Domino Slim ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก Domino Slim, การแพทย์และสุขภาพ, Bangkok.

ร้าน Domino Slim จำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักที่ไม่ใช่ยาแต่ เป็นอาหารเสริม ไม่กลับมาโยโย่ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ปลอดภัย มีอ.ย. สินค้าของร้านเรา รับประกันของแท้ 100% นำเข้าจากต่างประเทศ นอนจากนั้นร้านเรายังจำหน่ายผลิตภัณฑ์รายสุขภาพ แก้โรคเบาหวาน,โรคมะเร็ง และโรคต่างๆอีกมากมาย

เนื่องจากว่าห่างหายไปนาน นำวิธีการไม่ทำให้หน้าหย่อนยานมาฝากเพื่อนๆกันแก้รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าที่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยสองม...
10/09/2012

เนื่องจากว่าห่างหายไปนาน นำวิธีการไม่ทำให้หน้าหย่อนยานมาฝากเพื่อนๆกัน

แก้รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าที่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยสองมืออันบอบบางของคุณเองมาบอกค่ะ

วิธีการทำก็ง่ายแสนง่าย แถมไม่ต้องเสียกะตังค์เยอะแยะด้วยล่ะ


มาเริ่มกันที่ปัญหาเบสิกที่สาวๆ ยุคนี้ต้องเจอคือ ผิวหน้ามีริ้วรอยเพราะอดหลับอดนอน
วิธีแก้ ให้ใช้ไข่ขาวนวดให้ทั่ว ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น หน้าของคุณจะรู้สึกเต่งตึงขึ้นมาในทันที



ถ้าคุณเริ่มมีคางสองชั้น
วิธีแก้ ใช้ปลายนิ้วกดลงเบาๆ บนใบหน้าจากบริเวณคางไปยังแก้ม แล้วนวดด้วยปลายนิ้วให้ทั่ว และหยิกเบาๆ คล้ายหยอกเล่นกับแฟน แล้วตบคางด้านล่างเบาๆ ออกมาถึงปลายหู




ถ้ามีริ้วรอยสองข้างมุมปาก (ยิ่งเม้าท์มอยเยอะ ยิ่งเห็นริ้วรอยชัด)
วิธีแก้ ใช้นิ้วมือนวดเบาๆ ลูบขึ้นไปจากรอยลึกระหว่างจมูกและมุมปาก ผ่านมุมปากไปสิ้นสุดลงสองข้างจมูก นวดและลูบจากล่างไปหาบน




ถ้าบริเวณหน้าผากที่ย่นมีริ้วรอย
วิธีแก้ นวดเบาๆ จากบนคิ้วขึ้นไปหาเนินผม แล้วค่อยๆ นวดคลึงตามรอยย่นใช้วิธีกดลงไปเรื่อยๆ จากกลางหน้าผากออกไปหาขมับ




ถ้าบริเวณเปลือกตาบวม
วิธีแก้ ใช้นิ้วชี้แต่ละข้างวางลงบนหัวตาใต้คิ้ว ค่อยๆ เลื่อนปลายนิ้วชี้ผ่านไปเบาๆ โดยปรือตาลงเล็กน้อย




ถ้ามีถุงใต้ตา
วิธีแก้ ให้กดด้วยปลายนิ้วลงบนถุงใต้ตาเพียงเบาๆ จากหัวตาออกไปหาขมับทั้งสอง




ถ้ามีรอยตีนกา
วิธีแก้ ให้ใช้ปลายนิ้วชี้คลึงเบาๆ วนรอบหางตาบนรอยตีนกานั้น





แต่ เหนือสิ่งอื่นใด คุณสาวๆ ก็ต้องบำรุงใบหน้าด้วยวิธีการอื่นควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะการกินอาหารเพื่อสุขภาพใบหน้าที่ดี
การทาครีมบำรุงเพื่อผิวหน้าที่อ่อนวัยอยู่เสมอ (ถึงแม้ว่าความอ่อนวัยจะเป็นไปได้ยากก็ตาม)

เคล็ดลับลดความอ้วนเกี่ยวกับกรุ้ปเลือด ♥♥♥
24/08/2012

เคล็ดลับลดความอ้วนเกี่ยวกับกรุ้ปเลือด ♥♥♥

กลับมาแล้วจร้า พร้อมกับนำเคล็ดลับหุ่นสวยมากฝาก ^^

ไดเอ็ตตามกรุ๊ปเลือด (Lisa)

ไดเอ็ตตามกรุ๊ปเลือด เป็นยังไงนะ...แล้วเหมาะกับคุณหรือเปล่า

เคยได้ยินเชื่อไดเอ็ตตามกรุ๊ปเลือด (Blood Type Diet) หรือเปล่า และถ้ากำลังสนใจอยู่ เรามีข้อมูลเบื้องลึกมาช่วยให้คุณตัดสินใจแล้ว

มาจากไหน

ไดเอ็ตตามกรุ๊ปเลือดหรือ Eat Right 4 Your Type เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 1996 โดย ปีเตอร์ เจ. ดาดาโม แพทย์ทางด้านธรรมชาติบำบัดในสหรัฐฯ เป็นผู้คิดค้นขึ้น และมีผู้คนที่หันมาใช้แผนการกินตามแบบเขามากกว่าสองล้านคน รวมถึงได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางไปทั่ว

มารู้จักหลักการกันหน่อย

ไดเอ็ตแบบนี้อยู่บนความคิดที่ว่า คนเราสามารถทำให้ระบบการย่อยและสุขภาพดีขึ้น รวมทั้งลดน้ำหนักได้ ด้วยการกินอาหารที่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดของตัวเอง เพราะกรุ๊ปเลือดเกี่ยวพันอย่างมากกับการย่อยอาหารของร่างกาย ความสามารถของร่างกายในการจัดการกับความเครียด สภาวะจิตใจ ประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญ และความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อคุณทำตามแผนการกินแบบนี้อย่างจริงจัง น้ำหนักจะเริ่มลดหลังจากผ่านไปสองสัปดาห์ถึงหกเดือน ขึ้นอยู่กับสุขภาพของคุณในปัจจุบัน

แนวทางอย่างคร่าว ๆ

อาหารบางอย่างให้ประโยชน์แก่ร่างกาย ขณะที่บางอย่างก็ทำร้าย มันขึ้นอยู่กับว่าคุณมีกรุ๊ปเลือดโอ เอ บี หรือเอบี

พื้นฐานส่วนใหญ่ของหมอดาดาโมมาจากเรื่องพันธุกรรม และบทบาทของเล็กติน (lectins) ในร่างกาย เล็กตินเป็นโปรตีนที่พบในอาหาร โดยเฉพาะในพืช ซึ่งกรุ๊ปเลือดแต่ละอย่าง ก็จะมีผลต่อกิจกรรมของมันในร่างกายต่างกันไป เมื่อคุณย่อยเลคตินที่ไม่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของตัวเอง คุณจะทำลายสุขภาพ และทำให้ตัวเองเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรงหลายอย่างไดเอ็ตแบบนี้ จะมีรายการอาหารสำหรับกรุ๊ปเลือดทั้งสี่ ทั้งอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงโดยสร้างขึ้นจากการศึกษาถึงปฏิกิริยาที่ต่าง ๆ กันของเล็กตินต่อแต่ละกรุ๊ปเลือด และความสมดุลของกรดและต่างในการย่อยอาหารบางอย่าง

กินยังไง

คุณต้องกินแต่อาหารที่เข้ากับกรุ๊ปเลือดของตัวเองเท่านั้น ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องปริมาณ ยกเว้นเนื้อสัตว์ที่ควรจำกัดเพียงแค่ 4 ออนซ์ต่อหนึ่งครั้ง

เลือดกรุ๊ปโอ มีระดับของกรดในกระเพาะที่สูง ทำให้มีความสามารถในการย่อยโปรตีนของเนื้อสัตว์ได้ดี จึงควรกินเนื้อสัตว์เป็นหลัก แต่ไม่ควรกันธัญพืช

ส่วนเลือดกรุ๊ปเอ มีระดับกรดในกระเพาะอาหารต่ำ และจะแปรเนื้อสัตว์เป็นไขมันสะสมไว้ จึงควรกินอาหารแบบมังสวิรัติ

ส่วนกรุ๊ปบี กินอาหารได้หลากหลายกว่า ทั้งเนื้อและอาหารจากนม แต่ไม่ควรกินกุ้ง ไอศกรีม ถั่ว และมะเขือเทศ

กรุ๊ปเอบี ควรกินอาหารมื้อเล็ก ๆ แต่บ่อย ๆ กินเนื้อได้บ้าง แต่ควรเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการอย่างเบคอน แฮม และไส้กรอก

