31/05/2021
#ฉีดดีไหม
เอาล่ะสิ ตอนไม่มีวัคซีนก็อยากฉีด เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่จะมีให้ฉีด.. พอมีให้ฉีด ตอนนี้คำถามฮิตกลายเป็น ฉีดดีไหม ? ฉีดตัวไหนดี ? (เลือกได้ที่ไหนล่ะ 🤣) ฉีดเมื่อไหร่ดี ?
แถมพอมีข่าวคนฉีดแล้วมีอาการจากผลข้างเคียงต่างๆนานา ตอนนี้เลยมีคำถามเพิ่มมาอีก ..
กินยานี้ฉีดได้ไหม.. เป็นโรคนี้ฉีดได้ไหม ?
อ่า.. หมอๆ เองก็ตอบคำถามกันมึนเลยจ้ะ 😅
วันนี้มาแบบตอบคำถามคร่าวๆให้นะคะ เผื่อจะช่วยในการตัดสินใจและวางแผนให้กับบรรดาสตรีไทยที่จะได้คิวฉีดวัคซีนกันเร็วๆนี้... 555
*** ต้องบอกก่อนว่า ข้อมูลของวัคซีน COVID 19 นั้นยังไม่นิ่งค่ะ เพราะเป็นวัคซีนใหม่ ข้อมูลวันนี้คือของวันนี้ พรุ่งนี้ก็อาจเปลี่ยนไปอีก เมื่อมีการใช้เพิ่มขึ้นและมีข้อมูลเยอะขึ้น เป็นเรื่องปกติทางการแพทย์นะคะ ที่ทุกองค์ความรู้ต้อง Update อยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น.. อ่านวันนี้แล้ว ก็ยังต้องคอยติดตามฟังข่าวอยู่เสมอนะคะ เพราะก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงอีก ***
#สตรีตั้งครรภ์
• สตรีตั้งครรภ์สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ ยกเว้นกรณีที่มีข้อห้าม เช่น มีประวัติแพ้วัคซีน (ควรให้ข้อมูลวัคซีนตัวที่เคยแพ้ และปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน) , มีอาการแพ้รุนแรงจากการฉีดครั้งแรก
• ช่วงอายุครรภ์ที่แนะนำฉีดวัคซีน คือ หลังอายุครรภ์ 12 สัปดาห์
• กรณีฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้วก่อนทราบว่าตั้งครรภ์ อาจให้ชะลอการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ไปเป็นช่วงหลังอายุครรภ์ 12 สัปดาห์
• วัคซีนที่มีใช้ในประเทศไทย (ณ วันนี้ 😂) มี Sinovac และ AstraZeneca จากข้อมูลเบื้องต้นสามารถใช้ได้ทั้งสองชนิด แต่วัคซีน ชนิดเชื้อตาย (Sinovac) มีอัตราการเกิดไข้หลังฉีดน้อยกว่า (อนาคตคงมีตัวเลือกอื่นๆมาเพิ่ม... แต่เลือกได้ไหมนั้นอีกเรื่องนะคะ 🥲)
• ในปัจจุบันข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัคซีนยังมีจำกัด แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานว่าก่อให้เกิดอันตรายต่อสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ค่ะ
#สตรีวางแผนจะตั้งครรภ์
• ฉีดได้ค่า ตัวไหนก็ได้ แต่ถ้าได้ฉีดตัว AstraZeneca กว่าจะได้ฉีดครบ 2 เข็มก็จะใช้เวลานานกว่าสักหน่อย ถ้าตั้งใจจะฉีดวัคซีนให้ครบก่อนตั้งครรภ์
• แน่นอนว่าการมีภูมิคุ้มกันก่อนตั้งครรภ์ย่อมเป็นเรื่องดี เพราะเกิดไปติดเชื้อขึ้นมาระหว่างตั้งครรภ์อยู่คงจะเครียดน่าดูเลยค่ะ ทั้งห่วงทารกในครรภ์ที่อาจได้รับผลกระทบ และการดูแลรักษาภาวะติดเชื้อชนิดมีอาการรุนแรงในขณะตั้งครรภ์ก็ติดข้อจำกัดหลายๆเรื่องอยู่เหมือนกัน ฉะนั้นถ้ามีโอกาสได้ฉีดและไม่มีข้อห้ามอื่นๆ ก็ฉีดกันนะคะ 😊
#สตรีหลังคลอดและให้นมบุตร
• ถ้าเป็นการคลอดที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ติดตามอาการหลังคลอดกับคุณหมอแล้วปกติดี สามารถฉีดได้ค่ะ ตัวไหนก็ได้ และให้นมบุตรต่อได้ตามปกติ 😉
• กรณีเป็นการคลอดที่มีภาวะแทรกซ้อน ให้ปรึกษาสูติแพทย์/อายุรแพทย์ที่ดูแลก่อนค่ะ ว่าจำเป็นต้องรออาการคงที่ก่อนหรือไม่ นานแค่ไหน เช่น มีภาวะครรภ์เป็นพิษ ยังคุมความดันหลังคลอดไม่ได้ , มีภาวะชัก เลือดออกในสมอง ยังรอติดตามอาการใกล้ชิดอยู่ , มีภาวะไทรอยด์เป็นพิษที่กำเริบรุนแรงขณะคลอด เป็นต้น
#สตรีใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมหรือใช้ฮอร์โมนในการรักษาโรคทางนรีเวช
• ตามข้อมูลที่มีในปัจจุบัน (ถึงวันนี้.. 🤣) ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าจำเป็นจะต้องหยุดยาฮอร์โมนก่อนการไปฉีดวัคซีนนะคะ เพราะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นตามข่าวนั้น มีสาเหตุเกิดจากวัคซีนแบบ 100%
• แต่แน่นอนว่า.. หลายๆคนคงไม่สบายใจ ดังนั้นหมอขอให้คำแนะนำดังนี้ค่ะ ถ้าต้องการหยุดยาฮอร์โมนที่ใช้อยู่ ให้ปรึกษาคุณหมอที่ดูแลก่อนค่ะ
• กรณีใช้ยาเพื่อการรักษาโรค (ไม่ว่าจะเป็นยาคุมกำเนิดหรือยารักษาภาวะวัยทอง) แนะนำปรึกษาคุณหมอผู้ดูแลค่ะ เพราะต้องให้คุณหมอพิจารณาว่าการหยุดยาจะเป็นอันตรายหรือก่อผลเสียต่อการรักษาและควบคุมโรคหรือไม่ ถ้าชั่งน้ำหนักกันแล้วไม่คุ้มเสี่ยง หยุดยาแล้วมีโอกาสที่โรคนั้นๆจะแย่ลงมากกว่าโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงจากวัคซีนอีก ก็ไม่ควรหยุดค่ะ
• กรณีกินยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมเพื่อคุมกำเนิด ไม่ได้มีโรคอื่นๆที่ต้องรักษา สามารถหยุดยาได้ค่ะ ** แต่ต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นด้วยนะคะ ถ้ายังไม่อยากตั้งครรภ์ ** ง่ายๆก็ถุงยางค่ะ สะดวก ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และไม่มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมนแน่นอน 🤭
• ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนค่ะ ว่าหยุดยานานแค่ไหนจะปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะลิ่มเลือด/หลอดเลือดดำอุดตัน (เพราะว่าการเกิดภาวะลิ่มเลือด/หลอดเลือดดำอุดตันนั้น อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆได้อีก) แต่ถ้ายึดหลักเหมือนที่หมอๆใช้กันในการเตรียมผู้ป่วยเพื่อการผ่าตัดในบางกรณีที่เสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะลิ่มเลือด/หลอดเลือดดำอุดตัน เราจะให้หยุดยาก่อนประมาณ 1 เดือนค่ะ
• แต่หนูได้คิวฉีดวัคซีนในอีก 2 สัปดาห์นี้แล้วค่ะหมอ.. 😅 ... 555 นั่นน่ะสิ เลยไม่รู้ว่าหยุดตอนนี้แล้วจะช่วยอะไรได้แค่ไหนยังไงล่ะจ๊ะ แถมคิวฉีดวัคซีนก็ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ ถ้าเลื่อนไปจะได้คิวใหม่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้อีก .. ชีวิตช่างลำบาก 🤣
• กรณีใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว เช่น ยาฉีด ยาฝัง หรือคุมกำเนิดด้วยห่วงคุมกำเนิด ยังไม่มีข้อมูลว่าเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะลิ่มเลือด/หลอดเลือดดำอุดตันค่ะ
• แถมๆ โอกาสเกิดลิ่มเลือด/หลอดเลือดดำอุดตัน จะสูงในคนที่มีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ค่ะ (ไม่ว่าจะกินยาคุมหรือฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ตาม)
: อ้วน
: สูบบุหรี่
: เป็นเบาหวาน
: ความดันโลหิตสูง
: เป็นโรคตับชนิดที่การทำงานของตับผิดปกติรุนแรง
: มีประวัติโรคเลือดหลอดสมอง /โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
: มีประวัติลิ่มเลือด/หลอดเลือดอุดตัน
: มะเร็งเต้านม
: อายุมาก
: เป็นต้น
#สตรีมีโรคประจำตัวและมียาประจำ
• เช่นกันค่ะ สำคัญที่สุดคือให้ปรึกษาคุณหมอผู้ดูแลค่ะ เพราะต้องใช้ข้อมูลหลายๆด้านประกอบกัน เช่น สภาวะของโรค โรคสงบควบคุมได้หรือไม่ ยาที่กินมีความเสี่ยงที่ต้องหยุด/ลดหรือไม่ อันนี้ไม่สามารถตอบให้ได้อย่างละเอียดถ้าไม่มีข้อมูลพอค่ะ (และควรเป็นหมอเฉพาะทางโรคนั้นๆเป็นผู้พิจารณาด้วยนะคะ ไม่ใช่เป็นโรคสมองแต่ไปถามคุณหมอทางเดินอาหารน้า 😅 หมอคงไม่กล้าฟันธงแทนหมอสาขาอื่นๆค่า)
• *** ห้ามหยุดยาประจำเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ *** ย้ำนะคะ.. หลายๆคนอ่านข่าวแล้วกังวล ทั้งข่าวจริงข่าวลวง เพื่อนบ้านส่งไลน์กลุ่มมาบ้างอะไรบ้าง ซึ่งอาจไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้อง หยุดยาแล้วอันตรายมากๆ โดยเฉพาะในโรคเรื้อรังหลายๆชนิด เช่น ความดันสูง (อาจมีเส้นเลือดสมองแตกได้) , เบาหวาน (น้ำตาลสูงจน coma หมดสติได้) , ไทรอยด์เป็นพิษ (เกิดอาการกำเริบรุนแรงถึงตายนะคะอันนี้ ) , โรคลมชัก (ชักต่อเนื่องนานๆนี่ก็เลือดออกในสมองได้) , โรคทางจิตเวช เป็นต้น
• กรณีโรคยังไม่สงบ แพทย์จะแนะนำให้ชะลอการฉีดวัคซีนไปก่อนจนกว่าจะควบคุมโรคได้ค่ะ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง/หลอดเลือดหัวใจที่เพิ่งเป็นไม่นานหรือยังอยู่ระหว่างปรับยา , เพิ่งได้รับการผ่าตัดบางชนิดมา , มะเร็งที่รับยาเคมีบำบัดบางชนิดและมีค่าเม็ดเลือดขาวต่ำ เป็นต้น
• มีโรคประจำตัวที่ควบคุมโรคได้ดี อาการสงบ ค่าเลือดอยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้มาตลอด ไม่ว่าจะเป็น ความดันสูง เบาหวาน โรคไต ลมชัก SLE มะเร็ง เอดส์ โรคหัวใจ ภูมิแพ้ สามารถฉีดวัคซีนได้ค่ะ
#อื่นๆที่ควรรู้
• ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 พร้อมกับวัคซีนชนิดอื่น ๆ ยกเว้นมีความจำเป็น
• การฉีดวัคซีนชนิดอื่น ๆ ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 (-4) สัปดาห์ก่อนและหลังจากฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19
• กรณีไม่สบาย มีไข้ เป็นหวัด ควรรอหายก่อนไปรับวัคซีน
อ่านข้อมูลข้างต้นกันแล้ว ก็ลองพิจารณาดูตามความเหมาะสมและปรึกษาคุณหมอที่เรารักษาต่อเนื่องด้วย จะได้มั่นใจว่าสามารถไปรับวัคซีนได้อย่างปลอดภัยและสบายใจค่ะ
ดูแลสุขภาพกันนะ ขอให้ปลอดภัยห่างไกล COVID กันทุกคนค่า 😘
แอดมินหมอแอน
สูตินรีแพทย์เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์
ปล.ลงบทความวันนี้ 31 พค. 2564 เวลา 18.30 น.นะคะ 🤣🤣🤣 เลยจากวันและเวลานี้แล้วก็ติดตามข่าวและข้อมูลใหม่ๆกันต่อไปจร้าา #บีบมืออออ