Dewy Clinic คลินิกความงามตลาดพลู ดูแลผิว โบท็อก ฟิลเลอร์ ร้อยไหม อัลเทอร่า

Dewy Clinic คลินิกความงามตลาดพลู ดูแลผิว โบท็อก ฟิลเลอร์ ร้อยไหม อัลเทอร่า ยินดีให้บริการค่ะ 🙏🏻 มีที่จอดรถบริการฟรี

หมอจะเล่าเรื่องปัญหา “ร่องแก้ม” แบบที่หมอเจอทุกวันนะคะ เป็นแนวทางคร่าวๆ ร่องแก้มเนี่ยหาคนเดินสายกลางลำบาก บางคนกลัวร่องจ...
29/11/2025

หมอจะเล่าเรื่องปัญหา “ร่องแก้ม” แบบที่หมอเจอทุกวันนะคะ เป็นแนวทางคร่าวๆ
ร่องแก้มเนี่ยหาคนเดินสายกลางลำบาก
บางคนกลัวร่องจนอยากลบให้หายสนิท
บางคนมีร่องลึก แต่พยายามอ้อมโลกไปแก้อย่างอื่น
สุดท้ายคือทั้งสองแบบ ทำให้หน้าเสียบาลานซ์ได้พอๆ กัน

สิ่งที่ต้องรู้ที่สุดคือ ร่องแก้ม ไม่ใช่ศัตรู
หน้าที่ของมันคือเชื่อม midface กับ lower face ให้มีมิติ ถ้ายิ้มแล้วไม่มี fold เลย หน้าจะดูแบนและ “แปลกตา” ทันที

หลักของหมอง่ายมาก
ร่องที่ควรเติม = เติมให้ soft ลงเท่านั้น ไม่ใช่หายไปเลย หายไปเลยหน้าตลกทันที

ลองดูทีละเคสจากภาพด้านบนค่ะ

เคส 1
ร่องที่เห็นเฉพาะตอนยิ้ม (dynamic fold)
แบบนี้ธรรมชาติมาก ไม่ต้องเติม
ดูแลผิวให้แน่นขึ้นก็พอ

เคส 2
มีร่องบางๆ ข้างจมูกแม้ไม่ยิ้ม
แปลว่ามีเนื้อจากด้านบนเริ่มตก
ทางแก้คือยกด้านบนก่อน แล้วค่อยเสริมร่องนิดเดียว
รายนี้หมอใช้ 0.2 cc ต่อข้างเท่านั้น

เคส 3 (วัยประมาณ 50)
ร่องลึกชัดแม้ไม่ยิ้ม
แบบนี้ตรวจจะเจอทั้งร่อง + ความคล้อยหลายจุด
ต้องยกด้านบน ด้านข้าง และค่อยเติมร่องแก้มปริมาณพอดี
เคสนี้ใช้ 0.5 cc ต่อข้าง

ทุกกลุ่มอายุ ถ้าผิวแน่นขึ้น ร่องจะดีขึ้นเสมอ
แต่ถ้าลึกมากแล้ว…จะหวังให้เครื่องช่วยอย่างเดียวโดยไม่เติมเลยส่วนมาก “ไม่ตื้น” นะคะ
รายที่กังวลมาก หมอใช้ ultrasound guided ดู flow เส้นเลือดให้- วันนี้เรามาถึงจุดนี้แล้วค่ะ

และขอพูดตรงๆ เรื่องที่หมอเจอบ่อย
คือ
เวลาร่องข้างจมูกถูกเติมเยอะเกินไป (pyriform fossa)
มันจะดันเป็นปุ่มก้อนตอนยิ้ม
ทำให้ยิ้มดูแปลกทันที

ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่หมอไม่เติมร่องแก้มแบบลบให้หาย
เพราะการ “เติมผิดจุด” หรือ “เติมเยอะเกิน”
ทำให้หน้าดูแปลกยิ่งกว่ามีร่องตามธรรมชาติอีก

การแก้ไขทุกจุดบนใบหน้าเกิดปัญหาได้เสมอ
แต่ถ้าเรายอมรับความจริงเรื่อง aging และเดินสายกลาง
สวยแบบพอดี จะดูสบายตามากกว่าสวยแบบฝืนๆ แน่นอนค่ะ

#ร่องแก้ม
#ร่องแก้มลึก


วันนี้เล่า “ประสบการณ์ตัวเอง” นะคะ ไม่ evidence-based เผื่อจะนำไปประยุกต์ใช้กัน3 เดือนก่อนออกงานใหญ่ ผู้หญิงวัยกลางคนควร...
27/11/2025

วันนี้เล่า “ประสบการณ์ตัวเอง” นะคะ ไม่ evidence-based เผื่อจะนำไปประยุกต์ใช้กัน

3 เดือนก่อนออกงานใหญ่ ผู้หญิงวัยกลางคนควรเตรียมตัวยังไง ระวังอะไร

📍3 เดือนก่อนงาน
ทำทุกอย่างที่อาจบวมให้จบช่วงนี้
หมอจัดโบท็อกที่ต้องการ เพราะธีมงาน Core Beauty “หน้าตึงเกิน” ไม่ได้ เลยฉีดไวขึ้น คอ-บ่า-ไหล่ก็ต้องทำตอนนี้ เพราะแสงเงาบริเวณนี้ส่งผลกับลุคมาก

ทำฟันให้ชินกับยิ้มใหม่
เริ่มคุมอาหาร ทานโปรตีนเยอะขึ้น แต่ไม่แตะปากกาลดน้ำหนักเลย เพราะหมอนอนไม่หลับ-วัยนี้ “นอนดี” สำคัญกว่าน้ำหนักลงหนึ่งโล
เริ่มใส่ postural brace เพราะไหล่งุ้มง่าย (สั่งในแอปส้ม)
ทำ Volnewmer เพื่อ skin tightening ให้ผิวเฟิร์มทันงาน
จองช่างแต่งหน้าเลย เลือกคนที่คุ้นมือกับหน้า ไม่เลือกความดังแบบ flashy และช่างเก่งส่วนมากคิวแน่น นัดปุบปับยากค่ะ

📍2 เดือนก่อนงาน
Botox คอเข้าที่แล้ว เริ่มบำรุงผิวคอ เพราะย้วย+แห้งง่าย หมอทำ biostimulator + hybrid non-crosslinked HA
ผิวหน้าเน้นความเรียบและชุ่มชื้น ช่วงนี้เขียวยังจางทัน

📍1 เดือนก่อนงาน (หยุดเข็มแล้ว)
รู้ dress code เริ่มเลือกชุด ไม่ลดน้ำหนักแล้ว
เตรียม accessory ให้ครบ รอบนี้ได้ต่างหูเข้าชุดราคา 79 บาทค่ะ
แอบทำ Ultherapy 1 session ตามแนว SMAS ใช้ lines ไม่มากและไม่บวม
เลเซอร์เก็บขนหน้า

เตรียมผิวให้ช่างแต่งหน้าง่ายที่สุด ช่วงนี้ใช้ moisturizer เนื้อหนัก และทายาลดสิวอุดตัน
ผมวัยกลางคนลีบเร็ว บำรุงด้วย leave-on + treatment ถี่ขึ้น

📍7 วันก่อนงาน
นอนให้พอ ไม่งั้นหมองทั้งหน้าและตัว ,มาส์กหน้าแบบชุ่มชื้นถี่ขึ้นเท่าที่จะทำไดเ

ปลายปีมีทั้งงานพบผู้คนเยอะ เลยเป็นช่วงที่คุ้มค่าที่สุดที่จะลงทุนการวางแผนล่วงหน้า ไม่ทำอะไรเร่งรัด ลดความเสี่ยง และประหยัดงบได้มากค่ะ

ปาก ไม่เท่ากับ perioral designงาน dermal filler ของหมอในช่วงปีหลัง ๆ จะใช้ cc น้อยลงมาก และเน้น “dynamic correction” จริ...
23/11/2025

ปาก ไม่เท่ากับ perioral design

งาน dermal filler ของหมอในช่วงปีหลัง ๆ จะใช้ cc น้อยลงมาก และเน้น “dynamic correction” จริง ๆ
คือดูตอนขยับเป็นหลัก ไม่ใช่ดูทรงตอนนิ่งอย่างเดียว

หมอเชื่อว่า aesthetic ที่ดีคือแบบนี้ค่ะ
ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไร แต่หน้าดูนุ่มลง อ่อนเยาว์ลง และบาลานซ์ขึ้น

เคสนี้ใช้ dermal filler ทั้งหมด 2 cc โดยปากเติม 0.5 cc เท่านั้น ส่วนที่เหลือกระจายยา จุดละ 0.2–0.3 cc เพื่อปรับ frame ของ lower face ให้สบายตา และลดเงาที่ทำให้หน้าดูดุ

แยกให้ดูตามงานที่เกิดขึ้นจริง
• ร่องแก้มเบาลง แสงไม่ตกเป็นเงาแข็งเหมือนก่อน
• ขอบปากชัดขึ้น เส้นเหนือริมฝีปากลดลง
• ยิ้มดูสวยขึ้นเพราะ gummy smile หายไป
• มุมปากยกเล็กน้อย แต่ไม่หลอกตา
• Perioral support ดีขึ้น เงารอบปากลดลงแบบเห็นได้จริง
• จากข้อ 1–5 รวมกัน → lower face balance ดีขึ้นชัดเจน ยิ้มแล้วกล้องรับดีขึ้นทันที

หมอยังยืนยันเสมอว่า “ปาก” เป็นจุดที่ซับซ้อนที่สุดอย่างหนึ่งของใบหน้า
บางทีหมอต้องหยุดคิดว่า ควรเติมต่อไหม เพราะแค่ 0.1 cc ก็เปลี่ยนทรงได้ทันที

ถามว่าเคสนี้ทำได้ตามใจไหม…ยังไม่สุดค่ะ
ถ้าดูดี ๆ ตอนยิ้มยังมีฟันล่างโผล่นิดเดียว
แต่ถ้าดูภาพรวม vs ปริมาณยาแค่ 2 cc แล้ว perception เปลี่ยนได้ขนาดนี้ คนไข้ก็ happy มาก หมอก็โอเคค่ะ เสร็จแล้วกลับบ้านได้

ปล. แม้หมอจะไม่ค่อยพูดถึง energy-based device ในโพสต์นี้ แต่เคสนี้ทำ Focused Ultrasound มาก่อนรอบ filler ครั้งนี้ค่ะ

#ฟิลเลอร์ยกหน้า #ฟิลเลอร์ปาก

วันนี้ขอเล่าอะไรเบาๆนะคะ เผอิญวันนี้เห็นคนแชร์ว่า influencers บางท่านแนะนำให้ฉีด exosome ปีละ 1-2 ครั้ง … ปัญหาคือ ** Ex...
22/11/2025

วันนี้ขอเล่าอะไรเบาๆนะคะ เผอิญวันนี้เห็นคนแชร์ว่า influencers บางท่านแนะนำให้ฉีด exosome ปีละ 1-2 ครั้ง … ปัญหาคือ

** Exosome ยังไม่ได้รับ FDA approval ในสหรัฐฯ แล้วตัวที่ผ่าน อ.ย. ไทย เป็นแบบทาเท่านั้นค่ะ ***
ใครจะฉีดไปก่อนเลย ไม่ใช่ฉันแน่นอน

Exosome ถูกจัดเป็น “biological product” เหมือน stem cell ไม่ใช่สกินแคร์หรือทรีตเมนต์ธรรมดา
เพราะฉะนั้นการจะขออนุมัติ ต้องมีข้อมูลครบทั้งความปลอดภัย ความเสี่ยงระยะยาว การปนเปื้อน และผลการทดลองในมนุษย์

สิ่งที่ FDA กังวลที่สุดคือ
การปนเปื้อนจากแหล่งเซลล์ การตอบสนองของภูมิคุ้มกัน และผลระยะยาวที่เราไม่มีข้อมูลเลย

หมอเข้าฟังประชุมหลายครั้ง ก็ดูเหมือนพยายามเข็นกันอยู่ แต่ยังไงก็ไม่ผ่าน ถ้าเอาบ้านๆเลย กลัวเป็นสารก่อมะเร็งค่ะ

ไม่น่าเชื่อเลยว่ายังมีคนกล้าแนะนำอะไรแบบนี้ แล้วมีคนเชื่อเยอะด้วย

ในขณะที่ทุกคนกำลังเถียงกันว่า RF ตัวไหนดีที่สุด…ขออนุญาตหมอทำงานไปก่อนนะคะมันเหมือนเถียงว่า filler ตัวไหนดีที่สุด —มันไม...
19/11/2025

ในขณะที่ทุกคนกำลังเถียงกันว่า RF ตัวไหนดีที่สุด…
ขออนุญาตหมอทำงานไปก่อนนะคะ

มันเหมือนเถียงว่า filler ตัวไหนดีที่สุด —มันไม่มีวันจบ
และหมอก็ไม่ได้มีหน้าที่ช่วยบริษัทยาแถลงอะไรด้วยค่ะ

ในความเป็นจริง RF ตัวดัง ๆ ในท้องตลาดตอนนี้
ผลลัพธ์ใกล้เคียงกันมาก รวมถึง complication ด้วย
เพราะหลักการคือ monopolar RF เหมือนกันหมด
ต่างกันหลัก ๆ แค่ interface (ลักษณะหัว) และความสบายตอนทำ

สิ่งที่ทำให้ “ผลต่าง” จริง ๆ ไม่ใช่ชื่อเครื่องค่ะ แต่คือ
1. Total Energy — พลังงานรวมที่ส่งถึงผิว (ไม่ใช่แค่จำนวนช็อต)
2. Mapping — การวาง vector ที่คิดมาแล้ว ไม่ใช่กดยิงแบบหว่าน
3. สภาพผิวเดิมของคนไข้ — คอลลาเจน framework มีผลมาก

และย้ำอีกทีว่า RF ไม่เท่าดึงหน้า
มันคือการหดตัวของคอลลาเจนประมาณ 10–15% ตาม clinical data เท่านั้นค่ะ

ในเคสนี้เป็น “ผลรวม” ของ 2 หัตถการรวมกัน
– ฟิลเลอร์ขมับ
– ฟิลเลอร์ Support คิ้ว
– RF ทั่วหน้า + รอบคิ้ว

ผลที่เห็นทันทีคือ หนังตาเปิดขึ้น คิ้วยกแบบธรรมชาติ และเวลายิ้มหน้าเข้ารูปขึ้น อีก 2 สัปดาห์จะเห็นคุณภาพผิวชั้นบนดีขึ้นตามกระบวนการสร้างคอลลาเจนค่ะ

ปกติถ้าคนไข้ถามว่าควรยิงเครื่องอะไรดี
หมอมักตอบเหมือนเดิมว่า
ถ้ามีงบประมาณ และไม่ได้คาดหวังผลระดับดึงหน้า — ยิงดีกว่าไม่ยิงในระยะยาวแน่นอน
และถ้าเลือกหมอที่ทำ mapping ดี ๆ ให้ คุณภาพจะต่างจากการยิงแบบรัว ๆ มากค่ะ

#ฟิลเลอร์ยกหน้า

18/11/2025

ช่วงนี้มีคนขอ “หน้าเล่นแสง” เยอะมาก
หมอมองว่านี่เป็นสัญญาณที่ดี ( คนไข้เก่งขึ้นมากจริงๆ) เพราะคำนี้ไม่ใช่ศัพท์แต่งหน้า ไม่ใช่ศัพท์ถ่ายรูป แต่เป็น Art + Science ที่หมอใช้เวลาวางแผนทำหน้าให้ธรรมชาติที่สุด

จริงๆ แล้ว “หน้าเล่นแสง” คือ
การจัดแสง–เงาของใบหน้าให้ตกในตำแหน่งที่ถูกต้องตาม anatomy และหลักการถ่ายภาพ
พอแสงตกถูกจุด ใบหน้าจะดูพุ่งขึ้น คมขึ้น และขึ้นกล้องแบบไม่ต้องพยายาม

หลักการง่ายๆ ของหน้าเล่นแสง
1. แสงต้องตกตรงกระดูกที่ “ถูกตำแหน่ง”
ไม่ใช่เพิ่มฟิลเลอร์จนโหนกใหญ่หรือเด่นผิดธรรมชาติ
โหนกที่ถูกตำแหน่งจะ “รับแสง” แบบพอดีโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณมาก
2. เงาต้องต่อเนื่องแบบธรรมชาติ
พูดง่ายแต่ทำยาก- ถ้ายังเน้น cc เยอะ หรือทำแต่เครื่องเพียงอย่างเดียว—มันมักจะเสียบาลานซ์
mid–face ที่พอง = หน้าเป็นก้อนทันที
Mid- face แบน = ไม่มีทางที่จะเกิดความพุ่ง
งาน aesthetic ยุคใหม่คือ คืน shadow ให้หน้า ไม่ใช่เติมจนเงาหาย
3. หน้าเล่นแสง = volume น้อย แต่แม่น
หลายเคสที่สวยขึ้นชัดเจน มาจากการ “ลด” volume บางจุด
4. สามตำแหน่งสำคัญ: OG-curve, zygoma, subzygoma- สามจุดนี้เป็นจุดคุมทิศทางแสง–เงาทั้งหมด
ถ้าไม่รู้ตำแหน่งเหล่านี้ ลืมเรื่องเล่นแสงไปได้เลย
( เลื่อนอ่านโพสต์เก่าๆได้ค่ะ )

แล้วหน้าแบบแสงตกผิด เป็นยังไง
เอาง่ายๆ คือหน้า “แบะๆ ฟูๆ” หน้าบวมหรือแบนไม่มีมิติ ทางสายกลางค่ะ โวลูมควรต้องดูพอดี รวมไปถึง hydration ต้องพอเหมาะด้วย

สรุปแบบเข้าใจง่าย (แต่ลงมือทำไม่ง่าย)
หน้าเล่นแสง = ความพอดีของ
volume + โครงสร้าง + anatomy ของแสง–เงา+hydration
ไม่ใช่ฉีดให้เยอะ แต่คือ “วางให้ถูก”
โวลูมต้องพอดี ไม่ขาด ไม่เกิน

หลักคิดนี้ใช้ได้หมด—
dermal filler, เครื่องยกกระชับทุกชนิด และแม้แต่การแต่งหน้า
ใครอยากได้ลุค clean, sharp, ดูแพงแบบ effortless
หลักการนี้คือ key แทบทุกอย่างค่ะ

#หน้าเล่นแสง

เราควรใช้เงินกับความสวยแค่ไหน และใช้ยังไงถึงจะไม่พลาด 💴 เวลาคนไข้ถามว่า “ควรรอทำโครมเดียว หรือทะยอยทำ?“ มันไม่มีคำตอบสำเ...
15/11/2025

เราควรใช้เงินกับความสวยแค่ไหน และใช้ยังไงถึงจะไม่พลาด 💴
เวลาคนไข้ถามว่า “ควรรอทำโครมเดียว หรือทะยอยทำ?“
มันไม่มีคำตอบสำเร็จรูป แต่หมอมีหลักคิดที่ใช้อยู่ ประมาณนี้ค่ะ ( ใช้ทั้งทำหน้า ทำฟัน ศัลยกรรม ซื้อของช้อปปิ้งชิ้นใหญ่ๆ)

1. ความสวยต้องไม่ไปเบียด “เงินที่ทำให้ชีวิตนิ่ง”
เงิน 3 ก้อนที่ห้ามแตะก่อนคือ
ค่าใช้จ่ายจำเป็น ค่าเรียนลูก และเงินสำรอง 12 เดือน (ก่อนมีลูกใช้เงินสำรองแค่ 6 เดือน พอมีคลินิกด้วย ต้องสำรอง 24 เดือน )
ถ้าตรงนี้ยังไม่มั่นคง ความสวยและการชอปปิ้งจะกลายเป็นความเครียดทันที
ไม่ว่าจะยิงเครื่อง, ฉีดฟิลเลอร์ หรือ กระเป๋า Dior ใบใหม่ ผลมันจะไม่คุ้มถ้าคุณต้องมานั่งลุ้นบัญชีสิ้นเดือน

2. ความสวยที่ดีควรเป็นแผนการ ไม่ใช่ impulse ( ความหุนหันพลันแล่น)
ปัญหาคนส่วนใหญ่คือ ตัดใจทำตอนมันพีคสุด เช่น ร่องแก้มลึกมาก แก้มห้อย รูปหน้า ผิวหมองจนทนไม่ไหว
แล้วทุ่มเงินก้อนใหญ่รวดเดียว - อันนี้เซลล์ยิ้มเลยนะคะ
คุณจะทำมั่วไปหมดตั้งแต่ทุบกระดูก ยัน set ผิวต่างๆนาๆ
สุดท้ายได้ผลลัพธ์ไม่สมดุล และต้องแก้มากกว่าทำ

เรื่องที่หมอเจอในห้องตรวจบ่อยๆคือ คนไข้ที่ไปศัลยกรรมที่ละเล็กๆน้อยๆ เช่นไปตัดถุงใต้ตา , ไปดูดไขมันบางจุด มักจะพอใจกว่าคนซื้อ แพคเกจทุบหน้ามาก - อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ

ถ้าทำแบบวางแผนมาด้วยกันยาวๆ
มักจะใช้เงินน้อยกว่าต่อครั้งกว่า แต่ได้ผลต่อเนื่องกว่า
เพราะรู้ว่าชั้นผิวไหนควรทำก่อน อะไรควรพัก อะไรไม่จำเป็น

3. ทุ่มทีเดียวหรือทำทีละนิด ขึ้นกับปัญหา ไม่ใช่เงิน
บางปัญหา “ครั้งเดียวจบ” ไม่ได้จริงๆ
เช่น skin laxity, พื้นผิวเสียจากอายุ, collagen framework ที่บาง พวกนี้ยังไงก็ใช้เวลา ต่อให้ดึงหน้ามา ปัญหาจาก aging ก็แก้ไม่ได้ใน visit เดียว

สรุปแบบเอาไปใช้ได้
ความสวยควรใช้เงินในจังหวะที่ “ชีวิตพร้อม”
และวางเป็น roadmap มากกว่าทำตามอารมณ์

คนที่สวยแบบยาว ๆ ไม่ได้ใช้เงินเยอะ
แต่ใช้เงินถูกจังหวะ และเข้าใจว่าหน้าคือ asset ต้องคอยเช็คเหมือนพอร์ตการลงทุน
ไม่ใช่ของเล่นที่ต้องแก้ตามเทรนด์อะไรตลอดเวลา

คำว่า “มันกระตุ้นคอลลาเจน ” มักถูกใช้ขายของหว่านแหเกินจริง  แต่เราเคยเอะใจไหมว่า คอลลาเจนมีหลายชนิด หลายตำแหน่ง และไม่ใช...
12/11/2025

คำว่า “มันกระตุ้นคอลลาเจน ” มักถูกใช้ขายของหว่านแหเกินจริง แต่เราเคยเอะใจไหมว่า คอลลาเจนมีหลายชนิด หลายตำแหน่ง และไม่ใช่ทุกแบบที่ให้ผลที่ดี - สวย/functional

นั่นหมายความว่าเวลามีใครอ้างว่า “กระตุ้นคอลลาเจน” ต้องถามให้ชัดๆ 3 อย่าง
1. เป็นชนิดไหน - ต้องตอบได้ว่าที่คุยหมายถึงคอลลาเจนชนิด ที่ต้องการ ไม่ใช่แค่รวม ๆ
2. อยู่ตรงไหน : อยู่ที่ dermis หรือเป็นแค่การหนาตัวเฉพาะจุด? - ปกติข้อมูลนี้บริษัทยาที่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องกระตุ้นหรือสารกระตุ้นจะมีผลชิ้นเนื้ออ้างอิงด้วย
3. ได้มาแล้วดีย้งไง: ตัวชี้วัดเชิงหน้าที่ เช่น ความยืดหยุ่นผิว, ความแน่นดีขึ้น

ถ้าตอบ 3 ข้อนี้ไม่ได้ มันไม่ใช่การแพทย์
มันคือ งานขาย 🙂‍↕️

คำตอบแค่ ผิวจะขาวอิ่มฟู ใครก็พูดได้

สรุปภาษาชาวบ้าน
• เป้าหมายด้านความงามคือ คอลลาเจนที่ถูกชนิด ถูกที่ และจัดเรียงดี
• การกระตุ้นแบบไม่รู้เป้าหมาย เสี่ยงต่อ“แผลเป็น/พังผืด” มากกว่า “ผิวแน่นสุขภาพดี”

#กระตุ้นคอลลาเจน

ปาก ไม่ใช่ของเล่น- หมอจะเล่าให้ฟังค่ะ ปากไม่ใช่แค่กล้ามเนื้อแผ่นเดียวที่เราจะเติม volume เปลี่ยนทรงง่ายๆ แล้วจบกลับบ้าน ...
10/11/2025

ปาก ไม่ใช่ของเล่น- หมอจะเล่าให้ฟังค่ะ
ปากไม่ใช่แค่กล้ามเนื้อแผ่นเดียวที่เราจะเติม volume เปลี่ยนทรงง่ายๆ แล้วจบกลับบ้าน

ถ้าคุณฟัง Master of the lips เช่น Dr. Stephen Harris -เขาจะบอกว่าปากเป็นอวัยวะที่ซับซ้อนมากที่สุดชิ้นหนึ่งบนหน้า

แต่ถ้าคุณฟังรีวิวทั่วๆไป - เขาจะบอกว่า “ แค่ 1 cc หน้าก็เปลี่ยน คุ้มสุดๆ “

แน่นอนว่าหมอเชื่อ Dr. Harris มากกว่า

เนื้อปากประกอบด้วยช่องเล็ก ๆ (lip compartments) ที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยและเส้นใยกล้ามเนื้อ Orbicularis Orisซึ่งเป็นกล้ามเนื้อแบบวงแหวนที่ทำหน้าที่ “ควบคุมการปิด–เปิด–ม้วน” ของปากทุกทิศทาง
ดังนั้น การเติมผิดจุดแม้เพียงไม่กี่ 0.x ml สารสามารถ “ไหลข้ามช่อง” ได้จริง และไปกองในบริเวณที่เราไม่ตั้งใจ เช่น migration เหนือขอบปาก, ริมฝีปากด้านใน roll-in จนยิ้มแปลกเพราะเนื้อปากบนหายไปหมด, หรือ volume block ที่ทำให้ยิ้มตึงไม่เท่ากัน

เคสเหล่านี้มีให้เห็นทุกวัน ย้ำว่า ทุก วันค่ะ
รูปที่นำมาให้ดูถือว่า soft มากแล้ว

งานวิจัยช่วงปี 2021–2024 ใน Aesthetic Surgery Journal และ Plastic and Reconstructive Surgery Global พบว่า lip filler complications กว่า 60% มาจากการรบกวนโครงสร้างของเนื้อปาก เช่น overfilling, การฉีดชั้นที่ไม่เหมาะสม และ migration ของสาร HA ในผิวหนังชั้นตื้นที่บางเพียง 1–2 มิลลิเมตร

ในภาพตัวอย่างแรก—คือเคสที่ filler เคลื่อนไปกองที่ขอบปากและมุมปากด้านใน ( มาจากการขยันเติม “ยกมุมปาก” )แม้จะไม่อุดตัน แต่ทำให้ contour ปากผิดรูป texture จับแล้วแข็ง เมื่อ confirm ด้วยอัลตราซาวน์ เห็นเงาผิดปกติในเนื้อปากจริง

ทั้งหมดนี้แก้ได้ยากกว่าที่คิด เพราะต้องค่อย ๆ ละลายเฉพาะจุด และไม่ให้เสียทรงเดิม และความยากของการสลายปากคือ มันต้องฉีดสลายจุดที่ฟิลเลอร์ไปกองผิดที่ ไม่ใช่สลายที่ตัวปาก

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ยังไม่แตะเรื่องปัญหาการอุดตัน หรือ เรื่องรอยยิ้มที่สวยงามเลยนะคะ

สรุปคือ “ฟิลเลอร์ปากไม่ใช่แค่เรื่องของปริมาณ”
แต่คือการเข้าใจ anatomy ในระดับ millimeter ความแม่นยำสุดๆ ในการฉีด , การทำ framing ของปาก-ฟัน , การเคารพการเคลื่อนไหวรอบ perioral area

เคยมีคำพูดที่ว่า if you pay cheap , you pay twice
“ถ้าอยากได้อะไรถูกๆ สุดท้ายจะลงเอยด้วยการจ่าย 2 ครั้ง” - หมอคิดว่าจริงมากๆ สำหรับเรื่องฟิลเลอร์ปากค่ะ

#ฟิลเลอร์ปาก

เคสนี้เป็นหนึ่งในเคสที่หมอชอบที่สุดของปี ดูแล้วก็เป็นเคสธรรมดา แต่เป็นความธรรมดาที่มี balance และผ่านการคิด คำนวณมาแล้ว ...
09/11/2025

เคสนี้เป็นหนึ่งในเคสที่หมอชอบที่สุดของปี ดูแล้วก็เป็นเคสธรรมดา แต่เป็นความธรรมดาที่มี balance และผ่านการคิด คำนวณมาแล้ว

ทั้งหมดนี้ใช้ filler รวมเพียง 3 cc (รวมปากแล้ว)
ไม่มีจุดไหนโดดออกมาจากหน้า แต่ได้ใบหน้าที่สดขึ้นแบบไม่รู้ว่าทำตรงไหน

สิ่งที่คนทั่วไปมักมองข้ามคือ —
เวลาเราพูดถึงคำว่า “ดูเด็กขึ้น” มันไม่ใช่เรื่องของ volume อย่างเดียว แต่มันคือการคืนสมดุลของ ความชื้นในเนื้อผิว, การflow ของแสง, และการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่สอดคล้องกัน

มา breakdown ความเปลี่ยนแปลงกัน
• แสงสะท้อนใต้ตาและแก้ม ต่อเนื่องขึ้น (OG-curve กลับมา)- ใครไม่ทราบเรื่อง OG- curve ลองเลื่อนลงอ่านโพสต์เก่านะคะ
. Flow ระหว่างคิ้วถึง midface ดูกลมกลืนขึ้น ตาดู fresh ขึ้น
• รอยต่อระหว่าง malar( แถวหน้าแก้ม) กับ nasolabial ถูก soften โดยไม่เพิ่ม volume เกิน
• ปากรับกับ midline มากขึ้น ลดระยะห่างระหว่างจมูก-ปาก โดยไม่ดึงจุดสนใจ
• ทั้งหมดนี้ทำใต้เงื่อนไข - Dynamic ยังต้องเคลื่อนไหวได้ 100% เท่าก่อนทำ - ย้ำแทบทุกโพสต์ ทุกช่องทางที่มีแล้ว 🥹

ผลลัพธ์ที่ได้คือ หน้าไม่ได้ดู “ฉีด”
แต่ดู สดใสขึ้น มี contour และ structure ที่คมขึ้น
พร้อมความ lift ในแบบที่ยังคงความเป็นธรรมชาติทั้งหมด — นี่คือ aesthetic ในแบบที่หมอชอบที่สุด

ที่อยู่

Dewy Clinic 952-954 Talat Phlu, Thon Buri
Bangkok
10600

เวลาทำการ

อังคาร 12:00 - 20:00
พุธ 12:00 - 20:00
พฤหัสบดี 12:00 - 20:00
ศุกร์ 12:00 - 20:30
เสาร์ 12:00 - 20:00
อาทิตย์ 11:30 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

+66963623919

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Dewy Clinic คลินิกความงามตลาดพลู ดูแลผิว โบท็อก ฟิลเลอร์ ร้อยไหม อัลเทอร่าผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram