ตลาดนัดครอบครัว

ตลาดนัดครอบครัว ตลาดนัดสำหรับแบ่งปันความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับทุกเรื่องพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก

สารบัญเพจ สามารถเข้าดูได้ที่รูปภาพ (Photo) ตามช่วงอายุและปัญหาพฤติกรรมได้เลยค่ะ

01/12/2025

💖 สาขาวิชาพัฒนาการและการเจริญเติบโต ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
🌈ขอเชิญพ่อ แม่ และผู้ปกครอง เข้าร่วมโครงการวิจัย✨

“การประเมินความเที่ยงและความตรงของแบบสอบถามคัดกรองการนอนหลับ BEARS ฉบับภาษาไทยในเด็กปกติ ”

โดยผู้เข้าร่วมวิจัยจะได้รับ
✅ การตรวจคัดกรองปัญหาการนอนหลับด้วยแบบสอบถาม
✅ เงินชดเชยค่าเสียเวลาในการตอบแบบสอบถาม

🌟คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมวิจัย
1. เป็นพ่อ แม่ หรือผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุ 4-12 ปี ที่อยู่อาศัยอยู่กับเด็กมานานอย่างน้อย 6 เดือน (กรณีเด็กอายุ 6-12 ปี จะมีการสัมภาษณ์เด็กร่วมด้วย โดยใช้เวลาเพียง 1-2 นาที)
2. สามารถใช้แอปพลิเคชั่น LINE ได้
3. บุตรหลานไม่เคยได้รับการวินิจฉัยโรคด้านการนอนหลับ ไม่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ และไม่มีการใช้ยาเกี่ยวข้องกับการนอนหลับ

สมัครกันเข้ามาเยอะ ๆ นะคะ 😍💖

กดลงทะเบียนตามลิงก์นี้ได้เลยค่ะ
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSevyVvEW16NH_LoYtiODkkXFNtKSfR7JYGLS03qjZ1nKNeDCg/viewform

หรือ Scan QR code ในรูปภาพ

หากท่านมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ของการเข้าร่วมโครงการวิจัย จะได้รับการติดต่อกลับจากทีมผู้วิจัยเพื่อพิจารณาเข้าร่วมโครงการวิจัยอีกครั้งค่ะ

🙏🏻ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งที่ให้ความสนใจในโครงการวิจัยนี้ค่ะ

โครงการวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยแพทย์ประจำบ้าน ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โทร. 062-8711045

 #ทุกเรื่องการเลี้ยงลูกตลาดนัดครอบครัวมีคำตอบ
30/11/2025

#ทุกเรื่องการเลี้ยงลูกตลาดนัดครอบครัวมีคำตอบ

🤔 เคยได้ยินคำว่า "Survivor’s Guilt" หรือ "ความรู้สึกผิดที่ตัวเองรอดมาได้" บ้างไหมคะ มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเกิ...
29/11/2025

🤔 เคยได้ยินคำว่า "Survivor’s Guilt" หรือ "ความรู้สึกผิดที่ตัวเองรอดมาได้" บ้างไหมคะ มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงบางอย่าง เช่น จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัดภาคใต้ แม้ว่าวันนี้ปริมาณน้ำอาจจะลดลงแล้ว แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นยังคงอยู่ และต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูและเยียวยาอีกมาก รวมถึงสภาพจิตใจทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ ที่ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น แต่เมื่อได้รับรู้ข่าวสารดังกล่าว กลับทำให้เกิดความรู้สึกผิดหรือหดหู่ใจทั้งที่ตัวเองก็ยังอยู่รอดและปลอดภัยดี

ความรู้สึกแบบนี้ถือว่าผิดปกติไหม ? และเมื่อเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้น จะมีวิธีจัดการความรู้สึกตัวเองได้อย่างไร มีข้อมูลดี ๆ จาก CMU MINDS มาฝากกันค่ะ

สุดท้ายนี้ทางเพจตลาดนัดครอบครัวขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยทุกท่านนะคะ เราเชื่อมั่นว่าฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ และทุกท่านที่เผชิญกับภัยพิบัตินี้จะล้วนเติบโตขึ้นบ้างไม่มากก็น้อยค่ะ 🤍🤍🤍

#ทุกเรื่องการเลี้ยงลูกตลาดนัดครอบครัวมีคำตอบ

ใจห่วงใต้... เราทำอะไรได้บ้างในวันที่น้ำท่วม 🌊 (English version in comment)

ช่วงนี้น้ำท่วมใหญ่ในภาคใต้ หาดใหญ่เดือดร้อน หลายแสนคนกำลังลำบาก หลายคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ก็คงรู้สึกตะกุกตะกักใจ เจอข่าวแล้วรู้สึกผิดหรือใจหดหู่ ทั้งที่ตัวเองยังปลอดภัยดี

ความรู้สึกแบบนี้มีชื่อเรียกนะคะ เขาเรียกว่า "Survivor’s Guilt" หรือ "ความรู้สึกผิดที่ตัวเองรอดมาได้"

จริงๆ แล้ว ความรู้สึกนี้ไม่ใช่สัญญาณของความอ่อนแอ แต่เป็นเพราะเรามีใจที่รู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

บางทีแค่เห็นภาพผ่านจอ ก็เหมือนใจเราไหลไปอยู่ตรงนั้นด้วยแล้ว

🤍 งานวิจัยบอกไว้ว่าคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ก็รู้สึกผิดแบบนี้เหมือนกัน เสียงในใจที่ว่า “ทำไมเราสบาย ในขณะที่คนอื่นเดือดร้อน?” เป็นเรื่องปกติค่ะ

ทว่าความรู้สึกผิดไม่ได้ช่วยให้น้ำลดหรือช่วยใครได้ แต่การลงมือทำเล็กๆของเราต่างหาก จะเปลี่ยนพลังใจนี้ไปช่วยเหลือคนอื่นได้จริงๆ
💞เราทำอะไรได้บ้าง?

1️⃣ รับรู้และเท่าทันความรู้สึกของตัวเอง ยอมรับว่า “เรากำลังเศร้า กำลังรู้สึกผิด” เพียงเท่านี้ความรู้สึกที่ท่วมท้นอยู่ก็จะก็เบาลงได้ 20 – 30% เลยค่ะ เปลี่ยนความรู้สึกเหล่านี้เป็นความเข้าใจและเมตตา อย่าไปโทษตัวเองนะคะ

2️⃣ ให้ความช่วยเหลือเท่าที่ตัวเราพอทำได้

- แชร์ข้อมูลที่ถูกต้อง ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนเผยแพร่ เช่น ช่องทางติดต่อหน่วยงานรัฐและองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือ

- โพสต์ให้กำลังใจ ระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็น หลีกเลี่ยงถ้อยคำ ตำหนิ เสียดสี หรือล้อเลียนเหตุการณ์

- รับฟัง ให้พื้นที่กับคนที่เดือดร้อน หลีกเลี่ยงการซักหรือเปรียบเทียบความเสียหาย

- ร่วมบริจาคเงิน ของ เครื่องใช้ เท่าที่ตัวเราพอไหว อย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือของหน่วยงานที่รับบริจาคด้วยนะคะ

3️⃣ หากใจล้า สามารถอนุญาตให้ตัวเองพักจากข่าวได้บ้าง ไม่ต้องฝืนดูจนใจเรียนหรือทำงานไม่ไหว

🔗 สำหรับชาวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ใครอยากช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่ประสบภัยน้ำท่วม สามารถดูรายละเอียดหรือร่วมบริจาคได้ที่

- SD One Stop Service "ตี้เดียวฮู้เรื่อง" อาคารพลศึกษา โรงยิมกลาง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (รับบริจาคถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ก่อนเวลา 12.00 น) : https://www.facebook.com/photo?fbid=818675237647239&set=a.124067650441338&locale=th_TH

- มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ : https://www.facebook.com/photo?fbid=1303638494900393&set=a.776538617610386&locale=th_TH


ขอส่งกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทุกท่าน และทุกคนที่กำลังรู้สึกหนักหน่วงจากเหตุการณ์นี้

เราจะผ่านไปด้วยกัน 🤍
อ้างอิง

- คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา. ถ้าดูข่าวแล้วใจหดหู่ เจ็บเหมือนตัวเองทำผิด – นี่คือคำอธิบายที่อาจช่วยท่านได้ : https://www.facebook.com/D2JED?locale=th_TH

- Clinical Psychology Siriraj :: จิตวิทยาคลินิกศิริราช. สิ่งที่ประชาชนสามารถช่วยเหลือได้ในสถานการณ์น้ำท่วม : https://www.facebook.com/siclinpsy/posts/pfbid02R4imTiScRHbaR6S5V3Cc5H212SRfW4xeGewsaUiZKu1jw4VbBrB7JhVP645z55FSl?rdid=51KOlLLbqZFXDNaa #

🔸️ มีหลักสูตรดี ๆ แบบ Onsite สำหรับคุณพ่อคุณแม่จาก NET PAMA ที่ฟรี...ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ ✨️จังหวัดที่กำลังรับสมัครอยู่มีด...
29/11/2025

🔸️ มีหลักสูตรดี ๆ แบบ Onsite สำหรับคุณพ่อคุณแม่จาก NET PAMA ที่ฟรี...ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ ✨️

จังหวัดที่กำลังรับสมัครอยู่มีดังนี้
👉 นครศรีธรรมราช
กาญจนบุรี
สมุทรปราการ
สุโขทัย
นครราชสีมา
ปทุมธานี
นนทบุรี
อุดรธานี
ราชบุรี
และกรุงเทพมหานคร

หากผู้ปกครองท่านใดมีความสนใจ สามารถอ่านรายละเอียดตามโพสต์ด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ 😊😊

10 ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับภาวะแอลดี โดยหมอเค…ศ.นพ.วีระศักดิ์ ชลไชยะ1. แอลดี (LD) หรือ learning disability หรือ specific le...
28/11/2025

10 ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับภาวะแอลดี โดยหมอเค…ศ.นพ.วีระศักดิ์ ชลไชยะ

1. แอลดี (LD) หรือ learning disability หรือ specific learning disorder คือ ภาวะบกพร่องของทักษะการเรียนโดยเฉพาะด้านการอ่าน การเขียน หรือการคำนวณที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ตามอายุของเด็ก หรือต่ำกว่าระดับความสามารถทางสติปัญญาของเด็ก ยกตัวอย่างเช่น หากปัจจุบันเด็กอายุ 8 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.2 และคาดว่าน่าจะมีสติปัญญาปกติ แต่ยังมีความสามารถด้านการอ่าน หรือการเขียนสะกดคำ หรือการคำนวณที่ต่ำกว่าระดับชั้น ป.2 ทั้ง ๆ ที่เด็กได้รับการสอนอย่างเหมาะสมและเพียงพอแล้วก็ตาม จนทำให้รบกวนต่อการเรียน การทำงาน หรือการดำรงชีวิตประจำวันอาจเข้าข่ายภาวะแอลดีได้

2. อย่างไรก็ตามจะยังไม่สามารถให้การวินิจฉัยภาวะแอลดีได้หากความล่าช้าทางการเรียนนั้นมีสาเหตุหลักมาจากความบกพร่องของการได้ยินหรือการมองเห็น สติปัญญาบกพร่อง โรคทางจิตเวช หรือโรคทางระบบประสาท ความทุกข์ยากทางจิตสังคม ขาดความคล่องแคล่วของภาษาที่ใช้ในการสอน หรือไม่ได้รับการสอนอย่างเพียงพอ

3. ความบกพร่องของทักษะการอ่านเป็นภาวะที่พบได้บ่อยที่สุดของภาวะแอลดีทั้งหมด เด็กจะมีความยากลำบากในการอ่านคำให้ถูกต้อง อ่านไม่คล่อง หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่อ่าน การที่เด็กจะอ่านคำได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่วนั้นจำเป็นต้องมีความตระหนักรู้ว่าคำพูดที่ได้ยินนั้นประกอบด้วยหน่วยย่อยของเสียงต่าง ๆ เช่น ”แมว“ มีเสียงพยัญชนะขึ้นต้นด้วยเสียง ”มอ“ ซึ่งเป็นเสียงขึ้นต้นเดียวกับคำว่า แม่ มือ และ ม้า ในขณะที่คำว่า “แมว” มีเสียงพยัญชนะลงท้ายด้วยเสียง “ว” เป็นต้น นอกจากนี้เด็กจำเป็นต้องรู้จักพยัญชนะและสระ มีความเข้าใจว่าพยัญชนะแต่ละตัวมีหน่วยเสียงกำกับอยู่ เช่น พยัญชนะ “ก“ มีหน่วยย่อยของเสียง คือ เสียง ”กอ“ เป็นต้น เด็กที่มีภาวะแอลดีจะมีความยากลำบากในการอ่านแบบแจกแจงรูปคำ หรือไม่สามารถอ่านแบบแยกหน่วยย่อยของเสียงออกจากคำได้ ทำให้สะกดไม่ได้ เช่น เมื่อเห็นคำว่า “หมา” ก็ไม่สามารถสะกดว่า “หอ-มอ-อา-หมา” ได้ เป็นต้น เด็กบางคนจะอ่านข้ามคำที่สะกดไม่ได้ หรืออ่านแบบเดาเป็นคำที่คุ้นเคยคำอื่นมากกว่า แทนที่จะค่อย ๆ สะกด รวมทั้งยังชอบให้คนอื่นอ่านหนังสือให้ฟังมากกว่าอ่านเอง ดังนั้นพ่อแม่ควรหมั่นให้ลูกอ่านออกเสียงให้ฟังเพื่อจะได้ประเมินเบื้องต้นว่าเด็กอ่านได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่วหรือไม่

4. เด็กที่มีสติปัญญาดีอาจเรียนรู้ที่จะอ่านแบบจำคำต่าง ๆ ได้ทั้งคำ จึงดูเหมือนว่าอ่านได้ถูกต้อง และคล่องแคล่ว แต่เมื่อเด็กโตขึ้น คำและเนื้อหาที่อ่านจะมีความยากและซับซ้อนมากขึ้นเกินกว่าระดับความสามารถทางการเรียนของเด็ก หรือหากเป็นการอ่านภายใต้เวลาอันจำกัด และมีสิ่งที่ต้องอ่านมากขึ้นจะยิ่งเห็นความบกพร่องของการอ่านสะกดคำ และไม่เข้าใจในสิ่งที่อ่าน ซึ่งอาจเข้าข่ายภาวะแอลดีในภายหลังได้

5. ความบกพร่องของทักษะการอ่านเกิดจากความผิดปกติในสมองหลายส่วนที่เกี่ยวกับระบบภาษา โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประมวลเสียงในภาษาพูดให้เป็นหน่วยย่อยของเสียง หรือความตระหนักรู้ว่าคำพูดประกอบด้วยหน่วยย่อยของเสียงต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ข้างต้น รวมทั้งความสามารถในการเชื่อมโยงตัวหนังสือที่เห็นกับฐานเสียงนั้น ๆ และยังเกี่ยวข้องกับสมองส่วนที่ช่วยในการอ่านคำอย่างรวดเร็ว คล่องแคล่ว และแบบอัตโนมัติ

6. ความบกพร่องของทักษะการเรียนอื่น ได้แก่ ความบกพร่องของทักษะการเขียน ซึ่งเด็กมักจะสับสนพยัญชนะที่มีลักษณะคล้ายกันจนทำให้เขียนและสะกดคำผิด มีความยากลำบากในการใช้กล้ามเนื้อมือเพื่อจับดินสอทำให้เขียนช้า ใช้ไวยากรณ์และเครื่องหมายวรรคตอนไม่ถูกต้อง รวมทั้งขาดความชัดเจนของแนวคิด และมีปัญหาในการเรียบเรียงสิ่งที่จะเขียนเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ในขณะที่เด็กที่มีความบกพร่องของทักษะการคำนวณจะมีความยากลำบากในการรับรู้ทางจำนวน หรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจำนวน คิดเลขไม่คล่อง และมีความยากลำบากในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์

7. เด็กที่มีความเสี่ยงต่อภาวะแอลดี ได้แก่ มีพ่อแม่หรือพี่น้อง หรือญาติสายตรงที่มีปัญหาการเรียน อ่านหนังสือไม่คล่อง หรือมีภาวะแอลดี เด็กที่มีประวัติพัฒนาการด้านความเข้าใจและการพูดสื่อสารล่าช้า หรือพูดไม่ชัดในช่วงวัยเตาะแตะและวัยอนุบาล นอกจากนี้เด็กที่คลอดก่อนกำหนดโดยเฉพาะก่อนอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ หรือมีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด หรือเด็กที่มีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียวจะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อภาวะแอลดี

8. การพัฒนาด้านภาษาและคลังคำศัพท์ให้เด็กเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเด็กที่มีคลังคำศัพท์มาก รู้ว่าคำแต่ละคำมีความหมายว่าอะไร และจะใช้แตกต่างกันอย่างไรในบริบทต่าง ๆ จะช่วยส่งเสริมทักษะการเรียนรู้โดยเฉพาะด้านการอ่าน การเขียนสะกดคำ และการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ ดังนั้นถึงแม้ว่าเด็กที่เคยพูดสื่อสารล่าช้า หรือพูดไม่ชัดจะพูดสื่อสารดีขึ้นแล้ว ก็ควรส่งเสริมการอ่านหนังสือกับเด็ก สอน หรือถามให้เด็กอธิบายคำศัพท์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันอยู่เป็นประจำ เพื่อช่วยพัฒนาทักษะด้านภาษาซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาทักษะการเรียนด้านต่าง ๆ ต่อไป

9. หากพบภาวะแอลดีอย่างหนึ่งก็มักจะพบภาวะแอลดีอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เด็กมีความบกพร่องของทักษะการเรียนทั้งด้านการอ่าน การเขียนสะกดคำ และการคำนวณร่วมกัน นอกจากนี้ภาวะแอลดีมักพบโรคร่วมอื่นได้บ่อย เช่น โรคสมาธิสั้น โรคดื้อต่อต้าน โรคพฤติกรรมเกเรก้าวร้าว โรควิตกกังวล หรือโรคซึมเศร้า เป็นต้น ดังนั้นหากเด็กได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้นจำเป็นต้องได้รับการประเมินทักษะทางการเรียนต่าง ๆ ด้วยเสมอ ในขณะที่เด็กที่มีภาวะแอลดีก็จำเป็นต้องค้นหาโรคสมาธิสั้นด้วยเช่นกันเพื่อวางแผนให้การดูแลรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

10. หัวใจสำคัญของการช่วยเหลือเด็กที่เสี่ยงต่อภาวะแอลดี คือ จำเป็นต้องให้การค้นหาและช่วยเหลือเด็กให้ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก โดยเฉพาะในช่วงวัยอนุบาลจนถึงประถมต้น เพราะเมื่อเด็กได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสมจะช่วยให้อ่าน สะกดคำ และคำนวณได้อย่างถูกต้องมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กต่อไป ดังนั้นหากเด็กที่อยู่ในวัยอนุบาลแล้วมีความยากลำบากในการเล่นคำคล้องจอง มีความยากลำบากในการเรียนรู้พยัญชนะ สระ และการสะกดคำ รวมทั้งเขียนตัวอักษร หรือชื่อตัวเองล่าช้า และไม่เข้าใจเกี่ยวกับจำนวนจะเป็นเด็กกลุ่มเสี่ยงที่จำเป็นต้องให้การช่วยเหลือตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ซึ่งพ่อแม่สามารถปรึกษาหมอเด็กประจำตัวของลูก หมอพัฒนาการเด็ก จิตแพทย์เด็ก หรือครูผู้สอนเพื่อวางแผนให้การช่วยเหลือเด็กอย่างเหมาะสมต่อไป

#ทุกเรื่องการเลี้ยงลูกตลาดนัดครอบครัวมีคำตอบ

26/11/2025

ตอบคำถามที่พบได้บ่อยจากผู้เลี้ยงดู โดยสามารถเข้ามาร่วมรับฟัง หรือสอบถามปัญหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กสมาธิสั้นกันได้นะคะ

✨️ อย่าลืมนะคะ 📍 พรุ่งนี้ช่วง 12.00 น. เรามีนัดกันค่ะ มาร่วมทานข้าวเคล้าความรู้เกี่ยวกับเด็กสมาธิสั้นกันนะคะ 😊😊
25/11/2025

✨️ อย่าลืมนะคะ 📍 พรุ่งนี้ช่วง 12.00 น. เรามีนัดกันค่ะ มาร่วมทานข้าวเคล้าความรู้เกี่ยวกับเด็กสมาธิสั้นกันนะคะ 😊😊

📍ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเด็กสมาธิสั้น (ADHD) 🤔

✨️อย่าพลาด! กับการตอบคำถามที่พบได้บ่อยจากผู้เลี้ยงดู โดยสามารถเข้ามาร่วมรับฟัง หรือสอบถามปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กสมาธิสั้นกันได้นะคะ 😊
ใน Facebook Live วันพุธที่ 26 พ.ย. 2568 เวลา 12.00-13.00 น.ค่ะ

ไม่ควรผูกความสุขของเราไว้กับความสุขของคนอื่นหลายครั้งเราพยายามทำให้คนรอบข้างมีความสุข จนลืมถามใจตัวเองว่า “เรามีความสุขห...
21/11/2025

ไม่ควรผูกความสุขของเราไว้กับความสุขของคนอื่น

หลายครั้งเราพยายามทำให้คนรอบข้างมีความสุข จนลืมถามใจตัวเองว่า “เรามีความสุขหรือไม่ ?”

พ่อแม่หลายคนทุ่มเททุกอย่าง ทั้งแรงกาย แรงใจที่รู้สึกว่าต้องเลี้ยงลูกให้มีความสุข ตัวเองถึงจะมีความสุข จนทำให้หลายครั้งอาจจะเลี้ยงลูกแนวตามใจ เพียงเพื่อทำให้ลูกมีความสุข แล้วเราจะมีความสุขไปด้วย แต่ผลกลับไม่เป็นดังหวัง เพราะอาจทำให้เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าวเอาแต่ใจ ก็ไม่ได้สุขอย่างที่หวังไว้ หรือบางครอบครัวทุ่มเทในการเลี้ยงลูกมาก เพราะอยากเลี้ยงลูกให้ได้ดี จนหลงลืมความสุขของตัวเองไป หรือพอลูกเติบโตไปมีชีวิตของตัวเอง พ่อแม่จะรู้สึกซึมเศร้า อ้างว้าง จนทำให้บางครั้งเกิดอาการยึดติดลูก ไม่อยากให้ลูกเติบโต ไม่อยากให้ลูกมีชีวิตของตัวเอง

หรือเด็กที่พยายามทำทุกอย่าง อย่างที่พ่อแม่อยากให้เป็น อยากให้ทำตามความคาดหวัง เพียงเพราะต้องการทำให้พ่อแม่มีความสุข ภูมิใจ แล้วตัวเองจะได้มีความสุข โดยไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของตัวเอง สุดท้ายจะรู้สึกกดดันและรู้สึกผิดที่ทำให้พ่อแม่ไม่ได้ จนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวลได้

จึงอยากทำความเข้าใจก่อนว่า ความสุขของใคร คนนั้นต้องมีหน้าที่รับผิดชอบ ไม่ใช่คนอื่น

ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคน หันมามองความสุขที่เกิดขึ้นจากตัวเองไม่ใช่ความสุขจากคนอื่น เราไม่ต้องพยายามทำให้ใครมีความสุขเพียงเพื่อตัวเองจะได้มีความสุข

#ทุกเรื่องการเลี้ยงลูกตลาดนัดครอบครัวมีคำตอบ

19/11/2025

🚗 "เมื่อออกรถ ลูกต้องนั่งอยู่ในคาร์ซีท" 👶🧒

ถือเป็นความปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ ในการเดินทางด้วยรถยนต์ คาร์ซีทนั้นมีหลายแบบ จะใช้แบบไหนให้เหมาะสมกับช่วงอายุของลูก และต้องให้ลูกนั่งคาร์ซีทไปจนถึงเมื่อไร
วันนี้หมอกรีน 💚 มีข้อมูลดี ๆ มาฝากกันค่ะ

#ทุกเรื่องการเลี้ยงลูกตลาดนัดครอบครัวมีคำตอบ

✨️ วันนี้มีโครงการวิจัยที่เกี่ยวกับการใช้สื่อในเด็กที่น่าสนใจมานำเสนอค่ะ 🖥
19/11/2025

✨️ วันนี้มีโครงการวิจัยที่เกี่ยวกับการใช้สื่อในเด็กที่น่าสนใจมานำเสนอค่ะ 🖥

🛎 สาขาวิชาพัฒนาการและการเจริญเติบโต ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
🌈ขอเชิญพ่อ แม่ และผู้ปกครอง เข้าร่วมโครงการวิจัย

“ผลของประสบการณ์เชิงบวกและประสบการณ์อันไม่พึงประสงค์ในวัยเด็กของผู้ปกครองต่อการใช้สื่อที่มีปัญหาและการติดเกมของเด็ก ”

โดยผู้เข้าร่วมวิจัยจะได้รับ
✅ การตรวจคัดกรองการใช้สื่อที่มีปัญหาและภาวะติดเกมของบุตรหลาน
✅ เงินชดเชยค่าเสียเวลาในการตอบแบบสอบถาม

🚩คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมวิจัย
1. เป็นพ่อ แม่ หรือผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุ 6-12 ปี ที่อยู่กับเด็กนานอย่างน้อย 6 เดือน
2. สามารถใช้แอปพลิเคชั่น LINE ได้
3. บุตรหลานของท่านไม่มีปัญหาพัฒนาการล่าช้า และไม่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต

สมัครกันเข้ามาเยอะ ๆ นะคะ 😍

กดลงทะเบียนตามลิงก์นี้ได้เลยค่ะ
👉 https://forms.gle/w1ftW5a5oFv7Xg9aA

หรือ Scan QR code ในรูปภาพ

หากท่านมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ของการเข้าร่วมโครงการวิจัย จะได้รับการติดต่อกลับจากทีมผู้วิจัยเพื่อพิจารณาเข้าร่วมโครงการวิจัยอีกครั้งค่ะ

🙏🏻ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งที่ให้ความสนใจในโครงการวิจัยนี้ค่ะ

โครงการวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยแพทย์ประจำบ้านต่อยอด สาขาวิชาพัฒนาการและการเจริญเติบโต ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โทร: 02-2564943

ที่อยู่

รพ. จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ถนนพระราม 4
Bangkok
10330

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ตลาดนัดครอบครัวผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง ตลาดนัดครอบครัว:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram