22/11/2025
🤮 เคยไหม? กินอาหารบางอย่างแล้วผื่นขึ้น รู้สึกคัดจมูก หรือท้องอืดแน่นโดยไม่รู้สาเหตุ ... อาการเหล่านี้อาจไม่ได้มาจากภูมิแพ้แบบเฉียบพลัน แต่เป็นการแพ้แบบสะสม หรือ ภาวะแพ้ฮีสตามีน (Histamine Intolerance) ที่เกิดจากการกินอาหารบางชนิดซ้ำ ๆ จนร่างกายไม่สามารถจัดการกับสารฮีสตามีนได้เพียงพอ 🤧
🧬 “ฮีสตามีน” (Histamine) เป็นสารเคมีธรรมชาติที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่น อาหาร หรือสารเคมีบางชนิด โดยปกติร่างกายจะมีกลไกควบคุมไม่ให้ฮีสตามีนมากเกินไป ผ่านเอนไซม์ที่ชื่อว่า DAO (Diamine Oxidase) ซึ่งทำหน้าที่ย่อยสลายฮีสตามีนส่วนเกิน
🔺แต่เมื่อร่างกายมีฮีสตามีนมากเกินไป ไม่ว่าจะจากอาหารที่กิน หรือจากการสร้างเองภายใน เอนไซม์ DAO จะทำงานไม่ทัน ส่งผลให้เกิดภาวะแพ้ฮีสตามีน
📌อาการของภาวะแพ้ฮีสตามีนนั้นมีความหลากหลาย อาจเกิดขึ้นได้ทั้งอาการทางผิวหนัง (ผื่น, ลมพิษ), ระบบทางเดินหายใจ (คัดจมูก), ระบบทางเดินอาหาร (ท้องอืด, ปวดท้อง), และระบบประสาท/หัวใจ (ปวดหัว/ไมเกรน, หัวใจเต้นผิดปกติ)
🦠 อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะแพ้ฮีสตามีนมากขึ้น? คลิกอ่านต่อ https://url.in.th/ICKEP
⚠ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อมีแนวโน้มแพ้ฮีสตามีน
🔎 1. อาหารที่มีฮีสตามีนสูง: อาหารในกลุ่มนี้ มีปริมาณฮีสตามีนสูงอยู่แล้วโดยธรรมชาติ หรือเกิดขึ้นจาก “กระบวนการหมัก บ่ม เก็บไว้นาน” ทำให้ร่างกายได้รับฮีสตามีนจากภายนอกมากเกินไป
ตัวอย่างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
🔹 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มหมัก → มีฮีสตามีนสูงจากกระบวนการหมัก และยังรบกวนการทำงานของเอนไซม์ DAO ด้วย
🔹 อาหารหมักดอง เช่น กิมจิ ซาวเคราต์ โยเกิร์ต → มีแบคทีเรียสร้างฮีสตามีนในระหว่างการหมัก
🔹 ผลไม้อบแห้ง → ผ่านกระบวนการเก็บรักษานาน และมักมีซัลไฟต์ซึ่งอาจกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮีสตามีนเพิ่ม
🔹 อะโวคาโด และผักโขม → มีสารที่คล้ายฮีสตามีนตามธรรมชาติ
🔹 เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น แฮม เบคอน → มีฮีสตามีนจากการบ่ม รวมถึงไนเตรตและสารกันเสียที่กระตุ้นการหลั่งฮีสตามีน
🔹 หอย → เสี่ยงต่อการสะสมฮีสตามีนสูง โดยเฉพาะถ้าเก็บไม่สดหรือผ่านการปรุงไม่ถูกสุขลักษณะ
🔎 2. อาหารที่กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮีสตามีน: แม้อาหารกลุ่มนี้จะมีปริมาณฮีสตามีนไม่สูง แต่ มีฤทธิ์กระตุ้นให้ร่างกาย “ปล่อยฮีสตามีน” ออกมามากขึ้นจากเซลล์ภูมิคุ้มกัน ทำให้ระดับฮีสตามีนในเลือดสูงขึ้นจนเกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน
ตัวอย่างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง:
🔹 กล้วย มะละกอ → มีเอนไซม์ที่กระตุ้นการหลั่งฮีสตามีน
🔹 ถั่วต่าง ๆ (โดยเฉพาะถั่วลิสงและวอลนัต) → กระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน
🔹 ช็อกโกแลต → มีสาร theobromine และ tyramine ที่กระตุ้นการหลั่งฮีสตามีน
🔹 มะเขือเทศ → มีฮีสตามีนตามธรรมชาติและยังเร่งการหลั่งฮีสตามีนจากเซลล์
🔹 อาหารที่มีสีผสมอาหารหรือสารกันเสีย → เช่น ซัลไฟต์ เบนโซเอต ส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮีสตามีนเพิ่มขึ้นและยับยั้งเอนไซม์ DAO ไปพร้อมกัน
🔎 3. อาหารที่ขัดขวางการทำงานของเอนไซม์: อาหารกลุ่มนี้ทำให้ฮีสตามีนในร่างกายถูกย่อยได้น้อยลงและสะสมมากขึ้น
ตัวอย่างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง:
🔹 แอลกอฮอล์ → เป็นตัวร้ายสองต่อ ทั้งเพิ่มฮีสตามีนและยับยั้ง DAO
🔹 ชาดำ / ชาเขียว → มีสารโพลีฟีนอลบางชนิดที่ยับยั้งเอนไซม์ DAO
🔹 เครื่องดื่มชูกำลัง → มีคาเฟอีนและสารกระตุ้นที่ลดการทำงานของ DAO และเพิ่มการหลั่งฮีสตามีนในเวลาเดียวกัน
🩺 แม้การปรับอาหารจะช่วยได้มาก แต่ภาวะนี้เป็นภาวะที่วินิจฉัยได้ยาก และยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ในบางประเทศ ดังนั้น การหลีกเลี่ยงอาหารควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์นักโภชนาการ เพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหาร และเพื่อให้แน่ใจว่าอาการไม่ได้มาจากโรคหรือภาวะอื่นที่ซ่อนอยู่ (เช่น ภูมิแพ้อาหารจริง, ลำไส้แปรปรวน, หรือโรคทางเดินอาหารอื่น ๆ)
📌การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance Test) จะช่วยให้รู้ว่าอาหารชนิดใดที่ร่างกายคุณไม่ยอมรับ เพื่อปรับแผนโภชนาการให้เหมาะกับคุณ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม / ปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพ
💬 Line :
📷 IG :
🌐 www.navellawellness.com
📞 0-2090-6988 , 09-8286-6228
📍 Silom Edge (3rd Floor) Next to BTS Sala Daeng & MRT Silom
#ณเวฬา #สุขภาพ #แพ้อาหาร #ภูมิแพ้