Area42 Thailand Welcome To Area Of Smiles - Area 42 Thailand
(1)

28/09/2025
22/09/2025
20/09/2025

เมื่อก่อน บางร้านไม่รับเงินสด
เดี๋ยวนี้ หลายร้านไม่รับเงินโอน
#หัวจิปวด

ยังไงซิ้ ทุกวันนี้ อิ๊บอ๊าย หมดแล้ว
15/09/2025

ยังไงซิ้ ทุกวันนี้ อิ๊บอ๊าย หมดแล้ว

ไหว้สวย

11/09/2025

ปิดฉาก!? 2 รมต.ต่อต้านปุ๊น “ส่อคุก” ผู้ออกกฎคุมเข้มสมุนไพร เจอปม ‘ป่วยทิพย์’ หลังบังคับสายเขียวป่วยทั้งประเทศ

จุดจบสองรัฐมนตรีต่อต้านปุ๊น ส่อไปจบที่คุก เหตุเจอคดี ‘ป่วยทิพย์ ชั้น 14’ พ่นพิษ หลังบังคับสายเขียวเป็นผู้ป่วยด้วยใบแพทย์ ภท.33 ด้านสายเขียวชี้ ‘รัฐบาลชุดนี้’ ทำบาปกับชาวบ้านมาเยอะ หลังเกษตรกรผู้ปลูกปุ๊นรายย่อยเจ๊งยับ 80-90% จากกฎควบคุมใหม่สายฟ้าแลบ เซียนการเมืองแนะ 2 รัฐมนตรียี้ปุ๊น ‘เตรียมเก็บกระเป๋า’ เตือนส่อเจอคดีหนัก ขณะที่สายเขียวเปิดเกมฟ้องยับทุกช่องทาง ยื่น ป.ป.ช.ฟัน ม.157 ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ ส่อทุจริตเชิงนโยบาย พ่วงฟ้องศาลปกครอง ระงับประกาศควบคุมไม่เป็นธรรม

ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย เปิดเผยในรายการคุยช้ามช็อตว่า หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินให้นายทักษิณ ชินวัตร ต้องกลับไปเข้าเรือนจำโดยให้จำคุก 1 ปี ไม่รวมระยะเวลาป่วยทิพย์ 6 เดือน ส่งผลให้ 2 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าข่ายเป็นคดีอาญาขั้นร้ายแรง ม.157 เนื่องจากคำตัดสินของศาลจะเป็นหัวเชื้อให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีต่อเนื่อง

ดร.ธนพร กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญคือการรายงานข้อมูลบิดเบือนเรื่องอาการป่วยทิพย์ของนายใหญ่ สทร. ซึ่งพบว่าศาลได้ใช้มติแพทย์สภาประกอบการตัดสินในฐานะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่า สทร.ไม่ได้ป่วยหนักขนาดต้องจำขังที่โรงพยาบาล ซึ่งพบว่ามีการคัดค้านมติแพทย์สภาผ่านการวีโต้ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งศาลใช้ผลเวชระเบียนด้วย ดังนั้นพอไปถึงขั้น ป.ป.ช ต้องเข้าไปดูว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝืนข้อเท็จจริงเพื่อช่วยเหลือนายทักษิณหรือไม่ ไม่ว่าจะใช้อำนาจโดยตรงหรือเป็นผู้สนับสนุนต้องไปดูว่ามีการทำเป็นขบวนการระหว่างรัฐมนตรีหลายกระทรวงหรือไม่ เนื่องจากศาลตัดสินว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องมีความผิด ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่จะลุกลามไปยังหัวหน้าหน่วยงานอย่างรัฐมนตรีด้วย

ดร.ธนพร กล่าวต่อว่า ตนแนะนำให้รัฐมนตรีทั้งสองคนไปเก็บกระเป๋าทำวีซ่ารอหากจะยึดโมเดลนายใหญ่ในปี 2549 เพราะมีความเสี่ยงจะโดนคดี ม.157 สูงมาก ทั้งการวีโต้มติแพทย์ ไปจนถึงรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม นายทวี สอดส่อง ที่ศาลวินิจฉัย เรื่องการแจ้งรายงานอาการทุก 30-60 วัน ซึ่งพบว่ามีการรายงานข้อมูลบิดเบือดเรื่องการป่วยทิพย์ ดังนั้น ใครเป็นคนรับชอบ ใครเป็นคนรับทราบ ใครเป็นคนเซ็นเห็นชอบ การป่วยทิพย์ 180 วันมันเกินกว่าอำนาจอธิบดีกรมราชทัณฑ์ไปแล้ว แต่เป็นอำนาจรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม

ด้านแหล่งข่าวจากผู้บริหารฟาร์มปลูกปุ๊น 35,000 ต้น เปิดเผยกับ Channel Weez Thailand ว่า การเปลี่ยนแปลงกฎควบคุมแบบฉับพลันไม่มีเวลาให้ปรับตัว ถือว่ารัฐบาลชุดนี้ทำบาปกับชาวบ้านไว้มาก มีผู้ประกอบการรายย่อยและเกษตรกรเสียหายไปกว่า 80-90% กระทบต่อรายได้และอาชีพทำกิน ดังนั้นตนอยากเสนอให้รัฐบาลเร่งกำหนดความชัดเจนของกฎหมายควบคุมเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเดินต่อได้

รายงานข่าวระบุว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นผู้ประกาสนโยบายควบคุมปุ๊นเข้มข้น ภายหลังจากเกิดปมคลิปหลุดฮุนเซนและการแยกตัวของพรรคภูมิใจไทยเพียงไม่กี่สัปดาห์ พร้อมตั้งเงื่อนไขทั้งบังคับให้ผู้ซื้อบริโภคต้องเป็นผู้ป่วย มีใบแภทย์ ภท.33 และการกำหนดมาตรฐานการปลูก GACP ซึ่งผู้ประกอบการเดือดร้อนจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก นำไปสู่การฟ้องร้อง ป.ป.ช.เรื่องทุจริตเชิงนโยบาย ม.157 ปมใช้กฎควบคุมผูกขาดตลาดให้กับทุนใหญ่ ไปจนถึงการฟ้องร้องศาลปกครองซึ่งสมาพันธ์ปุ๊นเพื่อประชาชนมีนัดหมายเพื่อทำการยื่นฟ้องร้องศาลปกครองให้เพิกถอนประกาศควบคุมดังกล่าวซึ่งผู้เสียหายมองว่าไม่เป็นธรรม

ที่ผ่านมาในรัฐบาลชุดนี้ มีรัฐมนตรีที่ออกแอคชั่นต่อต้านปุ๊นมากที่สุด มีการกล่าวถึงทั้งการแถลงข่าวและการกล่าวในที่ประชุม ซึ่งหลายครั้งมีการเชื่อมนโยบายกันระหว่างสาธารณสุข-กระทรวงยุติธรรม ล่วงเกินไปถึงขั้นให้รองนายกพรรคเพื่อไทยท่านหนึ่งออกมาแอบอ้างเบื้องสูงซึ่งเป็นข่าวในสื่อมวลชน เรื่องการปราบปุ๊น ทั้งยังพบว่ามีการใช้นโยบายการควบคุมปุ๊นที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก นำไปเป็นประเด็นขึ้นเวทีหาเสียงที่งานเลือกตั้งซ่อมจังหวัดศรีษะเกษ

05/09/2025

ขอแสดงความยินดีแก่
นายกฯคนที่ 32 ครับ
อนุทิน ชาญวีรกูล

31/08/2025
17/08/2025

‘ลุงดำ‘ ห่วงสายพันธุ์ไทยสูญหาย กฎควบคุมใหม่บีบไทย ‘เสียนักปลูกมือดี’
แหล่งข่าวจากเครือข่ายนักปลูกเชียงใหม่ เปิดเผยกับ Channel Weez Thailand ว่า ลุงดำ KDKT ปราชญ์ปุ๊นไทยได้บอกกับนักปลูกภาคเหนือว่าให้เก็บสายพันธุ์ท้องถิ่น (Landrace) ที่ดีเอาไว้เป็นมรดกของลูกหลานในพื้นที่ เนื่องจากนักปลูกรุ่นใหม่เน้นการพัฒนาสายพันธุ์ไฮบริดชื่อดังของต่างประเทศ ส่งผลให้สายพันธุ์ดั้งเดิมหาได้ยากมากขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้อนุรักษ์ฟีโนไทป์ตัว Landrace ของแต่ละพื้นที่เอาไว้เพราะมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวไม่เหมือนกัน ซึ่งลุงดำนั้นชื่นชอบเอฟเฟคส์ของดอกไทยที่เป็น Sativa ของทางเหนือ ซึ่งให้ความกระปรี้กระเปร่า ไม่ง่วงซึมเหมือนสายพันธุ์เมืองนอก ซึ่งตนเองก็มีสายพันธุ์ไทยภูเขาที่ชาวบ้านเก็บเอาไว้มากกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นตัวที่ลุงดำชื่นชอบมาก อย่างไรก็ตามปัจจุบันในพื้นที่อย่างเชียงใหม่ได้มีบรีดเดอร์ฝีมือฉมังหลายท่านเริ่มพัฒนาเจเนติกส์ “ล้านนา Lanna” ที่ผ่านมาซีรีย์นี้ก็ได้รับรางวัลมาแล้วหลายเวที
รายงานข่าวจาก Channel Weez Thailand ระบุว่า การเปลี่ยนกฎควบคุมปุ๊นที่บีบให้ผู้ปลูกต้องลงทุนมาตรฐาน GACP มูลค่านักแสนบาทนั้นส่งผลให้มีนักปลูกฝีมือดีหลายคนเลิกปลูกทันที โดยมีนักปลูกที่เคยได้รับรางวัลจำนวนมากหยุดโพสต์ภาพต้นไม้ เช่นเดียวกับ Homegrown คนเก่งหลายเจ้าก็เลิกทำคอนเทนต์ปลูกเช่นกัน เนื่องจากกลัวโดนจับปลูกแบบผิดกฎหมาย ทั้งยังมีกฎห้ามขายออนไลน์และห้ามโฆษณาเข้ามากำกับอีกด้วย
ขณะที่ ‘กลุ่มนักปลูก 710’ นั้นล่าสุดได้รับแจ้งข่าวว่านักปลูกชื่อดังระดับ Star Wars ได้ชะลอการปลูกแบบ 710 เนื่องจากความเข้มงวดของกฎควบคุมใหม่จึงทำให้ผลิตภัณฑ์สารสกัดนั้นไม่สามารถจำหน่ายในสถานบริการ เรื่องนี้เกิดกับ Grower และผู้ประกอบ รวมถึงตลาดด้านอุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง โดยที่สารสกัดถูกกำหนดเป็นบัญชี ยส.5 อีกด้วย
ดังนั้นการปรับกฎควบคุมใหม่นั้นทำให้ประเทศไทยสูญเสียนักปลูกมือดีที่อาจสร้างชื่อเสียงระดับโลกได้ ถือเป็นการตัดโอกาสและอนาคตของการสร้างรากฐานอุตสาหกรรมใหม่ (S-Curve) ตามเทรนด์ความต้องการของโลก หนึ่งในปัญหาเศรษฐกิจไทยคือการพึ่งพาอุตสาหกรรมแบบเก่า ซึ่งทำให้ประเทศสูญเสียการแข่งขันและเศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่อง จนสู้ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เวียดนาม มาเลเซียและอินโดนีเซีย ไม่ได้ โดยไทยมีเศรษฐกิจเติบโตรั้งท้ายในภูมิภาคอาเซียน โดยอาชีพ Master Grower ในต่างประเทศมีรายได้มากกว่า 1,500,000 ล้านบาท/ปี และใน USA สูงสุดมากกว่า 3,000,000 บาท/ปี

#เซฟสายพันธุ์ไทย

14/08/2025
10/08/2025

เปิดกะลา! เสรีปุ๊น ลดเสี่ยงเยาวชน USA เผยมีเด็กใช้น้อยสุดในประวัติศาสตร์!

การปลดล็อคปุ๊นเสรีไม่ได้ทำให้เยาวชนเข้าถึงพืชนี้มากขึ้นแต่อย่างใด! สหรัฐอเมริกาเผยแพร่ผลสำรวจแห่งชาติชี้ชัดในปี 2024 มียอดเยาวชนเข้าถึงปุ๊นในครั้งประวัติศาสตร์ ครอบคลุมนักเรียนทุกระดับ

แบบสำรวจ Monitoring the Future (MTF) ซึ่งได้รับทุนจากรัฐบาลกลาง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสถาบันแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยว่าการบริโภคปุ๊นในนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 8 ปีที่ 10 และปีที่ 12 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ: แบ่งเป็น ประถมศึกษาปีที่ 8: 32% (ลดลงจากปีก่อนๆ) ประถมศึกษาปีที่ 8: ลดลง 38% ประถมศึกษาปีที่ 12: ลดลง 26% สอดคล้องกับสถิตินักเรียนชั้นมัธยมที่พบว่าไม่มีการเพิ่มขึ้นของการใช้กัญชาในรัฐที่ปุ๊นถูกกฎหมายสำหรับผู้ใหญ่อีกด้วย

ด้าน ดร. นอร่า โวลคอฟ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการปราบปรามการใช้ยาเสพติด (NIDA) กล่าวว่า การทำให้ถูกกฎหมาย ซึ่งมักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจทำให้เยาวชนเข้าถึงปุ๊นได้มากขึ้น แต่ในความจริงแล้วเยาวชนนั้นใช้ปุ๊นลดลง

สอดคล้องกับแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นในแคนาดา ซึ่งกัญชาได้รับอนุญาตให้ใช้ในผู้ใหญ่ในปี 2018 จากการสำรวจปุ๊นของแคนาดาในปี 2024 พบว่า: ผู้ตอบแบบสอบถาม 72% ซื้อปุ๊นอย่างถูกกฎหมาย เพิ่มขึ้นจากเมื่อปี 2017 ซึ่งอยู่ที่เพียง 30% ส่วนด้านผู้บริโภคปุ๊นที่ซื้อจากแหล่งผิดกฎหมายลดลง 16% อีกด้วย

ด้านนายพอล อาร์เมนตาโน รองผู้อำนวยการของ NORML กล่าวว่า ผลการค้นพบเหล่านี้ยืนยันว่าการเข้าถึงปุ๊นสามารถควบคุมได้ตามกฎหมายในลักษณะที่ปลอดภัย มีประสิทธิผล และไม่ส่งผลกระทบต่อนิสัยของเยาวชนโดยไม่ได้ตั้งใจ

ข้อมูลจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดาแสดงให้เห็นว่าตลาดปุ๊นที่ได้รับการควบคุมสามารถลดการเข้าถึงของเยาวชน ลดกิจกรรมในตลาดที่ผิดกฎหมาย และให้ความสำคัญกับสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยหลักฐานที่เพิ่มขึ้น การทำให้ถูกกฎหมายยังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของมันในฐานะเครื่องมือสำหรับการควบคุมอย่างปลอดภัย

ที่อยู่

841/2 ม. 3
Amphoe Chiang Saen
57150

เวลาทำการ

จันทร์ 12:00 - 00:00
อังคาร 12:00 - 00:00
พุธ 12:00 - 00:00
พฤหัสบดี 12:00 - 00:00
ศุกร์ 12:00 - 00:00
เสาร์ 12:00 - 00:00
อาทิตย์ 12:00 - 00:00

เบอร์โทรศัพท์

+66624950414

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Area42 Thailandผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram