ศูนย์ฟื้นฟูกล้ามเนื้อและกระดูกทับเส้น

ศูนย์ฟื้นฟูกล้ามเนื้อและกระดูกทับเส้น ฟื้นฟูกล้ามเนื้อหนีบทับเส้นประสาท

05/12/2025
💪 “เขย่งปลายเท้า…เหมือนง่าย แต่ได้ผลลึก”หลายคนอาจไม่รู้ว่า…การ เขย่งปลายเท้าขึ้น-ลง วันละไม่กี่เซ็ตคือเคล็ดลับบำรุงสุขภา...
30/11/2025

💪 “เขย่งปลายเท้า…เหมือนง่าย แต่ได้ผลลึก”

หลายคนอาจไม่รู้ว่า…
การ เขย่งปลายเท้าขึ้น-ลง วันละไม่กี่เซ็ต
คือเคล็ดลับบำรุงสุขภาพที่แพทย์แผนไทยและวิทยาศาสตร์เห็นพ้องกัน

✨ ทำไมจึงสำคัญ?
เพราะ “กล้ามเนื้อน่อง” ของเราคือ หัวใจดวงที่สอง
มีหน้าที่ช่วยปั๊มเลือดจากปลายเท้ากลับขึ้นสู่หัวใจ
ถ้าไม่ขยับ เลือดจะคั่ง → ทำให้เกิดอาการ
– ขาบวม ตึง หนัก
– เส้นเลือดขอด
– เลือดลมเดินไม่ดี → เวียนหัว เพลียง่าย

🔎 การเขย่งปลายเท้า
– ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดลม
– ลดการคั่งค้างของเลือดดำ
– ทำให้หัวใจทำงานเบาลง
– แถมยังเสริมความแข็งแรงของข้อเท้าและกล้ามเนื้อขา

🌿 ในมุมแผนไทย:
เมื่อเลือดลมเดินสะดวก → ธาตุลมเดินดี
พลังไฟในร่างกายก็สมดุลขึ้น → ระบบย่อยดีขึ้น
การนอนหลับลึกขึ้น ร่างกายฟื้นตัวไวขึ้น

✅ วิธีทำง่าย ๆ
1. ยืนตรง เกาะพนักเก้าอี้หรือผนังไว้เพื่อทรงตัว
2. เขย่งปลายเท้าขึ้นสูง → ค้างไว้ 2–3 วินาที
3. ลดลงช้า ๆ ให้ส้นเท้าแตะพื้น
4. ทำต่อเนื่อง 10–15 ครั้ง = 1 เซ็ต
(วันละ 2–3 เซ็ตเช้า-เย็นกำลังดี)

🍀 เคล็ดลับเล็ก ๆ
ถ้าอยากเสริมผล → ดื่มน้ำอุ่นสักแก้วก่อนทำ
จะช่วยให้เลือดลมหมุนเวียนดียิ่งขึ้น

📌 สรุปสั้น ๆ
“เขย่งปลายเท้า” = ดูแลหัวใจล่าง → เลือดลมเดินดี → สุขภาพโดยรวมแข็งแรง
ลองเริ่มวันนี้ แล้วคุณจะรู้สึกได้ว่าร่างกายเบาสบายขึ้นจริง ๆ 🌿

#หัวใจดวงที่สอง #เลือดลมเดินดี #แพทย์แผนไทย
#สุขภาพเท้าขา
Cr;ขอบคุณเจ้าของภาพ&บทความ

🚫 งดก่อน เพื่อความสบายตัว (Cut These)อาหารกลุ่มนี้มักเป็นสาเหตุของแก๊สและการย่อยที่ยากขึ้น ลองงดหรือลดลงดูนะคะ• ❌ น้ำตาล...
28/11/2025

🚫 งดก่อน เพื่อความสบายตัว (Cut These)
อาหารกลุ่มนี้มักเป็นสาเหตุของแก๊สและการย่อยที่ยากขึ้น ลองงดหรือลดลงดูนะคะ

• ❌ น้ำตาล: ทำให้แบคทีเรียในลำไส้ทำงานหนัก เกิดแก๊ส

• ❌ ชีส: ย่อยยากสำหรับบางคน อาจทำให้ท้องอืด

• ❌ โซดา/เครื่องดื่มอัดลม: เพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหารโดยตรง

• ❌ สารให้ความหวาน: สารบางชนิดทำให้เกิดแก๊สและท้องเสียได้

• ❌ กลูเตน: ผู้ที่แพ้หรือไวต่อกลูเตนจะมีอาการท้องอืดได้ง่าย

✅ เติมเต็มสิ่งดีๆ ช่วยย่อย (Add These)
อาหารกลุ่มนี้มีส่วนช่วยในการขับลม ช่วยย่อย และทำให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น

• ✨ ขิง: สมุนไพรชั้นยอด ช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืด

• ✨ เมล็ดเจีย: ไฟเบอร์สูง ช่วยในการขับถ่าย

• ✨ สับปะรด: มีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร

• ✨ ยี่หร่า: ช่วยขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ

• ✨ แตงกวา: ช่วยลดอาการบวมน้ำ และมีน้ำเป็นส่วนประกอบเยอะ

• 💧 ดื่มน้ำ 2-3 ลิตรทุกวัน: สำคัญที่สุด! น้ำช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และลดอาการท้องผูก
ลองทำตามกันดูนะคะ ปรับเปลี่ยนนิดหน่อย เพื่อสุขภาพท้องที่ดีขึ้น เริ่มตั้งแต่วันนี้เลย! 😊👇

ใครลองแล้วได้ผลยังไง อย่าลืมมาแชร์กันบ้างนะคะ

Cr: ครูตู่แฟรี่ ❤️❤️

#ลดท้องอืด #พุงป่อง #วิธีธรรมชาติ #สุขภาพดี #ดูแลตัวเอง #ปรับการกิน

รู้ไหมว่าร่างกายคนเรา สร้างกระดูกใหม่ทุกวันแต่พออายุเกิน 40 ปีขึ้นไป ความสามารถนี้จะ ลดลงปีละ 0.5–1% ทำให้กระดูกบางลง ปว...
27/11/2025

รู้ไหมว่าร่างกายคนเรา สร้างกระดูกใหม่ทุกวัน
แต่พออายุเกิน 40 ปีขึ้นไป ความสามารถนี้จะ ลดลงปีละ 0.5–1% ทำให้กระดูกบางลง ปวดข้อมากขึ้น และเสี่ยงกระดูกพรุนโดยที่เราไม่รู้ตัว

สิ่งที่หลายคนไม่เคยรู้คือ…
“แสงแดด” คือวิตามินฟรีๆ ที่ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้จริงแต่ต้องเป็น “แดดถูกเวลา” และ “จำนวนที่พอเหมาะ” เท่านั้น!

☀️ ทำไมแดดช่วยลดปวดข้อ–กันกระดูกพรุนได้? (อธิบายแบบวิทยาศาสตร์)

1) แดดช่วยสร้างวิตามิน D แบบธรรมชาติ

ผิวหนังเรามีสารชื่อ 7-dehydrocholesterol
เมื่อโดนแสง UVB จะถูกเปลี่ยนเป็น วิตามิน D3
แล้วถูกส่งไปที่ตับ–ไต กลายเป็น วิตามิน D ที่ใช้ได้จริงในร่างกาย

วิตามิน D ช่วยให้ร่างกาย
✔ ดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น 3–4 เท่า
✔ เสริมมวลกระดูก
✔ ลดการสึกหรอของข้อ
✔ ลดอาการปวดจากการอักเสบเรื้อรัง

2) วิตามิน D = เกราะป้องกัน “กระดูกพรุน”

งานวิจัยพบว่า

ผู้ที่มีวิตามิน D ต่ำ เสี่ยงกระดูกพรุนเพิ่มขึ้นถึง 49%

เพราะร่างกายต้องดึงแคลเซียมจาก “กระดูก” มาใช้
ทำให้กระดูกบางลงแบบไม่รู้ตัว → ปวดหลัง ปวดข้อ ข้อเสียง “ก๊อบแก๊บ”

3) แดดช่วยลดการอักเสบของข้อ

UV ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวบางชนิดลดการสร้างสารอักเสบ เช่น
⚬ IL-6
⚬ TNF-alpha

ซึ่งเป็นตัวการของ
— ปวดข้อ
— ข้อบวม
— อาการตึงสะโพก เข่า ไหล่

ทำให้หลายคน “ปวดข้อเรื้อรังน้อยลง” หลังได้รับแดดสม่ำเสมอ

🌤 ตากแดดเวลาไหนดีที่สุด?

ถ้าเป้าหมาย = วิตามิน D สูง ไม่ไหม้ผิว
ช่วงที่ดีที่สุดคือ 8.00–10.00 น. หรือ หลัง 16.00 น.

เพราะ UVB ยังพอมี แต่ UVA ที่ทำร้ายผิวลดลงแล้ว

ใช้เวลาแค่:
• 10–15 นาที / แขน–ขา
• 3–5 วันต่อสัปดาห์
ก็ช่วยให้ระดับวิตามิน D ดีขึ้นได้แล้ว

💛 สัญญาณขาดวิตามิน D ที่คน 40+ เจอบ่อย
• ปวดเข่า ปวดข้อ
• ปวดหลังเรื้อรัง
• กระดูกบาง แตกหักง่าย
• เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง
• ภูมิคุ้มกันตก
• นอนหลับไม่สนิท

ถ้ามีอาการเกิน 2 ข้อ แนะนำให้เริ่ม “แดดบำบัด” อย่างจริงจังค่ะ

Cr :
ครูตู่แฟรี่

🦶เหลือเชื่อ! แค่เอาเท้าไปแช่ลงในเกลือ ผลที่ได้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังยอมรับว่า มหัศจรรย์✅เท้าคืออวัยวะที่ทำงานหนักที่สุด...
26/11/2025

🦶เหลือเชื่อ! แค่เอาเท้าไปแช่ลงในเกลือ ผลที่ได้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังยอมรับว่า มหัศจรรย์✅

เท้าคืออวัยวะที่ทำงานหนักที่สุดในวัน
แบกรับน้ำหนักหลายสิบกิโล
เดิน–ยืนทั้งวัน
ยิ่งคนใส่ส้นสูง ยิ่งเมื่อยล้าสะสมแบบไม่รู้ตัว

แช่เท้าเกลือเป็นวิธีดูแลตัวเองแบบโบราณผสานหลัก Reflexology ที่เชื่อว่า “เท้าเชื่อมโยงกับอวัยวะทั่วร่างกาย” เมื่อได้รับความร้อนและแร่ธาตุ จะช่วยปรับสมดุลภายในได้

#ประโยชน์ของการแช่เท้าด้วยเกลือ

📒การแช่เท้าเป็นวิธีปฏิบัติที่ถูกถ่ายทอดกันมาอย่างยาวนาน ตามหลักทฤษฎีการแพทย์ทางเลือกสาขา Reflexology

โดยมีความเชื่อกันว่าเท้า มีจุดสัมผัส ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทั่วทั้งร่างกาย เพราะฉะนั้นวิธีการผ่อนคลาย ด้วยการแช่เท้าลงในน้ำร้อน จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยกระตุ้นจุดสัมผัสเหล่านี้ด้วยพลังงานความร้อน

⭐️ทางด้านผลงานการวิจัยของ นายแพทย์ วิลเลียม วินเทอร์วิตซ์ จากประเทศออสเตรีย มีความคิดเห็นว่า ประสาทรับสัมผัสที่ผิวหนังจะมีวงจรประสาทเชื่อมต่อกัน กับกล้ามเนื้อ รวมถึงอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ภายในร่างกาย และเมื่อความร้อน มาสัมผัสกับผิวหนัง มันก็จะส่งสัญญาณไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงานของอวัยวะที่อยู่ห่างไกลได้

ทั้งนี้การแช่เท้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำเกลือหรือน้ำอุ่นหรือไม่ก็ตาม ยังมีข้อดีอีกหลายอย่างดังนี้!

1. ลดอาการปวดบวมที่เท้าแล้ว
2. ลดอาการปวดท้อง
3. กระตุ้นความต้านทานของร่างกาย
4. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
5. ป้องกันอาการมือเท้าเย็นโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว
6. ลดอาการอักเสบของจมูกและลำคอ
7. ช่วยให้อาการปวดหัวหรือปวดประจำเดือนลดลง
8. ลดอาการคั่งของเลือดที่ส่วนอื่นๆ
9. ทำให้นอนหลับง่ายตลอดคืน

♨️วิธีการแช่เท้าด้วยเกลือ

♨️วิธีการแช่เท้าด้วยเกลือ 📌

1. นำกะละมังขนาดที่สามารถวางเท้าแช่ได้-ใส่น้ำลงไปให้ท่วมตาตุ่มจะเป็นน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดาก็ได้
2. ใส่เกลือทะเล (ที่เป็นเกลือแบบเม็ด) ลงไปประมาณ 1 กำมือ
3. เอาเท้าเหยียบเกลือที่ยังไม่ละลาย
4. ทำจิตใจให้สงบ หรือเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ นั่งอยู่ประมาณ 15-20 นาที
5. หลังจากนั้นให้ล้างเท้าด้วยน้ำเปล่า

***การแช่เท้าด้วยเกลือนั้นคนปกติ สามารถทำได้ทำอาทิตย์ละครั้ง ส่วนคนป่วย ทำได้ทุกวันก่อนนอน หากผู้ใดที่ธาตุในร่างกายไม่สมดุล มีอาการหนาว สั่น ให้ใช้น้ำอุ่นในการแช่เท้า สำหรับคนที่ร้อนก็ให้ใช้น้ำเย็นแช่ค่ะ

ทำเลยนะคะ

CR:ครูตู่แฟรี่🙏

💢การใช้ ผ้าขนหนูม้วนรอง “ช่วงคอ” เป็นเทคนิคง่าย ๆ แต่ได้ผลดีมาก โดยเฉพาะคนที่ปวดคอตอนนอน ปวดคอสะสมทั้งวัน หรือแม้เปลี่ยน...
19/11/2025

💢การใช้ ผ้าขนหนูม้วนรอง “ช่วงคอ” เป็นเทคนิคง่าย ๆ แต่ได้ผลดีมาก โดยเฉพาะคนที่ปวดคอตอนนอน ปวดคอสะสมทั้งวัน หรือแม้เปลี่ยนหมอนแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น มันช่วยในหลายด้านดังนี้👇👇👇👇👇👇

1) ช่วยพยุงแนวกระดูกคอ (Cervical Curve Support)

👉กระดูกคอของเรามีโค้งตามธรรมชาติเป็นรูปตัว C
หลายคนเวลาดูทีวี นั่งทำงาน หรือก้มมือถือ → โค้งนั้นเริ่มหายไป

👍การม้วนผ้าขนหนูแล้ววางที่ “รอยคอพอดี” จะช่วย
• คืนโค้งคอ
• ลดแรงกดที่หมอนรองกระดูกคอ
• คอไม่ตก ไม่หักมุมตอนนอน

2) ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อคอ–บ่า

👍เมื่อคอได้รับการประคองอย่างถูกตำแหน่ง
กล้ามเนื้อที่เกร็งมาตลอดทั้งวัน เช่น
• Levator Scapulae
• Upper Trapezius
จะคลายตัวลง
ลดอาการปวดคอ ปวดท้ายทอย และปวดร้าวลงสะบักได้ดีมาก

3) ช่วยทำให้ไหล่ไม่ยกขึ้น

👉เวลานอนหมอนไม่พอดี ไหล่มักจะยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว
→ ทำให้คอตึง

👉ผ้าขนหนูที่วางพอดีจะช่วยทำให้คอไม่ถูกกดลง ไหล่ไม่เกร็ง

4) ช่วยให้ช่องว่างระหว่างข้อคอเปิดขึ้นเล็กน้อย

👍(Success)เหมาะสำหรับคนที่มี
• หมอนรองคอเสื่อม
• ปวดคอเวลานอน
• ชา แขนหนัก กล้ามเนื้อเกร็งตอนตื่นนอน

👍ผ้าขนหนูช่วยกระจายแรง ไม่ให้ข้อคอบีบกันเกินไป

5) ช่วยปรับท่านอนให้อยู่ในแนวที่ถูกต้อง

โดยเฉพาะคนที่
• นอนหงายแล้วคอตก
• นอนตะแคงแล้วหมอนสูงเกินไป
• หมอนนิ่มแต่ไม่พยุงคอ

👍ผ้าขนหนูจะทำหน้าที่เป็น “หมอนเสริมเฉพาะจุด” ที่คอยประคองคอให้ตรง

6) ลดอาการคอติด คอบ่าแข็งตอนเช้า

👉เพราะกล้ามเนื้อไม่เกร็งทั้งคืน
จึงตื่นมาแล้วรู้สึกเบามากขึ้น🥰🥰🥰🥰

💢 ใช้ได้ผลกับใครบ้าง?
✅คนปวดคอเรื้อรัง
✅คนที่ใช้มือถือเยอะ
✅ คนทำงานหน้าคอมนาน
✅ คนที่เปลี่ยนหมอนหลายใบแล้วยังปวด
✅ คนที่นอนแล้วคอแหงน/คอตก
✅ คนหลังผ่าตัดคอระยะฟื้นตัวบางช่วง (ตามคำแนะนำแพทย์)

🙏(ขอบคุณ)Cr:ขอบคุณเจ้าของบทความและภาพ

17/11/2025

🙏ขอบคุณทริปดีดีจากดีเน็ทเวิร์คเวิลด์ไวด์

👉ทำไม “สลักเพชรจม” ถึงปวดร้าวลงมาถึงหน้าแข้งได้? 1) เพราะกล้ามเนื้อสะโพกไปกดทับ เส้นประสาทไซอาติก (Sciatic nerve)👉เส้นปร...
17/11/2025

👉ทำไม “สลักเพชรจม” ถึงปวดร้าวลงมาถึงหน้าแข้งได้?

1) เพราะกล้ามเนื้อสะโพกไปกดทับ เส้นประสาทไซอาติก (Sciatic nerve)

👉เส้นประสาทไซอาติกออกจากกระดูกสันหลัง L4–S3
ผ่านกลางสะโพก → ลงน่อง → แตกเป็นแขนงเล็กลงสู่หน้าแข้ง

👉เมื่อ กล้ามเนื้อสะโพก (Piriformis / Gluteus medius/minimus)
หดเกร็ง → กดทับไซอาติก → สัญญาณปวดถูกส่งลงไปตามทางของเส้น

👉 เส้นประสาทไซอาติก “แตกแขนง” ไปที่หน้าแข้งอย่างไร?🦵

👉 จากสะโพก → หลังขา
ไซอาติกเดินลงหลังต้นขา
👉 จากหลังเข่า → แตกเป็น 2 เส้นสำคัญ

1. Tibial nerve (เส้นหลัก วิ่งลงด้านหลังน่อง → ฝ่าเท้า)

2. Common peroneal nerve (อ้อมด้านข้าง → หน้าแข้งด้านนอก)
👉 ถ้าถูกกดทับแรง → จะ “ร้าวลงหน้าแข้ง” หรือ “ชาที่หน้าแข้ง” ได้เลย

🎯 เพราะฉะนั้น…
สลักเพชรจม = สะโพกหนีบทับเส้นประสาทไซอาติก → ปวดร้าวลงหน้าแข้ง
เพราะเส้นประสาทนี้มีเส้นทางวิ่งผ่าน
• สะโพก
• หลังขา
• เข่า
• น่อง
• หน้าแข้งบางส่วน
จนถึงปลายเท้า
เลยเกิดอาการปวด/ชา/ตึงร้าวไปหลายจุดเหมือนเส้นเดียวกันหมด💥

🔍 ลักษณะอาการที่ใช่เลย👇👇
💥 ปวดสะโพกลึก ๆ กดแล้วเจ็บเฉพาะจุด
💥 ร้าวลงหน้าแข้งด้านนอก หรือด้านหน้า
💥 ยืน/เดินนานปวด
💥นั่งนานปวดมากขึ้น
💥 ยกขาแล้วมีอาการแปล๊บลงขา

Cr: 🙏ขอบคุณเจ้าของภาพ&บทความ

"ง่วงทั้งวัน - หลับไม่ลึก - นอนไม่พอ"❓(ลอง 4 ท่ายืดง่าย ๆ ก่อนนอน ช่วยให้หลับสบาย) #นอนไม่หลับ  #นอนน้อย 🙏Cr:มนุษย์ตึง
13/11/2025

"ง่วงทั้งวัน - หลับไม่ลึก - นอนไม่พอ"❓
(ลอง 4 ท่ายืดง่าย ๆ ก่อนนอน ช่วยให้หลับสบาย)

#นอนไม่หลับ #นอนน้อย
🙏Cr:มนุษย์ตึง

🙏cr ;ภาพ มนุษย์ตึง
13/11/2025

🙏cr ;ภาพ มนุษย์ตึง

⭐สิ่งที่ช่วยให้อาการปวดหลังหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทดีขึ้น1. การออกกำลังกายแบบไม่กดแรงต่อกระดูกสันหลัง 👍 ว่ายน้ำ → ดีที...
13/11/2025

⭐สิ่งที่ช่วยให้อาการปวดหลังหมอนรองกระดูก
ทับเส้นประสาทดีขึ้น

1. การออกกำลังกายแบบไม่กดแรงต่อกระดูกสันหลัง

👍 ว่ายน้ำ → ดีที่สุด เพราะเป็น low impact exercise ที่ช่วยให้กระดูกสันหลังลอยตัว ไม่ถูกกดทับ แต่กล้ามเนื้อหลัง–เอว–สะโพกได้ออกแรงเต็มที่
👍 เดินช้า–สม่ำเสมอ → กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการตึงกล้ามเนื้อหลังโดยไม่เพิ่มแรงกดหมอนรอง
👍 โยคะ / พิลาทิสเบา ๆ → ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลัง–ต้นขา–สะโพก และปรับท่าทางให้สมดุล

ท่าที่แนะนำ: Cat–Cow, Bridge pose, Child’s pose, Cobra pose (ทำอย่างช้า ๆ ไม่บิดตัวแรง)

2. การเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ “แกนกลาง–สะโพก–หลัง”

👍 โหนบาร์ (Hanging) → เป็นท่าที่ดีมากในการ คลายแรงกด ที่กระดูกสันหลังโดยธรรมชาติ
👍 ท่า Bridge / Glute bridge → เสริมกล้ามเนื้อสะโพก (Gluteus maximus) ซึ่งช่วยพยุงหลังส่วนล่าง
👍 ท่า Bird–Dog / Plank แบบง่าย → เสริมกล้ามเนื้อแกนกลาง (Core muscles) ให้สมดุล

💪เมื่อกล้ามเนื้อสะโพก–หลังแข็งแรง จะช่วย “รับแรงแทนหมอนรอง” ทำให้อาการปวดลดลงและโอกาสกลับมาเป็นซ้ำลดลงมาก

3. การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

👍ลดน้ำหนัก → น้ำหนักตัวมากทำให้แรงกดต่อหมอนรองกระดูกเพิ่ม
👍 หลีกเลี่ยงการยกของหนัก / ก้มยกผิดท่า → ให้ใช้วิธีย่อเข่าแทนการก้มหลัง
👍 เปลี่ยนท่านั่ง–ยืนบ่อย ๆ ทุก 30–60 นาที เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อหลังค้างตึง
👍พักหลังก่อนอาการกำเริบ ไม่ฝืนเมื่อเริ่มรู้สึกชาหรือปวดร้าว

🙏ขอบคุณเจ้าของภาพและบทความ

ที่อยู่

242 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี
Bangkok
10510

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ศูนย์ฟื้นฟูกล้ามเนื้อและกระดูกทับเส้นผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram