Remind Clinic รีมายด์ ให้บริการปรึกษา บำบัด ทางด้านจิตใจ และทำแบบทดสอบ การตรวจวินิจฉัยโดยนักจิตวิทยาคลินิก

05/11/2025

#โรควิตกกังวลกับความเจ็บป่วย ( Illness Anxiety Disorder)

~~•*•~~•*•~~•*•~~•*•~~•*•~~•*•~~•*•~~•*•

วันนี้เรามารู้จักอีกโรคหนึ่งทางจิตเวชกันครับ ... นั่นคือโรคกังวลว่าจะเป็นโรค 🙂

ภาวะนี้ เดิมที(ในเกณฑ์การวินิจฉัยฉบับ DSM-IV) เรียกว่าโรค hypochondriasis

ส่วนในการวินิจฉัยทางจิตเวชในปัจจุบัน (DSM-5) ใช้คำว่า illness anxiety disorder ซึ่งในภาษาไทยผมแปลตรงตัวเลยว่า
“โรควิตกกังวลกับความเจ็บป่วย”

> อาการเด่น คือ
ผู้ป่วยจะกังวลหมกมุ่นว่าตัวเองเป็นโรคร้ายแรงอะไรบางอย่าง โดยความกังวลนี้เป็นอย่างรุนแรง ต่อเนื่อง และไม่หายไป แม้แพทย์จะตรวจยืนยันแล้วว่าไม่เป็นอะไรก็ตาม (หรืออาการนั้นอาจหายไปแล้วก็ตาม)

> พบได้บ่อยแค่ไหน?
พบได้ร้อยละ 1-2 ในประชากรทั่วไป
และพบมากถึงร้อยละ 3-8 ของผู้ป่วยในคลินิกหรือโรงพยาบาล

> อาการของโรควิตกกังวลกับความเจ็บป่วย
โรคนี้จะมีอาการเด่น 3 ข้อดังต่อไปนี้

1. ผู้ป่วยจะกังวลและหมกมุ่นว่าตัวเองป่วยหรือกำลังจะป่วยด้วยโรคทางกายที่ร้ายแรงบางอย่าง

2. ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้มีอาการทางกายที่รุนแรงหรือชัดเจน หรือถ้ามีก็เป็นเพียงอาการเล็กน้อย/ชั่วคราว ที่ไม่ได้บ่งชี้ว่าเป็นโรคที่รุนแรง

3. ความกังวลและหมกมุ่นนี้ไม่หายไป แม้จะไปตรวจ และแพทย์ไม่พบความผิดปกติที่ร้ายแรงก็ตาม ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีพฤติกรรมไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจซ้ำๆ


จุดสำคัญ ก็คือ
ผู้ที่ป่วยมักจะมีอาการทางกายเพียง *เล็กน้อย*ที่ *พบได้ทั่วไป* หรือคนส่วนใหญ่ก็เป็น
เช่น ปวดหัว แสบลิ้นปี่ ปวดหลัง หรือปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น

แต่ ผู้ป่วยจะมีความกังวล *อย่างมาก* ว่าจะเป็นโรคร้ายแรง
เช่น ปวดหัวก็กลัวว่าจะเป็นเนื้องอกในสมอง หรือแสบท้องก็กังวลว่าจะเป็นมะเร็ง

* แม้ว่าจะได้รับการตรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว *

ผู้ป่วยจึงมักไปตรวจกับแพทย์ แต่ถึงแม้ว่าแพทย์กี่คนๆจะตรวจ และบอกว่าไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง หรือตรวจไม่พบความผิดปกติอะไร ผู้ป่วยก็ยังไม่หายกังวล หรือหายก็หายเพียงไม่นาน เมื่อมีอาการอีกก็กลับมากังวลใหม่

ทำให้ผู้ป่วยมักมีพฤติกรรมไปพบแพทย์ซ้ำๆ โดยอาจจะเป็นแพทย์คนเดิมหรือเปลี่ยนแพทย์คนใหม่ไปเรื่อยๆ เพื่อขอตรวจซ้ำๆ

ผู้ป่วยส่วนหนึ่งนอกจากไปพบแพทย์แล้วอาจหาข้อมูลด้วยตัวเอง เช่น ค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ป่วยหลายคนยิ่งอ่าน ก็ยิ่งกังวลมากขึ้น หรือกลัวว่าจะเป็นโรคอื่นๆ (ที่พึ่งอ่านเจอ) มากขึ้น

> การดำเนินโรค

โรควิตกกังวลกับความเจ็บป่วยนี้ส่วนใหญ่จะพบในวัยผู้ใหญ่ ในขณะที่เด็กกับวัยรุ่นแทบจะไม่เป็นเลย
โดยตัวโรคมักเป็นแบบเรื้อรัง ผู้ป่วยจะอาการติดต่อกันหลายปี
โดยมีอาการรุนแรงเป็นพักๆ ในช่วงที่มีความเครียดในชีวิต หรือบังเอิญมีความเจ็บป่วยทางกายเกิดขึ้น

> การรักษา

ยาหลักคือ ยาต้านเศร้า(antidepressant) บวกกับยาตัวช่วย เช่น ยาคลายกังวล จะช่วยให้อาการดีขึ้น
นอกจากนี้การปรับพฤติกรรม และวิธีคิด รวมถึงการทำจิตบำบัดจะช่วยให้ดีขึ้นได้
แต่ดีที่สุดคือใช้ทั้งสองอย่างร่วมกัน

แต่...
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยไม่ได้มาพบจิตแพทย์หรอกครับ แต่จะไปวนเวียนอยู่กับแพทย์สาขาอื่นๆ เพราะความกังวลนั้นเป็นความกลัวว่าจะเป็นโรคอะไรสักอย่าง ... ทำให้ผู้ป่วยมักปฏิเสธการพบจิตแพทย์

-------------------------------------------------

คำแนะนำสำหรับแพทย์สาขาอื่นๆ ก็คือ

1. ให้การตรวจรักษาที่เหมาะสม โดยเน้นที่การอธิบายและให้ความรู้ความเข้าใจถึงผลการตรวจ จะช่วยให้ผู้ป่วยกังวลน้อยลง

2. นัดผู้ป่วยมาพบแพทย์เป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าผู้ป่วยจะมีอาการหรือไม่ก็ตาม
การให้ความมั่นใจว่าแพทย์ติดตามดูอาการอยู่ตลอดจะช่วยให้ผู้ป่วยสบายใจมากขึ้น และไม่เปลี่ยนแพทย์ไปเรื่อยๆ

3. ในขณะเดียวกันการตรวจพิเศษต่างๆ (เช่น เจาะเลือด หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์) ควรทำเฉพาะเมื่อมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์จริงๆ เท่านั้น ไม่ควรตรวจตามที่ผู้ป่วยต้องการ เพราะมักไม่ช่วยอะไร และผู้ป่วยมักจะขอตรวจเพิ่มไปเรื่อยๆ

~~•*•~~•*•~~•*•~~•*•~~•*•~~•*•~~•*•~~•*•

เครดิตบทความ : หมอคลองหลวง

เครดิตภาพ : https://images.app.goo.gl/XePQgUCt48JSbMHD7

บางวันใจเราก็เหมือนฟ้า ☁️💧มีเมฆ มีฝน ก็ไม่เป็นไรเลยนะ… เพราะแม้วันที่ฟ้าหม่น 🌫️ก็ยังมีความงดงามในแบบของมันเสมอ 💙ในวันที่...
28/10/2025

บางวันใจเราก็เหมือนฟ้า ☁️💧
มีเมฆ มีฝน ก็ไม่เป็นไรเลยนะ… เพราะแม้วันที่ฟ้าหม่น 🌫️
ก็ยังมีความงดงามในแบบของมันเสมอ 💙
ในวันที่ใจเหนื่อยหรือหนักเกินไป อย่าลืมหยุดพัก หายใจลึก ๆ 🌿
ความรู้สึกไม่ดี... ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ดีนะ 🌷
ขอเพียงแค่เรายังมองเห็นแสงเล็ก ๆ ของตัวเองอยู่ตรงนี้
ฟ้าจะใสอีกครั้ง — เหมือนหัวใจเราที่ค่อย ๆ กลับมาอบอุ่นอีกครั้ง 🌤️💛

⛅️ รีมายด์พร้อมรับฟัง ด้วยความเข้าใจ
📲 ทักไลน์เลย:
Tel : 086-441-5254

#รักตัวเอง #สุขภาพจิตดี
#นักจิตวิทยา #ปรึกษาปัญหาชีวิต

พระเสด็จสู่แดนสรวง ไทยทั้งปวงน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิรันดร์ข้าพระพุทธเจ้าคณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท รีมายด์ ...
25/10/2025

พระเสด็จสู่แดนสรวง
ไทยทั้งปวงน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิรันดร์
ข้าพระพุทธเจ้าคณะผู้บริหารและพนักงาน
บริษัท รีมายด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

GAD หรือ โรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized Anxiety Disorder) เป็นภาวะทางจิตใจที่ผู้ป่วยมีอาการวิตกกังวลมากเกินไป และต่อเนื...
13/10/2025

GAD หรือ โรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized Anxiety Disorder)
เป็นภาวะทางจิตใจที่ผู้ป่วยมีอาการวิตกกังวลมากเกินไป และต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
โดยความวิตกกังวลนั้นอาจเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน
หรือเกิดจากเรื่องเล็กน้อยแต่รู้สึกกังวลเกินความเป็นจริง

ลักษณะอาการทั่วไปของ GAD ได้แก่:
กังวลมากจนควบคุมไม่ได้ แม้กับเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวัน
กระสับกระส่าย เหนื่อยง่าย
สมาธิลดลง หงุดหงิดง่าย
นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท
อาจมีอาการทางกายร่วม เช่น ปวดหัว ปวดท้อง ใจสั่น

สาเหตุ ยังไม่แน่ชัด แต่เชื่อว่ามีหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม การทำงานของสมอง
ความเครียดสะสม และประสบการณ์ในอดีต
การรักษา มักใช้วิธีผสมผสาน ได้แก่
การทำจิตบำบัด เช่น CBT (การบำบัดพฤติกรรมและความคิด)
ยาคลายกังวล หรือยากลุ่ม SSRI (ถ้าจำเป็น)
การปรับพฤติกรรม เช่น ออกกำลังกาย ฝึกผ่อนคลาย

⛅️ รีมายด์พร้อมรับฟัง ด้วยความเข้าใจ
📲 ทักไลน์เลย:
Tel : 086-441-5254

#รักตัวเอง #สุขภาพจิตดี
#นักจิตวิทยา #ปรึกษาปัญหาชีวิต

10/10/2025

💜 10.10 โปรพิเศษดูแลใจ 💜
เพราะสุขภาพจิตที่ดี...คือของขวัญที่คุณให้กับตัวเองได้ทุกวัน 🌈
อย่าปล่อยให้ความเครียด ความเหนื่อย หรือความเศร้าอยู่กับคุณนานเกินไป 🍃
มาพูดคุย ปรึกษา และฟื้นพลังใจไปด้วยกันกับนักจิตวิทยาคลินิกผู้เชี่ยวชาญ 🧠
โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะเดือนนี้ 💬 ให้ “ใจคุณ” ได้รับการดูแลอย่างอบอุ่นที่สุด 🤍

ด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้ม เฉพาะวันที่10 - 17 กันยายนเท่านั้น 🗓️
✔️ Online 60 นาที เพียง 1,510.-
✔️ Online 30 นาที เพียง 910.-

ให้โปร10.10 เป็นก้าวแรกเล็ก ๆ ที่พาใจคุณกลับมาเข้มแข็งและสดใสอีกครั้ง"
⛅️ รีมายด์พร้อมรับฟัง ด้วยความเข้าใจ
📲 ทักไลน์เลย:
Tel : 086-441-5254

#รักตัวเอง #สุขภาพจิตดี
#นักจิตวิทยา #ปรึกษาปัญหาชีวิต

โรคนอนไม่หลับสามารถแบ่งได้หลายประเภทตามลักษณช่วงเวลาของการนอนไม่หลับ1.Initial insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยมีปัญหานอนหลับยา...
06/10/2025

โรคนอนไม่หลับสามารถแบ่งได้หลายประเภทตามลักษณช่วงเวลาของการนอนไม่หลับ
1.Initial insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยมีปัญหานอนหลับยากใช้เวลานอนนานกว่าจะหลับภาวะดังกล่าวอาจสัมพันธ์กับภาวะวิตกกังวล
2.Maintinance insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยไม่สามารถนอนหลับได้ยาวมีการตื่นกลางดึกบ่อยภาวะดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาทางกาย เช่นภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น
3.Terminal insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยตื่นเร็วกว่าเวลาที่ควรจะตื่นอาจพบได้ในผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้า

✨️ ปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของภาวะนอนไม่หลับ
1.ปัญหาความเครียด
2.ภาวะความผิดปกติของการหลับเช่น ภาวะขาอยู่ไม่สุข ( Restless legs syndrome)
3.ภาวะเจ็บป่วยทางกาย เช่นภาวะปวด,เหนื่อย, กรดไหล่ย้อน, การที่ร่างกายไม่สามารถเคลื่นไหวได้ปกติ สาเหตุข้อนี้พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ นอกจากนี้แล้วภาวการตั้งครรภ์, หมดประจำเดือน ยังมีผลต่อการนอนไม่หลับ
4.ภาวะทางจิตใจ เช่นภาวะซึมเศร้า,ภาวะวิตกกังวล
5.ภาวะกังวลว่าจะนอนไม่หลับ (psychophysiological insomnia) ผู้ป่วยจะกังวลกับปัญหาการนอนไม่หลับที่เกิดขึ้นซึ่งความวิตกนี้เองทำให้เกิดการตื่นตัวของร่างกายและจิตใจผลจึงทำให้เกิดภาวะนอนไม่หลับ
6.การใช้ยาหรือสารบางอย่าง เช่นยาแก้หวัด, ยากลุ่ม psudoepheridrine,ยาลดน้ำหนัก,ยาแก้หอบหืด, ยาต้านซึมเศร้า, ยากลุ่ม methylphenidate นอกจากนี้เครื่องดึมที่มีคาเฟอีน,นิโคตินและแอลกอออล์ก็มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะนอนไม่หลับ
7.ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่นเสียงหรือแสงที่มารบกวน, อุณหภูมิห้องที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น
8.ปัญหาการทำงานเป็นกะ (shift work)

✨️Remind Clinicให้บริการดูแลสุขภาพใจโดยนักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบประกอบโรคศิลปะ
Line Official:
Tel: 086-441-5254

01/10/2025

"ความรู้สึกไม่ดีพอ" (สักที) ^^"

#เกิดจากอะไร?

28/09/2025

#10ความแตกต่างระหว่าง_รักที่ดีกับรักเป็นพิษ

[][][][][][][][][][][][][][][][][][][][][][]

1.
#รักที่ดี : ให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเอง เป็นตัวของตัวเอง ต่างคนต่างมีพื้นที่ที่จะเติบโต มีสิ่งที่ตัวเองสนใจ งานอดิเรกที่ชอบ มีกลุ่มเพื่อนรวมถึงคนสำคัญอื่นๆในชีวิต

รักเป็นพิษ : ทั้งโลกเหมือนมีแต่เราสองคน แทบไม่คบใคร ห่างหายจากเพื่อนเก่า ชีวิตเรามีแต่แฟนเท่านั้น รู้สึกมั่นคงปลอดภัยเมื่อทำอะไรเหมือนๆกัน เข้าใจว่าการขาดกันไม่ได้คือเครื่องพิสูจน์ความรัก แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะความรู้สึกเหงา กลัว ไม่มั่นคงในตัวเองต่างหาก

2.
#รักที่ดี : รับรู้และมั่นใจในคุณค่าของตัวเอง สามารถอยู่ตามลำพังอย่างมีความสุขได้

รักเป็นพิษ : กลัวว่าคนรักจะเปลี่ยนไป พฤติกรรมอะไรผิดแผกไปเล็กน้อยก็ทำให้กังวลได้ อยากจะตัวติดกันตลอดเวลา

3.
#รักที่ดี : มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไม่ระแวงสงสัยเกินเหตุ

รักเป็นพิษ : หึงหวง , ต้องการเป็นเจ้าของคนรักแต่เพียงผู้เดียว

4.
#รักที่ดี : ประนีประนอม ผลัดกันนำหน้าในเรื่องต่างๆ หากมีปัญหาก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ไข

รักเป็นพิษ : พยายามควบคุม ต้องการเอาชนะ , กล่าวโทษอีกฝ่าย , ดื้อเงียบ หรือ อาละวาดเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ

5.
#รักที่ดี : ยอมรับและให้เกียรติตัวตนของคนรัก

รักเป็นพิษ : พยายามเปลี่ยนคนรักให้เป็นแบบที่ตัวเองต้องการ

6.
#รักที่ดี : อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่คาดหวังอะไรที่สวยหรูแบบนิยาย หรือเป็นไปได้ยาก (เช่น ให้เขาเปลี่ยนนิสัย)

รักเป็นพิษ : อยู่กับฝันกลางวัน ความหวังลมๆแล้งๆ หลอกตัวเอง หลีกเลี่ยงปัญหาหรือสิ่งใดที่ไม่น่าพอใจ

7.
#รักที่ดี : ดูแลตัวเองได้ทั้งคู่ โดยเฉพาะในแง่อารมณ์ จัดการความรู้สึกของตัวเองได้ รู้ว่าความผิดหวังเกิดจากความคาดหวังของเราตัวเอง แยกแยะได้ว่าอะไรเป็นปัญหาของเธอ ของฉัน หรือระหว่างเรา

รักเป็นพิษ : จะสุขจะเศร้าก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นสาเหตุ คาดหวังให้คนรักทำให้ตัวเองมีความสุข หรือคาดหวังว่าตัวเองควรทำให้คนรักมีความสุขเสมอ คิดว่าถ้าเขาทุกข์แสดงว่าเราผิด

8.
#รักที่ดี : เพศสัมพันธ์เป็นความสมัครใจ เกิดจากความรู้สึกที่ดีต่อกัน

รักเป็นพิษ : เพศสัมพันธ์เป็นเหมือนภารกิจอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจทำไปโดยความรู้สึกกลัว หรือทำไปอย่างงั้นตามหน้าที่

9.
#รักที่ดี : คุยกันแล้วเข้าใจกันมากขึ้น ช่วยเหลือกัน รับรู้ความรู้สึกดีที่มีให้กัน

รักเป็นพิษ : ส่วนใหญ่จะโทษกันไปโทษกันมา ปกป้องตัวเอง คำพูดจะไพเราะหรือจะไม่น่าฟังแต่จุดประสงค์ก็คือเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ

10.
#รักที่ดี : โมงยามแห่งความสุขสบายใจ

รักเป็นพิษ : วงจรของความเจ็บปวดและสิ้นหวัง

ลองอ่านดูดีๆก็จะพบว่าความจริงแล้ว หลักการสำคัญมีอยู่ไม่กี่ข้อ

และข้อที่เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ

#ต่างฝ่ายต้องรักตัวเองเป็นและอยู่เองได้เสียก่อน

[][][][][][][][][][][][][][][][][][][][][][]

เครดิตบทความ : หมอมีฟ้า( Repost )

แปลและปรับปรุงจาก http://theunboundedspirit.com/true-love-vs-toxic-love-14-core-differences/

เครดิตภาพ : https://share.google/images/jgyGcEOIAKUbq7oCh

"หลายครั้งที่เราต้องเข้มแข็งจนลืมว่า… ใจของเราก็อ่อนล้าได้เหมือนกัน 🌧️แต่สุขภาพใจคือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้สุขภาพกายเลยนะคะกา...
08/09/2025

"หลายครั้งที่เราต้องเข้มแข็งจนลืมว่า… ใจของเราก็อ่อนล้าได้เหมือนกัน 🌧️
แต่สุขภาพใจคือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้สุขภาพกายเลยนะคะ
การได้พูดคุย ปรึกษา และรับฟังจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ แต่หมายถึง…คุณใส่ใจและเลือกที่จะดูแลตัวเองอย่างแท้จริง 💙

และ 9.9 นี้ เราอยากชวนคุณมาลองเริ่มต้นดูแลใจ เพราะนี่คือโอกาสพิเศษที่จะทำให้คุณ ‘กลับมามีรอยยิ้ม’ อีกครั้ง
ด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้ม เฉพาะวันที่ 9–16 กันยายนเท่านั้น 🗓️

✔️ Online 60 นาที เพียง 1,599.-
✔️ Online 30 นาที เพียง 999.-

สุขภาพใจไม่ควรถูกเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ เพราะคุณสมควรที่จะยิ้มได้ตั้งแต่วันนี้ 🌈
ให้โปร 9.9 เป็นก้าวแรกเล็ก ๆ ที่พาใจคุณกลับมาเข้มแข็งและสดใสอีกครั้ง"
⛅️ รีมายด์พร้อมรับฟัง ด้วยความเข้าใจ
📲 ทักไลน์เลย:
Tel : 086-441-5254


#รักตัวเอง #สุขภาพจิตดี
#นักจิตวิทยา #ปรึกษาปัญหาชีวิต

08/09/2025

#โพสต์เรียกร้องความสนใจหรือต้องการความช่วยเหลือ

บทความโดย นายแพทย์ วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น

|::‘|::’|::’|::‘|::’|::’|::‘|::’|::’|::‘|::’|::’|::‘|::’|::’|

"หมอครับ ...เราจะแยกยังไงระหว่างคนที่เรียกร้องความสนใจกับคนที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆบนโลกโซเชียล?"
.. นี่เป็นคำถามที่ผมมักถูกถามบ่อยครั้ง ไม่ใช่แค่เพียงเมื่อวานนี้ที่เกิดเหตุน่าสลดจากการที่เด็กสาวคนหนึ่งส่งสัญญานขอความช่วยเหลือผ่านทางเฟสบุ๊คของเธอ และเรื่องจบลงตรงที่ สัญญาน S.O.S ที่ถูกส่งออกไปนั้น ไม่สามารถส่งความช่วยเหลือกลับมาหาเธอได้ทันเวลา
" #ไม่ต้องแยกครับ " ...ผมตอบแบบนี้เสมอ
ไม่ต้องแยกจริงๆ เพราะสุดท้ายคนเหล่านี้ คือ คนที่ต้องการความช่วยเหลือทั้งหมดนั่นแหละ !!
กลุ่มที่ถูกตราหน้าว่าชอบเรียกร้องความสนใจ (Attention-seeker) มักจะถูกมองด้วยความเหยียดหยามจากคนรอบข้าง มักถูกสั่งสอนด้วยคำต่อว่าที่รุนแรงจากคนใกล้ตัว สุดท้ายมักจบลงด้วยคำพูดที่ว่า...
"อย่าเรียกร้องความสนใจ"

จบ...จบแค่ตรงนี้เสมอ...จบแบบเจ็บๆ
..น่าแปลก กลับไม่ค่อยมีคนตั้งคำถามต่อไปว่า
"บุคลิกภาพแบบนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาได้อย่างไร?"
"มีปมอะไรถูกซ่อนอยู่?"
"หรือนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของอาการที่รุนแรงในอนาคต?"

เราไม่มีทางรู้หรอก ว่าเด็กวัยรุ่นที่เอาลิปสติกขีดแขนเป็นปื้นแล้วเขียนสเตตัสว่าอยากตาย ท้ายที่สุดจะไม่พัฒนาเป็นเด็กที่หยิบคัตเตอร์มากรีดข้อมืออย่างเงียบๆจนต้องเข้าไอซียู
.. ปัญหาทางสุขภาพจิตระยะแรกๆ มักเป็นแบบนี้แหละครับ ถูกแสดงออกอย่างไม่ตรงไปตรงมาและมักถูกมองข้าม สุดท้ายถูกปัดไว้ไปใต้พรมหรือฝังกลบไว้อยู่ใต้ดิน
รอสะสมพลังจนกลายเป็นระเบิดลูกใหญ่!
และจะแยกไปทำไม ในเมื่อ....
คนที่ต้องการความช่วยเหลือ คือคนที่ "สังคม" ตัดสินว่า "เค้าน่าจะทำจริงๆ"
ส่วนคนที่เรียกร้องความสนใจ ก็คือคนที่ "สังคม" ตัดสินว่า "เค้าไม่ทำจริงๆหรอก"
.. เส้นบางๆตรงกลางที่ถูกขีดขึ้นมาโดย "คนอื่นในสังคม"

เราชอบตัดสินเรื่องของคนอื่น บนพื้นฐานชีวิตของตัวเอง ประสบการณ์ของตัวเอง และความเชื่อของตัวเอง
.... ทั้งที่เป็นคนนอกแท้ๆ ไม่ได้อยู่กับเขา 24 ชั่วโมง ไม่ได้อยู่กับเขามาตั้งแต่เกิดซักหน่อยเลย

จะทำจริง หรือ ไม่ทำจริง ... เจ้าตัวต่างหากที่รู้ดีที่สุด
โลกเราเปลี่ยนไป...

ผู้ใหญ่จากยุคสมัยก่อนอาจมองว่าการเขียนหรือโพสท์อะไรไปในเฟสบุ๊คของเด็กสมัยนี้ คือ การโชว์ออฟ การเรียกร้องความสนใจ การเรียกไลค์ การระบายอารมณ์ หรือแม้กระทั่งการอยากเป็นคนโด่งดังแบบเน็ทไอดอล

นั่นเพราะคนเหล่านั้นขาดความเข้าใจในความสัมพันธ์ของสังคมโซเชียลกับชีวิตเด็กยุคดิจิตอลในปัจจุบัน

เด็กรุ่น Generation Me เป็นต้นมา ได้หลอมรวมการสื่อสารในชีวิตประจำวันของตัวเอง ทั้งการรับสื่อมาและการสื่อสารออกไป เข้ากับโลกโซเชียลมีเดียไปหมดแล้ว

โซเชียลมีเดียจึงไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือสื่อสารอีกต่อไป แต่มันผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเราไปโดยปริยาย
เพราะฉะนั้น การแสดงออกถึงเจตจำนงแห่งความตายผ่านทางโลกโซเชียลในยุคปัจจุบันนี้ จึงมักจะสะท้อนบางอย่างภายใต้จิตใจของคนๆหนึ่งได้เสมอ ไม่ว่าจะตั้งใจทำจริงๆหรือไม่ก็ตาม
เอาเป็นว่า ถ้าเรื่องแบบนี้ผ่านตาเรามา...เข้าไปช่วยเหลือเขาเถอะครับ

ตั้งสติให้ดี ลดอคติที่อยู่ในใจ สุดท้ายจะให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง
หรือ ถ้าไม่มีโอกาส ไม่สามารถช่วยได้โดยตรง
พิมพ์แค่ "สู้ๆ" "เอาใจช่วยนะ" ก็ดีมากแล้ว

ถ้าเป็นแบบพวกนักเลงคีย์บอร์ด
รุมกันแกล้ง…รุมกันสับ…รุมกันยุ

นี่ผมขอเลยครับ...นี่มัน "ร่วมด้วย ช่วยกันฆ่า" ชัดๆ

|::‘|::’|::’|::‘|::’|::’|::‘|::’|::’|::‘|::’|::’|::‘|::’|::’|

เครดิตภาพ : https://share.google/images/Yih9gsOm7m92zTUoX

คุณเคยรู้สึกแบบนี้บ้างมั้ย?-คิดไม่ออก สมาธิสั้น จดจำอะไรไม่ค่อยได้-พูดอะไรไปเมื่อกี้ก็ลืม-อ่านหนังสือหรือเอกสารวนไปหลายร...
26/08/2025

คุณเคยรู้สึกแบบนี้บ้างมั้ย?
-คิดไม่ออก สมาธิสั้น จดจำอะไรไม่ค่อยได้
-พูดอะไรไปเมื่อกี้ก็ลืม
-อ่านหนังสือหรือเอกสารวนไปหลายรอบ แต่ก็ยังไม่เข้าใจ
-รู้สึกมึน เบลอ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

ถ้าใช่…ไม่แน่ว่าคุณอาจกำลังเจอกับภาวะที่เรียกว่า Brain Fog หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “หมอกในสมอง” ☁🧠

ภาวะนี้อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น
-ความเครียดสะสม
-การพักผ่อนไม่เพียงพอ
-การใช้สายตาหรือสมองหนักเกินไป
-การขาดสารอาหารบางชนิด
สิ่งเหล่านี้ค่อย ๆ บั่นทอน จนทำให้สมองไม่สดใสเหมือนเดิม

💡 ข่าวดีคือ… Brain Fog สามารถฟื้นฟูได้!
เริ่มจากดูแลตัวเองให้เพียงพอทั้งการนอน พักสายตา รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญคือ การจัดการความเครียด

อย่าปล่อยให้ "หมอก" ปกคลุมสมองของคุณนานเกินไป
เพราะสมองสดใส = ชีวิตสดใส 💙✨
⛅️ รีมายด์พร้อมรับฟัง ด้วยความเข้าใจ
📲 ทักไลน์เลย:
Tel : 086-441-5254


#รักตัวเอง #สุขภาพจิตดี
#นักจิตวิทยา #ปรึกษาปัญหาชีวิต
#หมอกในสมอง

✨การกอดแม่✨ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของลูกน้อยในช่วงแรกเกิดและช่วงวัยทารก เพราะการสัมผัสและการกอดช่วยสร้างความรู้...
14/07/2025

✨การกอดแม่✨ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของลูกน้อยในช่วงแรกเกิดและช่วงวัยทารก เพราะการสัมผัสและการกอดช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัย มั่นคง และกระตุ้นพัฒนาการด้านต่างๆ ทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา

ดังนั้น✨ การกอดและการสัมผัสลูกน้อยอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมพัฒนาการรอบด้านของลูกน้อยในช่วงวัยแรกเกิดและช่วงวัยทารก

⛅️ รีมายด์พร้อมรับฟัง ด้วยความเข้าใจ
Line Official :
Tel : 086-441-5254

#นักจิตวิทยาคลินิก
#รักตัวเอง #สุขภาพจิตดี

ที่อยู่

Remind Clinic
Bangkok
10310

เวลาทำการ

จันทร์ 10:00 - 21:00
อังคาร 10:00 - 21:00
พุธ 10:00 - 21:00
พฤหัสบดี 10:00 - 20:00
ศุกร์ 10:00 - 20:00
เสาร์ 10:00 - 21:00
อาทิตย์ 10:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

+66864415254

เว็บไซต์

https://goo.gl/maps/5cB9qhZXxEJzk8en9

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Remind Clinicผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Remind Clinic:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram