วีรดาแพทย์จีน คลินิกป่าหวายฝังเข็มสุโขทัย

06/12/2025

📣คลินิก “หยุด” ให้บริการวันที่ 7 ธ.ค. 68

สอบถามนัดหมาย/จองคิว 080 597 9451

01/12/2025

🎉ธันวาคม 2568

คลินิกเปิดให้บริการ
เสาร์-อาทิตย์ 09.00-15.00 น.

“หยุด 7 และ 21 ธ.ค. 68”
“วันที่ 20 ธ.ค. 68 เปิดบริการ 09.00-12.00 น.”

☎️สอบถาม/นัดหมายได้ในเพจ หรือ โทร 080 597 9451 ค่ะ

24/11/2025

สอบถามเพิ่มเติม/นัดหมายจองคิว 080 597 9451

ครอบแก้วมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
• ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ปรับการไหลของเลือดลมไม่ให้เกิดการอุดตัน
• ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ จากการคั่งค้างของของเสีย
• กระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงและการตอบสนองต่อการอักเสบ
กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ช่วยบรรเทาอาการปวดเคล็ดตามเส้น
• ช่วยกำจัดของเสีย และระบายความชื้นออกจากร่างกาย
ช่วยปรับสมดุลร่างกาย ทำให้แข็งแรงและมีพละกำลังมากขึ้น
ข้อเสีย และข้อควรระวังในการครอบแก้ว
• การครอบแก้วจะทำให้เกิดรอยฟกช้ำ และทำให้ผิวหนังมีสีแดงคล้ำเป็นวง (รอยช้ำจะค่อยๆจางหายเองภายใน 3-7 วัน)
• การครอบแก้วอาจมีไข้ ตัวร้อนได้ จากความระบมฟกช้ำและการอักเสบ
• การครอบแก้วร่วมกับการใช้เข็มเจาะเลือดออก อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางบาดแผลได้ ต้องระมัดระวังโดยใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว
• ถ้าไม่มีความชำนาญอาจเกิดผิวหนังไหม้จากความร้อนของแก้ว หรือวัสดุที่ใช้ครอบได้
การครอบแก้วต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และควรใส่ใจเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ที่ใช้ให้ดี หลังการครอบแก้วไม่ควรอาบน้ำทันที แนะนำให้รอประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายปรับอุณหภูมิ และให้รูขุมขนปิดก่อน
การครอบแก้ว เหมาะกับคนที่มีอาการปวดเมื่อกล้ามเนื้อ เคล็ดขัดยอก แต่ไม่เหมาะกับคนที่กำลังมีไข้สูง สตรีมีครรภ์ คนที่เป็นโรคผิวหนังบางอย่าง และผู้ป่วยโรคฮีโมฟิเลีย หรือโรคเลือดไหลไม่หยุด
ติดต่อสอบถาม
099-2161625

31/10/2025

พฤศจิกายน 2568

คลินิกเปิดให้บริการ
เสาร์-อาทิตย์ 09.00-15.00 น.

☎️สอบถาม/นัดหมายได้ในเพจ หรือ โทร 080 597 9451 ค่ะ

30/09/2025

ตุลาคม 2568

คลินิกเปิดให้บริการ
เสาร์-อาทิตย์ 09.00-15.00 น.

☎️สอบถาม/นัดหมายได้ในเพจ หรือ โทร 080 597 9451 ค่ะ

05/09/2025

กันยายน 2568

คลินิกเปิดให้บริการ
เสาร์-อาทิตย์ 09.00-15.00 น.

☎️สอบถาม/นัดหมายได้ในเพจ หรือ โทร 080 597 9451 ค่ะ

29/08/2025

ฝังเข็มช่วยลดความอ้วนได้อย่างไร
การรักษาโรคอ้วนหรือการลดน้ำหนักโดยการฝังเข็ม จะเห็นผลดีที่สุดในคนที่มีอายุอยู่ในช่วงระหว่าง 20 - 40 ปี เนื่องจากคนที่อยู่ในช่วงอายุดังกล่าว จะมีการเจริญเติบโตของอวัยวะภายในที่สมบูรณ์มากกว่าช่วงอายุอื่น ๆ
การฝังเข็มจะสามารถช่วยให้ระบบการย่อยอาหารและระบบการขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น และยังช่วยกระตุ้นให้การทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
การฝังเข็มนอกจากจะช่วยในเรื่องของการควบคุมอาหารแล้ว ยังสามารถช่วยปรับฮอร์โมนภายในร่างกายของผู้หญิง โดย
เฉพาะเรื่องของประจำเดือนได้อีกด้วย ทั้งประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนขาด หรืออาการปวดท้องประจำเดือนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว การรักษาโรคอ้วนหรือการลดน้ำหนักโดยการฝังเข็ม จะได้ผลดีและเป็นที่น่าพอใจหรือไม่นั้น ย่อมมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างเช่น วินัยในการกิน การออกกำลังกาย และพฤติกรรมการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ทั้งการนอนหลับ การพักผ่อนที่เพียงพอ รวมไปถึงการทำให้สภาพจิตใจของตนนั้นดีอยู่เสมอ เพราะนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่พื้นฐานที่สุดของการมีสุขภาพร่างกายที่ดี ที่ทุก ๆ คนควรพึงปฎิบัติ

27/08/2025

“คนไข้หลายคนชอบถามว่า… ทำไมยุคนี้ที่เทคโนโลยีการแพทย์ก้าวไกล เรายังต้องหันมารักษาด้วยแพทย์แผนจีนอยู่หรือครับ แล้วแพทย์จีนมีดีอย่างไร? 🤔

หมอจึงตอบกลับไปว่า… ก็เพราะสุขภาพไม่ใช่แค่การเอาโรคออกไป แต่คือการทำให้กาย ใจ และฟื้นฟูพลังชีวิตให้กลับคืนสู่ความสมดุล 🌱

วันนี้หมอเลยอยากเล่าคอนเทนท์สั้นๆว่า 10 เหตุผลที่ทำไม ‘แพทย์แผนจีน’ ถึงยังสำคัญ และกลายเป็นทางเลือกที่หลายคนหันกลับมาเชื่อมั่นอีกครั้ง…ไปดูพร้อมกันครับ 👇”

🔟 เหตุผลทำไมต้องรักษาแพทย์แผนจีน
1. แพทย์จีนมองร่างกายแบบองค์รวม
ไม่ได้ดูแค่โรค แต่ดูทั้งกาย–ใจ–วิถีชีวิต เชื่อมโยงสุขภาพกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวอย่างครอบคลุม ทุกสิ่งล้วนเป็นปัจจัยก่อโรค ดังนั้นแพทย์แผนจีนจะเน้นที่ การทำให้กาย ใจ และฟื้นฟูพลังชีวิตให้กลับคืนสู่ความสมดุลอีกครั้งครับ
2. รักษาที่รากเหง้า ไม่ใช่แค่ปลายเหตุ
แพทย์จีนจะพยายามหาสาเหตุแท้จริง เช่น ไตพร่อง ม้ามอ่อนแอ หรือชี่ติดขัด แล้วรักษาที่ต้นเหตุ เพราะต้นเหตุเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปลายเหตุต่างๆ เหมือนกับเราติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก เม็ดต่อไปยังไงก็ต้องผิด สุขภาพของเราก็เช่นเดียวกันครับ
3. ปลอดภัยและใช้ธรรมชาติเป็นหลัก
การใช้สมุนไพร ฝังเข็ม กดจุด หรือครอบแก้ว มักอาศัยพลังธรรมชาติของร่างกาย ช่วยฟื้นตัวอย่างเป็นระบบ ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกว่าเป็นศาสตร์การแพทย์ที่ปลอดภัยและมีงานวิจัยรองรับ
4. เหมาะกับโรคเรื้อรัง
โรคอย่างปวดหลัง ไมเกรน นอนไม่หลับ หรือระบบย่อยอาหาร ทำได้ดีเพราะการรักษาเน้นการปรับสมดุลต่อเนื่อง
โดยไม่ทำลายสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
หลักการ “เสริมชี่ บำรุงเลือด ปรับหยินหยาง” ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ป่วยยากขึ้น นั่นก็คือการเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายนั่นเองให้พร้อมต่อการต่อต้านโรคที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
6. ใช้ควบคู่กับแพทย์แผนปัจจุบันได้
ไม่ใช่การแทนที่ แต่เสริมกัน เช่น ผู้ป่วยมะเร็งใช้แพทย์แผนจีนช่วยลดผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด ซึ่งมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าแพทย์แผนจีนสามารถรักษาควบคู่กับแผนปัจจุบันได้ในหลายกลุ่มโรคและอาการ
7. ปรับสมดุลเฉพาะบุคคล
คนไข้แต่ละคนได้ตำรับยาหรือวิธีการรักษาไม่เหมือนกัน ขึ้นกับธาตุและสภาพร่างกายจริง ๆ ซึ่งตามธรรมชาติมนุษย์ 100 คน ย่อมมีสภาพร่างกายที่แตกต่างกันแพทย์แผนจีนจึงเป็นมาตราวัดที่ละเอียดมากในการออกแบบการรักษาตามลักษณะปัจเจกบุคคล
8. เชื่อมโยงสุขภาพกับการใช้ชีวิต
แพทย์จีนจะเน้นการนอน การกิน การออกกำลังกายที่เหมาะกับธาตุ ทำให้ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมได้ด้วย แพทย์แผนจีนเน้นทำให้ร่างกายกลับสู่สภาวะสมดุล ให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติสอดคล้องกับธรรมชาติจริงๆของมนุษย์
9. สืบทอดภูมิปัญญาหลายพันปี
เป็นระบบการแพทย์ที่ผ่านการพิสูจน์ ใช้ได้จริงในหลายโรคและอยู่คู่สังคมมนุษย์มายาวนาน ซึ่งมีการจดบันทึกและผ่านการพัฒนามายาวนานกว่า 5000 ปี
10. เน้นการป้องกันไม่ให้เจ็บป่วย
มีแนวคิด “รักษาก่อนป่วย” เช่น การฝังเข็มบำรุง การกินตามฤดูกาล หรือการฝึกชี่กง รักษาร่างกายปรับวิถีชีวิตตามแพทย์แผนจีนจะเข้าใจตัวเองเข้าใจสุขภาพและห่างไกลโรงพยาบาลแน่นอน

#หมอแมนแพทย์จีน #ฝังเข็ม #ยาสมุนไพรจีน #การแพทย์ทางเลือก #สมดุลกายใจ #ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม #ป้องกันก่อนป่วย #สุขภาพยั่งยืน #แพทย์จีนบอกต่อ

25/08/2025

ปวดศีรษะไมเกรน (Migraine)
อาการปวดศีรษะไมเกรน พบว่ามีประวัติทางพันธุกรรมประมาณร้อยละ 80 มีลักษณะ ปวดได้ 3 แบบ คือ ปวดศีรษะข้างเดียว ปวดทั้งสองข้าง และปวดสลับข้างไปมา ตำแหน่งปวดเป็นได้ทั้งที่หน้าผาก ขมับ หรือท้ายทอย
อาการเริ่มแรกมักปวดรุนแรงและเฉียบพลัน นานเป็นนาที จนถึงเป็นวัน เวลาเกิดอาการไม่แน่นอน ช่วงที่มีอาการ หากมีการเคลื่อนไหวศีรษะจะทำให้ปวดมากขึ้น
อาการร่วมสำคัญที่ใช้แยกอาการปวดศีรษะจากสาเหตุอื่น คือ คลื่นไส้ อาเจียน กลัวแสง เสียง หรือกลิ่น โดยอาการกลัวแสงจะพบได้บ่อยกว่า หลังจากหายปวด ผู้ป่วยอาจมีอาการอ่อนล้า
แนวทางการรักษา
การฝังเข็มไมเกรน ไปช่วยรักษาอาการปวดหัวได้อย่างไร ในร่างกายของเราจะมีจุดต่างๆ ที่สะสมไปด้วยพลังอวัยวะภายใน พลังประสาทในร่างกาย จุดเชื่อมเส้นลมปราณ เมื่อฝังเข็มลงไปจะเชื่อมไปยังจุดต่างๆ ซึ่งเป็นการส่งผ่านพลังงาน เพื่อไปกระตุ้นเซลล์ ไปสู่ระบบประสาทต่างๆ ในร่างกายช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
ซึ่งคนไข้บางคนต้องรักษาควบคู่กับการทานยาจีน หรือการนวด บางคนฝังเข็มครั้งเดียวก็รักษาหายได้ทันที แต่ในบางคนก็ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง และต้องดูแลรักษาตัวเองให้ดีอีกด้วย

22/08/2025

#ออฟฟิศซินโดรม
ออฟฟิศซินโดรมคงเป็นอาการที่หลายๆคนสามารถเป็นได้ เนื่องด้วยจากท่าทางการนั่งทำงานหรือเรียนต่างๆ อาจจะไม่ถูกท่านัก หรือโต๊ะเก้าอี้ที่ใช้อาจจะไม่เหมาะกับการนั่งเพื่อทำงานและเรียนออนไลน์ จึงทำให้หลายๆคน อาจจะมีอาการปวด คอ บ่า ไหล่ เอว และปวดหัวร่วมด้วย
#อาการเหล่านี้นั้นสามารถรักษาและบรรเทาได้ด้วยการฝังเข็มครอบแก้ว
เนื่องจากการฝังเข็มนั้นช่วยทำให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งหรือตึงได้มีการคลายตัวลง กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลมปราณในร่างกายได้ดีขึ้นและยังช่วยลดอาการชาของแขนและมือได้
ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) หรือกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial pain syndrome) คือ อาการปวดกล้ามเนื้ออันเนื่องมาจากรูปแบบการทำงานที่ใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ เป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานเกินไป โดยไม่ขยับ ผ่อนคลายหรือปรับเปลี่ยนอิริยาบถ
ซึ่งอาจลุกลามจนกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง รวมไปถึงอาการชาที่บริเวณแขนหรือมือ จากการที่เส้นประสาทส่วนปลายถูกกดทับอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น การไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และการดูแลสุขภาพของตนเองตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดออฟฟิศซินโดรมได้

18/08/2025

“ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท “
อาการอาจแสดงออกได้ทั้งบริเวณหลังและขา
คนทั่วไปมักเข้าใจว่ามีเพียงอาการปวดหลังอย่างเดียว ที่จริงแล้วนั้นอาการที่ขานั้นสำคัญและจำเพาะเจาะจงกับโรคนี้มากกว่า นั่นแสดงถึงว่าเกิดการรบกวนเส้นประสาทสันหลังที่วิ่งไปเลี้ยงที่ขาแล้ว หมอนรองกระดูกที่เคลื่อนออกมามักทำให้เกิดอาการแบบฉับพลันเพราะมีการอักเสบที่รุนแรง
อาการที่หลัง: ปวดหลังบริเวณเอวส่วนล่าง อาจมีอาการที่หลังเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง มักมีอาการในท่านั่ง หรือมีการนั่งงอตัวไปทางด้านหน้าซึ่งเป็นท่าที่หมอนรองกระดูกได้รับแรงกดทับมากที่สุด
อาการที่ขา: อาการแสดงที่ขามีได้คือ อาการปวด ชา หรือการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ
อาการปวดหรือชาขาที่เกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมีลักษณะคือ มีอาการตามแนวที่เส้นประสาทวิ่งไป สามารถปวดได้ตั้งแต่บริเวณเอว ต้นขา น่อง ไปจนถึงบริเวณเท้าและนิ้วเท้าได้ การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อก็มีลักษณะคล้ายอาการปวดและชา คือจะมีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมัดที่เลี้ยงด้วยเส้นประสาทเส้นที่ถูกกดทับนั้น