Lederer Cosmeceutical Products เวชสำอางคุณภาพ ด้วยสารสกัด?

22/10/2013
ข้อคิดดี ๆ
20/10/2013

ข้อคิดดี ๆ

8 เคล็ดลับดูแลผมและหนังศีรษะมันของผู้ชาย8 เคล็ดลับดูแลผมและหนังศีรษะมันของผู้ชาย  8 เคล็ดลับดูแลผมและหนังศีรษะมันของผู้ช...
19/10/2013

8 เคล็ดลับดูแลผมและหนังศีรษะมันของผู้ชาย

8 เคล็ดลับดูแลผมและหนังศีรษะมันของผู้ชาย






8 เคล็ดลับดูแลผมและหนังศีรษะมันของผู้ชาย


8 เคล็ดลับดูแลผมและหนังศีรษะมันของผู้ชาย (APPEAL THE BEAUTY BIBLE)

หนุ่ม ๆ ที่มีปัญหาเรื่องผมมันหรือหนังศีรษะมัน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ อย่างเช่น กรรมพันธุ์ความไม่สมดุลของฮอร์โมน สภาพแวดล้อม รวมทั้งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับเส้นผม และหนังศีรษะ จนอาจเกิดอาการผมร่วง ผมบาง และอื่น ๆ ตามมา แต่อย่ากังวลใจไป... เรามี 8 เคล็ดลับจัดการผมและหนังศีรษะมันสำหรับผู้ชายมาฝาก

1. ผู้ชายส่วนใหญ่มักไว้ผมสั้น ดังนั้น คนที่หนังศีรษะมันจึงสามารถสระผมได้ทุกวัน โดยใช้แชมพูอ่อน ๆ สำหรับเด็ก หรือแชมพูสำหรับผมมันของผู้ชายโดยเฉพาะ แต่เวลาสระผมให้เน้นสระบริเวณเส้นผมมากกว่าบริเวณหนังศีรษะ โดยไม่ต้องใช้นิ้วนวดหรือเกาหนังศีรษะมากนัก

2. สระผมเสร็จแล้วให้ล้างผมด้วยน้ำเย็น, น้ำอุณหภูมิปกติ หรือน้ำอุ่นเล็กน้อยจนกว่าเส้นผมจะสะอาด อย่าให้มีแชมพูตกค้างบริเวณหนังศีรษะเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอาการคันและทำให้หนังศีรษะแห้ง หนังศีรษะเสียสมดุลได้

3. ควรใช้ฮอตออยล์ทรีตเม้นต์สำหรับผู้ชายนวดบริเวณหนังศีรษะอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แล้วล้างน้ำออกให้สะอาด

4. คนที่มีเส้นผมมันมาก ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดผม (Conditioner) เลยก็ได้ หรือถ้าใช้ ก็ให้ใช้ในปริมาณน้อยและนวดเบา ๆ เฉพาะด้านบนของเส้นผม อย่าให้ลงไปลึกถึงหนังศีรษะ

5. ถ้าเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันใส่ผมกับครีมจัดแต่งทรงผม โดยเฉพาะยี่ห้อที่มีส่วนผสมของกลีเซอรีนหรือซิลิคอน เพราะจะทำให้ผมมันมากยิ่งขึ้น

6. ไม่ควรหวีผมบ่อยนัก (แม้ผมจะสั้น แต่ผู้ชายบางคนก็อาจชอบหวีผมบ่อย) เพราะการหวีผมบ่อย ๆ จะเป็นการไปกระตุ้นหนังศีรษะให้ผลิตน้ำมันตามธรรมชาติออกมามากยิ่งขึ้น

7. อย่าถูหรือเกาหนังศีรษะมากเกินไป เพราะจะไปกระตุ้นให้หนังศีรษะยิ่งผลิตน้ำมันธรรมชาติออกมามากขึ้นอีกเช่นกัน

8. เลือกแชมพูที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่มีประสิทธิภาพช่วยลดความมันของเส้นผม และหนังศีรษะ เช่น โจโจบาออยล์, โรสแมรี่, ทีทรีออยล์, เซจ, ยูคาลิปตัส, คาโมมายล์, อะโลเวร่า, เมนทอล ฯลฯ ซึ่งส่วนผสมจากธรรมชาติเหล่านี้ มีคุณสมบัติที่ดีต่อหนังศีรษะต่างกัน แต่คุณสมบัติหนึ่งอย่างที่เหมือนกัน ก็คือสามารถช่วยลดความมันของเส้นผมและหนังศีรษะได้

Tip : สำหรับหนุ่มที่มีเส้นผมหรือหนังศีรษะมัน

หนุ่ม ๆ ที่มีผมหรือหนังศีรษะมัน ให้รู้ไว้เลยว่าหนังศีรษะของคุณจะอ่อนไหวต่อสิ่งกระตุ้นประเภทสารเคมีเป็นอย่างมาก และอาจเกิดอาการผิวหนังอักเสบ หรือมีโอกาสผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านได้มากกว่าคนปกติ ฉะนั้น ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ เกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะ แนะนำให้ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมก่อนเป็นดีที่สุด เรียกว่ากันไว้ดีกว่าแก้ในภายหลัง

เคล็ดลับดูแลผิวพรรณสำหรับคุณผู้ชาย            ความสวยความงามใช่ว่าจะมีแต่ในสุภาพสตรีเท่านั้น และก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าเห...
19/10/2013

เคล็ดลับดูแลผิวพรรณสำหรับคุณผู้ชาย







ความสวยความงามใช่ว่าจะมีแต่ในสุภาพสตรีเท่านั้น และก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าเหล่าสุภาพบุรษจะหันมาดูแลใส่ใจในเรื่องความสวยความงามของผิวพรรณจะต้องเป็นเกย์หรือแอบจิต เพราะปัจจุบันสังคมเปลี่ยนไปสิ่งแวดล้อมเป็นพิษมากขึ้น ถ้าเราปล่อยปละละเลยในการดูแลสุขภาพและผิวพรรณไปแล้วเนี่ย เชื่อได้เลยว่าริ้วรอยแห่งวัยจะมาเยี่ยมเยียนใบหน้าคุณได้ง่ายและเร็วมากๆ ด้วยเหตุนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ลักษณะผิวพรรณของผู้หญิงกับผู้ชายแตกต่างกัน ผู้หญิงจะเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าผู้ชายที่เห็นได้ชัดก็อย่างเช่น ความนุ่มนวลของผิว หรือจะเป็นเรื่องขน หนวดเครา หรือเรื่องของรูขุมขนก็ตาม ล้วนเป็นเหตุให้การดูแลผิวพรรณของคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงอาจจะแตกต่างกันบ้าง โดยเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆที่จะขอแนะนำสำหรับการดูแลผิวสำหรับผู้ชายคือ


1. การล้างหน้าอย่างถูกวิธี

การทำความสะอาดผิวหน้าขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับลักษณะผิวของตัวเองคือโดยที่สามารถตรวจสอบลักษณะผิวพรรณของคุณได้ตามศูนย์ความงามทั่วไป


1.1 ผิวมัน เป็นผิวที่มักมีน้ำมันเคลือบผิวมากทั่วหน้า เกิดสิวง่าย รูขุมขนใหญ่ชัดเจนควรใช้ผลิตภัณท์ทำความสะอาดผิวที่ทำให้ผิวแห้งลง อย่างที่เป็นสบู่ก้อนหรือโฟม ก็จะดีกว่าเจลใสหรือน้ำเปล่า หลังล้างหน้าแล้ว การเช็ดทำความสะอาดด้วยOil control หรือ Toner ก็จะช่วยให้การทำความสะอาดผิวหมดจดดียิ่งขึ้น


1.2 ผิวผสม เป็นผิวที่มักมีน้ำมันเคลือบเยอะบริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก หรือคาง) แต่บริเวณแก้มกลับแห้งตึง รูขุมขนกว้างแต่ไม่เห็นชัดมาก ควรเลือกผลิตภัณท์ทำความสะอาดผิวแบบที่ไม่ลดความมันมากเกินไป เช่นแบบเจลใส โดยหลังล้างหน้าเลือกOil controlหรือ Tonerเช็ดทำความสะอาดบริเวณทีโซน


1.3 ผิวธรรมดา เป็นผิวที่มักมีน้ำมันเคลือบในปริมาณที่พอเหมาะ รูขุมขนเห็นไม่ชัด ควรเลือกผลิตภัณท์ทำความสะอาดผิวแบบอ่อนๆเช่นเจลใส หลังล้างหน้าใช้Lotion เช็ดผิวเป็นครั้งคราว


1.4 ผิวแห้ง เป็นผิวที่ขาดน้ำมันเคลือบผิว บางรายอาจลอกเป็นขุยๆ รูขุมขนเล็ก มักจะเป็นผิวที่แพ้ง่าย คนผิวแห้งจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณท์ทำความสะอาดผิว หรือLotionโดยไม่จำเป็น ใช้แค่น้ำเปล่าล้างหน้าก็พอค่ะ


2. เลือกผลิตภัณท์บำรุงผิวให้เข้ากับคุณ


ควรเลือกให้เหมาะกับลักษณะผิวเช่นกัน แต่เนื่องจากผิวของผู้ชายมักจะมีรูขุนขนกว้าง ผิวมีความมันสูงกว่า จึงควรเน้นผลิตภัณท์บำรุงผิวที่มีคุณสมบัติในการลดความมัน เพื่อช่วยลดความกว้างของรูขุมขน และการเกิดสิว เช่นผลิตภัณท์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ เป็นต้น ส่วนการบำรุงเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลมีให้เลือกหลากหลายมากซึ่งก็ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคน เช่นปัญหาเม็ดสีผิวเข้ม(จำพวกกระ ฝ้า)ก็ควรเลือกผลิตภัณท์ที่มีส่วนผสมของWhitening หรือปัญหาริ้วรอย ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของCollagen หรือ Q10 เป็นต้น แต่ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณท์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน(Oil),ลาโนลิน(Lanolin),ขี้ผึ้ง(Bee wax) ซึ่งเป็นสารก่อให้เกิดสิวด้วยนะคะ


3. สุขภาพจิตดี ผิวพรรณก็ดีตาม


เคยได้ยินใช่ไหมคะว่าผิวพรรณของคนเราจะสดใสหรือดูอิดโรยส่วนหนึ่งมาจากการดูแลและใส่ใจในเรื่องของการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ทานผักและผลไม้ให้สารอาหารและวิตามินซีของผลไม้ช่วยบำรุงผิวพรรณที่ไม่ได้มาจากภายนอก แต่สดใสมาจากภายใน ตรงนี้ก็เป็นส่วนสำคัญเช่นเดียวกันค่ะ แล้วอีกอย่างหนึ่งคือการผ่อนคลายผิวพรรณได้ง่ายๆ ด้วยการหัวเราะ ยิ้มแย้ม ไม่เครียด สิ่งเหล่านี้จะช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้เช่นกัน เรียกว่าสุขภาพจิตดีซะอย่าง สวยได้โดยไม่ต้องพึ่งครีมกระปุกละหมื่นก็ยังได้ค่ะ


4. ใส่ใจผิวพรรณด้วยการทำสปาบ้างอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง


การเข้าสปาก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเกิดความผ่อนคลาย เกิดความยืดหยุ่น โดยการใช้หลักของการสัมผัสทั้งรูป รส กลิ่น และเสียง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังช่วยทำให้จิตสงบนิ่ง ความคิดและการเคลื่อนไหวอย่างมีสติก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณอ่อนกว่าวัยได้โดยหลักธรรมชาติเช่นเดียวกัน


5. ออกกำลังกายและนอนหลับอย่างเพียงพอ


การออกกำลังกายที่สอดคล้องกับโครงสร้างของร่างกายที่เหมาะสม และนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 6- 8 ชั่วโมงจะช่วยให้ระบบโครงสร้างต่างๆ ของร่างกายทำงานได้ดี อีกทั้งยังช่วยให้คุณตื่นขึ้นมาพบกับวันใหม่ได้อย่างสดใสและสดชื่นได้อีกด้วยค่ะ
เคล็ดลับการดูแลผิวของผู้ชายอาจจะนำไปปรับใช้ได้กับผู้หญิงบ้าง แต่ฉบับหน้าเราจะกลับมาพูดถึงการดูแลผิวพรรณของผู้หญิงอย่างละเอียดและลึกซึ้งกว่านี้ค่ะ หวังว่าคุณผู้ชายจะนำเคล็ดลับการดูแลตัวเองอย่างง่ายๆไปลองใช้กันดูบ้างนะคะ

สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยอาจทำให้ร่ายกายคนเราไม่สบาย ซึ่งก็ต้องรักษาด้วยการพักผ่อนและกินยา แต่ทราบหรือไม่ว่า อาหารก็เป...
18/10/2013

สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยอาจทำให้ร่ายกายคนเราไม่สบาย ซึ่งก็ต้องรักษาด้วยการพักผ่อนและกินยา แต่ทราบหรือไม่ว่า อาหารก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญ วันนี้จะพาไปพบกับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเวลาป่วย

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงยามป่วยไข้ ประเภทแรกที่อาจหลีกเลี่ยงได้ยากเหลือเกิน คือ "ขนมหวาน" เพราะอาหารจำพวกนี้ มักมีไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูง ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร

ประเภทต่อมาคือ "เนื้อแปรรูป" จะด้วยวิธีรมควัน หรือปรุงรสด้วยน้ำตาลและเกลือก็ตาม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเช่น "เบคอน" ที่มีสารในกลุ่มไนเตรทสูง การบริโภคในปริมาณมากอาจสะสม และทำให้เกิดมะเร็ง นอกจากนี้ ยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแออีกด้วย

ถัดมาคือ "น้ำส้ม" ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก เพราะคนส่วนใหญ่รับรู้มาตลอดว่าน้ำส้มมีประโยชน์มาก แต่ว่าน้ำส้มที่รับประทานกันส่วนใหญ่มีน้ำตาลมาก ซึ่งน้ำตาลนี้เองที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และยังมีสภาพเป็นกรด เมื่อดื่มในขณะท้องว่างก็จะกัดกระเพาะอาหาร จะยิ่งทำให้ปวดท้องมากขึ้น

อาหารประเภทต่อมาที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ "ถั่ว" เพราะถั่วทำให้เกิดเสมหะในลำคอ และอาจทำให้ท้องผูก ซึ่งแม้จะไม่มีผลโดยตรงต่อระบบร่างกาย แต่ก็จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกแย่ ไม่สบายเนื้อสบายตัวได้

"เนื้อแดง" ก็เป็นอาหารอีกประเภทที่ส่งผลต่อร่างกายคล้ายกับ "ถั่ว" คือ ทำให้เกิดน้ำมูกและเสมหะ นอกจากนี้ ไขมันในเนื้อยังทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักด้วย

"แอลกอฮอล์" เป็นอีกสิ่งที่ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยง เพราะมีฤทธิ์หักล้างกับตัวยาทุกอย่าง ทำให้การรักษาโรคไม่เกิดผล และตัวแอลกอฮอล์เองยังมีฤทธิ์ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการปวดท้อง

ต่อมาคือ "คาเฟอีน" ซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถย่อยได้ยาก การเลิกดื่มชา กาแฟ และเครื่องดื่มคาเฟอีนอื่น ๆ จะทำให้หายป่วยได้เร็วยิ่งขึ้น

อาหารอีกชนิดที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ "อาหารเผ็ดร้อน" เพราะอาหารที่มีรสเผ็ดจะทำให้เกิดแก๊ส ซึ่งจะทำให้อึดอัดแน่นท้อง ไม่สบายเนื้อสบายตัว

"อาหารที่ไม่ผ่านการปรุง" ก็เป็นอาหารต้องห้ามอีกอย่างสำหรับคนป่วย ทั้งผักสลัดและอาหารอื่น ๆ เพราะนอกจากจะย่อยยาก ร่ายกายต้องทำงานหนักมากขึ้นแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อแบคทีเรียมากยิ่งขึ้น

"ผลิตภัณฑ์นม" ต่าง ๆ ก็เป็นอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะเต็มไปด้วยไขมันโมเลกุลหนักและซับซ้อน ทำให้ย่อยยาก และนอกจากนี้ บางคนยังมีอาหารแพ้นมระหว่างที่ป่วยด้วย

จากประเภทอาหารทั้งหมดที่กล่าวไปนี้ แสดงให้เห็นว่าอาหารการกินเป็นเรื่องสำคัญกว่าที่คิด เพราะฉะนั้น อาการป่วยก็ไม่ควรเป็นข้ออ้างที่จะทำให้คนเราตามใจปากอีกต่อไป

ท่านั่งก็บอกนิสัยได้นะนั่งเต็มเก้าอี้ สำหรับคนที่นั่งเต็มเก้าอี้ ตัวตรง เรียบร้อยเช่นนี้ถือว่าเป็นคนที่มีนิสัยกระตือรือร...
17/10/2013

ท่านั่งก็บอกนิสัยได้นะ
นั่งเต็มเก้าอี้

สำหรับคนที่นั่งเต็มเก้าอี้ ตัวตรง เรียบร้อยเช่นนี้ถือว่าเป็นคนที่มีนิสัยกระตือรือร้นมากเวลาทำงานอะไรสักอย่าง ก็จะทำถึงที่สุดโดยไม่เกรงกลัวอุปสรรคใด ๆ ที่ผ่านเข้ามาทดสอบจิตใจคน ในเรื่องความรักเป็น คนที่กล้าขอความรักจากคนที่ตนชอบจนบางครั้งก็ดูเหมือนคนช่างตื้อ แต่จะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงและมัก จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเร็วกว่าคนวัยเดียวกัน

นั่งจับหัวเข่า

ท่านี้เป็นท่านั่งที่ได้วิเคราะห์เอาไว้ว่าเป็นคนที่มีนิสัยชอบการได้แสดงความคิดเห็น และมีความคิดในเชิงสร้างสรรค์มากมาย บางครั้งจึงมีคนรับในสิ่งที่คิดไม่ได้ เพราะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ ในสายตาของคนทั่วไป จึงเป็นคนที่มีบุคลิกที่ขาดความน่าเชื่อถือแม้จะมีความสามารถสักแค่ไหนเหมาะกับการอยู่ในโลกของความฝัน มากกว่าความเป็นจริง

นั่งไขว้ห้าง

สำหรับคนที่นั่งเอาขาไขว้กันนี้ จะแสดงถึงความเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมรับกับความจริงสักเท่าไหร่ ชอบฝันมากกว่า ลงมือกระทำให้เกิดขึ้น แล้วก็ยังเป็นคนที่แม้มีอะไรดีเพียงเล็กน้อย ก็ไม่รอช้าที่จะอวดให้ผู้อื่นรู้เห็น และในบางครั้งมักจะทำอะไรในสิ่งที่แผลง ๆ แปลก ประหลาด สามารถช็อคความรู้สึกของคนได้ เป็นคนที่มีความขัดแย้งในตนเองเป็นอย่างมาก

นั่งอ้าขา

คนที่มีท่านั่งแบบนี้ จะถือว่าเป็นคนที่ชอบการพูดคุยและคบหาสมาคมกับผู้คนหน้าใหม่ ชอบอยู่ท่ามกลางคนมาก ๆ และทำความรู้จักแต่ก็เพื่อเอาไว้พึ่งพากันในเรื่องธุรกิจ การงาน มากกว่าคบไว้เป็นเพื่อนแท้ มักมีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น แต่เวลารักใครจะตามตื้ออีกฝ่ายจนถึงที่สุดเชื่อมั่นในความคิดตัวเองสูงจนเหมือนเผด็จการ ทำให้มีทั้งคนรักและคนเกลียดอย่างมาก

เทคนิคการง้อคนรักขั้นเทพมาฝากกันกับการง้อคนรักตามกรุ๊ปเลือด รับรองว่าต่อให้งอน โกรธ ขนาดไหนก็หายอย่างแน่นอนค่ะเทคนิคง้อค...
16/10/2013

เทคนิคการง้อคนรักขั้นเทพมาฝากกันกับการง้อคนรักตามกรุ๊ปเลือด รับรองว่าต่อให้งอน โกรธ ขนาดไหนก็หายอย่างแน่นอนค่ะ




เทคนิคง้อคนรักตามกรุ๊ปเลือด




กรุ๊ป A

คุณอาจจะต้องใช้เวลามากหน่อยกว่าเค้าจะหายโกรธ เพราะเค้าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่ปกติจะเป็นคนโกรธคนยาก จริงใจกับทุกคน แต่ถ้าลองใครทำให้โกรธล่ะเป็นเรื่อง ยิ่งเป็นคนที่เค้าไว้ใจแล้วมาหักหลังกัน อาจถึงขั้นไม่ร่วมทางกันเลยเชียวเวลาที่คนกรุ๊ป A โกรธอย่าพยายามยับยั้งเค้า หรืออย่าไปแก้ตัวแทนคนที่ทำให้เค้าโกรธ เพราะเค้าอาจพาลมาโกรธคุณด้วย พยายามเอาอกเอาใจเรื่องอื่น เวลาจะช่วยให้เค้าหายโกรธได้ แต่ถ้าจะให้ดีอย่าทำให้เค้าโกรธเลยเป็นดี


กรุ๊ป B

จริง ๆ แล้วคนเลือดกรุ๊ปนี้จะอารมณ์ดี ออกจะเป็นคนโกรธง่าย แต่ก็ลืมง่ายด้วย เค้าจะโกรธใครได้ไม่นานนักหรอก สักพักเค้าก็ลืมแล้ว ยิ่งมีเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้ฟัง หรือมีอะไรมันส์ๆ ให้เค้าทำก็ยิ่งดี ถ้าคนเลือดกรุ๊ป B โกรธขึ้นมา ต้องพยายามอย่าไปใส่ใจมากนัก ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้ทำเป็นไม่สนใจเค้านะ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเค้าอาจจะพาลโกรธมากขึ้น แค่อย่าไปพูดรื้อฟื้นทำให้เค้าลืมๆ ไป ยิ่งลืมเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี


กรุ๊ป O

ความโกรธของคนเลือดกรุ๊ป O รุนแรงราวกับพายุเฮอริเคนก็ไม่ปาน เค้าจะน่ากลัวมากเมื่ออยู่ในอารมณ์โกรธ อย่าไปขวางเชียวอาจโดนลูกหลงเข้าได้ แต่เค้าเป็นคนมีเหตุผลมาก จึงเป็นเรื่องที่ยากหากจะทำให้เค้าอารมณ์ดี อย่างที่บอกแล้วว่าถ้าโกรธอารมณ์จะรุนแรงมาก แต่ถ้าเค้ารู้สาเหตุข้อเท็จจริงที่ทำให้เค้าโกรธ อธิบายให้เค้าฟังอย่างมีเหตุผลเค้าก็จะหายโกรธเป็นปลิดทิ้ง ประมาณว่าเหมือนไม่เคยโกรธกันมาก่อน


กรุ๊ป AB

เค้าจะเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง เป็นคนเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองสูง ถือดีเป็นที่สุด และไม่ชอบง้อใคร เวลาจะทำอะไรเค้าก็เป็นคนมีเหตุผลพอสมควร แต่เหตุผลก็จะเข้าข้างตัวเองมาก เค้าอาจจะทำให้คุณปวดหัวได้หากทำให้เค้าโกรธ เพราะเค้าจะไม่ยอมฟังคำแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น ก็บอกแล้วว่าเค้ามีเหตุผลที่ค่อนข้างเข้าข้างตัวเอง ถ้าเค้าโกรธก็ยอมๆ เค้าหน่อย ยอมที่จะเอ่ยคำว่าขอโทษคงไม่เสียศักดิ์ศรีของคุณเท่าไหร่หรอกค่ะ แค่นี้เค้าก็จะหายโกรธแล้ว



ขอบคุณข้อมูลจาก FW Mail
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com

เรื่องราวเล็กๆ กำเนิดที่มาของสัญลักษณ์หุ่นเขียวแอนดรอยด์ ใครเป็นผู้ออกแบบ และจุดเริ่มต้นมาจากที่ใด?ย้อนกลับไปประมาณหกปี ...
15/10/2013

เรื่องราวเล็กๆ กำเนิดที่มาของสัญลักษณ์หุ่นเขียวแอนดรอยด์ ใครเป็นผู้ออกแบบ และจุดเริ่มต้นมาจากที่ใด?

ย้อนกลับไปประมาณหกปี Irina Blok ได้เคยทำงานให้กับบริษัท Google ในขณะที่ Google กำลังเดินหน้าออกตัวซอฟแวร์แพลตฟอร์มใหม่ และเธอกับเพื่อนได้รับมอบหมายให้คิดค้นออกแบบบางสิ่งบางอย่างที่สามารถระบุสื่อถึงสิ่งนั้นให้แก่ผู้คนได้อย่างง่ายดาย อะไรที่เกี่ยวข้องกับ “หุ่นยนต์”

”เธอได้เริ่มต้นกับของใกล้ๆ ตัวอย่างของเล่นแนววิทยาศาสตร์และดูภาพยนต์อวกาศ และอะไรๆ ก็ตามที่จะช่วยให้เธอสามารถคิดค้นตัวละครตัวนั้นออกมาได้อย่างชัดเจน ในท้ายที่สุด เธอได้รับแรงบันดาลใจของการออกแบบจากสิ่งที่พื้นฐานที่สุดของมนุษย์ ซึ่งเป็นภาพเงาร่างเปลือยเปล่าและเรียบง่ายของสัญลักษณ์ผู้ชายและผู้หญิงจากหน้าประตูห้องน้ำนั้นเอง เธอเริ่มออกแบบหุ่นยนต์ในลักษณะเปลี่อยเปล่า และเติมเสาอากาศสองข้างบนหัวของมัน”

เธอและทีมงานได้ลงความเห็นพ้องร่วมกัน โลโก้ที่จะมาเป็นสัญลักษณ์ของออกตัวซอฟแวร์นั้น จะต้องไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือความเป็น “ระบบเปิด”
“”เราตัดสินใจว่ามันควรจะเป็นโลโก้ที่สื่อถึงการทำงานร่วมกัน ที่ทุกคนในโลกที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจ”"

อ่านทั้งหมดค่ะ http://goo.gl/oO74rX

12/10/2013

ที่อยู่

Nakhon Si Thammarat
80210

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Ledererผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram