16/03/2022
เคยเจอไหมครับ หลังจากกล่อมลูกนอนมาอย่างยาวนาน ลูกมีทีท่าว่าจะหลับแล้ว เลยเอาลูกวางลงนอน แต่พอวางแล้วลูกดันตื่นขึ้นมาอีก ลูกแกล้งหลับหรา (หยอกๆ) วันนี้มาเข้าใจธรรมชาติของการนอนผ่านข้อมูลสาระดีๆนี้กันครับ
#พาเด็กเล็กเข้านอนตอนไหนดี
"คุณหมอคะ ... เวลาลูกหลับแล้ว ... แม่จะวางลูกลงได้ตอนไหนดีคะ เหมือนวางปุ๊บ ๆ ก็ตื่นตลอดเลยค่ะ" - คุณแม่ของเด็กแรกเกิดที่ขอบตาดำคล้ำแบบไม่ต้องพึ่งอายแชร์โดว์ท่านหนึ่ง
สักพักคุณแม่ก็พูดต่ออีกว่า "ไปอ่านที่มีคนส่งต่อมาทางไลน์ ก็มีแบบว่า ถ้าลูกถีบเท้าจิกปลายเท้า หรือมือยังกำอยู่ ยังไม่ควรวางลูกลงเพราะตื่นแน่นอน ต้องรอให้ลูกแบมือ-แขนตก-ขาตก ก่อนถึงจะวางได้ นี่แม่ทำมาหลายวัน บอกเลยค่ะ ว่าสภาพแม่ใกล้ตายแล้ว นั่งจ้องมือจ้องเท้าลูก ไม่ไหว บางครั้งก็เหมือนใช่ หลายครั้งก็เหมือนไม่ใช่ มันใช่เหรอคะหมอ"
มาอีกแล้วจ้ะ แบ ๆ กำ ๆ จิกเท้า แอ่นอก ร้องเสียงแค๊ก ๆ แอ๊ก ๆ ... ถ้าต้องมานั่งจับจดกับอาการของลูกในทุกอิริยาบถ ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วเนอะ นั่งจ้องลูกเป็นกล้องวงจรปิดกัน 24 ชม. ...
เอาเรื่อง "กำมือ" ก่อนครับ ... เด็กเล็กมีสัญชาติญาณที่เรียกว่า Palmar Grasp Reflex ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ (อายุครรภ์ราว 16 สัปดาห์ก็เริ่มกำมือแล้ว) เราจึงเห็นเด็กเล็กกำมือ เอาอะไรให้จับก็กำหมดแหละ ไม่ว่าจะนิ้วแม่ ช้อนหรือท่อนเบบี้แครอต ไม่ได้เกิดจากความพิศวาสอยากจับมือแม่แต่อย่างใด 555 ว่าซั่น ... และมันจะค่อย ๆ ลดลงจนหายไปราวอายุ 6 เดือน ... ดังนั้นจะมานั่งมองให้เด็กไม่กำมือ คือ อะไรก่อน 555
ส่วนเรื่อง "แขนขาตก" หากมองในแง่ของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการนอน ... อันนี้ต้องทำความเข้าใจกับ #วัฏจักรการนอน (Sleep Cycle) กันเสียก่อน ... #การนอน คือ สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเพื่อให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อน คลื่นสมองจะเปลี่ยนแปลงไปตามระยะของการนอน โดยสมองเป็นตัวควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนั้นในระยะของการนอนแต่ละระยะ อวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการเต้นของหัวใจ และกล้ามเนื้อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ซึ่งจะมี 'ระยะของการนอน' ในช่วงหลับธรรมดาในระยะที่ 3-4 หรือที่เราเรียกว่า #หลับลึก โดยจะพบว่า #กล้ามเนื้อทั่วร่างกายจะคลายตัว โดยเฉพาะระยะที่ 4 ร่างกายเรามักจะไม่ขยับตัวเลย
ย้อนกลับไปขยายความอีกนิด เรื่อง 'วัฏจักรการนอน' เราจะแบ่งคร่าว ๆ ตามศัพท์ที่พ่อหมอมักเรียกเอง (ในวงเล็บ เป็นศัพท์แพทย์ทางการ) ได้เป็น #การนอนแบบธรรมดา (Non-REM sleep; Non-Rapid Eye Movement sleep) และ #หลับฝัน (REM sleep; Rapid Eye Movement sleep)
การนอนธรรมดา แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ระยะ 1 (เริ่มง่วง กำลังเข้านอน) ระยะ 2 (หลับตื้น) ระยะ 3-4 (หลับลึก - แขนขาตก กล้ามเนื้อคลายตัว) ส่วนการหลับฝัน จะเป็นช่วงหลับตื้นที่จะมีการเคลื่อนไหวของลูกตาอย่างรวดเร็ว เป็นระยะที่เราฝัน ละเมอ ... ขยับไปมา ...
โดยการนอนของคนเราจะไปตามวงรอบ จาก 1 ไป 2 ไป 3 ไป 4 ย้อนกลับมาที่ 3 - 2 - 1 (REM) - 2 - 3 - 4 - 3 - 2 - 1 (REM) วนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งตื่นก็คือ กลับมาที่นอนธรรมดาระดับ 1 แล้วก็ตื่นนอน ... แล้วเอาเข้าจริง บางคนก็ไม่ลงหลับลึกก็มี ทำให้หลายคนนอนนะ แต่ก็เหมือนไม่ได้นอน เอะอะ เข้า REM หรือ ตื่นนอน แบบนี้ไม่ดีต่อร่างกายนั่นเอง
ตัดภาพมาที่ #เด็กเล็ก โฟกัสที่เด็กแรกเกิดก็แล้วกัน ... ที่นาฬิกาชีวิตยังไม่เซ็ตตัว ยังหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อตื่นมากินนมทุก 2-3 ชม. (รวม ๆ ก็จะนอน 8-9 ชม. ตอนกลางวัน และอีก 8 ชม. ตอนกลางคืน) นั่นหมายความว่า #ระยะของการนอนในเด็กเล็กนั้นจะวนไปมาด้วยความรวดเร็ว 1-2-3-4-3-2-1 (REM) ที่บอกก็คือ วุบวับ ลูปเกิดขึ้นเร็วกว่าการนอนของเด็กโตและผู้ใหญ่ ... คุ้น ๆ ไหมครับว่า เวลานอน เด็กจึงเหมือนมีการขยับตัวแขนขาไปมาเป็นระยะ (คล้ายนอนไม่สนิท) สลับกับช่วงที่หลับลึก นั่นคือ #ปกติ นะจ๊ะ
เอาเป็นว่าในทารกแรกเกิดที่ใช้ระยะเวลาในการนอนราว 16 ชม. ต่อวันเนี่ย เราพบว่า ประมาณ 50% ของการนอนปกติของวัยนี้นั้นเป็นการนอนแบบ REM sleep ก็คือ ช่วงที่หลับฝันไงฮะ ช่วงที่หลับแล้วยังมีการเคลื่อนไหวของลูกตาและร่างกายก็เคลื่อนไหวอยู่บ้าง ... เด็กบางคนจุ๊บปาก บางคนขยับแขนขาเบา ๆ ...
หมายความว่า ถ้าคุณแม่จะต้องมานั่งจ้องให้สบเวลาที่ แขนตก ขาตก มือไม่กำ แล้วค่อยวางลูกลงกับเตียง ... ภาษาชาวบ้านก็คือ ไม่ต้องทำมาหากินอะไรแล้วฮะ 555 เหน็บชาอาจจะกินตั้งแต่ซอกคอ ลงซอกขาหนีบและลามไปถึงนิ้วโป้งเท้าได้เลย 555 และถ้าพลาดคลาดสายตาไปแป๊บเดียว ระยะการนอนเลื่อนจากระดับ 3-4 ขึ้นมาที่ระดับ 1-2 ขยับอีกแล้ว ต้องรอรอบใหม่ค่ะ ... นี่เลี้ยงลูกหรือเล่นเกมโชว์คะ 555 แค่ REM ก็ฟาดไป 8 ชม. ต่อวันแล้วยังไม่รวมระดับ 1-2 กล่าวคือ เด็กขยับตัวเป็นระยะอยู่แล้ว … แล้วสุดท้ายคุณจะต้องอุ้มลูกเพื่อนั่งจ้องลูกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งโต (บางคนถึง 6 เดือน บางคนหลังขวบ ลูกยังทับตัวแม่ แม่ขยับไม่ได้เลย ขยับตื่น ๆ ก็เพราะแบบนี้แหละ เด็กชินแล้วกับการนอนแบบนี้ ... พูดเหมือนจะทำให้เลี้ยงง่ายใช่ไหมครับ การนั่งจ้องแขนขาตกเนี่ย เอาจริง ๆ จะเลี้ยงยากไปเรื่อย ๆ)
นี่เป็นสาเหตุที่พ่อหมอเขียนเสมอว่า การช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ที่จะนอนได้เองเป็นเรื่องที่ดี ควรวางลูกลงนอนตอนง่วงแต่ยังไม่หลับ เพื่อฝึกให้เขาชินต่อการเริ่มต้นการนอนด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งมือของพ่อแม่อุ้มมาก ... ซึ่งในทางปฏิบัติ ก็ไม่ง่ายเท่าไร เพราะเวลาเข้าเต้าแม่ มันอุ่น มันอิ่ม มันปลอดภัย เด็กก็จะผล็อยหลับได้ แต่สุดท้ายก็ควรเอาออกจากเต้าแล้วค่อย ๆ วางลงบนเตียงให้ได้ จะระยะไหนก็ควรวางเพื่อฝึกลูกนอนเอง เพราะแม้เด็กจะเริ่มนอนลงในระดับที่ 1-2 แล้วก็ตาม เด็กก็สามารถหลับต่อได้เองด้วยสิ่งที่เราเรียกว่า ที่เค้าคุ้นเคยนั่นเอง
ถึงเวลานอน ปิดไฟมืดเงียบ กินให้อิ่มในช่วงเวลาสัญญาณหิว-ง่วงพอเหมาะ อิ่มแล้ววางลง หากนอนร่วมอยู่ใกล้ให้ความอุ่น หากนอนแยกเอาลงเตียงก่อนหลับ ร้องไห้ รีเช็คความไม่สบายตัวของลูกและแก้ไขให้หมด แก้เสร็จยังร้องไห้ก็ปลอบกล่อมในความมืดสงบ
ไม่มีคำว่า "ตื่นแน่นอน"
ลูกขยับตัวตอนกำลังจะเข้าสู่การนอนหลับคือเรื่องปกติจ้ะ
#หยุดจ้องลูกแล้วสอนให้ลูกนอนเป็น
#หยุดจ้องดูมือแบกำแขนขาตก
สวัสดี
#หมอวินเพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ
ปล. สั่งหนังสือของหมอวินทั้ง 5 เล่มได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำ หรือที่
อินบอกซ์ http://m.me/tamjaimorbooks
หรือ https://tamjaimorbooks.page365.net/
A. เลี้ยงลูกให้กินง่าย แก้ไขเด็กกินยาก * ((เล่มล่าสุด))
B. อย่าปล่อยให้พ่อแม่รังแกฉัน (การเลี้ยงลูกเชิงบวก)
C. เลี้ยงลูกทางสายกลาง (คู่มือการดูแลเด็กเล็ก)
D. เส้นทางสายนมแม่
E. เลี้ยงลูกให้ไกลโรค (ความรู้เรื่องสุขภาพ อาการ โรคและยาในเด็ก)