รีแฮปแคร์ กายภาพบำบัดสาขาโฮมโปรพระราม 2

รีแฮปแคร์ กายภาพบำบัดสาขาโฮมโปรพระราม 2 รักษาออฟฟิศซินโดรม ปวดเข่า ปวดหลัง ?

อย่าลืมกดติดตามเพจหลักของเราเพื่อรับข้อมูลสุขภาพที่มีประโยชน์นะคะ 😊 https://m.facebook.com/rehabcareclinic1/
27/02/2022

อย่าลืมกดติดตามเพจหลักของเราเพื่อรับข้อมูลสุขภาพที่มีประโยชน์นะคะ 😊 https://m.facebook.com/rehabcareclinic1/

 #ปวดสะโพก  #ปวดก้นลึกๆ  #ชาร้าวลงขา 😫  #ทำไมนั่งนานถึงไม่ดี  #ทานยาแก้ปวดก็ไม่หาย กล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาทคืออะไร มีวิธ...
13/06/2021

#ปวดสะโพก #ปวดก้นลึกๆ #ชาร้าวลงขา 😫 #ทำไมนั่งนานถึงไม่ดี #ทานยาแก้ปวดก็ไม่หาย กล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาทคืออะไร มีวิธีป้องกันอย่างไร ปวดแค่ไหนเรียกว่าเป็นโรค ไปหาคำตอบด้วยกันเลยค่า

อาการกล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาทมีสาเหตุมาจาก
- ชอบนั่งไขว้ห้าง หรือนั่งถ่ายน้ำหนักลงสะโพกข้างเดียว
- นั่งทำงานนานๆ
- ขับรถนานๆ
- ออกกำลังกายหนักเกินไป เช่น การวิ่ง
- ยกของหนัก/ยกผิดท่า

รู้หรือไม่?
ในขณะที่เราอยู่ในอริยาบทต่างๆข้างต้น มีกล้ามเนื้อมัดเล็กที่อยู่ลึกๆในก้นของเราต้องทำงานหนัก หดตัวซ้ำๆจนเกิดการเกร็งตัวและบาดเจ็บขึ้นมา ซึ่งมักจะเกิดกับมัดกล้ามเนื้อที่เรียกว่า piriformis ซึ่งในมัดกล้ามเนื้อตัวนี้จะมีเส้นประสาทขนาดใหญ่ลอดผ่านกล้ามเนื้อมัดนี้ หากกล้ามเนื้อมัดนี้มีความตึงตัวมากๆจะส่งผลให้เกิดแรงเบียดทับเส้นประสาทและเกิดอาการปวด 😨

ส่งผลให้มีอาการดังต่อไปนี้
- ปวดก้น
- ปวดแก้มก้น
- ปวดร่วมกับชาร้าวลงมาทางขา
- รู้สึกร้อนวูบวาบ บริเวณก้น

หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบรักษาทันทีไม่ควรปล่อยไว้นานเนื่องจากหากเป็นสะสมนานๆอาจมีอาการอ่อนแรงของขาร่วมด้วย เพราะตัวเส้นประสาทถูกบีบรัดจนไม่สามารถส่งกระแสประสาทไปสั่งงานกล้ามเนื้อได้จึงทำให้มีอาการอ่อนแรงของขาตามมา

ในส่วนของการรักษา
การรักษาเบื้องต้น
- ทานยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาลดอักเสบ จะได้ผลดีในช่วงแรกหากเริ่มมีอาการปวดตึงกล้ามเนื้อไม่มาก สามารถทานยาเพื่อลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อได้

❓❓แต่ทำไมบางคนทานยามานาน อาการปวดก็ไม่ดีขึ้น

เพราะฤทธิ์ของยาจะช่วยบรรเทาอาการเพียงชั่วคราวเท่านั้นหากแต่กล้ามเนื้อ piriformis ที่มีปัญหายังคงมีความตึงตัวบีบรัดเส้นประสาทอยู่ อย่างต่อเนื่องอาการปวดร้าวนี้จะยังไม่หายไป

การรักษาทางกายภาพบำบัดกับเราจึงเป็นทางเลือกสำหรับการรักษาอาการปวดตึงกล้ามเนื้อเนื่องจากที่รีแฮปแคร์คลินิกใช้เครื่องมือกายภาพนำเข้าจากยุโรปด้วยเทคโนโลยีลดปวดล่าสุด
- เครื่องช๊อกเวฟแบบโฟกัสทั้งพลังงานคลื่นกระแทกแบบดอทและแบบเส้นตรง ลงบริเวณกล้ามเนื้อที่มีความตึงตัว
- เครื่องอัลตราซาวน์ความร้อนลึกลดปวด
- เครื่องเลเซอร์พลังงานสูงเพื่อเติมพลังงานให้เซลล์และลดการอักเสบของเส้นประสาท
- พร้อมการจัดโปรแกรมออกกำลังกายและปรับโครงสร้างร่างกายเพื่อให้หายอย่างถาวรไม่กลับมาบาดเจ็บซ้ำ

 #ออฟฟิศซินโดรม 💻โปรพิเศษสุดสำหรับคน  #เวลาน้อยแต่ปวดมาก รักษาอย่างตรงจุด ด้วยพลังงานคลื่นกระแทกลึกทุกจุดปวดกับช๊อกเวฟโฟ...
23/05/2021

#ออฟฟิศซินโดรม 💻โปรพิเศษสุดสำหรับคน #เวลาน้อยแต่ปวดมาก รักษาอย่างตรงจุด ด้วยพลังงานคลื่นกระแทกลึกทุกจุดปวดกับช๊อกเวฟโฟกัสเน้นๆ ใช้เวลาไม่นานเพียง 30 นาที จากราคาปกติ 1,200 บาท พิเศษวันนี้จ่ายเพียง 900 บาทเท่านั้น ปวดคอบ่าเรื้อรัง ปวดหลังเรื้อรัง ปวดสะโพกร้าวลงขา คุ้มสุดๆๆๆๆ จองด่วน รีบรักษาและรีบกลับไปทำงานที่เรารักกันต่อกันค่าา 🥰
🔥 โปรนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อยในราคาสุดคุ้ม โดยใช้เวลาการรักษาเพียง 30 นาที เน้นการรักษาโรคปวดเรื้อรังด้วยช๊อกเวฟโดยเฉพาะอาการปวดคอบ่า โดยจะสามารถทำการรักษาได้ 1-2 จุดค่ะ
😁 เปิดให้บริการทุกวันทั้ง 2 สาขา
1. สาขาเพชรเกษม
2. สาขาพระราม 2
สนใจทำนัดหรือสอบถามข้อมูลแอดไลน์ ได้เลยค่า

🔥  #ช๊อกเวฟไม่จำกัดช๊อต โปรคุ้มสุดๆ แค่ 4,000 บาทเท่านั้น ไม่บวกเพิ่ม ยิงได้ทั้งตัว เหมาะกับช่วงกักตัว ไม่จองไม่ได้แล้วว...
12/05/2021

🔥 #ช๊อกเวฟไม่จำกัดช๊อต โปรคุ้มสุดๆ แค่ 4,000 บาทเท่านั้น ไม่บวกเพิ่ม ยิงได้ทั้งตัว เหมาะกับช่วงกักตัว ไม่จองไม่ได้แล้วววว

🥰 ไหนใครปวดเมื่อยยกมือขึ้น ! แค่นั่งๆนอนๆแต่ปวดไปทั้งตัว ร้านนวดก็ปิด รพก็ไม่กล้าไป ต้องจัดโฟกัสช๊อกเวฟ ไล่ยิงตั้งแต่คอบ่าไหล่ สะบักใน สะบักนอก หลังบน หลังล่าง สะโพกซ้าย สะโพกขวา ตึงเข่าซ้าย เมื่อยเอ็นข้างเข่า #ปวดตรงไหนยิงตรงนั้น !

😱 ปกติราคา 1 บาทต่อ 1 ช๊อต
4,000 บาทได้ 4,000 ช๊อต
แต่ที่นี่ 4,000 บาท จัดไป 8,000++ ช๊อตยาวไปคุ้มๆ

📌 Rehabcare ทุกสาขา
📅 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
🌺 เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-19.00

💙ทำนัดสาขาเพชรเกษม: 061-801-2482
💛สาขาพระราม2: 062-773-1113

 #การปฎิบัติตัวเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย  #ข้อควรรู้ก่อนออกกำลังกายที่บ้าน การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่หากอ...
03/05/2021

#การปฎิบัติตัวเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย #ข้อควรรู้ก่อนออกกำลังกายที่บ้าน การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่หากอุปกรณ์ที่ใช้หรือออกกำลังกายผิดท่าทำให้ได้รับบาดเจ็บ เราควรจะมีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อได้รับการบาดเจ็บ 🙂

หากคุณมีอาการเหล่านี้หลังจากออกกำลังกาย
- ปวดกล้ามเนื้อแบบเฉียบพลัน
- ขยับเคลื่อนไหวแล้วปวดมาก
- สัมผัสตรงที่ปวดมีอาการบวม นูน ขึ้นมา
- มีรอยแดง มีรอยช้ำ เป็นจ้ำ
- อุณหภูมิบริเวณที่ปวด อุ่น ร้อน

อาการเหล่านี้บ่งบอกถึงว่า กล้ามเนื้อของคุณมี
''ภาวะการอักเสบแบบเฉียบพลัน''

คือ การอักเสบที่เกิดขึ้นทันทีและรวดเร็วใช้ระยะเวลาสั้น จากการใช้งานที่หนักเกินไป หรือรับแรงที่มากเกินไป ส่งผลให้มีการขยายขนาดของหลอดเลือดเล็ก พร้อมกับ การคั่งของเม็ดเลือดแดง เกิดการบวมทั่วไปของเนื้อเยื่อ

สิ่งที่ควรระวัง และ หลีกเลี่ยง หลังจากมีอาการอักเสบแบบเฉียบพลัน

- หลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้กระตุ้นอาการปวด
- ไม่ออกแรงหรือใช้งานกล้ามเนื้อมัดนั้น เช่น การยกของที่หนัก
- ไม่กด บีบ หรือนวด อย่างรุนแรง
- ไม่ใช้การประคบร้อนเพราะจะทำให้หลอดเลือดที่ได้รับการอักเสบขยายตัวเพิ่ม

การดูแลตัวเองหลังได้รับการบาดเจ็บ
โดยใช้หลัก R.I.C.E
R = Rest (พัก)คือ เมื่อมีการบาดเจ็บ จากการเล่นกีฬาส่วนใด ให้พักส่วนนั้นทันที คือ หยุดเล่นกีฬา ไม่ฝืนเล่นต่อ

I = Ice (น้ำแข็ง) คือ ใช้น้ำแข็งประคบ ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ ความเย็นจะช่วย ลดอาการบวม ควรทำทันทีหลังได้รับการบาดเจ็บ ทำครั้งละ 20-30 นาที วันละ 2-3 ครั้ง ภายใน 48 ชม.

C = Compression (รัด) การพันกระชับส่วนที่บาดเจ็บไม่ให้บวมเพิ่มขึ้น โดยใช้ผ้ายืดรัดไม่ให้แน่นเกินไป

E = Elevation (ยก) ยกส่วนนั้นให้สูงกว่าระดับหัวใจเพื่อให้เลือดไหลลงได้สะดวก ช่วยลดอาการบวม

หากอาการบาดเจ็บเหล่านี้ไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ ควรมาพบนักกายภาพบำบัดเพื่อ ตรวจวินิจฉัยอาการ และทำการรักษาทันทีเพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบแบบเรื้อรังจะรักษายากค่ะ

 #ขอบคุณรีวิวคนไข้ ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะค้า 🥰
02/05/2021

#ขอบคุณรีวิวคนไข้ ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะค้า 🥰

 #ยิมปิด  #อะไรๆก็ปิด  #ออกกำลังกายที่บ้านอะไรดี การเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายสำคัญอย่างไร มีอะไรที...
02/05/2021

#ยิมปิด #อะไรๆก็ปิด #ออกกำลังกายที่บ้านอะไรดี การเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายสำคัญอย่างไร มีอะไรที่ต้องระวังบ้าง ไปหาคำตอบด้วยกันเลยค่ะ 😁

เนื่องด้วยสถานการณ์ในปัจจบัน ทำให้หลายสถานที่ต้องหยุดทำการ หลายๆท่านอาจจะต้องกลับมา work from home มีเวลามากขึ้น ไม่รู้จะไปไหน โดยเฉพาะสายรักสุขภาพ เมื่อสถานที่ออกกำลังกายอย่างเช่น ยิม ฟิตเนส หรือสระว่ายน้ำปิด แล้วไม่รู้จะทำอย่างไร เลยเลือกออกกำลังกายที่บ้านแทน หรือจะเป็นคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน แต่อยากใช้เวลาว่างมาเริ่มออกกำลังกาย และเริ่มออกกำลังกายตามสื่อออนไลน์ที่มีอยู่มากจนเลือกไม่ถูก ทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องง่ายขึ้นที่สามารถทำได้เองที่บ้าน แต่การจะเลือกออกกำลังกายแต่ละอย่างนั้น เราจะต้องพิจารณาจากสภาพร่างกายของเราและสภาพแวดล้อมด้วยเช่นกัน โดยมีข้อควรระวัง ดังนี้

1. ควรเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของเรา กล่าวคือเราควรพิจารณาตามสภาพร่างกาย อายุ และโรคประจำตัว เพราะไม่ใช่ว่าการออกกำลังกายที่ปรากฏตามสื่อออนไลน์จะเหมาะสำหรับคนทุกคน เราควรเลือกชนิดที่เหมาะสมกับตัวเรา เช่น สำหรับ beginner ไม่ควรออกกำลังกายหนักมากเกินไป ควรเริ่มจากท่าง่ายๆ เบาๆ ให้ร่างกายได้ปรับตัว อาจมีช่วงพักระหว่างเซ็ตประมาณ 1-2 นาที แล้วค่อยออกต่อจนครบ หลังจากทำจนรู้สึกไม่ค่อยเหนื่อยหรือรู้สึกง่ายขึ้นแล้ว ค่อยปรับเป็นการออกกำลังกายที่หนักขึ้น. หรือในคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อ เช่น ข้อเท้า ข้อเข่า ควรเลือกออกกำลังกายชนิดที่ไม่มีแรงกระแทกหรือแรงกระแทกน้อยต่อข้อต่อ เช่น การออกกำลังกายที่ไม่มีการกระโดด เพราะหากเราออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่อข้อต่อมาก อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อข้อต่อหรืออาจเสื่อมก่อนวัยได้

2. ก่อนและหลังจากออกกำลังกายควรยืดกล้ามเนื้อ เพื่อเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมกับการออกกำลังกาย ลดอาการกล้ามเนื้อล้า และช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการออกกำลังกายได้

3. สภาพแวดล้อมและอุปกรณ์ที่ใช้ในการออกกำลังกายก็สำคัญ ควรเลือกสถานที่ที่โล่ง มีพื้นที่พอต่อการออกกำลังกาย เลือกใช้อุปกรณ์ที่ไม่ยากและไม่หนักเกินไปกับสภาพร่างกายของเรา

แต่หากออกกำลังกายไปแล้วเกิดอาการบาดเจ็บหรือปวดกล้ามเนื้อมากขึ้นหลังออกกำลังกาย ไม่แนะนำให้ไปนวดนะคะ เพราะการนวดคือการกด บีบ คลึงลงบนกล้ามเนื้อและร่างกายของเรา และเราไม่รู้ว่าอาการที่เกิดขึ้นหลังออกกำลังกายนั้น เป็นอะไรและเกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งถ้าไปนวดในขณะที่กล้ามเนื้ออักเสบจากการออกกำลัง จะทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น ปวดและบวมมากขึ้น ซึ่งการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายเกิดขึ้นได้ทั้งกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และข้อต่อ

เนื่องจากช่วงที่กล้ามเนื้ออักเสบนั้น เส้นใยกล้ามเนื้อบางส่วนอาจฉีกขาด เส้นเลือดฝอยบริเวณนั้นบาดเจ็บ ร่วมกับร่างกายหลั่งสารอักเสบออกมา ทำให้รู้สึกปวดหรือบวมบริเวณนั้น แต่เมื่อเราไปนวด ทำการกด บีบ คลึงบริเวณนั้น ยิ่งจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอักเสบมากขึ้น อาจเกิดการฉีกขาดมากขึ้น ขัดขวางกระบวนการฟื้นฟูของร่างกาย ทำให้อาการแย่ลงค่ะ รวมถึงไม่แนะนำให้ประคบร้อนหรือทายาที่มีฤทธิ์ร้อนบริเวณกล้ามเนื้อที่มีการอักเสบ เพราะจะทำให้หลอดเลือดบริเวณนั้นขยายตัว และเกิดการอักเสบมากขึ้นค่ะ

สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาคือการพัก หยุดทำกิจกรรมนั้น และรีบปฐมพยาบาลตัวเองตามหลักของ RICE และหากอาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้รีบไปพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อทำการรักษาต่อไปค่ะ ☺️

บริการใหม่!   บริการให้คำแนะนำและการรักษาเบื้องต้นทางออนไลน์เป็นรูปแบบ VIDEO CALL  😊 สำหรับผู้ที่สนใจแต่ไม่สะดวกมารับบริ...
01/05/2021

บริการใหม่! บริการให้คำแนะนำและการรักษาเบื้องต้นทางออนไลน์เป็นรูปแบบ VIDEO CALL 😊 สำหรับผู้ที่สนใจแต่ไม่สะดวกมารับบริการที่คลินิก หรือผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดไม่สะดวกเดินทาง

การบริการจะประกอบไปด้วยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย การรักษาด้วยการออกกำลังกาย และคำแนะนำจากนักกายภาพบำบัดในการปฏิบัติตัวตามสาเหตุของโรคที่เป็นค่ะ

ใช้เวลาประมาณ 30 - 60 นาที และจะมีค่าบริการจะอยู่ที่ครั้งละ 400 บาทค่ะ
(สามารถดูรีวิวฟีดแบกคนไข้หลังทำได้ในรูปภาพ)

บริการพิเศษนี้มีเพื่อคลายความปวดตึงให้ทุกท่าน เพื่อที่ท่านจะได้เข้าใจการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง คำแนะนำที่เหมาะสม และการออกกำลังกายที่เหมาะกับโรค และหายปวดไปด้วยกันค่ะ

สนใจนัดหมายตรวจออนไลน์สามารถทำนัดผ่าน inbox / ให้เบอร์ติดต่อกลับ หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 061-801-2482 / 062-773-1113 ในเวลาทำการ 10.00 - 19.00 ได้ทุกวันค่ะ 😆 มาออกกำลังกายไปด้วยกันนะคะ

 #ท่าออกกำลังกายป้องกันการเกิดกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับโรคนี้กันก่อน          กล้ามเนื้อพิ...
27/04/2021

#ท่าออกกำลังกายป้องกันการเกิดกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับโรคนี้กันก่อน
กล้ามเนื้อพิริฟอร์มิส เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณก้น มีเส้นประสาทไซอาติก (Sciatic) ลอดผ่านใต้กล้ามเนื้อ เมื่อใช้งานกล้ามเนื้อมากๆ เช่น การนั่งเป็นเวลานานๆ การยืนหรือเดินนานๆ จะทำให้กล้ามมีความตึงตัวที่มากจนไปกดเบียดเส้นประสาทได้ จึงทำให้มีอาการปวดก้นร้าวลงขา

การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการเกิดกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท
- ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดอาการ การนั่งทำงานนานๆ ควรเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 1 ชั่วโมง เช่น การลุกไปเข้าห้องน้ำ
- ควรประคบอุ่นและยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเพื่อป้องกันการเกิดกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท
1. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อสะโพก เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่มีความตึงตัว

- ท่าเริ่มต้น : นอนหงาย ชันเข่า 2 ข้าง
- ท่าออกกำลังกาย : ยกขาข้างที่มีอาการปวด พาดข้อเท้าที่ขาอีกข้าง จากนั้นดึงขามาชิดอกให้ได้มากที่สุด รู้สึกตึงแต่ไม่เจ็บ ค้างไว้ 15 วินาที ทำ 4 ครั้งต่อรอบ 3 รอบต่อวัน

- ท่าเริ่มต้น : นั่ง เท้าติดพื้น 2 ข้าง
- ท่าออกกำลังกาย : นั่งยกขาข้างที่ปวดพาดอีกขานึง จากนั้นโน้มลำตัวมาทางด้านหน้า รู้สึกตึงแต่ไม่เจ็บ ค้างไว้ 15 วินาที ทำ 4 ครั้งต่อรอบ 3 รอบต่อวัน

- ท่าเริ่ม : นอนหงาย ชันขา 1 ข้าง พร้อมทั้งกางแขนข้างที่ชันขา กาง 90 องศา
- ท่าออกกำลังกาย : นำขาข้างที่ชันไขว้ไปอีกด้านนึง จากนั้นใช้มือด้านที่ไขว้ไป ช่วยกดให้เข่าติดพื้นให้ได้มากที่สุด รู้สึกตึงแต่ไม่เจ็บ ค้างไว้ 15 วินาที ทำ 4 ครั้งต่อรอบ 3รอบต่อวัน

- ท่าเริ่ม : ท่าตั้งคลาน
- ท่าออกกำลังกาย : งอขาข้างนึงไปทางด้านหน้า จากนั้นเหยียดขาอีกขาไปทางด้านหลังให้สุด ให้รู้สึกตึงขาข้างที่งอแต่ไม่เจ็บ ค้างไว้ 15 วินาที ทำ 4 ครั้งต่อรอบ 3รอบต่อวัน

2. เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสะโพก

- ท่าเริ่มต้น : นอนหงาย ชันขา 2 ข้าง แขนแนบข้างลำตัว
- ท่าออกกำลังกาย : กดเท้า ยกสะโพกขึ้น เกร็งค้างไว้ 10 วินาที ทำ 10 ครั้งต่อรอบ 3 รอบต่อวัน

- ท่าเริ่ม : นอนตะแคง งอขาทั้งสองข้าง
- ท่าออกกำลังกาย : กางขาข้างบนขึ้น โดยให้ส้นเท้ายังติดกัน เกร็งค้างไว้ 10 วินาที ทำ 10 ครั้งต่อรอบ 3 รอบต่อวัน

ยืนหนึ่งกายภาพบำบัด  #ขอบคุณช่องข่าวต่างๆที่ช่วยสนับสนุน หวังว่าจะได้มีโอกาสดูแลทุกท่านนะคะ😊https://local.brighttv.co.th...
26/04/2021

ยืนหนึ่งกายภาพบำบัด #ขอบคุณช่องข่าวต่างๆที่ช่วยสนับสนุน หวังว่าจะได้มีโอกาสดูแลทุกท่านนะคะ😊

https://local.brighttv.co.th/bkk/Bangkok/29133
https://region.siamrath.co.th/bkk/Bangkok/29133
https://local.cheechongruay.smartsme.co.th/bkk/Bangkok/29133
https://local.smartsme.co.th/bkk/Bangkok/29133
https://local.businesstoday.co/bkk/Bangkok/29133
https://local.thaiquote.org/bkk/Bangkok/29133
https://local.voicetv.co.th/bkk/Bangkok/29133
https://local.77kaoded.com/bkk/Bangkok/29133
https://local.amarintv.com/bkk/Bangkok/29133
https://www.zolitic.com/bkk/Bangkok/29133
https://local.newtv.co.th/bkk/Bangkok/29133

ข่าวประชาสัมพันธ์หัวข้อ "REHAB CARE CLINIC" ยืนหนึ่งในคลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู เวชศาสตร์ชะลอวัย และกายภาพบำบัด โดยทีมแพ...

 #ทำไมเล่นโยคะแล้วยังปวดก้น  #ปวดสะโพกร้าวลงขา ยืดมากๆน่าจะทำให้ไม่ปวด และทำไมถึงปวด เป็นเพราะอะไรกันแน่ทุกวันนี้หลายคนเ...
25/04/2021

#ทำไมเล่นโยคะแล้วยังปวดก้น #ปวดสะโพกร้าวลงขา ยืดมากๆน่าจะทำให้ไม่ปวด และทำไมถึงปวด เป็นเพราะอะไรกันแน่

ทุกวันนี้หลายคนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น มีการทำกิจกรรมต่างๆหรือออกกำลังกายเพื่อดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น หนึ่งในนั้นที่ทุกคนรู้จักกันและอาจจะเคยฝึกกันมาบ้างนั่นก็คือโยคะนั่นเองค่ะ

โยคะ เป็นการรวมกายและใจเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดสมดุลในร่างกาย ช่วยฝึกสมาธิ ทำให้ร่างกายและจิตใจสงบ ดีขึ้น และกระฉับกระเฉงมากขึ้น โดยโยคะยังส่งผลต่อร่างกายด้วย กล่าวคือช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ มีการทรงตัวที่ดีขึ้น ช่วยเผาผลาญพลังงานควบคุมน้ำหนัก แก้อาการปวดกล้ามเนื้อในบางประเภท และเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายและกล้ามเนื้อ

จากที่กล่าวมาโดยย่อจะเห็นว่าโยคะมีแต่ประโยชน์ แต่ในบางกิจกรรมถ้าเราทำมากเกินไปก็ไม่ดี โยคะก็เช่นกันค่ะ การเล่นโยคะแน่นอนว่าได้ผลดีอย่างมากในหลายๆอย่าง แต่ถ้าเราทำมากไปก็เกิดผลเสียได้เช่นกันค่ะ กล่าวคือการฝึกโยคะบ่อยๆจะเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ร่างกายมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แต่ถ้าเราไปยืดกล้ามเนื้อบ่อยๆซ้ำๆโดยไม่มีการออกกำลังกายร่วมด้วย กล้ามเนื้อจะถูกยืดออก และจะค่อยๆขาดความหนาแน่นของมวลกล้ามเนื้อลง ทำให้กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงได้ค่ะ และนำไปสู่อาการ #ปวดกล้ามเนื้อเนื่องจากกล้ามเนื้อไม่แข็งแรง

อาการปวดก้นหรือสะโพกร้าวลงขา เกิดจากเส้นประสาท sciatic บริเวณก้นใกล้กับสะโพกถูกกดทับหรือถูกกระตุ้นจากกล้ามเนื้อ piriformis ที่อยู่บริเวณก้นใกล้กับสะโพก ส่งผลให้มีอาการปวดก้นร้าวลงไปยังขาได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อ piriformis นี้มีความตึงตัวมากไปจนไปกดทับเส้นประสาท โดยที่กล่าวมานี้ปัญหาเกิดจากกล้ามเนื้อตึงเกินไป แต่หากกล้ามเนื้ออ่อนเกินไปก็ทำให้เกิดปัญหานี้ได้เช่นกัน โดยคนที่เล่นโยคะเป็นประจำแต่ไม่ออกกำลังกายร่วมด้วย จะส่งผลต่อความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ กล่าวคือกล้ามเนื้อถูกยืดออกจากการเล่นโยคะ แต่ไม่มีการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้อถูกยืดและมวลกล้ามเนื้อลดลง กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง มวลกล้ามเนื้อน้อยกว่าคนปกติ ส่งผลเมื่อมีการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น นั่ง เดิน หรือวิ่ง แต่เราไม่มีกล้ามเนื้อมาช่วย support ในการทำกิจกรรมนั้น ทำให้เส้นประสาทถูกกดเบียดหรือถูกกระตุ้น ทำให้เกิดอาการปวดก้นหรือสะโพกร้าวลงขาได้ค่ะ

จากที่กล่าวมา ไม่ควรฝึกเล่นโยคะเพียงอย่างเดียว ควรจะมีการออกกำลังกายอื่นๆเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เช่น ไปฟิตเนส เล่นพิลาทิส เป็นต้น แต่หากมีอาการดังกล่าวแล้ว สามารถมารักษาได้ที่คลินิกกายภาพบำบัดของเราค่ะ โดยการรักษาทางกายภาพบำบัดของเราจะเน้นการลดปวด คลายกล้ามเนื้อด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยล่าสุดด้วยเครื่อง Shock wave เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซม ลดการตึงตัวของกล้ามเนื้อ และเครื่อง High power laser ลดการอักเสบของเส้นประสาท เพื่อลดอาการร้าวลงขา ร่วมกับใช้การกระตุ้นไฟและคลื่นความร้อนลึกเพื่อลดอาการปวดค่ะ รวมถึงมีการแนะนำท่าออกกำลังกายที่เหมาะสมในแต่ละบุคคลเพื่อสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนค่ะ

 #ไม่ได้นั่งทำงานออฟฟิศแต่ขับรถนาน  #ทำไมปวดร้าวลงขา และมีวิธีแก้ไขป้องกันยังไง 😉 อาการปวดร้าวลงขาจากการนั่งนานไม่ว่าจะเ...
23/04/2021

#ไม่ได้นั่งทำงานออฟฟิศแต่ขับรถนาน #ทำไมปวดร้าวลงขา และมีวิธีแก้ไขป้องกันยังไง 😉

อาการปวดร้าวลงขาจากการนั่งนานไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงาน หรือนั่งขับรถนาน เป็นอาการของกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท โดยกล้ามเนื้อสะโพกนั้นมีชื่อว่า piriformis ซึ่งกล้ามเนื้อมัดนี้มีเส้นประสาท sciatic ลอดผ่าน

เมื่อนั่งนานกล้ามเนื้อ piriformis จะเกิดการตึงตัวจนไปกดบีบเส้นประสาท sciatic ทำให้มีอาการปวดสะโพกลึกๆ ร้าวลงขาด้านหลังหรือบางรายอาจมีอาการชาร่วมด้วย

วิธีป้องกันการเกิดกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท มีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการนั่งหรืออยู่ในอริยบถเดิมนานๆ
- ปรับท่าทางการนั่ง ใช้หมอนรองบริเวณก้นเวลานั่งทำงานหรือนั่งขับรถ เพื่อลดแรงกดบริเวณก้น
- ยืดเหยียดกล้ามเนื้อสะโพกเป็นประจำเพื่อให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น
- ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อสะโพกเพื่อให้มีความทนทานต่อการใช้งาน

ส่วนใครที่เริ่มมีอาการแนะนำทำตามดังนี้
1. ประคบอุ่นบริเวณสะโพกและขา 20 นาทีต่อครั้ง

2. ยืดกล้ามเนื้อสะโพก
- นอนหงาย งอเข่าและงอสะโพกข้างที่มีอาการ ใช้มือดึงขาเข้าหาลำตัวจนรู้สึกตึงบริเวณสะโพก ค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง

- นอนหงาย นำขาข้างที่มีอาการปวดไขว้ทับขาอีกข้างที่ไม่มีอาการ เป็นลักษณะเลข 4 จากนั้นใช้มือมั้ง 2 ข้างสอดใต้เข่าข้างที่ไม่มีอาการ ดึงเข้าหาลำตัวจนรู้สึกตึงบริเวณสะโพก ค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง

- นั่งเก้าอี้ นำขาข้างที่มีอาการปวดไขว่ห้างแบบตั้งฉากบนขาอีกข้าง หลังตรง โน้มตัวไปด้านหน้าจนรู้สึกตึงบริเวณสะโพก ค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง

3. ออกกำลังกายกล้ามเนื้อสะโพก
- นอนตะแคง งอเข่างอสะโพก ส้นเท้า 2 ข้างติดกัน จากนั้นค่อยๆ เปิดเข่าแยกออกจากกันเล็กน้อย ค้างไว้ 10 วินาที ทำ 10 ครั้งต่อรอบ 3 รอบต่อวัน 😇

ที่อยู่

45/581 ซอย ท่าข้าม แขวง แสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
Bangkok
10150

เบอร์โทรศัพท์

+66627731113

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ รีแฮปแคร์ กายภาพบำบัดสาขาโฮมโปรพระราม 2ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram