ดีคอนแทค ฟื้นฟูดวงตา D-Contact

ดีคอนแทค ฟื้นฟูดวงตา D-Contact ดี-คอนแทค เอ็กซ์ (D-CONTACT X) ดูแลดวงตา

ขนาดบรรจุ : 1 กล่อง 3 แผง แผงละ 10 แคปซูล รวม 30 แคปซูล
เลขสารบบ อย. : 10-1-15456-5-0042
วิธีรับประทาน : วันละ 1-2 แคปซูล หลังอาหารเช้า-เย็น

เห็นแสงวาบในลูกตา⚡ อาการที่ไม่ควรมองข้าม‼️การที่บางคนรู้สึกเห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบหรือแฟลชจากกล้องถ่ายรูป (Flashing) ทั้งท...
01/12/2025

เห็นแสงวาบในลูกตา⚡ อาการที่ไม่ควรมองข้าม‼️
การที่บางคนรู้สึกเห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบหรือแฟลชจากกล้องถ่ายรูป (Flashing) ทั้งที่จริงแล้วไม่มีนั้น เป็นอาการที่เราไม่ควรมองข้ามหรือปล่อยเอาไว้ เพราะอาจเป็นอาการเตือนของ #โรคจอประสาทตาฉีกขาดหรือหลุดลอก ซึ่งอาจมีผลต่อการมองเห็นระยะยาวได้

เรามาทำความรู้จักกับวุ้นลูกตาและจอประสาทตากันก่อน
ตาของคนเราเปรียบเสมือนกับลูกมะพร้าว โดยที่วุ้นลูกตา (Vitreous) จะเปรียบเหมือนน้ำมะพร้าวที่อยู่ตรงกลาง (แต่เป็นวุ้นแทนที่จะเป็นน้ำ) ซึ่งมีปริมาตรคิดเป็น 2 ใน 3 ของดวงตาทั้งหมด และจอประสาทตา (Retina) จะเปรียบเหมือนเนื้อมะพร้าวที่ฉาบอยู่กับกะลามะพร้าว โดยจอประสาทตาจะทำหน้าที่คอยรับแสงและเปลี่ยนเป็นสัญญาณประสาทเพื่อให้สมองแปลออกมาเป็นภาพ ซึ่งตามปกติแล้วผิวด้านหลังของวุ้นลูกตาจะมีแรงยึดติดกับจอประสาทตาเอาไว้บางส่วน
แต่พอเราอายุมากขึ้น วุ้นลูกตาจะเกิดการเสื่อมและกลายสภาพจากวุ้นไปเป็นของเหลวและมีการหดตัว โดยกระบวนการดังกล่าวจะทำให้เกิดการลอกตัวของวุ้นลูกตาออกจากจอประสาทตา ซึ่งขั้นตอนนี้ล่ะครับบางครั้งอาจจะเกิดแรงดึงบนจอประสาทตาและทำให้เรามีอาการเห็นแสงวาบหรือฟ้าแลบได้

แล้วอาการเห็นแสงวาบหรือแสงฟ้าแลบ น่ากลัวตรงไหน ⁉️
มาถึงตรงนี้ คงเข้าใจแล้วว่าทำไมคนไข้ที่มีวุ้นตาเสื่อมและมีแรงดึงบนจอประสาทตา มักจะเห็นแสงวาบหรือฟ้าแลบ โดยบางครั้งแรงที่ดึงอาจมากจนทำให้จอประสาทตาฉีกขาดเป็นรูได้ ทั้งที่ไม่มีความรู้สึกเจ็บแต่อย่างใด นอกจากนี้จอประสาทตาที่เป็นรูยังอาจเกิดการหลุดลอกออกมา ทำให้เรามองเห็นเป็นเงาหรือม่านดำมาบังภาพเอาไว้ ซึ่งโรคจอประสาทตาหลุดลอกนั้นจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดและอาจมีผลต่อการมองเห็นในระยะยาวได้

แล้วการตรวจตั้งแต่เริ่มมีอาการ มีประโยชน์อย่างไร ⁉️
คนไข้ที่มีอาการเห็นแสงวาบ หากรีบมาตรวจและพบว่าจอประสาทตาฉีกขาดหรือเป็นรูโดยที่ยังไม่มีการลอกตัวของจอประสาทตาเกิดขึ้น ส่วนใหญ่แพทย์จะสามารถยิงเลเซอร์ล้อมรอบรอยฉีกขาดบนจอประสาทตา เพื่อช่วยป้องกันการลอกตัวของจอประสาทตาเอาไว้ได้ โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว หากมีอาการเห็นแสงวาบในลูกตา จึงไม่ควรปล่อยเอาไว้ ควรให้ความสนใจและรับการตรวจสุขภาพดวงตาและจอประสาทตาโดยจักษุแพทย์ เพื่อที่จะได้รับคำแนะนำหรือการรักษาที่รวดเร็ว ก่อนที่จะต้องสูญเสียการมองเห็น

เพราะอะไร⁉️ "ดีคอนแทค" ถึงเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับดูแลดวงตาที่คนส่วนใหญ่เลือก✅เพราะ "ดีคอนแทค" มีส่วนประกอบของสารอา...
30/11/2025

เพราะอะไร⁉️ "ดีคอนแทค" ถึงเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับดูแลดวงตาที่คนส่วนใหญ่เลือก✅

เพราะ "ดีคอนแทค" มีส่วนประกอบของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตาโดยเฉพาะ
🔸 บำรุงระบบดวงตา และการมองเห็น
🔸 บำรุงจอประสาทตา
🔸 ช่วยให้การมองเห็น แจ่มชัดขึ้น
🔸 ชะลอความเสื่อมเยื่อบุดวงตา
🔸 เพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงดวงตา ลดอาการตาแห้ง เคืองตาอักเสบ
🔸 บำรุงเลนส์ตา
🔸 ลดความขุ่นมัวเลนส์ตา

ส่วนประกอบที่สำคัญใน 10 ชนิด
1.YeastBeta-Glucan (เบต้า-กลูแคนจากยีสต์ 85%) 100 mg/มก.
2.Bilberry extract (สารสกัดจากบิลเบอร์รี่) 100 mg/มก.
3.Blueberry extract(สารสกัดจากบลูเบอร์รี่) 50 mg/มก.
4.Cranberry extract(สารสกัดจากแครนเบอร์รี่) 50 mg/มก.
5.Ascobic acid(กรดแอสคอร์บิก) 50 mg/มก.
6.Marigold extract (สารสกัดจากดอกเรือง) 40 mg/มก.
7.Beta-Carotene 10% (บีต้า-แคโรทีน 10%) 15 mg/มก.
8.Centella asiatica extract(สารสกัดจากใบบัวบก) 11 mg/มก.
9.Vitamin A acetate(วิตามินเอ อะซีเทต) 4 mg/มก.
10.Vitamin B12(วิตามิน บี12) 0.002 mg/มก.

✨ดี-คอนแทค เอ๊กซ์✨ (D-CONTACT X) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับดูแลและฟื้นฟูดวงตา
👉จัดจำหน่ายมาแล้วเข้าสู่ปีที่ 16
👉ไม่มีผลข้างเคียงด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 10 ชนิด
👉ได้มาตรฐาน GMP.
👉มีอย.10-1-15456-5-0042
ขนาดบรรจุ : 1 กล่อง มี 3 แผง แผงละ 10 เม็ด รวม 30 เม็ด
💊💊วิธีรับประทาน : วันละ 1-2 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
🛒 ราคา กล่องละ 1,260 บาท
🚛🚛จัดส่งฟรี
💰💰มีบริการเก็บเงินปลายทาง
✅ สั่งซื้อจากเพจนี้ ได้รับสินค้าของแท้ 💯% ส่งตรงจากบริษัท

สนใจปรึกษาและสั่งซื้อ ได้ที่
📞 065-825-4428
🙏ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ🙏

29/11/2025

✨รีวิวจากลูกค้า✨ ทานแล้วสุขภาพดวงตาดีขึ้น ด้วย "ดี-คอนแทค เอ๊กซ์" (D-CONTACT X)
#ตาพร่ามัว #มองไม่ชัด #ตาแห้ง #แสบตา #น้ำตาไหล เป็นต้อ #ต้อลม #ต้อเนื้อ #ต้อกระจก #ต้อหิน มองเห็นจุดดำหรือหยากไย่ลอยไป-มา #วุ้นในตาเสื่อม #จอประสาทตาเสื่อม #เบาหวานขึ้นตา
✨ทานครั้งละ 1-2 เม็ด✨ หลังอาหารเช้า-เย็น ❌ปัญหาเหล่านี้ ✅ดีขึ้น👍

🔥"ดี-คอนแทค เอ๊กซ์"🔥 (D-CONTACT X) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับดูแลและฟื้นฟูดวงตา
👉จัดจำหน่ายมาเข้าสู่ปีที่ 16
👉ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 10 ชนิด
👉ได้มาตรฐาน GMP.
👉มีอย.10-1-15456-5-0042

ขนาดบรรจุ : 1 กล่อง มี 3 แผง แผงละ 10 เม็ด รวม 30 เม็ด
วิธีรับประทาน : วันละ 1-2 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
ราคากล่องละ 1,260 บาท

🛒สั่งซื้อจากเพจนี้ ได้รับสินค้าของแท้ 💯% ส่งตรงจากบริษัท
🚛🚛จัดส่งฟรี
💰💰มีบริการเก็บเงินปลายทาง

ปรึกษาและสอบถาม ได้ที่
📞 065-825-4428
🙏ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ🙏

รู้หรือไม่⁉️ ว่าการสู้แดดนานๆนั่นย่อมส่งผลเสียต่อร่างกาย ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ "ผิว" เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้...
15/11/2025

รู้หรือไม่⁉️ ว่าการสู้แดดนานๆนั่นย่อมส่งผลเสียต่อร่างกาย ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ "ผิว" เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายดวงตาของเราได้อย่างคาดไม่ถึง และคนส่วนใหญ่ก็มักจะลืมไปว่า "ดวงตา" ของเรานั้นบอบบางกว่าผิวหนังมาก ซึ่ง "ทุกครั้งที่ดวงตาสัมผัสกับแสงแดดก็จะถูกทำร้ายจากรังสีอัลตร้าไวโอเลตหรือรังสียูวีโดยตรง" ซึ่งรังสียูวีแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ รังสียูวีเอ (UVA) และ รังสียูวีบี (UVB) ซึ่งแม้สัมผัสในระยะเวลาสั้น ๆ ก็สามารถก่อให้เกิดความบกพร่องทางสายตาได้ และยังเร่งการเสื่อมสภาพของสายตาไปจนถึงโรคตาที่ค่อนข้างรุนแรง

🔥5 โรคตาเมื่อสัมผัสยูวี🔥
👉 "โรคต้อลม" เกิดจากการสัมผัสรังสียูวี ซึ่งกระตุ้นการแตกหักของเนื้อเยื่อคอลลาเจนในเยื่อบุตาขาว ทำให้เยื่อบุตาเสื่อมสภาพและหนาตัวขึ้น ส่วนใหญ่ในระยะเริ่มแรกมักไม่มีอาการชัดเจน แต่เมื่อต้อลมมีขนาดใหญ่หรืออักเสบ อาจเกิดอาการเคืองตา แสบตา น้ำตาไหล หรือตาแดงได้
👉 "โรคต้อเนื้อ" อีกหนึ่งปัจจัยก่อโรคที่สำคัญก็คือการสัมผัสรังสียูวี ในแสงแดดเป็นประจำ จัดอยู่ในกลุ่มโรคเยื่อบุตาเสื่อมสภาพเช่นเดียวกับต้อลม โดยในต้อเนื้อนั้น เยื่อบุตาจะหนาตัวมากขึ้นรวมถึงมีเนื้อเยื่อและเส้นเลือดเกิดมากขึ้น กลายเป็นเนื้อเยื่อแดงๆ อยู่บนตาดำ ซึ่งถ้าต้อเนื้อมีขนาดใหญ่หรือหนามากจนปกคลุมกระจกตาก็อาจส่งผลต่อการมองเห็น และต่อความโค้งของตาดำจากสิ่งแปลกปลอมในดวงตาได้
👉 "โรคต้อกระจก" แม้โรคนี้พบมากในผู้สูงอายุเนื่องจากการเสื่อมของเลนส์แก้วตาตามธรรมชาติ แต่การสัมผัสรังสียูวีเอ (UVA) ในแสงแดดแป็นเวลานานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับโมเลกุล ทำให้เลนส์แก้วตาเสียสภาพความใสไป เมื่อเลนส์ขุ่นย่อมทำให้การมองเห็นลดลง ดังนั้นโรคต้อกระจกจึงสามารถเกิดขึ้นในวัยหนุ่มสาวได้เช่นเดียวกัน
👉 "โรคจอประสาทตาเสื่อม" ซึ่งรังสียูวีบี (UVB) เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อการเสื่อมของจุดศูนย์กลางภาพจอประสาทตา โดยรังสียูวีบีจะเข้าไปลดความเข้มข้นของสารสี เกิดเป็นปัจจัยเสี่ยงให้จอประสาทตาเสื่อมเร็วขึ้น
👉 "โรคมะเร็ง" การอยู่กลางแดดนานๆ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของมะเร็งบริเวณเปลือกตา เพราะเกิดการกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีเมลานินบริเวณเปลือกตา ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา และมะเร็งผิวหนังบริเวณเปลือกตา

💥วิธีปกป้องดวงตาจากแสงแดด
✅ สวมแว่นตาที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวี วิธีการป้องกันดวงตาจากแสงแดดที่ดีที่สุดคือการสวมแว่นที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้น ควรเลือกซื้อแว่นตาจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
✅ รับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ เพิ่มความแข็งแรงให้ดวงตา การเลือกทานผักผลไม้ที่มีวิตามินต่างๆ และสารต้านอนุมูลอิสระเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะวิตามินเอซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเซลล์จอประสาทตาช่วยให้จอประสาทตาทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งอาหารที่มีวิตามินเอสูง อาทิ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว ผลไม้เนื้อสีเหลืองและสีส้ม รวมถึงผลิตภัณฑ์นม ไข่แดง ตับหมูและตับวัว
✅ การตรวจคัดกรองความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคตา นอกจากการดูแลดวงตาทั้งภายนอกและภายในแล้ว การตรวจคัดกรองความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคตาเป็นประจำทุกปี ก็ช่วยให้เราสามารถดูแลรักษาได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตาขึ้น

เพราะดวงตาของคนเราไม่ได้มีอะไหล่เปลี่ยน ฉะนั้นการถนอมดวงตา ดูแลและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะ "แสงแดด" ย่อมจะช่วยยืดอายุของ "ดวงตา" ของเราให้นานยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

ที่มา : Healthy Clean

" ภาวะเสี่ยง ‼️ ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก ต้อหิน เบาหวานขึ้นตา จอประสาทตาเสื่อม" แนะนำทาน "ดีคอนแทค เอ๊กซ์" เพื่อช่วยฟื้นฟ...
14/11/2025

" ภาวะเสี่ยง ‼️ ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก ต้อหิน เบาหวานขึ้นตา จอประสาทตาเสื่อม"
แนะนำทาน "ดีคอนแทค เอ๊กซ์" เพื่อช่วยฟื้นฟู บำรุงดวงตา และลดการภาวะเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดกับดวงตา เนื่องจากการทำงาน ใช้สายตาหนัก โรคประจำตัว เบาหวานขึ้นตา เป็นต้น

D Contact X (ดีคอนแทค เอ๊กซ์) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดูแลดวงตา บำรุงและฟื้นฟูดวงตา ลดอาการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา ลดการเสี่ยงเกิดโรคต้อ #ต้อลม #ต้อเนื้อ #ต้อกระจก #ต้อหิน ตาพร่ามัว มองไม่ชัด แสบตา คันตา ระเคืองตา แพ้แสง น้ำตาไหล ให้ดีคอนแทคดูแลสุขภาพดวงตาได้เลยนะคะ

จัดจำหน่ายมาเข้าสู่ปีที่ 16 มั่นใจได้ค่ะ
✦ สั่งซื้อ/ปรึกษาฟรี✦
🚚 จัดส่งฟรี
💰 มีบริการเก็บเงินปลายทาง
☎️ 065-825-4428
ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
🛒 ราคา กล่องละ 1,260 บาท มี 30 เม็ด

เช็กด่วน! 5 โรคตา พบมากในผู้สูงอายุ 👴👵🧑‍⚕️กรมการแพทย์เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุในปี 2568 แล้วย...
13/11/2025

เช็กด่วน! 5 โรคตา พบมากในผู้สูงอายุ 👴👵

🧑‍⚕️กรมการแพทย์เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุในปี 2568 แล้วยังพบว่า มีผู้สูงอายุกว่าร้อยละ 70 ที่สายตาไม่ดี การมองเห็นไม่ชัดเจนเกิดภาวะสายตาเลือนรางหรืออาจตาบอด ถ้าไม่ได้รับการรักษาแต่แรก ซึ่งโรคตาที่พบมากในผู้สูงอายุ มี 5 โรคดังนี้

👁️ ต้อกระจก
เกิดจากเลนส์แก้วตาขุ่น ทำให้แสงผ่านเข้าไปในตาได้น้อยลง ผู้ป่วยต้อกระจกจะมีอาการตามัว เห็นภาพซ้อน ตาสู้แสงไม่ได้

👁️ ต้อหิน
เกิดจากความดันในลูกตาที่สูงขึ้นจน มีการทำลายประสาทตา ผู้ป่วยจะเริ่มสูญเสียลานสายตา คือการมองเห็นจำกัดวงแคบลงจากด้านข้างเข้ามาตรงกลางเรื่อยๆ และสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร

👁️ จุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม จอประสาทตาเสื่อม
เกิดจากภาวะเสื่อมของบริเวณจุดภาพชัดที่อยู่ส่วนกลางของจอตา ทำให้การมองเห็นส่วนกลางของภาพมัวลง เริ่มต้นอาจไม่มีอาการ แต่ต่อมาเมื่อจอตาเสื่อมมากขึ้น จะมีอาการตามัว เห็นภาพบิดเบี้ยว เห็นจุดดำอยู่กลางภาพ

👁️ ภาวะเบาหวานขึ้นจอตา
เกิดจากการที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ ส่งผลให้ผนังหลอดเลือดฝอยเสื่อมทั่วร่างกาย รวมทั้งหลอดเลือดที่จอตา ทำให้เลือดและสารต่างๆรั่วซึมออกมา ระยะแรกมักไม่มีอาการ แต่ตรวจตาพบจุดเลือดออกที่จอตา หากมีอาการตามัวแสดงว่าเบาหวานขึ้นจอตาเป็นมากแล้ว ผู้ป่วยเบาหวานทุกคนควรต้องตรวจตาโดยจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง

👁️ ภาวะสายตายาว
เกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ทําให้การมองเห็นไม่ชัดเจน ผู้ป่วยจะมองหรืออ่านเขียนหนังสือ ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ระยะใกล้ๆไม่ชัดเจน ต้องถือหนังสือห่างๆ ทำงานระยะห่างๆ บางคนอาจมีตาพร่า หรืออาการปวดตา มักเริ่มมีอาการเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากความสามารถและช่วงในการเพ่งปรับสายตาลดลง เนื่องจากเลนส์แก้วตาแข็งตัวขึ้น และการทํางานของกล้ามเนื้อตาลดลง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมการแพทย์

🚨6 เคล็ดลับดูแลสุขภาพดวงตาผู้สูงอายุ🚨อายุที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อการมองเห็นของดวงตา ที่อาจมีการมองเห็นไ...
12/11/2025

🚨6 เคล็ดลับดูแลสุขภาพดวงตาผู้สูงอายุ🚨
อายุที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อการมองเห็นของดวงตา ที่อาจมีการมองเห็นไม่ชัดเจน โดยอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย อาทิ วัยที่เพิ่มขึ้นก่อให้เกิดความเสื่อมต่างๆ ของร่างกายและดวงตา รูปแบบการดำเนินชีวิตที่ก่อให้เกิดโรคนั้นๆ อุบัติเหตุ กรรมพันธุ์ หรืออื่นๆ โดยการเฝ้าระวัง หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ หรือป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีส่วนช่วยดูแลป้องกันสุขภาพดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🔆1. ตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำทุกปี
ดวงตาเป็นหนึ่งอวัยวะที่ซับซ้อน และอาการระยะเริ่มแรกมักไม่แสดงอาการ การเข้ารับการตรวจสุขภาพดวงตากับจักษุแพทย์ พร้อมเครื่องมือเฉพาะทาง จะช่วยให้จักษุแพทย์ค้นหาสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ด้านในของดวงตาที่ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าได้และยังไม่แสดงอาการ เพื่อป้องกันและรักษาได้ทันท่วงที
🔆2. หมั่นสังเกตอาการต่างๆ ที่ผิดปกติต่อดวงตา เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคต่างๆ ได้ดังนี้
2.1 ตาแห้ง
สามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย โดยอาจเกิดได้จากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การจ้องคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน การใช้ยาบางชนิด หรือการไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย เป็นต้น ซึ่งในผู้หญิงสูงวัยสามารถเกิดอาการตาแห้งได้จากภาวะการขาดฮอร์โมนเพศ จากการหมดประจำเดือน ส่งผลให้การผลิตน้ำตาน้อยลง โดยอาจส่งผลให้มีอาการเหล่านี้ ไม่สบายตา แสบร้อนดวงตา คันตา เคืองตา มีน้ำตาไหลมากผิดปกติ เป็นต้น สามารถแก้ไขเบื้องต้น โดยการป้องกันภาวะตาแห้งจากสภาพแวดล้อม ด้วยการสวมใส่แว่นตากันลม หรือหยอดน้ำตาเทียม กรณีรู้สึกตาแห้ง แต่หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบจักษุแพทย์
2.2 โรคต้อกระจก
เกิดจากเลนส์แก้วตามีการขุ่นตัว มักพบมากในผู้สูงอายุ โดยส่วนมากมักพบในอายุ 50 ปีขึ้นไป หากปล่อยไว้จะส่งผลเสียต่อการมองเห็นไปเรื่อยๆ โดยผู้ที่เป็นต้อกระจกส่วนมากมักจะมีอาการสายตามัวเหมือนมีฝ้าหรือหมอกบัง มองไม่ชัด มองเห็นสีต่าง ๆ ผิดเพี้ยนไปจากเดิม เป็นต้น ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาจักษุแพทย์ เพราะปัจจุบันมีวิวัฒนาการก้าวหน้า ในการรักษาโรคต้อกระจกด้วยการผ่าตัดสลายต้อกระจกด้วยเทคนิค "เฟโค" (Phacoemulsification) ที่ช่วยคืนการมองเห็นชัดเจน แผลเล็ก ไม่ต้องเย็บแผล ปลอดภัย
2.3 โรคจอประสาทตาเสื่อม
คือกระบวนการเสื่อม หรือถูกทำลายของจุดศูนย์กลางการรับภาพของจอประสาทตา โดยปัจจัยเสี่ยงเกิดได้จาก อายุ โดยพบมากในอายุ 65 ปีขึ้นไป เชื้อชาติ เพศ โดยพบมากในคนต่างชาติ ยุโรป อเมริกา และเพศหญิงที่มีอายุมากกว่า 60 ปี การสูบบุหรี่ โดยพบว่าผู้สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม ถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ ภาวะความดันโลหิตสูง โดยโรคจอประสาทตาเสื่อม แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
ชนิดแรก แบบแห้ง (Dry AMD)
เป็นชนิดที่พบมากที่สุด เกิดจาการเสื่อมและบางตัวลงของจุดศูนย์กลางการรับภาพของจอประสาทตา (Macular) อาการเริ่มต้นคือการมองเห็นภาพเบลอๆ ทำให้เห็นหน้าคนไม่ชัด หรือต้องใช้แสงสว่างมากขึ้นในการทำกิจกรรม หรือบางรายอาจมีอาการเริ่มจากตามัวเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อเวลาผ่านไปความสามารถในการมองเห็นจะค่อยๆ ลดลง และเป็นไปอย่างช้าๆ
ชนิดที่สอง แบบเปียก (Wet AMD)
พบประมาณ 10 – 15% ของโรคจอประสาทตาเสื่อมทั้งหมด แต่จะสูญเสียการมองเห็นอย่างรวดเร็ว และเป็นสาเหตุสำคัญของอาการตาบอด โรคศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อม เกิดจากมีหลอดเลือดผิดปกติงอกอยู่ใต้จอประสาทตา ทำให้เลือดและของเหลวที่อยู่ภายในไหลซึมออกมา เป็นผลให้จุดศูนย์กลางการรับภาพบวม ผู้ป่วยจะเริ่มมองเห็นภาพตรงกลางบิดเบี้ยว และเมื่อเซลล์ประสาทตาตาย ผู้ป่วยจะสูญเสียการมองเห็นในที่สุด อาการเริ่มต้น จะเริ่มเห็นเส้นตรงกลายเป็นเส้นโค้งบิดเบี้ยว เห็นภาพสีซีดจางกว่าปกติ และอาจเห็นจุดมืดดำที่ตรงกลางภาพ
🔆3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์สม่ำเสมอ
3.1 รับประทานผักผลไม้สม่ำเสมอ
การรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ และครบสารอาหาร 5 หมู่นั้น นอกจากจะให้สารอาหารครบถ้วนช่วยบำรุงร่างกายแล้ว ยังได้รับเกลือแร่และวิตามิน ช่วยส่งเสริมสุขภาพดวงตาและสายตาอาทิเช่น ซิงค์ วิตามินเอ วิตามินซี ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพดวงตาและสายตา
3.2 รับประทานปลาที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 (Omega 3)
จากการศึกษาพบว่า Omega 3 สามารถบรรเทาอาการตาแห้งได้ เนื่องจาก Omega 3 จะทำให้ต่อมไขมันบริเวณเปลือกตา ที่เรียกว่า Meibomian Gland ทำงานได้ดีขึ้น โดยทำหน้าที่ผลิตไขมันมาเพื่อเคลือบชั้นของน้ำตาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาระเหยเร็วจนเกินไป ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้
3.3 ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้ว ต่อวัน
การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายและดวงตา ไม่ขาดน้ำ และช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำตาได้เพียงพอ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันตาแห้ง
🔆4. สวมใส่แว่นตากันแดดทุกครั้งเมื่ออยู่กลางแจ้ง
แสงแดดเป็นอันตรายต่อสายตา เมื่อปล่อยให้ดวงตาสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นประจำ ซึ่งส่งผลเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก ควรสวมแว่นกันแดดทุกครั้งเมื่ออยู่กลางแจ้ง และควรเลือกสวมใส่แว่นตากันแดดที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสี UVA ได้อย่างน้อย 95% และ รังสี UVB ได้อย่างน้อย 99% ตามมาตรฐานขององค์กรอาหารและยาสหรัฐอเมริกา เพื่อป้องกันภัยร้ายจากแสงแดดต่อสุขภาพดวงตา
🔆5. การใช้น้ำตาเทียมให้เหมาะสม
เพื่อช่วยหล่อลื่นดวงตาให้ผิวดวงตาชุ่มชื้น จากอาการตาแห้ง ช่วยบรรเทาอาการแสบตา ระคายเคือง กระจกตาถลอก หรือลดการอักเสบของแผลที่กระจกตาจากอาการตาแห้งได้
🔆6. การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังช่วยส่งผลดีให้กับสุขภาพร่างกาย และจิตใจ รวมถึงลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน ไขมันและน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเป็นปัจจัยก่อให้เกิดโรคต่างๆ รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับดวงตา และยังเป็นหนึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดการสูญเสียต่อการมองเห็น เพราะฉะนั้น การออกกำลังกายอย่างพอเหมาะและสม่ำเสมอ จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคภัยต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตาได้
ที่มา : rutnin.com

สารสกัดหลักสำคัญ ‼️ ที่สกัดจากธรรมชาติ ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย สำหรับดูแลดวงตาที่พร่ามัว มองไม่ชัด เคืองตา เป็นต้อ  #ต้อล...
11/11/2025

สารสกัดหลักสำคัญ ‼️ ที่สกัดจากธรรมชาติ ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย สำหรับดูแลดวงตาที่พร่ามัว มองไม่ชัด เคืองตา เป็นต้อ #ต้อลม #ต้อเนื้อ #ต้อกระจก #ต้อหิน เบาหวานขึ้นตา มีจุดดำๆลอยไปลอยมา ‼️อย่าปล่อยไว้ ให้ดีคอนแทคดูแลนะคะ ช่วยให้การมองเห็นได้ชัดขึ้น ตาพร่ามัวลดลง ไม่แพ้แสง สุขภาพดวงตาดีขึ้นค่ะ ‼️

ปรึกษาและสั่งซื้อ ได้ที่
☎️ 065-825-4428
ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
🛒ราคา กล่องละ 1260 บาท มี 30 เม็ด
จัดส่งฟรี มีบริการเก็บเงินปลายทาง
รับประกันสินค้าของแท้จากสำนักงานใหญ่ค่ะ

💥"โรคจอประสาทตาเสื่อม" 💥เป็นโรคที่มีความผิดปกติเกิดขึ้นบริเวณจุดกลางรับภาพของจอประสาทตาพบมากในช่วงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไ...
28/10/2025

💥"โรคจอประสาทตาเสื่อม" 💥เป็นโรคที่มีความผิดปกติเกิดขึ้นบริเวณจุดกลางรับภาพของจอประสาทตาพบมากในช่วงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และเป็นหนึ่งสาเหตุสำคัญของการสูญเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุ ส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นเฉพาะตรงกลางภาพ โดยภาพด้านข้างจะยังเห็นได้ดีอยู่ เช่น คุณอาจเห็นขอบของนาฬิกา แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเวลาอะไร โรคจอ ประสาทตาเสื่อมจะไม่ทำให้การมองเห็นมืดสนิทไปทั้งหมด แม้แต่ในรายที่เป็นมากผู้ป่วยจะยังพอมองเห็นทางด้านขอบข้างของภาพ และสามารถช่วยเหลือดูแลตัวเองได้บ้าง
✅สาเหตุ ของโรคจอประสาทตาเสื่อม
มีหลายภาวะที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ เช่น คนที่มีสายตาสั้นมาก ๆ (Degenerative or Pathologic Myopia) หรือโรคติดเชื้อบางชนิด แต่สาเหตุส่วนใหญ่จะพบในผู้สูงอายุ จึงเชื่อว่าเป็นขบวนการเสื่อมสภาพของร่างกาย (Aging Process) แต่ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน ผลการศึกษาวิจัยจากหลายสถาบันพบว่า มีปัจจัยเสี่ยงหลายด้านที่ส่งผลต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมตามอายุ (Aged related macular degeneration) ได้แก่
👉อายุ พบโรคนี้ได้บ่อยขึ้นในคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
👉พันธุกรรม มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของคนที่เป็นโรคกับญาติสายตรง ผู้เกี่ยวข้องควรได้รับการตรวจเช็คจอประสาทตาทุกๆ 2 ปี
👉เชื้อชาติ/ เพศ พบอุบัติการของโรคมากที่สุดในคนผิวขาว (Caucasian) เพศหญิง อายุมากกว่า 60 ปี
👉บุหรี่ มีหลักฐานทางการศึกษาพบว่า การสูบบุหรี่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอย่างชัดเจน
👉ความดันเลือดสูง ผู้ป่วยที่ต้องทานยาลดความดันเลือด และมีระดับของไขมัน Cholesterol ในเลือดสูง และระดับ Carotenoid ในเลือดต่ำ มีความเสี่ยงสูงมากต่อการเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมแบบสูญเสียการมองเห็นอย่างรวดเร็ว (Wet AMD)
👉วัยหมดประจำเดือน ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่ไม่ได้รับประทานยาฮอร์โมน Estrogen พบว่าอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน
✅การรักษา ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาด แต่สามารถให้การดูแล รักษา เพื่อหยุดหรือชะลอการดำเนินโรคให้จอประสาทตาเกิดการภาวะเสื่อมช้าที่สุด
👉การรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อม ชนิดแห้ง ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมชนิดแห้งให้หายขาดได้ ทำได้เพียงการรักษาเพื่อป้องกันไม่ให้โรคลุกลามมากขึ้น หรือเพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมชนิดเปียก อีกทั้ง การเสื่อมของจอประสาทตายังดำเนินไปอย่างช้าๆ ดังนั้น ผู้ป่วยจึงสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยแนะนำให้มาตรวจเช็คสายตา และควบคุมปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวข้างต้นเพื่อป้องกันการเสื่อมของจอประสาทตา หรืออาจใช้อุปกรณ์ช่วยต่างๆ สำหรับผู้ที่มีปัญหาทางสายตา
👉การรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อม ชนิดเปียก การฉายแสงเลเซอร์ลงบนจอประสาทตา จะยับยั้งหรือชะลออาการผิดปกติของหลอดเลือดที่ทำให้เกิดเลือดออกใต้จอประสาทตาได้ หรือการใช้ยาฉีดเข้าในน้ำวุ้นตา แม้ว่าจะไม่สามารถทำให้การมองเห็นที่สูญเสียไปกลับคืนมา หรือรักษาโรคให้หายขาดได้ แต่สามารถช่วยคงสภาพการมองเห็นให้เหลือไว้ได้มากกว่าการที่ไม่ได้รับการรักษา
✅การป้องกัน
👉ตรวจเช็คสุขภาพตาเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี หรือมีประวัติบุคคลในครอบครัวมีภาวะจอประสาทตาเสื่อม
👉งดสูบบุหรี่
👉หลีกเลี่ยงการได้รับแสง หรือรังสีอัลตราไวโอเลต เป็นระยะเวลานาน
👉เลือกกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ได้แก่ ผักใบเขียว ผลไม้ และกินวิตามินเสริม
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล

💥โรคฮิตที่เกิดกับดวงตา💥🔸 #ต้อกระจก   เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการเสื่อมของโปรตีนในเลนส์ตา ทำให้เลนส์แก้วตาขุ่น เมื่อความขุ่น...
31/08/2025

💥โรคฮิตที่เกิดกับดวงตา💥
🔸 #ต้อกระจก เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการเสื่อมของโปรตีนในเลนส์ตา ทำให้เลนส์แก้วตาขุ่น เมื่อความขุ่นมากจนถึงระดับหนึ่ง แสงจะผ่านเข้าไปไม่ได้ ทำให้เห็นภาพได้ไม่ชัดเจน บางครั้งอาจเห็นภาพซ้อน ตาสู้แสงไม่ได้ หรือเกิดอาการแทรกซ้อน ทำให้ตาบอดอย่างถาวรได้ พบมากในคนอายุ 50 ปีขึ้นไป แต่นอกจากอายุที่มากขึ้นแล้ว โรคต้อกระจก ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ อีก เช่น การได้รับรังสียูวีมากเกินไป การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์เป็นเวลานาน หรือเกิดจากพันธุกรรม เป็นต้น
🔸 #ต้อหิน เกิดจากภาวะความดันในลูกตาสูงขึ้น จนทำลายเส้นประสาทตา ในระยะแรกเริ่ม อาจทำให้การมองเห็นภาพด้านข้างเสื่อมถอยลง จนเหมือนมองภาพผ่านท่อ จนไปถึงขั้นตาบอดได้เลยทีเดียว ส่วนสาเหตุอาจมาจากวัยที่เพิ่มมากขึ้น กระจกตาที่บาง คนอาจเคยเกิดอุบัติเหตุกับดวงตามาก่อน การใช้สารสเตียรอยด์ เป็นต้น
🔸 #ตาแห้ง สาเหตุของอาการตาแห้งเกิดจากต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ หรือเกิดการอุดตัน จนไม่สามารถผลิตไขมันได้ หรืออาการภูมิแพ้ที่ตา หรือการใช้สายตาอย่างหนักก็เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการตาแห้งได้เช่นกัน
🔸 #ภูมิแพ้ขึ้นตา อาการเยื่อบุตาขาวอักเสบ ที่ทำให้เกิดอาการคัน เคืองตา น้ำตาไหล ตาไวต่อแสง สาเหตุมาจากการที่ร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อของที่แพ้ เช่น อากาศ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ น้ำยาปรับผ้านุ่ม คอนแทคเลนส์ เป็นต้น
🔸 #โรควุ้นตาเสื่อม อาการที่เกิดขึ้นเวลากลอกตา แล้วจะมองเห็นเส้นสีดำลอยอยู่ รบกวนการมองเห็น พบมากในคนมีอายุ หรือผู้ที่มีสายตาสั้นมาก หรือผู้ที่เคยรับอุบัติเหตุทางตามาก่อน
🔸 #โรคจอประสาทตาเสื่อม เกิดจากการจ้องมองจอสีฟ้าเป็นเวลานาน จนเซลล์จอประสาทตาค่อยๆ ตายลง จอประสาทตาจึงเสื่อม ทำให้เกิดอาการตาล้า แสบตา ปวดตา หรือตาแห้ง

"ดี-คอนแทค เอ๊กซ์" ตั้งใจและใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพออกมา ให้ทุกคนได้มีสุขภาพดวงตาที่ดี👀
ดูแลดวงตาลึกถึงระดับเซลล์ ชะลอความเสื่อมของดวงตา ง่ายๆ เพียง 💊💊ครั้งละ 1-2 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น

สนใจปรึกษาและสั่งซื้อ ทักได้เลยค่ะ
☎️โทร. 065-825-4428
🛒 จัดส่งฟรี
💰💵 มีบริการเก็บเงินปลายทางค่ะ

“วุ้นในลูกตาเสื่อม” 💦👀 เกิดได้ง่าย และอันตราย‼️ต่อการมองเห็นโดยปกติแล้วภาวะวุ้นในลูกตาเสื่อมมักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุมา...
30/08/2025

“วุ้นในลูกตาเสื่อม” 💦👀 เกิดได้ง่าย และอันตราย‼️ต่อการมองเห็น

โดยปกติแล้วภาวะวุ้นในลูกตาเสื่อมมักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุมากตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันพบว่าภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นกับหนุ่มสาวคนทำงานออฟฟิศมากขึ้น จากพฤติกรรมการใช้หน้าจอมากเกินไป ถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่ควรทำความเข้าใจ เพื่อปรับพฤติกรรมให้เหมาะสม

💢น้ำวุ้นตาเป็นส่วนหนึ่งในโครงสร้างของลูกตา
โดยจะอยู่ทางด้านหลังเนื้อเยื่อเลนส์ เมื่ออายุมากขึ้นวุ้นลูกตาจะเกิดการเสื่อมและกลายเป็นน้ำบางส่วน มักเกิดกับผู้ที่มีอายุมาก 40 ปีหรือ 50 ปีขึ้นไป เว้นแต่ในบางบุคคลที่อาจเกิดภาวะเสื่อมก่อนอายุดังกล่าว ด้วยปัจจัยบางอย่าง เช่น การได้รับการกระทบกระเทือนที่ดวงตา การผ่าตัดที่กระทำภายในลูกตา หรือในคนที่สายตาสั้นซึ่งจะเกิดการเสื่อมของวุ้นลูกตาได้เร็วกว่าคนทั่วไป อาจเกิดตั้งแต่อายุ 10 กว่าปีหรือ 20 กว่าปี ยิ่งสั้นมากก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น

ปกติแล้วไม่ทราบแน่ชัดว่าวุ้นลูกตามีหน้าที่อะไร เมื่อเกิดการเสื่อมจึงไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตมากนัก แต่ถ้าหากเสื่อมมากวุ้นตาจะจับตัวกันเป็นก้อน ทำให้ส่วนที่ใสๆ เกิดเป็นฝ้า เมื่อมีแสงเข้ามาเยอะๆ จะเกิดเป็นเงาตกไปที่จอประสาทตา และเกิดเป็นจุดดำข้างใน หากวุ้นตากลายเป็นน้ำจุดดำจะลอยไปลอยมา และมักเห็นในที่ที่สว่างมากๆ หรือเมื่อมีแสงเข้ามาเยอะๆ จนทำให้เกิดเงาขึ้น แต่ในที่มืดจะมองไม่เห็นจุดดำที่ว่าเพราะไม่เกิดเงาที่จอประสาทตา บางครั้งอาจเกิดการดึงจอประสาทตา ทำให้เหมือนมีแสงแวบขึ้นมาคล้ายแฟลช และมักเห็นในที่มืด ปัญหาคืออาจทำให้เกิดการฉีกขาดของจอประสาทตาได้ ทำให้น้ำที่เกิดจากการเสื่อมของวุ้นไหลผ่านเข้าไปทางรอยฉีกขาด ทำให้จอประสาทตาลอก และส่วนที่ลอกจะเกิดการมองไม่เห็น คนไข้จะรู้สึกเหมือนมีอะไรมาบังตาไว้ และส่วนที่มองไม่เห็นนั้นจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

💢สำหรับการรักษาหากเป็นเพียงวุ้นในลูกตาเสื่อม
แพทย์จะไม่ได้ทำการรักษาเพราะถือเป็นเรื่องธรรมชาติ 💥แต่ถ้าหากเกิดการฉีกของจอประสาทตา แพทย์จะทำการป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดลอก โดยการทำให้เกิดเป็นแผลเป็น ใช้วิธีการยิงเลเซอร์ หากยังไม่สามารถมองเห็นได้ง่ายๆ อาจใช้ความเย็นจี้ร่วมด้วย และถ้าหากเกิดการหลุดลอกของจอประสาทตาไปแล้ว จะต้องใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อรักษา

💢โดยทั่วไปมักเกิดกับคนอายุมากตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป แต่ในบางรายอาจมีปัจจัยมากระตุ้นให้เกิดภาวะดังกล่าวได้เร็วขึ้น ได้แก่ การได้รับการกระทบกระเทือนที่ดวงตา การรับการผ่าตัดที่กระทำภายในดวงตา หรือในคนที่มีปัญหาสายตาสั้นซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น ยิ่งสั้นมากยิ่งเสี่ยงมาก โดยเฉพาะผู้ที่สายตาสั้นตั้งแต่ 600 ขึ้นไป ส่วนการเพ่งที่หน้าจอนานๆ ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด ว่าทำให้เกิดการเสื่อมของวุ้นลูกตา แต่ในขณะเพ่งอาจทำให้เกิดการสั้นของสายตาแบบชั่วคราว เมื่อเลิกใช้หน้าจอหรือเลิกเพ่งแล้วพักให้เต็มที่ก็จะกลับสู่ภาวะปกติและไม่มีผลต่อวุ้นในลูกตา แต่ถ้าหากเพ่งนานติดต่อกันอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตา เคืองตา หรือปวดตา

ที่มา : rama.mahidol.ac.th

ที่อยู่

ที่อยู่: ตึกวาฬทอง 242 ถ. สุวินทวงศ์ แขวง แสนแสบ เขตมีนบุรี
Bangkok
10510

เบอร์โทรศัพท์

+66658254428

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ดีคอนแทค ฟื้นฟูดวงตา D-Contactผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง ดีคอนแทค ฟื้นฟูดวงตา D-Contact:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram