23/06/2021
เคยพิมพ์ไว้ในเฟสตัวเอง ตอนต้นปี 2018…
📝 บันทึกอาการและขั้นตอนการตรวจพบมะเร็ง ...เนื่องจากมีหลายคนถามว่าอาการก่อนเจอมะเร็งที่ลำไส้เล็กเป็นยังไง และตรวจยังไงถึงรู้ว่าเป็นมะเร็ง
ยาวและละเอียดหน่อยนะคะ #คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ให้หลายๆคนได้สังเกตตัวเองดูบ้าง
(แต่ก่อน เข้า รพ บ่อยมากช่วงปี 2015-2016 ด้วยอาการอาเจียนหนักมากหลังกินอาหารกลางวันหรือเย็น หนักมากคือเป็น 10 ครั้งจนออกมาเป็นสีเขียว ซึ่งคือน้ำย่อย เข้ารพ หลายครั้ง หลายรพ ทุกหมอสันนิฐานว่าอาหารเป็นพิษ หรืออาจเป็นกระเพาะอาหาร เพราะเคยส่องกล้องเจอแผลเล็กๆในกระเพาะ แต่ปี 2017 แทบไม่ได้เข้ารพเลย เพราะถ้ามีอาการจะอาเจียน จะกินยาอลัมมิว หรือยาลดกรดเป็นขวดๆ แล้วอาการก็ดีขึ้น)
▶️ เริ่มจากเสาร์ที่ 20 มค 2018 กินชาบูนางในตามปกติที่ชอบกิน กินหมูสันคอและผักต่างๆเยอะมาก แล้วอาทิตย์ที่ 21 มค ‼️ท้องอืดมาก แน่นท้อง นึกว่าอาหารไม่ย่อย กินแอร์เอ็ก แต่ยังรู้สึกท้องอืดไปเป็นอาทิตย์
▶️ จากนั้นศุกร์ที่ 26 มค เป็นไข้ ท้องเสีย นึกว่าประจำเดือนมา แล้วเป็นไข้ทับฤดู แต่เสาร์ที่ 27 มค ยังถ่ายท้อง ไม่สบายตัว มีไข้ เลยไปหาหมอที่พญาไท 1 บอกตรวจเลือด เห็นว่ามีติดเชื้อเล็กน้อยที่เม็ดเลือดขาว น่าจะเป็นไวรัสโรต้า เลยให้ยาฆ่าเชื้อมากิน จากนั้นไข้ดีขึ้น ไม่ท้องเสีย ‼️แต่มีปัญหาที่ท้องอืด ถ่ายไม่ค่อยออก คือถ่ายเป็นก้อนเล็กๆ หรือเป็นเส้นๆเล็กๆ ซึ่งรู้สึกว่าผิดปกติมากๆ และเคยอ่านเจออาการประมาณนี้ว่าน่าจะไม่โอเคเท่าไหร่
▶️ พุธที่ 31 มค เป็นวันที่ท้องอืด ถ่ายไม่ออกหนักขึ้น คิดว่าเป็นเพราะกินยาฆ่าเชื้อเพราะเป็นไข้และท้องเสีย ประมาณ 6 โมงเช้า ก้อพยายามกดท้องน้อยตัวเองเพื่อให้รู้สึกอยากถ่ายท้อง ‼️‼️คลำไปมาตอนนอนหงายอยู่ ก้อคลำเจอก้อนที่ท้องด้านขวา ถัดไปจากสะดือนิดประมาณ 2 นิ้ว ต้องกดลึกลงไปประมาณนึงเลยถึงจะเจอ ตอนคลำรู้สึกว่าก้อนขนาดประมาณลูกปิงปองแต่ยาวๆหน่อย‼️‼️ ลองหาข้อมูลในเน็ตแล้วนั่งร้องไห้ 😭 เพราะกลัวโดนผ่าตัดคิดว่าเป็นก้อนเนื้อ (ไม่ได้คิดไปไกลถึงมะเร็งเลย) พอคิดไปมาก้ออาจจะเป็นก้อนอุจจาระ เลยใจเย็นลง
▶️ พฤที่ 1 กพ ไปหาหมอ รพ พญาไท หมอคลำดูบอกว่าอาจจะเปนก้อนอุจจาระหรือก้อนเนื้อก้อได้ จะให้อัลตร้าซาวดู แต่ในใจคิดว่าเป็นก้อนอุจจาระ ปรึกษาหมอและลองเอายาระบายกลับมากินไปก่อน กินยาถ่ายไปกลางวันและเย็น ถ่ายออกมาก้อไม่เยอะอยู่ดี
2-4 กพ ไปทริปกระบี่กับบริษัท กินยาถ่ายไปด้วย ลุ้นไปให้ถ่ายออกมาให้หมดก้อน่าจะไม่มีก้อน เที่ยวไปกังวลไป ท้องอืดๆบวมๆทุกวัน สรุปก้อนก้อยังอยู่ และรู้สึกเหมือนจะคลำเจอง่ายขึ้น
✳️ วันจันที่ 5 กพ รีบมาหาหมอที่รพ พญาไทอีกครั้ง หมอให้อัลตร้าซาวดู สรุปว่าเป็นก้อนเนื้ออะไรซักอย่าง ไม่ใช่ก้อนอุจจาระแน่ๆ เลยให้แอดมิทแล้วทำ CT Scan ตอนบ่าย 3:30 ตอนนั้นกลัวมากๆจินตนาการไปไกลเลย ร้องไห้อย่างเดียว ทำไรไม่ถูก พอเข้าห้องสแกน โดนเจาะเข็มขนาดใหญ่กว่าปกติเจ็บมากกก เพื่อฉีดสีเข้าเส้นเลือด แล้วสายยางสวนก้น เพื่อเอาน้ำเข้า ตอนนั้นในห้องมีเครื่องวงกลมใหญ่ๆ ห้องหนาวมาก ใจก้อกลัวมากๆ แต่สุดท้ายก้อผ่านมากได้
‼️ ผลจาก CT scan พบก้อนขนาด 10 ซม. ที่ลำไส้เล็กส่วนกลาง (Jejunum) สันนิฐานมา 3 อย่างคือ มะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และก้อนเนื้อชนิดนึงเรียกกว่า Gist
❌หมอที่พญาไท 1 แนะนำให้ส่องกล้อง แล้วผ่าตัดวันพุธเลย แต่ถามรายละเอียดคือ กล้องที่ส่องเข้าไปจะไม่เห็นก้อนเนื้อ เพราะมันสั้น จะส่องทางปากและทางทวารเพื่อเช็คดูเฉยๆว่ามีอะไรผิดปกติอีกมั้ย ส่วนการผ่าตัดจะเป็นแบบเปิดหน้าท้อง เพราะก้อนใหญ่มาก ส่องกล้องผ่าตัดไม่ได้
✅ จากนั้นได้โทรปรึกษาหลายคน ได้ข้อมูลและความช่วยเหลือจากพี่ที่เป็นหมอด้านช่องท้อง แนะนำให้ไปรพ จุฬา เนื่องจากมีอุปกรณ์ และแพทย์เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง พี่เค้าช่วยนัดหมอที่รู้จักให้ทันที
▶️ วันอังคารที่ 6กพ เข้าพบหมอที่จุฬา คุณหมอแนะให้ส่องกล้อง โดยกล้องที่จุฬามีแบบยาว ซึ่งสามารถส่องไปถึงลำไส้เล็กได้ (กล้องปกติจะส่องถึงแค่กระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ เวลาส่องกล้องตรวจคราวก่อน จึงไม่เคยเจอความผิดปกติในลำไส้เล็กเลย❗️) จากนั้นหมอให้กินยาถ่ายเย็นวันพุธ เพื่อเตรียมตัวส่องกล้องวันพฤเลย คิวได้เร็วมากๆ
▶️ วันพฤ 8 กพ ตื่น 6:30 มาอาบน้ำเตรียมตัว ไหว้เจ้า ขอให้ทุกอย่างราบรื่น แล้วมาที่รพ จุฬา มานั่งรอคิว กลัวมาก เพราะเค้าบอกว่าเป็นการส่องกล้องแบบยาวพิเศษ อาจจะมีความเสี่ยงเรื่องเลือดออก หรือลำไส้ทะลุได้ ได้คิว 8:30 มาเตรียมตัวเจาะสายน้ำเกลือ พอได้เข้าห้อง 9:30 ก้อกลัวมากๆ คิดในใจอย่างเดียวว่าเดี่ยวหลับแล้วก้อตื่นมา ก้อไม่มีอะไรแล้ว หมอในห้องเยอะมากๆ พยาบาลใจดีคอยให้กำลังใจตลอด พยาบาลบอกว่ากำลังให้ยานอนหลับ จากนั้นให้กัดพลาสติกไว้เปิดปาก แล้วนอนไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีอยู่ในโซนพักฟื้น พยาบาลเรียกบอกว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย เหมือนแค่หลับแล้วตื่นมาอีกทีก็ 10:45 นั่งรอห้องพักที่หมอจองไว้ให้จนถึง 14:30 หลังจากนั้นให้แม่ไปเดินเรื่องทำเรื่องติดต่อขอห้องพักตามระบบ รพ รัฐ หมอให้ค้างคืนเนื่องจากเป็นการส่องกล้องแบบพิเศษ ต้องคอยสังเกตอาการผิดปกติอีก 1 วัน
⭕️ วันอังคาร 13 กพ พบหมอเพื่อสรุปเรื่องผลชิ้นเนื้อและการรักษาต่อ หมอไม่ได้บอกอะไรมาก แค่บอกให้ผ่าตัดเนื้อร้ายทิ้ง แต่สรุปคือเป็นมะเร็งที่ลำไส้เล็กชนิด Adenocarcinoma with ring cell feature (poorly differentiated) แต่หมอไม่สามารถบอกระยะขั้นของมะเร็งได้ ต้องผ่าตัดเอาก้อนเนื้อมาวิเคราะห์อีกที (หมอบอกว่ามะเร็งไม่ใช่โรคที่บอกสาเหตุได้ แต่สันนิฐานว่าน่าจะมีอาการมาระยะนึงแล้ว ตั้งแต่ตอนอาเจียนหนักๆปีก่อนๆ)
▶️ วันพุธที่ 14 กพ พบหมอศัลย์ที่จุฬา หมอเก่งมากอธิบายเรื่องการผ่าตัดได้เห็นภาพ และสามารถส่องกล้องผ่าตัดได้ หมอเช็คคิวผ่าตัดที่จุฬาได้อีกทีกลางเดือนมีนาคม ซึ่งส่วนตัวคิดว่าไม่อยากรอ เพราะรู้สึกว่าคลำก้อนเจอง่ายขึ้นทุกวัน (วิตกกังวลไปเอง) เช็คข้อมูลไว้แล้วว่าหมออยู่บำรุงราษด้วย เลยไปพบหมอวันรุ่งขึ้นเลย เช็คคิวที่บำรุงราษ ได้วันอาทิตย์ที่ 18 กพ จึงตัดสินใจผ่าทันที
▶️ วันที่ 18 กพ ประสบการณ์การผ่าตัดครั้งแรก กลัวและนอยมาก แต่พอได้ยาสลบก็หลับไปเลยตอน 1 ทุ่มกว่า ตื่นมาอีกทีเกือบเที่ยงคืน เจ็บแผลมาก ร้องโวยวายขอยา แล้วหลับไป ตื่นมาอีกทีก็ดีขึ้น ฟื้นตัวเร็ว เดินได้ตอนเย็น ถอดสายปัสสาวะออก ขับถ่ายทุกอย่างได้ปกติทันที
⭕️ สรุป หมอตัดลำไส้เล็กตอนบนและตอนกลางไป 25 ซม ซึ่งต้องผ่าตัดให้เกินก้อนเนื้อขนาด 10x5x4.5 ซม ออกไปอีก เพื่อป้องกันมะเร็งที่อาจจะกินไป และตัดต่อมน้ำเหลืองไปอีก 17 ต่อมที่อยู่ใกล้ๆกับก้อนเนื้อ ตอนจะเอาก้อนเนื้อออกมา ต้องกรีดแผลให้ใหญ่ถึง 7 ซม (กับอีก 2 รูเล็ก) จากที่ตอนแรกหมอบอกว่าน่าจะแค่ 1-2 ซม 3 จุด เนื่องจากขนาดใหญ่กว่าที่หมอคาดไว้เยอะ
🔸ผลคือ เป็นมะเร็งลำไส้เล็ก ระยะที่ 2 เพราะว่าขนาดใหญ่มาก แต่มะเร็งยังไม่ลามเข้าต่อมน้ำเหลืองเลย ถ้าลามไปต่อมน้ำเหลืองจะกลายเป็นระยะ 3-4 หมอบอกว่าโชคดีมากที่เจอได้เร็ว ก่อนจะลามเข้าต่อมน้ำเหลือง เป็นเพราะคลำเจอก้อนเนื้อเองได้ เก่งมากๆ เพราะคนทั่วไปปกติจะไม่สามารถคลำเจอก้อนเนื้อที่ลำไส้เล็กเองได้ คนเป็นมะเร็งลำไส้เล็กส่วนใหญ่จะรักษาไม่ทัน และลามไประยะ 3-4 แล้ว
❗️หมอศัลย์ให้ดูภาพก้อนเนื้อที่ตัดออก และอธิบายว่า ของเราเป็นมะเร็งที่ผนังลำไส้เล็ก ไม่ใช่ในลำไส้เล็ก ถ้าเป็นในลำไส้บางคนจะมีอาการเลือดออกพร้อมอุจจาระ หรือถ่ายไม่ออกมาระยะนึงเลย เพราะงั้นบางคนอาจจะรู้เร็วกว่านี้ได้ถ้าสังเกตอาการดีๆ แล้วส่องกล้องแบบยาวร่วม (แต่หมอส่วนใหญ่จะสันนิฐานให้ส่องกล้องแบบธรรมดา ซึ่งมักไม่เจอสาเหตุจริงๆ เลยรักษาไม่ตรง)
✅ สรุปหมอแนะนำให้ทำคีโม เนื่องจากชนิดมะเร็งที่เป็นดูไม่น่าไว้ใจ และก้อนมะเร็งมีไปติดกับลำไส้เล็กส่วนปลายและลำไส้ใหญ่ด้วย แต่หมอเลาะพังผืดให้หมดแล้ว แต่อาจจะมีเซลที่ยังหลงเหลือ
✳️ แนะนำให้คอยสังเกตตัวเองนะคะ เจออะไรผิดปกติให้ตรวจให้ละเอียด เพราะถ้าเจอเร็ว โอกาสในการรักษาให้หายขาดได้ก็สูงกว่าค่ะ 😊