คลีนิกฟื้นฟูดวงตา

คลีนิกฟื้นฟูดวงตา ดีคอนแทค วิตามินเสริมดวงตา สดใส

�ขจัด � ทุกปัญหาเรื่องดวงตาที่ได้ผลจริง

✔วุ้นในตาเสื่อม ✔ต้อเนื้อ ✔ต้อกระจก ✔ต้อลม

✔ต้อหิน ✔จอประสาทตาเสื่อม✔สายตาฝ้าฟาง

✔ตามัว✔เคืองคันแสบ✔กลางคืนมองไม่ชัด

✔ตาแห้ง✔เยื่อบุตาอักเสบ✔มองไม่ชัด

�สนใจสอบถาม/ราคา/สั่งซื้อ ✔✔✔
�สนใจสอบถาม/ราคา/สั่งซื้อ ✔✔✔
โทร. 084 6592361
� LineID : https://line.me/R/ti/p/%40sfc5387s

ดอกสวย
15/03/2023

ดอกสวย

น้ำอ้อย กระเจียบ เสาวรส สดๆ
15/06/2020

น้ำอ้อย กระเจียบ เสาวรส สดๆ

น้ำอ้อน เสาวรส แท้ สละรอยแก้ว พร้อมจำหน่ายครับ สนใจทักมา...
09/06/2020

น้ำอ้อน เสาวรส แท้ สละรอยแก้ว พร้อมจำหน่ายครับ สนใจทักมา...

"Heatstoke" (ฮีทสโตรก) หรือ "โรคลมแดด" เป็นอันตรายที่มาพร้อมกับฤดูร้อน ที่เราต้องเตรียมตัวและป้องกัน เพราะผลของมันร้ายแร...
22/04/2019

"Heatstoke" (ฮีทสโตรก) หรือ "โรคลมแดด" เป็นอันตรายที่มาพร้อมกับฤดูร้อน ที่เราต้องเตรียมตัวและป้องกัน เพราะผลของมันร้ายแรงถึงกับเสียชีวิตได้เลย

สาเหตุของ "โรคลมแดด" มาจากการที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวกับความร้อนที่เกิดขึ้นได้ จนทำให้ในร่างกายมีความร้อนสะสมเพิ่มขึ้น ร่วมกับการขาดน้ำและเกลือแร่ สร้างความเสียหายต่ออวัยวะภายในทุกส่วนอย่างรุนแรง

คนที่เสี่ยงกับ โรคลมแดด ส่วนใหญ่จะเป็น นักกีฬาที่ฝึกซ้อมหรือเล่นกีฬากลางแจ้ง หรือ ทหารเกณฑ์ที่ฝึกอยู่กลางแดดเป็นเวลานานๆ

อาการของ โรคลมแดด จะรู้สึกปวดศีรษะ, เวียนหัว, หน้ามืด, ไม่มีเหงื่อออกแต่รู้สึกร้อนมาก, เริ่มมีตะคริวตามกล้ามเนื้อ, คลื่นไส้อาเจียน, อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นตลอดแม้ว่าจะพัก, หายใจเร็ว จนถึงมีอาการชักเกร็ง

วิธีป้องกัน ไม่ให้เกิดอาการ Heat Stroke

- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ให้ดื่มน้ำก่อนออกกำลัง 700 ml ก่อนออกกำลัง 2 ชั่วโมง และพักดื่มน้ำประมาณ 250 ml ทุก 20 นาที แม้ว่าจะไม่รู้สึกกระหายก็ตาม

- หลีกเลี่ยงอากาศร้อน แนะนำให้เลือกเวลาออกกำลังกายตอน เช้า หรือเย็น

- ไม่ออกกำลังกายหักโหม ควร warm up ก่อนเริ่ม และ Cool down หลังออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ในช่วงเวลาที่อากาศร้อนมาก

- สวมเสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี

20/04/2019
⭐️ผลิตภัณฑ์ดีคอนแทค Dcontact ⭐️เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการของดวงตา ดังนั้น☘️ผู้เป็นเยื่อบุดวงตาอักเสบ☘️ผู้ที่เป็นต้อกระจก, ...
05/03/2019

⭐️ผลิตภัณฑ์ดีคอนแทค Dcontact ⭐️
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการของดวงตา ดังนั้น

☘️ผู้เป็นเยื่อบุดวงตาอักเสบ
☘️ผู้ที่เป็นต้อกระจก, ต้อหิน, ต้อเนื้อ, ต้อลม
☘️ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมากๆ ท่านที่มีอุปสรรคจอประสาทตา
☘️วุ้นในตาเสื่อมซึ่งเป็นเหตุให้ความสามารถในการมองเห็นลดลง
☘️ท่านที่มีสภาพตาสั้นเทียม,ตายาว,สายตาเอียง
☘️ผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์มาเป็นระยะเวลานาน
☘️ท่านที่มีจอสายตาแปรปรวนสภาพการณ์ที่เกิดจากโรคเบาหวาน
☘️ผู้ที่ใช้ คอมพิวเตอร์ เป็นเวลานาน
☘️ผู้ที่ขับรถยนต์เหรือผู้ปฏิบัติงานผู้ที่ทำหน้าที่ผลัดกลางคืน
#สนใจโทรมาปรึกษาดวงตาที่ คลีนกฟื้นฟูดวงตา 084-6592361

หรือคลิ๊กมาคุยกัน ➡️Line@
https://line.me/R/ti/p/%40sfc5387s

หรือ web site :
http://dcontactpaisan.lnwshop.com/

หรือรายละเอียดเพิ่มเติม
https://fb.com/canvas_doc/326192821167786

ขอบคุณจ้า

เมื่อรู้ว่ามีอาการ แสบตา เคืองตา โดนลม โดนแสงเยอะๆไม่ได้ ปวดแสบตาจนน้ำตาไหลให้รู้ไว้เลยว่า มันเป็นอาการของ "ตาแห้ง" หากป...
02/02/2019

เมื่อรู้ว่ามีอาการ แสบตา เคืองตา โดนลม โดนแสงเยอะๆไม่ได้ ปวดแสบตาจนน้ำตาไหล
ให้รู้ไว้เลยว่า มันเป็นอาการของ "ตาแห้ง"
หากปล่อยไว้นานๆไปจะเกิดการอักเสบ
กลายเป็นต้อลม และต้อเนื้อ ได้ครับ
#อย่า!!! ปล่อยไว้นาน เพราะดวงตาของคุณอาจจะมีความเสี่ยงที่จะได้กล่าวไว้ข้างบนแน่นอนครับ

#สนใจโทรมาปรึกษาดวงตาที่ คลีนกฟื้นฟูดวงตา 084-6592361

หรือคลิ๊กมาคุยกัน ➡️Line@
https://line.me/R/ti/p/%40sfc5387s

หรือ web site :
http://dcontactpaisan.lnwshop.com/

หรือรายละเอียดเพิ่มเติม
https://fb.com/canvas_doc/326192821167786

ขอบคุณจ้า

5 ข้อเสีย หากลูกติดแท็บเล็ต ติดมือถือ1.ร่างกายไม่พัฒนาตามวัย:ถ้าลูกติดแท็บเล็ตลูกจะนั่งดูนิ่งๆในท่าเดิมไม่รู้จักเมื่อยหร...
01/02/2019

5 ข้อเสีย หากลูกติดแท็บเล็ต ติดมือถือ

1.ร่างกายไม่พัฒนาตามวัย:
ถ้าลูกติดแท็บเล็ตลูกจะนั่งดูนิ่งๆในท่าเดิมไม่รู้จักเมื่อยหรือขยับไปทำกิจกรรมอื่นๆเลย ซึ่งเด็กวัย 1-5 ขวบเป็นวัยที่ต้องอยู่ไม่นิ่ง แขนขาจะขยับสำรวจโลกตลอดเวลาแต่ถ้าต้องมานั่งดูแท็บเล็ต จะมีปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตของร่างกายแน่นอน เช่น ร่างกายไม่แข็งแรง เคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่ว เหนื่อยง่าย ป่วยบ่อยเป็นต้น ดังนั้นไม่ควรให้ลูกนั่งหน้าจอดูทีวีหรือแท็บเล็ต ควรพาลูกทำกิจกรรมอื่นๆจะดีกว่าค่ะ

2.ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หงุดหงิดง่าย:
เด็กที่ติดทีวี หรือ แท็บเล็ตจะมีอาการรอไม่ได้ ทนไม่ไหว ใจร้อน ควบคุมตัวเองไม่อยู่ หุนหันพลันแล่น เป็นเด็กขี้หงุดหงิด ก้าวร้าว เพราะหน้าจอที่ลูกดูบ่อยๆเคลื่อนไหวรวดเร็ว เป็นดังใจตามที่ลูกต้องการ จึงทำให้ลูกเป็นเด็กไม่มีความอดทน รอคอยไม่เป็นนั่นเองค่ะ

3.เข้าสังคมปกติได้ยาก:
ถ้าลูกติดอินเตอร์เน็ตมากๆจะทำให้เข้าสังคมไม่ได้ เพราะไม่ค่อยได้พบเจอเพื่อนบ้าน ไม่มีเพื่อนในหมู่บ้าน ทำให้ขาดการปรับตัวเมื่อต้องเข้าสู่สังคม ปรับตัวเข้าหาผู้ใหญ่ไม่เป็น การใช้ชีวิตพื้นฐานในการอยู่ในสังคมก็จะแย่ลง และอยู่กับคนอื่นไม่ได้ในที่สุดค่ะ

4.อาจทำให้เป็นเด็กอ้วน:
เด็กที่ติดทีวีหรือแท็บเล็ตมักจะอ้วนเกินไป เวลาจะกินข้าวก็จะนั่งดูแท็บเล็ตหรือทีวีไปด้วย จึงทำให้การกินอาหารเพลิดเพลินกินไปได้เรื่อยๆ มีพ่อแม่คอยป้อนให้กิน หรือเด็กบางคนก็ไม่ยอมนั่งกินข้าวดีๆ จะกินแต่ขนมที่กินได้ง่ายๆไม่เสียเวลาในการดู สิ่งเหล่านี้จึงทำให้เด็กอ้วนเกินไปนั่นเองค่ะ

5.ขาดสมาธิ:
เด็กจะไม่มีใจจดจ่อกับกิจกรรมอะไรเลย ที่ต้องใช้สมาธิหรือสมองในการแก้ปัญหา เพราะเคยเจอแต่หน้าจอที่แสดงสีสันสดใส เคลื่อนไหวได้รวดเร็วทันใจ ถ้าต้องทำกิจกรรมที่ต้องใช้เวลาคิดเด็กจะทำไมได้ และจะหงุดหงิดง่ายอีกด้วย

การใช้อุปกรณ์เหล่านี้กับลูกมีทั้งข้อดีและข้อเสีย พ่อแม่ที่จำเป็นต้องใช้สิ่งเหล่านี้กับลูกควรจะจำกัดเวลาการเล่นของลูกให้เล่นได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน และต้องใช้กับเด็กที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 3 ปีขึ้นไป หรือ ควรจะนั่งเล่นนั่งดูด้วย สอน และชวนพูดคุยกันไปด้วย ให้ลูกได้สื่อสาร โต้ตอบ ได้ทำกิจกรรมอื่นๆร่วมกันกับครอบครัวและคนในสังคม จึงจะเป็นสิ่งที่ดีต่ออนาคตของเด็กมากกว่าค่ะ

#สนใจโทรมาปรึกษาดวงตาที่ คลีนกฟื้นฟูดวงตา 084-6592361

หรือคลิ๊กมาคุยกัน ➡️Line@
https://line.me/R/ti/p/%40sfc5387s

หรือ web site :
http://dcontactpaisan.lnwshop.com/

หรือรายละเอียดเพิ่มเติม
https://fb.com/canvas_doc/326192821167786

ขอบคุณจ้า

แพ้แสง...แม้แต่แสงบางๆในยามเช้าก็ทำให้แสบตาได้ ใครมีอาการแบบนี้บ้างครับ....................................................
01/02/2019

แพ้แสง...แม้แต่แสงบางๆในยามเช้าก็ทำให้แสบตาได้ ใครมีอาการแบบนี้บ้างครับ......................................................
#ดวงตาแพ้แสง เกิดได้ทั้งในภาวะปกติ หรือมีโรคบางอย่างในตา เช่น กระจกตาอักเสบ ม่านตาอักเสบ ต้อหิน ต้อเนื้อ ต้อกระจก หรือมีการอักเสบในส่วนลึกของดวงตา
หากเป็นการแพ้แสงในภาวะปกติที่ไม่มีโรคอะไร เบื้องต้นแนะนำ ให้ปรับร่างกายด้วยการรับประทานอาหารครบหมู่ ออกกำลังและพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ทำจิตใจให้สบาย และอาจสวมแว่นป้องกันแสง หากมีอาการตาแห้งแสบตาร่วมด้วยใช้น้ำตาเทียมในรูปเจลก่อนนอน แต่ถ้าปรับตัวแล้วทุกอย่างอาการยังคงเดิม แนะนำให้ไปพบจักษุแพทย์ค่ะรับการตรวจอย่างละเอียดและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
#สนใจโทรมาปรึกษาดวงตาที่ คลีนกฟื้นฟูดวงตา 084-6592361

หรือคลิ๊กมาคุยกัน ➡️Line@
https://line.me/R/ti/p/%40sfc5387s

หรือ web site :
http://dcontactpaisan.lnwshop.com/

หรือรายละเอียดเพิ่มเติม
https://fb.com/canvas_doc/326192821167786

ขอบคุณจ้า

💡สิ่งที่หลายคนอยากรู้.. ทำไม เราจึงป่วย..??👇คนที่ประเดี๋ยวก็ป่วยเป็นนั่นเป็นนี่บ่อยครั้ง เป็นสัญญานเตือนว่าคุณกำลังมีสุข...
25/01/2019

💡สิ่งที่หลายคนอยากรู้.. ทำไม เราจึงป่วย..??

👇คนที่ประเดี๋ยวก็ป่วยเป็นนั่นเป็นนี่บ่อยครั้ง เป็นสัญญานเตือนว่าคุณกำลังมีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ ลองสังเกตตัวคุณดูว่ามาจากการที่คุณละเลยการดูแลสุขภาพหรือเปล่า เพราะถ้าเราทานอาหารไม่ดี ไม่ออกกำลังกาย เครียดจัด พักผ่อนน้อย

💯โรคภัยก็ถามหาได้ง่ายๆ หรืออีกสาเหตุหนึ่งที่อาจเป็นไปได้ก็คือ เพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ ซึ่งก็เป็นผลมาจากการที่เราไม่ดูแลสุขภาพด้วย เพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายก็เปรียบเสมือนเป็นปราการด่านแรกสำหรับต้านโรคภัยทั้งหลาย

👉ระบบภูมิคุ้มกันเสมือนทหารต้านโรค

✅ความจริงแล้วเราอยู่กับเชื้อโรครอบตัวมากมายตลอดเวลา และในแต่ละวันเราก็อาจสัมผัสกับเชื้อโรคเยอะแยะ แต่ทำไมเราถึงไม่เจ็บป่วย หรือนานๆ จะเจ็บป่วยเสียที

✅ก็เพราะร่างกายเรามีระบบภูมิคุ้มกันเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เปรียบเสมือนทหารคอยจัดการปราบเชื้อโรค ซึ่งถ้าทหารหาญเราแข็งแรง เชื้อโรคก็ยากที่จะกล้ำกรายเข้ามา แต่หากช่วงใดร่างกายเราอ่อนแอ ก็จะส่งผลไปที่ระบบภูมิคุ้มกันด้วย เป็นเหตุให้บางครั้งเราก็ป่วยเป็นนั่นเป็นนี่ได้

📝ทำไมภูมิคุ้มกันถึงอ่อนแอ


1. กรรมพันธุ์
ระบบภูมิคุ้มกันเป็นสิ่งที่ได้รับการถ่ายทอดจากพ่อแม่ หากพ่อแม่มีร่างกายแข็งแรง ลูกก็จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีตาม แต่แม้ธรรมชาติร่างกายจะป่วยง่าย เราก็สามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นได้ด้วยการดูแลสุขภาพ เช่น การทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือการออกกำลังกาย


2. พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ
จากคนที่มีร่างกายแข็งแรงก็กลายเป็นอ่อนแอได้ หากไม่ใส่ใจสุขภาพ อย่างเช่น ทานอาหารไม่ครบห้าหมู่ ไม่ทานผักผลไม้ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือร่างกายสะสมความเครียด โดยเฉพาะเจ้าความเครียดนี่แหละ ที่เป็นตัวการร้ายคอยกัดกินให้ระบบต่างๆ ในร่างกายเรารวน อีกทั้งยังเป็นบ่อเกิดโรคร้ายที่นึกไม่ถึงได้ด้วย



ความร้ายกาจของภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

ภูมิคุ้มกันอ่อนแอไม่ได้ทำให้คุณป่วยเป็นแค่หวัดหรือภูมิแพ้ได้เท่านั้น แต่เปรียบเสมือนคุณเปิดประตูบ้านต้อนรับเชื้อโรคตัวร้ายอื่นๆ ให้มีโอกาสแวะเวียนเข้ามาได้ อาทิ โรคมะเร็งต่างๆ หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) ที่อันตรายถึงชีวิต ฉะนั้นใครชอบป่วยบ่อยๆ รีบหันมาดูแลสุขภาพดีกว่า

ก่อนจะเจ็บป่วยมาดูแลตัวเองกันเถอะ

เราสามารถป้องกันร่างกายให้ห่างไกลโรคได้ด้วยการดูแลตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะป่วยบ่อยเพราะร่างกายอ่อนแอจากกรรมพันธุ์ หรือเพราะพฤติกรรม ก็สามารถมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้เช่นกัน โดยปฏิบัติดังนี้


1. ทานอาหารต้านโรค
นอกเหนือจากการทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ควรเสริมด้วยอาหารที่ช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งโดยมากจะอยู่ในผักผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี อาทิ ผักใบเขียวจัดหรือสีเหลืองส้ม เห็ดต่างๆ และแร่ธาตุซีลีเนียม หรือสังกะสี ที่พบในเนื้อสัตว์ อาหารทะเล นม หรือถั่ว เป็นต้น


2. ออกกำลังกาย
เพื่อช่วยกระตุ้นให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น แล้วทำให้เม็ดเลือดขาวในเนื้อเยื่อต่างๆ แข็งแรงเพื่อจัดการกับเชื้อโรคได้ง่าย อีกทั้งร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมาหลังการออกกำลังกายเพื่อช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดและความวิตกกังวลซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคภัยได้ โดยเราควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 30 นาที 3-4 วันต่อสัปดาห์


3. พักผ่อนให้เพียงพอ
ควรนอนหลับให้สนิทและให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพราะการเข้านอนเร็วจะช่วยให้ต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมน DHEA (สารตั้งต้นของฮอร์โมนเพศหญิงและชายที่ทำหน้าที่ช่วยต้านความเครียดและกระตุ้นภูมิต้านทาน) ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


4. ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง
เราสามารถฝึกผ่อนคลายจิตใจตนเองได้ด้วยการกำหนดลมหายใจ หรือนั่งสมาธิ เป็นต้น เพราะมีงานวิจัยออกมาว่าการนั่งสมาธิสามารถช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน DHEA ซึ่งนอกเหนือจากมีหน้าที่สำคัญช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วยังมีบทบาทในการต้านโรคมะเร็งอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ควรปฏิบัติควบคู่กันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดีขึ้น

แต่สำหรับผู้ที่ทานผักยากหรือไม่มั่นใจว่าทานผักผลไม้ได้เต็มที่ การทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมภูมิคุ้มกันก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ อย่างเช่นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมภูมิคุ้มกันที่สกัดจากมังคุด

งาดำ ถั่วผง ฝรั่งผง และใบบัวบก ผลงานวิจัยจาก ศูนย์วิจัยและเทคโนโลยีชีวการเเพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กระตุ้นภูมิต้านทานเพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ

ฟื้นฟูดวงตา ระดับเซลล์ป้องกัน จอตาเสื่อม ต้อกระจก ต้อหิน ปรึกษาฟรี 0846592361

Cr. ข้อมูลและภาพ รพ.กรุงเทพ✏

ที่อยู่

242 ถ. สุวินทวงศ์ แขวง แสนแสบ เขต มีนบุรี
Bangkok
10510

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ คลีนิกฟื้นฟูดวงตาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram