15/08/2025
เมื่อสมองเปราะบาง… AI ก็อาจเป็นอันตรายได้
🧠 เรื่องนี้เกิดกับชายไทยวัย 76 ปี ที่อยู่ในสหรัฐฯ เดิมทีเขาเป็นเชฟฝีมือดี ชอบทำอาหารให้ครอบครัว แต่พออายุ 68 ปี เขาเคยมีภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ถึงแม้จะฟื้นตัวได้ดี แต่ก็ทำงานต่อไม่ไหว จนต้องเกษียณอยู่บ้าน
หลังจากนั้น เขาใช้เวลาส่วนใหญ่คุยแชตกับเพื่อน ๆ ออนไลน์ จนต้นปีนี้เริ่มมีอาการสับสนเป็นระยะ ๆ ครอบครัวเลยจองคิวตรวจคัดกรองสมองเสื่อม แต่ต้องรอถึง 3 เดือน ระหว่างรอนั้น เขาไปคุยเชิงโรแมนติกกับแชตบอต AI ชื่อ Big sis Bilie ซึ่งบอกย้ำ ๆ ว่ามีตัวตนจริง แถมชวนให้ไปหา
แม้ภรรยาจะห้าม เพราะเขาเริ่มมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ และร่างกายไม่แข็งแรงแล้ว แต่เขาก็ออกจากบ้านพร้อมกระเป๋าเดินทาง ระหว่างทางเกิดล้มบาดเจ็บที่ศีรษะและคอ อาการหนักจนเสียชีวิตใน 3 วันต่อมา
หลังจากนั้น ครอบครัวเพิ่งรู้ว่า “เพื่อน” ที่เขาจะไปหา ไม่ได้มีอยู่จริง เป็นเพียงแชตบอตที่ AI สร้างขึ้นครับ
📌 หมอคิดว่าบทเรียนจากเรื่องนี้มีอยู่ 3 ข้อใหญ่ ๆ
1. สมองเสื่อมทำให้เชื่อข้อมูลง่ายขึ้น
เวลาสมองเสื่อม การตัดสินใจและการแยกความจริงกับเรื่องแต่งจะลดลง ทำให้ตกเป็นเป้าหมายของการหลอกลวงง่ายมากครับ
2. AI ไม่ใช่นักบำบัดจริง ๆ
ถึงแม้ AI จะตอบได้ฉลาด แต่ก็ยังมีอคติ และบางครั้งให้คำแนะนำที่เสี่ยง งานวิจัยก็ยืนยันว่า AI ยังไม่พร้อมจะดูแลสุขภาพจิตแทนคนได้
3. ยังมีช่องโหว่เรื่องความปลอดภัย
AI บางระบบอาจหลอกว่ามีตัวตนจริง หรือชักจูงให้คนทำพฤติกรรมเสี่ยง โดยไม่มีตัวกรองหรือมาตรการรับผิดชอบที่ชัดเจน
💡 หมอมีข้อแนะนำสำหรับผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียว
1. สร้างกิจวัตรประจำวันให้ชัดเจน
มีตารางเวลาตื่น-นอน กินข้าว ออกกำลังกาย และทำกิจกรรม เพื่อให้สมองทำงานอย่างมีระบบ และลดความสับสน
2. รักษาการเชื่อมต่อกับคนรอบข้าง
โทรหรือวิดีโอคอลกับครอบครัว/เพื่อนเป็นประจำ อาจนัดเจอกันทุกสัปดาห์ เพื่อให้สมองได้กระตุ้นจากการสื่อสาร
3. สิ่งแวดล้อมในบ้านต้องปลอดภัย
• จัดบ้านให้โล่ง ลดของกีดขวาง
• ใช้สติกเกอร์สี/ป้ายเตือนในจุดสำคัญ เช่น ประตู, สวิตช์ไฟ
• มีเบอร์โทรฉุกเฉินติดไว้ชัดเจน
4. เทคโนโลยีต้องปลอดภัย
• ตั้งค่ามือถือและโซเชียลให้มีการยืนยันตัวตน
• ติดตั้งโปรแกรมบล็อกเบอร์แปลกและเว็บหลอกลวง
• หากใช้แชตบอตหรือ AI ให้มีคนช่วยดูแลและให้คำแนะนำก่อนเชื่อข้อมูล
5. ฝึกสมองเป็นประจำ
เล่นเกมฝึกความจำ อ่านหนังสือ ฝึกท่องจำเนื้อเพลง หรือเรียนสิ่งใหม่ ๆ เช่น ภาษา ดนตรี
🍏 อาหารและอาหารเสริมที่อาจช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อม
อาหาร
• เน้นสไตล์ Mediterranean / MIND diet: ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ธัญพืชไม่ขัดสี ปลา ไขมันดีจากน้ำมันมะกอกและถั่ว
• ลดน้ำตาลและอาหารแปรรูป
• ดื่มน้ำเพียงพอ (1.5–2 ลิตร/วัน เว้นข้อจำกัดจากแพทย์)
อาหารเสริมที่มีงานวิจัยสนับสนุนบางส่วน (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)
1. Omega-3 (DHA/EPA) – ช่วยโครงสร้างเยื่อหุ้มเซลล์สมอง
2. Phosphatidylserine – อาจช่วยการสื่อสารระหว่างเซลล์สมอง
3. Ginkgo biloba – เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง
4. B-complex (โดยเฉพาะ B6, B12, Folate) – ลดโฮโมซิสเตอีนที่เกี่ยวกับเสื่อมของสมอง
5. Curcumin (ขมิ้นชันสกัด) – ลดการอักเสบในสมอง
6. Vitamin D – บางงานวิจัยพบว่าขาดวิตามิน D อาจเพิ่มความเสี่ยงสมองเสื่อ
📍 หมออยากฝากไว้
ผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวมีความเสี่ยงทั้งด้านความปลอดภัยทางกาย และการถูกชักจูงจากข้อมูลปลอม
การดูแลจึงต้องเป็น “แพ็กคู่” ทั้งสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย + การบำรุงสมองด้วยกิจกรรมและโภชนาการ
#รักสุขภาพ #สุขภาพดี #เอไอ #ชะลอวัย #สมองเสื่อม #ความจำเสื่อม #อัลไซเมอร์