RYN Physio : คลินิกกายภาพบำบัด

RYN Physio : คลินิกกายภาพบำบัด บริการกายภาพบำบัด ออฟฟิซินโดรม ปวด

กายภาพบำบัดที่เน้นรักษาตามแนวทางกายภาพบำบัด การป้องกัน แก้ไข กลุ่มอการ ออฟฟิศซินโดรม ปวดคอ ปวดบ่า ปวดไหล่ ปวดไมเกรน ปวดสะบัก แก้อาการไหล่ติด ปวดแขน ปวดข้อมือ ปวดหลัง ปวดเอวปวดขา
การป้องกัน แก้ไขอาการเจ็บปวดจากการทำงาน การขับรถ การเล่นมือถือ อาการผิดท่าจากอิริยาบทต่างๆ การนั่งหน้าคอมนานๆ
การลดปวดเมื่อยในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ
ป้องกัน มดลูกหย่อนยาน กระชับช่องคลอด

06/01/2023

โรคปวดเกร็งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อพังผืดเรื้อรัง (Myofascial pain syndrome : MPS) หนึ่งในวิธีทางกายภาพบำบัดที่นิยมทำเพื่อรักษาอาการนี้คือการคลายปมในกล้ามเนื้อ หรือก็คือ การกดจุด นั่นเอง

การกดจุดเพื่อคลายจุดกดเจ็บนั้นใช้ระยะเวลาในการรักษาแตกต่างกันไป ไม่ได้รักษาหายดีภายในครั้งเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่สภาพกล้ามเนื้อและระยะเวลาที่มีอาการสะสมของผู้ป่วยด้วย

และควรพึงทราบไว้ว่า การกดจุด จะเน้นรักษาเพื่อคลายปมกล้ามเนื้อ ไม่ได้ทำเพื่อความผ่อนคลายโดยเฉพาะ ขณะทำการรักษา ผู้ป่วยอาจจะรู้สึกเจ็บ รวมไปถึงมีอาการระบมหลังจากการรักษา แม้จะกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญ

ดังนั้น ถ้าใครอยากจะคลายจุดกดเจ็บด้วยวิธีนี้ ต้องเป็นผู้ป่วยที่พอจะทนความเจ็บปวดได้บ้าง หากเป็นคนที่เซ็นซิทีฟมากๆ ไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้ แนะนำให้เลือกรักษาด้วยวิธีอื่นแทน

01/01/2023

เนื่องจากโรค ปวดเกร็งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อพังผืดเรื้อรัง (Myofascial pain syndrome : MPS) มีความซับซ้อนในการเกิด ทำให้การรักษามีหลายหลายวิธีโดยรักษาร่วมกัน

1. การรักษาด้วยยา
o ยาด้านระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น ยาต้านอักเสบ ยาลดปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ
o ยาด้านจิตเวช เช่น ยาคลายเครียด ยาต้านภาวะซึมเศ้รา

2. การรักษาทางกายภาพบำบัด เช่น การใช้ไฟฟ้าบำบัด คลื่นอัลตร้าซาวนด์ นวดคลายกล้ามเนื้อ การยืดกล้ามเนื้อ การใช้ความร้อนหรือความเย็นบำบัด และอื่นๆ

3. การรักษาด้วยการแพทย์แผนทางเลือก เช่น นวดแผนไทย ฝังเข็ม โยคะ

การรักษาโรคนี้ ควรรักษาและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด จะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

17/12/2022

จุดเด่นของโรคปวดเกร็งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อพังผืดเรื้อรัง (Myofascial pain syndrome : MPS) คือการมีจุดกดเจ็บ

แล้ว.. ‘จุดกดเจ็บ’ (Trigger point) เกิดจากอะไร?

จุดกดเจ็บนั้น มีความซับซ้อนในการเกิด ไม่สามารถระบุสาเหตุได้อย่างชัดเจน แต่สามารถสนับสนุนปัจจัยการเกิดด้วยงานวิจัยต่างๆ เช่น

- กล้ามเนื้อทำงานมากเกินไป
- กล้ามเนื้อมีการบาดเจ็บ
- กล้ามเนื้อมีการหดตัวค้างเป็นเวลานานๆ เช่น การทรงท่าและการทำงานในชีวิตประจำวัน
- ภาวะจิตใจมีความเครียด
- การขาดแร่ธาตุหรือวิตามินบางชนิด

ปัจจัยเหล่านี้ จะส่งผลทำให้การไหลเวียนเลือดและการขนส่งออกซิเจนในกล้ามเนื้อลดลง กระตุ้นตัวรับความรู้สึกเจ็บปวด ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไวต่ออาการเจ็บปวดมากขึ้นนั่นเอง

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า อาการปวดคอ บ่า ไหล่ = โรคออฟฟิศซินโดรม แต่ความจริงแล้ว โรคออฟฟิศซินโดรม เป็นโรคย่อยๆ ในกลุ่มโรค ปวดเ...
11/12/2022

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า อาการปวดคอ บ่า ไหล่ = โรคออฟฟิศซินโดรม
แต่ความจริงแล้ว โรคออฟฟิศซินโดรม เป็นโรคย่อยๆ ในกลุ่มโรค ปวดเกร็งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อพังผืดเรื้อรัง (Myofascial pain syndrome : MPS)
จุดเด่นของโรคนี้คือ ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ปวดร้าวลึกๆ ในกล้ามเนื้อ และมักจะมี ‘จุดกดเจ็บ’ (Trigger point) ซึ่งมีลักษณะดังนี้ คือ มีปุ่มก้อนนูนภายในกล้ามเนื้อ เมื่อกดลงไปแล้วจะปวดร้าวไปยังบริเวณอื่น
จุดกดเจ็บสามารถพบได้ในกล้ามเนื้อหลายมัดทั่วร่างกาย ดังนั้นโรค MPS จึงพบอาการได้ทั่วร่างกาย ไม่จำกัดในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง
บ้างก็อาจจะมีอาการคล้ายคลึงกับโรคอื่นจนทำให้การวินิจฉัยโรคคลาดเคลื่อนได้ เช่น มีจุดกดเจ็บบริเวณคอ ท้ายทอย ปวดร้าวไปที่ขมับ จะมีอาการคล้ายๆ โรคไมเกรน
ลองสังเกตตัวเองดูนะคะ แล้วโพสต์หน้าเราจะมาแนะนำวิธีรักษาโรคนี้กันค่ะ

การออกกำลังกายเพื่อการรักษา (Therapeutic Exercise) เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่นักกายภาพบำบัดให้โปรแกรมกับผู้ป่วย เพื่อเสร...
23/11/2022

การออกกำลังกายเพื่อการรักษา (Therapeutic Exercise) เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่นักกายภาพบำบัดให้โปรแกรมกับผู้ป่วย เพื่อเสริมสร้างร่างกายและป้องกันการบาดเจ็บ ด้วยการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาเป็นระยะๆ เพื่อนักกายภาพบำบัดจะได้ประเมินและปรับเปลี่ยนการออกกำลังกายให้เข้ากับสภาวะร่างกายในเวลานั้นๆ ได้ เช่น ตอนบาดเจ็บแรกๆ อาจจะออกกำลังกายแค่การเคลื่อนไหวน้อยๆ พออาการปวดลดลงแล้วจึงค่อยปรับการออกกำลังกายให้มีความหนักมากขึ้น
ในขั้นตอนนี้ ผู้ป่วยหลายๆ คนที่อยากจะหายจากอาการปวดไวๆ มักจะเข้าใจผิดว่า ‘การที่นักกายภาพบำบัดให้โปรแกรมออกกำลังกาย เท่ากับ ยิ่งออกกำลังกายมากๆ จะยิ่งหายเร็วๆ’ หลายคนจึงฝืนออกกำลังกายมากขึ้น หนักขึ้น นั่นกลับทำให้เป็นผลเสียมากกว่าเดิม เพราะร่างกายบาดเจ็บมากขึ้นไปอีก
ดังนั้น การออกกำลังกายเพื่อการรักษาจึงควรทำอย่างเหมาะสมตามสภาพร่างกายของผู้ป่วย ไม่ฝืนเกินไป ไม่ควรใจร้อน และหากอะไรผิดปกติ ควรรีบปรึกษานักกายภาพบำบัดหรือแพทย์ที่เป็นผู้ดูแลอยู่

https://vt.tiktok.com/ZSRE4V27n/ติดตามคลิปดีๆ จาก RYN physio ใน TikTok กันได้นะคะ 😊
20/11/2022

https://vt.tiktok.com/ZSRE4V27n/

ติดตามคลิปดีๆ จาก RYN physio ใน TikTok กันได้นะคะ 😊

ไปหานักกายภาพบำบัดตอนไหนดีนะ? "รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่เชิงปวดกล้ามเนื้ออะ แค่รู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ" แค่นี.....

การออกกำลังกายเพื่อการรักษา Therapeutic Exercise เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่นักกายภาพบำบัดจะให้โปรแกรมออกกำลังกายกับคนไข้...
16/11/2022

การออกกำลังกายเพื่อการรักษา Therapeutic Exercise เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่นักกายภาพบำบัดจะให้โปรแกรมออกกำลังกายกับคนไข้ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและป้องกันอาการบาดเจ็บ ให้ได้ผลที่สุด โดยจะใช้หลักการ F**T
F = Frequency หมายถึง ความสม่ำเสมอและความถี่ในการออกกำลังกาย
- ความถี่ที่เหมาะสมก็คือ 3-5 ครั้ง / สัปดาห์
I = Intensity หมายถึง ความหนักในการออกกำลังกาย
- การออกกำลังแบบแอโรบิก (เช่น เดินวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน) จะวัดความหนักจาก เปอร์เซ็นต์ของ ค่าอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจ (Maximum Heart Rate)
- การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง จะวัดความหนักจากเปอร์เซ็นต์ของ ค่า 1RM (One Repetition Maximum) ค่าความแข็งแรงสูงสุดของกล้ามเนื้อ
T = Time หมายถึง ระยะเวลาในการออกกำลังกาย
- การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพโดยส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 20-30 นาที/ครั้ง
T = Type หมายถึง ชนิดของการออกกำลังกาย
- สามารถออกกำลังกายได้หลายวิธีขึ้นกับความชอบและความถนัดของแต่ละบุคคล
- สำหรับทางกายภาพบำบัด จะแนะนำชนิดของการออกกำลังกายโดยขึ้นกับเป้าหมายในการรักษาด้วย เช่น
o ออกกำลังกายเพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
o ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
o ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความทนทานของระบบหัวใจและหลอดเลือด
o ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มการทรงตัว
การออกกำลังกายโดยคำนึงถึงหลัก F**T จึงช่วยทำให้กำหนดเป้าหมายในการออกกำลังกายของคนไข้ได้นั่นเอง

คนส่วนใหญ่ที่มาหานักกายภาพบำบัดมักจะมาด้วยอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย บ้างก็มีอาการชาหรืออ่อนแรงร่วมด้วย สาเหตุส่วนใหญ่ก็มา...
13/11/2022

คนส่วนใหญ่ที่มาหานักกายภาพบำบัดมักจะมาด้วยอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย บ้างก็มีอาการชาหรืออ่อนแรงร่วมด้วย สาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากโรคยอดฮิตของคนวัยทำงาน โรคออฟฟิศซินโดรมนั่นเอง
ซึ่งหลายคนก็รู้สึกสงสัยกันว่า มาทำกายภาพบำบัดต่างจากการไปนวดรึเปล่า? วันนี้ทางคลินิก RYN Physio เลยมีคำตอบมาให้ค่ะ
การทำกายภาพบำบัดนั้นจะมีการตรวจประเมิน หาสาเหตุ วางแผนการรักษาและติดตามอาการของผู้ป่วยเป็นระยะๆ โดยตั้งเป้าหมายของการรักษาเอาไว้เช่น
คนไข้มีอาการปวดคอบ่าไหล่จากโรคออฟฟิศซินโดรม สิ่งที่นักกายภาพบำบัดจะทำคือ
1. หาสาเหตุว่าคนไข้มีอากรนี้ เกิดจากอะไร?
2. ลดอาการปวดให้คนไข้ ด้วยวิธีการต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่น ประคบร้อน อัลตร้าซาวด์ นวดคลายกล้ามเนื้อ ในขั้นตอนนี้ นอกจากจะลดปวดแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมกล้ามเนื้อได้อีกด้วย
3. ปรับสมดุลกล้ามเนื้อ

- อาการปวดกล้ามเนื้อของโรคออฟฟิศซินโดรม มักจะมาร่วมกับภาวะที่กล้ามเนื้อไม่สมดุล ด้านนึงตึงเกินไป หรือด้านนึงหย่อนเกินไป ดังนั้นจึงมีการแนะนำการออกกำลังกายและยืดเหยียดกล้ามเนื้อในการรักษาร่วมด้วย

- ขั้นตอนนี้ยังเป็นการทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วยลดอาการบาดเจ็บซ้ำได้อีกด้วย
4. ปรับสภาพแวดล้อม
- โรคออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการทำงานเป็นเวลานานๆ ดังนั้นการปรับสภาพแวดล้อมให้มีความเหมาะสมก็จะช่วยลดโอกาสการกลับมาเป็นโรคซ้ำได้ เช่นการปรับความสูงของโต๊ะ เก้าอี้ รวมถึงท่าทางการทำงานให้เหมาะสม
5. ประเมินอาการและปรับเปลี่ยนการรักษาเป็นระยะๆ จนถึงเป้าหมายของการรักษา
จากขึ้นตอนดังกล่าว จะเห็นได้ว่าการทำกายภาพบำบัดนั้นประกอบจากหลายๆ วิธี ไม่ใช่แค่การลดปวดอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการเสริมสร้างความแข็งแรงและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีกด้วย

07/11/2022

หากรู้สึกว่าร่างกายกำลังมีปัญหา เราควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้รักษาให้ทันท่วงทีก่อนที่สายเกินไป
ปัญหาทางกายภาพบำบัด เช่นอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ออฟฟิศซินโดรม ส่วนมากจะไม่ร้ายแรงถึงชีวิต แต่ก็ส่งผลให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ยากลำบากกว่าปกติ ไม่สบายตัวได้เช่นกัน บ้างก็รู้สึกรำคาญกับอาการเหล่านี้จนไม่สามารถทำงานของตนได้อย่างปกติเหมือนคนทั่วไป
ดังนั้น หากไปพบผู้เชี่ยวชาญ หมอ นักกายภาพบำบัดได้เร็ว ก็จะสามารถรักษาอาการเหล่านี้ได้ก่อนที่จะมีอาการมากขึ้น อาการปวดหรือปัญหาเหล่านี้ก็จะลดน้อยลงและสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้เร็วยิ่งขึ้น

01/11/2022

ทำไมการยืดเหยียดกล้ามเนื้อถึงมีความสำคัญ
ในแต่ละวัน คนเรามีการออกกำลังหรือ ทำงานในอาชีพต่างๆ ใช้กำลัง ย่อมมีการใช้กล้ามเนื้อ มัดนั้นๆ บ่อยๆ หรือนานๆ ทำให้มีการปวดเมื่อยตามตัวหลังการทำงาน
ดังนั้นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อจึงมีความสำคัญในการช่วงป้องกันการเกิดปัญหาเหล่านี้

ประคบร้อนหรือเย็นดี?เมื่ออาการเจ็บตามที่ต่างๆ ในร่างกาย เช่นปวดคอ ปวดบ่า ปวดข้อเท้า ความรู้เบื้องต้นที่ผู้คนมักจะแนะนำกั...
31/10/2022

ประคบร้อนหรือเย็นดี?
เมื่ออาการเจ็บตามที่ต่างๆ ในร่างกาย เช่นปวดคอ ปวดบ่า ปวดข้อเท้า ความรู้เบื้องต้นที่ผู้คนมักจะแนะนำกันคือ ‘การประคบ’ สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บได้
นั่นเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ‘การประคบ’ บริเวณที่มีอาการเจ็บนั้นสามารถบรรเทาอาการและทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นจริงๆ
แต่ปัญหาก็คือ คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ถ้ามีอาการปวด จะต้องประคบร้อนเท่านั้น ความจริงแล้ว การประคบสามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ขึ้นอยู่กับชนิดของอาการปวด ถ้าประคบผิดประเภทก็อาจจะทำให้การบาดเจ็บมีอาการมากขึ้นได้
การประคบเย็น
>>> เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บแบบอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน หรือเพิ่งมีอาการบาดเจ็บภายใน 1-3 วันแรก เช่น เพิ่งจะหกล้มข้อเท้าแผลง, ไปยกของมาแล้วปวดกล้ามเนื้อ, กลับมาจากเล่นกีฬาแล้วมีอาการปวดกล้ามเนื้อ
>>>> วิธีประคบ ใช้เจลเย็นหรือถุงใส่น้ำแข็ง ห่อด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ ประคบบนจุดที่มีอาการปวด ครั้งละ 5-10 นาที วันละ 2-3 ครั้ง
การประคบร้อน
>>> เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บแบบเรื้อรัง ปวดล้า ปวดเมื่อย เป็นระยะเวลานาน 3 เดือนขึ้นไป เช่น ปวดคอบ่าไหล่ ปวดสะโพก
>>> วิธีประคบ ใช้แผ่นประคบร้อนหรือถุงร้อน ห่อด้วยผ้าขนหนูหลายชั้น ให้พอรู้สึกอุ่นสบาย ประคบบนจุดที่มีอาการปวด ครั้งละ 20 นาที วันละ 1-2 ครั้ง

หากมีอาการอื่นๆ เช่น ปวดแสบ ปวดชา ปวดร้าวไปตามแนวแขนหรือขา รู้สึกอ่อนแรงร่วมด้วย ควรพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดใกล้บ้านด้วยนะคะ

ปัญหาข้อต่อไม่มั่นคงJoint instabilityผู้ป่วยหลายคนมาพบนักกายภาพบำบัดด้วยปัญหาที่ข้อเข่า สอบถามแล้วใม่มีอาการติดขัด จะบอก...
22/10/2022

ปัญหาข้อต่อไม่มั่นคง
Joint instability
ผู้ป่วยหลายคนมาพบนักกายภาพบำบัดด้วยปัญหาที่ข้อเข่า สอบถามแล้วใม่มีอาการติดขัด จะบอกว่าเจ็บก็ไม่ได้เจ็บมากขนาดนั้น คนไข้ยังรู้สึกงงๆ กับอาการตัวเองอยู่เลย เพราะไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรมากมาย แต่ ‘รู้สึกผิดปกติ’ ที่หัวเข่าซะมากกว่า เดินหรือวิ่งแล้วรู้สึกแปลกๆ
อาการแบบนี้ อาจจะเกิดจากการที่ข้อต่อไม่มั่นคงหรือข้อต่อหลวม เกิดความไม่สมดุลของเส้นเอ็นและมัดกล้ามเนื้อรอบข้อต่อนั้นๆ เช่นมีด้านใดด้านหนึ่งถูกใช้งานมากเกินไปจนเกิดความไม่สมดุลได้
ในด้านการรักษา นักกายภาพบำบัดการประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณข้อต่อนั้นๆ ว่ากล้ามเนื้อใดอ่อนแรงแล้วจึงให้โปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงอย่างถูกต้องได้
= = = = = = = = = = = = = = = = = == = = = = = = = = =
RYN Physio - คลินิกกายภาพบำบัด อาร์วายเอ็น ฟิสิโอ
ให้บริการกายภาพบำบัด : รับปรึกษาปัญหาทางกายภาพบำบัด ตรวจ รักษา บำบัด ฟื้นฟู
โรคทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ / ออฟฟิศซินโดรม / ไหล่ติด / ปวดหลัง / อื่นๆ ด้วยเครื่องมือและเทคนิควิธีการทางกายภาพบำบัด
ออฟฟิศซินโดรม : ปวดเมื่อย คอ บ่า ไหล่ สะบัก หลังห่อ
ไหล่ติด ปวดไหล่
ปวดคอ ปวดหลัง
ปวดเข่า เข่าเสื่อม
ปวดเท้า ปวดส้นเท้า
คลินิกสามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตได้
เปิดบริการ วันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์)
เวลา 09.00-20.00 น.
ติดต่อสอบถามอาการหรือจองคิวรักษาได้ที่ 082-6255168
หรือแอดไลน์ได้ที่ : https://rynphysio.com/
ที่ตั้งคลินิก : บ.ม่าหนิก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต https://goo.gl/maps/f2FCUs7vKb4mjSCWA
#ปวดคอ #ปวดบ่า #ปวดไหล่ #ปวดไมเกรน #ปวดข้อศอก #ไหล่ติด #ปวดหลัง #ปวดขา #ปวดเข่า #ไมเกรน

ที่อยู่

19/25 ถ. ศรีสุนทร ม. 7 ตำบลศรีสุนทร
Amphoe Muang Thalang
83110

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 20:00
อังคาร 09:00 - 20:00
พุธ 09:00 - 20:00
พฤหัสบดี 09:00 - 20:00
ศุกร์ 09:00 - 20:00
เสาร์ 09:00 - 20:00
อาทิตย์ 09:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

+66826255168

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ RYN Physio : คลินิกกายภาพบำบัดผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง RYN Physio : คลินิกกายภาพบำบัด:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram