02/04/2021
มีปัญหาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครับ
หมอสูติ หมอเด็ก หมอ Med เคยเจอผลโครโมโซมแบบนี้ไหมครับ
47, XX +mar
47, XY +mar
47, XX +mar/46, XX
47, XY +mar/46, XY
ส่วนมากการตรวจโครโมโซมเราจะส่งหาสาเหตุการก่อโรคในคนที่ความผิดปกติของสติปัญญาและการเรียนรู้ พัฒนาการช้า ออทิสติก ความผิดปกติโดยกำเนิดของหลายอวัยวะ คนที่มีปัญหาแท้งบ่อย คนที่มีปัญหาด้านการเจริญพันธุ์ ทารกที่มีความผิดปกติของการสร้างอวัยวะในครรภ์ รวมถึงการส่งคัดกรองดาวน์ซินโดรมในหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง
แต่พอผลออกมาดังกล่าวเราจะบอกคนไข้ว่ายังไงดี
หรือว่าจะต้องพิสูจน์โรคอย่างไร โดยเฉพาะประเด็นของทารกในครรภ์ที่ sensitive มาก อาจทำให้เกิดไปถึงปลายทางคือการตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ได้ เพราะภาพจำของคนทั่วไปคือคนปกติมีโครโมโซม 46 แท่ง การเห็นเลข 47 มันให้ความรู้สึกถึงความผิดปกติ แต่พอเข้าไปดูรายละเอียดของคำว่า +mar ปรากฎว่าเป็นชิ้นส่วนโครโมโซมเล็กๆที่ดูไม่ออกเลยครับว่าหลุดหรืองอกมาจากโครโมโซมใด
Mar คือ marker chromosome หรือชื่อเต็มคือ Small Supernumerary Marker Chromosome เดี๋ยวต่อไปนี้จะขอเรียกชื่อย่อว่า sSMC นะครับ
sSMC คือชิ้นส่วนโครโมโซมเล็กๆที่เป็นผลตามหลังวิวัฒนาการ เช่น ชิ้นส่วนโครโมโซมนี้อาจจะเคยเป็นโครโมโซมชิ้นใหญ่มาก่อน แต่เกิดวิวัฒนาการให้มีการตัดหัวตัดท้ายหรือทำให้สั้นลง จนเป็น marker ประจำตัวเจ้าของร่างกาย เปรียบเทียบเหมือนไฝ ฝ้า บนผิวหนังก็ได้ แต่บางทีการเห็นไฝครั้งแรกโดยไม่มีอาการ ก็ไม่มีใครบอกได้ใช่ไหมครับว่ามันจะเป็นมะเร็งผิวหนังหรือเปล่า ก็ต้องอาศัยการประเมินทางคลินิกนะว่าจุดดำแบบนี้คือพบได้ในคนปกติ หรือจุดดำแบบนี้ หน้าตาไม่น่าไว้วางใจ อาจจะเป็นมะเร็งได้
ดังนั้น sSMC ก็เช่นกัน อาจเป็นแค่ marker ประจำตระกูลของเรา หรือเป็นตัวสร้างปัญหาให้เกิดความผิดปกติในคนไข้ก็ได้ครับ มีคนประเมินทางสถิติแล้วว่าประชากรโลกมนุษย์ของเราประมาณ 3.5 ล้านคน ก็มีเจ้า sSMC นี้อยู่ในตัวนั่นแหละครับ และคนเหล่านี้มากกว่า 70% ล้วนแต่เป็นคนปกติ
ใช่ครับ แปลว่ามีคนที่มี sSMC นี้ประมาณ 30% ที่อาจจะก่อปัญหา ดังนั้นเจอคนไข้ครั้งแรกอย่าออกตัวแรงว่าการมีโครโมโซม 47 แท่ง โดยมี marker เกินมานี้จะก่อโรค สิ่งที่แนะนำให้ปฏิบัติคือ
1. sSMC นี้อาจเป็นชิ้นส่วนทางวิวัฒนาการประจำตระกูลก็ได้ แนะนำเจาะโครโมโซมพ่อแม่ก่อนเลย ถ้าพ่อแม่มีด้วยเหมือนกันก็จบครับ เวลาให้คำปรึกษาก็คือน่าจะไม่ก่อปัญหาอะไร ถ้าทารกหรือคนไข้มีอาการอื่นๆ ก็ต้องไปหาโรคใหม่ อาจจะไม่เกี่ยวกับโครโมโซมแบบนี้
2. ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นใหม่หรือ de novo จะทำยังไง ก็คือพ่อแม่ไม่ได้ถ่ายทอดมาให้ลูก แต่อย่างที่กล่าวมาชิ้นส่วนนี้เป็นผลตามหลังวิวัฒนาการ ซึ่งพบบ่อยว่าเจ้าชิ้นเล็กๆนี้ไม่ได้เหลือยีนอะไรที่จะก่อโรคได้ แต่ตามระเบียบ อะไรที่พ่อแม่ไม่มี แล้วลูกผ่าเหล่าขึ้นมา ก็ควรต้องพิสูจน์ ก็จะมีเครื่องมือทางพันธุศาสตร์มาใช้ เช่น การส่งตรวจ microarray หรือ FISH เพื่อดูว่าชิ้นส่วน sSMC มีส่วนประกอบของยีนที่มีความหมายทางคลินิกหรือไม่ครับ ถ้ามี เช่น sSMC นี้ถูกยืนยันไปแล้วว่ามาจากโครโมโซม 18 ที่สั้นลง และชิ้นส่วนโครโมโซม 18 นี้มียีนที่อธิบายความผิดปกติได้ เราก็จะอธิบายคนไข้ว่าเป็น partial trisomy 18 เป็นต้น
3. กรณีที่ผ่าเหล่า พิสูจน์ microarray ก็ปกติ ยังต้องบอกคนไข้ว่ามีโอกาสประมาณ 5% ที่เจ้า sSMC นี้ก่อโรคได้ ด้วยปัญหาจากสิ่งที่เรียกว่า Uniparental disomy (UPD) โดยตัวอ่อนมีโครโมโซมหลักที่ส่งผ่านมาจากพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งความต้องสงสัยจะสูงขึ้นมาก ถ้าชิ้นส่วน marker นั้นมาจากโครโมโซมดังต่อไปนี้ครับ ได้แก่ 6,7,11,14,15,16,20
ดังนั้นโดยสรุปนะครับ ถ้าตรวจพบ sSMC ไม่ว่าในเลือดหรือน้ำคร่ำ แปลความหมายได้ทั้งเป็นสิ่งบังเอิญเจอในคนปกติซึ่งเป็นส่วนใหญ่ที่เราพบเจอ หรือ อาจจะมีผลต่อการเกิดโรคก็ได้ ดังนั้นต้องแปลผลอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะใน setting ของการตรวจเจอในทารกในครรภ์
ที่เน้นย้ำเสมอคือการสื่อสารกับคนไข้ครับ หลายอย่างไม่ได้พิสูจน์ได้ในวันเดียว มี step ต่อเนื่องมากมาย โดยเฉพาะกรณีตรวจเจอในทารกในครรภ์ซึ่งมักก่อให้เกิดความทุกข์ของคนเป็นพ่อเป็นแม่เสมอ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องอย่างไม่มีอคติ และ support จิตใจของคนเป็นพ่อแม่เป็นสิ่งสำคัญสุดในกรณีที่ตรวจพบความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นครับ
#โรคพันธุกรรมอยู่รอบตัวคุณ