09/09/2019
ลูกชายอายุ 1 ขวบ 18 วัน คุณแม่ฟูลไทม์เลี้ยงเองค่ะ คือลูกเพิ่งจะเริ่มหัดกรี๊ด ถ้าแม่ไม่ให้ ลูกจะแสดงพฤติกรรมโดยการกรี๊ดเสียงดังมาก จนแม่และคนอื่นๆตกใจ ถ้าเรายื่นของให้ทุกครั้งที่เขากรี๊ด กลัวว่าจะกลายเป็นการสร้างพฤติกรรมกรี๊ดแล้วพ่อกับแม่ถึงจะยอม อันนี้แม่กลัวมาก....แม่พยายามพูดแล้ว เบี่ยงเบนความสนใจ แต่บางครั้งก็ใจอ่อนให้ลูก เพราะเขายังเล็กมากแค่หนึ่งขวบ บางครั้งแม่ก็ลองเพิกเฉย ตอนลูกกรี๊ด แต่เสียงยิ่งดังขึ้น ทำยังไงดีคะคุณหมอ?
...........................
เด็กกำลังเรียนรู้วิธีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น และเขาใช้การกรี๊ดเป็นตัวสื่อสารค่ะ.. แม้การกรี๊ดจะเรียกคนให้สนใจได้จริง แต่วิธีแบบนี้ไม่พัฒนาทักษะสังคม, ไม่ช่วยพัฒนาภาษาและอาจติดใจร้อน เอาแต่ใจได้...ถึงแม้จะเป็นตามวัย พ่อแม่อย่างเราก็ต้องช่วยลูกค่ะ
เราต้องช่วยลูก “ปฏิสัมพันธ์และสื่อสารในรูปแบบใหม่” ไม่ใช่เพิกเฉยนะคะ...ย้ำไม่ใช่เพิกเฉย 😊
วิธีการช่วยเน้นที่ “ปฏิสัมพันธ์กับเรา” ถือเป็นหัวใจของการแก้ปัญหานี้เลย...ชวนลูกเล่นจ้ะเอ๋, ชวนร้องเพลง เช่น จับปูดำ, โยกเยกเอย, wheel on the bus, ชวนลูกเต้น, ชวนสนุกกับการเล่นสีหน้าของเรา, ฯลฯ เกมส์อะไรก็ได้ที่เน้น “สีหน้า ท่าทางของมนุษย์แม่” ไม่ใช้สิ่งของ....ย้ำ! เล่นกับแม่ ไม่ใช่ แม่เอาของเล่นมาเล่นกับลูก😅..
เน้นปฏิสัมพันธ์กับเราที่ลูกได้ “สบตาและมีรอยยิ้มร่วม” กับพ่อแม่...เชื่อมั๊ยคะ หมอรับปรึกษาเคสแบบนี้ที่ห้องตรวจเกือบทุกวัน และก็สอนผู้ปกครองเล่นจ้ะเอ๋ จับปูดำ ทุกวัน! เด็กๆเดี๋ยวนี้กรี๊ดไว บางคน 7-8 เดือนก็เริ่มกรี๊ดแล้ว..
ปัญหาของเด็กชอบกรี๊ดและอายุน้อยลงเรื่อยๆ เกิดจาก “พ่อแม่ไม่มีตัวตน” แต่ “ของเล่นมีตัวตนมากกกก” 😰 พ่อแม่เล่นกับลูกแบบไร้ของเล่นไม่เป็น มักเอาของเล่นมาร่วมเล่นกับลูกด้วย ลูกก็เลยจดจ่อกับสิ่งของตรงหน้ามากกว่าสบตาพ่อแม่...เช่น จ้องนิทานและพร้อมขยำมากกว่าฟังแม่เล่า เป็นต้น
เมื่อพ่อแม่เล่นแบบไร้สิ่งของไม่เป็น ซึ่งลูกควรได้รับการกระตุ้นมาตั้งแต่ 4-6 เดือน พัฒนาการด้านปฏิสัมพันธ์กับคนจึงไม่ถูกพัฒนา พอเริ่มโตสัก 7-8 เดือน มือเด็กจับคล่องขึ้น เด็กก็เลยจดจ่อการจับของมากกว่าสบตาและฟังพ่อแม่... บางเคสเป็นยาวจนเข้าขวบปี เกิดปัญหาพัฒนาการด้านภาษาช้าไปด้วย และไม่นิ่ง เดินไปมาตลอดทั้งวัน...
ทั้งนี้ก็เพราะเด็กขาดการกระตุ้นพัฒนาการด้านปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นมาตั้งแต่ช่วง 6 เดือน สมองจึงจดจ่อกับสิ่งของมากกว่าพ่อแม่ที่อยู่ข้างๆ ...ถ้าลูกใครเป็นแบบนี้ก็บอกได้ชัดว่า “พ่อแม่ไม่มีตัวตน” แต่สิ่งของมีตัวตนมาก ขอให้แก้ไขค่า ยังทัน...อย่าเพิ่งตกใจไป 😅
พอเห็นภาพนะคะ ยิ่งพ่อแม่ไม่มีตัวตน เด็กก็กรี๊ดมากขึ้น เพราะอะไรรู้มั๊ยคะ...เพราะเด็กเบื่อ ไม่มีใครเล่นด้วย! คราวนี้รู้แล้วนะคะว่า ลูกอยากมีปฏิสัมพันธ์กับคน ไม่ใช่ของเล่นอย่างเดียว คุณแม่ต้องเล่นกับลูกแบบไร้ของเล่นมากขึ้นๆๆๆๆ ตามที่หมอแนะนำ 😊..
อย่าใช้วิธีเพิกเฉย เพราะลูกกำลังพัฒนาปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอยู่...อย่ายอมหยิบของให้ทันที แต่ให้สื่อสารก่อน เพราะลูกจะยิ่งเข้าใจว่า สิ่งของเจ๋งกว่าแม่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ และจะติดใจการกรี๊ดด้วย...
ถ้ายิ่งโวยขอให้ใช้วิธีเบี่ยงเบน แต่เบี่ยงเบนมาเล่นกับเราค่ะ ย้ำ! อย่าเบี่ยงเบนด้วยสิ่งของหรือพาเดิน แต่เบี่ยงเบนมาเล่นกับสีหน้าท่าทางของแม่พร้อมทั้งค่อยๆสื่อสารสองทางกับลูกนะคะ✌️
............................
“แม่มีตัวตน” ไม่ได้มีความหมายแค่อยู่กับลูกทั้งวันหรืออ่านนิทานกับลูกทุกคืนเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการเล่นกับลูกแบบไร้ของเล่น ที่ทำให้ลูกได้สบตาและมองเห็น “แววตาของแม่” ว่าแม่ฉันมีตัวตนแบบนี้และอยากจะคุยกับฉันแบบนี้...จริงๆค่ะ 😊
#ลูกกรี๊ดเพราะพ่อแม่ไม่มีตัวตน
#เล่นแบบไร้ของเล่น
หมอเสาวภาเลี้ยงลูกเชิงบวก