Soul Connection - Holistic Healing Therapy

Soul Connection - Holistic Healing Therapy แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานบำบั?

สวัสดีค่ะ ติ กฤติกา ค่ะ

"เราเกิดมาบนโลกนี้เพื่อ....." นี่เป็นคำถามที่ติคอยถามตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ นี่เราเกิดมาทำไมกันเนี่ยะ เกิดมาเรียน เกิดมาให้พ่อแม่เลี้ยง เกิดมาเป็นภาระ เกิดมาเป็นคนเก่ง เกิดมาดูแลตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ที่ทำให้เราเกิดมา(เอะ ยังไง 55) เกิดมาทำงานหาเงิน เกิดมาเพื่อมีชีวิตอยู่ไปวันๆ เกิดมาหายใจทิ้งๆไป เกิดมาช่วยเหลือใคร หรือ เกิดมาเพื่อกู้โลก ยิ่งตอนมีความทุกข์มากๆ คำถามนี้ก็จะวนไปมาว่า...แล้วตกลงชั้นเกิดมาทำไม ถ้าจะทุกข์ขนาดนี้ เกิดมาทำไมกัน

แล้วคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบ วันนี้ก็ยังคงไม่ได้คำตอบค่ะ 55555 แต่ตอนนี้ที่รู้แน่ๆ คือ ไหนๆก็เกิดมาแล้ว ได้รับโอกาสให้มีชีวิตมาหายใจอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ก็ใช้ชีวิตให้มันมีความสุขซะสิ ไม่ต้องไปหาคำตอบให้เหนื่อยแล้ว เอามันตรงนี้แหละ ชั้นจะมีความสุขที่นี่และตอนนี้แหละ �

แต่ติต้องบอกเลยว่ากว่าจะเข้าใจและเริ่มใช้ชีวิตได้แบบที่พูด นี่มันไม่ง่ายเลยนะคะ ในสมองมันรู้หมดแหละว่าอะไรที่คิดและทำแล้วมีความสุข แต่ใจมันไม่ได้ มันทำไม่ได้ เงื่อนไข ความคิด ความเชื่อ อะไรไม่รู้ในหัวเยอะแยะไปหมด ทำให้ติติดอยู่ในวงจรที่เรียกว่า "ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด" อยู่นาน (ปริญญาโท 2 ใบ หนึ่งในนั้นคือจิตวิทยา ไม่ได้ช่วย ณ.จุดๆนั้น แต่เป็นประโยชน์มากๆจริงๆ ณ.จุดๆนี้)

จนวันหนึ่งตอนที่รู้สึกว่าติกำลังจะจมน้ำ มันเหนื่อยจนว่ายต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ติโชคดีที่ได้เจอกับคุณครูที่โยนห่วงมาให้ทันพอดี ครูที่พาติพลิกโลกใบเดิมให้ติได้เห็นมุมมองใหม่ ให้ติได้พบกับโลกใบเดิมกับคนเดิมๆแต่ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เหมือนที่ครูบอกเสมอ "เมื่อโลกภายในเปลี่ยน โลกภายนอกก็เปลี่ยน" และติก็ได้เดินทางเข้าสู่โลกของพลังงาน โลกของความจริงแท้แห่งธรรมชาติ โลกแห่งการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด เป็นโลกที่น่าค้นหาและเต็มไปด้วยความงดงาม �

และในโลกของพลังงานนี้ ติได้มารู้จักกับ "เรกิ" ซึ่งเป็นพลังบำบัดรักษา เป็นพลังงานจากธรรมชาติ และเป็นพลังงานชีวิต เป็นเครื่องมือในการบำบัดพลังงานแบบองค์รวม ที่ช่วยดูแลทั้งร่างกาย ความคิด จิตใจและจิตวิญญาณ อย่างครบถ้วน

ตั้งแต่ติได้รู้จักกับ เรกิ ความเชื่อต่างๆมากมายของติถูกเขย่า ความคิดหลายๆอย่างถูกเกลา ติถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากการเฝ้าถามตัวเองว่า...ชั้นเกิดมาทำไม...ให้ติได้เข้าใจรากที่มาของความคิดต่างๆของตัวเอง เริ่มยอมรับและเข้าใจสิ่งต่างๆในชีวิตมากขึ้น เริ่มมองเห็นความสุขในชีวิตที่เราไม่เคยมองเห็น สามารถดูแลอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองได้ดีขึ้น ติค่อยๆเห็นตัวเองมีความสุขในการมีชีวิตอยู่มากขึ้น เมื่อมีความทุกข์ก็มีเครื่องมือในการดูแลให้ไม่จบลงไปกับมัน และที่สำคัญคือทุกอย่างมันเกิดขึ้นด้วยความเข้าใจและเป็นธรรมชาติจริงๆ

ตลอดระยะเวลาที่ได้เริ่มรู้จักกับ เรกิ มาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ติมีโอกาสได้เรียนรู้จากคุณครูหลายๆคน ได้พบเจอเพื่อนๆมากมายที่คอยสนับสนุนและแบ่งปันประสบการณ์ ได้ค้นพบตัวเอง ได้มีความสัมพันธ์ใหม่ๆกับคนรอบๆข้างๆ จนวันนี้พูดได้เต็มปากว่า "มีความสุขที่ได้เกิดมา" "ขอบคุณที่ได้เกิดมามีชีวิตบนโลกใบนี้" ขอบคุณทุกคนและทุกเหตุการณ์ที่เข้ามาในชีวิต และที่ขาดไม่ได้เลย คือ ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ทำให้ได้เกิดมา สำหรับติโลกมันไม่ได้สวยงามหรอก แต่ชีวิตต่างหากที่มันสวยงาม มันเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก มันเป็นประสบการณ์ที่ถ้าได้เล่าทุกครั้งก็จะบอกคนที่ติเล่าให้ฟังว่า "ต้องลองเอง"

และด้วยความชอบส่วนตัว ติได้เสาะหาและศึกษาศาตร์พลังงานบำบัดอื่นๆนอกเหนือจากเรกิด้วย ไม่ว่าจะเป็นการดูแลออร่าและระบบจักกระในร่างกาย การใช้หินคริสตัลและน้ำมันหอมระเหยในการบำบัด และการใช้ไพ่ทาโร่ต์และไพ่ออราเคิลเป็นสื่อกลางในการบำบัด ซึ่งติได้นำศาสตร์ทั้งหมดนี้มาใช้ในการดูแลและบำบัดพลังงานของตัวเองอยู่เสมอๆ

และในวันนี้ติพร้อมส่งต่อทักษะและความรู้ที่ติได้รับมา ที่ติเชื่ออย่างสนิทใจว่ามันเป็นเครื่องมือที่ดีพอที่จะช่วยปัดเมฆหมอกในชีวิตของคุณให้ออกไปได้ด้วยตัวของคุณเอง ให้คุณได้เห็นทางเดินในชีวิตของคุณชัดเจนขึ้น และให้คุณมีความสุขในแบบที่คุณฝันไว้ ติเดินทางผ่านมาแล้ว และติเชื่อมั่นว่ามันเกิดขึ้นได้จริงกับทุกๆคน ทุกคนดีเพียงพอและคู่ควรที่จะมีความสุขในชีวิตนะคะ

หลายๆครั้ง ความเจ็บปวดก็ทิ้งร่องรอยของแผลไว้ ที่ไม่ว่าเราจะพยายามรักษา เยียวยา หรือดูแลดีขนาดไหน ร่องรอยมันก็ยังคงอยู่ ย...
18/02/2022

หลายๆครั้ง ความเจ็บปวดก็ทิ้งร่องรอยของแผลไว้ ที่ไม่ว่าเราจะพยายามรักษา เยียวยา หรือดูแลดีขนาดไหน ร่องรอยมันก็ยังคงอยู่ ยิ่งแผลใหญ่มากยิ่งทิ้งรอยไว้มาก ยิ่งแผลลึกมากก็มีโอกาสเป็นแผลเป็นมาก แล้วพอเราเผลอๆไปมองที่รอยแผลนั้น มันก็ทำให้เรานึกถึงเหตุการณ์ที่เจ็บปวดนั้นอีกครั้ง จนเหมือนว่ามันจะไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้
การพยายามลืมหรือพยายามเลี่ยงที่จะไม่มองและไม่คิดถึงมัน อาจจะช่วยได้ชั่วคราว แต่ถ้าเรามองร่องรอยบาดแผลนั้นให้ดี มองประสบการณ์ของเราด้วยความตระหนักรู้และเข้าใจอย่างชัดเจน
🎀 มองให้เห็นว่าเราได้เรียนรู้อะไรมา มองเห็นให้ได้ว่าชีวิตของเราที่สวยงามในตอนนี้ มันมาจากการที่เราได้เรียนรู้และเติบโตมาจากบทเรียนในวันนั้น 🎀
และทุกครั้งที่เรามองเห็นหรือนึกถึงบาดแผลนั้น มันจะไม่ใช่การหวนไปเจ็บปวดกับความทรงจำเดิมๆอีกต่อไป แต่จะเป็นการระลึกถึงความสวยงามของประสบการณ์ที่ให้บทเรียนที่แสนมีค่า ที่ควรค่าแก่การจดจำ ทุกอย่างมันได้เกิดขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นปุ๋ยให้เราได้เจริญงอกงาม และทุกอย่างมันได้จบลงไปแล้ว
และเมื่อเราสามารถขอบคุณตัวเราเอง ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ขอบคุณบทเรียนอันแสนมีค่าที่เราได้เรียนรู้ เมื่อนั้นความเจ็บปวดจะจบลงได้ที่ใจเราค่ะ ❤
บาดแผลบางอย่างอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะหาย #ให้เวลาตัวเองได้ยอมรับและทำความเข้าใจ รักษาลมหายใจไว้ แล้วค่อยๆดูแลรักษากันไป #เป็นกำลังใจให้กันไปเรื่อยๆนะคะ

 #เราไม่สามารถให้ในสิ่งที่เราไม่มีหรือไม่เคยรู้จักได้ เพราะคิดว่า "รัก" แต่ไม่เคยรู้จัก "รัก" เลยใช้คำว่า "รัก" ทำร้ายตั...
14/02/2022

#เราไม่สามารถให้ในสิ่งที่เราไม่มีหรือไม่เคยรู้จักได้
เพราะคิดว่า "รัก" แต่ไม่เคยรู้จัก "รัก" เลยใช้คำว่า "รัก" ทำร้ายตัวเองและใครต่อใครมามากมาย
เพราะอยากให้คนที่รัก "มีความสุข" แต่ตัวเองไม่รู้จัก "ความสุข" จริงๆ เลยใช้เวลาที่ผ่านมาทำลายความสุขของตัวเองและความสุขของคนอื่นไปโดยไม่รู้ตัว
วันนี้เข้าใจและรู้สึกได้แล้วว่า "ความรัก" และ "ความสุข" จริงๆมันเป็นยังไง เพราะเราได้เรียนรู้ที่จะให้ความรักและสร้างความสุขให้กับตัวเองมากพอ
การรักตัวเอง ไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว ไม่ใช่การทำอะไรตามใจ ไม่ใช่การแย่งชิงทุกอย่างมา ไม่ใช่การโยนความคาดหวังหรือความเจ็บปวดใดๆให้ใคร แต่มันคือการฝึกที่จะรักและเคารพตัวเอง เคารพร่างกาย จิตใจ ความคิด ความต้องการ ความรู้สึก และจิตวิญญาณของเราเอง
ความรักตัวเอง คือ การปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความรัก เหมือนที่เราอยากให้คนรักของเราปฏิบัติกับเรา หลายๆครั้งที่ความรักทำร้ายเรา เพราะเราไปคาดหวังให้คนอื่นทำบางอย่างให้เรา ที่แม้แต่เรายังทำให้ตัวเองไม่ได้เลย
กลับมา พาตัวเองกลับมารู้จักความรักที่แท้จริง ที่ไม่ทำร้ายกันนะคะ
ให้ตัวเราเป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตและสวยงามขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความรักที่เรามอบให้กับตัวเอง และเมื่อพร้อม ดอกไม้ของเราจะส่งกลิ่นหอม ผลไม้ของเราก็จะมีรสหวาน ให้เราได้แบ่งปันต่อไป ให้คนรอบข้างได้รับความรักในแบบที่เราเป็น และในแบบที่เขาเหล่านั้นต้องการ โดยที่เราไม่รู้สึกถูกเอาเปรียบ หรือขาดพร่องใดๆเลย
Happy Valentine's Day, Happy Self-Love Day นะคะ
#หยุดทำร้ายกันด้วยความรัก #มาเป็นความรักที่แท้จริงกันเถอะคะ

💗 Inspiration 💗สิ่งที่สวยงามที่สุด มองไม่เห็นได้ด้วยตา แต่มันรู้สึกและสัมผัสได้ที่ใจ ความสวยงามในชีวิตที่เราเฝ้าตามหา มั...
07/02/2022

💗 Inspiration 💗
สิ่งที่สวยงามที่สุด มองไม่เห็นได้ด้วยตา แต่มันรู้สึกและสัมผัสได้ที่ใจ
ความสวยงามในชีวิตที่เราเฝ้าตามหา มันอาจจะอยู่ในตัวเราแล้วก็ได้ #รึเปล่านะ 🥰

🍂 เป็น กำลังใจ ให้กันไป อีกปีนะ ✌ปีที่แล้วเป็นปีที่หนักหนาสำหรับพวกเราทุกคนมากๆ ลองย้อนกลับไปดูเรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆท...
03/01/2022

🍂 เป็น กำลังใจ ให้กันไป อีกปีนะ ✌

ปีที่แล้วเป็นปีที่หนักหนาสำหรับพวกเราทุกคนมากๆ ลองย้อนกลับไปดูเรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เกิดความรู้สึกภูมิใจในตัวเองอย่างบอกไม่ถูก แบบเอะ เราก็ผ่านมาได้ไกลเหมือนกัน เก่งเหมือนกันแฮะ 5555 และรู้สึกชื่นชมทุกๆคนที่ต้องประสบพบเจอเรื่องราวแบบเดียวกัน อยากจะบอกทุกคนเลยว่า "พวกคุณสุดยอดกันมากๆค่ะ" มันไม่ง่ายเลย และพวกเราทุกคนเก่งมากจริงๆ
ถึงตรงนี้ ติรู้สึกขอบคุณทุกสิ่งที่ได้เกิดขี้นทั้งดีและไม่ดี ที่ทำให้ตัวติเองได้กลับมาตระหนักและเรียนรู้ในหลายๆเรื่องที่ทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นได้ง่ายๆ แบบที่ไม่ต้องไปเปลี่ยนเหตุการณ์หรือไปเปลี่ยนใครคนอื่นเลย
ในปีนี้ ถ้าถามว่าปีใหม่นี้ตั้งใจจะทำอะไร ติตอบได้เลยแบบไม่ต้องคิด คือ ตั้งใจทำตัวเองให้มีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวัน คำถามที่แวปมาคือ แล้วต้องทำอะไรบ้างละ ถึงจะมีความสุขเพิ่มขึ้นได้? เอาจริงๆคำตอบที่ตอบตัวเองยาวเป็นหางว่าวเลยค่ะ แต่ก็เอามารวมๆได้เป็นข้อปณิธาณ 4 ข้อ ที่ติเชื่อว่าถ้าทำแล้ว ชีวิตติจะมีความสุขเพิ่มขึ้นได้
1. การเปิดโอกาสตัวเองให้เป็นผู้รับ ฟังดูเหมือนง่าย แต่สำหรับติมันไม่ง่ายเลย การที่เราผูกติดอยู่กับความเชื่อว่า "เป็นพี่ต้องให้น้อง" หรือ "เราจะมีความสุขเมื่อผู้อื่นมีความสุข" หรือ "การเป็นผู้ให้ดีกว่าเป็นผู้รับ" ความเชื่อเหล่านี้ทำให้เราหลงลืมความต้องการที่แท้จริงของตัวเองไป และปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้เป็นผู้ให้ โดยที่เราไม่รู้ตัว สุดท้ายพอรู้ตัวอีกทีเราก็ทำให้คนอื่นอยู่ตลอดเวลาจนลืมไปแล้วว่าจริงๆแล้วเราต้องการทำอะไรกันแน่ และเราก็รู้สึกขาดอยู่ตลอดเวลา หลายคนอาจมองว่ามันดูเห็นแก่ตัวจังถ้าจะคิดถึงตัวเองก่อน ซึ่งก็ไม่แปลกค่ะ เพราะติก็คือคนนึงที่เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน และต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเข้าใจและแยกแยะได้ว่ามันไม่เหมือนกัน ครูของติย้ำบ่อยมากให้ติคิดว่า "เราจะให้อะไรใครได้ ถ้าตัวเรายังไม่มีสิ่งนั้นเลย" "เราจะให้คนรอบข้างเรามีความสุขได้ยังไง ในเมื่อตัวเราเองยังไม่มีความสุขเลย" รู้สึกเหมือนกันไหมคะ
2. ฝึกให้ตัวเองรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งใจกับผู้คนเหตุการณ์และสิ่งต่างๆรอบๆตัว สำหรับข้อนี้มันง่ายมากๆเลยเวลาที่เราอยู่ในช่วงเวลาที่ดี แต่มันดูเหมือนจะทำไม่ได้เลยในช่วงที่สถานการณ์ต่างๆมันดูเลวร้าย ซึ่งสำหรับติแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่เราจะมองเข้าไปในสถานการณ์ที่ย่ำแย่เพื่อหาจุดที่เราจะขอบคุณมันได้ มันเหมือนมองหาไม้ขีดก้านเล็กมากๆในอุโมงค์ที่มืดสุด ติจึงจำเป็นต้องฝึกกับสถานการณ์ที่ปกติไปเรื่อยๆก่อนเพื่อให้เราคุ้นชิน จนสิ่งนี้กลายเป็นเครื่องมือที่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราตกหลุมลึกหรือเข้าไปในอุงโมงค์ เราจะสามารถมองเห็นไม้ขีดก้านเล็กๆและจุดมันขึ้นมาได้อีกครั้ง คำถามง่ายๆที่ติใช้เสมอในการฝึกคือ "เราได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้" หรือ "เรื่องนี้ถูกส่งมาให้เราเพื่อให้เราได้เรียนรู้อะไร" สิ่งหนึ่งที่ติเชื่ออย่างสนิทใจเลยคือ "โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญ ที่มันเกิดขึ้นกับเราเพราะมันต้องเกิดขึ้นกับเราเพื่อจุดประสงค์บางอย่างเสมอ"
3. ใช้เวลาออกไปเที่ยว ออกไปหาธรรมชาติให้มากขึ้น มีคำพูดที่ว่า "เวลาทุกข์ ท้อ เศร้า ให้ออกไปหาธรรมชาติ และธรรมชาติจะเยียวยาทุกสิ่ง" คำพูดนี้หลายๆคนได้ลองพิสูจน์แล้ว และเห็นพ้องกันตามนี้เหมือนกันใช่รึเปล่าคะ ก็หวังว่าหลังจากที่เราได้ใช้ชีวิตแบบเก็บเนื้อเก็บตัวกันมาได้พักใหญ่ๆแล้ว ก็หวังลึกๆว่าสถานการณ์ต่างๆจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ให้เราได้มีโอกาสออกไปทำกิจกรรมต่างๆและสัมผัสกับธรรมชาติได้มากขึ้นกันนะคะ
4. จะโฟกัสกับการมีความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพกับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะกับพ่อ แม่ น้อง ญาติๆ สามี และเพื่อนๆ ปีนี้ติตั้งใจพัฒนาตัวเอง ลด ละ เลิกความเชื่อและความคิด ที่มีผลต่อการกระทำใดๆที่จะกระทบกับความสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้ได้มากที่สุดค่ะ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ติได้เห็นความสูญเสียมากมายที่ทำให้ติได้เรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ เห็นคุณค่าของคนที่อยู่รอบตัวโดยเฉพาะคนในครอบครัวมากขึ้นมากๆ ซึ่งในกระบวนการลด ละ เลิกความเชื่อและความคิดต่างๆที่ฝังหัวมานานนั้นไม่ง่ายเลยนะคะ ติโชคดีได้รู้จัก "เรกิ" ที่ติรู้สึกเชื่อมถึงได้ในระดับพลังงาน ที่ทำให้ความเชื่อและความคิดหลายๆอย่างของติเปลี่ยนไป ปีนี้ติตั้งใจศึกษาและฝึกฝน "เรกิ" อย่างต่อเนื่องต่อไปค่ะ
แล้วเพื่อนๆละคะ ปักธงอะไรไว้ ตั้งปณิธานอะไรกันบ้างในปีนี้ เล่าสู่กันฟังได้นะคะ แล้วเราจะเดินทางไปด้วยกัน ถนนสายนี้ยาวและไม่ง่าย แต่ระหว่างทางมีสิ่งสวยงามรอพวกเราอยู่แน่นอนค่ะ เป็นกำลังใจให้กันและกันนะคะ 🥰

สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะทุกคน ขอให้วันนี้เป็นวันแห่งความสุขเป็นของทุกๆคนนะคะ และอย่าลืมว่าทุกคนเป็นของขวัญที่แสนพิเศษที่เ...
25/12/2021

สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะทุกคน
ขอให้วันนี้เป็นวันแห่งความสุขเป็นของทุกๆคนนะคะ
และอย่าลืมว่าทุกคนเป็นของขวัญที่แสนพิเศษที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ รักษาของขวัญชิ้นนี้ให้ดีนะคะ ♡

May the gift you need be already present in your heart.

 #หามุมมองใหม่ให้เป็นพลังงานที่ดีของชีวิตเวลาที่เราเปลี่ยนมุมมอง ไม่ใช่มีแต่ความคิดของเราเปลี่ยนเท่านั้นนะคะ เซลล์ทุกเซล...
25/11/2021

#หามุมมองใหม่ให้เป็นพลังงานที่ดีของชีวิต
เวลาที่เราเปลี่ยนมุมมอง ไม่ใช่มีแต่ความคิดของเราเปลี่ยนเท่านั้นนะคะ เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย เพราะพลังงานจากความคิดของเรามีผลกับพลังงานของเซลล์ของอวัยวะต่างๆของร่างกายนั่นเองค่ะ
การหามุมมองใหม่ คือ การมองเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงด้วยความเข้าใจ และมองหามุมมองที่เป็นประโยชน์กับตัวเองในการนำมาเรียนรู้ แก้ไข หรือจัดการกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างมีความคิดสร้างสรรค์
หลายๆครั้งสมองเราทำงานอย่างรวดเร็วในการตีความสิ่งที่เราเห็น ตามประสบการณ์ที่เราเคยเจอมา บางคนเคยโดนผึ้งต่อย แวปแรกที่เห็นผึ้ง สมองและร่างกายก็มีปฏิกิริยาทันที เปลี่ยนเป็นโหมดการเอาตัวรอด แล้วก็ทำบางอย่างแบบอัตโนมัติ เช่นวิ่งหนีหรือเอามือปัด โดยที่ไม่รู้ตัว
การเปลี่ยนมุมมองจึงไม่ใช่แค่การคิดว่าผึ้งก็มีดี เพราะสำหรับบางคนมันยากและมันฝังใจ ความกลัวนั้นมันถูกจดจำอยู่ในทุกเซลล์ เราจึงต้องกลับมาทำความเข้าใจเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้เราเกิดความกลัว เพื่อเรียนรู้ว่าเหตุการณ์นั้น กับสิ่งๆนั้น สัตว์ตัวนั้น คนคนนั้น มันได้"จบลงไปแล้ว"และเราในตอนนี้ไม่ใช่เราในตอนนั้น เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้เราได้มีอิสระที่จะเรียนรู้และมีประสบการณ์แบบใหม่โดย "ไม่เอาอดีตมาตัดสินปัจจุบัน"
"ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย" เพราะตอนนี้เรากำลังสร้างประสบการณ์ใหม่จากการเรียนรู้มุมมองใหม่ๆ เพื่อให้วันนี้เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ของอนาคตเราค่ะ 🥰
#สุขสร้างได้

สวัสดีค่ะ  #วันนี้คุณรู้สึกเป็นอย่างไรบ้างคะ ถ้าอยากบอกกับเราว่าคุณรู้สึกอะไรในวันนี้ พิมพ์ comment เข้ามาใต้โพสนี้เลยค่...
29/10/2021

สวัสดีค่ะ #วันนี้คุณรู้สึกเป็นอย่างไรบ้างคะ ถ้าอยากบอกกับเราว่าคุณรู้สึกอะไรในวันนี้ พิมพ์ comment เข้ามาใต้โพสนี้เลยค่ะ เรารอฟังจากคุณอยู่นะคะ
จากโพสที่แล้ว https://www.facebook.com/101630192255452/posts/126326853119119/
ที่เราพูดถึงพลังงานทั้ง 4 ส่วนของเรา คือ ร่างกาย ( Body), จิตใจ ( Body), ความรู้สึก ( Body) และจิตวิญญาณ ( Body) หรือเรียกรวมๆกันว่าระบบ กัน แล้วมีพูดเชื่อมโยงถึง “ #ความถี่ของสนามพลังงาน” หลายคนอาจกำลังสงสัยว่าแล้วความถี่ของสนามพลังงานนั้นคืออะไร วันนี้เราจะคุยถึงเรื่องนี้กันค่ะ
ย้อนกลับไปที่โพสแรกของเรา คุณยังจำได้ใช่ไหมคะ ว่าเราได้พูดถึงเพลงที่คุณบรรเลงภายในร่างกายและแผ่ออกมาดึงดูดคนฟังให้เข้าไปสู่วงโคจรของคุณ ซึ่งเพลงนั้นก็คือคลื่นความถี่ของสนามพลังงานที่อยู่ในตัวคุณและสะท้อนออกมาภายนอก และเมื่อคนอื่นๆบังเอิญจูนมาเจอคลื่นความถี่ที่ตรงกับเพลงที่คุณกำลังเล่นอยู่พอดี แล้วเกิดชอบเพลงของคุณขึ้นมาเค้าก็จะอยู่กับคุณ ในทางตรงกันข้าม ถ้าคลื่นความถี่ของสนามพลังงานไม่ตรงกัน เพลงของคุณไม่ใช่แนวเค้า เค้าก็จะหมุนเปลี่ยนคลื่นไปค่ะ
ณ.จุดๆนี้ เราอยากให้คุณลองจินตนาการว่า PEMS ของคุณเป็นเหมือนสถานีวิทยุ มีร่างกายของคุณเป็นดีเจเปิดเพลง มีจิตใจและความรู้สึกเป็นผู้กำกับรายการ และมีจิตวิญญาณเป็นเจ้าของสถานี คุณคงมองเห็นภาพรวมๆแล้วว่า PEMS ทั้งหมดเมื่อทำงานร่วมกันแล้วจะส่งผลต่อคลื่นความถี่ของสนามพลังงานของคุณอย่างไรบ้างแล้วใช่ไหมคะ
ตอนนี้เราคงต้องกลับมาดูแล PEMS ของเราให้ดี เพื่อให้ความถี่ของสนามพลังงานของเรามีคุณภาพกันแล้วละค่ะ
คลิกที่ภาพใต้โพสเพื่อเรียนรู้ไปพร้อมๆกันว่ากิจกรรมและเครื่องมืออะไรบ้างที่จะช่วยปรับความถี่ของสนามพลังงานของเราให้มีคุณภาพมากขึ้นกันนะคะ แล้วอย่าลืมนะคะ การดูแล PEMS เป็นความรับผิดชอบของคุณ100% ไม่มีใครทำหน้าที่นี้ได้ดีไปกว่าคุณแน่นอนค่ะ
ฝากกด like และกดติดตามเพจ เพื่อให้คุณไม่พลาดบทความและข้อความดีๆที่จะช่วยปรับคลื่นความถี่สนามพลังงานของคุณให้ดีขึ้น และหากคุณเห็นว่าบทความและข้อความของเรามีประโยชน์กับคนรอบตัวคุณ อย่าลืมเอาไปแบ่งปันเล่าให้กันฟังนะคะ และหากคุณอยากค้นหาเครื่องมือในการพัฒนา PEMS และสนามพลังงาน ที่เป็นของคุณโดยเฉพาะ ทักเข้ามาคุยกับเรานะคะ เราพร้อมรับฟังคุณเสมอค่ะ

#พลังงานบำบัด







สวัสดีค่ะ กลับมาเจอกันอีกแล้วนะคะ ความเดิมจากตอนที่แล้ว https://www.facebook.com/101630192255452/posts/124037800014691/เ...
24/10/2021

สวัสดีค่ะ กลับมาเจอกันอีกแล้วนะคะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว https://www.facebook.com/101630192255452/posts/124037800014691/
เราได้เข้าใจกันไปคร่าวๆแล้วว่า “สนามพลังงาน” ของเราทำงานยังไงและส่งผลกับชีวิตของเราอย่างไรบ้าง
วันนี้เราจะมีคุยกันว่า เราจะดูแล “สนามพลังงาน” ของเราได้อย่างไรกันค่ะ
หากพูดถึง “สนามพลังงาน” ในการบำบัดพลังงานแบบองค์รวม (Holistic energy healing) นั้นมีมุมมองแนวคิดที่หลากหลายมากค่ะ ซึ่งในที่นี้เราจะขอนำแนวคิดของ Jill Willard, นักเขียนและนักบำบัดด้านพลังงานที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งมาใช้อธิบายค่ะ Jill เสนอแนวคิดว่า สนามพลังงานของมนุษย์นั้นเป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันขององค์ประกอบ 4 ส่วน ได้แก่ ร่างกายของเรา ( Body), จิตใจของเรา ( Body), ความรู้สึกของเรา ( Body) และจิตวิญญาณของเรา ( Body) หรือเรียกรวมๆกันว่า
ด้วยเหตุนี้การดูแลสนามพลังงานของเราก็คือการดูแล PEMS ของเรานั่นเองค่ะ
เมื่อคุณได้เรียนรู้และทำความเข้าใจองค์ประกอบทั้ง 4 คือ PEMS ของคุณแล้ว คุณจะเริ่มเข้าใจตัวของคุณและสนามพลังงานของคุณมากขึ้น คุณจะเริ่มมองเห็นต้นตอและสาเหตุว่าอะไรที่ทำให้คุณเป็นคนแบบที่คุณเป็นอยู่ในทุกวันนี้ และอะไรดึงดูดให้คุณต้องไปพบเจอกับคนบางคน หรือเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ต่างๆ
เมื่อคุณพบต้นตอของปัญหา เมื่อนั้นกระบวนการบำบัดก็จะเริ่มต้นขึ้นค่ะ ขอเพียงคุณมีเครื่องมือที่ดีพอและเหมาะกับคุณ คุณจะสามารถขุดเข้าไปถอนรากถอนโคนปัญหาในชีวิตของคุณได้ ผ่านการจัดการกับ PEMS ของคุณ ทั้งในด้านพฤติกรรม ความคิด อารมณ์ความรู้สึก และจิตวิญญาณของคุณ เพื่อให้มีสุขภาพองค์รวมที่ดีขึ้น มีความสมดุลมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้คลื่นความถี่ของสนามพลังงานของคุณเปลี่ยนไป คุณจะเริ่มโคจรไปหาผู้คนใหม่ๆสถานการณ์ใหม่ๆที่เหมาะสมกับคลื่นความถี่ใหม่ของสนามพลังงานของคุณ
ถึงตรงนี้แล้ว มันน่าตื่นเต้นมากเลยใช่ไหมคะ หลายคนอาจจะเห็นว่านี่มันก็คล้ายๆกฏแรงดึงดูดเลยนี่นา ใช่แล้วค่ะ กฏแรงดึงดูดเป็นแนวคิดส่วนหนึ่งของการบำบัดพลังงานแบบองค์รวมค่ะ การบำบัดพลังงานไม่ใช่แค่เพียงช่วยดึงดูดสิ่งที่คุณต้องการเท่านั้น แต่มันยังมีอะไรที่น่าสนใจและยังชวนให้ศึกษาค้นคว้าอยู่อีกมากค่ะ
เรายังมีอะไรมากมายที่จะแชร์ให้คุณได้อ่านอีกในโพสต่อๆไป ฝากกด like และกดติดตามเพื่อให้คุณไม่พลาดบทความต่อไปของเรา และหากคุณคิดว่าบทความของเราเป็นประโยชน์กับคนที่คุณรัก อย่าลืมนำไปเล่าหรือแชร์ให้พวกเขาฟังนะคะ
และหากคุณสนใจเรื่องพลังงานบำบัดแบบองค์รวม ส่งข้อความมาพูดคุยกับเราได้นะคะ 💓

#พลังงานบำบัด







ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Soul Connection - Holistic Healing Therapyผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram