เปิดทำการกี่โมง?

จันทร์ 09:00 - 19:00 พุธ 08:30 - 17:30

Dr.Borisut Sanmano, 283/1 ถนน สุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตบางเขน, Thailand, Bangkok (2025)

07/12/2025

ทำความเข้าใจรอยแตกลายสีขาว + ทำไมรักษายาก

🌟 รอยแตกลายสีขาว (Striae Alba)
ไม่ใช่แค่ "รอยแตก" แต่คือการที่โครงสร้างผิว ถูกดึงจนขาด ทำให้

คอลลาเจน และอิลาสตินลดลง

ผิวบางลง

สีผิวไม่สม่ำเสมอ

เลยไม่น่าแปลกใจที่
ครีม/น้ำมัน/ทายา มักให้ผลน้อย
และใช้เวลานานกว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลง

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดง่ายขึ้น

ตั้งครรภ์

โตเร็ว/ช่วงวัยรุ่น

น้ำหนักขึ้นลงเร็ว

ฮอร์โมน/สเตียรอยด์

💡 เวลาทำก็มีผล
รอยแดง (striae rubra) รักษาง่ายกว่า
แต่พอเข้าสู่ระยะสีขาว
ผิวตอบสนอง “น้อยลง” ประมาณ 30–50%

เพราะฉะนั้น
เป้าหมายของการรักษา striae alba ไม่ใช่ให้หาย 100%
แต่คือ

สีผิวกลับมาใกล้เคียงมากขึ้น

เนียนขึ้น

“ลายแตก” เล็กลง

ใส่เสื้อผ้ามั่นใจขึ้น

งานวิจัยปี 2024–2025 ระบุว่า
การรักษาที่ได้ผลดีที่สุด มักเป็น การทำหลายเทคนิคร่วมกัน (combination therapy)
มากกว่าการทำวิธีเดียว

🌟 ที่ PureAndBright เราใช้ Refine 1550 + PRP Re-Structure Program
ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ
striae alba ในผิวไทย–เอเชีย

เน้นผลลัพธ์ที่

เห็นความต่างจริง

ลด downtime

ปลอดภัยกับเม็ดสีผิว

โพสต์หน้า หมอจะมาเล่าให้ฟังว่า
Refine 1550 + PRP ทำงานยังไง? และคาดหวังผลลัพธ์อะไรได้บ้าง

—

📲 อยากให้หมอดูว่า รอยแตกลายของเราแก้ได้แค่ไหน?
ส่งรูป + ประวัติการรักษามาได้เลยค่ะ

Line OA:
โทร: 089-171-8100 (จ–ส 09.00–18.30)

#ผิวดีกับหมอเก๋ #รีเซ็ตผิวกับหมอเก๋

06/12/2025

🌟 เลเซอร์รักษาด่างขาวก้าวหน้าไปไกลมากในปี 2024–2025: ไม่ใช่แค่ “กระตุ้นสี” แต่เป็นการ “เปิดระบบสร้างเม็ดสีใหม่”

ในอดีต การรักษาด่างขาวต้องใช้เวลาเป็นปี และได้ผลไม่สม่ำเสมอ
แต่การวิจัยล่าสุดชี้ว่า

“การใช้เลเซอร์แบบผสม (Combination) สามารถเร่งการสร้างเม็ดสี และแก้เคสที่เคยหยุดตอบสนองได้”

ซึ่งเป็นโอกาสใหม่สำหรับผู้ป่วยที่เคยรักษาไม่เห็นผล หรือเข้าสู่ระยะ plateau

🔬 ทำไมการผสมเลเซอร์ถึงได้ผลดีขึ้น?

การรักษาด่างขาวยุคใหม่ไม่ได้ทำเพียง “ฉายแสงกระตุ้นเม็ดสี”
แต่เป็นการ จัดการไมโครสภาพแวดล้อมของผิว (microenvironment)
เพื่อให้เม็ดสี "เกิด–เคลื่อนที่–อยู่รอด" ได้ดีขึ้น
โดยเฉพาะบริเวณที่รักษายาก เช่น นิ้วมือ ใบหน้า หรือบริเวณทนยา

💡 1) Excimer + Erbium: เร่งผลลัพธ์ ลดระยะเวลา

งานวิจัยปี 2024 ที่ศึกษา 104 คนไข้ พบว่า
การใช้ 308 nm Excimer + 2940 nm Er:YAG
ให้ผล repigmentation สูงกว่า excimer อย่างเดียวอย่างมีนัยสำคัญ

เห็นผลเร็วภายใน 10–12 สัปดาห์

อัตรา repigmentation เกิน 75% ในหลายตำแหน่ง

ปลอดภัยในเด็ก

หมายความว่า “ไม่ต้องรอเป็นปีเหมือนเดิม”

💡 2) Fractional Laser + PRP: จัดการเคสที่เคยรักษาไม่ขึ้น

การผสม Fractional laser (CO2 หรือ Er:YAG) + PRP
ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดสี กระตุ้นการซ่อมแซม และลดอักเสบ

Meta-analysis ปี 2025 ระบุว่า

“ได้ผลดีกว่าการรักษาเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
และไม่เพิ่มผลข้างเคียง”

หลายการทดลองรายงาน อัตราการตอบสนองใกล้ 100% ในบริเวณใบหน้า

💡 3) ความยาวคลื่นใหม่: โฟกัสลึกกว่า ตอบสนองดีกว่า

เลเซอร์รุ่นใหม่ เช่น

Ti:Sapphire 311 nm

UVA1 (355 nm)

แสดงประสิทธิภาพ ใกล้เคียง excimer
แต่มีข้อดีด้าน การทะลุชั้นผิวลึกกว่า
ซึ่งอาจช่วยในเคสที่ดื้อการรักษา

💡 4) ผสานยา–โมเลกุล–เลเซอร์: เทรนด์ใหญ่ของการรักษา

การทดลองใหม่กำลังจับคู่เลเซอร์กับ

JAK inhibitors เช่น ruxolitinib

afamelanotide

anifrolumab

nanoparticle drug delivery

เป้าหมายไม่ใช่แค่เพิ่มสี
แต่เป็นการ ปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน + กระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิดของเม็ดสี

พูดง่าย ๆ คือ

“ไม่ได้แก้อาการ แต่แก้ต้นเหตุ”

💡 แล้วคนไข้ควรเข้าใจอะไรจากงานวิจัยเหล่านี้?

ด่างขาวรักษาได้ และผลดีขึ้นมากในยุคนี้

การผสมเลเซอร์เหมาะกับเคสค้างคา หรือ plateau

ใบหน้าและตำแหน่งที่มีรากเม็ดสีเยอะ ตอบสนองได้ดี

เด็กก็สามารถรักษาได้อย่างปลอดภัย

ต้องทำเป็นคอร์สต่อเนื่อง ไม่ใช่ครั้งเดียวจบ

การเลือกแพทย์ที่เข้าใจเลเซอร์หลายชนิดสำคัญมาก

🧾 References (Vancouver Style)

PMC. PRP plus fractional laser meta-analysis. 2025.

PMC. Excimer and Erbium laser combination outcomes. 2024.

Dermatology Times. Dual laser solution for vitiligo. 2024.

ClinicalTrials.gov. Fractional Er-YAG studies. 2025.

Wiley Online Library. Combination therapies efficacy. 2025.

Semantic Scholar. UVA1 and advanced wavelengths. 2024.

ScienceDirect. Emerging combination therapies. 2025.

💬 หมอเก๋ชวนคุย

การรักษาด่างขาวทุกวันนี้ “ไม่จำเป็นต้องรอปี”
และไม่จำเป็นต้องยอมรับว่า “รักษาไม่หาย” อีกต่อไป

เทคโนโลยีใหม่ ๆ สามารถออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล
ให้เหมาะกับบริเวณ อายุ และพฤติกรรมการตอบสนองของแต่ละคน

ถ้าอยากรู้ว่า เคสของคุณรักษาแบบไหนได้ผลที่สุด
หรือเคยรักษามาแล้วไม่ขึ้นเลย

👉 ส่งรูป + ประวัติการรักษามาให้หมอเก๋ดูได้ค่ะ
หมอประเมินให้แบบตรงไปตรงมา ไม่เสียค่าใช้จ่าย

🏷️

#ผิวดีกับหมอเก๋

05/12/2025

✨ เคสจริง! รักษารอยแตกลายขาว แบบไม่ต้องพักฟื้น
“แค่รอยเล็กๆ…แต่ทำเราไม่กล้าใส่อะไรเลย”
Refine Laser 1550 nm เจาะลึก ฟื้นฟูผิวตรงจุด ✅
ไม่ลอกผิว / ไม่แสบ / ไม่ต้องหยุดใช้ชีวิต!

📍 PureAndBright Laser Center (MRT สุทธิสาร)
📲 ปรึกษาฟรี > https://lin.ee/iobQdN4

📞 089-171-8100

#เลเซอร์แตกลาย #รอยแตกลายสีขาว
#รอยแตกลาย #รักษาแผลเป็น #หมอเก๋
#ผิวดีกับหมอเก๋ #ผิวเรียบเนียน

05/12/2025

🌟 2025: ปีที่การรักษา HIV ขยับเข้าใกล้คำว่า “รักษาหายขาด” มากที่สุดในประวัติศาสตร์

ความหวังในการ “รักษา HIV ให้หาย – ไม่ใช่แค่ควบคุม” กำลังเป็นจริงมากขึ้นในปี 2025
ด้วยความก้าวหน้าของ การตัดต่อยีน, วัคซีนภูมิคุ้มกันเฉพาะบุคคล และยาฉีดแบบออกฤทธิ์ยาว
ซึ่งเปลี่ยนทั้งแนวทางการรักษาและการป้องกันไปอย่างสิ้นเชิง

🔬 ยีนบำบัด: ปฏิวัติการรักษา HIV

หนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกจับตามากที่สุดคือ
EBT-101 ยีนบำบัดที่ใช้ CRISPR ในการ “ตัดชิ้นส่วน DNA ของ HIV” ออกจากเซลล์มนุษย์
โดยไม่ทำลายยีนอื่น

ขณะนี้อยู่ในการทดลองทางคลินิก

คาดว่าจะเสร็จสิ้นช่วงต้นปี 2025

และมีเป้าหมายเพื่อมอบ “การรักษาแบบถาวร”

หากได้ผล นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ ผู้ติดเชื้อไม่ต้องพึ่งยาต้านไวรัสตลอดชีวิต

🧬 ภูมิคุ้มกันบำบัด: ควบคุมไวรัส “โดยไม่ต้องกินยา”

งานวิจัยขนาดเล็กในปี 2025 รายงานว่า
ผู้เข้าร่วมบางรายสามารถ ควบคุมไวรัสได้เอง แม้หยุดยา
หลังได้รับการปรับภูมิคุ้มกันแบบเฉพาะบุคคล

นี่เรียกว่า functional cure
คือ “มีเชื้ออยู่ แต่เชื้อไม่กลับมาเป็นโรค”
และช่วยลดการกินยาและผลข้างเคียงระยะยาว

💉 ยาออกฤทธิ์ยาว: เปลี่ยนชีวิตผู้ติดเชื้อทั่วโลก

ยาต้านไวรัสรุ่นใหม่ เช่น
lenacapavir + islatravir แบบกินสัปดาห์ละครั้ง
สามารถกดเชื้อได้ยาวนาน สูงสุด 2 ปี
ซึ่งช่วยลดปัญหา “ลืมยา – ขาดยา – ผลข้างเคียงสะสม”

นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO)
เพิ่งแนะนำ lenacapavir แบบฉีดทุก 6 เดือน
เป็น “การป้องกันการติดเชื้อแบบใหม่ (PrEP)”

ถือเป็นก้าวสำคัญของการควบคุมการระบาดทั่วโลก

👶 เคสเด็กติดเชื้อตั้งแต่ในครรภ์: รักษาได้ตั้งแต่ชีวิตเริ่มต้น

เด็กที่ได้รับยาตั้งแต่แรกเกิด
สามารถเข้าสู่ภาวะ remission โดยไม่ต้องใช้ยา 48 สัปดาห์

สิ่งนี้บอกเราว่า
“เวลาที่เริ่มรักษา” อาจเป็นตัวแปรสำคัญของการรักษาหายในอนาคต

🧬 กรณีคนไข้หายขาด: จากความเป็นไปไม่ได้ → เป็นไปได้แล้ว

ปี 2025 มีรายงานผู้ป่วยที่ เข้าสู่ภาวะหายขาด (remission) ต่อเนื่อง
รวมถึงเคสที่ใช้ สเต็มเซลล์จากผู้บริจาคที่มีพันธุกรรม CCR5Δ32
ซึ่งช่วยปิดช่องทางที่ HIV ใช้เข้าเซลล์

แม้การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จะไม่ใช่ทางเลือกสำหรับผู้ป่วยทั่วไป
แต่มันยืนยันว่า

“HIV สามารถรักษาหายได้ในมนุษย์จริง”

และช่วยให้การวิจัยยีนบำบัด เดินไปได้เร็วยิ่งขึ้น

🔎 สรุป: 2025 คือปีแห่งความหวังของการรักษา HIV

นักวิทยาศาสตร์กำลังมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน

ลดจำนวนเชื้อให้เหลือน้อยที่สุด

เพิ่มภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ

ลดการใช้ยาในระยะยาว

และนำไปสู่ functional cure หรือ complete cure

ไม่ใช่คำถามว่า “รักษาได้ไหม”
แต่เป็นคำถามว่า เมื่อไรเราจะทำได้สำหรับทุกคน

📚 References (Vancouver Style)

ViiV Healthcare. Towards an HIV cure. 2025.

Washington Post. HIV cure research update. 2025.

EACS 2025. Long acting oral HIV treatment.

WHO. Injectable lenacapavir recommended. 2025.

Nature. Immunotherapy remission case. 2025.

UCSF. Combination therapy for long-term control. 2025.

ScienceAlert. 7th HIV remission case. 2025.

💬 หมอเก๋ชวนคุย

การแพทย์สมัยใหม่กำลังเปลี่ยน HIV
จาก “โรคเรื้อรังที่ต้องกินยาตลอดชีวิต”
ไปสู่ “โรคที่รักษาหายได้ในอนาคตอันใกล้”

หมอเก๋เชื่อว่า ความรู้ = อำนาจในการดูแลตัวเอง
และอยากให้คุณเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจง่าย และทันสมัยเสมอ

📩 ทักมาคุยกับหมอเก๋ได้เลย
หรือปรึกษาเรื่องสุขภาพ ผิว และการชะลอวัยแบบปลอดภัย

🏷️

#ผิวดีกับหมอเก๋

04/12/2025

🌟 CRISPR อาจพาโลกไปสู่ “การรักษาหายขาด HIV” ได้จริงหรือ? (อัปเดต 2024–2025)

เทคโนโลยี CRISPR ที่เคยถูกใช้ “แก้ยีน” วันนี้กำลังก้าวไปอีกขั้น—
ไม่ใช่แค่ควบคุมไวรัส แต่ “ตัด HIV ออกจาก DNA ของมนุษย์” ที่ฝังอยู่มานานหลายสิบปี
ซึ่งเป็นสิ่งที่ยาต้านไวรัสทั่วไป (ARVs) ไม่สามารถทำได้

🔍 CRISPR กำลังทำให้การรักษา HIV เปลี่ยนไปอย่างไร?

1) ตัดเชื้อออกจากร่างกาย ไม่ใช่กดเชื้อไว้
นักวิจัยใช้ CRISPR-Cas9 และ Cas12a “ตัด DNA ของ HIV” ที่แทรกอยู่ใน CD4+ T cells
ซึ่งช่วยลดปริมาณไวรัส และลดการอักเสบที่สัมพันธ์กับ HIV

2) ปลอดภัยขึ้น และแม่นยำขึ้น
งานวิจัยในเซลล์มนุษย์และสัตว์ทดลองพบว่า
สามารถ “ตัดยีนของ HIV ออก” ได้ โดยไม่ทำลาย DNA ส่วนอื่นของร่างกาย
ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสู่การรักษาแบบถาวร

3) เริ่มมีการทดลองกับมนุษย์แล้ว
EBT-101 เป็นยารักษา HIV ตัวแรกที่ใช้ CRISPR และได้รับอนุมัติให้ทดลองทางคลินิก
ข้อมูลระยะแรก (48 สัปดาห์) ระบุว่า ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง
และเตรียมทดสอบ โดสสูงขึ้นเพื่อกำจัดเชื้อที่หลบซ่อนอยู่

4) เทคโนโลยีส่งยาแบบใหม่: แม่นยำและเฉพาะจุด
งานวิจัยล่าสุดจากจีน (ปลายปี 2025) ใช้ exosome เพื่อนำ Cas12a เข้าไป "ทำลาย DNA ของ HIV"
ในเซลล์ที่เชื้อแฝงตัวอยู่ได้อย่างแม่นยำ

5) ไม่ใช่แค่ตัดเชื้อ แต่ “ทำงานร่วมกับภูมิคุ้มกัน”
มีงานวิจัยใช้ CRISPR

ปิดยีนที่ HIV ต้องใช้ในการขยายตัว (เช่น CCR5)

หรือกระตุ้นให้ไวรัสแฝง “ตื่นขึ้นและตายไปเอง”

🧬 หมายความว่าอะไรสำหรับการรักษา HIV?

หากการทดลองทางคลินิกประสบความสำเร็จ
CRISPR อาจนำไปสู่

การลด viral reservoir อย่างถาวร

ลดการพึ่งยา ARVs ตลอดชีวิต

คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

และ “โอกาสของการรักษาหายขาดในอนาคต”

แม้วันนี้ยังไม่ใช่คำตอบสำเร็จรูป
แต่หลักฐานปัจจุบันบอกว่า

“นี่คือความก้าวหน้าใกล้เคียงที่สุดกับคำว่า Cure ที่เราเคยมี”

🧾 References

CRISPR gene-editing: eliminating HIV from immune cells. Auctores Online. 2024.

Clinical update: first CRISPR therapy for HIV (EBT-101). CRISPR Medicine News. 2024.

CRISPR activation and host factor mapping in HIV. PubMed Central. 2024.

Exosome-delivered Cas12a for latent HIV elimination. China News. 2025.

💬 สนใจอัปเดตงานวิจัยใหม่ ๆ เรื่องยีน ผิว และความงามเชิงลึก?

หมอเก๋อัปเดตเทคโนโลยีทางการแพทย์ ปี 2024–2025
และสรุปให้เข้าใจง่าย ใช้จริง และปลอดภัย
เพราะ สุขภาพและความงามควรอยู่บนพื้นฐานของความรู้ ไม่ใช่ความเชื่อค่ะ

📍 ติดตามได้ที่เพจนี้
📞 หรือทักมาปรึกษาหมอเก๋ได้เลย

🔖

#ผิวดีกับหมอเก๋

01/12/2025

ราคาเริ่ม 1,000 บาท เหมาทั่วหน้า “คุ้มกว่านี้อีก” และมีการรับประกันงานให้สบายใจนะคะ
หลายคนมี “กระแดด–จุดน้ำตาลเข้ม” จนรู้สึกว่าหน้าดูไม่สดใสเหมือนเดิม หมอเลยอยากให้ดูเคสนี้ค่ะ ว่าเลเซอร์ CO₂ แบบเฉพาะจุด มันช่วยให้จางลงทันทีหลังทำได้ยังไง ✨

ขั้นตอนสั้นมาก ไม่ต้องทายาชา ไม่เจ็บ แผลจิ๋ว ๆ มีสะเก็ดบาง ๆ แค่ 3–7 วันเท่านั้น แล้วผิวจะค่อย ๆ ใสขึ้น ดูเรียบขึ้นแบบที่เห็นได้ชัด
เคสแบบนี้หมอทำเองทุกจุด ดูแลละเอียดค่ะ เพราะตั้งใจให้ผิวคุณกลับมาสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลือเลย

ถ้ากำลังลังเลอยู่ ลองดูคลิปนี้ก่อนก็ได้ค่ะ
บางที…ผิวที่คุณอยากได้ อาจใกล้กว่าที่คิดจริง ๆ ✨

📞 นัดคุยกับหมอฟรี 1 สิทธิ์
LINE:
โทร 089-171-8100

#ผิวดีกับหมอเก๋ #รีเซ็ตผิวกับหมอเก๋ #หมอเก๋แนะนำ #สกินแคร์คลินิก #เคสจริง #ผิวใสอย่างอ่อนโยน

30/11/2025

⭐ CAR-T Therapy คืออะไร? เข้าใจง่ายใน 3 นาที

CAR-T เป็นหนึ่งในการรักษามะเร็งเลือดที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน
หมอ ๆ ทั่วโลกเรียกว่าเป็น “การใช้ภูมิคุ้มกันของเราเองมาต่อสู้กับมะเร็ง”
หรือพูดง่าย ๆ คือ เอาเม็ดเลือดขาวของคนไข้ไปฝึกให้เก่งขึ้น แล้วส่งกลับไปจัดการเซลล์มะเร็งแบบตรงจุด

💉 ใช้รักษามะเร็งอะไรได้บ้าง?

ปัจจุบัน CAR-T ได้รับการอนุมัติรักษา เฉพาะมะเร็งในกระแสเลือดบางชนิดเท่านั้น ได้แก่

มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia)

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)

Multiple Myeloma

กลุ่ม B-cell มะเร็งที่รักษายากหรือกลับมาเป็นซ้ำ

ตัวอย่างยาที่ใช้จริง เช่น Kymriah, Yescarta, Breyanzi
ทั้งหมดคือ “การรักษาแบบจำเพาะเจาะจงเฉพาะบุคคล (Personalized Therapy)” ค่ะ

⚙️ ทำงานยังไง? (แบบเข้าใจง่ายมาก)

นำ T-cells ของคนไข้ไปแยกออกมา

ปรับแต่งพันธุกรรมให้ “รู้จักหน้าตาเซลล์มะเร็ง”

เพิ่มความสามารถให้ T-cells แข็งแรงขึ้น

ส่งเซลล์เหล่านี้กลับเข้าร่างกาย

T-cells ใหม่ออกล่ามะเร็งแบบตรงเป้าหมาย 🎯

เหมือน “ฝึกหน่วยรบพิเศษเฉพาะกิจ” ให้โฟกัสฆ่าเซลล์มะเร็งชนิดที่ต้องการค่ะ

📌 จุดเด่นที่ทำให้ CAR-T พิเศษมาก

ใช้กับคนไข้ที่รักษาวิธีเดิมไม่ได้ผล

ให้ผลตอบสนองที่ยาวนานในบางราย

ออกแบบเฉพาะบุคคล ทำให้แม่นยำกว่าวิธีทั่วไป

วิจัยต่อยอดไปสู่การรักษาเนื้องอกแข็งในอนาคต

⚠️ มีเรื่องที่ต้องระวัง

CAR-T ไม่ใช่การรักษาที่เบาและเร็ว
เพราะ…

ต้องใช้เวลาผลิตเซลล์ (3–6 สัปดาห์)

อาจเกิดภาวุ์แทรกซ้อน เช่น Cytokine Release Syndrome (CRS)

ต้องทำในศูนย์มะเร็งที่มีทีมแพทย์เฉพาะทางติดตามอย่างใกล้ชิด

แต่แม้มีความซับซ้อน
CAR-T ก็ถือเป็นความหวังสำคัญของคนไข้มะเร็งเลือดที่รักษายากมาก ๆ ค่ะ

✨ สรุปสั้น ๆ

CAR-T คือการ “อัพเกรดภูมิคุ้มกันของคนไข้ให้กำจัดมะเร็งได้ตรงจุดและทรงพลังขึ้น”
ใช้ได้กับมะเร็งเลือดบางชนิดเท่านั้น แต่ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของการรักษาแบบจำเพาะบุคคลค่ะ

🩵

ติดตามบทความความรู้ด้านสุขภาพ ผิว หนัง และวิทยาศาสตร์การแพทย์จากหมอเก๋ได้ที่เพจนะคะ
หมอจะคัดข้อมูลที่ถูกต้อง อ่านง่าย และอัปเดตใหม่เสมอค่ะ 😊

🔖

#หมอเก๋ให้ความรู้
#ภูมิคุ้มกันบำบัด #มะเร็งเลือด #การแพทย์สมัยใหม่
#ผิวดีกับหมอเก๋

30/11/2025

🧔🏻‍♂️ Testosterone ลดลง = ผิวผู้ชายแก่เร็วขึ้นจริงไหม?

งานวิจัยใหม่ปี 2024–2025 ยืนยันว่า ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ที่ลดลงปีละประมาณ 1% หลังอายุ 40 คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวผู้ชายเสื่อมลงเร็วขึ้น โดยเฉพาะในช่วง andropause หรือวัยทองของผู้ชายค่ะ

🔍 ผลต่อผิว (Skin Aging Effects)

เมื่อ Testosterone ลดลง + SHBG สูงขึ้น (จับฮอร์โมนไว้มากขึ้น) ทำให้ฮอร์โมนที่ใช้งานได้จริงลดลง ส่งผลตามนี้:

ผิวแห้งง่ายขึ้น / สูญเสียน้ำมากขึ้น (TEWL สูงขึ้น)

Dermis บางลง → คอลลาเจน อิลาสติน และ HA ลดลง

ริ้วรอยลึกขึ้น และความยืดหยุ่นลดลง

เส้นเลือดฝอย + ต่อมเหงื่อทำงานลดลง → ผิวดู “โทรมเร็วกว่าอายุจริง”

อนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น, ไมโทคอนเดรียเสื่อมเร็ว → ไวต่อแสงแดดมากขึ้น

ผลรวมคือ ผิวผู้ชายแก่แบบลึกกว่า และไวต่อความเครียด/ยูวีมากกว่าที่คิด

💪 ผลต่อสุขภาพโดยรวม

นอกจากผิวแล้ว Testosterone ต่ำยังสัมพันธ์กับ…

กล้ามเนื้อลด, ไขมันพอกพุงเพิ่ม

น้ำตาลสูง, ดื้ออินซูลิน, ไขมันในเลือดแย่ลง

สมรรถภาพทางเพศลดลง

อารมณ์เหงา ซึมเศร้า พลังงานต่ำ

ความเครียดทำให้อาการทุกอย่างรุนแรงขึ้น

งานวิจัยบางส่วนพบว่า
Hormone therapy ที่เริ่มในจังหวะเหมาะสม ช่วยเพิ่มความหนาผิว ความชุ่มชื้น และกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
แต่ต้องดูความเหมาะสมแบบเคสต่อเคสค่ะ

🧬 เทรนด์วิจัยล่าสุด (2024–2025)

แนวทางใหม่สำหรับผิวผู้ชายวัย 40+ ได้แก่:

การปรับสมดุล Testosterone เพื่อคงความหนาของผิว

ดูแลระบบ neuro–endocrine–immune ของผิวเพื่อลดการอักเสบสะสม

ใช้ biostimulatory fillers (เช่น PLLA / PCL) เพื่อแก้ผิวบาง–ผิวทรุดจากฮอร์โมน

ใช้สารยับยั้ง aromatase / 5α-reductase เฉพาะที่ (เช่น honokiol) เพื่อเพิ่มผลฮอร์โมนเฉพาะจุดโดยไม่กระทบระบบ

เรียกง่ายๆ คือ
👉 ผิวผู้ชายที่ทรุดจากฮอร์โมน ต้องดูทั้งฮอร์โมน + ผิวชั้นลึกพร้อมกัน

หมอเก๋ใช้หลักการนี้ในผู้ชายวัย 40–55 ที่มาปรึกษาเรื่องผิวบาง ร่องแก้มลึก หน้าโทรมจากเครียด–พักผ่อนน้อยค่ะ

✨ ข้อความสรุปแบบเข้าใจง่าย

Testosterone ลดลง = ผิวบางลง ริ้วรอยลึกขึ้น แห้งง่ายลง และฟื้นตัวช้าลง
การดูแลผิวผู้ชายวัย 40+ ต้องเป็นแบบ Hormone-aware Skin Treatment
ไม่ใช่แค่ทาครีม หรือทำเลเซอร์อย่างเดียวอีกต่อไปค่ะ

📞 CTAs หมอเก๋

ถ้าคุณหรือคู่ของคุณเป็นผู้ชายวัย 40+
และเริ่มรู้สึกว่า หน้าโทรมเร็วกว่าที่ควร
หมอเก๋มีโปรแกรมประเมินผิว–ฮอร์โมน และออกแบบแผนฟื้นฟูเฉพาะบุคคลให้ค่ะ

✨ ปรึกษาออนไลน์ฟรี 1 สิทธิ์ (ลูกค้าใหม่)
LINE OA: https://lin.ee/iobQdN4

โทร: 089-171-8100

#ผิวดีกับหมอเก๋ #รีเซ็ตผิวกับหมอเก๋

29/11/2025

🌙 “ผู้หญิงวัย 40–55 ทำไมฉีด Skin Booster แล้วผิวฟื้นเร็วมาก?”

เมื่อเข้าสู่วัย Perimenopause–Menopause เอสโตรเจนที่ลดลงทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น คอลลาเจน และความยืดหยุ่นเร็วมาก จึงเกิด…
✔ ผิวแห้งจากฮอร์โมน
✔ ผิวบางลง เหี่ยวง่าย
✔ ริ้วรอยเล็ก ๆ และ texture ไม่เรียบ
✔ กระแดด–ผิวไม่สม่ำเสมอ
✔ หน้าดูอ่อนล้าเหมือนพักผ่อนไม่พอ

หนึ่งในตัวช่วยที่ “ตอบโจทย์แบบเฉียบ” ของวัยนี้ คือ Injectable Skin Boosters เพราะซ่อมชั้นผิวลึกกว่าเซรั่มทั่วไป และทำงานตามสาเหตุที่แท้จริงของผิววัยทองค่ะ 💛

✨ 3 กลุ่มสารเติมผิว (Injectable Boosters) ที่เหมาะมากสำหรับผิววัย 40+
1) Hyaluronic Acid (HA) Skin Boosters

เช่น Restylane Skinboosters / HA อนุภาคเล็ก
เหมาะกับผิวที่ต้องการ “ความชุ่มชื้น + ความยืดหยุ่น + ผิวเนียนขึ้นทันที”
เมื่อฉีดเป็น microdroplet จะช่วย…

ดึงน้ำเข้าเซลล์ผิว

ทำให้ผิวอิ่มฟู ดูฉ่ำ

ลดริ้วรอยเล็ก ๆ

เติม texture ให้เรียบขึ้น

กระตุ้น fibroblast ให้สร้างคอลลาเจนเพิ่ม

ผลลัพธ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ ใน 3 ครั้ง (ห่างกัน 2–3 สัปดาห์) และอยู่ได้ 6–12 เดือน

2) PLLA (Sculptra) – ตัวแม่ของการสร้างคอลลาเจน

เหมาะกับผู้หญิงที่ผิวเริ่มบาง–ยุบ–หย่อนคล้อยจากฮอร์โมน
PLLA ไม่ได้ให้ผลทันที แต่ค่อย ๆ ทำงานสะสม โดย…

สร้างคอลลาเจนใหม่

ฟื้นโครงสร้างผิวลึก

ยกกระชับแบบเป็นธรรมชาติ

ความแน่นฟูของผิวค่อย ๆ กลับมาใน 2–3 เดือน
ผลอยู่ได้ 1.5–2 ปี

เหมาะสำหรับคนที่อยากแก้ “ผิวบางลง” ซึ่งเป็นปัญหาเด่นของวัย 40–55 ปี

3) Polynucleotide (PN) – ฟื้นผิวแบบงานวิจัยมาแรงสุดช่วงนี้

PN เป็นสารฟื้นฟูผิวที่คล้าย DNA fragment (ปลอดภัยมาก)
เด่นเรื่อง…

ผิวละเอียดขึ้น

ความยืดหยุ่นดีขึ้น

ผิวนุ่ม–แน่นขึ้น

ช่วยลดการอักเสบ

ปลอดภัยแม้ผิวไวหรือผิวบางจากฮอร์โมน

ผลลัพธ์ค่อย ๆ ดีขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ ใช้ได้ทั้งหน้า ใต้ตา คอ

⭐ “แล้ววัย 40+ ควรเลือกแบบไหนดี?”

หมอเก๋แนะนำแบบเข้าใจง่ายเลยค่ะ:

ผิวแห้ง ขาดน้ำ → HA Boosters

ผิวเริ่มบาง–หย่อน–แก้มแบน → PLLA (Sculptra)

ผิวเหนื่อยง่าย ผิวแพ้ง่าย ผิวหมองแบบฮอร์โมน → PN

ต้องการผลลัพธ์ที่สวยที่สุด → ผสมผสาน (HA + PLLA หรือ PN) ตามงานวิจัยใหม่

นี่คือทางเลือก Non-hormonal ที่ช่วยเสริม MHT หรือช่วยดูแลผิวสำหรับคนที่ไม่ใช้ฮอร์โมนได้ดีมากค่ะ

🧠 หมอเก๋แนะนำ

“ผิววัย 40–55 ไม่ใช่ผิวที่แค่แห้ง แต่เป็นผิวที่เปลี่ยนจากฮอร์โมนระดับโครงสร้าง”
ดังนั้นการเลือก booster ต้องประเมินทั้ง:
ฮอร์โมน → โครงหน้า → คุณภาพผิว → ไลฟ์สไตล์ → งบประมาณ

หมอเก๋ออกแบบโปรแกรมแบบเฉพาะบุคคลให้ผลลัพธ์สวย นุ่ม ฟู ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ 💛

📍 ปรึกษา Skin Booster วัย 40+ กับหมอเก๋

PureAndBright Aesthetic Laser Center
ใกล้ MRT สุทธิสาร
283/1 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขว้าง กรุงเทพฯ
✆ 0891718100 / 0909908836 / 0909908863
LINE: → https://lin.ee/iobQdN4

Inbox → http://m.me/pureandbright

#ผิวดีกับหมอเก๋ #ผิววัย40plus
อ้างอิง

PMC – Injectable HA and collagen remodeling in aging skin.

Post-menopause skin rejuvenation trial (PLLA).

Dermatology Times – Hyaluronic acid–based boosters in aging skin.

28/11/2025

🌙 “ทำไมผู้หญิงวัย 40–55 ถึงรู้สึกว่าผิวเปลี่ยนเร็วมาก?”

หลายคนสังเกตว่า…
✔ ผิวแห้งแบบไม่เคยเป็น
✔ ริ้วรอยลึกขึ้นไว
✔ กระแดด–ผิวไม่สม่ำเสมอ
✔ หน้าไม่สดใสเหมือนเดิม
✔ อารมณ์แกว่ง เหนื่อยง่าย
✔ นอนยาก หลับไม่ลึก

ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากอายุอย่างเดียวนะคะ
ตัวการสำคัญคือ “ฮอร์โมนเอสโตรเจน” ที่ลดลงช่วง Perimenopause
ส่งผลทั้งต่อผิว ร่างกาย และสุขภาพจิตแบบที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนค่ะ

วันนี้หมอเก๋สรุปให้แบบอ่านง่าย ๆ สำหรับผู้หญิงวัยทำงานที่อยากดูแลตัวเองให้สวย สุขภาพดี และคงความอ่อนเยาว์ได้นานที่สุดค่ะ 💛

🌼 Perimenopause: ช่วงที่ฮอร์โมนแกว่ง = ผิว & อารมณ์แกว่ง

ช่วงอายุ 40–50 ปี คือจุดเริ่มต้นของ Perimenopause
เป็นช่วงที่เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน “ขึ้น–ลงแบบไม่คงที่”
ผลลัพธ์คือ…

ผิวแห้ง หยาบ ลอกง่าย

สิวกลับมาอีกครั้ง

กระแดด–รอยหมองเข้มขึ้น

หงุดหงิด เครียด เหวี่ยงง่าย

การนอนแย่ลง

งานวิจัยใหม่พบว่า การแกว่งของฮอร์โมนรายวันสัมพันธ์กับภาวะอารมณ์แปรปรวนในวัยกลางคน และเป็นสัญญาณที่ควรได้รับการดูแลอย่างถูกต้องค่ะ

🌙 Menopause: เมื่อเอสโตรเจนลดลง = คอลลาเจนหายเร็ว

เมื่อเข้าสู่ Menopause จริง ๆ (ขาดประจำเดือน 12 เดือน)
ระดับเอสโตรเจนจะลดลงอย่างมาก และเกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวแบบชัดเจน เช่น

คอลลาเจนลดลง 30–40%

ผิวบางลง แห้ง เหี่ยวง่าย

ความยืดหยุ่นลดลง

เกิดกระแดด ฝ้า ผิวไม่เรียบ

รูปหน้าเริ่มเปลี่ยนจาก Volume Loss

ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้าเร็วมากในช่วงอายุนี้ค่ะ

✨ วิธีดูแลผิววัย Perimenopause–Menopause ที่ได้ผลตอนนี้
💛 1. Hormone Therapy (ประเมินโดยแพทย์เฉพาะทาง)

งานวิจัยยืนยันว่า MHT ช่วยให้

ความหนาผิวเพิ่มขึ้น

คอลลาเจนดีขึ้น

ความยืดหยุ่นดีขึ้น

ริ้วรอยลดลง
เหมาะกับผู้ที่มีอาการวัยทองร่วมกับผิวเสื่อมอย่างรวดเร็ว

💉 2. Botox สำหรับริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า

ช่วยลดความล้าของผิวและปรับให้ดูสดใสขึ้นทันที
เหมาะมากในวัย 40+ ที่ริ้วรอยเริ่มชัดแบบถาวร

🔥 3. Fractional Laser

ช่วยฟื้นฟูผิวชั้นลึก กระตุ้นคอลลาเจน แก้ปัญหา

ผิวหยาบ

ริ้วรอยตื้น–ลึก

รูขุมขน

ผิวไม่เรียบเนียน
ฟื้นตัวเร็วกว่า CO₂ และเหมาะกับผิวเอเชีย

🌼 4. Skincare ที่เหมาะกับวัย 40+

กลุ่มที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน หรือกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ เช่น

Retinoids

AHA / PHA

Proxylane

Cassia extract

ช่วยเรื่องผิวแห้ง ริ้วรอยตื้น กระแดด และทำให้ผิวตอบสนองกับทรีตเมนต์อื่นได้ดีขึ้น

☀️ 5. Laser Toning (Dual Yellow)

หมอเก๋เน้นใช้ Dual Yellow เพราะ

ปลอดภัยในผิวเอเชีย

ไม่กระตุ้นฝ้า

ไม่ทำให้หน้าไวต่อแดด

ช่วยลดการอักเสบ–รอยแดง

ทำให้โทนผิวสดใสขึ้นแบบไม่ทำให้ผิวบาง
เหมาะมากสำหรับผู้หญิงวัย 40–55 ที่ต้องการความปลอดภัยสูงและฟื้นตัวไว

💧 6. Dermal Fillers สำหรับ Volume Loss

ช่วยคืนโครงสร้างใบหน้า เช่น

ใต้ตาลึก

แก้มตอบ

ร่องแก้ม

ขมับบุ๋ม
ทำให้หน้าอ่อนเยาว์ขึ้นแบบไม่ต้องผ่าตัด

🧠 หมอเก๋แนะนำ

ผิววัย 40+ ต้องการการดูแลที่ “ตรงสาเหตุ” เพราะปัญหาหลักมาจากฮอร์โมนและคอลลาเจนที่ลดลง
หมอเก๋ใช้การประเมินแบบองค์รวม
ฮอร์โมน → ผิว → โครงหน้า → ไลฟ์สไตล์
เพื่อออกแบบการรักษาให้เหมาะกับแต่ละคนจริง ๆ ค่ะ

📍 ปรึกษาผิววัยทองกับหมอเก๋

PureAndBright Aesthetic Laser Center
ใกล้ MRT สุทธิสาร
283/1 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
✆ 0891718100 / 0909908836 / 0909908863
LINE: → https://lin.ee/iobQdN4

Inbox → http://m.me/pureandbright

#ผิวดีกับหมอเก๋ #ผิววัย40plus
อ้างอิง

Breastcancer.org – Menopause-related skin changes.

Brincat M. Hormone replacement and skin aging. Climacteric.

Frontiers in Medicine – Menopause and skin physiology.

25/11/2025

☀️ “กระแดด…ยิ่งอายุมากขึ้น ทำไมยิ่งชัด?”

หลังอายุ 35+ ผิวของเราจะเริ่มสะสมเม็ดสีจากแดดที่เคยเจอมาหลายปีจนกลายเป็น “กระแดด” แบบถาวร ที่จางยากด้วยครีมทั่วไปค่ะ

ข่าวดีคือ งานวิจัยปี 2024–2025 ชี้ชัดว่า กระแดดตอบสนองต่อเลเซอร์ได้ดีมาก และเทคโนโลยีใหม่ช่วยลดโอกาสเกิดรอยดำหลังทำ (PIH) ได้ปลอดภัยกว่าเมื่อก่อนมาก โดยเฉพาะในผิวเอเชียอย่างเรา

หมอเก๋สรุปแบบเข้าใจง่าย สำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีรักษาที่ได้ผลจริงนะคะ 💛

🌤️ กระแดดคืออะไร?

เป็น “รอยเข้มแบบถาวรจากแดด” ขึ้นตามโหนกแก้ม หน้าฝาก จมูก หลังมือ
ไม่ใช่ฝ้า แต่เป็นเม็ดสีเฉพาะจุดที่ตอบสนองต่อเลเซอร์ดีกว่า และเห็นผลชัดกว่าเมื่อทำกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านพลังงานเลเซอร์

✨ วิธีรักษากระแดดที่อัปเดตล่าสุด ปี 2024–2025

Ablative CO₂ Laser (แบบกำลังต่ำ)
ใช้พลังงานลอกผิวตื้น ๆ เพื่อเปิดผิวใหม่และลดเม็ดสีที่สะสม
• ฟื้นตัวประมาณ 5–7 วัน
• เห็นผิวใสไวขึ้น แต่มีโอกาสแดง/เข้มชั่วคราว ต้องควบคุมพลังงานอย่างแม่นยำ

VSLS 532 nm Nd:YAG (Nanosecond)
เทคโนโลยีใหม่ที่เคลียร์กระแดดได้ไว และลดโอกาส PIH ได้เด่นกว่า
• ทำ 1 ครั้ง เห็นผล
• มักมีแค่แดงอ่อน ๆ
• ปลอดภัยในผิวเอเชียที่เกิดรอยดำง่าย

Q-Switched / Low-fluence Nd:YAG
มาตรฐานทองคำของการรักษากระแดด
• ค่อย ๆ แตกเม็ดสีอย่างปลอดภัย
• ฟื้นตัวไว เหมาะกับคนที่ต้องการประคองความใสระยะยาว
• ใช้ต่อเนื่องได้โดยไม่ทำให้ผิวบาง

Picosecond Laser
ทำงานเร็วกว่า Q-switched และช่วยให้เม็ดสีแตกละเอียดขึ้น
• เห็นผลไวกับรอยเข้ม
• เสี่ยง PIH ต่ำ
• นิยมมากในผู้หญิงวัยทำงาน 35–50 ปี

Fractional Laser (Non-ablative หรือ Ablative เบา ๆ)
ใช้ปรับพื้นผิว ให้หน้าเนียนใสพร้อมลดเม็ดสีร่วมกัน
• เหมาะกับคนที่มี “กระแดด + รูขุมขน + ผิวหมอง” ในเวลาเดียวกัน
• ฟื้นตัวเร็วกว่า CO₂

🧠 หมอเก๋แนะนำอย่างไรให้เหมาะกับผิวเอเชีย?

วินิจฉัยก่อนว่ากระแดดจริง หรือฝ้าแฝง (เพราะวิธีรักษาต่างกัน)

เลือกพลังงานเลเซอร์ให้เหมาะกับสีผิวเพื่อลดความเสี่ยง PIH

ใช้ สูตรผสมผสาน (Combination Protocol) เช่น เลเซอร์ + ยากิน ยาทา เพื่อผลลัพธ์คงที่และเร็วขึ้น

ทากันแดดอย่างจริงจังหลังเลเซอร์ทุกชนิด

หมอเก๋ปรับโปรโตคอลให้แต่ละคนตามสภาพผิว ความคาดหวัง และงบประมาณค่ะ

📍 ปรึกษากระแดดกับหมอเก๋แบบตัวต่อตัว

PureAndBright Aesthetic Laser Center
ใกล้ MRT สุทธิสาร
283/1 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
✆ 0891718100 / 0909908836 / 0909908863
LINE: (พิมพ์เต็ม: https://lin.ee/iobQdN4
)
Inbox: http://m.me/pureandbright

#ผิวดีกับหมอเก๋ #กระแดด
เอกสารอ้างอิง

Dermatology Times. Advancing treatment of solar lentigines through the Vasculature Salvage Laser Surgery system.

Kim M et al. Laser therapies for solar lentigines: A systematic review. J Cosmet Dermatol. 2024.

Hakozaki T et al. Mequinol–tretinoin combination therapy for lentigines: clinical efficacy. Dermatol Ther. 2024.

23/11/2025

✨ ปี 2025 ผิวใสไม่ได้มาจาก “อย่างใดอย่างหนึ่ง” แต่คือการผสมผสานที่พอดีระหว่าง เลเซอร์ + การฉีดกระตุ้นคอลลาเจน 💉✨
เลเซอร์ช่วยเรื่องความเนียนใส รูขุมขน ฝ้า ส่วนไบโอสติ (Sculptra / Radiesse) ช่วยผิวแน่น เด้ง เด็ก…แบบไม่โป๊ะ ไม่แข็ง
ใครอยากรีเซ็ตผิวจริง ๆ ปีนี้ต้องทำ “คู่กัน” ค่ะ 🤍

นัดประเมินผิวกับหมอเก๋ได้เลย
📍 PureAndBright MRT สุทธิสาร
LINE: https://lin.ee/iobQdN4

☎ 0891718100 / 0909908836 / 0909908863

#ผิวดีกับหมอเก๋ #รีเซ็ตผิวกับหมอเก๋
#เลเซอร์หน้าใส
#ผิวเด็ก2025

Dr.Borisut Sanmano

07/12/2025

06/12/2025

05/12/2025

05/12/2025

04/12/2025

01/12/2025

30/11/2025

30/11/2025

29/11/2025

28/11/2025

25/11/2025

23/11/2025

ที่อยู่

เวลาทำการ

เบอร์โทรศัพท์

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ติดต่อ การปฏิบัติ

ทางลัด

แชร์

ประเภท