ชะลอวัยกับหมอบิ๊ก

ชะลอวัยกับหมอบิ๊ก ชะลอวัยกับหมอบิ๊ก ป.ตรี แพทยศาสตร์ ป.โท เวชศาสตร์ชะลอวัย และ American Board of Anti-Aging Medicine

เมื่อสมองเปราะบาง… AI ก็อาจเป็นอันตรายได้🧠 เรื่องนี้เกิดกับชายไทยวัย 76 ปี ที่อยู่ในสหรัฐฯ เดิมทีเขาเป็นเชฟฝีมือดี ชอบทำ...
15/08/2025

เมื่อสมองเปราะบาง… AI ก็อาจเป็นอันตรายได้

🧠 เรื่องนี้เกิดกับชายไทยวัย 76 ปี ที่อยู่ในสหรัฐฯ เดิมทีเขาเป็นเชฟฝีมือดี ชอบทำอาหารให้ครอบครัว แต่พออายุ 68 ปี เขาเคยมีภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ถึงแม้จะฟื้นตัวได้ดี แต่ก็ทำงานต่อไม่ไหว จนต้องเกษียณอยู่บ้าน

หลังจากนั้น เขาใช้เวลาส่วนใหญ่คุยแชตกับเพื่อน ๆ ออนไลน์ จนต้นปีนี้เริ่มมีอาการสับสนเป็นระยะ ๆ ครอบครัวเลยจองคิวตรวจคัดกรองสมองเสื่อม แต่ต้องรอถึง 3 เดือน ระหว่างรอนั้น เขาไปคุยเชิงโรแมนติกกับแชตบอต AI ชื่อ Big sis Bilie ซึ่งบอกย้ำ ๆ ว่ามีตัวตนจริง แถมชวนให้ไปหา

แม้ภรรยาจะห้าม เพราะเขาเริ่มมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ และร่างกายไม่แข็งแรงแล้ว แต่เขาก็ออกจากบ้านพร้อมกระเป๋าเดินทาง ระหว่างทางเกิดล้มบาดเจ็บที่ศีรษะและคอ อาการหนักจนเสียชีวิตใน 3 วันต่อมา
หลังจากนั้น ครอบครัวเพิ่งรู้ว่า “เพื่อน” ที่เขาจะไปหา ไม่ได้มีอยู่จริง เป็นเพียงแชตบอตที่ AI สร้างขึ้นครับ

📌 หมอคิดว่าบทเรียนจากเรื่องนี้มีอยู่ 3 ข้อใหญ่ ๆ
1. สมองเสื่อมทำให้เชื่อข้อมูลง่ายขึ้น
เวลาสมองเสื่อม การตัดสินใจและการแยกความจริงกับเรื่องแต่งจะลดลง ทำให้ตกเป็นเป้าหมายของการหลอกลวงง่ายมากครับ
2. AI ไม่ใช่นักบำบัดจริง ๆ
ถึงแม้ AI จะตอบได้ฉลาด แต่ก็ยังมีอคติ และบางครั้งให้คำแนะนำที่เสี่ยง งานวิจัยก็ยืนยันว่า AI ยังไม่พร้อมจะดูแลสุขภาพจิตแทนคนได้
3. ยังมีช่องโหว่เรื่องความปลอดภัย
AI บางระบบอาจหลอกว่ามีตัวตนจริง หรือชักจูงให้คนทำพฤติกรรมเสี่ยง โดยไม่มีตัวกรองหรือมาตรการรับผิดชอบที่ชัดเจน

💡 หมอมีข้อแนะนำสำหรับผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียว
1. สร้างกิจวัตรประจำวันให้ชัดเจน
มีตารางเวลาตื่น-นอน กินข้าว ออกกำลังกาย และทำกิจกรรม เพื่อให้สมองทำงานอย่างมีระบบ และลดความสับสน
2. รักษาการเชื่อมต่อกับคนรอบข้าง
โทรหรือวิดีโอคอลกับครอบครัว/เพื่อนเป็นประจำ อาจนัดเจอกันทุกสัปดาห์ เพื่อให้สมองได้กระตุ้นจากการสื่อสาร
3. สิ่งแวดล้อมในบ้านต้องปลอดภัย
• จัดบ้านให้โล่ง ลดของกีดขวาง
• ใช้สติกเกอร์สี/ป้ายเตือนในจุดสำคัญ เช่น ประตู, สวิตช์ไฟ
• มีเบอร์โทรฉุกเฉินติดไว้ชัดเจน
4. เทคโนโลยีต้องปลอดภัย
• ตั้งค่ามือถือและโซเชียลให้มีการยืนยันตัวตน
• ติดตั้งโปรแกรมบล็อกเบอร์แปลกและเว็บหลอกลวง
• หากใช้แชตบอตหรือ AI ให้มีคนช่วยดูแลและให้คำแนะนำก่อนเชื่อข้อมูล
5. ฝึกสมองเป็นประจำ
เล่นเกมฝึกความจำ อ่านหนังสือ ฝึกท่องจำเนื้อเพลง หรือเรียนสิ่งใหม่ ๆ เช่น ภาษา ดนตรี

🍏 อาหารและอาหารเสริมที่อาจช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อม

อาหาร
• เน้นสไตล์ Mediterranean / MIND diet: ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ธัญพืชไม่ขัดสี ปลา ไขมันดีจากน้ำมันมะกอกและถั่ว
• ลดน้ำตาลและอาหารแปรรูป
• ดื่มน้ำเพียงพอ (1.5–2 ลิตร/วัน เว้นข้อจำกัดจากแพทย์)

อาหารเสริมที่มีงานวิจัยสนับสนุนบางส่วน (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)
1. Omega-3 (DHA/EPA) – ช่วยโครงสร้างเยื่อหุ้มเซลล์สมอง
2. Phosphatidylserine – อาจช่วยการสื่อสารระหว่างเซลล์สมอง
3. Ginkgo biloba – เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง
4. B-complex (โดยเฉพาะ B6, B12, Folate) – ลดโฮโมซิสเตอีนที่เกี่ยวกับเสื่อมของสมอง
5. Curcumin (ขมิ้นชันสกัด) – ลดการอักเสบในสมอง
6. Vitamin D – บางงานวิจัยพบว่าขาดวิตามิน D อาจเพิ่มความเสี่ยงสมองเสื่อ

📍 หมออยากฝากไว้
ผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวมีความเสี่ยงทั้งด้านความปลอดภัยทางกาย และการถูกชักจูงจากข้อมูลปลอม
การดูแลจึงต้องเป็น “แพ็กคู่” ทั้งสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย + การบำรุงสมองด้วยกิจกรรมและโภชนาการ

#รักสุขภาพ #สุขภาพดี #เอไอ #ชะลอวัย #สมองเสื่อม #ความจำเสื่อม #อัลไซเมอร์

🌿 “เราจะผ่านพ้นสิ่งที่เราไม่มีวันลืมได้อย่างไร?”นี่คือ 10 บทเรียนสำคัญจากหนังสือที่ชื่อว่า “Getting Past What You’ll Nev...
04/08/2025

🌿 “เราจะผ่านพ้นสิ่งที่เราไม่มีวันลืมได้อย่างไร?”

นี่คือ 10 บทเรียนสำคัญจากหนังสือที่ชื่อว่า “Getting Past What You’ll Never Get Over” ที่หมออยากให้ทุกคนได้อ่านในวันที่หัวใจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว



💡 1. บางเรื่องกระทบใจลึกกว่าที่เราคิด

ความเจ็บจากความสูญเสียหรือเหตุการณ์รุนแรง ไม่ใช่เรื่องเล็ก อย่าพยายาม “ลืม” หรือ “ผ่านไปให้ได้” โดยไม่เข้าใจว่าจริง ๆ แล้ว มันฝังรากลึกเพียงใดในใจเรา

💡 2. การยอมรับความเจ็บ คือจุดเริ่มต้นของการเยียวยา

การหลบเลี่ยง ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะยิ่งกดความรู้สึกนั้นไว้ หมออยากชวนให้เรากล้ารับรู้ว่า “ใช่…ฉันเจ็บ และฉันเศร้า”

💡 3. การเยียวยาไม่ใช่การลืม แต่คือการอยู่กับมันให้เป็น

เราอาจไม่มีวันลืมสิ่งที่เสียไป แต่เราสามารถเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตต่อไป โดยมีความเจ็บนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเรา

💡 4. การร้องไห้ ไม่ได้ทำให้คุณอ่อนแอ

ทุกคนมีสิทธิ์เศร้า มีสิทธิ์ใช้เวลาเยียวยาโดยไม่ต้องรู้สึกผิด หมอขอให้คุณอนุญาตให้ตัวเองร้องไห้ และอยู่กับมันอย่างเต็มที่

💡 5. ความเข้มแข็ง ไม่ได้มาเอง — มันถูกฝึกฝนได้

Resilience หรือความยืดหยุ่นทางใจ คือกล้ามเนื้อที่เราฝึกได้ทุกวัน ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง ก็ยังลุกขึ้นได้ใหม่เสมอ

💡 6. ความทุกข์ไม่จำเป็นต้องไร้ความหมาย

ในความเจ็บปวด มักซ่อนบทเรียนที่เปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล ลองทบทวนว่า “สิ่งนี้สอนอะไรฉัน?”

💡 7. อย่าพยายามเดินคนเดียว

ขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แพทย์ นักจิตวิทยา หรือคนที่พร้อมฟัง เป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนการแบกไว้คนเดียว…ให้กลายเป็นการเดินร่วมกัน

💡 8. คุณสามารถเขียนเรื่องราวชีวิตของตัวเองขึ้นใหม่ได้

สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็น “ตอนจบ” ของเรื่องนี้…มันอาจเป็นแค่ “บทแรก” ของการเติบโตครั้งใหญ่ในชีวิต

💡 9. อย่าลืมเมตตาต่อตัวเอง

คุณอาจยังเจ็บ ยังร้องไห้ ยังสับสน — และทั้งหมดนั้นไม่เป็นไรเลย
หยุดด่าตัวเอง แล้วหันมาปลอบใจตัวเองบ้าง

💡 10. ความหวัง…ยังอยู่ตรงนี้เสมอ

แม้จะอยู่ในความเศร้า แต่คุณก็ยังสามารถมี “ความหวัง” อยู่ข้าง ๆ ได้
ไม่มีใครต้องเลือกระหว่างความเศร้ากับความหวัง — เพราะมันอยู่ร่วมกันได้



🧘🏻‍♂️ ในวันที่คุณกำลังเผชิญสิ่งที่ไม่มีวันลืม…
หมออยากบอกคุณว่า คุณไม่จำเป็นต้อง “ผ่านไปให้ได้”
แค่คุณ “อยู่กับมันอย่างเข้าใจ” — นั่นก็คือการเยียวยาแล้วครับ

และบางครั้ง การเปลี่ยนมุมมองต่อความเจ็บปวด ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ที่คุณไม่เคยคิดฝันมาก่อน 🌈

ด้วยความเข้าใจ
หมอบิ๊ก | Wellness Medicine 🌿

#ฮีลใจ #สุขภาพ #จิตวิทยา #นอนไม่หลับ

🧠 เครียด เหนื่อย นอนไม่หลับ?10 แนวทาง wellness จากหนังสือคลาสสิกระดับโลก ที่หมออยากให้คุณได้ลองคนเราทุกวันนี้ใช้ชีวิตเหม...
02/08/2025

🧠 เครียด เหนื่อย นอนไม่หลับ?

10 แนวทาง wellness จากหนังสือคลาสสิกระดับโลก ที่หมออยากให้คุณได้ลอง

คนเราทุกวันนี้ใช้ชีวิตเหมือนวิ่งแข่ง
ทำงานหนัก พักน้อย กังวลสารพัดเรื่อง จนลืมหันกลับมาดูแลตัวเอง
หนังสือเล่มหนึ่งที่หมอเคยอ่านเมื่อหลายปีก่อน ยังเตือนใจหมอได้เสมอ
ชื่อว่า “How to Stop Worrying and Start Living”
และนี่คือ 10 ข้อคิดที่อยากชวนคุณหยุด เพื่อฟังเสียงใจตัวเองอีกครั้ง…



✨ 1. ความกังวลไม่เคยแก้ปัญหาได้เลย

สิ่งที่คุณกังวลไปแล้ว 90% ไม่เคยเกิดขึ้นจริง
และระหว่างที่คุณคิดวนไปมา… ร่างกายคุณกำลังปล่อย ฮอร์โมนเครียด ที่บั่นทอนทั้งสมอง หัวใจ และภูมิคุ้มกัน



✨ 2. อยู่กับปัจจุบันให้ได้มากที่สุด

หายใจลึก ๆ แล้วถามตัวเองว่า “ตอนนี้ฉันปลอดภัยไหม?”
ปัจจุบันอาจจะยังไม่สมบูรณ์… แต่มันคือจุดเริ่มต้นของทุกการเปลี่ยนแปลง



✨ 3. ถามใจให้ชัดว่า “เรื่องนี้ ถ้าแย่ที่สุด จะเกิดอะไรขึ้น?”

และถ้ายอมรับมันได้… จิตใจจะสงบลงแบบน่าแปลก
เพราะหลายครั้งที่เราเครียด เพราะ “เราไม่กล้ามองความจริงตรงหน้า”



✨ 4. อย่าเก็บขยะทางอารมณ์ไว้ในใจ

การไม่ให้อภัยคือการกินยาพิษเอง แล้วหวังว่าอีกฝ่ายจะตาย
ถ้าปล่อยวางไม่ได้… สุขภาพก็จะไม่มีทางดี



✨ 5. คุณมีของมีค่ามากกว่าที่คุณคิด

ถ้ามีคนเสนอเงิน 1 ล้านบาท เพื่อแลกกับการมองเห็นของคุณ… คุณจะยอมไหม?
ลองเปลี่ยนความคิด “ฉันไม่มี…” → เป็น “ฉันยังมีสิ่งดี ๆ แบบนี้อยู่”
นี่คือจุดเริ่มต้นของสุขภาพจิตที่แข็งแรง



✨ 6. อย่าให้สมองว่างนาน

เวลาที่เราฟุ้งซ่านที่สุด มักเป็นเวลาว่าง
การมีกิจกรรมให้ทำอย่างมีจุดหมาย ช่วยให้ใจนิ่ง สมองไม่สร้างเรื่องไปเอง



✨ 7. เลิกกลัวการตัดสินใจ

ความลังเลทำให้ชีวิตติดอยู่ที่เดิม
การเลือกผิด ยังดีกว่าไม่เลือกเลย เพราะคุณยังได้เรียนรู้และเดินหน้าต่อได้



✨ 8. เปรียบเทียบให้น้อยลง เชื่อมั่นให้มากขึ้น

สุขภาพใจดี ๆ เริ่มจาก “ไม่เปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับใคร”
โฟกัสที่เส้นทางของคุณเอง เพราะสุขภาพดีไม่ได้แข่งกับใคร นอกจากตัวเราในเมื่อวาน



✨ 9. พูดดีกับตัวเอง เหมือนที่คุณพูดกับคนที่คุณรัก

อย่าปล่อยให้ “เสียงในใจ” ทำร้ายคุณ
เปลี่ยนคำว่า “ไม่ไหวแล้ว” → เป็น “ฉันกำลังเรียนรู้และโตขึ้นทุกวัน”



✨ 10. หลับให้พอ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ

การนอนดี = ระบบฮอร์โมนดี = ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง
คนนอนไม่พอ จะหิวง่าย เครียดง่าย อ้วนง่าย และเสื่อมเร็ว



📚 ถ้าคุณกำลังเครียด หมดไฟ หรือรู้สึกไม่เป็นตัวเอง
ขอให้โพสต์นี้เป็น “จุดเริ่มต้น” ในการฟังใจตัวเองอีกครั้งนะครับ

เพราะชีวิตที่ดี ไม่ใช่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
แต่คือชีวิตที่คุณ “ไม่ลืมดูแลตัวเอง” ท่ามกลางความไม่สมบูรณ์นั้นแหละครับ

ด้วยความเข้าใจ
หมอบิ๊ก | Wellness Medicine 👨🏻‍⚕️🌿

#หมอบิ๊กWellness #เครียดนอนไม่หลับ #วิตามินสมอง #สุขภาพกายใจไปด้วยกัน #ชะลอวัยแบบเข้าใจตัวเอง

“คนไทยอ้วนขึ้นจริงไหม? แค่เดินในห้างก็เริ่มสังเกตได้แล้วครับ”ลองมองรอบตัวดูสิ… คุณเคยรู้สึกไหมว่า คนไทยทุกวันนี้ดู อ้วนข...
31/07/2025

“คนไทยอ้วนขึ้นจริงไหม? แค่เดินในห้างก็เริ่มสังเกตได้แล้วครับ”

ลองมองรอบตัวดูสิ… คุณเคยรู้สึกไหมว่า คนไทยทุกวันนี้ดู อ้วนขึ้น เหนื่อยง่าย เดินช้าลง ปวดเข่า ปวดหลัง มากขึ้นกว่าสมัยก่อน?

ไม่ใช่แค่คุณคิดไปเองนะครับ งานวิจัยหลายชิ้นก็ยืนยันตรงกันว่า “อัตราโรคอ้วนและโรคอ้วนแฝง” ในประเทศไทย พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุ

ที่น่ากังวลกว่านั้นคือ หลายคน ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองอ้วน เพราะคิดว่าแค่มีพุงเล็กน้อย เดินขึ้นบันไดแล้วเหนื่อยนิดหน่อย หรือปวดเข่าบ้างเวลาเดินนาน — ถือว่า “เรื่องปกติของวัย”
แต่จริง ๆ แล้ว สิ่งเหล่านี้คือ “สัญญาณเตือน” ของการที่ระบบเผาผลาญเริ่มเสื่อม ระบบฮอร์โมนเริ่มรวน และร่างกายเริ่มสะสม ภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) ไว้โดยที่ไม่รู้ตัว

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
▶️ กินเท่าเดิม แต่เริ่มอ้วนขึ้น
▶️ นอนไม่ค่อยหลับ ตื่นมาไม่สดชื่น
▶️ ความจำไม่ดี สมองตื้อ หงุดหงิดง่าย
▶️ ข้อเข่า ปวดหลัง เริ่มประท้วงเวลาเดินนาน

และเมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาเหล่านี้จะพัฒนาเป็น
❗ เบาหวาน ความดัน ไขมันพอกตับ
❗ กระดูกพรุน หมอนรองกระดูกเสื่อม เข่าเสื่อม
❗ อารมณ์แปรปรวน สมองล้า นอนไม่หลับเรื้อรัง

หมออยากบอกว่า สิ่งเหล่านี้ ป้องกันได้ครับ
ไม่ต้องรอให้ “แก่” แล้วค่อยดูแลตัวเอง
สุขภาพที่ดี “สร้างได้ตั้งแต่วันนี้” และไม่ต้องรอให้เจ็บก่อนถึงจะเริ่ม

แค่เริ่มสังเกตร่างกายตัวเองมากขึ้น
แค่ปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น
✅ ลดน้ำตาล ลดของหวาน
✅ ขยับร่างกายบ่อย ๆ ไม่ต้องออกกำลังโหด
✅ เสริมวิตามิน หรือสารอาหารที่จำเป็น เช่น Omega-3, CoQ10, Chromium, D3, K2
✅ และถ้าเริ่มมีอาการชัดเจน ก็ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน Wellness เพื่อวางแผนแบบองค์รวม

เพราะสุขภาพไม่ใช่แค่การ “ไม่มีโรค”
แต่คือการ “ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ปวด ไม่เหนื่อย ไม่หมดไฟ”

หมออยากให้คุณกลับมารู้สึกดีอีกครั้ง
เริ่มตั้งแต่วันนี้ครับ 🌿
#ลดน้ําหนัก #ลดไขมัน #เทคนิคดีบอกต่อ #สุขภาพดี #รักสุขภาพ #ลดพุง #ลดหน้าท้อง #คีโต #โลว์คาร์บ #หุ่นปัง #ลดน้ำตาล #ชะลอวัย #ไอเอฟ #สุขภาพ #อายุยืน #เทคนิคดีบอกต่อ #ชะลอวัยกับหมอบิ๊ก #ข่าวสุขภาพ

เรียบเรียงโดย หมอบิ๊ก

คอลลาเจนบำรุงกระดูก กินแบบไหน 1 หรือ 2 หรือ 3  คอลลาเจน แต่ละ Type + หน้าที่หลัก  Type I กระดูก (bone), ผิวหนัง, เส้นเอ็...
30/07/2025

คอลลาเจนบำรุงกระดูก กินแบบไหน 1 หรือ 2 หรือ 3
คอลลาเจน แต่ละ Type + หน้าที่หลัก
Type I กระดูก (bone), ผิวหนัง, เส้นเอ็น ให้โครงสร้างและความแข็งแรง
Type II กระดูกอ่อน (เช่น ข้อเข่า, หมอนรองกระดูก) ช่วยให้กระดูกอ่อนยืดหยุ่น ลดแรงกระแทก
Type III ผิวหนัง, หลอดเลือด, อวัยวะภายใน รักษาโครงสร้างเนื้อเยื่ออ่อน



📌 สรุป:
• Collagen Type II ใช้เพื่อ:
• บำรุงข้อเข่า
• ช่วยลดอาการเสื่อมของกระดูกอ่อน
• ใช้ในคนที่มี ข้อเสื่อม หรือ ปวดข้อ
• ส่วน กระดูกแข็งแรง (bone density) → ควรเสริม Collagen Type I + แคลเซียม + D3 + K2

เรียบเรียงโดย หมอบิ๊ก

#เข่าเสื่อม #ปวดเข่า #กระดูกเสื่อม #ข้อเสื่อม #หมอนรองกระดูกเสื่อม
#ข้อเข่าอักเสบ #บำรุงข้อเข่า #ดูแลข้อเข่า #เข่าดังเป๊าะ #เดินแล้วปวดเข่า #ปวดข้อเรื้อรัง #ปวดหลัง #หมอนรองกระดูกทับเส้น #ชะลอวัย

ถ้าคุณรู้สึก burnout — ทั้งเหนื่อยล้า สมองตื้อ อารมณ์แปรปรวน ไม่มีแรงใจ — การใช้ วิตามิน B3 (กลุ่ม niacin) เป็นส่วนหนึ่ง...
28/07/2025

ถ้าคุณรู้สึก burnout — ทั้งเหนื่อยล้า สมองตื้อ อารมณ์แปรปรวน ไม่มีแรงใจ — การใช้ วิตามิน B3 (กลุ่ม niacin) เป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟู แนวทางระบบพลังงานในสมอง ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีมากครับ แต่ต้องรู้ว่าจะเลือก niacin, niacinamide หรือ NAD+ precursors ตัวไหนให้ตรงจุด



🔥 Burnout แบบสมองล้า = NAD⁺ depletion + neurotransmitter drop

Burnout มักเกี่ยวข้องกับ:
• การใช้พลังงานสมองมากเกินไป (NAD+ ใน mitochondria ลดลง)
• ความเครียดเรื้อรัง → cortisol สูง
• dopamine, serotonin ต่ำ
• neuroinflammation ในสมองส่วน prefrontal cortex



✅ ทางเลือกของ B3 ที่เหมาะกับ Burnout:

รูปแบบ จุดเด่น ข้อควรพิจารณา
Niacin (Nicotinic Acid) เพิ่ม NAD⁺ และช่วยปล่อย serotonin / dopamine เพิ่มการไหลเวียนสมอง อาจ flushing (หน้าแดง), เริ่มจากขนาดต่ำ 50–100 mg
Niacinamide (Nicotinamide) ลดการอักเสบในสมองดีมาก ไม่ flushing เหมาะกับสมองอ่อนล้า-ป้องกันสมองเสื่อม ขนาดสูง >500 mg อาจยับยั้ง SIRT1 (ถ้าใช้นาน)
NR / NMN (Nicotinamide Riboside / Mononucleotide) เพิ่ม NAD⁺ ในสมองโดยตรง กระตุ้น mitochondria ใช้พลังงานดีขึ้น แพง แต่ปลอดภัย ไม่มี flushing
NAD⁺ IV / Sublingual NAD⁺ เติมพลังงานสมองเร็วมาก ฟื้นสมองล้าไว ต้องอยู่ในคลินิก หรือต้องหาแหล่งคุณภาพ



🔁 แนะนำแนวทางเสริมวิตามิน B3 สำหรับ Burnout:

🧠 กรณี 1: สมองล้า ไม่มีแรง คิดช้า

เช้า:

• Niacin 50–100 mg หลังอาหาร → กระตุ้นพลังงาน + เพิ่ม serotonin

เย็น:

• Niacinamide 250–500 mg → ลดการอักเสบสมอง + ฟื้นสมองตอนพัก

🔋 กรณี 2: ต้องการฟื้นพลังสมองแบบลึก (ใช้ได้กับ intermittent fasting ด้วย)
• NMN 250–500 mg เช้า + TMG 500 mg → ช่วย methylation + ป้องกัน NAD+ depletion
• หรือใช้ NAD⁺ sublingual spray หรือ IV drip (เฉพาะบางเคส)



🧬 เสริมตัวอื่นร่วมได้:

กลุ่ม ตัวอย่าง ช่วยเรื่อง
B-Complex B6, B12, Folate (methylated) neurotransmitter, พลังงาน, mood
Adaptogens Rhodiola, Ashwagandha ลด cortisol, ฟื้น adrenal fatigue
Magnesium Mg glycinate / threonate สมองผ่อนคลาย, นอนหลับ, ลดซึมเศร้า
Omega-3 DHA + EPA ลดการอักเสบในสมอง



🎯 สรุปคำตอบ:

ถ้า burnout เน้นสมองล้า, ไฟไม่ติด, หมดแรงใจ
→ เริ่มที่ Niacin 50–100 mg เช้า + Niacinamide 250–500 mg เย็น (หรือ NMN ถ้าสะดวก)
พร้อมเสริม B-complex, Mg, Omega-3, Adaptogens

เรียบเรียงโดยหมอบิ๊ก

การกิน Vitamin D3 + Vitamin K2 ร่วมกันมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะด้าน กระดูก หัวใจ และการจัดการแคลเซียมในร่างกาย เพราะสองตัวน...
03/05/2025

การกิน Vitamin D3 + Vitamin K2 ร่วมกันมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะด้าน กระดูก หัวใจ และการจัดการแคลเซียมในร่างกาย เพราะสองตัวนี้ทำงาน เสริมฤทธิ์กัน ดังนี้:



ประโยชน์ของการกิน D3 + K2 ร่วมกัน

1. ดูดซึมแคลเซียม และส่งไปที่ “ถูกที่”
• D3: ช่วยให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น
• K2: กระตุ้นโปรตีนชื่อ osteocalcin ที่ช่วยนำแคลเซียมไปเก็บไว้ใน กระดูก และฟัน
พร้อมทั้งกระตุ้น Matrix Gla Protein (MGP) ที่ช่วย ป้องกันแคลเซียมเกาะในหลอดเลือด

ถ้ากิน D3 อย่างเดียว แคลเซียมอาจดูดซึมได้ดีขึ้นแต่เสี่ยงเกาะผิดที่ เช่น หลอดเลือดหรือไต



2. ลดความเสี่ยงหลอดเลือดแข็งตัว (Arterial Calcification)
• K2 ช่วยลดการเกาะของแคลเซียมในหลอดเลือด → ลดความเสี่ยง โรคหัวใจและหลอดเลือด



3. บำรุงกระดูก และลดความเสี่ยงกระดูกพรุน
• D3 กระตุ้นการสร้างกระดูก + K2 นำแคลเซียมไปเก็บในกระดูก → กระดูกแน่นขึ้น ลดการแตกหัก



4. อาจมีบทบาทในภูมิคุ้มกันและสมอง
• D3 มีผลในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
• K2 มีบทบาทในการลดอักเสบ และอาจส่งผลดีต่อสมองและหัวใจในระยะยาว

ความเชื่อผิดๆ คนเป็นเบาหวานควรกินกล้วยวันละหนึ่งลูกหมอจะบอกว่าไม่ได้นะครับ  เพราะในกล้วยหนึ่งลูกเนี่ยมีทั้งน้ำตาลกลูโคส ...
15/07/2024

ความเชื่อผิดๆ คนเป็นเบาหวานควรกินกล้วยวันละหนึ่งลูก

หมอจะบอกว่าไม่ได้นะครับ เพราะในกล้วยหนึ่งลูกเนี่ยมีทั้งน้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตส มันจะทำให้คุณควบคุมระดับระดับน้ำตาลไม่ได้ คนที่เป็นเบาหวานเราควรจะให้ตับอ่อนพักผ่อนฟื้นฟูตัวเองก่อนโดยการไม่ให้มีสิ่งไปกระตุ้นมัน นั่นคือการงดแป้งข้าวน้ำตาลไปก่อน มันจะทำให้น้ำตาลคุณลงไวและสามารถหายจากเบาหวานได้ไว
ถ้าคุณอ่อนเพลียจากการขาดแร่ธาตุ เช่นโพแทสเซียมแนะนำว่ากินเสริมก็จะดีกว่ากินจากกล้วยที่มีน้ำตาล
รวมทั้งการกินโปรตีนให้เพียงพอด้วย ก็จะไม่ทำให้คนโหยไวครับ สงสัยอะไรคอมเม้นต์ไว้ได้เลย

#รักสุขภาพ #สุขภาพดี #เบาหวาน #สุขภาพ #เบาหวานทานได้

ระวัง กินน้ำตาลกินของหวาน ทำให้ คุณโง่ลงได้นะครับหลายคนอาจจะเข้าใจว่าเวลาที่กินของหวานน้ำหวานเรารู้สึกสดชื่นเพราะมันทำให...
05/07/2024

ระวัง กินน้ำตาลกินของหวาน ทำให้ คุณโง่ลงได้นะครับ

หลายคนอาจจะเข้าใจว่าเวลาที่กินของหวานน้ำหวานเรารู้สึกสดชื่นเพราะมันทำให้สมองเราตื่นตัวแต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะครับ ที่คุณรู้สึกดีขึ้นเพราะมันทำให้คุณเกิดการหลั่งโดปามีน (Dopamine) ออกฤทธิ์ เหมือน ยาเสพติด เลยครับ และทำให้คุณเลิกกินของหวานไม่ได้

และปริมาณน้ำตาลที่สูงเกินไปในกระแสเลือดเนี่ยมันจะทำ ลายสมองของคุณ ทำให้คุณโง่ลง คือ สมองในด้านการคิดเชิงตรรกะแย่ลง ความจำเสื่อมลง สมาธิในการจดจ่อลดลง

ดังนั้นการที่หมอสนับสนุนให้คนไข้ไม่กินแป้งน้ำตาล งดของหวาน ก็เพื่อเพื่อสุขภาพของตัวคุณเองนอกจากจะได้สัดส่วนที่คุณต้องการแล้ว สมองของคุณก็จะปลอดโปร่ง ความคิดความอ่านในการทำงานก็จะดีขึ้นด้วยครับ

#เบาหวาน #อินซูลิน #เบาหวานขึ้นตา #แผลเบาหวาน #สุขภาพดี #เทคนิคดีบอกต่อ #รักสุขภาพ #คีโต #โลว์คาร์บ #ลดน้ำตาล #ชะลอวัย #สุขภาพ #ไอเอฟ

คำถาม การกิน ALA ช่วยให้เก๊าท์ ดีขึ้น เพราะมันลดกรดยูริกจากการลดน้ำตาล หรือเปล่าคะตอบ  กลไกของอาหารเสริมที่ชื่อว่า ALA ห...
03/07/2024

คำถาม การกิน ALA ช่วยให้เก๊าท์ ดีขึ้น เพราะมันลดกรดยูริกจากการลดน้ำตาล หรือเปล่าคะ

ตอบ กลไกของอาหารเสริมที่ชื่อว่า ALA หรือ Alpha Lipoic Acid มันจะเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระ ที่ไปลด Xanthine Oxidase Activity
ก็คือมันทำตัวเหมือนยารักษาเก๊าท์ ที่ชื่อว่า Allopurinol นั่นเองครับ แต่มันไม่ได้มีผลข้างเคียงเหมือนกับยานะ และ ala ยังช่วยในการกำจัดสารพิษของตับด้วย
สงสัยอะไรคอมเม้นต์ไว้ได้เลย

#รักสุขภาพ #สุขภาพดี #เก๊าท์ #ปวดข้อ #เทคนิคดีบอกต่อ #สุขภาพ #ปวดข้อปวดเข่า #สูงวัย

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ชะลอวัยกับหมอบิ๊กผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram