อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ-หมอเอก

อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ-หมอเอก ...

งบกองทุนบัตรทอง ทำไมต้องรวม “เงินเดือนบุคลากรสาธารณสุขภาครัฐ”หลายคนอาจสงสัยว่า“ทำไมงบกองทุนบัตรทองถึงต้องรวมเงินเดือนบุค...
27/10/2025

งบกองทุนบัตรทอง ทำไมต้องรวม “เงินเดือนบุคลากรสาธารณสุขภาครัฐ”

หลายคนอาจสงสัยว่า
“ทำไมงบกองทุนบัตรทองถึงต้องรวมเงินเดือนบุคลากรสาธารณสุขภาครัฐไว้ด้วย?”

คำถามนี้ ผมได้ยินบ่อยครับ ทั้งจากบุคลากรในพื้นที่ ผู้บริหารโรงพยาบาล
หรือแม้แต่ประชาชนที่ติดตามเรื่องระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) อย่างใกล้ชิด

แต่เบื้องหลังของเรื่องนี้...
จริง ๆ แล้วมีความหมายลึกซึ้งกว่าตัวเลขงบประมาณมากนัก

จุดเริ่มต้นของหลักคิด “ลดเหลื่อมล้ำ – เพิ่มโอกาสเข้าถึง”

ย้อนกลับไปตั้งแต่วันที่เรามี พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545
เจตนารมณ์ของกฎหมายชัดเจนครับ —
เราต้องการให้คนไทยทุกคน “เข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม”
ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองใหญ่ หรือหมู่บ้านเล็ก ๆ ห่างไกล

สิ่งที่จำเป็นที่สุด คือ “บุคลากรทางการแพทย์”
ทั้งแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ซึ่งเป็นหัวใจของระบบบริการทั้งหมด

เพราะฉะนั้น งบเหมาจ่ายรายหัวที่รัฐจัดสรรให้กับกองทุนบัตรทอง
จึงถูกออกแบบให้ รวมเงินเดือนบุคลากรภาครัฐไว้ด้วย
เพื่อให้สามารถกระจายบุคลากรตามจำนวนประชากรในแต่ละพื้นที่ได้อย่างเป็นธรรม
และช่วยให้โรงพยาบาลมองเห็นต้นทุนที่แท้จริงของการดูแลประชาชน

จากหลักการ...สู่การบริหารจัดการจริง

ทุกปี งบเหมาจ่ายรายหัวใน “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ”
จะประกอบด้วย 2 ส่วนใหญ่ คือ

งบสำหรับบริการทางการแพทย์
งบเงินเดือนบุคลากรของหน่วยบริการภาครัฐในระบบ

ในปีงบประมาณ 2569 ที่ผ่านมา
งบเหมาจ่ายรายหัวรวมกว่า 198,000 ล้านบาท
งบนอกเหมาจ่าย รวมกว่า 67,000 ล้านบาท
ในจำนวนนี้กว่า 71,000 ล้านบาท เป็นเงินเดือนบุคลากรภาครัฐ
ที่ทำงานอยู่ในหน่วยบริการทั่วประเทศ

หลายคนอาจไม่ทราบว่า การคำนวณและหักค่าแรงเหล่านี้
เป็นระบบที่ ซับซ้อน โปร่งใส และมีหลักฐานรองรับชัดเจน

ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา สำนักงบประมาณจะหักเงินเดือนการเพิ่มขึ้นของการปรับลดค่าแรงตามปีงบประมาณที่ผ่านมาบวกด้วยอัตราเติบโต ปีละประมาณ 6% และลดลงเหลือ 4.93% ตั้งแต่ปี 2567 ถึงปัจจุบัน

ทุกขั้นตอนมีการตรวจสอบและหารือร่วมกัน
เพื่อให้แน่ใจว่า “งบประมาณที่หักออก”
ไม่กระทบต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาล
และงบหลักที่เหลือยังเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ
เพื่อให้ระบบบริการเดินหน้าต่อได้อย่างมั่นคง

“งบเงินเดือนบุคลากรสาธารณสุข” ถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ

หน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข

หน่วยบริการของรัฐอื่น ๆ เช่น โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย หรือโรงพยาบาลกลาโหม

โดยจะนำมาคำนวณในการกำหนดเพดานเงินเดือน
เพื่อหักจากงบกองทุนฯ ให้สะท้อนค่าใช้จ่ายบุคลากรจริงของแต่ละพื้นที่อย่างเป็นธรรม
และยังมีการ “ปรับเกลี่ย” เพื่อให้โรงพยาบาลที่มีบุคลากรมาก
ได้รับงบเพียงพอต่อการดูแลประชาชน

กลไกการดำเนินงานในพื้นที่

เขต 1–12 (ต่างจังหวัด):
หักที่ระดับโรงพยาบาลโดยตรง จากรายรับของผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และงานสร้างเสริมสุขภาพ

เขต 13 (กรุงเทพฯ):
ใช้หลักเกณฑ์ตามที่ สปสช. กำหนด

สำหรับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
จะอ้างอิงข้อมูลจากกรมบัญชีกลางและระบบ GFMIS
ก่อนที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จะกระจายงบต่อไปยังแต่ละโรงพยาบาล
ตามจำนวนบุคลากรจริง

ตามหลักการแล้ว สปสช.จะหักเงินเดือนหน่วยบริการสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ตามบัญชีรายชื่อเจ้าหน้าที่ หรือที่เรียกว่า “จ.18”

แต่ในทางปฏิบัติ สปสช.จะใช้ตัวเลขที่แต่ละจังหวัดเสนอ
เพื่อปรับลดเงินเดือนของแต่ละโรงพยาบาลให้สอดคล้องกับสภาพจริงในพื้นที่
เหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะอาจมีเจ้าหน้าที่ที่มีชื่ออยู่ในโรงพยาบาลหนึ่ง
แต่ปฏิบัติหน้าที่หรือไปช่วยราชการในอีกโรงพยาบาลหนึ่ง
ดังนั้น สปสช.จึงไม่ได้ใช้ตัวเลขในบัญชี “จ.18” แบบตรงตัว
แต่ปรับตามข้อมูลภาคสนามเพื่อให้สะท้อนการทำงานจริงของบุคลากรในพื้นที่มากที่สุด

ทุกขั้นตอนนี้อยู่ภายใต้ความร่วมมือของ สป.สธ. และ สปสช.
โดยมีคณะกรรมการ “7x7” ทำหน้าที่กำหนดแนวทาง
เพื่อให้การจัดสรรงบเป็นไปอย่าง ถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม

มากกว่า “งบประมาณ” คือ “หัวใจของระบบบริการ”

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า
งบประมาณเหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขในบัญชี
แต่คือ “ค่าแรงของคนที่ทำงานเพื่อประชาชน”
คือเหงื่อและความทุ่มเทของบุคลากรด่านหน้าทั่วประเทศ
ที่ทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพของคนไทยเดินต่อได้อย่างมั่นคง

เมื่อเราเข้าใจที่มาของตัวเลขเหล่านี้
จะเห็นได้ชัดว่า “การรวมเงินเดือนบุคลากรไว้ในงบกองทุนบัตรทอง”
ไม่ใช่แค่เรื่องของงบประมาณ
แต่มันคือการ เชื่อมโยงคนกับระบบ

ทำให้ทุกหน่วยบริการตระหนักว่า
บุคลากรที่อยู่ในโรงพยาบาลคือ “ทรัพยากรหลักของชาติ”
และเป็นส่วนหนึ่งของระบบหลักประกันสุขภาพที่เราร่วมกันสร้างมา

เพราะสุดท้ายแล้ว ระบบที่ยั่งยืน
ไม่อาจอยู่ได้ด้วยงบประมาณเพียงอย่างเดียว
แต่ต้องมี “คน” ที่เข้มแข็ง และมี “ใจ” ที่อยากให้คนไทยได้รับบริการอย่างดีที่สุด

ตลอดหลายปีที่ได้ทำงานในระบบนี้
ผมเชื่อมั่นเสมอว่า ระบบบัตรทองที่ยืนหยัดมาถึงวันนี้ได้
เพราะมี “คนไทยที่ร่วมสร้างด้วยหัวใจ”
ทั้งคุณหมอ คุณพยาบาล คุณเจ้าหน้าที่ และประชาชน
ที่เข้าใจและร่วมกันดูแลระบบนี้

งบประมาณที่เราเห็นบนกระดาษ
คือผลรวมของ “ความพยายามของคนทั้งประเทศ”
เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิได้รับการดูแลรักษาอย่างเท่าเทียม

และผมเชื่อว่า
ตราบใดที่เรายังร่วมมือกันเช่นนี้
ระบบหลักประกันสุขภาพของคนไทยจะยิ่งมั่นคง
และเดินไปข้างหน้าอย่างภาคภูมิใจครับ

ธ สถิตในดวงใจไทยตราบนิรันดร์น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีห...
25/10/2025

ธ สถิตในดวงใจไทยตราบนิรันดร์

น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
แห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ผู้ทรงเป็นดั่งแสงแห่งความรัก
และแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทย

พระเมตตาและพระกรุณาธิคุณ
ได้หล่อเลี้ยงแผ่นดินไทยให้ร่มเย็น
ประดุจสายน้ำแห่งพระราชหฤทัย
ที่หลั่งรินไม่รู้สิ้น

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
อันหาที่สุดมิได้

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ
รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘

24/10/2025

สปสช.ตอบทุกข้อสงสัยการเบิกจ่าย

ส่งต่อความเชื่อมั่น “นวัตกรรมทางการแพทย์ฝีมือคนไทย”จากเวทีแห่งความภาคภูมิใจ สู่หน่วยบริการทั่วประเทศ15 ตุลาคมที่ผ่านมา ใ...
20/10/2025

ส่งต่อความเชื่อมั่น “นวัตกรรมทางการแพทย์ฝีมือคนไทย”

จากเวทีแห่งความภาคภูมิใจ สู่หน่วยบริการทั่วประเทศ

15 ตุลาคมที่ผ่านมา ในการประชุมชี้แจงการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
บรรยากาศในห้องประชุมเต็มไปด้วยความอบอุ่นและคึกคักเป็นพิเศษ

วันนั้น... ไม่ได้มีเพียงการพูดคุยนโยบายประจำปีอย่างที่เคย
แต่ยังมี “ช่วงเวลาแห่งความหวัง” ที่จะถูกจารึกไว้ในความทรงจำของทุกคน
เมื่อมีพิธีมอบรางวัลให้กับหน่วยบริการและเครือข่ายที่ร่วมกันขับเคลื่อน
“นวัตกรรมทางการแพทย์ฝีมือคนไทย” สู่ระบบสุขภาพถ้วนหน้า

หากมองภาพรวมของระบบสุขภาพไทย
เรามีหลายสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ — แพทย์ที่เก่ง พยาบาลที่ทุ่มเท
และระบบหลักประกันสุขภาพที่ทั่วโลกให้การยอมรับ

แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเป็น “โจทย์สำคัญ” ของประเทศ
คือเรื่องของ “เครื่องมือแพทย์” ที่เป็นหัวใจของการรักษา
เพราะกว่า 80% ของเครื่องมือแพทย์ในปัจจุบัน เรายังต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

ตัวเลขนี้ทำให้เราต้องกลับมาทบทวน
เพราะความจริงแล้ว... คนไทยของเราก็มีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก
เรามีนักวิจัยและผู้ประกอบการไทยที่สามารถคิดค้น พัฒนา และผลิต
เครื่องมือแพทย์ที่ผ่านการรับรองใน “บัญชีนวัตกรรมไทย”
มีมาตรฐานระดับสากล และบางรายการต่างประเทศยังสั่งซื้อกลับไปใช้งานด้วยซ้ำ

ด้วยศักยภาพเหล่านี้
คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.)
จึงได้กำหนดนโยบายชัดเจนในการสนับสนุน “การใช้นวัตกรรมฝีมือคนไทย” อย่างจริงจัง
ไม่เพียงเพื่อยกระดับคุณภาพการรักษาภายใต้ระบบบัตรทอง
แต่เพื่อสร้าง “ความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศ” ในระยะยาวด้วยครับ

การมอบรางวัลในครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่ “รางวัล”
แต่คือ “สัญลักษณ์ของความเชื่อมั่น” ที่เรามีต่อกัน
ระหว่างผู้ผลิต ผู้ให้บริการ และประชาชนคนไทย

โดยรางวัล “นวัตกรรมไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย”
ได้รับเกียรติจากท่านโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัล
พร้อมกล่าวตอกย้ำว่า “นี่คือจุดเริ่มต้นของการพึ่งพาตนเอง
และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง”

🏆 หน่วยบริการที่ได้รับรางวัล “นวัตกรรมไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” ได้แก่

โรงพยาบาลแม่วงก์ จ.นครสวรรค์
ผู้นำการใช้ “รากฟันเทียมฝีมือคนไทย” เพื่อเติมเต็มรอยยิ้มและคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัย

โรงพยาบาลอุดรธานี
รับมอบ 2 รางวัล จากการใช้นวัตกรรม “แผ่นปิดกะโหลกศีรษะเฉพาะบุคคลจากไทเทเนียม”
และ “ถุงทวารเทียมสำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่”

โรงพยาบาลพัทลุง
ผู้ริเริ่มใช้ “วัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์” ผลิตโดยนักวิจัยไทย

เอ็มดีที นอร์ทอีส สหคลินิก จ.ขอนแก่น
โดดเด่นกับการให้บริการ “ชุดตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ในตับ”
ที่ช่วยให้คนในพื้นที่เข้าถึงการตรวจได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ยังมีรางวัลเชิดชูเกียรติ 2 รางวัลพิเศษ ได้แก่

รางวัลสนับสนุนการใช้นวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยดีเด่น – กระทรวงสาธารณสุข

รางวัลผู้ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมไทยอย่างต่อเนื่อง – ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS)

สิ่งที่หน่วยบริการเหล่านี้ได้ทำ
ไม่เพียงช่วยลดการนำเข้าและลดต้นทุนของประเทศ
แต่ยังสร้าง “การเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้” ให้กับประชาชนโดยตรง

เมื่อมีการใช้งานจริง ก็เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ใช้กับผู้ผลิต
นำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง (Quality Improvement)
และทำให้ระบบสุขภาพไทยของเราแข็งแรงขึ้นทุกวัน

ผมเชื่อมั่นว่า หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันสนับสนุนนวัตกรรมไทยอย่างจริงจัง
งบประมาณที่เราประหยัดได้ จะกลับมาอยู่ในระบบสุขภาพเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนมากขึ้น
และประเทศไทยจะก้าวข้ามจาก “ผู้บริโภค”
ไปสู่ “ผู้ผลิตและผู้ส่งออกเครื่องมือแพทย์ระดับโลก” ได้อย่างภาคภูมิ

ขอเป็นกำลังใจให้กับนักวิจัย นักพัฒนา และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนครับ
เรากำลังเดินไปด้วยกัน... บนเส้นทางของ “ความเชื่อมั่นที่สร้างได้ด้วยฝีมือคนไทย”

17/10/2025

สปสช. ตอบทุกข้อสงสัยเรื่องกายเบิกจ่าย

“ก้าวใหม่ของครอบครัวบัตรทอง” สู่ความยั่งยืนของระบบสุขภาพไทยวันที่ 15 ตุลาคม 2568 นี้ นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญของครอบ...
13/10/2025

“ก้าวใหม่ของครอบครัวบัตรทอง” สู่ความยั่งยืนของระบบสุขภาพไทย

วันที่ 15 ตุลาคม 2568 นี้ นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญของครอบครัว “บัตรทอง”
เมื่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดการประชุมชี้แจง
“การบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2569”
ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 3–4 โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ กรุงเทพฯ

โดยได้รับเกียรติจาก ท่านโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี
มาเป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ
“ทิศทางการยกระดับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อความยั่งยืนของระบบสุขภาพไทย”

การประชุมครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียง “เวทีชี้แจงนโยบาย”
แต่เป็นเวทีแห่ง “การร่วมคิด ร่วมขับเคลื่อน และร่วมสร้างอนาคตสุขภาพไทย”
ที่รวมพลังของ สปสช. กระทรวงสาธารณสุข หน่วยบริการทั่วประเทศ
ทั้งภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่โรงพยาบาลชุมชนจนถึงโรงพยาบาลศูนย์
รวมถึงองค์กรวิชาชีพและภาคีเครือข่ายต่าง ๆ
ที่ล้วนมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพของประชาชนกว่า 48 ล้านคนทั่วประเทศ

เป้าหมายสำคัญ ของการประชุมในปีนี้
คือการสร้าง “ความเข้าใจร่วม” และ “ทิศทางเดียวกัน”
ในการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2569
เพื่อให้ทุกพื้นที่ขับเคลื่อนไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดผลลัพธ์ที่แท้จริง
ตามเจตนารมณ์ของ พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545

เวทียังเปิดโอกาสให้หน่วยบริการได้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ มุมมอง และข้อเสนอแนะ
เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบสุขภาพให้ตอบโจทย์ประชาชนมากที่สุด

ภายในงาน เต็มไปด้วยเนื้อหาสาระและมุมมองเชิงวิชาการที่เข้มข้น
เริ่มจากการบรรยาย “ผลการศึกษาการประเมินหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ในด้านการบริหารจัดการและนัยยะจากการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย”
โดย ดร.ณัฐนันท์ วิจิตรอักษร นักวิจัยจากสถาบัน TDRI

ต่อด้วยการอภิปราย “เสริมประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ยั่งยืน”
และการชี้แจง “จุดเน้นและประเด็นที่มีการเปลี่ยนแปลงในการบริหารกองทุนปี 2569”
โดยผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงสาธารณสุขและ สปสช.
เพื่อให้ทุกหน่วยงานนำแนวทางกลับไปใช้ได้อย่างชัดเจนและมั่นใจ

ในช่วงบ่าย จะมีการสรุปภาพรวมการดำเนินงานปีที่ผ่านมา
พร้อมเปิดเวที ถาม-ตอบ แลกเปลี่ยนความเห็นอย่างสร้างสรรค์
เพื่อให้ทุกหน่วยกลับไปพร้อม “แนวทางที่ใช้ได้จริง” ในพื้นที่ของตนเอง

ภายในงานยังมีอีกสองช่วงสำคัญที่สะท้อนความร่วมมือของคนไทยในระบบสุขภาพ

พิธีมอบ “รางวัลสนับสนุนนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยดีเด่น”
เพื่อเชิดชูหน่วยบริการที่นำนวัตกรรมไทยมาใช้พัฒนางานบริการ
สร้างความภูมิใจให้กับคนไทย และส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ

พิธีลงนามความร่วมมือ “ยกระดับ อสม. ยุคใหม่ สู่ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง”
ระหว่างกรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ สปสช.
ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการเสริมพลังชุมชน
และการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

กว่า สองทศวรรษ ของระบบ “บัตรทอง”
ประเทศไทยได้พิสูจน์แล้วว่า เราสามารถสร้างระบบหลักประกันสุขภาพที่ครอบคลุม เป็นธรรม และจับต้องได้จริง
แต่ในขณะเดียวกัน การรักษาความยั่งยืนของระบบนี้
จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อทุกภาคส่วน “ร่วมแรง ร่วมใจ และร่วมรับผิดชอบต่อสุขภาพของคนไทยทุกคน”

ดังนั้น การประชุมในวันที่ 15 ตุลาคมนี้
จึงไม่ใช่แค่การเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ของ สปสช.
แต่คือ “การรวมพลังของทุกหัวใจในระบบสุขภาพไทย”
เพื่อก้าวต่อไปบนเส้นทางแห่งความยั่งยืน —
เพื่อคนไทยทุกคน เพื่อไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เสียงที่สังคมยังไม่ได้ฟัง… กับสิทธิสุขภาพที่ต้องเข้าถึงโดย หมอเอก – อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศในยุคที่โลกทั้งใบเชื่อมต่อกันเพี...
06/10/2025

เสียงที่สังคมยังไม่ได้ฟัง… กับสิทธิสุขภาพที่ต้องเข้าถึง

โดย หมอเอก – อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ

ในยุคที่โลกทั้งใบเชื่อมต่อกันเพียงปลายนิ้ว
เรารับรู้ข่าวสารได้แทบจะทันทีในทุกวินาที
แต่ในอีกมุมหนึ่งของสังคม…
ยังมี “เสียงบางเสียง” ที่สังคมยังไม่ได้ฟัง

ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่อยากพูด
แต่เพราะ “รูปแบบการสื่อสาร” ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน
ยังไม่เปิดพื้นที่ให้ “ทุกคน” ได้เปล่งเสียงของตัวเอง

สำหรับบางคน… “การสื่อสาร” กลายเป็นกำแพง
ลองนึกภาพดูครับ — หากคุณเป็นผู้พิการทางการได้ยิน
ข่าวสารบนโทรทัศน์ที่ไม่มีภาษามือ
หรือเป็นผู้พิการทางสายตา ที่เว็บไซต์ส่วนใหญ่ยังไม่รองรับการอ่านด้วยเสียง
แม้แต่ข้อมูลพื้นฐานอย่าง “สิทธิบัตรทอง”
ก็อาจเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้รับรู้ครบถ้วน

ผลลัพธ์คือ “ความไม่เท่าเทียมทางสุขภาพ”
ไม่ใช่เพราะระบบบริการไม่เปิดรับ
แต่เพราะ “ข้อมูลไม่เคยเดินทางไปถึงพวกเขาได้จริง”



เพราะสิทธิ… จะไม่มีความหมายเลย หากคนไม่รู้จักสิทธินั้น

สปสช. ในฐานะหน่วยงานที่ดูแล “ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ”
หรือที่คนไทยรู้จักกันดีว่า “บัตรทอง 30 บาท”
เราเชื่อว่า “สิทธิสุขภาพ” ต้องเป็นของทุกคนอย่างแท้จริง

และสิ่งสำคัญอันดับแรก คือ
“การเข้าถึงข้อมูล” ที่เท่าเทียมสำหรับทุกคน
โดยเฉพาะ “คนพิการ” ที่มักถูกกีดกันออกจากพื้นที่ของการรับรู้

เราจึงตั้งคำถามกับตัวเองว่า…

“จะทำอย่างไรให้เสียงของข้อมูลสุขภาพ… ดังไปถึงทุกคน แม้จะมีข้อจำกัดทางร่างกาย?”

คำถามนี้เอง ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ
โครงการ “สื่อเพื่อคนพิการ” บนเว็บไซต์ของ สปสช.
สื่อที่ไม่ใช่แค่ “ส่งข่าว”
แต่เป็นการ “เปิดประตู” ให้คนพิการได้เข้ามาในโลกของสิทธิสุขภาพอย่างเท่าเทียม



สื่อที่สร้างด้วยหัวใจ เพื่อการรับรู้ของทุกคน

สปสช. ร่วมมือกับเครือข่ายคนพิการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร
ออกแบบ “สื่อบัตรทองเพื่อคนพิการ” ในหลายรูปแบบ เพื่อให้เข้าถึงได้จริง

สื่อภาพและวิดีโอ
มีทั้งแอนิเมชัน การ์ตูน และพอดแคสต์
อธิบายขั้นตอนต่าง ๆ เช่น
“วิธีลงทะเบียนสิทธิคนพิการ”
หรือ “รู้จักสิทธิ UCEP – เจ็บป่วยฉุกเฉินรักษาได้ทุกที่”
โดยทุกคลิปมี “ล่ามภาษามือ” และ “คำบรรยายเสียง”
ให้ผู้พิการทางการได้ยินและสายตา รับรู้ได้พร้อมกัน

สื่อเสียงบน Spotify
สำหรับผู้พิการทางสายตา
มีรายการเสียงที่เล่าข้อมูลสิทธิสุขภาพ เช่น
วิธีขอรับกายอุปกรณ์ สิทธิตรวจสุขภาพฟรี
หรือขั้นตอนใช้สิทธิบัตรทองในสถานการณ์ต่าง ๆ
ให้คนพิการ “ฟังสิทธิของตัวเอง” ได้ทุกที่ ทุกเวลา

อินโฟกราฟิกและสื่อภาพประกอบ
สรุปข้อมูลสำคัญในรูปแบบภาพ
พร้อม QR Code เชื่อมต่อคลิปเสียงและวิดีโอ
ให้สื่อเพียงชิ้นเดียว ตอบโจทย์การรับรู้ของผู้พิการทุกประเภท

ทั้งหมดนี้สามารถเข้าชมได้ทางเว็บไซต์ สปสช
www.nhso.go.th (เลือกเมนู: สื่อสารองค์กร > สื่อประชาสัมพันธ์ > สื่อสำหรับคนพิการ
หรือคลิก https://shorturl.asia/3EBG7)



เพราะ “การเข้าถึงข้อมูล” คือจุดเริ่มต้นของ “การเข้าถึงสิทธิ”

ทุกครั้งที่เราเห็นคนพิการเข้ามาสอบถามสิทธิบัตรทองของตัวเอง
หลังจากได้ดูหรือฟังสื่อเหล่านี้
เรารู้เลยครับว่า “การสื่อสารที่ดี” ไม่ได้อยู่ที่เทคนิค
แต่อยู่ที่ “หัวใจ” ที่เข้าใจความแตกต่างของผู้คน

นี่คืออีกหนึ่งก้าวเล็ก ๆ
ที่ทำให้ระบบบัตรทองก้าวไปใกล้ “ความเท่าเทียม” มากขึ้น
สื่อเหล่านี้อาจดูเล็ก… แต่มีความหมายใหญ่
เพราะมันช่วยลด “กำแพงของการสื่อสาร” ที่เคยกั้นคนบางกลุ่มไว้จากสิทธิของตัวเอง



ในอนาคต สปสช. จะยังเดินหน้าพัฒนาสื่อให้เข้าถึงได้ง่ายและหลากหลายขึ้น
เพื่อให้ “เสียงของข้อมูลสุขภาพ” เดินทางไปถึงทุกคน
โดยไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

เพราะในโลกของสุขภาพ…
“การสื่อสาร” ไม่ใช่แค่การส่งต่อข้อมูล
แต่คือ “การส่งต่อโอกาสในการมีชีวิตที่ดีขึ้น” ของทุกคน

03/10/2025

สปสช.ตอบทุกข้อสงสัยเรื่องการเบิกจ่าย

เมื่อสุขภาพอยู่ในมือเรา…จริงๆ แล้วก็อยู่ในมือถือด้วยเหมือนกันทุกวันนี้ โทรศัพท์มือถือทำได้แทบทุกอย่างตั้งแต่คุยกับเพื่อน...
29/09/2025

เมื่อสุขภาพอยู่ในมือเรา…จริงๆ แล้วก็อยู่ในมือถือด้วยเหมือนกัน

ทุกวันนี้ โทรศัพท์มือถือทำได้แทบทุกอย่าง
ตั้งแต่คุยกับเพื่อน สั่งของ จ่ายบิล โอนเงิน
ไปจนถึงเรื่องการดูแลสุขภาพ

วันนี้ผมเลยอยากชวนทุกคน มาทำความรู้จักอีกครั้งกับ
Line Official Account ของ สปสช. ()
ช่องทางสุขภาพที่หลายคนอาจเคยใช้ แต่รอบนี้มี บริการใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาก
เรียกได้ว่า “ครบเครื่อง ครบวงจร” ขึ้นกว่าเดิม



ย้อนกลับไปปี 2563
สปสช.เริ่มเปิดบริการผ่าน Line OA เพราะรู้ว่าคนไทยใช้ “ไลน์” กันทุกวัน
เป้าหมายแรกคือทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลบัตรทอง 30 บาทได้ง่ายขึ้น
แต่ต่อมาก็พัฒนาเรื่อยๆ จนกลายเป็นมากกว่าช่องทางข้อมูล
กลายเป็น “ช่องทางบริการสุขภาพ” ของจริง

จากเพื่อนหลักร้อยในวันแรก…
วันนี้เรามีเพื่อนกว่า 11.85 ล้านคน แล้วครับ
การันตีด้วยรางวัล LINE Thailand Awards ติดต่อกันถึง 2 ปีซ้อน
เป็นเครื่องยืนยันว่า นี่คือช่องทางที่ประชาชนใช้จริง และได้ประโยชน์จริง



ล่าสุด Line OA สปสช. ขยายบริการเป็น 8 รายการหลัก
ช่วยให้การดูแลสุขภาพง่ายขึ้น ตั้งแต่ตรวจสอบสิทธิ ไปจนถึงพบหมอออนไลน์
1. ตรวจสอบสิทธิรักษาพยาบาล
แค่กรอกเลขบัตรประชาชน ก็รู้เลยว่าอยู่สิทธิไหน
พร้อมชื่อหน่วยบริการประจำ
2. เปลี่ยนหน่วยบริการบัตรทอง
ย้ายบ้าน ย้ายงาน ไม่ต้องไป รพ. ให้เสียเวลา กดเปลี่ยนในไลน์ได้เลย
3. ขอรหัส OTP ยืนยันตัวตน
ใช้แทนบัตรประชาชน ป้องกันการสวมสิทธิ
4. Health Link เชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพ
แพทย์เห็นประวัติการรักษาต่อเนื่อง ลดการตรวจซ้ำ ดูแลได้แม่นยำขึ้น
(ผลงานของสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) องค์การมหาชน)
5. DMIND ตรวจสุขภาพใจด้วย AI
ประเมินภาวะเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า พร้อมคำแนะนำและช่องทางช่วยเหลือ
(พัฒนาโดย คณะแพทยศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
6. CHECK PD คัดกรองโรคพาร์กินสัน
ทำแบบทดสอบเบื้องต้นได้เองที่บ้าน สำหรับคนอายุ 40 ปีขึ้นไป
(ผลงานวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสภากาชาดไทย)
7. Doctor at Home – หมอประจำบ้านอัจฉริยะ
AI ช่วยตรวจอาการเบื้องต้น เช่น ไอ เจ็บคอ มีไข้ พร้อมคำแนะนำ
(ข้อมูลอ้างอิงจากตำรา “การตรวจรักษาโรคทั่วไป 1” โดย รองศาสตราจารย์นายแพทย์สุรเกียรติ อาชานุภาพ)
8. เทเลเมดิซีน (Telemedicine)
พบหมอออนไลน์จากที่บ้าน เหมาะกับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
มียาส่งตรงถึงบ้าน ผ่าน 3 แอปสุขภาพที่ร่วมกับ สปสช.



ทั้งหมดนี้เกิดจากความร่วมมือของ สปสช. กับหลายหน่วยงาน
เพื่อทำให้การดูแลสุขภาพ “อยู่ใกล้ตัวคนไทยมากที่สุด”
ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เวลาไหน ก็เข้าถึงบริการได้

เพียงแค่เพิ่มเพื่อน Line OA สปสช. (พิมพ์ )
คุณก็มีบริการสุขภาพครบวงจรอยู่ในมือถือแล้วครับ

เพราะผมเชื่อว่า… สุขภาพที่ดี ไม่ควรมีข้อจำกัด

26/09/2025

“สปสช. ตอบทุกข้อสงสัยเรื่องการเบิกจ่าย”

ที่อยู่

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ-หมอเอกผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ-หมอเอก:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram