19/10/2025
กระเพาะอาหารคนเราไม่ชอบอะไรบ้าง
5 สิ่งที่กระเพาะอาหารเกลียด
ทราบไว้จะได้เลี่ยง
จริงๆ มีเยอะกว่านี้ แต่ขอเอาอันที่มันสัมพันธ์จริงๆ ค่ะ โดยจะพูดเจาะจงเรื่องแผลและมะเร็งเป็นหลักค่ะ และจะขอยกเรื่องกรดไหลย้อนไปอยู่ในเรื่อง ‘หลอดอาหาร’ ซึ่งจะพูดในวันถัดๆ ไปค่ะ
1️⃣ เชื้อแบคทีเรีย H. pylori
ยืนพื้นอันดับหนึ่งคู่ปรับตลอดกาลของกระเพาะ แบคทีเรียที่แหกทุกกฏ แบคทีเรียตัวอื่นกลัวกรดกันมาก ต้องภาวนาให้ผ่านกระเพาะไปตั้งรกรากแถวลำไส้
ส่วนเจ้านี่มันเกาะกระเพาะเลย เพราะมันมีเอนไซม์ ‘urease’ ตัดยูเรีย ฉับ! กลายเป็นด่างแอมโมเนีย สร้างเกราะกันกรดให้ตัวมันเอง เพื่ออาศัยที่กระเพาะเลย
สามารถกระตุ้นการหลั่งกรดมาเผาลำไส้เล็กส่วนต้นจนเกิดแผลได้ หรือจะเล่นงานกระเพาะตรงนั้นเลยแล้วสร้างแผลในกระเพาะ โดยเฉพาะถ้าซวยติดแบบทั่วๆ กระเพาะ สามารถเหนี่ยวนำให้เกิดมะเร็งได้
มันมาจากไหน? ติดมาจากการกินจากผู้ที่มีเชื้อค่ะ หลายรายคือรับมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วอยู่เงียบจนมาออกอาการทีหลังก็มี
♥️ หากมีอาการปวดแสบร้อน ไม่สบายท้อง สัมพันธ์กับการกิน พบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาและตรวจเพิ่มเติมหาเชื้อนะคะ ซึ่งถ้าเจอ ต้องกินยาปฏิชีวนะสูตรจำเพาะค่ะ
2️⃣ ยาแก้อักเสบ NSAIDs ในผู้ที่มีความเสี่ยง
*ตัวอย่างยา: Ibuprofen, Naproxen, Diclofenac, Mefenamic acid
ยืนพื้นอันดับสองในเรื่องแผลในกระเพาะ เพราะยาสามารถระคายเคืองผิวกระเพาะได้โดยตรง และยับยั้งการสร้างสารป้องกันกระเพาะนามว่า PGE2 ทำให้ลดการสร้างเมือกและด่างไบคาร์บ
ส่งผลให้กระเพาะกลายเป็น ‘หมองูตๅยเพราะงู’ คือโดนกรดตัวเอง กัดตัวเอง เกิดแผลเองค่ะ
แต่ในขนาดโดสปกติในผู้ที่ไม่มีความเสี่ยง โอกาสเกิดค่อนข้างต่ำค่ะ ซึ่งความเสี่ยงที่ว่า เช่น อายุมากกว่า 60 ปี, ใช้ร่วมกับยาอื่น (ยากินสเตียรอยด์, แอสไพริน), ใช้มากกว่า 1 ชนิด (มักไม่ค่อยเจอในเคส รพ. ชอบเจอในเคสกินยาชุดที่ขายแบบผิดๆ)
ซึ่งในรายที่มีความเสี่ยงแพทย์มักจะให้คู่กับยาลดกรด หรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นชนิดที่ปลอดภัยต่อกระเพาะ Selective COX-2i เช่น Celecoxib แต่ต้องประเมินคู่กับเรื่องหลอดเลือดหัวใจด้วย
♥️ ใช้ยาแก้อักเสบเมื่อจำเป็น ถ้ารู้สึกว่าต้องใช้นานมากกว่า 3-5 วัน ควรไปตรวจหาต้นเหตุของการปวดที่แท้จริงกับแพทย์ก่อนค่ะ ถ้าจำเป็นต้องใช้ต่อจริงๆ ค่อยใช้ เพราะถ้าแก้ที่ต้นเหตุได้ ก็จบเลย ตัวอย่างที่ชัดมากเลยคือ ปวดประจำเดือน มันมีตัวเลือกมากกว่า NSAIDs อีกมาก เช่น การรักษาด้วยฮอร์โมน หรือตรวจพาสาเหตุที่ซ่อนอยู่ที่ทำให้ปวดประจำเดือนหนักๆ ได้ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
3️⃣ บุหรี่และสุรา
บุหรี่มีมวลมหาพิษจากการเผาไหม้ และสารก่อมะเร็งหลายชนิด เร่งให้ผิวกระเพาะอักเสบเรื้อรัง
สุรา (Ethanol) บางส่วนเผาผลาญที่เยื่อบุผนังกระเพาะเลย ทำให้ได้สารพิษและสารก่อมะเร็งชื่อ Acetaldehyde และสารอนุมูลอิสระ ทำลายผนังกระเพาะได้เลย บางรายดื่มเยอะระดับหนึ่ง กระเพาะอักเสบเฉียบพลัน เลือดออก อาเจียนเป็นเลือดได้เลย ในระยะยาวก็เสี่ยงมะเร็งกระเพาะมากขึ้น
♥️ งดบุหรี่ งดสุรานะคะ
4️⃣ แบคทีเรียเจ้าถิ่นในกระเพาะเสียสมดุล (Dysbiosis)
อันที่จริงกระเพาะเองก็มีชุมชนแบคทีเรียคล้ายลำไส้ใหญ่นะคะ แต่น้อยกว่า และจำนวน species น้อยกว่า แต่ใดๆ คือบทบาทคล้ายกัน น้องจะคอยสร้างสารต้านอักเสบ/สารดูแลผิวกระเพาะ
แต่ถ้ามีการเสียสมดุล ตัวที่ช่วยดูแลกระเพาะมีจำนวนลดลง แต่ตัวสร้างสารก่ออักเสบเพิ่มขึ้นก็จะทำร้ายผนังกระเพาะเรื้อรังได้ จนเสี่ยงมะเร็งกระเพาะ
ถามว่าสาเหตุที่ทำให้เสียสมดุลคืออะไร? ก็ 3 ข้อข้างบนเลยค่ะ ตั้งแต่ติด H. pylori, ใช้ยาแก้ปวดในคนที่มีความเสี่ยง, บุหรี่, สุรา พวกนี้เปลี่ยนแบคทีเรียกลุ่มนี้ด้วย
กินอาหารที่มีเส้นใยน้อยเกี่ยวมั้ย? อาจจะเกี่ยวเล็กน้อยค่ะ เพราะแบคทีเรียที่นี้ไม่ใช่ตัวหลักในการย่อยเส้นใย ซึ่งจะไปเกี่ยวหนักจริงๆ คือลำไส้ใหญ่มากกว่า
5️⃣ ภาวะอ้วน
เมื่อเซลล์ไขมันมีการสะสมไขมันมาเกินจนบวมเป่ง มันจะเริ่มหลั่งสารอักเสบทำร้ายอวัยวะรอบๆ ซึ่งตัวกระเพาะเองก็มีเนื้อเยื่อไขมันรอบๆ เช่นกัน (Omentum)
รวมทั้งถ้ามีภาวะดื้ออินซูลินแล้ว ตับอ่อนที่พยายามหลั่งอินซูลินมากขึ้น จะเร่งการโตของเซลล์ที่เสี่ยงมะเร็งในกระเพาะได้
แต่อย่างไรก็ตามความเสี่ยงเรื่องมะเร็ง จะไม่ชัดเจนเท่ามะเร็งลำไส้ใหญ่นะคะ อันนั้นเพิ่มค่อนข้างเยอะเลย
ที่สำคัญคือมันค่อยเป็นค่อยไป และมะเร็งยังมีอีกหลายปัจจัยเสี่ยงนะคะ ของแบบนี้แก้ไขได้ค่ะ
♥️ ควบคุมอาหาร เพิ่มการออกกำลังกาย ตรวจสุขภาพเสมอค่ะ