หมออู๋ ฝังเข็มและกายภาพ

หมออู๋ ฝังเข็มและกายภาพ ไม่เพียงแค่ฝังเข็ม แต่ใช้หลายวิธีรักษาที่ต้องหายไวที่สุด ใช้ยาน้อยสุด ด้วยหลักศาสตร์จีนกับแผนปัจจุบัน

24/11/2025

การเข้าใจการเคลื่อนไหวของร่างกาย
เปรียบได้กับการเข้าใจ 气血循环 การไหลเวียนของลมปราณ

เอาเคส นกฬ จานร่อน มาแบ่งบัน

CC: นักกีฬาปวดหลัง เมื่อบิดตัวเหวี่ยงแขน
พบนักกายภาพคลายตึงหลัง ร่วมทำ sport massage แล้วไม่ดีขึ้น
จึง C/s แผนจีน....

เช็คการเคลื่อนไหว พบว่า นกฬ มี kyphosois ส่วน middle lower of T-Spine มากเกินไปนิด
ทำให้เวลาบิดตัว หรือ เหวี่ยงแขน ซ้ำๆ ต่อเนื่อง
แรงดึงของกล้ามเนื้อตัวบริเวณที่ นกฬ รู้สึก
ถูกแรงดึงมากกว่าปกติ จึงก่ออาการปวด

ทุกเทคนิคของแผนจีนใช้ได้หมด ไม่ว่าจะ
ทุยหนา ฝังเข็ม ครอบแก้วซิลิโคน
ด้วยเวลาที่จำกัด นกฬ ต้องลงสนาม ใน20 นาที

เราจึงเลือกใช้การฝังเข็ม
ลงตามแนวแรงดึงของกล้ามเนื้อส่วนเกี่ยวข้องคือ
Upper Trap Muscle [Partล่าง]
และ
ลึกขึ้นอีกหน่อย ในส่วนของ แนวแผงเกาะต้น ของLattisimus

ในเคสนี้หากใครจะจัดกระดูกก็อาจจะช่วยได้บ้างสัก 10%
แต่ทั้งนี้ปัญหามาด้วยการใช้งานทางกล้ามเนื้อ
การไปจัดกระดูกเลย จึงดีขึ้นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ หรืออาจไม่เห็นผล

การรักษานักกีฬาด้วยการฝังเข็มจึงให้ผลที่เร็วและไวมาก
ด้วยเวลาจำกัด นักกีฬาทำเสร็จสามารถลงสนามได้ทันที

ส่วนตัวพก U/s ไปก็ใช้ไม่ได้เพราะไม่มีไฟ ไม่มีปลั๊กให้ใช้
แต่เทคนิคของแผนจีนทีมีมาตั้งแต่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้...เจ๋งสุดๆไปเลย

#ฝังเข็มทีมชาติ #หมอจีน #แพทย์จีนทีมชาติ
#จานร่อน #ทีมชาติไทย #ครอบแก้ว #หมอนิว
#เจ็บแขน #ปวดแขน #ฝังเข็ม #กายภาพ #หมออู๋ #หมออู๋ฝังเข็มกายภาพ #แก้ปวด #ฝังเข็มนักกีฬา #ทีมชาติ #แก้พังผืด #แก้ผังผืด #แก้คีลอยด์

เนื่องด้วยวันที่จัดกิจกรรม จำนวนผู้สมัครไม่ถึงเกณฑ์ (ทีมงานต้องเข้างานซีเกมส์)// จึงต้องขอประกาศย้ายวันจัดไปช่วง ปลายเดื...
13/11/2025

เนื่องด้วยวันที่จัดกิจกรรม จำนวนผู้สมัครไม่ถึงเกณฑ์
(ทีมงานต้องเข้างานซีเกมส์)

// จึงต้องขอประกาศย้ายวันจัด
ไปช่วง ปลายเดือนเมษายน 2569
คาดว่า 20 /21 /22 หรือ 29 เมษา
>> ท่านใดที่สนใจ สามารถเลือกวันที่สะดวก คอมเม้นทิ้งไว้ได้เลยค่ะ

[Surround Check]
กิจกรรมการเรียนรู้ทางLab Gross Anatomy [ร่างอาจารย์ใหญ่]

✅️รู้จักเนื้อเยื่อในร่างกาย
Skin fascia muscle tendon ligament Bone and Joint
✅️ การทำงานเชื่อมโยงของStructure ข้างบนเบื้องต้น
✅️ การนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้กับทางแผนไทย แผนจีน ให้เห็นภาพจับต้องได้มากขึ้น

✅️ ( เฉพาะแพทย์แผนจีน) ทดลองลงเข็ม ครอบแก้ว บนแต่ละเนื้อเยื่อ
บนร่างอาจารย์ใหญ่ และ บนเนื้อสด(บ่าย)

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2568
8.30-16.00 น.
สถานที่ มหาวิทยาลัยรังสิต
[ห้องอาคารจะแจ้งอีกครั้งหลังสมัคร]

ค่าสมัคร 3,000 บาท
[มีขนมเบรคเช้า บริการ1 ชุด
ไม่รวมอาหารกลางวัน]

กำหนดการ
8.30 ลงทะเบียน จัดกลุ่ม
รับทราบข้อตกลง การเข้าศึกษาร่างอาจารย์ใหญ่
9.00-12.30 เข้าสู่ Lab Gross
12.30-14.00 พัก
14.00-16.00 เป็นการเสวนา รวบรวมความรู้ ในภาคตอนเช้า
มาอภิปรายในมุมของแต่ละท่าน
โดยมีพี่ดล เพจ อนาโตมี่ มีกรี๊ด ช่วยตอบคำถาม และ คณะอาจารย์ของภาคกายวิภาค ม.รังสิต ช่วยตอบคำถามเบื้องต้นค่ะ

[เฉพาะแพทย์จีน]
ช่วงบ่าย จะเปรียบเทียบการลงเข็ม/ครอบแก้วบนเนื้อสด กับช่วงเช้าค่ะ

หากมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ไม่ถึง 40 คน
กิจกรรมนี้จะต้องย้ายไป ปีหน้า (ม.ค.หรือ พ.ค.)ค่ะ

หากจำนวนถึงทางเราถึงจะเปิดรับสมัคร และค่อยชำระเงินค่ะ
โดยต้องให้คำตอบภายใน12 พ.ย.นี้ค่ะ

หากท่านใดสนใจ
จะขอให้พิมพ์ +1 ไว้เพื่อนับจำนวนคนคร่าวๆ

13/11/2025

คำถามนี้น่าสนใจ ถ้าเราไปดูฤทธิ์ของ histamine ไม่ว่าจะเป็นขยายหลอดเลือด และทำให้สารน้ำรั่ว ซึ่งมันไม่ได้แตกต่างอะไรกับสารก่ออักเสบตัวอื่นเลย อย่าง prostaglandin

แล้วทำไมยาต้าน histamine เช่น Chlopheniramine, Loratadine, Ceterizine, Fexofenadine ถึงเป็นได้แค่ยาแก้แพ้ ทำไมไม่เป็นยาแก้อักเสบ?


เหตุผลก็เพราะการบาดเจ็บ การอักเสบทั่วไป เม็ดเลือดขาวแนวหน้าที่เข้าจัดการเชื้อโรคหรือเคลียร์เซลล์ที่ตๅย คือกลุ่มทหาร macrophage และ neutrophil

สองตัวนี้ผลิตสารก่ออักเสบตัวหลักคือ IL-1, IL-6, TNF-a และ prostaglandin ซึ่งเม็ดเลือดขาว mast cell ที่คอยปล่อย histamine ไม่ค่อยมีบทบาทเลย

ดังนั้นยาแก้แพ้ไป ก็ไม่ได้ช่วยลดการอักเสบเลย เพราะ histamine ไม่ใช่ตัวหลัก เราจึงไม่กินยาแก้แพ้ ตอนข้อเท้าอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบเนอะ 555

แต่จะใช้ยาแก้อักเสบกลุ่ม NSAIDs เวิร์คแทน เพราะยามาลดการสร้างสาร prostaglandin ไง ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวหลัก


แต่ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้ ชุดของเม็ดเลือดขาวจะเปลี่ยนยกชุดเลย กลายเป็น Mast cell, Basophil และ Eosinophil ซึ่งสองตัวแรก มีสารหลักเลยคือ histamine ฮะ

นั่นเลยทำให้ยาต้าน histamine ออกฤทธิ์ลดการอักเสบจากกระบวนการแพ้ได้ไงล่ะ

ขอบคุณแอด อนาโตมี่ มีกรี๊ด ที่ช่วยให้ข้อมูลค่ะ“Myofascial Bridges Connect   and   (Part 3): The Anatomy and Movement of ...
11/11/2025

ขอบคุณแอด อนาโตมี่ มีกรี๊ด ที่ช่วยให้ข้อมูลค่ะ

“Myofascial Bridges Connect and (Part 3): The Anatomy and Movement of Qi”

---

🔹 บทความนี้อธิบาย “สะพานเชื่อมระหว่างระบบกล้ามเนื้อพังผืด (Myofascial system)” ในศาสตร์ Chiropractic กับแนวคิดเรื่อง “พลังชี่ (Qi)” ของ การแพทย์แผนจีน (TCM) โดยเสนอว่าทั้งสองระบบมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งในเชิงโครงสร้างและการทำงานของร่างกาย

---

🔹 เนื้อหาหลัก

1. Myofascia คืออะไร

Myofascia คือเนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อและอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า

มีบทบาทสำคัญต่อ การกระจายพลังงาน (Qi) และการเคลื่อนไหวของร่างกาย

ระบบนี้ทำงานเชื่อมโยงกันทั่วทั้งร่างกาย เหมือน “เครือข่ายของพลังและการรับรู้” (bioelectric + biomechanical system)

---

2. ความเชื่อมโยงกับพลังชี่ (Qi)

พลังชี่ (Qi) ที่กล่าวถึงในแพทย์แผนจีน อาจเทียบได้กับพลังงานชีวกล (biomechanical) และชีวไฟฟ้า (bioelectrical) ที่เคลื่อนผ่านชั้นของ myofascia

เมื่อ myofascia ตึงหรือผิดปกติ จะขัดขวางการไหลของ Qi เช่นเดียวกับเส้นลมปราณที่อุดตัน

การรักษาผ่านการจัดกระดูก (chiropractic) หรือการฝังเข็ม (acupuncture) จึงสามารถช่วยปรับสมดุลการไหลของ Qi ผ่านการคลายพังผืดและเนื้อเยื่อได้

---

3. หลักฐานจากการศึกษา

นักวิจัยอย่าง Motoyama และ Nagahama ชี้ว่าเส้นเมอริเดียนในร่างกายสัมพันธ์กับแนวของพังผืด (myofascial lines)

มีการตรวจพบว่า “จุดฝังเข็ม” จำนวนมากอยู่ตรงตำแหน่งที่พังผืดมีความหนาแน่นหรือเชื่อมต่อกับอวัยวะต่าง ๆ

การกระตุ้น myofascia (เช่น การนวด การจัดกระดูก หรือการฝังเข็ม) สามารถกระตุ้นสัญญาณไฟฟ้าในชั้นเนื้อเยื่อ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของ Qi

---

4. แนวคิดเรื่อง Alarm Points

ใน TCM มีจุดที่เรียกว่า “Alarm Points” หรือ “Mu points” — จุดที่สะท้อนปัญหาของอวัยวะภายใน

ใน Chiropractic ก็พบจุดเหล่านี้สอดคล้องกับบริเวณที่กล้ามเนื้อและพังผืดตึงผิดปกติ

เมื่อกดหรือยืดบริเวณนี้ จะทำให้เกิดการตอบสนองทันที เช่น ผ่อนคลาย ปวดลดลง หรือการเคลื่อนไหวดีขึ้น

---

5. กลไกของพลังงานใน Myofascia

ร่างกายผลิตพลังงานไฟฟ้าและกลไกผ่าน myofascia

การเคลื่อนไหวและการกระตุ้นกล้ามเนื้อจะส่งผลต่อ “สนามพลังชีวะ” (bioelectromagnetic field) ของร่างกาย

Qi จึงไม่ใช่พลังงานลึกลับ แต่เป็น “พลังงานทางชีวกล-ไฟฟ้า” ที่ไหลผ่านโครงสร้างพังผืดและเนื้อเยื่อ

---

🔹 สรุปสุดท้าย

> ระบบพังผืด (Myofascia) คือ ตัวกลางสำคัญที่เชื่อมโยงแนวคิดพลังชี่ของการแพทย์จีนกับโครงสร้างร่างกายในศาสตร์ Chiropractic

ทั้งสองศาสตร์ต่างพยายามปรับสมดุลพลังงานในร่างกายผ่านการกระตุ้นพังผืด กล้ามเนื้อ และเส้นทางของ Qi เพื่อฟื้นฟูสมดุลของอวัยวะและระบบประสาท

เมื่อเข้าใจความสัมพันธ์นี้มากขึ้น จะสามารถใช้ทั้งสองแนวทางร่วมกันในการรักษาโรคทางกายและพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความโดย Scott Cuthbert
ตีพิมพ์ใน Journal of Complementary Medicine & Alternative Healthcare (มกราคม 2020)

ต้นทางจากเพจ
https://www.facebook.com/share/p/1SuUjRn5so/

“Bridges Between   and   (Part 2): Neural Theories of Acupuncture”โดย Scott Cuthbertตีพิมพ์ใน Journal of Complementary M...
11/11/2025

“Bridges Between and (Part 2): Neural Theories of Acupuncture”
โดย Scott Cuthbert
ตีพิมพ์ใน Journal of Complementary Medicine & Alternative Healthcare (มกราคม 2020)

---

บทความนี้อธิบาย กลไกทางระบบประสาท (Neural Mechanisms) ที่เป็น “สะพานเชื่อม” ระหว่าง
ศาสตร์ Chiropractic (การจัดกระดูก) กับ การแพทย์แผนจีน (TCM: การฝังเข็ม)
โดยเสนอว่าทั้งสองศาสตร์มีพื้นฐานร่วมกันใน ระบบประสาทกลางและเส้นประสาทส่วนปลาย (CNS/PNS)
ที่ควบคุมการตอบสนองของกล้ามเนื้อ ความเจ็บปวด และการไหลเวียนของพลังงาน (Qi)

---

🔹 ประเด็นสำคัญจากเนื้อหา

1. หลักฐานทางคลินิกของการฝังเข็ม

การฝังเข็มได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพสูงในการรักษาอาการปวดเรื้อรัง — สำเร็จถึง 70–85%
ซึ่งมากกว่าผล placebo ที่อยู่ราว 30%

การฝังเข็มยังมีผลเทียบเท่าการใช้มอร์ฟีนในบางกรณีของผู้ป่วยปวดเรื้อรัง

ในจีนมีการใช้การฝังเข็มกับสัตว์ทดลอง (เช่น ม้า วัว) มานานหลายสิบปี แสดงว่าผลไม่ได้เกิดจากความเชื่อ (suggestive effect) แต่เป็นผลทางกายภาพจริง

---

2. ระบบประสาทกับพลังชี่ (Qi)

นักวิจัยอย่าง Melzack และ Travell พบว่า จุดฝังเข็มกว่า 80%
สัมพันธ์กับจุด Myofascial Trigger Points (MTrPs) — จุดกล้ามเนื้อที่เกิดการเกร็งหรือปวดเรื้อรัง

แสดงว่า “เส้นลมปราณ” และ “ระบบประสาท-กล้ามเนื้อ” อาจเป็นระบบเดียวกันในเชิงชีววิทยา

Qi จึงอาจเป็น “พลังงานชีวะไฟฟ้า” ที่เคลื่อนผ่านเส้นประสาทและเนื้อเยื่อ (ไม่ใช่สิ่งลึกลับ)

---

3. ทฤษฎีประสาทของการฝังเข็ม

การฝังเข็มไปกระตุ้นเส้นใยประสาทชนิด A-delta (ไวต่อแรงและอุณหภูมิ)
และ C-fiber (รับรู้ความเจ็บปวดและความร้อน)

การกระตุ้นนี้ส่งสัญญาณเข้าสู่ไขสันหลังและต่อไปยัง สมองส่วน hypothalamus–pituitary axis
ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมฮอร์โมนและระบบประสาทอัตโนมัติ

ร่างกายจึงหลั่ง endorphin และ neuropeptide ที่ช่วยระงับปวดและปรับสมดุลร่างกาย

---

4. หลักฐานจากงานวิจัยร่วม

การสแกนสมองด้วย fMRI แสดงให้เห็นว่าเมื่อกระตุ้นจุดฝังเข็ม
จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของกิจกรรมในสมองจริงในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ความเจ็บปวด

การทดสอบกล้ามเนื้อ (Muscle Testing) ที่ใช้ในไคโรแพรกติก เช่น Applied Kinesiology
พบว่าการแตะหรือเคาะจุดฝังเข็มบางจุดสามารถกระตุ้นการตอบสนองของกล้ามเนื้อได้ทันที

ตัวอย่างเช่น จุด BL-1 และ BL-67 บนเส้นกระเพาะปัสสาวะและไต มีผลต่อแรงต้านของกล้ามเนื้อเมื่อตรวจวัด

---

5. แนวคิดสรุป

ทั้ง Chiropractic และ Acupuncture ต่างอาศัยระบบประสาทเดียวกันในการสื่อสาร

การจัดกระดูกช่วยปรับการส่งสัญญาณประสาทและการตอบสนองของกล้ามเนื้อ

การฝังเข็มช่วยปรับสมดุลพลังงานไฟฟ้าในเส้นประสาทและเนื้อเยื่อ

เมื่อรวมกัน ทั้งสองศาสตร์สามารถอธิบายผลการรักษาได้ในมิติของ “Neurophysiology”
โดยไม่ต้องแยกระหว่างตะวันตกกับตะวันออก

---

🔹 สรุปสั้นๆ

> บทความนี้เสนอว่าผลการรักษาของการฝังเข็มและการจัดกระดูกเกิดจากกลไกเดียวกัน —
การกระตุ้นและปรับสมดุลของ ระบบประสาทส่วนกลางและส่วนปลาย (CNS/PNS)
ทำให้เกิดการหลั่งสารระงับปวดตามธรรมชาติ (endorphins) และฟื้นฟูสมดุลพลังงาน (Qi)

ดังนั้น “พลังชี่” ของการแพทย์จีน และ “สัญญาณประสาท” ของการแพทย์ตะวันตก
อาจเป็น ภาษาสองแบบของกระบวนการเดียวกันในร่างกายมนุษย์

แปะต้นทางจากเพจ
https://www.facebook.com/share/p/1SuUjRn5so/

“Bridges Between   and Traditional Chinese Medicine   (Part 1)”ความเชื่อมโยงระหว่างศาสตร์การจัดกระดูก (Chiropractic) และ...
11/11/2025

“Bridges Between and Traditional Chinese Medicine (Part 1)”

ความเชื่อมโยงระหว่างศาสตร์การจัดกระดูก (Chiropractic) และ การแพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine: TCM) ซึ่งแม้จะมีพื้นฐานและแนวคิดต่างกัน
แต่ก็มีจุดร่วมหลายด้าน ทั้งในเรื่องของ พลังงาน การไหลเวียนของระบบในร่างกาย และการฟื้นฟูสมดุลของร่างกาย

---🔹 เนื้อหาสำคัญ

1. จุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยง

ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 การฝังเข็มเริ่มถูกพูดถึงในวงการไคโรแพรกติก (Chiropractic) โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา

แพทย์ฝึกหัดเริ่มศึกษาการฝังเข็มจากจีนเพื่อหาความสัมพันธ์กับระบบประสาทและการฟื้นฟูร่างกาย

2. แนวคิดร่วมของทั้งสองศาสตร์

ทั้ง Chiropractic และ TCM เชื่อว่าการทำงานของร่างกายสัมพันธ์กับการไหลเวียนของพลังงานหรือชีพจร

การจัดกระดูก (spinal manipulation) และการฝังเข็ม ต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ปรับสมดุลพลังงานในร่างกายให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น

การกระตุ้นจุด (ใน TCM คือจุดลมปราณ / ใน Chiropractic คือจุดประสาทและข้อต่อ) สามารถช่วยให้ระบบต่าง ๆ กลับมาทำงานได้ปกติ

3. การยอมรับในวงการแพทย์ทางเลือก

มีงานวิจัยและการสอนในบางสถาบันที่เริ่มรวมหลักสูตร Chiropractic เข้ากับ Acupuncture

สัดส่วนของแพทย์ที่ยอมรับการใช้ทั้งสองวิธีร่วมกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ประมาณ 51% ใช้การจัดกระดูกร่วมกับการฝังเข็ม

4. กรณีศึกษาและการประยุกต์ใช้

ตัวอย่างเช่น การใช้การฝังเข็มร่วมกับการจัดกระดูกในการรักษา อาการปวดหลังส่วนล่าง (lumbar disorders) หรือ ภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม (spondylopathy)

การรวมสองศาสตร์ช่วยให้ฟื้นฟูระบบประสาทและระบบพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าใช้เพียงวิธีเดียว

5. สรุปแนวคิด

การแพทย์แผนจีนมองร่างกายแบบองค์รวม ส่วนไคโรแพรกติกมองผ่านระบบประสาทและโครงสร้าง

แต่ทั้งคู่มี เป้าหมายเดียวกัน คือการฟื้นฟูการทำงานของร่างกายอย่างสมดุลโดยไม่ใช้ยา

ผู้เขียนเสนอให้ศึกษาและผสานแนวคิดทั้งสองมากขึ้น เพื่อพัฒนาแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

---🔹 คำสำคัญ(Keywords)

Cardium meridian, Malaria Toxicity, Qi flow, Physiochemical balance

---🔹 สรุปสั้นๆ

> “การจัดกระดูก” และ “การแพทย์แผนจีน” มีจุดร่วมในแนวคิดการรักษาแบบองค์รวม โดยเน้นการปรับสมดุลพลังงานและการไหลเวียนของร่างกาย ทั้งสองศาสตร์สามารถเกื้อหนุนกันได้ โดยเฉพาะในโรคทางกล้ามเนื้อและระบบประสาท เช่น อาการปวดหลังหรือคอ ซึ่งการผสานวิธีจะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าการใช้วิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียว

ขอขอบคุณ แอด อนาโตมี่ มีกรี๊ด ที่แบ่งปันข้อมูล
จากเพจต้นทาง
https://www.facebook.com/share/p/1SuUjRn5so/

อัพเดทล่าสุด 11 พ.ย. 68ขออีกเพียง 6 ที่  .... กิจกรรมนี้จะคอนเฟิมการจัดงานค่ะDEADLINE วันนี้ แล้ว ขอฝากประชาสัมพันธ์ด้วย...
11/11/2025

อัพเดทล่าสุด 11 พ.ย. 68
ขออีกเพียง 6 ที่ ....

กิจกรรมนี้จะคอนเฟิมการจัดงานค่ะ
DEADLINE วันนี้ แล้ว

ขอฝากประชาสัมพันธ์ด้วยนะค๊า

[ร่วมกิจกรรมได้ทุกวิชาชีพค่า]

09/11/2025
09/11/2025

มาแนะนำอุปกรณ์ของแพทย์จีนที่ใช้กับนักกีฬามาตลอด 6-7ปีนี้
การใช้ซิลิโคน

-ในการช่วยพยุงกล้ามเนื้อ
-ลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ
-กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อข้างเคียง

เตรียมความพร้อม จานร่อนทีมชาติ ซีเกมส์

#ซีเกมส์2025 #ฝังเข็มทีมชาติ #หมอจีน #แพทย์จีนทีมชาติ
#จานร่อน #ทีมชาติไทย #ครอบแก้ว #หมอนิว
#เจ็บแขน #ปวดแขน #ฝังเข็ม #กายภาพ #หมออู๋ #หมออู๋ฝังเข็มกายภาพ #แก้ปวด #ฝังเข็มนักกีฬา #ทีมชาติไทย

กล้ามเนื้อของคนมีชีวิต กับกล้ามเนื้อของร่างกฝอาจารย์ใหญ่ มีความแตกต่างกัน....  // รู้ได้มากขึ้นในกิจกรรมที่จะจัดใน ช่วง ...
07/11/2025

กล้ามเนื้อของคนมีชีวิต กับกล้ามเนื้อของร่างกฝอาจารย์ใหญ่ มีความแตกต่างกัน.... // รู้ได้มากขึ้นในกิจกรรมที่จะจัดใน ช่วง ธ.ค.68 ((ยังเหลืออีก 20 ที่ถึงจะคอนเฟิร์มการจัดงานค่า)) https://www.facebook.com/share/1DCidW8VDS/

นี่คือภาพอันน่าทึ่งของแบบจำลองกายวิภาคมือมนุษย์ที่ละเอียดล้ำ เผยให้เห็นถึงความซับซ้อนภายในของเครื่องมืออเนกประสงค์อันน่าทึ่งที่เราใช้กันทุกวัน

มือคือสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมชีวภาพที่ผสานรวมความแข็งแกร่งและความแม่นยำเข้าด้วยกัน แบบจำลองนี้เน้นย้ำถึงความซับซ้อนของโครงสร้างที่สำคัญต่อการทำงานของมือ:

- มือและข้อมือประกอบด้วยกระดูก 27 ชิ้น

- ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ 34 มัด เพื่อการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลและทรงพลัง

- กล้ามเนื้อเหล่านี้เชื่อมต่อกันด้วยเอ็นและเส้นเอ็นมากกว่า 100 เส้น ก่อให้เกิดข้อต่อ 27 ข้อ

ภาพภายในนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นกล้ามเนื้อ (สีชมพู) หลอดเลือด (สีแดง) และเอ็น/เส้นเอ็นยึด (สีขาว) เป็นเครื่องเตือนใจถึงความซับซ้อนที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวหนังของเรา
-------------------------------------------------------------
⚠️ คำเตือน : ห้ามคัดลอก,ทำซ้ำ,แก้ไข,ดัดแปลง ข้อมูล,ข้อความ หรือบทความที่แปลและเรียบเรียงโดยเพจ The Secret Chamber ทำได้เพียงการแชร์ตามปกติเท่านั้น
-------------------------------------------------------------
The Secret Chamber

[Surround Check]กิจกรรมการเรียนรู้ทางLab Gross Anatomy [ร่างอาจารย์ใหญ่]✅️รู้จักเนื้อเยื่อในร่างกายSkin fascia muscle te...
04/11/2025

[Surround Check]
กิจกรรมการเรียนรู้ทางLab Gross Anatomy [ร่างอาจารย์ใหญ่]

✅️รู้จักเนื้อเยื่อในร่างกาย
Skin fascia muscle tendon ligament Bone and Joint
✅️ การทำงานเชื่อมโยงของStructure ข้างบนเบื้องต้น
✅️ การนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้กับทางแผนไทย แผนจีน ให้เห็นภาพจับต้องได้มากขึ้น

✅️ ( เฉพาะแพทย์แผนจีน) ทดลองลงเข็ม ครอบแก้ว บนแต่ละเนื้อเยื่อ
บนร่างอาจารย์ใหญ่ และ บนเนื้อสด(บ่าย)

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2568
8.30-16.00 น.
สถานที่ มหาวิทยาลัยรังสิต
[ห้องอาคารจะแจ้งอีกครั้งหลังสมัคร]

ค่าสมัคร 3,000 บาท
[มีขนมเบรคเช้า บริการ1 ชุด
ไม่รวมอาหารกลางวัน]

กำหนดการ
8.30 ลงทะเบียน จัดกลุ่ม
รับทราบข้อตกลง การเข้าศึกษาร่างอาจารย์ใหญ่
9.00-12.30 เข้าสู่ Lab Gross
12.30-14.00 พัก
14.00-16.00 เป็นการเสวนา รวบรวมความรู้ ในภาคตอนเช้า
มาอภิปรายในมุมของแต่ละท่าน
โดยมีพี่ดล เพจ อนาโตมี่ มีกรี๊ด ช่วยตอบคำถาม และ คณะอาจารย์ของภาคกายวิภาค ม.รังสิต ช่วยตอบคำถามเบื้องต้นค่ะ

[เฉพาะแพทย์จีน]
ช่วงบ่าย จะเปรียบเทียบการลงเข็ม/ครอบแก้วบนเนื้อสด กับช่วงเช้าค่ะ

หากมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ไม่ถึง 40 คน
กิจกรรมนี้จะต้องย้ายไป ปีหน้า (ม.ค.หรือ พ.ค.)ค่ะ

หากจำนวนถึงทางเราถึงจะเปิดรับสมัคร และค่อยชำระเงินค่ะ
โดยต้องให้คำตอบภายใน12 พ.ย.นี้ค่ะ

หากท่านใดสนใจ
จะขอให้พิมพ์ +1 ไว้เพื่อนับจำนวนคนคร่าวๆ

ที่อยู่

The Grove Hathairaj
Ban Rahaeng
12150

เบอร์โทรศัพท์

+66889178910

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หมออู๋ ฝังเข็มและกายภาพผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง หมออู๋ ฝังเข็มและกายภาพ:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram