Bajaree Aesthetic Clinic

Bajaree Aesthetic Clinic ทำให้คุณดูดีได้มากกว่า

ในยุคนี้ปฏิเสธเลยไม่ได้ ว่าการเสริมความงามกับคลินิกกลายเป็นปัจจัยหลักในชีวิต
หนุ่มๆสาวๆหลายคน อาจมองหาสถานที่ๆจะดูแลผิวหน้่า หรือสถานที่ๆจะเสริมให้มีความมั่นใจและดูดีมากกว่าเดิม Bajaree Aesthetic Clinic คือคำตอบ คือทุกทางออก ของทุกๆคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง !!!! พร้อมมี่ยที่จะฉีก ฉีก คุณคนเดิมทิ้งไป ฉีก เพื่อคุณคนใหม่ที่ดีกว่า ฉีก แล้วก้าวออกมาเป็นตัวคุณที่มั่นใจอีกครั้ง
ฉีก ฉีกคุณคนเดิมที่ถูกเขาทิ้งไป ฉีก เพื่อพบกับคนใหม่ๆที่ดีกว่า
ฉีก เพื่อก้าวออกมาเป็นตัวเองอีกครั้ง ฉีก ทุกประสบการณ์ด้านความงาม เพราะบาจรีย์ ทำให้คุณดูดีได้มากกว่า ....

06/12/2023

เมื่อคุณเริ่ม “ทำเงิน” ได้ระดับนึง
คุณจะไม่อยากเสียเวลาไปกับ “เรื่องคนอื่น”
เพราะคุณรู้ดีว่า “ทุกวินาที” ที่เสียไป
สามารถ “ตีมูลค่า” เป็นเงินได้มหาศาล
ดังนั้น หากมีใครคอยแวะ
มา “แขวะ” คุณบ่อยๆ
จงอย่าได้สนใจ
เพราะถ้าเขา “เอาเวลา” มาแขวะคุณได้
นั่นหมายความว่า “มูลค่าเวลา” ของเขา
มันเทียบไม่ได้เลยกับคุณ แม้กระทั่ง “เศษเวลา”
เขียนโดย #สมองไหล
#สังคมคนสร้างธุรกิจจากศูนย์

24/07/2023
HBD...สุขสันต์วันเกิดลูกชายสุดที่รัก ขอให้ร่ำรวยเงินทอง ไม่เจ็บไม่จน สมหวังทุกประการ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยโปรดช่วยคุ้...
31/05/2023

HBD...สุขสันต์วันเกิดลูกชายสุดที่รัก ขอให้ร่ำรวยเงินทอง ไม่เจ็บไม่จน สมหวังทุกประการ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยโปรดช่วยคุ้มครองคุ้มภัย ให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตด้วยเทอญ

25/05/2023

พนักงานยังลาออกอยู่เรื่อยๆ คนไม่พอ
ผมจึงพยายามหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร
แล้วก็พบว่า เจ้าของร้านใจดีเกินไป
ถ้าคุณห่วงภาพลักษณ์เป็นคนดี จิตใจดี
พูดจาดี และกลัวว่าลูกน้องจะโกรธ
ร้านก็จะไม่มีกฎระเบียบ
ตัวอย่างเช่น
1.พนักงานรู้ว่าคุณใจดี เลยมาสาย
คุณก็ไม่กล้าดุ เพราะกลัวลูกน้องโกรธ
2. พนักงานพักกินข้าวนาน เลยเข้าสาย
คุณก็ไม่กล้าดุ เพราะกลัวลูกน้องโกรธ
3. ให้พนักงานกินของในร้านได้ ทำกินเอง
พนักงานก็จะใส่ของแพง ตักข้าวหมด
และไม่ยอมหุงเพิ่ม ลูกค้าสั่งไม่มีเสียออเดอร์
4. ไม่มีการนับสต๊อกเพราะพนักงานบ่นเหนื่อย
พนักงานเห็นช่องโหว่ ทุจริตแอบเอากลับไปกิน
5. ไม่มีการจัดตารางงานให้ชัดเจน
ว่าใครต้องทำอะไร พนักงานแอบอู้ได้
เกี่ยงงานกัน ทะเลาะกัน
เจ้าของร้านก็ไม่กล้าจัดการ
6. พนักงานเสื้อหลุด เสื้อไม่รีดมาทำงาน
เจ้าของร้านก็ไม่กล้าดุกล้าว่า ลูกค้าเห็นแล้ว
รู้สึกว่าร้านไม่พร้อม
7. ชุดยูนิฟอร์ม ต้องใส่หมวก
แต่ลูกน้องไม่อยากใส่ ก็ตามใจลูกน้อง
จนเสียนิสัย
8. พนักงานขอลาหยุด 7 วันยาว
ทั้งที่คุณคนขาด แต่ก็ต้องให้
เพราะกลัวว่าพนักงานคนนี้ทำงานดี
จะไม่กลับมาทำงานอีก
9. พนักงานขอให้ออกเงินให้เป็นรายวัน
คุณก็ยอมออกให้เพราะกลัวว่าเขาเดือดร้อน
แต่พอพนักงานได้เงินรายวัน ก็หายไปเลย
10. เจ้าของร้านชอบเลี้ยงน้อง ให้ทิปเยอะๆ
ถึงวันที่ไม่ให้พนักงานจะเริ่มงอแง อิดออด
ไม่ทำงาน และบ่นนู้นนี่นั่น มีปัญหาทั้งวัน
เพราะเราไปสปอยเขามากเกินไป
เรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากความใจดี
ของเราที่บางครั้ง
กลายเป็นข้อเสียมากกว่าข้อดี
ซึ่งก็ไม่ได้อยากให้ ใจร้ายกับพนักงาน
แต่ถ้าจะแก้ปัญหานี้ ได้ด้วยการสร้างกฎระเบียบ
ไว้ตั้งแต่แรกที่พนักงานเข้ามา
เพื่อให้รู้ว่า "กฎก็คือกฎ"
ในตอนนั้นผมมีกฎข้อนึงที่จำเป็นต้องออกให้
คือ การปรับเงิน พนักงานในร้านเมื่อทำอาหารผิด
หรือลูกค้าแจ้งว่าไม่ได้สั่ง
ผมเชื่อว่าปัญหานี้หลายคนคงจะเคยเจอ
และอาหารจานนั้นก็มีต้นทุนที่ร้านต้องรับไป
จะไม่มีปัญหาเลยถ้าเดือนนึงผิดแค่ครั้งเดียว
แต่ร้านที่ผมทำอยู่ มันผิดเยอะจนน่าแปลกใจ
ที่ร้านไม่มีการปรับ ไม่มีกฎระเบียบตรงนี้มาควบคุม
แล้วอาหารที่ทำผิดนั้น มันไปอยู่ที่ไหน
แน่นอนว่า แม่ครัว หรือเด็กเสิร์ฟก็จะเก็บไว้กิน
ปัญหานี้มันเลยอยู๋ที่ว่า ลูกค้าสั่งผิด หรือจริงแล้ว
พนักงานแกล้งทำออเดอร์ผิดเพื่ออยากกินเอง
กฎระเบียบที่ออกมาในตอนนั้น คือหากใครทำผิด
ต้องจ่ายค่าอาหารนั้น และเอาอาหารกลับไปกินได้
กฎนี้ทำเอาพนักงานบ่นกันหนาหู
หาว่าผู้บริหารใจร้าย ถ้าใจไม่แข็งพอ
ก็คงล้มเลิกไม่กล้าทำต่อ แต่เพราะเราเอาจริง
เราถึงเข้าใจว่าจริงๆแล้วพนักงานก็บ่นไปงั้น
แต่กฎก็คือกฎที่เขาต้องยอมรับใครอยู่ไม่ได้
ก็ไม่เหมาะกับการอยู๋ร้านของเรา
พนักงานถามว่า แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครผิด
1. ลูกค้าสั่งผิดเอง ให้ตรวจสอบที่
พนักงานเสิร์ฟต้องทวนออเดอร์ทุกครั้ง

2. พนักงานคีย์ผิด ให้ตรวจสอบที่
จอเครื่องรับออเดอร์ตรงกับที่จดในกระดาษไหม

3. คนทำอาหารทำผิด ให้ตรงสอบที่
บิลที่เข้าไปในครัว กับอาหารที่ออกมา

เมื่อเราตรวจไปตามจุดต่างๆ เราก็จะรู้ว่าใครผิด
และให้แต่ละคนรับผิดชอบไปตามสิ่งที่ทำ
ผลคือในช่วงแรก ก็มีปัญหาโดนปรับกันไป
แต่คนที่โดนปรับกลับมีผลทำงานที่ดีขึ้นชัดเจน
เพราะเขาจะเริ่มละเอียดขึ้นในการทวนออเดอร์
เขาไม่กล้าทำผิดอีก เพราะมีการหักเงินจริง
เมื่อไรก็ตามที่กฎระเบียบมันชัดเจน
และตรวจสอบได้ว่าใครถูกหรือผิด
มนุษย์ทุกคนรู้แก่ใจดีว่า อะไรถูกผิด
แต่ถ้าไม่มีกฎบังคับไม่มีหลักยึด
ทุกคนก็พร้อมจะเบี่ยงเบนออกจากถนน
กำหนดเส้นกรอบให้พนักงานเดินให้ตรง
ร้านคุณจะมีพนักงานที่ยอดเยี่ยม
เลิกใจดีแบบผิดๆ เปลี่ยนร้านใหม่ให้ดีกว่าเดิม
ไปสร้างกฎระเบียบที่ดีให้พนักงานกันตั้งแต่วันนี้
เนื้อหาส่วนนึงของ E-Book 99 วิธีขายดีไม่เฝ้าร้าน
หนังสือที่เจ้าของร้านที่มีลูกน้อง ดูแลพนักงาน ควรมี
ไม่อยากนั่งเฝ้าร้านไปตลอดชีวิต ทัก >> m.me/kaideegun
เขียนโดย เจ้าของเพจขายดีไปด้วยกัน

27/03/2023

#เกร็ดความรู้วิชาการกันหน่อยเนอะ #สวยหล่ออย่างมีความรู้ #สวยหล่ออย่างมีสติ #สวยหล่ออย่างปลอดภัย

เมโสแฟต❤ เป็นวิธีการหนึ่งของการทำสปาบำบัด โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ การสลายไขมันในส่วนที่เป็นปัญหาโดยเฉพาะ วิธีการนี้ถือได้ว่าเป็นการลดไขมันเฉพาะจุดก็ว่าได้ หนุ่มๆสาวๆที่มีปัญหาเกี่ยวกับการไม่กระชับของผิวหน้าและผิวกาย และรูปร่าง เนื่องจากมีการสะสมของไขมันในจุดที่ไม่ต้องการ ลองนึกภาพดูเอาเถอะว่าตอนเอาไขมันเข้าสู่ร่างกาย แสนจะ
ง่ายดาย แค่กินแล้วนอนเดี๋ยวเดียวก็ไขมันก็มา แต่พอตอนจะเอาออกนี่สิยุ่งยากเป็นที่สุด ทำยังไงก็ไม่ยอมออกไปง่ายๆ แถมยังดื้อทนไม่นำพาต่อวิธีการใดใดที่โหมประโคมลงไปเพื่อจัดการกับไขมันพวกนี้ จนในที่สุดเทคโนโลยีทางการแพทย์ก็ค้นพบวิธีที่จะจัดการกับไขมันให้ออกไปจากร่างกายของเรา ด้วยวิธีที่แสนพิเศษอีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายของเรา เราเรียกวิธีการนี้ว่า meso fat
เมโสแฟต คือการฉีดสารเคมีที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงเข้าสู่ร่างกายในจุดที่ต้องการสลายไขมัน ซึ่งสารเคมีเหล่านี้ต้องเป็นสารเคมีที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) เพื่อวัตถุประสงค์ในการบำบัดด้วย วิธีเมโสแฟต เท่านั้น อีกทั้งผู้ที่จะทำการเข้าสู่ร่างกายได้ จะต้องเป็นชำนาญการและต้องเป็นผู้มีความรู้ในเรื่องนี้เป็นอย่างดี
การฉีด mesofat จะเป็นการนำเอาสารเคมีบางอย่างฉีดเข้าไปยังผิวหนังชั้นกลาง (meso) ที่อุดมไปด้วยชั้นไขมัน คอลลาเจน อีลาสตินรากผม เซลล์ประสาทและต่อมเหงื่อ เพราะฉะนั้นผิวหนังชั้นนี้จึงเป็นชั้นที่เป็นศูนย์รวมของความงามที่สาวๆต้องการแทบทั้งสิ้น และการกระทำส่วนใหญ่ที่ทำลงไปบนผิวหนังที่เกี่ยวกับความสวยงาม ความตึงกระชับ ก็จะทำกันที่ชั้นผิวหนังนี้นี่เอง และเมโสแฟตก็เช่นเดียวกัน เวลาที่เราฉีดสารประมิทธิภาพสูงเข้าไป สารเหล่านั้นก็จะเข้าไปปรับแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดในที่ที่มีไขมันอยู่ จึงมั่นใจได้ว่ามันจะเป็นวิธีที่ได้ผลโดยตรงในจุดนั้น และไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อในส่วนอื่นๆอย่างแน่นอ
ขอเล่าย้อนกลับไปนิดนึงถึงที่มาที่ไปของการทำ ” เมโสแฟต ” ว่าผู้ที่คิดค้นเทคนิคนี้คือ Dr. Michel Pistor ชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเป็นคุณหมอผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการผ่าตัดและการเย็บเส้นเลือดรวมถึงการรักษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อซึ่งจะต้องทำในชั้นผิวหนังที่เรียกว่าชั้นเมโสนี้เอง คุณหมอได้พัฒนาเทคนิคนี้ขึ้นมาในปี 1952 ซึ่งแต่เดิมคุณหมอใช้วิธีการฉีดยาเพื่อลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ เข้าไปในผิวหนังชั้นนี้ ซึ่งเป็นชั้นที่มีระบบประสาทและมีระบบการไหลเวียนเลือด

27/01/2023

แค่รู้จักคนที่ "เก่ง เด่น ดัง"
นั้นไม่ได้หมายความว่า เขาจะช่วยคุณ
เพราะคำว่า "เพื่อน"
นั้นแตกต่างจาก "คอนเนคชั่น"
เพื่อนสนิทกัน เพราะมีเรื่องราวร่วมกัน
ส่วนคอนเนคชั่น ลึกกว่านั้น
คือ "คนที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน"
โดยมีความสัมพันธ์หล่อเลี้ยง
เกื้อหนุนกัน เป็นระยะๆ
ดังนั้น แยกให้ออกก่อนว่า
คนนี้เป็น "เพื่อน" หรือ "คอนเนคชั่น"
จะได้รู้ว่า คนไหน ช่วยได้แค่ไหน
และแบบไหนคือ " ไปรบกวนเขา "

#ไปให้ถึง100ล้าน

ที่อยู่

270/4 ชั้น1 อาคาร A, TC Green Condo Phase1 ถ. พระราม9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง
Bangkok
10310

เวลาทำการ

อังคาร 11:30 - 20:30
พุธ 11:30 - 20:30
พฤหัสบดี 11:30 - 21:30
ศุกร์ 11:30 - 20:30
เสาร์ 11:30 - 20:30

เบอร์โทรศัพท์

0968293536

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Bajaree Aesthetic Clinicผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram