อเลอไทด์ เทคนิคเพิ่มความจำ A 2018

อเลอไทด์ เทคนิคเพิ่มความจำ A 2018 ยินดีให้คำปรึกษา/แนะนำด้านพัฒนาการเด็ก เพื่ออนาคตที่ดีของบุตรหลาน สนใจทักมาค่ะ 087-0484741

คุณพ่อ​ คุณแม่จ๋า🙏แม่แอ๋ม​ ขออนุญาติโพสน่ะค่ะยาสีฟัน​👉ลดคราบฟัน​ ลดกลิ่นปากผู้ที่​ สูบบุหรี​ กาแฟ​ ทำให้มีกลื่นปาก​ คราบ...
02/06/2023

คุณพ่อ​ คุณแม่จ๋า🙏
แม่แอ๋ม​ ขออนุญาติโพสน่ะค่ะ

ยาสีฟัน​👉ลดคราบฟัน​ ลดกลิ่นปาก
ผู้ที่​ สูบบุหรี​ กาแฟ​ ทำให้มีกลื่นปาก​ คราบเหลือง​ ช่วยรักษารากฟัน​ ป้องกันฟันผุ​ ดับกลิ่น
👉เพียง​ 199​ บาท​ได้รหัสทำธุรกิจกับ​ ​ ทันที
วันนี้คุณมีโอกาสธุรกิจบุกตลาด AEC
เริ่มต้นง่ายๆ จากยาสีฟันหลอดเดียว เก็บเกี่ยวตลอดชีวิต กับธุรกิจ LionMall
👇👇👇
📌สนใจคว้าโอกาสทักนะค่ะ
https://lin.ee/zqmemlE

โทร​ 092-5549647​
#ยาสีฟัน #บุกตลาดAEC

สถานการณ์โควิด-19 กำลังระบาดหนัก ทำให้เด็กๆ จำเป็นต้องหยุดอยู่กับบ้านนานขึ้น อย่างไรก็ตามมีการสำรวจพบว่า เด็กไทยมีแนวโน้...
22/06/2021

สถานการณ์โควิด-19 กำลังระบาดหนัก ทำให้เด็กๆ จำเป็นต้องหยุดอยู่กับบ้านนานขึ้น อย่างไรก็ตามมีการสำรวจพบว่า เด็กไทยมีแนวโน้มที่จะติดโทรศัพท์มือถือมากขึ้น เมื่อหยุดอยู่บ้าน ยิ่งถ้าเป็นเด็กเล็กๆ หากติดมือถือแล้ว อาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการในหลายด้าน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

ในขณะที่ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยยังต้องทำงาน และให้บุตรหลานเล่นมือถือหรือแท็บเล็ต เพราะมองว่าทำให้เด็กอยู่นิ่งเป็นเวลานานๆ ได้ ซึ่ง สสส.มีความเป็นห่วงว่า สถิติเด็ก “ติดจอใส” หรือ “ติดมือถือ” อาจเพิ่มสูงขึ้นหากผู้ปกครองปล่อยให้เด็กเล่นอุปกรณ์เหล่านี้ครั้งละนานๆ เป็นประจำ

ที่ผ่านมา สสส. ส่งเสริมระบบการเรียนรู้ออนไลน์สำหรับผู้ปกครองที่มีลูกหลานติดมือถือ เพื่อปรับวิธีคิด (mindset) ของผู้ปกครองให้รู้วิธีสื่อสารอย่างสร้างสรรค์กับลูก ซึ่งช่วยทำให้ครอบครัวอบอุ่น ลดพฤติกรรมการติดมือถือทั้งผู้ปกครองเองและตัวเด็ก พบว่ามีผู้ปกครองจำนวนมากลงทะเบียนเข้าระบบเรียนรู้ออนไลน์

แต่การป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมติดมือถือ หรือใช้มือถือและสื่อจอใสชนิดอื่นๆ โดยไม่เหมาะกับวัยเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเด็กเล็กเป็นวัยที่เรียนรู้ผ่านการเล่น ซึ่งช่วยให้เด็กฝึกใช้ร่างกาย ใช้ความคิดในการสร้างสรรค์และแก้ปัญหา เสริมสร้างความสุขซึ่งเป็นพื้นฐานให้สุขภาพใจแข็งแรง

นางสาวณัฐยา กล่าวต่อว่า องค์การอนามัยโลกและสหประชาชาติ ยืนยันว่า การเล่นเป็นสิทธิของเด็ก เด็กควรได้เล่นแบบอิสระวันละไม่น้อยกว่า 1-2 ชั่วโมง เพราะการเล่นอิสระจะช่วยพัฒนาทักษะเด็กหลายด้าน ช่วงโควิด-19 ระบาด เด็กต้องอยู่บ้านกับครอบครัว การเล่นกับผู้ปกครองจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้เด็กมีความสุข โดยที่ไม่ถูกบังคับให้รู้สึกเครียด หรือรู้สึกกดดัน

การนำของใช้ในบ้านมาเป็นของเล่น เช่น กาว กระดาษ กระบะทราย หรือจานชามเครื่องครัวที่ไม่เป็นอันตราย จะช่วยเพิ่มทักษะเด็กได้ โดยที่ผู้ปกครองไม่ต้องไปซื้อของเล่นราคาแพง ส่วนการ “ติดจอใส” หรือ “ติดมือถือ” เชื่อว่าเด็กไม่อยากติด หากผู้ปกครองมีทางเลือกให้เขาเล่นได้ตามใจชอบ

ขอบคุณข้อมูลจาก : สสส.

⚠️โรคสายตาสั้นในเด็ก ... ภัยเงียบที่มาจากหน้าจอ ⚠️⚠️🚫อาการของสายตาสั้นในเด็ก🚫🔷️ขยี้ตาบ่อย ๆ🔷️จ้องมองสิ่งต่าง ๆ ในระยะใกล...
04/06/2021

⚠️โรคสายตาสั้นในเด็ก ... ภัยเงียบที่มาจากหน้าจอ ⚠️⚠️
🚫อาการของสายตาสั้นในเด็ก🚫
🔷️ขยี้ตาบ่อย ๆ
🔷️จ้องมองสิ่งต่าง ๆ ในระยะใกล้มาก ๆ
🔷️เวลาโยนรับ-ส่งลูกบอลมักพลาดบ่อย ๆ
🔷️ปวดหัวเป็นประจำ
🔷️เวลาอ่านหนังสือหรือดูโทรทัศน์มักเพ่งหรือหยีตา
🔷️ไม่สามารถดูภาพยนตร์สามมิติได้
🔷️หรี่ตาหรือเอียงศีรษะเมื่อต้องมองสิ่งที่อยู่ไกล
⛔แสบตา ⛔คันตา ⛔เคืองตา
⛔น้ำตาไหล ⛔ตาแห้ง⛔ตาไม่สู้แสง
⛔ตาล้า ⛔ปวดตา/เบ้าตา ⛔ตาแห้ง
❌หากเริ่มมีอาการดังกล่าวสามารถปรึกษาทางเราได้ค่ะ
📌สนใจสั่งซื้อ ดีคอนแทค

โทร 087-0484741 แม่แอ๋มค่ะ

กดสอบถามทางแชต👇👇
https://lin.ee/7Zf15Kq

หน้าหนาวเป็นฤดูที่มีอากาศเย็นและแห้ง ทำให้เชื้อโรคหลายชนิดแพร่กระจายได้ง่าย ลูกน้อยจึงมีโอกาสป่วยบ่อยๆ เรามาดูวิธีดูแลลู...
11/01/2021

หน้าหนาวเป็นฤดูที่มีอากาศเย็นและแห้ง ทำให้เชื้อโรคหลายชนิดแพร่กระจายได้ง่าย ลูกน้อยจึงมีโอกาสป่วยบ่อยๆ เรามาดูวิธีดูแลลูกน้อยไม่ให้ป่วยในหน้าหนาวกันครับ
1. ร่างกายต้องอุ่นไว้ก่อน เพราะผิวของลูกนั้นยังบอบบาง อีกทั้งชั้นไขมันใต้ผิวหนังก็ยังทำงานได้ไม่ดีนัก เวลานอนจึงควรใส่เสื้อผ้าหนาๆ หรือหาผ้าห่มที่หนานุ่มมาห่มเพื่อสร้างความอบอุ่นให้ลูกน้อย
2. ทำความสะอาดของใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะเชื้อโรคต่างๆ อาจติดอยู่ตามข้าวของที่เด็กๆ สัมผัส จึงควรทำความสะอาดของใช้ส่วนตัวของลูกและของตัวคุณเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะขวดนม จุกนม เสื้อผ้า ผ้าอ้อม และของเล่นต่างๆ
3. ไม่ปล่อยให้ผิวลูกน้อยแห้งและคัน โดยอาจจะอาบน้ำให้ลูกแค่วันละ 1 ครั้ง ในวันที่มีอากาศหนาว เพราะการควบคุมอุณหภูมิในร่างกายของลูกยังทำงานได้ไม่เต็มที่ หากถูกน้ำเย็นก็อาจจะไม่สบายได้ แต่ก็ไม่ควรให้ลูกอาบน้ำที่ร้อนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวลูกแห้ง แตก และคัน ได้นะครับ หลังอาบน้ำให้ใช้โลชั่นหรือครีมบำรุงผิวเด็กทาผิวลูกทันที
เพียงเท่านี้เจ้าตัวน้อยก็สามารถมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงไปตลอดช่วงหน้าหนาวแล้วค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: Amarin Baby & Kids, “เคล็ดลับง่ายๆ ดูแลลูกน้อย ไม่ให้ป่วยหน้าหนาว”
ขอบคุณ AIAThailand BetterLives Winter

💕เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นเด็กก้าวร้าว💕พูดจาอ่อนโยนกับลูกเสมอ ไม่ใช้อารมณ์ขึ้นเสียงการพูดจากับลูกมีความสำคัญอย่างมากเพร...
16/05/2020

💕เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นเด็กก้าวร้าว

💕พูดจาอ่อนโยนกับลูกเสมอ ไม่ใช้อารมณ์ขึ้นเสียง
การพูดจากับลูกมีความสำคัญอย่างมากเพราะมันสามารถสะท้อนสิ่งนั้นไปยังลูกได้ หากพ่อแม่คนไหนพูดจากับลูกด้วยการตวาด ขึ้นเสียง ใส่อารมณ์ด้วยความรุนแรงเสมอบ่อยๆ พฤติกรรมเช่นนี้ ถือเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกของลูก ทำให้เขาติดการพูดจาก้าวร้าว ไม่อ่อนน้อม ไม่อ่อนโยนและเมื่อไรที่เขาพูดจากับเพื่อนๆ หรือคนอื่นรอบตัวและแม้กระทั่งพ่อแม่เอง ก็ย่อมทำให้เด็กซึมซับคำพูดก้าวร้าว ใส่อารมณ์และนำไปใช้กับคนอื่นๆ ต่อไปได้อย่างไม่หวั่นเกรงแน่นอนค่ะ

💕หากลูกทำผิดพลาดให้พูดคุยด้วยเหตุผล ไม่ตำหนิด่าทอ
เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เด็กๆ เราจะมีการทำผิดพลาดบ้าง เพราะแม้แต่ผู้ใหญ่เราเองยังเคยทำผิดพลาดกันได้บ่อยๆ แล้วประสาอะไรกับเด็กตัวเล็กๆ ที่ยังไม่ทันระแวดระวังหรือไม่ทันคิดให้รอบคอบก่อน แน่นอนว่าเขาก็ต้องมีทำอะไรผิดพลาดบ้าง สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อลูกทำผิด คุณแม่ควรอบรมสั่งสอนด้วยการให้เหตุผล ชี้แนะเหตุผลที่ทำให้ลูกเข้าใจ ว่าทำไมเราไม่ควรทำผิดพลาด หากพลาดผิดแบบนี้แล้วจะมีผลกระทบใดบ้างหรือจะทำให้ใครรอบตัวเดือดร้อนด้วยไหม ซึ่งมันย่อมทำให้เขามองเห็นเหตุผลของผลลัพธ์ในการกระทำแบบผิดๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเขาจะได้ตั้งใจประพฤติตัวใหม่อย่างเกรงใจเรามากขึ้น ดังนั้นแล้ว ควรพูดจาพร้อมกับชี้แจงให้เขารู้ผิดชอบอย่างกระจ่าง แทนการตำหนิ ด่าทอด้วยคำพูดรุนแรงและที่หนักไปกว่านั้น ไม่ควรลงมือทุบตี ทำร้ายร่างกายลูกเด็ดขาด เพราะสิ่งนี้จะเป็นการปลูกฝังความก้าวร้าว ทำให้เขาเกิดปมด้อย แอบโกรธแค้นเคืองตามมาได้ค่ะ

💕เป็นต้นแบบที่ดีให้ลูกเห็น
สิ่งสำคัญในการอบรมสั่งสอนลูกหรือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือ การเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ลูก เพราะการเป็นแบบอย่างที่ดีพร้อมกับอบรมสั่งสอนเขาให้เป็นเด็กดี อ่อนโยนตั้งแต่ยังเล็กจะทำให้เขาซึมซับสิ่งดีงามนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากบรรยากาศรอบตัวนำพาเขาไป หล่อหลอมให้เขาเป็นคนดีได้ ถ้าทุกอย่างเริ่มต้นมาจากพ่อแม่ดี รับรองค่ะว่าลูกๆ ที่เติบโตมาจะต้องเป็นเด็กดีตามพ่อแม่แน่นอน

💞💞ทราบกันเช่นนี้แล้ว จากนี้หวังว่าการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กอ่อนโยน ไม่ก้าวร้าวจะไม่ใช่คำถามที่ตอบยากอีกต่อไปแล้วนะคะ พ่อแม่คนไหนรักลูกจริง คุณต้องเริ่มจากตัวคุณเองให้ได้กันก่อน แล้วลูกคุณจะเชื่อฟังเราและเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายดายมากทีเดียว

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟูความจำและบำรุงสมองฟื้นฟูและบำรุงระบบประสาทและสมองช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
แอดมิน โทร:087-0484741

🍒🌶🌿เด็กไทย 13 ล้านคนติดมือถือหนัก สนใจโลกออนไลน์จนหลงลืมคนในครอบครัวจากงานเสวนา “พิทักษ์เด็ก พิทักษ์อนาคตชาติ ด้วยสังคมก...
02/05/2020

🍒🌶🌿เด็กไทย 13 ล้านคนติดมือถือหนัก สนใจโลกออนไลน์จนหลงลืมคนในครอบครัว

จากงานเสวนา “พิทักษ์เด็ก พิทักษ์อนาคตชาติ ด้วยสังคมก้มหน้าได้จริงหรือ” ได้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับการใช้โซเชียลมีเดียของคนในครอบครัวที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ จึงต้องพูดคุยให้พ่อแม่ หรือผู้ปกครองได้เกิดการรับรู้และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการเลี้ยงดู ให้อยู่ในสังคมโซเชียลมีเดีย นำไปใช้ให้ถูกทางและเกิดประโยชน์ ให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นอนาคตของชาติอย่างมีคุณภาพ

พิภพ ธงไชย เลขาธิการมูลนิธิเด็ก กล่าวว่า ตอนนี้เป็นยุคที่สังคมถูกย่อขนาดให้อยู่ในสมาร์ทโฟนที่สะดวกสบาย พบว่ามีกลุ่มเด็กและเยาวชนกว่า 13 ล้านคน ที่ก้าวเข้าสู่สังคมก้มหน้า ติดเกม เสพความบันเทิง หรืออื่นๆ นำไปสู่ปัญหาสมาชิกในครอบครัวสนใจสิ่งที่อยู่ในโลกออนไลน์ แม้จะอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน จนทำให้เกิดภาวะพลัดพรากซึ่งๆ หน้า

อีกทั้งข้อมูลจากทางสำนักสถิติแห่งชาติปี 2560 พบว่าในประชากรอายุ 6 ปีขึ้นไป มีการใช้มือถือร้อยละ 88.2 คอมพิวเตอร์ 52.9 และอินเตอร์เน็ต 30.3 โดยในกลุ่มอายุ 6-14 ปี ใช้ 60% อายุ 15-24 ปี ใช้ถึง 80% ซึ่งถือว่ามากที่สุดในกลุ่ม และในกลุ่ม 25-34 ปี วัยที่เป็นพ่อและแม่ ใช้ถึง 60%

โดยผู้ที่เป็นพ่อแม่สามารถเลี้ยงลูกให้อยู่กับเทคโนโลยีได้ แต่ก็ต้องคอยดูอยู่ใกล้ๆ ด้วย เพื่อให้คำแนะนำสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในโซเชียล เพื่อให้เด็กได้รู้จักสิ่งที่ถูกสิ่งที่ผิด และไม่นำไปลอกเลียนแบบ ที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกด้วย

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟูความจำและบำรุงสมองฟื้นฟูและบำรุงระบบประสาทและสมองช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
แอดมิน โทร:087-0484741

👫🤼‍♀️5 พัฒนาการเด็ดของเจ้าหนูวัย 3 ขวบ!!ในวัย 3 ขวบ ลูกน้อยของคุณแม่ก็ไม่ใช่ทารกตัวจ้อยที่ต้องให้คุณแม่อยู่ด้วยตลอดเวลาแ...
25/04/2020

👫🤼‍♀️5 พัฒนาการเด็ดของเจ้าหนูวัย 3 ขวบ!!

ในวัย 3 ขวบ ลูกน้อยของคุณแม่ก็ไม่ใช่ทารกตัวจ้อยที่ต้องให้คุณแม่อยู่ด้วยตลอดเวลาแล้วล่ะค่ะ เค้าจะมีพัฒนาการในทุกๆด้าน ทั้งทางร่างกายสติปัญญา การเรียนรู้และทักษะทางสังคมที่มากขึ้น มีความคิดและเป็นด้วยของตัวเองมากขึ้นจนคุณแม่ต้องประหลาดใจเชียวล่ะค่ะ

👫🤼‍♀️ร่างกายพร้อม

เด็กชายวัย 3-4 ปี จะมีส่วนสูง 96-114 เซนติเมตร น้ำหนัก 13.5-20.5 กิโลกรัม ส่วนเด็กผู้หญิงอาจจะตัวเล็กกว่านิดหน่อย คือ มีส่วนสูง 94-114 เซนติเมตร น้ำหนัก 13-20 กิโลกรัม เด็กวัยนี้จะเคลื่อนไหวร่างกายได้เก่งขึ้น สนุกสนานกับการเล่นที่ต้องใช้การทรงตัว และยิ่งเล่นก็จะยิ่งมีพัฒนาการทรงตัวดีขึ้น นอกจากนี้เค้าก็จะสนุกกับการถีบสามล้อ และเก่งขึ้นจนถึงขั้นที่สามารถหัดถีบจักรยานได้ ส่วนเรื่องของการเล่น เด็กๆจะชอบเลียนแบบจากสิ่งที่เห็น เช่น การเล่นทำอาหารเหมือนกับที่เห็นคุณแม่ทำ เล่นเครื่องดนตรี กีฬา ไปจนถึงการเล่นเลียนแบบสิ่งที่เห็นในโทรทัศน์

👫🤼‍♀️ทักษะการสื่อสารที่ก้าวหน้า

เด็กจะใช้คำพูดเป็นเครื่องสื่อความหมายได้ดีขึ้น ใช้การออกท่าทางน้อยลง หรืออาจใช้คำพูดประกอบท่าทางไปด้วย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของพัฒนาการในทางภาษาสำหรับเด็ก ในช่วงนี้เด็กจะเริ่มรู้จักคำมากขึ้น เข้าใจความหมายของคำว่า ข้างบน-ข้างล่าง- ข้างหน้า-ข้างหลัง ฯลฯ ต่อมาเค้าจะรู้จักการเรียงประโยค และมีความแตกฉานทางภาษามากขึ้น โดยที่เด็กจะเลียนแบบการใช้ภาษาจากผู้เลี้ยงดู หากผู้ใหญ่รอบตัวเค้าใช้ภาษาที่ถูกต้องไพเราะ เด็กๆก็จะพูดเพราะไปด้วย

แม้เด็กวัยนี้จะใช้การพูดสื่อสารได้เก่งขึ้น แต่เด็กวัย 2 ขวบครึ่งถึง 4 ขวบ จำนวนมากอาจจะพูดไม่ค่อยเก่ง คือมีทั้งที่ดูเงียบเกินไป และพูดเหมือนติดอ่าง ซึ่งอาจเป็นเพราะความคิดของเด็กเร็วกว่าความสามารถในการใช้คำศัพท์ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรวิตกกังวลมากจนเกินเหตุ อาการเช่นนี้จะหายไปเมื่อสมองส่วนที่ใช้บังคับการพูดเติบโต และพัฒนาเต็มที่ ระหว่างนี้ไม่ควรเร่งรัดให้ลูกพูด เพราะจะทำให้เด็กไม่กล้าพูดมากขึ้นไปอีก เรื่องสำคัญเกี่ยวกับการสื่อสารด้วยคำพูด สำหรับเด็กวัยนี้ คือ คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้เค้ารู้จักบอกชื่อและนามสกุลของตัวเองได้เมื่อถูกถามนะคะ

พร้อมแล้วเรื่องการอ่าน-เขียน

สิ่งที่แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เช่น เค้าจะชอบดูรูปในหนังสือ ดีใจที่ได้หยิบจับพลิกเปิดหนังสือ อยากจะเขียนชื่อตัวเอง วาดภาพ และมีคำพูดแปลกๆใหม่ๆมากมาย ความชอบหนังสือนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมากหากคุณพ่อคุณแม่สอนให้เค้าอ่านหนังสือ โดยการอ่านให้เค้าฟังอย่างสม่ำเสมอ เพราะการอ่านหนังสือก่อนนอน นอกจากจะช่วยให้เค้าได้พักผ่อนและเข้านอนอย่างมีความสุขแล้ว ยังเป็นการสร้างนิสัยรักการอ่าน ซึ่งจะหาโอกาสอย่างนี้ได้ยากมากหากพ้นวัยนี้ไปแล้ว นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้ลูกได้เลือกหนังสือของตนเอง และตั้งใจฟังเมื่อลูกทำท่าเหมือนอ่านแม้ความจริงแล้วสิ่งที่เค้าทำคือการจดจำข้อความที่คุณพ่อคุณแม่อ่านให้ฟังมาพูด ไม่ได้เป็นการอ่านจริงๆก็ตาม ส่วนในเรื่องของการเขียน เด็กวัยนี้จะชอบขัดเขียน ระบายสี และวาดภาพแบบคร่าวๆได้

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟูความจำและบำรุงสมองฟื้นฟูและบำรุงระบบประสาทและสมองช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
แอดมิน โทร:087-0484741

🤷‍♀️🤷‍♂️เด็กถนัดซ้าย” ควรเปลี่ยนหรือควรปล่อย?💞“เด็กถนัดซ้าย” ควรเปลี่ยนหรือควรปล่อย?เด็กถนัดซ้าย หมายถึง เด็กที่ความถนัด...
12/04/2020

🤷‍♀️🤷‍♂️เด็กถนัดซ้าย” ควรเปลี่ยนหรือควรปล่อย?💞

“เด็กถนัดซ้าย” ควรเปลี่ยนหรือควรปล่อย?
เด็กถนัดซ้าย หมายถึง เด็กที่ความถนัดหรือโน้มเอียงในการใช้มือข้างซ้ายมากกว่ามือขวา ซึ่งสิ่งที่เด็กเป็นนี้เราไม่สามารถเรียกมันว่าเป็นปัญหาเสียทีเดียว เพราะความโน้มเอียงหรือความถนัดนี้นับเป็นเรื่องปกติ คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งกังวลกันไปเสียก่อน เพราะการศึกษาตามหลักวิทยาศาสตร์บ่งบอกว่า ความถนัดหรือความโน้มเอียงในการใช้มือข้างใดข้างหนึ่งไม่ใช่การแบ่งแยกอย่างเด็ดขาดว่าคนๆนั้นเป็นคนถนัดซ้ายหรือถนัดขวา หากแต่มันเป็นความแปรผันอย่างต่อเนื่องที่แบ่งเป็นหลายเฉด ตั้งแต่ถนัดขวามากเพียงข้างเดียวไปจนถึงถนัดขวามากเพียงข้างเดียว หรือบางทีอาจจะมีความถนัดทั้งสองข้างเท่าๆกันเลยก็ได้

🙇‍♀️🙇เด็กถนัดซ้ายมีลักษณะแบบไหน?💞
คุณพ่อคุณแม่จะทราบว่าลูกรักมีความโน้มเอียงในการใช้มือข้างใดนั้น จะต้องใช้อาการสังเกตเป็นระยะเวลาติดต่อการนานพอสมควร โดยลักษณะความโน้มเอียงเหล่านี้จะเริ่มพัฒนาและสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ระยะ 6-9 เดือนแรก เด็กที่มีความถนัดซ้ายมักมีแนวโน้มที่จะดูดนิ้วมือข้างที่เขาถนัด แต่ถึงอย่างนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ยังไม่สามารถระบุมือข้างที่ถนัดได้แท้จริง ต้องรอให้ถึงช่วง 2-3 ปีเสียก่อน ที่เด็กเริ่มแสดงความโน้มเอียงในการใช้มือข้างใดข้างหนึ่งอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น การแสดงความโน้มเอียงนี้จะแสดงออกโดยการใช้มือข้างที่ถนัดหยิบหรือคว้าสิ่งของ เด็กบางคนอาจจะแสดงความโน้มเอียงในการใช้มือทั้งสองข้างหยิบจับของ จนกระทั่งเข้าสู่ปีที่ 5-6 ก้จะเห็นความชัดเจนมากยิ่งขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการจะเห็นความชัดเจนจริงๆ ก็สามารถทำได้ผ่านกิจกรรมต่างๆที่เด็กทำประจำวัน เช่น เวลาลูกกินอาหารจากจานและช้อนส้อมตรงหน้า ลูกใช้มือไหนหยิบช้อนขึ้นมาก่อน มือข้างนั้นก็จะเป็นมือที่เขาถนัด

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟูความจำและบำรุงสมองฟื้นฟูและบำรุงระบบประสาทและสมองช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
แอดมิน โทร:087-0484741

3 เหตุผลที่เด็ก GEN ใหม่ ควรกินผักผลไม้🥦🍎🍊🍉🌽🥕ผักผลไม้ จำเป็นต่อร่างกายไม่แพ้สารอาหารอื่นๆ เลยนะครับ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลาย...
12/04/2020

3 เหตุผลที่เด็ก GEN ใหม่ ควรกินผักผลไม้🥦🍎🍊🍉🌽🥕

ผักผลไม้ จำเป็นต่อร่างกายไม่แพ้สารอาหารอื่นๆ เลยนะครับ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะไม่ชอบกินผัก หรือกินในปริมาณน้อยใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าได้รู้ 3 ประโยชน์เหล่านี้แล้ว อาจจะทำให้เปลี่ยนใจ และทานผักมากขึ้นด้วยล่ะ

เหตุผลที่ 1 ผัก ผลไม้พัฒนาสมองได้นะ🥦🍎🍊🍉🌽🥕

บางคนอาจเคยได้ยินว่า เด็กๆ ควรกินปลาเพื่อให้ฉลาด แต่จริงๆ แล้ว การเสริมสร้างสมองของเด็กให้เจริญมากขึ้นต้องกินผักผลไม้ด้วย เพราะ พัฒนาการของวัยเด็กจำเป็นต้องอาศัยการทำงานที่สมบูรณ์ของระบบไหลเวียนโลหิตและเม็ดเลือดซึ่งหลายคนมองข้ามความสำคัญของระบบนี้ไป การมีเม็ดเลือดที่แข็งแรงสมบูรณ์ย่อมทำให้พัฒนาการของระบบประสาทและระบบกล้ามเนื้อเป็นไปอย่างสมบูรณ์ เหตุผลเหล่านี้นี่เองที่ทำให้เด็กๆ อย่างเรามีสมองปลอดโปร่งได้ครับ

เหตุผลที่ 2 ผัก ผลไม้ ช่วยลดการอยากขนม🥦🍎🍊🍉🌽🥕

แม้ฟังดูไม่ค่อยเกี่ยวกัน แต่ประโยชน์หนึ่งของผักคือใยอาหารค่อนข้างมาก โดยเฉพาะผักใบที่มีรสชาติกลางๆ และอ่อนนุ่มเคี้ยวง่ายๆ เช่น ผักบุ้ง ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ ผักเหล่านี้หากปรุงให้สุกแล้ว จะเป็นการเพิ่มใยอาหารในลำไส้ให้เราอิ่มท้องได้นานขึ้น ลดความต้องการที่จะกินขนมกรุบกรอบในระหว่างวันลงได้มาก จึงช่วยควบคุมหรือลดน้ำหนักและไม่ทำให้เกิดโรคอ้วนด้วยครับ

เหตุผลที่ 3 ผัก ผลไม้ ทำให้ป่วยน้อยลง🥦🍎🍊🍉🌽🥕

อาการป่วยรุนแรงมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราไม่ได้สนุกเรียน สนุกเล่นอย่างเต็มที่ใช่ไหมล่ะครับ ฉะนั้น หากไม่อยากป่วยไข้ ผัก ผลไม้ ช่วยได้นะ เพราะ ผลวิจัยเผยว่า การบริโภคผักและผลไม้สามารถลดโอกาสป่วยได้ ทั้งโรคพื้นฐานอย่างไข้หวัด รวมไปถึงลดโอกาสการเกิดโรคเรื้อรัง อีกด้วย

เข้าใจประโยชน์สำคัญกันแล้ว อย่าลืมทานปักผลไม้กันเยอะๆ ด้วยนะครับ รับรองร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงแน่นอนครับ

ข้อมูลจาก เมื่อวานป้าทานอะไร และ www.dekthaidd.com

ทำอย่างไร !!! เมื่อลูกอารมณ์ร้อน โมโหง่าย                                             โดยทั่วไปเด็กส่วนใหญ่มักเอาแต่ใจ ก...
04/04/2020

ทำอย่างไร !!! เมื่อลูกอารมณ์ร้อน โมโหง่าย

โดยทั่วไปเด็กส่วนใหญ่มักเอาแต่ใจ กับคุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ใกล้ชิดอยู่เสมอ ทั้งนี้เพราะเด็กๆเชื่อว่าตนจะได้รับการตอบสนองดังใจต้องการ แต่เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นดังใจหวัง เด็กก็จะแสดงอารมณ์โกรธ โมโห ออกฤทธิ์ออกเดช ผู้ใหญ่เมื่อเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้มักใจอ่อน รำคาญ หรือไม่ก็อับอายกรณีเด็กแผลงฤทธิ์เดชต่อหน้าสาธารณะ ผลก็คือยอมทำตามความต้องการของเด็ก เด็กก็จะเกิดการเรียนรู้ว่าทำอย่างนี้แล้วจะได้สิ่งที่ต้องการ

คุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ใกล้ชิดมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากที่จะช่วยแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของเด็กค่ะ

วิธีการก็คือ

๑. เมื่อไหร่ที่เด็กเอาแต่ใจ โมโหร้าย ทำลายข้าวของ ผู้ใหญ่ต้องตั้งสติควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ได้ก่อน เพราะถ้าผู้ใหญ่แสดงความโกรธ โมโหออกไป ก็จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ของเด็กมากขึ้น

๒. เมื่อควบคุมตนเองได้แล้ว ลำดับต่อไปคือ การควบคุมเด็กด้วยการบอกให้เด็กหยุดพฤติกรรมนั้น ด้วยท่าทีที่สงบ แต่เข้มแข็งและมั่นคง ไม่จำเป็นต้องตวาด หรือตะเบ็งเสียงแข่งกับเด็ก

๓. ถ้าบอกแล้วเด็กยังไม่ยอมหยุดพฤติกรรม ผู้ใหญ่จำเป็นต้องเข้าไปควบคุมพฤติกรรมโดยตรงเพื่อให้หยุดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์นั้นๆ เช่น ห้ามไม่ให้ขว้างปาข้าวของแล้วเด็กไม่หยุด ต้องเข้าไปจับมือเด็กเอาไว้ และพูดให้เด็กสงบลง

๔. เมื่อสามารถหยุดพฤติกรรมได้แล้ว ให้เวลาเด็กสงบสติ อารมณ์ ด้วยการให้เด็กอยู่นิ่งๆเงียบๆ แต่ต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ เช่น ให้เด็กนั่งอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งของห้อง โดยไม่มีคนอื่นไปรบกวน ไม่ควรให้เด็กอยู่คนเดียวในที่ลับตาผู้ใหญ่ เพราะเด็กอาจทำพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ได้อีก

๕. เมื่อสังเกตว่าอารมณ์ของเด็กสงบลงแล้ว ให้ผู้ใหญ่เข้าไปพูดคุยกับเด็กด้วยเหตุผล

a. สอบถามว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากอะไร

b. เพราะอะไรเด็กจึงต้องตะโกน ส่งเสียงดัง

c. ผลของการตะโกน ส่งเสียงดัง เป็นอย่างไร

d. ถ้าเด็กทำลายข้าวของ แสดงให้เด็กเห็นว่าข้าวของที่เสียหายมีอะไรบ้าง ถ้าซ่อมแซมได้ ให้เด็กมีส่วนร่วมในการซ่อมแซม

e. สอบถามเกี่ยวกับ อารมณ์และความรู้สึกของเด็กต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

f. ผู้ใหญ่ต้องอย่าลืมว่า ทุกๆคนสามารถเกิดอารมณ์ต่างๆได้เหมือนๆกัน แต่การแสดงออกเมื่อมีอารมณ์ต่างๆเกิดขึ้นนั้นต้องเป็นไปตามความเหมาะสม ดังนั้น การที่เด็กบอกว่า โกรธพ่อ แม่ ครู ไม่ใช่เรื่องผิดบาป หรือต้องห้าม เพราะเด็กอาจมีเหตุผลแบบเด็กๆ ที่มาจากการตีความจากประสบการณ์ของเด็ก ถ้าเด็กตีความผิด ผู้ใหญ่มีหน้าที่อธิบายให้เด็กเข้าใจตามข้อเท็จจริง และสอนให้เด็กแสดงความโกรธอย่างเหมาะสม

g. เมื่อมีประเด็นที่เด็กเข้าใจผิด เช่น แม่รักน้องมากกว่า แม่รักพี่มากกว่า แม่ไม่รักหนูแล้วผู้ใหญ่ต้องอธิบายให้เด็กเข้าใจตามข้อเท็จจริง

h. ผู้ใหญ่บอกเล่าถึงอารมณ์และความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของเด็ก สำหรับข้อนี้ ผู้ใหญ่บางคนอาจรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องบอกเพราะเด็กยังเล็กเกินไป ไม่รู้เรื่องหรอก แท้จริงแล้ว เด็กๆก็สามารถรับรู้อารมณ์ ความรู้สึกของผู้ใหญ่ได้เช่นเดียวกัน การสื่อสารให้เด็กรู้และเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่นอย่างถูกต้องดีกว่าให้เด็กตีความเอาเอง

i. เมื่อทำให้เด็กรับทราบว่าพฤติกรรมของตนไม่เหมาะสมแล้ว ให้หาข้อตกลงร่วมกันว่าจะมีวิธีจัดการอย่างไรถ้าเกิดพฤติกรรมอย่างนี้ขึ้นอีก ทำเป็นกติกาในบ้าน และผู้ใหญ่ทุกคนต้องปฏิบัติตามข้อตกลงนั้น เพื่อแก้ไขให้พฤติกรรมไม่พึงประสงค์นั้นหายไป

วิธีการข้างต้นนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะเด็กๆนะคะ สามารถนำไปใช้ได้กับคนทุกวัยค่ะ

ขอให้รับรู้อารมณ์และจัดการกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นได้อย่างเหมาะสมนะคะ

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟูความจำและบำรุงสมองฟื้นฟูและบำรุงระบบประสาทและสมองช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
แอดมิน โทร:087-0484741

หยุดเปรียบเทียบลูก ถ้าไม่อยากให้ลูกกลายเป็นเด็กดื้อต่อต้าน-ขี้อิจฉาหยุดเปรียบเทียบลูก กับเพื่อนลูก กับพี่น้อง หรือกับเด็...
25/03/2020

หยุดเปรียบเทียบลูก ถ้าไม่อยากให้ลูกกลายเป็นเด็กดื้อต่อต้าน-ขี้อิจฉา

หยุดเปรียบเทียบลูก กับเพื่อนลูก กับพี่น้อง หรือกับเด็กอื่นๆ เพราะความต้องการของพ่อแม่ เนื่องจากการพูดเปรียบเทียบบุตรหลานเป็นเครื่องมือหนึ่งที่มักจะถูกนำมาใช้อยู่บ่อยครั้งของพ่อแม่ผู้ปกครอง เมื่อต้องการอยากให้ลูกหลานทำ หรือเป็นอย่างที่ต้องการ เพียงเพราะความรู้สึกปรารถนาดี อยากให้ลูกเห็นต้นแบบดีๆ บ้าง ความคาดหวังอยู่ลึกๆ ต่อลูกหลาน อยากให้มีพฤติกรรมที่ดีๆ บ้าง หรืออาจมาพร้อมความรู้สึกโกรธ โมโห เพราะลูกหลานไม่ได้ดั่งใจบ้าง เช่น

“เรียนเก่งๆ ให้ได้อย่างพี่เขาสิ”
“ทำแต่เรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน ทำไมไม่ทำตัวน่ารักแบบน้องบ้าง”
“ลูกบ้านโน้นเก่งจัง เก่งกว่าลูกอีก”
“หัดทำตัวดีๆ เหมือนลูกข้างบ้านได้ไหม”
ซึ่งคำพูดเหล่านี้ ถึงแม้จะเป็นความหวังดีของพ่อแม่ผู้ปกครองอยู่ลึกๆ แต่ผลกระทบกลับยิ่งใหญ่นักต่อหัวใจของเด็ก ๆ มากมายอย่างคาดไม่ถึงค่ะ

พูดเปรียบเทียบส่งผลกระทำต่อลูกอย่างไร
ลูกจะรู้สึกแย่กับตนเอง เพราะคำพูดของผู้ใหญ่เปรียบเสมือนกระจกสะท้อน เมื่อเด็กได้รับฟังอยู่ทุกวัน เขาก็จะรู้สึกว่าตนเองเป็นเด็กไม่ดี ไม่มีความสามารถทำได้เหมือนคนอื่น ทำให้รู้สึกด้อยค่า มองไม่เห็นคุณค่าในตนเอง ไม่กล้าแสดงออก ไม่มั่นใจในตนเอง นานวันเข้าจะไม่กล้าลงมือทำอะไรเพราะขาดความมั่นใจว่าตนจะทำได้สำเร็จ
ลูกจะรู้สึกโกรธ อิจฉา หรือแสดงพฤติกรรมต่อต้าน รุนแรง ก้าวร้าวตอบโต้กลับไป มีน้อยมากที่อาจจะฮึดสู้กับคำพูดเปรียบเทียบของผู้ใหญ่ และกลายเป็นแรงผลักดันในการทำสิ่งที่ดีๆ เพราะส่วนใหญ่เด็กๆ มักจะทำในทางตรงกันข้าม คือทำสิ่งที่ไม่ดีตรงกันข้ามกับที่ผู้ใหญ่บอกให้ทำ เพื่อให้เกิดความรู้สึกสะใจที่พ่อแม่มักจะเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น จนนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกันภายในครอบครัว

สิ่งที่พ่อแม่ควรทำเพื่อกระตุ้นลูก
พ่อแม่ต้องรู้จักลูกของตัวเองให้ดีพอ เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีความเป็นตัวเองแตกต่างกันไป ทั้งหน้าตา ท่าทาง พฤติกรรมการแสดงออก รวมทั้งศักยภาพและความสามารถ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่น ถ้าคุณพ่อคุณแม่รู้ว่าลูกเราดีด้านไหนก็ควรสนับสนุนด้านนั้นค่ะ แต่ควรทำดังต่อไปนี้

เลิกเปรียบเทียบลูกกับพี่น้อง หรือ เด็กคนอื่น
ค้นหาศักยภาพในตัวลูกแต่ละคน และเปิดโอกาสให้ศักยภาพเหล่านั้นได้แสดงออกอย่างเต็มที่ เช่น ลูกคนสุดท้องชอบทำอาหาร ลูกคนโตชอบการทดลอง ชอบเรียนวิทยาศาสตร์
สนับสนุน และช่วยพัฒนาจุดอ่อนที่ยังต้องฝึกฝนไปพร้อมกับลูก โดยที่พ่อแม่ชี้ให้ลูกเห็นว่า จุดนี้เราต้องพยายามเพิ่ม เพราะอะไร ไม่ใช่เพื่อให้เท่าเทียมกับใคร
สอนให้ลูกมีจุดพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี และให้ลูกได้รู้จักสร้างแรงบันดาลใจที่จะก้าวต่อไปด้วยแรงที่มาจากข้างในตัวเอง ไม่ใช่มีคนอื่นเป็นเครื่องวัดตัวเรา
ให้กำลังใจในสิ่งที่ลูกพยายามทำ อาจจะพูดว่า “แม่ภูมิใจมากเลย ที่ลูกพยายามทำการบ้าน แม้มันจะยากอยู่บ้างนะ แต่ลูกก็ยังไม่ท้อถอย” เพราะจะทำให้ลูกน้อยมีขวัญกำลังใจดีจะเห็นคุณค่าในตนเองสูง มีความเต็มใจที่จะให้ความร่วมมือเชื่อฟัง มีความพยายามทำสิ่งใหม่ๆ และมีความรับผิดชอบ
ให้การชื่นชมในสิ่งที่เด็กเป็น ในสิ่งที่เด็กสามารถทำได้ดี แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่พ่อแม่สามารถจับสิ่งเหล่านั้นมาพูดได้ เช่น “ดีมากเลยลูก ที่ลูกเป็นเพื่อนเล่นกับน้อง หนูเป็นพี่สาวที่น่ารักมากเลย”
แค่คำพูดเล็กๆ น้อยๆ ของพ่อแม่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงลูกน้อยได้แล้วค่ะ และหากพ่อแม่รักและหวังดีกับลูกจริงๆ ก็ควรรักในสิ่งที่ลูกเป็นไม่ใช่สิ่งที่อยากให้ลูกเป็น เพราะไม่มีใครอยากถูกเปรียบเทียบหรอกจริงไหมค่ะ

ที่มา: thaichildrights

000000000000000000000000000000000000000000

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟูความจำและบำรุงสมองฟื้นฟูและบำรุงระบบประสาทและสมองช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์

☎ 087-0484741 แม่แอ๋มค่ะ

สัญญาณ "โรคสมาธิสั้น" ในเด็กเล็กอาการของโรคที่สมาธิสั้น คือ1.ซนมากกว่าปกติซนจะมากกว่าเด็กทั่วๆไป ซนแบบไม่อยู่นิ่ง อยู่ไม...
02/02/2020

สัญญาณ "โรคสมาธิสั้น" ในเด็กเล็ก

อาการของโรคที่สมาธิสั้น คือ

1.ซนมากกว่าปกติซนจะมากกว่าเด็กทั่วๆไป
ซนแบบไม่อยู่นิ่ง อยู่ไม่เป็นสุข ลุกลี้ลุกลน
ตลอดเวลา

2.วอกแวกง่ายทำงานต่างๆไม่ค่อยสำเร็จ
ต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไช

3.อาการหุนหันพลันแล่นมักจะรอคอยไม่เป็น
คิดอะไรก็ทำขึ้นมาโดยทันที

ซึ่งถ้าเด็กมีอาการครบทั้ง 3 กลุ่ม
หรือมีลักษณะเด่นร่วมกัน 1 - 2 อาการ
ก็ถือเข้าข่ายกลุ่มอาการสมาธิสั้นแล้ว

โทร.087 048 4741

ที่อยู่

Bangkok
10150

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ อเลอไทด์ เทคนิคเพิ่มความจำ A 2018ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram