YSC คลินิกแพทย์องค์รวม ความงาม โภชนาการ ลดน้ำหนัก by COACH BANK

YSC คลินิกแพทย์องค์รวม ความงาม โภชนาการ ลดน้ำหนัก by COACH BANK เราเป็นคลินิกฟื้นฟูสุขภาพที่โฟกัส? YSC Clinic
"เป็นธุรกิจที่สร้างมาด้วยความจริงใจ อยากส่งต่อความมั่นใจ ให้ทุกคนได้มีแรงผลักดันเพื่อให้ชีวิตดำเนินไปด้วยดี"

 #ช้อนส้อมที่จุ่มลงไปแน่ใจว่าได้ฆ่าเชื้อโรค ⁉หากใครเคยไปรับประทานอาหารที่ Food court หรือตามโซนศูนย์อาหาร และโรงอาหารของ...
15/10/2018

#ช้อนส้อมที่จุ่มลงไปแน่ใจว่าได้ฆ่าเชื้อโรค ⁉
หากใครเคยไปรับประทานอาหารที่ Food court หรือตามโซนศูนย์อาหาร และโรงอาหารของสถาบันต่างๆ บางครั้งจะพบเห็นหม้อหุงข้าวใส่น้ำเปล่าเสียบปลั๊กไว้ บริเวณเดียวกันนั้นมีช้อน-ส้อม ตะเกียบ วางเคียงคู่ 🍴🥢
ภาพที่เห็นจนชินตานี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ได้ทันทีเลยใช่ไหมครับว่ามีไว้เพื่ออะไร หลายๆ คนคว้าช้อนส้อมได้ก็ดีใจ รีบจุ่มลงไปโดยอัตโนมัติ หวังให้น้ำต้มนั้นช่วยฆ่าเชื้อโรคเสียหน่อยก็ยังดี
เคยสงสัยไหมครับว่าทำแบบนี้แล้วฆ่าเชื้อโรคได้จริงหรือเปล่า ?
โดยปกติน้ำที่มีอุณหภูมิสูงตั้งแต่ 65 องศาเซลเซียส จะสามารถ “ลด” เชื้อแบคทีเรียได้ครับ แต่แค่เฉพาะน้ำที่เปลี่ยนใหม่ๆ หรือถูกจุ่มแล้วเพียงไม่กี่ครั้งนะครับ และใช้คำว่า “ลด” นะครับ ไม่ใช่ “กำจัด” ได้ทั้งหมด แล้วการที่เปิดฝาหม้อต้มน้ำไว้ น้ำนั้นจะมีอุณหภูมิของน้ำเท่าไหร่กันล่ะครับนี่ ถ้าไม่ถึง 65 องศาเซลเซียส ก็แทบไม่เกิดประโยชน์เลยนะครับ เพราะน้ำนั้นจะไม่สามารถลดเชื้อโรคได้
ที่น่ากลัวไปกว่านั้น จากการสำรวจพบว่าพบว่าน้ำในหม้อตามศูนย์อาหารต่างๆ มีเชื้อแบคทีเรียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลาด้วยครับ และที่สำคัญคือแบคทีเรียบางชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ดีในช่วงอุณหภูมิประมาณ 20-45 องศาแม้ว่าอุณหภูมิของน้ำที่ต้มทิ้งไว้บางช่วงจะสูงถึง 95 องศาเซลเซียสก็ตาม แบคทีเรียก็จะติดมากับช้อนที่จุ่มลงไป หนำซ้ำยังมีจำนวนมากกว่าตอนก่อนจุ่มลงไปเสียอีก !!
การจุ่มหรือลวกช้อมส้อมในระยะเวลาสั้นๆ และอุณหภูมิยังไม่เหมาะสม มีแต่จะทำให้มีเชื้อโรคปนเปื้อนมามากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมเสียอีกนะครับ เพราะการลวกช้อนส้อมที่ถูกต้องและปลอดภัยต้องใช้อุณหภูมิสูงถึง 98 องศาเซลเซียส โดยใช้เวลานานกว่า 4 นาทีครับ
ดังนั้นทุกหน่วยงานควรตระหนัก และควบคุมขั้นตอนการล้างช้อนให้สะอาดดีกว่าการปัดภาระให้ผู้บริโภคต้องมานั่งจุ่มลวกน้ำร้อนทีหลังนะครับ หรือไม่ก็ต้องใส่ใจ กวดขันดูแลน้ำต้มตามจุดต่างๆ อย่างจริงจัง ซึ่งที่จริงแล้ว ภาชนะที่ผ่านการล้างอย่างสะอาดและเก็บไว้ในที่มิดชิด หรือมีผ้าสะอาดคลุมให้พ้นจากฝุ่นละออง ก็ไม่จำเป็นต้องลวกซ้ำอีกแล้วละครับ
ในส่วนของผู้บริโภคอย่างเรา ถ้าเลี่ยงไม่ได้ โค้ชแบงค์แนะนำการ “เช็ด” ให้สะอาดทุกครั้ง โดยไม่ต้องเอาช้อนส้อมไปจุ่มลวกในหม้อน้ำตามที่สาธารณะอีกต่อไปครับ
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจากธรรมศาสตร์เวชสาร : http://bit.ly/2xRbCfM
#ด้วยรัก 💕
#โค้ชแบงค์ชิระ

รับมือโรคภูมิแพ้2018 😷ทุกวันนี้เราต้องเผชิญมลพิษมากมาย และนี่เองครับเป็นสาเหตุของโรคยอดนิยมอย่างโรค “ภูมิแพ้” ที่ลูกเด็ก...
03/10/2018

รับมือโรคภูมิแพ้2018 😷
ทุกวันนี้เราต้องเผชิญมลพิษมากมาย และนี่เองครับเป็นสาเหตุของโรคยอดนิยมอย่างโรค “ภูมิแพ้” ที่ลูกเด็กเล็กแดงพากันเป็นตั้งแต่ยังเด็กๆ เลย
ปัจจุบันโรคภูมิแพ้ที่พบมากคือโรคภูมิแพ้อากาศครับ อาจจะเป็นวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป จำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น แหล่งที่อยู่อาศัยหนาแน่นแออัดขึ้น สภาพบ้านเรือนก็มีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปตามแบบประเทศเมืองหนาวในแถบตะวันตก มีเพดานเตี้ย ปิดหน้าต่างถาวร และเปิดเครื่องปรับอากาศเกือบตลอดเวลา แถมภายในห้องก็ปูพรมซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมไรฝุ่น มีการปลูกต้นไม้ประดับประดาซึ่งเป็นที่มาของความชื้นและเชื้อราในอากาศ นอกจากนี้สัตว์เลี้ยงทั้งหลาย ไม่ว่าสุนัข แมว กระต่าย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของภูมิแพ้ทั้งสิ้นครับ
โค้ชแบงค์จะอธิบายคร่าวๆ ถึงการเกิดโรคภูมิแพ้นะครับ การที่ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเรา มีปฏิกิริยาไวต่อการตอบสนองสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่ผิดปกติ ทั้งๆ ที่บางครั้งสิ่งแปลกปลอมบางอย่างไม่ได้มีอันตรายอะไรกับร่างกายของเราด้วยซ้ำ โดยร่างกายได้ผลิตสารภูมิต้านทานขึ้นมาเพื่อกำจัดและทำลายสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้น แต่แทนที่สารภูมิต้านทานที่ร่างกายผลิตมานั้นจะช่วยปกป้อง กลับเป็นตัวกระตุ้นซะเอง ทำให้เกิดอาการแพ้ขึ้นได้ยังไงล่ะครับ
อาการแต่ละคนจะมีปฏิกิริยาการแพ้แตกต่างกันไปครับ ถึงแม้ว่าจะได้รับสารก่อภูมิแพ้หรือสิ่งแปลกปลอมชนิดเดียวกันก็ตาม เช่น
😷 อาการแบบเฉียบพลัน อาการนี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ในบางรายเกิดขึ้นแทบจะทันทีที่ได้รับสารกระตุ้น ในขณะที่บางรายใช้เวลานานกว่านั้น ลักษณะทั่วไป เช่น ผื่นแดงนูน บวม หายใจติดขัดเสียงดังวี๊ดๆ รู้สึกแน่นหน้าอก กลืนลำบาก ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน นอกจากนี้อาจมีอาการดิ้นทุรนทุรายด้วย
😷 อาการแบบไม่เฉียบพลัน ส่วนใหญ่เกิดจากการแพ้สิ่งต่างๆ ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่เปลี่ยนแปลง ฝุ่นละออง สารเคมี ความชื้น ควันธูป ควันบุหรี่ ควันรถยนต์ เครื่องประดับ หรือแม้กระทั่งอาหาต่างๆ จะมีอาการผิวหนังอักเสบ น้ำมูกไหล ไอ จาม คันตา ผื่นคัน เป็นต้น
จะทำอย่างไรให้อาการภูมิแพ้ที่เป็นอยู่ดีขึ้นหรือทุเลาลง ? คำถามนี้ก็ฮอตฮิตไม่แพ้โรคภูมิแพ้ที่เป็นกันอย่างแพร่หลายเลยนะครับ สิ่งที่ต้องทำคือการเพิ่มภูมิคุ้มกันนั่นเองครับ ฟังดูเหมือนจะยาก แต่ก็เป็นสิ่งที่โค้ชแบงค์สอดแทรกมาตลอดเกือบทุกบทความ เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักสีเขียว งดของมัน ของทอด และที่สำคัญคือหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ครับ !
จากสถิติอาหารที่มีคนแพ้มากหนีไม่พ้นอาหารทะเลจำพวก กุ้ง ปู หอย แมงกะพรุน ตามด้วยนมวัว ไข่ขาว ข้าวสาลี ถั่วต่างๆ หน่อไม้ เนื้อวัว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงอาหารที่มีเชื้อราหรือทำด้วยกรรมวิธีการหมักดอง เช่น ปลาร้า กะปิ ข้าวหมาก แหนม เบียร์ เห็ด ขนมปัง น้ำส้มสายชู ขนมจีน ฯลฯ
ส่วนบางคนยังไม่รู้ว่าแพ้อาหารอะไร วิธีง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเองคือลองสังเกตตัวเองครับ ยกตัวอย่างเช่นการแพ้อาหารบางอย่างร่างกายอาจไม่แสดงปฏิกิริยาทันทีครับ บางครั้งอาจแสดงอาการ 3 วัน 7 วัน ให้หลังครับ ลองหยุดอาหารตัวที่สงสัยไม่น้อยกว่า 7 วัน แล้วค่อยลองรับประทานดูใหม่ ถ้ามีอาการแพ้ก็ให้สงสัยและหลีกเลี่ยงไปเลย... อย่าพยายามลองแล้วลองอีก หรือทำซ้ำโดยหวังว่าร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาต่อต้านนะครับ การใช้ทฤษฎีเกลือจิ้มเกลือนอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังทวีความแพ้ให้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ได้อีกด้วย ! เดี๋ยวจะหาว่าโค้ชแบงค์ไม่เตือนนะครับ ^^
#ด้วยรัก 💖
#โค้ชแบงค์ชิระ

วันนี้คุยกับทำงานเสร็จแล้ว​😊ไปหาอาหารคลีนทานดีกว่า😉😘
30/09/2018

วันนี้คุยกับทำงานเสร็จแล้ว​😊ไปหาอาหารคลีนทานดีกว่า😉😘

 #ใช้พลังความคิดปลุกพลังชีวิต 📶ความคิดของคนเรามีพลังอำนาจมหาศาลนะครับ มีความเร็วยิ่งกว่าแสง คิดปุ๊บก็รู้สึกปั๊บทันที เหม...
30/09/2018

#ใช้พลังความคิดปลุกพลังชีวิต 📶
ความคิดของคนเรามีพลังอำนาจมหาศาลนะครับ มีความเร็วยิ่งกว่าแสง คิดปุ๊บก็รู้สึกปั๊บทันที เหมือนคำกล่าวที่ว่า “เมื่อคิดทุกข์ก็ทุกข์ เมื่อคิดสุขก็สุข” จริงไหมครับ ? ความคิดของคนเราสร้างความรู้สึกให้เกิดขึ้นได้ และความรู้สึกที่เกิดขึ้นมานั้นก็ล้วนมาจากความคิดนั่นเองครับ
หากเราฝังใจกลัวหรือมีประสบการณ์เลวร้ายกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง พอเห็นหรือต้องเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นก็จะเกิดความกลัว เกิดพลังลบขึ้นมาทันทีทันใดโดยอัตโนมัติ แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าไม่ได้มีอันตรายอะไรร้ายแรงก็ตาม จะเห็นว่าทุกปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความผิดพลาด ผิดหวัง ล้วนมาจากตัวเราเองเป็นคนเลือกเองทั้งสิ้น ดังนั้นอย่ามัวไปกล่าวโทษโชคชะตาฟ้าลิขิตเลยนะครับ หาทางแก้ไขโดยเริ่มที่ตัวเราเองก่อนดีกว่า..
เมื่อเราคิดหรือเชื่อว่าชีวิตของเราจะต้องดีขึ้น จะต้องประสบความสำเร็จ พลังอำนาจของความคิดก็จะผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ โดยใช้ความพากเพียรพยายามเป็นที่ตั้ง โอกาสประสบความสำเร็จก็ทวีคูณมากกว่าคนที่ไม่มีแรงผลักดันให้ลงมือริเริ่มทำอะไรเลย ไม่ว่าช้าหรือเร็วในที่สุดเราก็อาจถึงเป้าหมายแห่งความสำเร็จได้ ตามที่เราคาดคิดไว้ครับ
จิตใต้สำนึกของเราเป็นคลังสมอง ซึ่งเป็นแหล่งเก็บข้อมูลทั้งหมดของเรา ไม่ว่าจะด้านดีหรือด้านลบก็ตาม หากเก็บด้านลบเอาไว้มากๆ ความคิด คำพูด กิริยาท่าทางต่างๆ ทางด้านลบ ก็จะถูกผลักดันออกมาจากจิตใต้สำนึกนั้น ดังนั้น เราจะต้องปรับเปลี่ยนและบริหารจัดการความคิดด้านลบต่างๆ โดยเริ่มต้นด้วยตัวเราเอง คือ เริ่มหันมาพัฒนาพลังการคิดบวก เปลี่ยนพลังลบให้กลายเป็นพลังแห่งความสร้างสรรค์ ก่อให้เกิดสติปัญญา ปฏิภาณไหวพริบที่ดี ช่วยให้ชีวิตมีพลังในการเอาชนะปัญหาต่างๆ ได้ การใส่ความคิดด้านบวกเข้าไปแทนที่ คุณจะกลายเป็นคนที่มีความสุขจากภายใน สามารถดึงดูดสิ่งดีๆ และความสำเร็จได้ง่ายครับ
อย่าลืมนะครับ ชีวิตที่คิดดี คิดบวก คิดสร้างสรรค์อยู่เสมอแล้ว จะทำให้ชีวิตฟื้น ตื่นขึ้น และประสบความสุขความสำเร็จได้อย่างแน่นอน และเมื่อเรากุมพลังอำนาจของความคิดอยู่ในมือและใช้ในทางที่ถูกที่ควร ก็จะควบคุมการดำเนินชีวิตของเราให้อยู่ในทางแห่งความชอบธรรมได้ครับ โค้ชแบงค์เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะ
#ด้วยรัก
#โค้ชแบงค์ชิระ

สมัยนี้คนเป็นโรคนี้กันเยอะนะคะ​ รู้ไว้เพื่อระวังตัวค่ะ
21/04/2018

สมัยนี้คนเป็นโรคนี้กันเยอะนะคะ​ รู้ไว้เพื่อระวังตัวค่ะ

เช็คสิ! คุณเป็น #โรคบูชาตัวเอง (โรคหลงตัวเอง) หรือเปล่า ?
คุณอ่านไม่ผิดครับ โรคหลงตัวเอง​ หรือโรคบูชาตัวเอง นี้แหละครับ!!
มันเป็นภาวะผิดปกติ​ทางจิตที่จะร้ายแรงก็ต่อเมื่อมันไปกระทบคนที่คุณรักและแคร์
คนที่เป็นโรคนี้จะคิดหลงความคิดของตัวเอง​ คิดว่าตัวเองถูกคนเดียว​ ความรู้สึกเราเป็นใหญ่ ไม่ยอมรับฟังและกีดกันความคิดเห็นของคนอื่น​ จนส่งผลกับคุณภาพชีวิตประจำวัน​อย่างร้ายแรง และไปแพร่เชื้อนี้ให้คนใกล้ตัว​

เราจำเป็นต้องมีความรู้เพราะมันไม่ไกลตัวจากเราในฐานะคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมปัจจุบัน​นี้เลย... และเราจะได้มีภูมิคุ้มกัน​ เริ่มยอมรับ รู้วิธีรับมือ​ รู้วิธีเผื่อใจ​ กับคนพวกนี้
สัญญากับโค้ชแบงค์อย่างนึงก่อนอ่านต่อไปนะคับ​ ว่าคุณจะไม่ไปประจันหน้า​กับคนที่คุณคิดว่าเป็นโรคนี้แล้วบอกเขาว่า"ฉันคิดว่าเธอ​เป็นโรคบูชาตัวเองอ่ะ" เพราะเขาจะยิ่งกีดกันคุณ! เพียงแค่แชร์โพส์นี้จะดีที่สุดคับในการช่วยเหลือเบื้องต้น

เรามาทำความรู้จักโรคบูชาตัวเอง (โรคหลงตัวเอง) กันเถอะครับ
โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder) หรือ
“นาซิซีสติก” (Narcisisitic) เรียกย่อๆ ว่า NPD หรือ
ภาวะ Narcissism ชื่อของโรคหลงตัวเองในภาษาอังกฤษ
มีต้นกำเนิดมาจากเทพนาร์ซิสซัส เทพกรีกที่หลงรูปตัวเอง
จนต้องถูกสาปให้ตกหลุมรักตัวเอง
ในทางจิตวิทยา โรคหลงตัวเองคืออาการผิดปกติทางจิต
ที่มีอาการมากไปกว่าแค่หลงใหลในหน้าตา รูปร่างของตัวเอง
แต่ที่มากกว่านั้นคือยังมีเรื่องของความเห็นแก่ตัว
ความรู้สึกอยากเป็นที่หนึ่ง อยากเป็นจุดสนใจ หรือความคิด
ที่ว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่ผิด ซึ่งเป็นลักษณะของการถูกบ่มเพาะ
ความคิดมาอย่างผิด ๆ เลยทำให้นิสัยเหล่านี้ติดตัวมาในตอนโต
จนทำให้เกิดเป็นโรคหลงตัวเองในที่สุด
อาการของโรคหลงตัวเองมีแค่เส้นกั้นบางๆ ระหว่างอาการป่วย
กับนิสัยส่วนตัว ซึ่งถ้าจะเช็คให้ชัวร์ว่าป่วยด้วยโรคนี้จริงหรือไม่
อาจต้องดูจากอาการโรคหลงตัวเองตามนี้ด้วย โดยหากเช็กแล้ว
ตรงกับความเป็นตัวเองเกิน 5 ข้อ ให้สงสัยว่าป่วยไว้ก่อนเลย
คุณเป็นโรคหลงตัวเองหรือไม่ ?
1. ชอบพูดถึงตัวเองในแง่ดีบ่อยๆแบบเกินงาม​ และอาจจะถล่มคนอื่นที่นิสัยแทนที่จะที่ผลงาน
2. ชอบเรียกร้องความสนใจ อยากเป็นคนสำคัญตลอดเวลา​ ไม่ว่าจะด้วยเสียงสูง​ เสียงแข็ง​ อารมณ์​ หรือน้ำตา
3. คิดว่าตัวเองเป็นบุคคล VIP
4. ชอบเพ้อฝันถึงเรื่องเกินเอื้อม​ เกินคาด​ เกินจริง และคิดไปว่าเขาคู่ควรกับมัน
5. อารมณ์แปรปรวน เหวี่ยงวีน และมักจะไม่พอใจอะไรบ่อยๆ
6. ไม่แคร์ใคร ไม่ใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้าง
7. ต้องการที่จะชนะทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้ โดยไม่สนว่า
อะไรจะผิดจะถูก คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่คับฟ้า ทำอะไรก็ได้
8. มโนว่าตัวเองมีแต่คนอิจฉา หรือรู้สึกอิจฉาคนรอบข้างบ่อยครั้ง
9. ต้องการมีอำนาจ ต้องการคำชมเชย และอยากเป็นที่รักของคนอื่นอยู่เสมอ​ (วันไหนไม่ได้รับคำชมจะรู้สึกหงุดหงิดแบบบอกไม่ถูก)​
10. เอาแต่ใจตัวเอง จนไม่แคร์ว่าสิ่งที่ทำจะเป็นการ
เอาเปรียบคนอื่นหรือไม่
11. มักจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง อวดสิ่งที่มีสิ่งที่ได้ สิ่งที่คิด​ สิ่งที่ทำ
หรือเรียกง่าย ๆ ว่ากร่างไปทั่ว
12. คบกับใครไม่ได้นาน อยู่ร่วมกับคนอื่นยาก
13. อ่อนไหวง่าย และมักจะฟูมฟายกับเรื่องที่เสียใจและขอความเห็นใจแบบเกินเหตุ
14. ทนไม่ได้กับการถูกวิพากษ์วิจารณ์
15. ไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง และมักจะโทษว่า
เป็นความผิดของบุคคลอื่นอยู่ตลอด
16. รู้สึกเหมือนตัวเองเหนือกว่าคนอื่น
17. ชอบที่จะเป็นผู้รับ โดยที่ไม่คิดจะเป็นผู้ให้... หรือถ้าให้ของคน​อื่นแล้วจะหวังว่าเขาจะต้องชอบ​มาก​ ต้องใช้มันตลอด​ และต้องมีปฏิกิริยา​ซาบซึ้ง​ที่ได้รับ​อย่างออกนอกหน้า
เป็นไงบ้างครับ? มันอาจจะ"ช็อก​" นิสนึง​ แต่เราต้องรู้ไว้เพื่อให้"รู้เขารู้เรา" นะคับ​ จะได้ไม่เสีย"จิต" ไปมากกว่านี้
ถ้าจะถามถึงสาเหตุโรคหลงตัวเองนะครับ
จริงๆ แล้วยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้
แต่จากการวิเคราะห์ดูแล้ว เป็นไปได้ว่าจะเกิดจากสังคม
ครอบครัว การอบรมเลี้ยงดู และได้รับการสั่งสอนจากผู้ปกครอง
มาแบบผิดๆ สภาพแวดล้อมของสังคม การกดดันหลายๆ
เรื่อง จนหลอมรวมให้เกิดเป็นโรคหลงตัวเอง
การเริ่มรักษาก็ไม่ยากนะครับ แค่ลองปรับทัศนคติให้ผู้ป่วยเปิดกว้าง
กับคนรอบข้างมากขึ้น แต่หากผู้ป่วยมีความเครียดหรือ
ความวิตกกังวล ควรไปปรึกษา​จิตแพทย์​นะคับ
โรคหลงตัวเองเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้
หรืออย่างน้อยๆ ก็มีวิธีบำบัดให้อาการอยู่ในระดับที่สังคม
พอให้อภัย แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเองด้วยว่าจะให้ความร่วมมือ
มากน้อยแค่ไหน หากคุณเช็กดูจากอาการคร่าว ๆ แล้วก็
เหมือนจะเข้าข่ายนิสัยตัวเองหลายข้อ แนะนำให้ไปทำ
แบบทดสอบทางจิตวิทยากับจิตแพทย์เพื่อหาความชัดเจน
ให้ตัวเองก่อนดีกว่าครับ ถ้าใครมีคนใกล้ตัวเป็นโรคนี้
อย่าลืมแชร์เพื่อให้ประโยชน์กับเค้าด้วยนะครับ
ด้วยรัก
#โค้ชแบงค์ชิระ

17/10/2017

Our new clinic phone number is ±66842545599
เบอร์ใหม่คลีนิกเปลี่ยนเป็นเบอร์​ 0842545599
นะคะ​ ขอบคุณ​ค่ะ

04/08/2017

เรียนคนไข้ที่เคารพ​ทุกท่าน

ทางคลีนิกได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์​ติดต่อ​ใหม่
มีคำถามเรื่องคอร์ส จะนัดหมอเพื่อปรึกษารักษาผิว ปรับโครงหน้า หรือปรึกษาเรื่องศัลยกรรม​ กรุณาติดต่อที่เบอร์ใหม่นี้นะคะ 084-254-5599​

เสริมจมูกดูแลผิวสวยขึ้นเป็นกองค่ะ
08/04/2017

เสริมจมูกดูแลผิวสวยขึ้นเป็นกองค่ะ

ขอบคุณคุณ Milky Maxim คนสวยมาเยี่ยม   ❤️❤️❤️
02/04/2017

ขอบคุณคุณ Milky Maxim คนสวยมาเยี่ยม ❤️❤️❤️

ที่อยู่

246 อาคารไทมส์ สแควร์ ชั้น 27 ซ. สุขุมวิท 12-14 คลองเตย คลองเตย
Bangkok
10100

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ YSC คลินิกแพทย์องค์รวม ความงาม โภชนาการ ลดน้ำหนัก by COACH BANKผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง YSC คลินิกแพทย์องค์รวม ความงาม โภชนาการ ลดน้ำหนัก by COACH BANK:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

Our Story

"เป็นธุรกิจที่สร้างมาด้วยความจริงใจ อยากส่งต่อความมั่นใจนี้ ให้ทุกคนได้มีแรงผลักดันเพื่อให้ชีวิตดำเนินไปด้วยดีโดยมีสุขภาพที่ดีจากภายใน มีหุ่นดั่งใจฝัน และไกลจากโรคภัยค่ะ"