15/12/2025
การดูแลผู้ป่วยที่ให้อาหารทางสายให้อาหารที่บ้าน ไม่ยากอย่างที่คิด!
ผู้ป่วยที่รับประทานอาหารทางปากไม่ได้หรือได้ไม่เพียงพอ โดยที่ระบบทางเดินอาหารยังทำงานได้อยู่นั้น วิธีที่สามารถทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารอาหารครบถ้วนเหมือนการรับประทานทางปากได้ คือการให้อาหารผ่านทางสายให้อาหาร หรือที่เรามักจะเรียกว่า การให้อาหารทางสายยาง วิธีนี้หากผู้ป่วยมีอาการคงที่แล้วสามารถนำกลับไปให้ต่อที่บ้านได้
🔎 สายสำหรับให้อาหาร มีการใส่สายในตำแหน่งต่างๆ ดังนี้
1. บริเวณจมูก สำหรับให้อาหารในระยะเวลาสั้น โดยปลายสายให้อาหารจะอยู่บริเวณกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็กขึ้นกับโรคและอาการของผู้ป่วย
2. บริเวณหน้าท้อง สำหรับให้อาหารในระยะยาว โดยปลายสายให้อาหารจะอยู่บริเวณกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็กขึ้นกับโรคและอาการของผู้ป่วย
หลังจากการใส่สายสำหรับให้อาหารแล้ว จะเริ่มให้อาหารผ่านสายที่โรงพยาบาลก่อน เมื่อมีอาการคงที่ และต้องได้รับอาหารต่อเนื่อง โรงพยาบาลจะมีการสอนผู้ป่วยและญาติในการให้อาหารทางสายให้อาหารที่บ้าน จนสามารถกลับไปให้ต่อที่บ้านได้
✴️ สิ่งสำคัญในการดูแลผู้ป่วยที่ให้อาหารทางสายให้อาหารที่บ้าน
1. การดูแลแผลบริเวณที่ใส่สายให้อาหารตามคำแนะนำจากโรงพยาบาล เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
2. การผสมอาหารที่จะให้ทางสายให้อาหารตามคำแนะนำจากโรงพยาบาลเพื่อให้คนไข้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย หากมีปัญหาในการผสมอาหาร เช่นอาหารข้นหนืดเกินไปควรปรึกษาแพทย์ ไม่แนะนำให้ปรับสัดส่วนการผสมอาหารเอง
3. เช็คตำแหน่งของสายให้อาหาร ก่อนให้อาหารทุกครั้ง
4. ให้อาหารด้วยอัตราการหยดตามคำแนะนำของโรงพยาบาล ไม่แนะนำให้ปรับเร่งเวลาในการให้อาหารให้หมดเร็วขึ้น อาจทำให้คนไข้ไม่สามารถรับอาหารได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ปลายสายให้อาหารอยู่ที่ลำไส้เล็ก ต้องระวังเรื่องอัตราการหยดของอาหารอย่างมาก ต้องให้หยดช้าๆตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากให้เร็วเกินไปผู้ป่วยจะมีอาการแน่นท้อง ท้องเสีย รับอาหารไม่ได้ และมีความเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารได้
5. ในขณะให้อาหารแนะนำให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าศีรษะสูง 30-45 องศา และอยู่ในท่าศีรษะสูงหลังให้อาหารหมดอีก 1 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการสำลักอาหาร
6. ความสะอาดในการให้อาหารมีความสำคัญมาก ทั้งการผสมอาหาร อุปกรณ์ให้อาหาร รวมถึงการล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
7. แนะนำให้ทำสมุดจดบันทึกปริมาณอาหาร และน้ำที่ได้รับทางสายทุกวัน รวมถึงการปัสสาวะ อุจาระ ชั่งน้ำหนัก (หากสามารถทำได้) และอาการผิดปกติอื่นๆ และนำมาให้แพทย์ประเมิน ในวันที่มาติดตามผลการรักษา
‼️ อาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์ก่อนกำหนดนัดหมาย
1. สายให้อาหารที่ใช้สำหรับให้อาหารเลื่อนหลุด
2. แผลบริเวณที่ใส่สายให้อาหาร มีการอักเสบ บวม แดง หรือผู้ป่วยมีไข้
3. ผู้ป่วยมีอาการ แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเสีย ภายหลังได้รับอาหาร
🤍 หากปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับจากโรงพยาบาลอย่างถูกต้อง การให้อาหารผ่านทางสายให้อาหารก็ไม่ยากอย่างที่คิด สามารถทำให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารครบถ้วน และมีคุณภาพชีวิตที่ดี 🤍
เอกสารอ้างอิง
1. Bischoff SC, Austin P, Boeykens K, Chourdakis M, Cuerda C, Jonkers-Schuitema C, et al. ESPEN practical guideline: Home enteral nutrition. Clin Nutr. 2022;41(3):468-488.
2. Warodomwichit D, Yamwong P, Hongsprabhas P, Chittawattanarat K, Angkatavanich J, Pisprasert V, et al. Thai clinical practice recommendations for nutritional management in adult hospitalized patients 2017 Part 1: Enteral nutrition (Recommendation 1–4). Thai JPEN. 2019;27(1):10-38.
3. Warodomwichit D, Yamwong P, Hongsprabhas P, Chittawattanarat K, Angkatavanich J, Pisprasert V, et al. Thai clinical practice recommendations for nutritional management in adult hospitalized patients 2017 Part 2: Enteral nutrition (Recommendation 5–10). Thai JPEN. 2019;27(2):8-39.
บทความโดย พว.ส่งศรี แก้วถนอม
จัดทำโดยคณะอนุกรรมการสื่อสารองค์กรสมาคมผู้ให้อาหารทางหลอดเลือดดำและทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย
#ให้อาหารทางสายที่บ้าน #อาหารทางสาย #อาหารสายยาง #การพยาบาล #พยาบาลวิชาชีพ #พยาบาลโภชนบำบัด #โภชนบำบัด