โรคนิ่วน่ารู้ Urology

โรคนิ่วน่ารู้ Urology ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคในระบบปัสสาวะและสืบพันธุ์เพศชาย โดยนพ.ศิริอนันต์ ประสิทธิ์ ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ

ต่อมลูกหมากโต
17/12/2025

ต่อมลูกหมากโต

16/12/2025
ว่าด้วยเรื่องจู๋ๆมีการทบทวนและการวิเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับขนาดอวัยวะเพศชายตามภูมิภาคขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งประกอ...
16/12/2025

ว่าด้วยเรื่องจู๋ๆ

มีการทบทวนและการวิเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับขนาดอวัยวะเพศชายตามภูมิภาคขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งประกอบด้วย
• ภูมิภาคแอฟริกา (สีเหลือง)
• ภูมิภาคอเมริกา (สีม่วง)
• ภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก (สีหลือง)
• ภูมิภาคยุโรป (สีเหลือง)
• ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สีแดง)
• ภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก (สีแดงเข้ม)

โดยศึกษาเกี่ยวกับ ความยาวของอวัยวะเพศชายขณะถูกยืด, ขณะแข็งตัว, ขณะอ่อนตัวรวมถึงเส้นรอบวง

ผลการค้นพบที่สำคัญ:
1.ความยาวอวัยวะเพศขณะถูกยืด โดยเฉลี่ยมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกา 14.47 cm (ตัวเลขสีเขียว)
2.ความยาวอวัยวะเพศขณะอ่อนตัว โดยเฉลี่ยมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกา: 9.86 cm (ตัวเลขสีเหลือง)
3.เส้นรอบวงอวัยวะเพศขณะอ่อนตัว โดยเฉลี่ยมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกัน 9.75 cm (ตัวเลขสีเทา)

ส่วนคนไทยซึ่งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(สีแดง) พบว่า
1.ความยาวอวัยวะเพศขณะถูกยืด 10.88 ซม.
2.ความยาวอวัยวะเพศขณะอ่อนตัว 8.21 ซม.
3.เส้นรอบวงอวัยวะเพศขณะอ่อนตัว 9.14 ซม.

ลองวัดของตัวเองกันดูครับว่าเท่ากับมาตรฐานภูมิภาคไหน ?

15/12/2025

การดูแลผู้ป่วยที่ให้อาหารทางสายให้อาหารที่บ้าน ไม่ยากอย่างที่คิด!

ผู้ป่วยที่รับประทานอาหารทางปากไม่ได้หรือได้ไม่เพียงพอ โดยที่ระบบทางเดินอาหารยังทำงานได้อยู่นั้น วิธีที่สามารถทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารอาหารครบถ้วนเหมือนการรับประทานทางปากได้ คือการให้อาหารผ่านทางสายให้อาหาร หรือที่เรามักจะเรียกว่า การให้อาหารทางสายยาง วิธีนี้หากผู้ป่วยมีอาการคงที่แล้วสามารถนำกลับไปให้ต่อที่บ้านได้

🔎 สายสำหรับให้อาหาร มีการใส่สายในตำแหน่งต่างๆ ดังนี้
1. บริเวณจมูก สำหรับให้อาหารในระยะเวลาสั้น โดยปลายสายให้อาหารจะอยู่บริเวณกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็กขึ้นกับโรคและอาการของผู้ป่วย
2. บริเวณหน้าท้อง สำหรับให้อาหารในระยะยาว โดยปลายสายให้อาหารจะอยู่บริเวณกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็กขึ้นกับโรคและอาการของผู้ป่วย
หลังจากการใส่สายสำหรับให้อาหารแล้ว จะเริ่มให้อาหารผ่านสายที่โรงพยาบาลก่อน เมื่อมีอาการคงที่ และต้องได้รับอาหารต่อเนื่อง โรงพยาบาลจะมีการสอนผู้ป่วยและญาติในการให้อาหารทางสายให้อาหารที่บ้าน จนสามารถกลับไปให้ต่อที่บ้านได้

✴️ สิ่งสำคัญในการดูแลผู้ป่วยที่ให้อาหารทางสายให้อาหารที่บ้าน
1. การดูแลแผลบริเวณที่ใส่สายให้อาหารตามคำแนะนำจากโรงพยาบาล เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
2. การผสมอาหารที่จะให้ทางสายให้อาหารตามคำแนะนำจากโรงพยาบาลเพื่อให้คนไข้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย หากมีปัญหาในการผสมอาหาร เช่นอาหารข้นหนืดเกินไปควรปรึกษาแพทย์ ไม่แนะนำให้ปรับสัดส่วนการผสมอาหารเอง
3. เช็คตำแหน่งของสายให้อาหาร ก่อนให้อาหารทุกครั้ง
4. ให้อาหารด้วยอัตราการหยดตามคำแนะนำของโรงพยาบาล ไม่แนะนำให้ปรับเร่งเวลาในการให้อาหารให้หมดเร็วขึ้น อาจทำให้คนไข้ไม่สามารถรับอาหารได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ปลายสายให้อาหารอยู่ที่ลำไส้เล็ก ต้องระวังเรื่องอัตราการหยดของอาหารอย่างมาก ต้องให้หยดช้าๆตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากให้เร็วเกินไปผู้ป่วยจะมีอาการแน่นท้อง ท้องเสีย รับอาหารไม่ได้ และมีความเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารได้
5. ในขณะให้อาหารแนะนำให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าศีรษะสูง 30-45 องศา และอยู่ในท่าศีรษะสูงหลังให้อาหารหมดอีก 1 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการสำลักอาหาร
6. ความสะอาดในการให้อาหารมีความสำคัญมาก ทั้งการผสมอาหาร อุปกรณ์ให้อาหาร รวมถึงการล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
7. แนะนำให้ทำสมุดจดบันทึกปริมาณอาหาร และน้ำที่ได้รับทางสายทุกวัน รวมถึงการปัสสาวะ อุจาระ ชั่งน้ำหนัก (หากสามารถทำได้) และอาการผิดปกติอื่นๆ และนำมาให้แพทย์ประเมิน ในวันที่มาติดตามผลการรักษา

‼️ อาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์ก่อนกำหนดนัดหมาย
1. สายให้อาหารที่ใช้สำหรับให้อาหารเลื่อนหลุด
2. แผลบริเวณที่ใส่สายให้อาหาร มีการอักเสบ บวม แดง หรือผู้ป่วยมีไข้
3. ผู้ป่วยมีอาการ แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเสีย ภายหลังได้รับอาหาร

🤍 หากปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับจากโรงพยาบาลอย่างถูกต้อง การให้อาหารผ่านทางสายให้อาหารก็ไม่ยากอย่างที่คิด สามารถทำให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารครบถ้วน และมีคุณภาพชีวิตที่ดี 🤍

เอกสารอ้างอิง
1. Bischoff SC, Austin P, Boeykens K, Chourdakis M, Cuerda C, Jonkers-Schuitema C, et al. ESPEN practical guideline: Home enteral nutrition. Clin Nutr. 2022;41(3):468-488.
2. Warodomwichit D, Yamwong P, Hongsprabhas P, Chittawattanarat K, Angkatavanich J, Pisprasert V, et al. Thai clinical practice recommendations for nutritional management in adult hospitalized patients 2017 Part 1: Enteral nutrition (Recommendation 1–4). Thai JPEN. 2019;27(1):10-38.
3. Warodomwichit D, Yamwong P, Hongsprabhas P, Chittawattanarat K, Angkatavanich J, Pisprasert V, et al. Thai clinical practice recommendations for nutritional management in adult hospitalized patients 2017 Part 2: Enteral nutrition (Recommendation 5–10). Thai JPEN. 2019;27(2):8-39.

บทความโดย พว.ส่งศรี แก้วถนอม
จัดทำโดยคณะอนุกรรมการสื่อสารองค์กรสมาคมผู้ให้อาหารทางหลอดเลือดดำและทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย

#ให้อาหารทางสายที่บ้าน #อาหารทางสาย #อาหารสายยาง #การพยาบาล #พยาบาลวิชาชีพ #พยาบาลโภชนบำบัด #โภชนบำบัด

Phimosis
15/12/2025

Phimosis

15/12/2025
14/12/2025

“เทอร์โมกราฟี ไม่ใช่วิธีคัดกรองมะเร็งเต้านม”

ปัจจุบันมีข้อมูลในสื่อออนไลน์ที่บอกว่า “ตรวจเต้านมด้วยกล้องวัดความร้อน หรือ เทอร์โมกราฟี ใช้คัดกรองมะเร็งเต้านมแทนแมมโมแกรมได้“

แต่ในความเป็นจริง ยังไม่มีหลักฐานประจักษ์ว่าเครื่องมือนี้ช่วยตรวจพบมะเร็งเต้านมได้เร็วขึ้นหรือช่วยลดการเสียชีวิต

1. เทอร์โมกราฟีตรวจได้แค่ ความร้อนบนผิวหนัง

⚠️ มะเร็งเต้านมระยะแรกจำนวนมาก ไม่ทำให้เกิดความร้อนผิดปกติ ผลการตรวจจึงอาจ “ปกติ” ทั้งที่มีมะเร็งอยู่จริง หรือ “ผลผิดปกติ” ทั้งที่ไม่ใช่มะเร็ง

2. เทอร์โมกราฟีไม่สามารถ:
• เห็นก้อนเนื้อหรือหินปูน
• ระบุตำแหน่งของมะเร็ง
• ใช้ยืนยันหรือปฏิเสธการเป็นมะเร็ง

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จึงควรใช้วิธีคัดกรองที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ และปฏิบัติตามคำแนะนำการตรวจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือสมาคมวิชาชีพระดับประเทศ

สรุปคือ เทอร์โมกราฟีอาจฟังดูปลอดภัย แต่ยังไม่ควรใช้แทนการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมในปัจจุบันครับ

น่ากลัวมาก
14/12/2025

น่ากลัวมาก

ชาย 58 ปี ตรวจเจอ ‘นิ่วรูปเขากวาง’ ขนาด 10 กว่าเซนฯ คาอยู่ที่กรวยไตวางตัวแทรกไปยังกลืบไตแต่ละกลีบ ระดับอุดมิด

⚠️ เคสจากประเทศอินเดีย 2014 ตีพิมพ์ลงวารสาร New England Journal Medicine


นิ่วมีหลายชนิด แต่นิ่วที่โตค่อนข้างไว และโตจนอุดมิดไตได้ ที่เจอบ่อยคือ นิ่วที่ประดิษประดอยจากเชื้อโรคค่ะ


ตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา
ชายอายุ 58 ปี มักมีอาการไข้สูง หนาวสั่น จนต้องพาไป รพ. แพทย์เคาะหลังด้านขวาพบว่าเจ็บมาก ตรวจปัสสาวะพบเม็ดเลือดขาวจำนวนมาก แพทย์จึงวินิจฉัย กรวยไตอักเสบข้างขวา และให้ยาปฏิชีวนะ

ซึ่งที่เล่ามานี้ ไม่ใช่เกิดแค่ครั้งเดียว
แต่เป็นหลายครั้ง ซ้ำไปซ้ำมา


จนกระทั่งครั้งสุด
แพทย์ตรวจ x-ray พบว่ามีเงานิ่วมีลักษณะคล้ายเขากวาง
ขนาดมหึมาที่ไตข้างขวา และยังพบนิ่วที่ปลายท่อไตซ้ายอีก

เรียกได้ว่าอุดสองข้างเลย โดยข้างขวานี่อย่างหนัก
อุดเต็มขั้วไตเลย


ผลเลือดตามมา ตามคาดเพราะอุดสองข้างขนาดนี้
🧪 ค่าไตของเสีย creatinine สูงถึง 2.1 mg/dL
ไตเริ่มล้มเหลวแล้วแบบเงียบๆ

เป็นหลักฐานว่าตอนนี้มันอุดตันสองข้าง
จนไตเริ่มขับของเสียไม่ค่อยได้แล้ว
เริ่มมีไตเสื่อมแล้ว


ตรวจปัสสาวะ
พบเชื้อ Escherichia coli

เชื้อที่มี ‘เอนไซม์’ คล้ายเครื่องตัดสารชื่อยูเรียในปัสสาวะของเรา
ตัดแล้วได้ ‘แอมโมเนีย’ ที่มีฤทธิ์เป็นด่าง

น้ำปัสสาวะที่ด่างอย่างไว เร่งการตกตะกอน
เป็นนิ่ว (Struvite stone) ขยายตัวอุดอย่างรวดเร็วได้


แพทย์ตรวจการทำงานของไตทั้ง 2 ข้าง
ด้วยเครื่องสแกนไตด้วยสาร DTPA
โชคยังดี ทั้งสองข้างยังทำงานอยู่
(น้องไตสู้ชีวิตจริงๆ ขนาดอุดขนาดนั้น)


แพทย์จึงเจาะสายระบายกรวยไตขวาผ่างทางผิวหนังก่อน
เพื่อให้ปัสสาวะที่คั่งในไตระบายออกมาได้
(percutaneous nephrostomy) ร่วมกับการให้ยาฆ่าเชื้อ
ควบคุมการติดเชื้อ ทำให้ค่าไตเริ่มดีขึ้น

เมื่อไตพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลา
ผ่าเอานิ่วเขากวางออกแล้ว
ออกมาเป็นดังภาพ


หลังผ่าตัด ไตโล่งขึ้นมาก
การติดเชื้อดีขึ้นมาก
🧪 ค่าไตของเสีย creatinine ลดลงเหลือ 1.3 mg/dL

ไตที่เคยถูกกดทับ
เริ่มกลับมาทำงานได้ดีขึ้น
และค่าการทำงานคงที่มาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนฝั่งซ้าย
ยังมีแผนจะรักษานิ่วด้วยวิธีที่เล็กกว่าในอนาคต
เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย



สิ่งที่อยากฝากจากเคสนี้

1️⃣ นิ่วเขากวางไม่ใช่นิ่วธรรมดา
มันมักโตจาก
▪️ การติดเชื้อซ้ำไปมา
▪️ แบคทีเรียสร้างความเป็นด่าง เร่งตกตะกอน

2️⃣ ยิ่งมีนิ่วอุด ปัสสาวะยิ่งระบายยาก
ยิ่งเคลียร์เชื้อโรคได้แย่มาก

3️⃣ ไตพังได้โดยไม่เจ็บ
หลายคนรู้ตัวอีกที
ตอนที่ตัวเลขค่าไตขึ้นแล้ว

14/12/2025
14/12/2025

ขอร้องเถอะ ท่านพึงมีเมตตาธรรม
14ธค.68

คดีควักเลนส์นี้เกิดเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน

ช่วงนั้นสปสช.ให้สิทธิการเปลี่ยนเลนส์ตาเทียมฟรี
ในคนไข้ที่เป็นต้อกระจก

แต่ของฟรีนั้นเป็นเลนส์แข็ง หมอตา แนะนำคนไข้ให้ใช้เลนส์นิ่ม
ว่ามันใส่สมูทกว่า
ดีกว่าอะไรประเภทนี้

จึงมีหมอตาของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งซื้อเลนส์นิ่มมาขายให้คนไข้ที่เป็นต้อกระจก

โดย เบิกตามสิทธิ์ได้เท่าไหร่
ก็เพิ่มค่าใช้จ่ายเข้าไป

หมอคนนี้ซื้อเลนส์มาขายเองไม่ได้ผ่านระบบของโรงพยาบาล
คนไข้จ่ายเงินให้หมอ

คุณตาสูงอายุคนหนึ่ง เป็นต้อกระจกมองไม่เห็น ก็ได้รับคำแนะนำให้เปลี่ยนเลนส์นิ่ม
แต่คุณตายากจน ไม่มีเงิน
จึงให้ลูกชายไปกู้เงินเสีย
ดอกเบี้ยจากคนในหมู่บ้าน คาดว่าได้แน่

แต่ยังไม่ได้เงินมา

หมอก็เชื่อใจบอกคุณตาว่าเปลี่ยนไปก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินทีหลัง

สรุปก็เปลี่ยนเลนส์ตานิ่มเรียบร้อย

พบว่าลูกชายมาบอกทีหลังว่าพยายามแล้วแต่ไม่สามารถกู้เงินได้
ให้ตาบอกหมอด้วย

เมื่อตาบอกหมอ
หมอได้set ผ่าตัด
ควักเอาเลนส์นิ่มที่เพิ่งใส่ออก

ให้เหตุผลว่ามันมีภาวะแทรกซ้อน

แต่เป็นที่รู้กันหมดทั้งในห้องผ่าตัดว่าควักออกเพราะคุณตาไม่มีเงินจ่ายค่าเลนส์

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสลดใจมากต่อผู้คนที่พบเห็นในห้องผ่าตัด
กระจายเรื่อง ปากต่อปากไปในวงกว้าง แม้ไม่มีโซเชี่ยล

ผู้ที่รู้เห็นจึงร้องไปที่ผู้อำนวยการ สสจ. และแพทยสภา

หมอได้ย้ายโรงพยาบาล และถูกสอบสวน

ถูกลงโทษ ทางจริยธรรม หนัก
ได้ออกจากราชการ

เล่าเรื่องจากอดีตนี้เป็นอุทาหรณ์

ได้โปรดเถิดเงินใครก็อยากได้

แต่เมื่อประกอบวิชาชีพเป็นแพทย์แล้วท่านต้องมีเมตตาธรรม จริยธรรม

อย่าทำร้ายคนไข้ ผู้อ่อนแอกว่า ผู้ที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บอยู่แล้ว
เพื่อมาเติม สิ่งที่ท่านอยากได้ อยากมี ให้มีมากขึ้น

มิฉะนั้นผลที่ตามมา อาจจะหนักเกินที่จะรับไหว

ชัญวลี ศรีสุโข
หมอหวิว

Urinalysis
13/12/2025

Urinalysis

Urinalysis made it easy !

Physical and Gross Examination of Urine

1. Color
pale yellow - สีปกติของปัสสาวะ
อ่านเพิ่มเติม https://www.facebook.com/101685971343117/posts/118303593014688/
2. Turbidity
ปัสสาวะขุ่น(Cloudy urine) เกิดจาก
2.1 Most common คือ phosphaturia เกิดจากมี phosphate crystals ใน urine
2.2 Pyuria เนื่องจากมี white blood cell ในปัสสาวะ
2.3 Chyluria มีการเชื่อมต่อของ lymphatic system กับ urinary tract ทำให้มี lymphatic fluid ใน urine

Chemical Examination of Urine

คือการใช้ Dipstick tests ในการตรวจปัสสาวะ 1.specific gravity
Specific gravity อยู่ในช่วง 1.001 to 1.035 บ่งบอกถึงภาวะน้ำในร่างกายและการทำงานของไต ถ้าน้อยกว่า 1.008 แสดงว่าปัสสาวะเจือจาง ถ้ามากกว่า 1.020 แสดงว่าปัสสาวะค่อนข้างเข้มข้น(ขาดน้ำ)
2. pH
ค่าปกติของ urinary pH คือ 5.5 - 6.5 pH ระหว่าง 4.5 - 5.5 หมายถึงปัสสาวะเป็นกรด ถ้า pH ระหว่าง 6.5 - 8.0 หมายถึงปัสสาวะเป็นด่าง
3.blood
Blood positive หมายถึง hematuria, hemoglobinuria, myoglobinuria ซึ่งสามารถแยกได้จากการตรวจ microscopic examination ถ้าพบ RBC ใน urine แสดงว่าเป็น hematuria
4.protein
ภาวะปกติจะมีโปรตีนในปัสสาวะ 80 to 150 mg ต่อวัน ถ้ามีมากว่า 20 mg/ml ต้องแยกว่าเป็น transient, intermittent, or persistent ถ้า persistent ต้องหาสาเหตุต่อไป
5.glucose
ถ้า serum glucose มากกว่า 180 mg/dL จะตรวจพบน้ำตาลในเลือด
6.ketones
พบในภาวะ diabetic ketoacidosis พบในคนท้อง (pregnancy)คนที่อดอาหารเป็นเวลานาน คนที่ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
7.bilirubin/ urobilinogen พบในภาวะ hepatic disease หรือ hemolysis หรือ biliary tract obstruction
8.leukocyte esterase/nitrites
มีความสำคัญในการวินิจฉัย UTI โดย Leukocyte esterase หมายถึงการพบ white blood cells ในปัสสาวะ และ nitrites หมายถึงภาวะ bacteriuria ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียเปลี่ยน nitrate เป็น nitrite

Microscopic examination

1. Erythrocytes (red blood cell)
ในภาวะปกติพบได้ไม่เกิน 3 เชลล์ อ่านเพิ่มเติมเรื่อง hematuria
https://www.facebook.com/101685971343117/posts/503024897875887/
2. Leukocytes (white blood cell)
ภาวะปกติอาจเจอได้ 1-2 cells per HPF ในผู้ชาย ส่วนผู้หญิงที่มีประจำเดือนอาจเจอได้ถึง 5 cells per HPF อ่านเพิ่มเติมเรื่อง UTI
https://www.facebook.com/101685971343117/posts/131360691708978/
3. Casts
Tamm-Horsfall mucoprotein เจอได้ในภาวะปกติ RBC casts บ่งบอกถึง glomerular bleeding ส่วน White blood cell casts พบใน acute glomerulonephritis, acute pyelonephritis, and acute tubulointerstitial nephritis ส่วน Fatty casts พบใน nephrotic syndrome, lipiduria, hypothyroidism
4. Crystals
บ่งบอกถึงภาวะ stone disease
5. Bacteria /yeast/parasites
ในปัสสาวะปกติจะไม่มี bacteria ตรวจพบ 5 bacteria per HPF บ่งบอกถึง colony counts 100,000/mL.
6. Epithelial cell
ตรวจพบ squamous epithelial cell ส่วนใหญ่เกิดจาก contamination

เรื่องการใช้ความรุนแรงในวงการแพทย์มีอยู่ทุกที่ทุกเวลา เพียงแต่บางครั้งบางคราวมันกลายเป็นความเคยชินจนไม่รู้ว่านี่คือ“ความ...
13/12/2025

เรื่องการใช้ความรุนแรงในวงการแพทย์มีอยู่ทุกที่ทุกเวลา เพียงแต่บางครั้งบางคราวมันกลายเป็นความเคยชินจนไม่รู้ว่านี่คือ“ความรุนแรง”

ความรุนแรงที่ผมหมายถึงไม่ใช่ความรุนแรงที่เกิดจากการใช้กำลังประทุษร้าย แต่หมายถึงความรุนแรงทางวาจาหรือทำพูดที่มันทำร้ายจิตใจ

ตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุดคือ ความรุนแรงจากอาจารย์หมอ(สตาฟ)กับแพทย์เพิ่มพูนทักษะ(น้องอินเทิร์น) ที่เรียกว่า“โดนกินหัว” ถ้าน้องอินเทิร์นทำอะไรไม่ถูกใจมักจะถูกสตาฟดุด่าหรือถูกกินหัวนั่นเอง บางคนถูกกินหัวจนชิน มันกินในหัวใจ ลึกเข้าไป กร่อนใจลงทุกที เจ็บจนใจ ล้ามาเป็นปี ก็ทน (คล้ายเพลงเจ็บไปเจ็บมาของพี่เจเจตริน)

อีกรูปแบบหนึ่งคือสตาฟกินหัวเพื่อนร่วมงาน เช่น พยาบาลที่ดูแลผู้ป่วย พยาบาลช่วยผ่าตัด เป็นต้น นอกจากจะกินหัวเมื่อตนเองไม่ได้ดั่งใจแล้วมักปล่อยสิงห์สาราสัตว์ออกมามากมายจนกลายเป็นสวนสัตว์ย่อมๆในโรงพยาบาล

อีกรูปแบบที่เจอน้อยหน่อยคือสตาฟกินหัวสตาฟด้วยกันเอง มักจะเป็นสตาฟต่างแผนกกันที่ต้องปรึกษาเคสกัน อาจจะไม่ได้ดุด่าแบบเข้มข้นแต่จะเป็นการเหน็บแนมนิดๆพอเป็นกระษัย เรียกว่ากินหัวพอเป็นกระษัย เช่น เคสแอดมิดตั้งนานทำไมเพิ่มมาปรึกษา เคสนี้ไม่เห็นจะด่วนเลยทำไมปรึกษาวันนี้ (สรุปคือปรึกษาเร็วหรือช้าก็โดนอยู่ดี) เป็นต้น

สุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรงแบบใดก็ไม่ดีเหมือนกันครับ

ออ..ลืมบอก ถ้าผมเคยกินหัวใครก็ขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับ

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ โรคนิ่วน่ารู้ Urologyผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram