Healthy&Me คอร์สลดน้ำหนักออนไลน์แบบไม่ใช้ยา กินได้ในแบบที่ชอบ ออกแบบเฉพาะคุณโดยโค้ช นักโภชนาการ

Healthy and Me เชื่อว่า "การลดน้ำหนักที่ดีต้องทำได้ง่าย และเข้ากับตัวคุณที่สุด ลดน้ำหนักอย่างมีความสุขและยั่งยืนด้วย Flexible Eating (เทคนิคทานอาหารแบบยืดหยุ่น กินได้ในแบบที่ชอบ เฉพาะคน) "

ออกแบบจากงานวิจัยโดยใช้เทคนิคการปรับสัดส่วนอาหารและการสร้างรูปแบบการกินเฉพาะคุณ ที่พิสูจน์แล้วว่าลดได้เร็วและยั่งยืน ออกแบบให้เฉพาะบุคคลโดยทีมเทรนเนอร์ นักโภชนาการ ออนไลน์ ให้คุณสามารถทำได้ง่ายและไม่ต้องทำอาหารเอง รวมถึงมีบทเรียนและเทคนิคต่างๆให้คุณเรียนได้ตลอด มีการกระตุ้นติดตาม ให้คำปรึกษาจากโค้ชผ่านแชทไลน์ส่วนตัวและใน VDO Call แบบกลุ่ม หรือ FB Group

คอร์สลดน้ำหนักออนไลน์

• ไม่ใช้ยาและอาหารเสริม
• ไม่ต้องออกกำลังกายหนักๆ เน้นการปรับการทานอาหารด้วยเทคนิคต่างๆ
• สามารถกินในแบบที่คุณชอบ
• ทำได้ง่าย ใช้ในชีวิตจริง และยังสามารถกินของโปรดได้อยู่ ด้วยวิธี 80/20
• ให้คำปรึกษาจากโค้ชนักโภชนาการ ติดตามผลต่อเนื่อง
• เทคนิคและบทเรียนที่ใช้ได้ในชีวิตจริง สามารถเรียนเมื่อไหร่ก็ได้
• พูดคุยสอบถามได้อย่างสบายใจ
• การันตีผลลัพธ์ หากคุณเข้าโปรแกรมแล้วรู้สึกไม่เหมาะกับตัวเองหรือไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงภายใน 30 วัน ขอรับเงินคืนได้ 100%

สาวๆ จำนวนไม่น้อยที่ต้องล้มเลิกแผนการลดน้ำหนักไปหลายต่อหลายครั้งเพราะทนรับความหิวไม่ไหว จะดีกว่าไหมถ้าผู้หญิงแบบเราสามาร...
27/05/2023

สาวๆ จำนวนไม่น้อยที่ต้องล้มเลิกแผนการลดน้ำหนักไปหลายต่อหลายครั้งเพราะทนรับความหิวไม่ไหว จะดีกว่าไหมถ้าผู้หญิงแบบเราสามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีความสุขและเห็นผลดียิ่งขึ้นด้วยการใช้วิธีคุมอาหารลดน้ำหนักที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องทนหิว ไม่ต้องหยุดกินเมนูโปรด ด้วยวิธีคุมอาหารลดน้ำหนักแบบยืดหยุ่น (Flexible eating) ที่รับประกันได้เลยว่าเป็นวิธีลดน้ำหนักที่จะช่วยทำให้เรามีความสุขกับการดูแลสุขภาพมากกว่าที่เคย

วิธีลดน้ำหนักผู้หญิงที่ทำตามได้ง่ายๆ ด้วยการควบคุมอาหารแบบยืดหยุ่น ไม่ต้องอดของชอบ ไม่ต้องทนหิวก็ผอมได...

เริ่มทำคีโตวันแรกต้องกินอะไรดี? วิธีเริ่มกินคีโตที่ถูกต้องเป็นแบบไหน? healthy and me รวมรายละเอียดวิธีการกินคีโตอย่างถูก...
21/05/2023

เริ่มทำคีโตวันแรกต้องกินอะไรดี? วิธีเริ่มกินคีโตที่ถูกต้องเป็นแบบไหน? healthy and me รวมรายละเอียดวิธีการกินคีโตอย่างถูกต้องพร้อมตารางกินคีโต 7 วันมาฝากกัน รับรองได้เลยว่าการกินคีโตจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงได้อย่างแน่นอน

คีโตวันแรกกินอะไรดี? วิธีกินคีโตที่ถูกต้องเป็นแบบไหน? ผอมได้อย่างปลอดภัยด้วยตารางอาหารคีโตจาก Healthy and Me

รวมไอเดียเมนูอาหารลดน้ำหนัก เมนูที่กินแล้วไม่อ้วนแบบครบครันฉบับจัดเต็ม ตารางการกิน 7 วัน ผอมได้โดยไม่ต้องอด หากินง่าย
14/05/2023

รวมไอเดียเมนูอาหารลดน้ำหนัก เมนูที่กินแล้วไม่อ้วนแบบครบครันฉบับจัดเต็ม ตารางการกิน 7 วัน ผอมได้โดยไม่ต้องอด หากินง่าย

รวมไอเดียเมนูอาหารคลีนลดน้ำหนัก เมนูที่กินแล้วไม่อ้วนแบบครบครันฉบับจัดเต็ม 7 วัน ผอมได้โดยไม่ต้องอด จาก He...

เผยเคล็ดลับของ Flexible Eating วิธีปรับการกินง่ายๆแก้ไขสารพัดปัญหาลดหุ่นถ้ารู้ว่าวิธีทรมานๆ จะทำได้ไม่นาน จะกลับไปทำอีกท...
13/04/2023

เผยเคล็ดลับของ Flexible Eating วิธีปรับการกินง่ายๆแก้ไขสารพัดปัญหาลดหุ่น
ถ้ารู้ว่าวิธีทรมานๆ จะทำได้ไม่นาน จะกลับไปทำอีกทำไม ลุกมาลองอะไรใหม่ๆ ❤️‍🔥แล้วเริ่มให้ความสำคัญกับเบสิคง่ายๆ อย่างการปรับการกินให้เป็นแบบ Flexible Eating กันเถอะ นอกจากจะยืดหยุ่นเข้ากับวิถีชีวิตของคุณแล้ว ยังให้ผลดีกับการลดหุ่นแบบไม่ต้องฝืนใจทำ

ถ้ารู้ว่าวิธีทรมานๆ จะทำได้ไม่นาน จะกลับไปทำอีกทำไม ลุกมาลองอะไรใหม่ๆ แล้วเริ่มให้ความสำคัญกับเบสิคง่า.....

อารมณ์กับการกิน Emotional EatingEmotional Eater 😥😡 หมายถึงคนที่ทานอาหารเพราะเหตุผลอื่น ๆ นอกจากการทานเพื่อเพิ่มพลังงานให...
10/01/2023

อารมณ์กับการกิน Emotional Eating
Emotional Eater 😥😡 หมายถึงคนที่ทานอาหารเพราะเหตุผลอื่น ๆ
นอกจากการทานเพื่อเพิ่มพลังงานให้ตัวเราเอง
หลาย ๆ ครั้งเราทานอาหารถึงแม้เราไม่ได้หิว
คุณค้นพบว่าตัวเองเดินไปหยิบของในตู้เย็นมากินโดยที่ไม่รู้ว่าทำไม
หรือคุณให้รางวัลตัวเองด้วยการกินขนม
คุณมีความคิดเรื่องกินอยู่ในหัวบ่อยว่าอยากกินอะไรบางอย่าง
เมื่อคุณได้ทานน้ำตาลหรือแป้งเข้าไปหลังจากคุณเซ็งหรือเศร้า
เราจะรู้สึกดีขึ้นมาชั่วขณะจากโดพามีน (Dopamine)
ของเราหลั่งออกมาช่วยให้เรารู้สึกดีแต่หลังจากนั้นไม่นานคุณก็จะกลับมารู้สึกเหมือนเดิม
ซึ่งตรงนี้มันทำให้เราอาจจะกินมากเกินไปโดยที่เราอาจจะไม่ต้องการอาหารเพิ่มก็ได้ แต่คุณสามารถทำกิจกรรมอื่นเพิ่มได้ที่จะช่วยให้ได้ โดพามีน (Dopamine) เหมือนกันเช่น การฟังเพลง การดูหนัง การออกกำลังกาย
จะจัดการกับ Emotional Eating ได้อย่างไร ?
🍩 รับรู้อารมณ์ของตนเองก่อนกิน
🍩 หยุดใช้อาหารเป็นตัวช่วยในการจัดการอารมณ์
ถ้าหากเราใช้การกินเป็นตัวช่วยทำให้เรามีความสุขอย่างเดียวแล้ว มันอาจทำให้เราทานอาหารประเภทแป้ง น้ำตาลมากขึ้นเพื่อให้ได้โดปามีนแทนที่เราจะทานอาหารจากธรรมชาติอย่างพอเหมาะพอดี
จุดเริ่มต้นของการจัดการความคิดของเรา คือการรับรู้ว่าสิ่งที่เราคิดและความเชื่อ
ส่งผลกับความรู้สึกของเราไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกโกรธ ตื่นเต้น เหงา
เช่นเราอาจจะรู้สึกว่าเจ้านายเราไม่เห็นความสำคัญของเราในงานที่เราทำ
อันนี้เป็นความคิดไม่ใช่ความรู้สึก ความรู้สึกอาจจะเป็นความโกรธ ความหงุดหงิด
หลังจากนั้นก็จะเป็นการกระทำต่อมาของเราที่ส่งผลมาจากความรู้สึกของเรา
การปรับพฤติกรรมของเราจะง่ายขึ้นหากเราเรียนรู้กับการจัดการความคิดของเรา
ยกตัวอย่างสถานการณ์เช่น เมื่อเราไปที่ร้านกาแฟแล้วเจ้าของร้านใจดี
ยื่นบราวนี่ที่พึ่งทำใหม่ให้เรากินแบบฟรีๆ
ความคิดของเรา คือ บราวนี่ชิ้นนี้มันดูน่ากินมากเลย
คุณลุงเจ้าของร้านเค้าใจดีกับเรามาก รู้ว่าไม่ได้แพลนเอาไว้ว่าจะกินแต่แบบครั้งนี้คงไม่เป็นไรหรอก
ความรู้สึก คือ ความอยาก
การกระทำ คือ คุณกินบราวนี่ชิ้นนั้นไป 🍰
แต่จริงๆแล้วบราวนี่ชิ้นนี้มันไม่ได้มีอำนาจเหนือเรา จริงๆมันอยู่ที่ความคิดของเราต่างหากที่เกี่ยวกับบราวนี่ชิ้นนั้นที่ทำให้เรารู้สึกอยากกินมันมากๆ
เชื่อหรือไม่ เราสามารถปรับเปลี่ยนความคิด ที่ส่งผลกระทบต่อ่พฤติกรรมการกินของเราได้
👉 จดความรู้สึกของคุณขณะกำลังกิน
👉 แยกออกมาว่าสิ่งไหนเป็นความจริงและสิ่งไหนเป็นเพียงความคิด
👉 ลองถามตนเองว่ารู้สึกอย่างไรกับความคิดเหล่านั้น
👉 ลองเขียนความคิดใหม่ที่จะช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง
การปรับเปลี่ยนความคิดอาจจะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนและทำจนเป็นนิสัยแต่มันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เมื่อคุณเชื่อว่าคุณเปลี่ยนความคิดตัวเองได้ คุณก็จะสามารถปรับพฤติกรรมการกินของคุณได้
สนใจติดตามทริคลดหุ่นชิวแต่ดีผ่านไลน์ คลิก 👉 https://lin.ee/VQ4Qx18

🍩เพราะชีวิตขาดหวานไม่ได้? ทำไมเราถึงชอบกินของหวาน ติดน้ำตาล พร้อมทริคกินของหวานอย่างพอดีไม่มีอดของอร่อย 🍪🍭เดิมทีบรรพบุรุ...
05/12/2022

🍩เพราะชีวิตขาดหวานไม่ได้? ทำไมเราถึงชอบกินของหวาน ติดน้ำตาล พร้อมทริคกินของหวานอย่างพอดีไม่มีอดของอร่อย 🍪🍭
เดิมทีบรรพบุรุษเราน่ะ ชอบรสชาติหวานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ข้อมูลจาก ดอกเตอร์จอร์จ อาร์เมลากอส (Dr.George Armelagos) ผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษยวิทยาจากอเมริกา กล่าวว่ามนุษย์ยุคเก่าเชื่อกันว่าอาหารที่มีรสหวานหมายถึงความปลอดภัย 🍯 ส่วนอาหารรสขมหมายถึงของมีพิษ ไม่ควรกิน 🥬 ดังนั้นการชื่นชอบอาหารรสหวานจึงเป็นสัญชาตญานการเอาตัวรอดหนึ่งของมนุษย์นั่นเอง
🍫เนื่องจากร่างกายต้องใช้พลังงานเพื่อความอยู่รอด เมื่อร่างกายได้รับความหวาน (หวานที่หมายถึงรสหวานจริงๆ ไม่ใช่ความรัก) สมองจะหลั่งสารที่ชื่อโดปามีนออกมา ทำให้เรารู้สึกมีความสุขเหมือนจุดพลุในหัว แต่ในยุคโบราณความหวานที่ได้รับมีแค่ความหวานธรรมชาติจากผลไม้เท่านั้น ตัดภาพมาปัจจุบัน แหล่งความหวานของเราเป็นน้ำตาลทรายและพวกสารสังเคราะห์ต่างๆที่ให้ความหวานแบบเข้มข้น 🧋 เมื่อสมองได้เจอรสหวาน(เกินธรรมชาติ)นี้เข้าไป ก็ยิ่งทำให้อยากกินของหวานเพิ่มอีกแบบรัวๆ
ข่าวดีคือเราสามารถเปลี่ยนนิสัยการกินตามอารมณ์นี้ได้ด้วยการสร้างพฤติกรรมการกินใหม่ เริ่มต้นจากการกินอาหารตามที่วางแผนไว้ จากงานวิจัยของ European Journal of Social Psychology พบว่าการสร้างนิสัยใหม่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 66 วัน โดยการเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยก่อน จนคุณสามารถทำได้ซ้ำๆ โดยไม่รู้สึกฝืนใจ
📝ทริคกินของหวานอย่างพอดีไม่มีอดของอร่อย 🥞
● ไม่ต้องอดแค่ลดก็พอแล้ว 🍦🍨
ทำความเข้าใจว่าของหวานกินได้ไม่ต้องหักดิบ ถ้าปกติเรากินของหวานทุกวัน แค่ลดลงมาเหลือ 3 วันต่อสัปดาห์ดูก่อน แรกๆ อาจจะยากแต่ทำไปสักพักสมองจะเริ่มปรับตัวได้และลองเคี้ยวให้ช้าลง ค่อยๆ ลิ้มรสชาติความหวานเพื่อให้สมองรับรู้รสชาตินั้นได้มากขึ้นและอิ่มไวขึ้น หลายคนใช้เวลาเพียงสัปดาห์เดียวก็สามารถฝึกการรับรสของลิ้นให้ชินกับรสชาติที่หวานน้อยกว่าเดิมได้
.
● ลองเปลี่ยนขนมหวานเป็นผลไม้ที่มีรสหวานแทน 🍠🍌
น้ำตาลจากผลไม้เป็นน้ำตาลที่ได้จากธรรมชาติซึ่งดีกว่าน้ำตาลขัดขาวอย่างแน่นอน มาฝึกให้ลิ้นรับรู้ความหวานจากอาหารจากธรรมชาติ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นปรับการกินหวานที่ดี แถมยังช่วยเรื่องลดน้ำหนักได้เพราะผลไม้อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ที่ช่วยให้อิ่มไว ถ่ายคล่อง ช่วงแรกที่ยังจิตไม่แข็งอยากของหวานเมื่อไหร่ให้ลองดื่มนำ้ 1 แก้ว หรือทานของว่าง เช่น อัลมอนด์
.
● เทคนิคกินรวบมื้อรวมใจเป็นหนึ่งเดียว 🍡🍏
จัด 1 มื้อแบบอิ่มๆ ปิดจบปัญหาการกินจุกจิกด้วยการกินรวบมื้อไปเลย จับขนม ผลไม้ หรือเครื่องดื่มที่มีความหวานมากินพร้อมกับอาหารมื้อหลักที่มีโปรตีนจากเนื้อสัตว์และผักอย่างเพียงพอ ซึ่งการกินรวบกับอาหารมื้อหลักนั้นจะช่วยซึมซับปริมาณกลูโคสลงได้ ทำให้ระดับน้ำตาลไม่พุ่งสูง ลดอาการหิวบ่อยได้
● หาวิธีผ่อนคลายอารมณ์แทนการกิน 🧘‍♀️
ทุกวันนี้การใช้ชีวิตประจำวันของเราจะต้องพบเจอเหตุการณ์ต่างๆ ที่ก่อให้เกิดความเครียดเบื่อหน่ายพอเกิดความรู้สึกพวกนี้มากๆ ก็ยิ่งกระตุ้นปลุกเร้าอารมณ์ให้ปั่นป่วน ส่งผลให้เราอยากหาอะไรที่มาฮีลใจให้กลับมาแฮปปี้ และสิ่งที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้เราบรรเทาความหมองหม่นได้ก็คือการหาของอร่อยใส่เข้าปากเพื่อทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขจากการกิน พอทำบ่อยเข้าเราก็ติดเป็นนิสัยกินจุบจิบแม้ไม่ได้หิว จนอาจจะลามเป็นการกินจนควบคุมตัวเองไม่ได้

สนใจติดตามทริคลดหุ่นชิวแต่ดีผ่านไลน์ คลิก https://lin.ee/VQ4Qx18

⏰กินดึกเป็นประจำ ทำให้น้ำหนักขึ้นจริงไหม? 🌙หลายคนคงกังวลว่าหากเป็นมีความจำเป็นต้องกินดึกด้วยไลฟ์สไตล์หรือเพราะหน้าที่การ...
15/11/2022

⏰กินดึกเป็นประจำ ทำให้น้ำหนักขึ้นจริงไหม? 🌙

หลายคนคงกังวลว่าหากเป็นมีความจำเป็นต้องกินดึกด้วยไลฟ์สไตล์หรือเพราะหน้าที่การงานที่ทำงานเป็นกะ จะส่งผลกระทบทำให้น้ำหนักขึ้น แต่ความจริงการกินดึกๆ ไม่ได้ทำให้อ้วนเท่าการกินแบบเกินแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการต่างหาก 💥

📖ความลับของเวลาที่เราหิวคือการที่สมองของเราลิ้งก์การกินกับเวลาไว้อย่างอัตโนมัติ บางทีที่เราหิวช่วงดึกเป็นเพราะร่างกายเราเคยชินกับการกินตอนดึกไปแล้ว เมื่อเราตอบสนองความหิวโดยการกินในช่วงเวลาเดิมบ่อยเข้า ร่างกายจะทำการตั้งเวลาแห่งความหิวไว้ เมื่อถึงเวลาเดิมเมื่อไหร่ ร่ายกายก็จะปลุกความหิวขึ้นมาเมื่อนั้น แม้เราจะกินอาหารไปก่อนหน้านั้นไม่นานก็ตาม

🚩หากจำเป็นต้องกินดึกจริงๆ เรามี 4 ทริคเพื่อถนอมสุขภาพ! 💪

1.แบ่งเวลาในการกินอาหารให้ร่างกายตั้งเวลาตามที่เราต้องการ หากเรารู้ว่าช่วงนี้ต้องทำงานดึก เราอาจจะเพิ่มมื้อว่างก่อนที่จะได้กินมื้อเย็น รวมถึงแบ่งการกินเป็นมื้อให้ชัดเจน วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่จะช่วยจำกัดให้แคลอรี่ที่ต้องได้รับต่อวันไม่เกินความต้องการ และได้สารอาหารที่เพียงพอครบถ้วน 🌜

2.กินก่อนการเข้านอน 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้มีช่วงเวลาให้กระเพาะอาหารได้ทำการย่อย มื้อที่กินช่วงดึกควรลดปริมาณน้ำตาล และอาหารจำพวกข้าวแป้งลง เนื่องจากถ้าเรากินอาหารพวกดังกล่าวในปริมาณมากช่วงมื้อเย็นและเราไม่ได้ทำกิจกรรมที่เผาผลาญ ร่างกายก็จะไม่ได้เผาผลาญพลังงานที่กินเข้าไปได้ไม่หมดและนำไปสะสมพลังงานในรูปของไขมัน รวมถึงหากนอนทั้งๆ ที่ท้องยังอิ่มอยู่อาจทำให้นอนหลับไม่สนิทเนื่องจากอาหารย่อยไม่หมดอาจเกิดอาการท้องอืดเป็นปัญหาสุขภาพตามมา

ลองตั้งเวลากินอาหารดูว่าเราจะกินมื้อหลักและมื้อว่างตอนไหนบ้างและพยายามกินตามที่ตั้งเป้าไว้เพื่อสร้างกิจวัตรที่ดีและลดการกินนอกมื้อที่แพลนไว้ ตัวอย่างเช่น

เราจะกินมื้อหลัก 3 มื้อ
🥘 08:00
🥘 12:00
🥘 18:00

เราจะกินมื้อว่าง 2 มื้อ
🍎10:00
🍎15:00

💡 นอกจากวิธีนี้จะช่วยให้เราลดการกินนอกมื้อได้ ยังช่วยให้เราแพลนการกินให้ได้สารอาหารตามที่เราวางไว้ง่ายขึ้นอีกด้วย

3.ลองพิจารณาดูอีกทีว่าความรู้สึกนี้คือความหิวจริงหรือเปล่า ช่วงเวลาดึกหากเราหิวนั่นอาจเป็นเพราะเรากินมื้อเย็นไปไม่พอจริงๆ ให้ลองเพิ่มการกินโปรตีนและผักให้เพียงพอ เพราะโปรตีนเป็นสารอาหารที่ช่วยให้เรารู้สึกอิ่มนาน หรือบางครั้งความหิวอาจเกิดขึ้นจากอารมณ์ที่อยากกินเท่านั้น หากสรุปได้ว่าเป็นแค่อารมณ์ ลองหากิจกรรมอย่างอื่นโฟกัสแทนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความหิว

💡แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าหิวจริงๆ เราสามารถวัดระดับความหิวได้คร่าวๆ โดยการให้ระดับเป็นตัวเลข
🟥-10 หิวมากๆ ควรกินอะไรทันที
🟥-8 หิวแบบอ่อนแรง เพลีย
🟧-6 หิวแบบคิดแต่เรื่องของกิน
🟨-4 หิวกำลังพอดี ท้องเริ่มร้อง
🟩-2 หิวนิดๆ ยังไม่หาของกิน
🟩-1 แทบจะไม่ได้หิวเลย

💡แล้วกินตอนไหนดี?
🟨 ระดับความหิว ระดับ -4
เป็นความหิวที่กำลังพอดี ท้องเริ่มร้องนิดหน่อย

4.เลือกดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนเพื่อดับความหิวหรือความอยากอาหาร หากยังรู้สึกหิวอยู่ให้เลือกกินอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โยเกิร์ต นมอุ่น ซุป เมื่อรู้สึกหิว เพื่อให้ร่างกายย่อยอาหารทันก่อนถึงช่วงเวลานอน

ทั้งนี้ของที่มีในตู้เย็นความเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นของว่างหรือว่าอาหารเป็นมื้อ และไม่เก็บอาหารที่ไม่มีประโยชน์ไว้ในบ้าน เพื่อป้องกันการตบะแตกภายหลัง

สนใจติดตามทริคหุ่นดีแต่ชิว https://lin.ee/VQ4Qx18

🕒รวมทริค 5 วิธี กินของโปรดแบบไม่โหลดพุง ไม่มีเวลาก็ยังปรับใช้ได้ทันที 📃ยิ่งยุ่งมาก วิธีลดหุ่นยิ่งต้องง่าย! 🥞หลายครั้งที่...
30/10/2022

🕒รวมทริค 5 วิธี กินของโปรดแบบไม่โหลดพุง ไม่มีเวลาก็ยังปรับใช้ได้ทันที 📃

ยิ่งยุ่งมาก วิธีลดหุ่นยิ่งต้องง่าย! 🥞หลายครั้งที่รู้สึกว่าของโปรดเจ้ากรรม ทำให้คุณลดหุ่นไม่สำเร็จใช่ไหม รู้ 5 ทริคนี้แล้วปรับใช้ คุณจะมีความสุขกับของอร่อยได้โดยไม่ต้องกังวลทีหลัง 🥓แถมวิธีพวกนี้ยังช่วยให้คุณรู้สึกดีดีต่อใจดีและต่อร่างกายไปพร้อมกัน

🚩วิธีง่ายๆ เหล่านี้ได้ผลเพราะอะไรน่ะหรอ?
✅ไม่ต้องบอกลาของโปรด ทำให้ยังมีกำลังใจลดได้อย่างต่อเนื่อง
✅ไม่มีเวลาแค่ไหนก็ยังทำได้ต่อเนื่อง ยืดหยุ่นได้ไม่รบกวนการใช้ชีวิต
✅ไม่ต้องอดข้าวหรือตั้งข้อจำกัดที่ทำให้เครียดจนกินเยอะกว่าเดิม
✅ไม่ใช่ยาและสารเคมีใดๆ ทั้งสิ้นกับร่างกาย
✅ปรับทัศนคติที่มีต่ออาหาร ทำให้คุณเลือกกินได้ตอบโจทย์และเลิกกลัวที่จะกิน

มาดูกันว่าทริคเด็ดๆ ที่เตรียมไว้ให้มีอะไรบ้าง?
_______________________________________________

- ตั้งเป้าหมาย กาปฎิทินแล้วฟินกับของโปรด
เป้าหมายมีไว้พุ่งชน โดยเฉพาะกับของโปรด วางแพลนไว้เลยว่าอาทิตย์นี้จะกินเมื่อไหร่ วันไหน หรือจะกินวันละครั้งแล้วคุมปริมาณก็สามารถทำให้เราโฟกัสกับเป้าหมายได้มากขึ้น เท่านี้ก็ไม่ต้องรู้สึกผิดและมีเป้าหมายให้รู้สึกภูมิใจอีกด้วย

- เคี้ยวให้ละเอียดแบบตั้งใจโฟกัส
เคี้ยวให้มากขึ้นก่อนกลืน อย่างน้อย 30 เคี้ยวต่อ 1 คำ นอกจากจะทำให้รับรสได้ดีขึ้นแล้ว ยังทำให้คุณรู้สึกอิ่มได้ไวขึ้น นานขึ้น! แถมช่วยให้ย่อยได้ดีขึ้นอีกด้วย

- กินให้อิ่มแบบ 80% เพื่อความอิ่มพอดี
เมื่อรู้สึกอิ่มประมาณ 80% ของปริมาณที่จะรู้สึกอิ่มจนแน่นท้อง ตั้งสติแล้วรวบช้อนเก็บจานทันที จะได้ไม่มีการเติมอาหารเพิ่ม หมดกังวลว่าจะหิวเร็วไหม เพราะพออาหารทั้งหมดไปรวมกันอยู่ในท้องแล้วทันใดนั้นคุณก็จะอิ่มแบบพอดีๆ ไม่อึดอัดพุงเหมือนแต่ก่อน

- ใช้เทคนิคสะสมแต้มกับของหวาน
ถ้าคุณชอบกินขนมมากๆ จนติดเป็นนิสัย ขอแนะนำวิธีการกำหนดโควต้าแคลอรี่ขนมหวานไว้ วันละ 1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 150 แคลอรี่ ถ้าเมื่อวานเราใช้โควต้าแคลอรี่ส่วนของหวานไม่หมด ก็สามารถนำแคลที่เหลือจากเมื่อวานมาทบโควต้าขนมหวานวันต่อไปได้!

- แทรกของโปรดของคุณลงไปในมื้ออาหารที่ดี
การผสมผสานแบบทางสายกลางนี่แหละ เวิร์ค! ลงออกแบบมื้ออาหารที่ลงตัวตามฉบับของคุณ มีทั้งของโปรดและอาหารที่ดีต่อสุขภาพในมื้อเดียวกันจะทำให้คุณอิ่มแบบแฮปปี้และไม่กินเยอะจนเกินพอดี

ติดตามทริคลดหุ่นชิวแต่ดี: https://lin.ee/VQ4Qx18

⁉️ลดน้ำหนักครั้งนี้ รอบที่เท่าไหร่? ถ้านับนิ้วบางคนต่อให้มีสิบมือแบบทศกัณฑ์ก็ยังไม่ถ้วน แถมลดทีไรไม่เคยสำเร็จอีก! วิธีได...
10/10/2022

⁉️ลดน้ำหนักครั้งนี้ รอบที่เท่าไหร่? ถ้านับนิ้วบางคนต่อให้มีสิบมือแบบทศกัณฑ์ก็ยังไม่ถ้วน แถมลดทีไรไม่เคยสำเร็จอีก! วิธีไดเอตแบบทรมานเหมือนคนหมดความหวังนั่งน้ำตาริน ข้าวปลาไม่กินที่เคยทำเนี่ย ต้องพักก่อน!

💪ทุกครั้งที่ลดช่วงแรกก็มีวินัยนะ ปริ้นต์รูปไอดอลหุ่นเป๊ะมาแปะข้างฝาให้ฮึกเหิม ออกกำลังกายหนักๆ ยอมอดของชอบ แต่! พอเคร่งมากๆ แล้วเครียดอะ ตบะแตกแล้วก็กินยับตลอด ลู่วิ่งที่มีอยู่ก็ถูกเปลี่ยนเป็นราวตากผ้า!

ถ้ารู้ว่าวิธีทรมานๆ จะทำได้ไม่นาน จะกลับไปทำอีกทำไม ลุกมาลองอะไรใหม่ๆ ❤️‍🔥แล้วเริ่มให้ความสำคัญกับเบสิคง่ายๆ อย่างการปรับการกินให้เป็นแบบ ‘Flexible Eating’ กันเถอะ นอกจากจะยืดหยุ่นเข้ากับวิถีชีวิตของคุณแล้ว ยังให้ผลดีกับการลดหุ่นแบบไม่ต้องฝืนใจทำ

แล้ว ‘Flexible Eating’ ช่วยได้ยังไง? จากผลวิจัย 📖ชี้ให้เห็นว่าหากปรับการกินให้ตอบสนองกับการทำงานของสมองและฮอร์โมน พฤติกรรมการกินของเราจะเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติ เมื่อเกิดความเคยชิน นั่นจะทำให้เราเลิกกินเรื่อยเปื่อย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายทริคเลยที่สามารถปรับเข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันของคุณเพื่อให้ลดหุ่นได้อย่างต่อเนื่อง

⏱️หมดปัญหาเรื่องไม่มีเวลาเข้าคอร์สเพราะเป็นคอร์สแบบออนไลน์ 💻รวมเทคนิคแบบเน้นๆ พร้อมโค้ชวิเคราะห์และออกแบบแผนการกินตามไลฟ์สไตล์ของคุณโดยเฉพาะ

🤔คอร์สนี้เหมาะกับใคร ✨
- คนที่ลดน้ำหนักมาหลายครั้งแต่ยังไม่เจอวิธีที่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่องจนเห็นผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว
- คนยุคใหม่ที่สนใจเรื่องการลดน้ำหนักแต่ไม่มีเวลาศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองหรือเดินทางไปเรียนคอร์สต่างๆ
- ผู้มีความกังวลด้านสุขภาพที่ไม่สามารถใช้วิธีการลดน้ำหนักทั่วไปได้

📌รวมเคล็ดลับของการลดหุ่นแบบไม่ทรมาน สรุปให้แล้วในคอร์สออนไลน์นี้ เซฟเวลาไม่ต้องหาข้อมูลเอง แถมได้วิธีที่ออกแบบตามโจทย์ชีวิตของคุณโดยเฉพาะในราคาเพียง 890 บาท พิเศษ! คลิก https://www.healthyandme.co/weightloss/general-group

หรือทักไลน์มาที่ https://lin.ee/VQ4Qx18

เคยไหม… พยายามลดน้ำหนักแทบตาย แต่น้ำหนักก็ลงได้แค่ช่วงแรกๆ พอเวลาผ่านไปตาชั่งก็หยุดนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ว่าจะออกกำลังกายกั...
08/10/2022

เคยไหม… พยายามลดน้ำหนักแทบตาย แต่น้ำหนักก็ลงได้แค่ช่วงแรกๆ พอเวลาผ่านไปตาชั่งก็หยุดนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ว่าจะออกกำลังกายกับคุมอาหารแค่ไหน น้ำหนักก็ไม่ลดลงอีก จนพาให้สงสัยว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่า
╔══════════════════════════════╗
💚 Healthy & Me
ปรักษานักโภชนาการฟรี : https://bit.ly/3fR6T7o
╚══════════════════════════════╝

ปัญหา “น้ำหนักหยุดนิ่ง” เป็นเรื่องชวนท้อแท้สำหรับหลายคนที่กำลังลดน้ำหนัก เรามาดูกันดีกว่าว่า สาเหตุอะไรที่ทำให้ตัวเลขบนตาชั่งไม่ขยับเขยื้อน แล้วต้องแก้ยังไงเราถึงจะลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย
สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้น้ำหนักหยุดนิ่ง ได้แก่

1.กินแบบเดิมซ้ำๆ
หรือพูดง่ายๆ คือกินแต่อาหารเดิมๆ เมนูเหมือนเดิม รับสารอาหารและพลังงานเท่าเดิมตลอด ทำให้ร่างกายเราคุ้นชินและไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ อีก

2.มีกล้ามเนื้อมากขึ้น
หากเราออกกำลังกายถูกวิธี และกินอาหารอย่างสมดุลแล้ว เป็นไปได้ว่าน้ำหนักที่คงเดิมอาจมาจากมวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มเข้ามาแทนที่ไขมันก็ได้ ดังนั้น แทนที่จะสนใจเลขบนเครื่องชั่งอย่างเดียว ให้ลองส่องกระจกสังเกตรูปร่างตัวเองด้วย เพราะหุ่นเราอาจฟิต เฟิร์ม ดูกระชับขึ้น ทั้งที่น้ำหนักยังคงที่

3. การเผาผลาญลดลง
บางทีการรับแคลอรีน้อยเกินไป ก็อาจทำให้ร่างกายขาดพลังงาน และส่งผลให้การเผาผลาญลดลงตามไปด้วย บวกกับอายุที่เพิ่มขึ้น และไลฟ์สไตล์ที่ไม่ค่อย active ก็ยิ่งทำให้อัตราการเบิร์นไขมันต่ำลง ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักไม่ลดลงอีก

4. เครียด
ความเครียดส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน ทำให้การเผาผลาญไม่สมดุล แถมยังกระตุ้นให้เรารู้สึกอยากกินนู่นนี่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูง ซึ่งก็นำมาสู่น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นนั่นแหละ

5. นอนไม่เพียงพอ
การนอนดึก นอนน้อย เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนและระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มที่ แถมยังทำให้เราอ่อนเพลีย ไม่มีแรงออกกำลังกาย และหิวบ่อยขึ้นด้วย

🎯เมื่อรู้สาเหตุไปแล้ว มาดูกันว่าเราจะแก้ปัญหาน้ำหนักหยุดนิ่งได้ยังไงบ้าง

1.ปรับการกินใหม่ โดยกินให้หลากหลายขึ้น รวมถึงอาจหลอกร่างกายด้วยการกินอาหารพลังงานสูงบ้าง สัก 2 สัปดาห์ต่อครั้ง เพื่อไม่ให้ร่างกายชินกับสารอาหารและระดับพลังงานเดิมจนเกินไป ถ้าไม่แน่ใจว่าจะปรับการกินให้สมดุลอย่างไร ก็สามารถปรึกษานักโภชนาการได้ค่ะ

2.เพิ่มกิจกรรมทางกาย ใครที่ต้องอยู่กับที่ หรือนั่งทำงานนานๆ อาจลองลุกเดินยืดเส้นยืดสายทุกๆ ชั่วโมง หรือเปลี่ยนจากการขึ้นลิฟต์มาเดินขึ้นบันไดแทนบ้าง เพื่อให้ร่างกายได้ขยับเขยื้อนและ active มากขึ้น

3.กระตุ้นระบบเผาผลาญ โดยการออกกำลังกายเป็นประจำ ให้ได้ 3-5 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30-50 นาที ถ้าใครที่ทำแบบนี้แล้วน้ำหนักยังคงที่ ก็อาจลองเปลี่ยนวิธี เปลี่ยนท่า หรือเพิ่มความหนักในการออกกำลังกายดูก็ได้ เช่น เพิ่มน้ำหนักในการเวทเทรนนิ่ง หรือเพิ่มความเร็วในการวิ่ง เป็นต้น

4.ลดความเครียด ลองทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด อย่างการอ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือทำงานอดิเรกที่เราชอบ เมื่อจิตใจสดใส ร่างกายก็จะสมดุล และทำให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นตามมา

5. นอนให้เพียงพอ เราควรนอนหลับอย่างมีคุณภาพให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ระบบต่างๆ ได้รับการฟื้นฟู และช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นพร้อมต่อการออกกำลังกายในทุกๆ วันด้วย

6. หาตัวช่วยที่เหมาะกับเรา
ถ้าการลดน้ำหนักด้วยตัวเองไม่ได้ผล การหาคนมาช่วยก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน
อย่าง Healthy and Me คอร์สเพื่อการลดน้ำหนักที่มีทีมโค้ช นักโภชนาการ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาทางออนไลน์ตลอดเวลา พร้อมวิเคราะห์ปัญหา อุปสรรค ไลฟ์สไตล์ และข้อจำกัดของแต่ละคน เพื่อหาวิธีลดน้ำหนักที่เหมาะกับเราโดยเฉพาะ ซึ่งทั้งทำได้ง่าย เห็นผลจริง และดีต่อสุขภาพด้วย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม 👉 https://bit.ly/3fR6T7o

💡เชื่อไหมว่ามีวิธีที่ไม่ต้องรู้สึกผิดตอนกินไก่ทอดของโปรด แถมน้ำหนักก็ยังลงได้ 🍗 (ความย้อนแย้งยิ่งกว่าชื่อเพลงGetsunova)ม...
07/10/2022

💡เชื่อไหมว่ามีวิธีที่ไม่ต้องรู้สึกผิดตอนกินไก่ทอดของโปรด แถมน้ำหนักก็ยังลงได้ 🍗 (ความย้อนแย้งยิ่งกว่าชื่อเพลงGetsunova)

มาลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายด้วยกัน! รับประกันว่าง่ายและถูกใจคุณกว่าที่วิธีที่เคยทำ ด้วยโปรแกรมลดน้ำหนักในรูปแบบใหม่ ออกแบบพิเศษสำหรับคุณโดยเฉพาะ ด้วยเทคนิค “Flexible Eating” หรือแผนการกินแบบยืดหยุ่น ไม่ใช้ยา แถมเรียนและโค้ชง่ายๆ ผ่านออนไลน์ มีเวลาน้อยก็ผอมลงได้

ถ้าจะลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืนควรทำให้เป็นวิธีของคุณเองจนเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตร ไม่ต่างจากความง่ายในการแปรงฟัน การล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าของแผนลดน้ำหนักอาจทำให้เราท้อ แต่ขอให้เลิกบอกตัวเองว่าทำไม่ได้! ที่มันยากเกินไปเพราะวิธีเดิมๆ อาจไม่เหมาะกับคุณก็ได้นี่หน่า

🚩ขอแนะนำให้รู้จักกับ “Flexible Eating” ซึ่งฮิตมากๆ ที่ญี่ปุ่น 🇯🇵 โดยในหมู่คนญี่ปุ่นเรียกวิถีการกินแบบนี้ว่า “Shoku-Iku” หรือแผนการกินแบบยืดหยุ่น เพราะเป็นการกินที่ยืดหยุ่น เข้าใจร่างกายของตัวเอง ทำให้การกินเป็นเรื่องง่าย หมดปัญหาความกังวลหรือรู้สึกผิดหลังกิน เน้นผลลัพธ์ที่ยั่งยืนตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

❓แล้วต่างจากวิธีลดน้ำหนักทั่วไปยังไงล่ะ?
หลายคนคงได้ยินหรือผ่านการลองวิธี IF หรือการกินคีโต กินแบบนับแคล วิธีเหล่านี้มีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันไปซึ่งข้อควรระวังคือมันอาจไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะคนที่เครียดแล้วกินแหลกตะบะแตก 🤯

🙎นักวิจัยด้านการลดน้ำหนักจึงได้ทำการทดลองกับคนสองกลุ่มเพื่อเปรียบเทียบการลดน้ำหนักแบบ Flexible Eating กับ การลดด้วยการควบคุมการกินอย่างเคร่งครัด กลับพบว่าคนที่ลดแบบควบคุมการกินอย่างเคร่งครัดลดน้ำหนักได้น้อยกว่าและกลับมาโยโย่เพราะความเครียดซะงั้น (อ้างอิงข้อมูลจาก Sherin 1994, Stewart 2002, Conlin 2020 ไปหาอ่านต่อได้นะ)

🙎นักวิจัยด้านการลดน้ำหนักจึงคิดค้นวิธีการลดแบบ Flexible Eating ขึ้นมาโดยเริ่มจากทำความเข้าใจว่าผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักนั้นชอบกินอะไรที่สุด แล้วออกแบบแผนการลดน้ำหนักให้สอดคล้องไปกับความชอบเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ทำต่อได้เรื่อยๆ โดยไม่ฝืนจนอยากเลิกกลางคันไปซะก่อน

✨เพียงปรับ Mindset ✨ว่าการได้กินของโปรดมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก กินได้อิ่มทุกมื้อแบบถูกวิธีและช่วยปรับการทำงานของสมองและฮอร์โมนให้เราไม่หิวจนกินจุบจิบอีก

“Flexible Eating” ต้องอาศัยการวิเคราะห์ความต้องการของแต่ละบุคคล เนื่องจากนักโภชนาการต้องทำความเข้าใจทั้งไลฟ์สไตล์ เป้าหมายและสุขภาพ เพื่อออกแบบแผนที่ตอบโจทย์มากที่สุด ที่สำคัญต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายๆ ลบคำว่า “หลุด” ออกจากแผนการลดน้ำหนักนี้ได้เลย

📌สนใจคอร์สลดน้ำหนักออนไลน์ที่ออกแบบเพื่อคุณโดยเฉพาะ การันตีผลลัพธ์ หากไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงภายใน 30 วัน ขอรับเงินคืนได้ 100% ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านลิงก์นี้ https://www.healthyandme.co/

หรือแอดไลน์มาที่ https://lin.ee/VQ4Qx18

ไลฟ์สไตล์แบบยุ่งๆ อยากลดนำ้หนัก ให้ไปออกกำลังกายก็อย่าหวัง มาลองทำ IF แล้วก็ล่มไม่เป็นท่า ยุ่งจนลืม นับเวลาก็ผิด กินก็ไม...
28/09/2022

ไลฟ์สไตล์แบบยุ่งๆ อยากลดนำ้หนัก ให้ไปออกกำลังกายก็อย่าหวัง มาลองทำ IF แล้วก็ล่มไม่เป็นท่า ยุ่งจนลืม นับเวลาก็ผิด กินก็ไม่ถึง ทำยังไงดีคะ 🥺
อยากท้าให้ลองเทคนิคลดน้ำหนักรูปแบบใหม่ Flexible Eating ที่ง่ายและได้ผล
✅ออกแบบเฉพาะคุณ
✅กินแบบยืดหยุ่น
✅ไม่ใช้ยา และอาหารเสริม
✅ไม่ต้องออกกำลังกาย
✅เรียนและโค้ชออนไลน์
🇯🇵 Flexible Eating ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากในกลุ่มคนญี่ปุ่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหรือที่เรียกว่า วิถีการกินแบบ Shoku-Iku คือมันง่ายมากเพียงแค่เราเข้าใจและมาประยุกต์กับตัวเรา มีความยืดหยุ่นที่ถึงแม้สถานการณ์ในแต่ละวันของเราจะเปลี่ยนไป จะยุ่งแค่ไหนเราก็สามารถทำได้ วิธีการนี้มันถูกออกแบบมาเพื่อเน้นผลลัพธ์ที่ยั่งยืนสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์แบบยุ่งๆอย่างเรานั่นแหละ
😅 ลืมการลดน้ำหนักแบบเดิมๆได้เลย
ไม่ว่าจะเป็น ไอเอฟ หรือ คีโต เพราะการลดน้ำหนักแบบเก่า นำ้หนักลดกันก็จริง แต่ปัญหามันอยู่ที่เราไม่สามารถทำมันไปได้ตลอด เพราะมันไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์ เลิกงานเพื่อนชวนไปกินเลี้ยงก็คีโตแตกแล้ว ยิ่งพอหยุดทำนำ้หนักก็ยิ่งเด้งกลับมา บางคนเด้งมาเป็น 2 เท่า
👩🏻‍⚕️นักวิจัยด้านการลดน้ำหนัก ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้มาหลายสิบปี เปรียบเทียบการลดน้ำหนักแบบ Flexible Eating กับการลดด้วยการควบคุมการกินอย่างเคร่งครัด ผลปรากฏว่าการลดแบบควบคุมการกินอย่างเคร่งครัดกลับลดน้ำหนักได้น้อยกว่าและอาจจะส่งผลให้กลับมาโยโย่เพราะด้วยความเครียด และสร้างพฤติกรรมการ overeat หรือ binge eating ด้วยซำ้ (Sherin 1994, Stewart 2002, Conlin 2020)
Flexible Eating ทำยังไง?
เริ่มจากทำความเข้าใจก่อนว่าผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักนั้นชอบกินอะไรก่อนมาเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นของโปรดต่างๆ อาหารที่ทานบ่อย ความสะดวก แล้วค่อยมาออกแบบแผนการลดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืนค่ะ หลายคนคงอาจจะมีคำถามว่าถ้าทำแบบนี้มันจะได้ผลจริงเหรอ กินอะไรก็ได้เนี่ยนะ? ใช่ค่ะ! วิธีนี้เค้าเชื่อว่าการได้กินของโปรดมันเป็นส่วนนึงของการลดนำ้หนัก การที่เราโดนว่าๆกินนี่ไม่ได้กินนู่นไม่ได้มันกลับกลายเป็นตัวกระตุ้นให้เราอยากกินมากกว่าและส่งผลทำให้เราไม่สามารถลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้การลดแบบนี้ยังโฟกัสในการช่วยให้เรากินอิ่มทุกมื้อแบบถูกวิธีและสัมพันธ์กับการทำงานของสมองและฮอร์โมนของเราทำให้เราไม่หิวบ่อยอีกด้วย
จะให้ได้ผลต้องมีโค้ช
เพราะต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงในด้านโภชนาการและจิตวิทยา ประเมินรายบุคคล ไม่สามารถที่จะคาดเดาแล้วทำเองได้ หากเข้าใจผิดอาจจะส่งผลต่อการลดน้ำหนักและทำให้เกิดปัญหาตามมา แก้ยากเข้าไปอีก…. โค้ชนักโภชนาการต้องทำความเข้าใจทั้งไลฟ์สไตล์ ความชอบ เป้าหมายการลดและสุขภาพของเรา เพื่อออกแบบแผนการลดที่ตอบโจทย์เราที่สุด เรียกได้ว่ามันค่อนข้าง customized มาก นอกจากนี้ยังต้องออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆในชีวิตเราได้ด้วย

หากสนใจคอร์สลดน้ำหนักออนไลน์ Flexible Eating ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านลิงค์นี้นะคะ
https://www.healthyandme.co/weightloss/diet-group

หรือทักแชทไลน์มาที่ Line:

ที่อยู่

Bangkok
10110

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Healthy&Meผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram