากขึ้น ทำให้เลือดจับกันเป็นก้อนได้ง่ายขึ้น ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ส่งเสริมให้เกิดหลอดเลือดแดงตีบหรืออุดตันเฉียบพลันได้ในทันที

ซึ่งเราสามารถดูแล และป้องกันภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติและได้รับจากวงการแพทย์ชั้นนำเช่น BioS Life ได้นะคะ

สนใจดูแลผู้ป่วยหรือป้องการการเกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดทักมาได้เลยคะ

0987495961

18/01/2017

สุขภาพดีเลือกดูแลได้ด้วยสารอารหารจากธรรมชาตินะคะ

ที่อยู่

กทม
10240

เบอร์โทรศัพท์

+66987495961

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สุขภาพดีเลือกได้ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram