เปิดทำการกี่โมง?

จันทร์ 09:00 - 18:00 อังคาร 09:00 - 18:00 พุธ 09:00 - 18:00 พฤหัสบดี 09:00 - 18:00 ศุกร์ 09:00 - 18:00 เสาร์ 09:00 - 18:00 อาทิตย์ 09:00 - 18:00

BeBetter Wellness

Our treatment strategies are holistic.Our physicians look deeply into how your body is working.

BeBetter-Wellness is dedicated to bringing the best of personalized wellness treatments and strategies to those that demand safe and effective ways to achieve and maintain optimal well-being. We look carefully at how your physiology is responding to your lifestyle, how you've responded to previous treatments, and how your occupation maybe interfering with your well-being. Your Bebetter-Wellness Physician, in addition to being a licensed medical physician, has also received post graduate training in a variety of topics, including Anti-Aging, Rejuvenation, Lifestyle Medicine, Nutritional and Functional Medicine. They take the time necessary to understand exactly what your wellness goals are and then help guide you in a step-by-step way to achieve your goals. WHAT MAKES US DIFFERENT

Scientific Approach : We believe that our advanced holistic approach opens substantial new ways to master health challenges in combination with accelerating power of digital technologies. Full Personalized : Precise and effective medical treatment demands a fully personalized approach to every single patient, hence we offer personalized IV infusions, supplements as per individual needs and demand after seeing our
experts at BeBetter. Trustworthy Partnerships: We are available for our patients through our mobile service whenever and wherever at your home or office, striving for a long-term relationship of equals, we base our work on mutual trust and transparency. International Interpreters : We accommodate the needs of patients from all over the world. Our team of interpreters speak Thai, Japanese, Chinese, English, Arabic.In this way we believe we can provide a professional service.

13/02/2023

💕 ความรักทำให้คนตาบอด ความหวานก็เช่นกัน น้ำตาลช่วยเพิ่มพลังงานให้เราได้อย่างรวดเร็วน้ำตาลเป็นสารชนิดเดียวที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว การเดินทางของกลูโคส ที่เราได้จากการกินน้ำตาล จะส่งผลทันที เมื่อรู้สึกว่าร่างกายไม่มีพลังงาน ไม่มีเรี่ยวแรง การกินน้ำตาลจะเป็นช่วยตัวช่วยให้สดชื่น ช่วยลดความเครียด

* แต่ติดหวานเกินไป ! ทำลายสุขภาพกว่าที่คิด

💌 เรามารู้จักเทคนิคลดน้ำตาล กินหวานแบบเฮลท์ตี้ กันดีกว่า

💙 เลือกเครื่องดื่มหวานน้อย

💙 เลือกผลิตภัณฑ์ลดน้ำตาลลง

💙 เลือกผลไม้หวานน้อย

💙 ตรวจสอบปริมาณน้ำตาล ไขมัน โซเดียม ว่าอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

💌 การกินน้ำตาลมาก ๆ จะทำให้สมองหลั่งสารเซโรโทนิน หากมีมากเกินไป สมองจะเริ่มเสพสารนี้แล้วสั่งการให้เรากินน้ำตาลมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นวงจรของการติดความหวานอย่างไม่จบสิ้น

วาเลนไทน์ปีนี้ ทานหวานกันแล้วอย่าลืมชวนคนที่คุณรักไปออกกำลังกายกันด้วยละ !
.............................................................................
🌟 Facebook : https://bit.ly/36q9iBB
➡️ Instagram : https://bit.ly/37WPqXf
✅ Line: bit.ly/3tvnEYR
🌍 Website : https://bit.ly/3uTWa18

11/02/2023

🛡️การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเกินเอื้อม พวกเราทุกคนจึงควรหันมาเอาใจใส่ในการดูแลรักษาระบบภูมิคุ้มกันของเราให้ดูดีอยู่เสมอ เพราะการเจ็บไข้ได้ป่วยทำให้สูญเสียเวลาและเงินทองในการรักษา และไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีภูมิคุ้มกันที่ดีอยู่เสมอย่อมป้องกันร่างกายจากโรคภัยต่างๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายของการรักษาโรคนั้นๆ ด้วย

🧡เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายของคุณด้วยวิธีง่ายๆดังนี้

1. ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ
2. รับประทานอาหารให้ถูกหลักความสมดุล
3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในทุก ๆ คืน
4. หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ในทุก ๆ ทาง
5. รับวิตามินซีให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

🛡️ ทั้งหมดนี้ควรปฏิบัติควบคู่กันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดีขึ้น สำหรับผู้ที่ทานผักและผลไม้ยากหรือทานได้ไม่เต็มที่นัก การทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน อาทิ วิตามินรวมและแร่ธาตุต่างๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันมี ผลิตภัณฑ์มัลติวิตามิน ให้เลือกหลากหลาย เป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง
.............................................................................
🌟 Facebook : https://bit.ly/36q9iBB
➡️ Instagram : https://bit.ly/37WPqXf
✅ Line: bit.ly/3tvnEYR
🌍 Website : https://bit.ly/3uTWa18

06/02/2023

➡️ ยุคนี้ต้องบอกว่าการมีร่างกายที่แข็งแรง มีภูมิต้านทานที่แข็งแกร่ง นับว่าเป็นลาภอันประเสริฐ เพราะระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) เป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายที่ช่วยป้องกันและต่อต้านเชื้อโรคไม่ให้ทำร้ายสุขภาพเราได้ ทว่าหากการ์ดเราตก ภูมิคุ้มกันก็มีสิทธิ์ตกด้วยเช่นกัน แล้วอาการแบบไหนกันนะที่เรียกว่าระบบภูมิคุ้มกันต่ำ เสี่ยงต่ออาการเจ็บไข้ได้ป่วยง่าย ๆ ลองเช็กกันหน่อยไหมล่ะ
🛡️ เช็กสัญญาณภูมิคุ้มกันต่ำ
ร่างกายเรายังแข็งแรงดี หรือมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ สังเกตได้จากอาการเหล่านี้

1. มักอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
2. แพ้อากาศ คัดจมูก ไอ จาม เป็นต้น
3. เป็นหวัดบ่อย
4. มีอาการทางผิวหนัง เช่น ผื่นคัน กลาก เกลื้อน หรือเป็นงูสวัด จากการติดเชื้อไวรัสได้ง่าย
5. ไม่สบายง่ายกว่าปกติ เช่น ตากแดดก็ป่วย โดนละอองฝนก็ป่วย เป็นต้น

หรือหากจะให้ชัวร์ ก็สามารถมาตรวจกับเราได้ ว่าระดับภูมิคุ้มกันของเรายังปกติดีอยู่ไหม โดยแพทย์จะใช้วิธีตรวจเลือดเพื่อเช็กระดับเม็ดเลือดขาวแบบละเอียด (CD Profile) ดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) และด้วยการตรวจระดับวิตามินดี เป็นต้น
.............................................................................
🌟 Facebook : https://bit.ly/36q9iBB
➡️ Instagram : https://bit.ly/37WPqXf
✅ Line: bit.ly/3tvnEYR
🌍 Website : https://bit.ly/3uTWa18

31/01/2023

➡️ ระบบภูมิคุ้มกันเป็นกลไกการทำงานของร่างกายระบบหนึ่ง ที่เป็นกลไกตามธรรมชาติของร่างกายที่ทำหน้าที่ป้องกันหรือต่อต้านไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายหรือเกิดการติดเชื้อจากเชื้อโรคเหล่านั้น ระบบภูมิคุ้มกันมีกลไกจากสารเคมีที่สร้างขึ้นจากร่างกายเพื่อทำหน้าที่ป้องกันและทำลายเชื้อโรค โดยมีเซลล์สำคัญที่ชื่อว่า เซลล์เม็ดเลือดขาว (white blood cell,(WBC) หรือ leucocyte) ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด ทำหน้าที่ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคภายในร่างกาย ช่วยกำจัดสารพิษหรือของเสีย และกำจัดเศษเซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกายที่ถูกทำลายโดยธรรมชาติ

🛡️ ระบบภูมิคุ้มกันมีความซับซ้อนอย่างมาก และแบ่งออกเป็น 2 ระบบหลัก ๆ ได้แก่

⭐️ ภูมิคุ้มกันแต่กำเนิด (Innate immune system) เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับระบบภูมิคุ้มกันประเภทนี้ ถูกถ่ายทอดจากพันธุกรรม เป็นกลไกที่ไม่จำเพาะเจาะจงกับเชื้อโรคชนิดใดชนิดหนึ่ง เช่น ผิวหนัง เยื่อบุ เยื่อเมือกต่าง ๆ ช่วยขัดขวางไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย หรือ กรดในกระเพาะอาหาร น้ำตา เหงื่อ ช่วยทำลายเชื้อโรคก่อนเข้าสู่ร่างกาย รวมถึงเซลล์เพชฌฆาต (Natural Killer Cells; NK Cells) ที่พร้อมต่อสู้กับเนื้องอก เซลล์มะเร็ง หรือการติดเชื้อไวรัสอย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดการติดเชื้อ

⭐️ ภูมิคุ้มกันที่ได้มาภายหลัง (Adaptive immune system) เป็นระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะเจาะจงที่ร่างกายสร้างขึ้นมาหลังจากได้รับเชื้อ โดยพื้นผิวของจุลินทรีย์จะมีโมเลกุลโปรตีน ที่เรียกว่า “แอนติเจน” (Antigen) ซึ่งสามารถกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันได้ โดยเซลล์เม็ดขาวชนิด B lymphocyte (B-cells) จะตอบสนองด้วยการสร้างโปรตีนชนิดพิเศษที่เจาะจงกับแอนติเจนขึ้นมา หรือที่เรียกว่า “แอนติบอดี้” (Antibody) เพื่อให้เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด T lymphocyte (T-cells) มาทำลายต่อไป แม้ว่าหลังการได้รับเชื้อครั้งแรก ร่างกายอาจใช้เวลาหลายวันในการสร้างแอนติบอดี้ แต่ระบบภูมิคุ้มกันจะจดจำและปรับตัว เพื่อให้สามารถต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมในครั้งถัดไป

🛡️ หากภูมิคุ้มกันบกพร่อง สิ่งแรกที่อาจส่งผลต่อร่างกาย คือการติดเชื้อต่างๆ ซึ่งก่อให้เกิดอาการป่วยไข้ไม่สบาย และอาจเจ็บป่วยได้ง่าย ป่วยบ่อยครั้ง หรือมีอาการหนักกว่าผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติ
.............................................................................
🌟 Facebook : https://bit.ly/36q9iBB
➡️ Instagram : https://bit.ly/37WPqXf
✅ Line: bit.ly/3tvnEYR
🌍 Website : https://bit.ly/3uTWa18

23/12/2022

🔸 อ้วนลงพุง เป็นโรคที่มาจากการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม ตั้งแต่อาหารการกิน ไม่มีเวลาออกกำลังกาย จนทำให้กลายเป็นโรคอ้วนตามมา คนที่อ้วนลงพุง มักจะมีไขมันสะสมในช่องท้องมากเกินไป ทำให้เกิดเมตาบอลิกซินโดรม ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนมาก โดยพบว่าคนที่มีลักษณะท้วม มีโอกาสอ้วนลงพุงได้ถึง 25%
🔸 สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอ้วนแบ่งออกเป็น ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เป็นโรคอ้วน มักมีสาเหตุจากปัจจัยภายนอก เพราะมีพฤติกรรมการรับประทานที่ตามใจตนเอง จนทำให้รับประทานเกินความต้องการของร่างกาย จนเกิดโรคต่าง ๆ ได้ตามมา ดังนั้นสามารถกล่าวได้ว่า หากคุณมีร่างกายที่ผอมตามหลักสุขภาพ ย่อมทำให้ร่างกายลดภาวะความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ ลงได้อีกมากมาย
▶️ ผลกระทบจากโรคอ้วน
ผู้ที่มีภาวะอ้วน จะส่งผลเสียกับร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงต่อการป่วยที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังและอาการต่างๆ ตามมา เช่น
✅ โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง
✅ โรคความดันโลหิตสูง
✅ โรคไขมันในเลือดสูง
✅ โรคเบาหวาน
✅ โรคไขมันเกาะตับ
✅ โรคหัวใจ
✅ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
✅ โรคมะเร็งต่างๆ
✅ โรคหยุดหายใจขณะหลับ
✅ ปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ
✅ ภาวะมีบุตรยาก
✅ ประจำเดือนมาไม่ปกติ
✅ ปวดข้อ ข้อเสื่อมก่อนวัย
✅ โรคผิวหนัง เช่น สิว ขนดก ผิวหนังติดเชื้อ มีกลิ่นตัว เป็นต้น
---------------------------
🌟 Facebook : https://bit.ly/36q9iBB
➡️ Instagram : https://bit.ly/37WPqXf
✅ Line: bit.ly/3tvnEYR
🌍 Website : https://bit.ly/3uTWa18
📞 Tel : 063-910-4979,092-952-5235

20/12/2022

🙆‍♂️🙆 โรคอ้วน คือ ภาวะที่ร่างกายมีการสะสมไขมันมากเกินกว่าปกติหรือมากเกินกว่าที่ร่างกายจะเผาผลาญ จึงสะสมพลังงานที่เหลือเอาไว้ในรูปของไขมันตามอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ และเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ ตามมา ❤️

🔸 รู้ได้อย่างไรว่าเป็น “โรคอ้วน”
▶️ วิธีวัดไขมันมีหลายรูปแบบ โดยที่นิยมกันคือ การวัดจากดัชนีมวลกาย หรือ Body Mass Index – BMI และ การตรวจวัดรอบเอว โดยทั่วไปแล้วควรมีค่า BMI อยู่ที่ระหว่าง 18.5-22.9 kg/m2 หากมากหรือน้อยกว่านี้ จะเกิดภาวะทุพโภชนาการและโรคต่างๆ
✅ ค่า BMI < 18.5 – 22.9 kg/m² เรียกว่า “ปกติ”
✅ ค่า BMI 23.0 – 24.9 kg/m² เรียกว่า “น้ำหนักเกิน”
✅ ค่า BMI > 25 kg/m² เรียกว่า “โรคอ้วน”
▶️ ค่า BMI จากโปรแกรมคำนวณนี้ เป็นค่าสำหรับชาวเอเชียและคนไทย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเชื้อชาติ ค่า BMI เฉลี่ยของหญิงไทยคือ 24.4 และของชายไทยคือ 23.1 (อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป)
🔸 สาเหตุของโรคอ้วน
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอ้วน แบ่งออกเป็น ปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เป็นโรคอ้วน มักมีสาเหตุจากปัจจัยภายนอก เพราะมีพฤติกรรมการรับประทานที่ตามใจตนเอง จนทำให้รับประทานเกินความต้องการของร่างกาย
▶️ ปัจจัยภายนอก ได้แก่
✅ รับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง เนื้อ ไขมัน แป้ง ของหวาน
✅ รับประทานไม่เป็นเวลา กินจุบกินจิบ
✅ นั่งๆ นอนๆ เป็นส่วนใหญ่
✅ ขาดการออกกำลังกาย
▶️ ปัจจัยภายใน ได้แก่
✅ ความผิดปกติของต่อมไรท่อ เช่น ต้อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์
✅ ภาวะเครียด
✅ กรรมพันธุ์
✅ โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
✅ การรับประทานยาบางชนิด
✅ อายุ เนื่องจากอายุมาก จะมีการใช้พลังงานน้อยลง
---------------------------
🌟 Facebook : https://bit.ly/36q9iBB
➡️ Instagram : https://bit.ly/37WPqXf
✅ Line: bit.ly/3tvnEYR
🌍 Website : https://bit.ly/3uTWa18
📞 Tel : 063-910-4979,092-952-5235

16/12/2022

🎏 ปาร์ตี้สุดมัน สนุกอย่างเต็มที่ เติม Energy รับปีใหม่ !!
💊 หากคุณเป็นชอบปาร์ตี้จัดหนัก นอนดึก อยากเติมพลังงานในวันที่อ่อนเพลียจากการปาร์ตี้เพราะกลัวไม่มีแรงไปทำงาน
➡️ แพ็คเพจเติม Energy รับปีใหม่ เพื่อเพิ่มความสดใสในการทำงาน หลังจากดื่มในวันที่สนุกกับกิจกรรมสุดเหวี่ยง ปาร์ตี้หนัก
🛎 IV Therapy (Energy Max) จำนวน 5 ครั้ง
✅ เติมพลังงานแบบเร่งด่วน ปลุกความสดชื่นในตัวคุณ
🛎 วิตามินก่อนดื่ม จำนวน 1 กล่อง (30 วัน)
✅ บรรเทาอาการเมาค้างหลังจากดื่มอย่างหนัก
➡️ จากปกราคา 25,000 เหลือเพียง 18,000 บาท
---------------------------
🌟 Facebook : https://bit.ly/36q9iBB
➡️ Instagram : https://bit.ly/37WPqXf
✅ Line: bit.ly/3tvnEYR
🌍 Website : https://bit.ly/3uTWa18
📞 Tel : 063-910-4979,092-952-5235

13/12/2022

🎉🎊 ปาร์ตี้ มักจะไม่ใช่แค่การสังสรรค์เพียงอย่างเดียว มักจะมีสิ่งอื่นตามเข้ามา จนบางครั้งเราเผลอกินเผลอดื่มอย่างไม่ทันระวัง จนทำให้ร่างกายมีความอ่อนล้า และความอ่อนเพลียสะสมจากอาการต่าง ๆ ดังนั้น การให้วิตามินเพื่อดูแลตัวเองและบำรุงตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ร่างกายมีความสดชื่น เตรียมพร้อมสำหรับรับวันใหม่อย่างมีพลังตลอดเวลา
▶️ วิตามินที่เหมาะสำหรับสายปาร์ตี้ประเภทต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูกลับมาจากความอ่อนเพลียได้อย่างมีพลัง

🔸 ปาร์ตี้สายดื่ม หากท่านเป็นคนที่รักการสังสรรค์ที่เน้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทั้งเบียร์ ไวน์ วิสกี้ วอดก้าหรือค็อกเทล ควรรับประทานวิตามินบี วิตามินซี เพื่อช่วยเร่งกลไกการทำงานของกลูต้าไธโอนในการขจัดของเสียที่ตับ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยบรรเทาอาการเมาค้างที่เป็นผลจากการดื่มต่อเนื่องติด ๆ กันหลายวัน
🔸 ปาร์ตี้สายควัน หากท่านชอบสูบบุหรี่ระหว่างปาร์ตี้ มีโอกาสที่จะต้องสูดดมควันบุหรี่นาน ๆ ควรเน้น EDTA ที่ช่วยในกระบวนการ ขจัดสารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียมและอื่น ๆ ที่ร่างกายจะได้รับ เพิ่มการขับออกทางปัสสาวะได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดมีประสิทธิภาพ และออกซิเจนสามารถไปเลี้ยงเซลล์ ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้มากขึ้น
🔸 ปาร์ตี้สายสวย ต้องแต่งหน้าไปงานเลี้ยงหรือแต่งหน้าแฟนซี ปาร์ตี้เลิกหลังเที่ยงคืน นอนดึกมาก ผิวพรรณขาดน้ำและสูญเสียความชุ่มชื้น มีริ้วรอยบาง ๆ บนใบหน้า หรือมีรอยคล้ำหรือถุงใต้ตา ควรให้วิตามินซีและวิตามินบี เพื่อช่วยฟื้นฟูจากภายใน ยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีของเซลล์ผิว และช่วยฟื้นฟูโปรตีนคอลลาเจนที่ผิวของคุณให้กลับมาสดใสเหมือนเดิม
🔸 ปาร์ตี้สายแดนซ์ เต้นยับจนผับปิดปวดเมื่อยตามร่างกายหรือกล้ามเนื้ออ่อนล้า พละกำลังลดลง การเพิ่มวิตามินควรเพิ่มวิตามินบี ร่วมกับวิตามินซี และแร่ธาตุแมกนีเซียมทางหลอดเลือด จะช่วยเสริมพละกำลังของกล้ามเนื้อ ลดอาการตะคริว บรรเทาอาการปวดตามร่างกาย และเสริมให้ร่างกายฟื้นคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว
---------------------------
🌟 Facebook : https://bit.ly/36q9iBB
➡️ Instagram : https://bit.ly/37WPqXf
✅ Line: bit.ly/3tvnEYR
🌍 Website : https://bit.ly/3uTWa18
📞 Tel : 063-910-4979,092-952-5235

09/12/2022

ข้อเสียของงานปาร์ตี้และการสูญเสียระดับวิตามิน

🔸 1.ปาร์ตี้จนโต้รุ่ง
✅ สายปาร์ตี้ทั้งหลายถ้าพระอาทิตย์ไม่ขึ้น ไม่กลับบ้าน แต่การอดหลับอดนอนบ่อย ๆ ทำให้ฮอร์โมนขาดสมดุล เนื่องจากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ จนเกิดอาการทรุดโทรม เกิดริ้วรอยบนใบหน้าเพิ่มขึ้นทุกวัน วิตามินที่จะช่วยตอบโจทย์สำหรับสายปาร์ตี้โต้รุ้ง ได้แก่ วิตามินบี วิตามินซี ซึ่งช่วยให้ร่างกายสดชื่นพร้อมรับวันใหม่ได้ตลอดเวลา

🔸 2.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
✅ การดื่มเครื่องดื่มมึนเมาเพียงวันละ 1 แก้ว ส่งผลให้ระดับวิตามิน B1 B6 B12 ลดลง แต่ทุกปาร์ตี้กลับขาดไม่ได้สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งการดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ จะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ (Free Radical) ในร่างกาย ทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ส่งผลให้ผิวพรรณดูแก่กว่าวัย สารพิษในแอลกอฮอล์ก็จะสะสมและทำลายตับ สุดท้ายอาจทำให้เกิดตับวาย และเกิดมะเร็งตับได้

🔸 3.ควันบุหรี่
✅ สถานที่ปาร์ตี้ก็คงหนีไม่พ้นควันจากบุหรี่ ถ้าสูดดมเข้าไปบ่อย ๆ อาจส่งผลให้สารนิโคตินในบุหรี่ทำลายเส้นเลือดของผิวหนังจนตีบตันทำให้เลือดไม่ไหลเวียน ส่งผลให้ผิวของคุณแห้งมาก หน้าหมองคล้ำและเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรจนผิวเสียหายและไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้อีก นอกจากนี้ การสูบบุหรี่หนึ่งมวนทำลายวิตามินซีถึง 25-100 มิลลิกรัม

🔸 4.แสงไฟ
✅ แสงสีที่ส่องแสงภายในงานปาร์ตี้ อาจเป็นภัยร้ายของผิวหน้าที่หลายคนอาจยังไม่รู้ ! เพราะแสงไฟสามารถกระตุ้นการสร้างเมลานินให้สีผิวดูเข้มขึ้นจนเกิดเป็นฝ้า กระ และริ้วรอยบนใบหน้าได้ และการปาร์ตี้หรืออยู่ในที่มืดเป็นเวลานานก็ยังทำให้ร่างกายขาดวิตามิน D ที่เกิดจากการส่องผ่านของ UV จากแสงอาทิตย์อีกด้วย
---------------------------
🌟 Facebook : https://bit.ly/36q9iBB
➡️ Instagram : https://bit.ly/37WPqXf
✅ Line: bit.ly/3tvnEYR
🌍 Website : https://bit.ly/3uTWa18
📞 Tel : 063-910-4979,092-952-5235

06/12/2022

🎏 ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เช่น วันคริสต์มาส วันปีใหม่ สิ่งที่มักขาดไม่ได้คือการกินเลี้ยงสังสรรค์หรืองานปาร์ตี้ จนบางครั้งเราเผลอทำอะไรที่มากเกินจนไม่ทันระวังตัว เช่น การดื่มมากจนเกินไปทำให้ขาดสติ พอจบงานเลี้ยงอาจต้องเอามือก่ายหน้าผากกับสุขภาพที่แย่ลงอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว 🎀
🔸 เตรียมความพร้อม...ก่อนไปปาร์ตี้
มีคนจำนวนไม่น้อยที่สุขภาพต้องพังเพราะปาร์ตี้ เนื่องมาจากสภาพร่างกายไม่พร้อม พักผ่อนไม่เพียงพอ ดื่มหนักจนเกินไป ฉะนั้นหากต้องการสังสรรค์ เราก็ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับปาร์ตี้นั้นไว้เสมอ ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
✅ ไม่ควรอดอาหารก่อนจะไปรับประทานอาหารในงานปาร์ตี้ เพราะการอดอาหารนานเกินไปจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง ทำให้หิวมากจนลืมตัวรับประทานอาหารในงานปาร์ตี้มากเกินไป ซึ่งหากคุณกินอาหารมากจนเกินไป ก็อาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลสูงจนเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ ตามมาภายหลังได้
✅ ดื่มน้ำให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการต่อวัน การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ก่อนออกไปปาร์ตี้ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำจนต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีในงานมากเกินไป ซึ่งในงานก็มักจะมีแต่น้ำหวาน น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ส่งผลเสียต่อร่างกายและยังส่งผลให้มีระดับวิตามิน B1 B6 B12 ลดลง อีกด้วย
✅ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเตรียมร่างกายให้แข็งแรงพร้อมรับมือกับทุกปาร์ตี้ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาที่จำเป็นไปให้พร้อมเสมอ และที่สำคัญคือ เราต้องรู้จักสภาพร่างกายตัวเองก่อนว่า...พร้อมสำหรับปาร์ตี้หรือไม่ ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรฝืน
✅ รับประทานวิตามินเสริมเพื่อสุขภาพ เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมก่อนที่จะกลับมาทำงานภายหลังปาร์ตี้ ซึ่งหากคุณรับประทานแอลกอฮอล์ จะส่งผลให้ระดับวิตามิน B1,B6 และ B12 ลดลง การรับวิตามินเสริมต่าง ๆ จึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่ทำให้ระดับวิตามินของคุณตกจากที่ควรจะเป็นมากจนเกินไป
---------------------------
🌟 Facebook : https://bit.ly/36q9iBB
➡️ Instagram : https://bit.ly/37WPqXf
✅ Line: bit.ly/3tvnEYR
🌍 Website : https://bit.ly/3uTWa18
📞 Tel : 063-910-4979,092-952-5235

17/11/2022

🛎 คำแนะนำสำหรับ “ลดความเสี่ยง” ของโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อน
✅ ลดอาหารประเภท หวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก ผลไม้ และธัญพืชต่างๆ ในมื้ออาหารที่รับประทานในแต่ละวัน
✅ การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่แอลกอฮอล์และสารเสพติดประเภทต่างๆ เช่น บุหรี่ กัญชา
✅ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชม/วัน
✅ ตรวจสุขภาพประจำปีหากอายุมากกว่า 35 ปี ขึ้นไป หรือควรหมั่นตรวจสุขภาพในทุกๆ ปี
✅ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง
---------------------------
🌟 Facebook : https://bit.ly/36q9iBB
➡️ Instagram : https://bit.ly/37WPqXf
✅ Line: bit.ly/3tvnEYR
🌍 Website : https://bit.ly/3uTWa18
📞 Tel : 063-910-4979,092-952-5235

14/11/2022

🎏 14 พฤศจิกายน
💊 วันเบาหวานโลก (World Diabetes Day)
🔸 ในบางครั้งเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าโรคเบาหวาน จะมาคุกคามสุขภาพเราเมื่อไหร่
🩹 จากข้อมูลทางสถิติของหลากหลายสถาบัน ประชากรบนโลกมีแนวโน้มที่จะเป็นเบาหวานเพิ่มขึ้น แม้ว่าโรคเบาหวาน จะไม่สามารถป้องกันได้ แต่การตรวจและลดความเสี่ยง ย่อมเป็นหนทางที่ดีกว่าการเป็นแล้วค่อยมารักษา
🎀 โปรแกรมตรวจสุขภาพลดภาวะเบาหวาน (Revive Male/Female)
✅ พร้อมรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
➡️ ราคาเริ่มต้นที่ 18,000 บาท
🔸 รับฟรี ! Meta C และ Meta B เพื่อช่วยยับยั้งการดูดซึมของแป้งและไขมัน
ควบคุมและลดแคลอรี่ จำนวนอย่างละ 1 กล่อง
🔸ตั้งแต่วันนี้ - 30 พฤศจิกายน 2565
---------------------------
🌟 Facebook : https://bit.ly/36q9iBB
➡️ Instagram : https://bit.ly/37WPqXf
✅ Line: bit.ly/3tvnEYR
🌍 Website : https://bit.ly/3uTWa18
📞 Tel : 063-910-4979,092-952-5235

ที่อยู่

Sikarin Hospital (Building 3, 3rd Floor 976 Lasalle Road ), Bangna Tai, Bangna
Bangkok
10260

เวลาทำการ

จันทร์	09:00 - 18:00
อังคาร	09:00 - 18:00
พุธ	09:00 - 18:00
พฤหัสบดี	09:00 - 18:00
ศุกร์	09:00 - 18:00
เสาร์	09:00 - 18:00
อาทิตย์	09:00 - 18:00