เคล็ดลับ

เราควรค่อย ๆ ปรับอาหารการกินในปัจจุบันไปสู่แผนไดเอ็ตแบบนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้มันเป็นการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ที่ถาวร มากกว่ารู้สึกเหมือนถูกจำคุกตลอดชีวิต

16/08/2012
16/08/2012
ปฎิบัติการที่ 1 : แทะเล็มช็อคโกแลตมีนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแคลิเฟอร์เนีย ในซานดิเอโก ได้ทำการทดลอง นำคนจำนวน 1000 ค...
06/08/2012

ปฎิบัติการที่ 1 : แทะเล็มช็อคโกแลต

มีนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแคลิเฟอร์เนีย ในซานดิเอโก ได้ทำการทดลอง นำคนจำนวน 1000 คน ให้ช็อคโกแลต โดยแบ่งเป็นสองกลุ่มกลุ่มหนึ่งให้แทะเล็มช็อคโกแลตเล็กๆ น้อยๆ ทุกวัน กับอีกกลุ่มให้กินจริงจังนานๆ ครั้ง ซึ่งผลออกมาว่า กลุ่มคนที่กินช็อคโกแลตเป็นประจำกลับมีหุ่นเพรียวบางมากกว่า กลุ่มที่นานๆ กินที แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ต้องแทะเล็มที่ละนิดน่ะค่ะ อย่าเผลอทานเข้าไปหมดทั้งอันทุกวัน แบบนี้รับรองได้เลยค่ะว่ายังไงก็กลับมาอ้วนอยู่ดี

ปฎิบัติการที่ 2 : จิบไวน์

ผลการวิจัยล่าสุดบ่งชี้ว่า สาวๆ ที่ดื่มไวน์แดง 1-2 แก้ว/วัน มีแนวโน้มที่จะน้ำหนักเกินน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มถึง 30% และเป็นที่น่าสนใจคือ ไวน์แดงยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยลดคลอเรสเตอรอล และความดันเลือดด้วย เห็นประสิทธิภาพของไวน์แดงแล้วใช่ไหมค่ะ ผลการวิจัยยังบอกอีกว่า สาวๆ ที่ดื่มไวน์แดงแต่พอดี จะกินอาหารได้น้อยลง เพื่อที่จะรับรู้รสชาติของอาหารมากขึ้น แทนที่จะซดเบียร์ หรือดื่มเหล้า ก็ลองหันมาดื่มไวน์วันละแก้วแต่พองามก็พอค่ะ

ปฎิบัติการที่ 3 : ดมกลิ่นอาหาร

Flavour Journal มีความคิดแปลกๆ ว่า กลิ่นหอมสามารถทำให้มนุษย์เรามีความอยากอาหารน้อยลง ถึงเวลาทานข้าว ก็ทานได้น้อยลง แต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าเท็จจริง ประการใด ทั้งนี้คงต้องลองทำดู ลองหากลิ่นหอมแนวอโรมามาสูดดมให้ฉ่ำปอดก่อนเวลาทานข้าว ดูซิว่า จะสามารถช่วยให้เราอยากอาหารได้น้อยลงหรือเปล่า?

ปฎิบัติการที่ 4 : ขบเคี้ยวเมล็ดกาแฟ

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยสแครนตัน (Scranton Unibersity) บอกไว้ว่า การกินเมล็ดกาแฟเล่นๆ เป็นของขบเคี้ยวนั้น ทำให้น้ำหนักลดลงได้ เพราะมันจะช่วยชะลอการดูดซึมไขมัน และน้ำตาลกลูโคส (glucose) ในกระเพาะอาหาร แต่รสชาติอาจจะขมไปหน่อย เขาแนะนำว่าควรทานวันละ 2 เม็ด ก็พอน่ะค่ะ

ปฎิบัติการ 5 : ถือขวดน้ำขณะออกกำลังกาย

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) บอกไว้ว่า การรักษาอุณหภูมิที่มือเราให้เย็นขณะออกกำลังกาย จะช่วยให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือ น้ำหนักตัวก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว ไปฟิตเนสคราวหน้าลองถือขวดน้ำไว้ที่มือดูน่ะค่ะ

ปฎิบัติที่ 6 : ไม่ต้องเข้าฟิตเนสทุกวัน

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวเอาไว้ว่า การออกกำลังกายทุกวันส่งผลร้ายต่อผู้เล่นมากกว่าผลดี ที่สำคัญ การจัดตารางตัวเอง หรือการบังคับตัวเองให้ไปเล่นฟิตเนสทุกวัน ต้องตรงเวลา หรือมั่วแต่อยู่ในยิม 3 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำต่อวัน แทนที่จะให้กระฉับกระเฉง กลับเหนื่อยล้า พาลเบื่อหน่าย ผู้เชี่ยวชาญแนะให้หาวันหยุด ที่ไม่ต้องบังคับตัวเองให้เข้าฟิตเนส ซัก 2 วัน/สัปดาห์ หรือจะพักผ่อน นอนหลับ แล้วไม่เข้าฟิตเนสซัก 1 อาทิตย์ พอกลับไปมาออกกำลังกายอีกครั้ง ความรู้สึกจะเปลี่ยนไป เกิดแรงจูงใจ ขยันอยากฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้น ไม่รู้สึกถึงการถูกบังคับ

ปฎิบัติที่ 7 : มีเพื่อนไปออกกำลังกายด้วยกัน

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยบราว์น (Brown University) ทำการทดลองมาแล้วว่า คนที่มีเพื่อนไปออกกำลังกายด้วยกัน ทั้งคู่จะลดน้ำหนักได้เร็วกว่าคนที่ไปคนเดียวตามลำพัง หรือไปเลือกเล่นกีฬาที่ต้องออกกำลังกายพร้อมกันเป็นกลุ่ม อย่าง เต้นแอโรบิค ผู้เล่นจะลดน้ำหนักได้ผลมากกว่ากับผู้ที่ไปคนเดียว แบบนี้ก็ลองหาเพื่อนๆ ที่กำลังปฎิบัติการลกน้ำเมื่อเรา ชวนกันเข้าฟิตเนสก็ย่อมเป็นการทั้ง 2 ฝ่าย เลยใช่ไหมค่ะ

ออกกำลังกายตอนไหนดีที่สุด? ออกกำลังกายแล้วทำไมน้ำหนักไม่เห็นลงเลย? อยากผอมวิธีไหนดีที่สุด? ระหว่างวันกินอะไรดีที่ไม่ทำให...
03/08/2012

ออกกำลังกายตอนไหนดีที่สุด? ออกกำลังกายแล้วทำไมน้ำหนักไม่เห็นลงเลย? อยากผอมวิธีไหนดีที่สุด? ระหว่างวันกินอะไรดีที่ไม่ทำให้น้ำหนักขึ้น?

หลายคนถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองเสมอ ๆ บ้างก็ไปหาวิธีมาจนได้ผล บ้างก็ทำครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่ได้ผลสักที สูตรนี้ที่เรียกว่า 6-7-8 ซึ่งเป็นสูตรที่ น.พ.บัญชา แดงเนียม คิดขึ้นมา และ น.พ.คณิน ไตรพิพิธสิริวัฒน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านธรรมชาติบำบัด หนึ่งในผู้ดำเนินรายการ Morning Love ทาง FM99 ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ หกโมงถึงเจ็ดโมงเช้า มาแนะนำ



6 ตัวแรก ก็หมายถึงตัวเลข 6 นาฬิกา แต่เป็น 6 โมงเช้านะไม่ใช่ 6 โมงเย็น ใครที่เคยได้ยินความเชื่อเรื่องที่ว่าตื่นเช้าแล้วจะสุขภาพดีนั้น เป็นเรื่องจริง แต่ถ้านอนดึกตื่นเช้าก็คงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องสักเท่าไร ต้องนอนเร็ว ตื่นเร็วถึงจะดี

ทุกเช้าที่เราตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่เราควรทำเลยก็คือ ออกกำลังกาย ด้วยวิธีใดก็ได้เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน เดินในน้ำ ว่ายน้ำ โดยให้ต่อเนื่องกันสักอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงขึ้นไป แต่ต้องเหนื่อยนะครับ โดยต้องเป็นไปตามนิยามที่ว่าให้หัวใจเต้นเร็วอย่างน้อย 70% ของ Maximum Heart Rate

วิธีคำนวณง่าย ๆ ก็คือ นำตัวเลข 220 ตั้งแล้วลบด้วยอายุ สมมติอายุ 30 ปี ก็จะเป็น 220-30 เท่ากับ 190 ก็นำไปคูณกับ 70% ซึ่งเท่ากับ 133 ครั้ง ก็เท่ากับว่าตัวเลขนี้คืออัตราเต้นของหัวใจที่เราจะต้องไปให้ถึงในระหว่างออกกำลังกาย ถ้าไม่ถึงก็เท่ากับว่าไม่ได้ผล แต่ถ้ามากเกินไปก็จะอันตราย เพราะถ้าหากหัวใจเต้นเข้าใกล้หรือเกิน Maximum Heart Rate โอกาสที่จะเกิดอาการหัวใจวายก็เป็นไปได้ครับ

หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าขณะที่เราออกกำลังกายอยู่นั้น หัวใจเราเต้นที่ครั้งต่อนาที นอกจากการนับจังหวะหัวใจที่เต้นแต่ละครั้งแล้ว ปัจจุบันก็มีเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกายอยู่ด้วย ทำให้สะดวกสบายในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจมาก หรือถ้าจะใช้แบบภูมิปัญญาชาวบ้านเลยก็ได้ครับ ใช้วิธีวัดระดับความเหนื่อย โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ระดับแรกคือไม่เหนื่อยเลย เดินทอดน่องสบาย ๆ อย่างนี้การออกกำลังกายไม่มีผลแน่นอนครับ ระดับที่สองคือเหนื่อยปานกลาง หรือหายใจหอบ อันนี้ถือว่าใช้ได้ และเหนื่อยระดับที่สามคือเหนื่อยจนพูดไม่ออก อันนี้อันตรายครับ เพราะอาจทำให้เกิดอาการช็อกได้



หลังจากที่ออกกำลังกายไปแล้วในช่วง 6 โมงเช้า ตัวเลขถัดมาก็คือเลข 7 เลขนี้มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะคือช่วงเวลาที่ห้ามดื่ม ห้ามกินอะไรก็ตามที่มีแคลอรี่ อย่างน้อย ๆ หนึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

ยกตัวอย่างง่าย ๆ คือ น้ำเปล่าดื่มได้ น้ำเกลือแร่ ของหวาน หรืออาหารที่มีพลังงานนั้นห้ามเด็ดขาด เหตุผลที่ห้ามเป็นเพราะว่าหลังจากที่เราออกกำลังกายเสร็จแล้ว ร่างกายจะเข้าสู่ช่วงเผาผลาญไขมัน เพราะช่วงที่เรานอนหลับนั้น ร่างกายเราก็เผาผลาญแป้ง และน้ำตาลไปก่อนหน้านั้นแล้ว ดังนั้นช่วงเช้าแป้งและน้ำตาลก็จะเหลือไม่มาก ร่างกายก็เข้าสู่กระบวนการเผาผลาญไขมัน

แต่เมื่อใดก็ตามที่เรากินหรือดื่มแป้งหรือน้ำตาลเข้าไปแม้แต่คำเดียวก็ตาม ร่างกายจะสลับจากการเผาผลาญไขมันเป็นการเผาผลาญแป้งและน้ำตาลแทน และช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่แป้งและน้ำตาลที่จะเผาผลาญไม่หลงเหลือในร่างกายแล้ว ทำให้ร่างกายเรียกร้องหาแป้งและน้ำตาลเพิ่ม เราก็ต้องบริโภคเพิ่มเข้าไป เรียกได้ว่ากลายเป็นกินเยอะ กินจุมากกว่าปกติ ซึ่งทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผล

และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่หลายคนออกกำลังกายแล้วไม่เห็นผล เพราะออกกำลังกายแล้วก็ไปกิน ถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุดต้องหยุดพักสักหนึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ซึ่งก็พอดีกับออกกำลังกาย 6 โมง ช่วง 7 โมงก็พัก อาจจะไปอาบน้ำ แต่งตัว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการออกไปทำงานหรือทำธุระก็ได้



หลังจากนั้นพอถึงช่วง 8 โมงเช้า ก็กินอาหารเช้าให้เต็มที่ กินให้เสร็จก่อน 9 โมง เพราะถ้ากินหลัง 9 โมง ร่างกายจะเกิดอาการหิวบ้าเลือด ทำให้กินเยอะ และกินเก่งกว่าปกติ

มื้อเช้าแนะนำให้เป็นข้าวกล้องงอกสัก 1 ทัพพี ที่เหลือเป็นกับข้าว เน้นผักเยอะ ๆ กลางวันก็ข้าวกล้องงอกสักครึ่งทัพพี ที่เหลือก็เป็นกับข้าว เน้นผักเยอะ ๆ เช่นกัน ช่วงเย็นก็งดแป้ง น้ำตาล อาจจะกินเป็นผลไม้สักเล็กน้อย ระหว่างมื้อถ้าหิวก็กินผลไม้ หรือกินอาหารกลุ่มที่เป็นเนื้อสัตว์กับผัก การทำแบบนี้ทุกวัน โอกาสที่น้ำหนักจะลงถึงสัปดาห์ละ 1 กิโลกรัมอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นไปได้สูงครับ (ถ้าไม่ทำทุกวัน โอกาสที่จะทำให้น้ำหนักลดลงสัปดาห์ละ 1 กิโลกรัมก็ลดลง)

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเป็น 6-7-8 เป็นช่วงเวลาอื่น ๆ ได้ไหม อย่างแรกเลยก็คือ อาหารเช้าเราต้องกินก่อนเก้าโมงเช้าอยู่แล้ว ถ้าจะเป็น 7-8-9 ก็อาจจะไม่ทัน หรือถ้าเปลี่ยนเป็นช่วงเวลาเย็น ๆ การออกกำลังกายในเวลาเย็นนั้น ผลที่ได้รับจะน้อยกว่าการออกกำลังกายในช่วงเช้า เพราะช่วงเวลาที่เรานอนหลับนั้น ร่างกายเราจะเผาผลาญแป้งและน้ำตาลที่กินเข้าไปอย่างที่บอกในข้างต้น

ดังนั้นพอออกกำลังกายตอนเช้า ร่างกายก็จะเผาผลาญไขมันให้ แต่ถ้าเราออกกำลังกายตอนเย็น ร่างกายก็จะต้องเผาผลาญอาหารมื้อเช้าและมื้อกลางวันให้หมดก่อน แล้วค่อยมาเผาผลาญไขมัน ดังนั้นถ้าเราอยากให้น้ำหนักลงและสุขภาพดี เราต้องบังคับให้ร่างกายเผาผลาญไขมันออกไป เช่นนั้นการใช้สูตร 6-7-8 จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวัน

สำหรับผลข้างเคียงของการใช้วิธีการนี้ในการดูแลและควบคุมน้ำหนักนั้น มีอยู่อย่างเดียวครับ คือ คุณต้องเปลี่ยนไซส์ของเสื้อผ้าให้มีขนาดเล็กลงเพื่อรับกับร่างกายที่ผอมลงและแข็งแรงขึ้น

01/08/2012
26/07/2012

ฝนตกแล้ว ใครตากผ้าเอาไว้ไปรีบเก็บด้วยยยยย

18/07/2012

ช่วงนี้ฝนตก ดูแลตัวเองกันด้วยนะจ้ะ

ปัญหาสิวที่เกิดบนใบหน้าของสาวๆ ทั้งหลาย มักจะถูกลงความเห็นว่าเป็นเพราะแพ้เครื่องสำอาง วันนี้เราจึงนำเอาเกร็ดน่ารู้ดีๆ สำ...
14/07/2012

ปัญหาสิวที่เกิดบนใบหน้าของสาวๆ ทั้งหลาย มักจะถูกลงความเห็นว่าเป็นเพราะแพ้เครื่องสำอาง วันนี้เราจึงนำเอาเกร็ดน่ารู้ดีๆ สำหรับเครื่องสำอางที่ไม่ทำให้เกิดสิวมาฝากคุณสาวๆ กันค่ะ


การแต่งหน้าเป็นประจำก็ถือได้ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาสิว แต่สำหรับผู้หญิงอย่างเราๆ ก็รู้กันดีว่าการแต่งหน้านั้นถือเป็นอีกหนึ่งภาระกิจสำคัญในชีวิตประจำวันที่ไม่สามารหลีกเลี่ยงได้เลย เพราะเราก็รู้กันอยู่แล้วว่าผู้หญิงกับเครื่องสำอางเป็นของคู่กับผู้หญิงอย่างเราๆ อยู่แล้ว แต่คุณสาวๆ ทั้งหลายก็สามารถเลี่ยงไปใช้ เครื่องสำอางที่ไม่ทำให้เกิดสิว ได้นิค่ะ วันนี้เราก็เรานำเอาความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ เครื่องสำอางที่ไม่ทำให้เกิดสิว มาฝากคุณสาวๆ ทั้งหลายกันค่ะ สำหรับ เครื่องสำอางที่ไม่ทำให้เกิดสิว เป็นเครื่องสำอางที่คุณก็ใช้อยู่เป็นประจำงั้นเราก็ไปดูกันเลยดีกว่านะค่ะว่า เครื่องสำอางที่ไม่ทำให้เกิดสิวมีอะไรบ้างเอ่ย ...

เครื่องสำอางที่ไม่ทำให้เกิดสิว
1. มอยส์เจอร์ไรเซอร์
โดยทั่วไปแล้วมอยส์เจอร์ไรเซอร์จะมีส่วนผสมของไขมันอยู่สูง เช่น ลาโนลิน น้ำมันแร่ ปิโตเลียมเจล ไขมันเนย เพื่อเป็นการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ควรทาบางๆ ในส่วนที่แห้งจริงๆ เท่านั้นอย่าทาให้หนาและทั่วใบหน้าเพราะจะทำให้รู ขุมขนอุดตันได้

2. ครีมรองพื้น
เลือกประเภทที่ใช้น้ำหรือมีส่วนผสมของน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญ ครีมรองพื้นที่มีส่วนประกอบของ Resorcinol จะ เป็นตัวกระตุ้นทำให้สิวเหิมเกริมหนักขึ้นไปอีก ครีมรองพื้นที่มีส่วนประกอบของ Benzoyl peroxide หรือ Retin-A จะไม่ทำให้เกิดปัญหาสิวขึ้นบนใบหน้า และครีมรองพื้นที่มีส่วนผสมของสารกันแสงแดดก็จำเป็นมากที่ช่วยลดอัตราการเกิดสิว

3. แป้งแต่งหน้า
แป้งแต่งหน้าชนิดที่โปร่งแสง (Translucent powders) จะมีส่วนผสมของน้ำมันอยู่ด้วย เพื่อช่วยทำให้สีผิวสดใส ยิ่งขึ้น แต่จะเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว ควรเลือกแป้งแต่งหน้าที่มีส่วนประกอบของ Walnutshell หรือ Talc ซึ่งเป็น ส่วนประกอบสำคัญในแป้งที่ใช้สำหรับเด็กทารก ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเลยว่าจะทำให้รูขุมขนอุดตัน

4. บรัชออน
หลีกเลี่ยงชนิดครีมเพราะใช้วาสลินเป็นส่วนประกอบสำคัญควรเลือกใช้ชนิดที่เป็นฝุ่นอัดลงมาในรูปของตลับจะดีกว่า

เอเดนเต้ ไวท์ ยูนิเวิร์ส ดีพ เคล็นซิ่ง โฟม

บริบทแห่งความขาว กระจ่างใสได้เริ่มต้นขึ้นจากขั้นตอนเล็กๆ การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นเพียงขั้นตอนเล็กๆ แต่คือจุดเริ่มต้น สำคัญที่จะนำพาคุณก้าวสู่ความงามที่ยิ่งใหญ่ ไวท์ ยูนิเวิร์ส ดีพ เคล็นซิ่ง โฟม อ่อนโยนต่อผิวด้วยพรายฟองโฟมนุ่ม ละเอียด ที่แทรกซึมเข้า ทำความสะอาดเครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึกหมดจดทุกอณูแห่งผิว ผสานคุณค่าของสารบำรุง Beta-White Complex ร่วมกับมอยเจอร์ไรเซอร์ชั้นสูง และ Nano Vitamin C และ E ส่งผลชัดเจนในการลดเลือนให้จุดด่างดำ ความหมองคล้ำแลดูจางลง เผยความขาวเนียนใสที่แท้จริงแห่งผิวสาวเอเชีย ทั้งยังช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า สาเหตุของปัญหาสิว พร้อมคุณค่าของสารธรรมชาติจากใบเซสทรัม ช่วยปกป้องผิวจากความระคายเคือง เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างไม่จบสิ้น เพื่อผิวที่หน้าที่ขาวใส เนียนนุ่ม มีชีวิตชีวา น่าสัมผัส
วิธีใช้ : บีบโฟมผสมน้ำเล็กน้อยให้เกิดฟองลูบไล้และนวดเบาๆ ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ แล้วล้างออกด้วยน้ำจนสะอาด

คำเตือน :
1. อ่านวิธีใช้ให้ละเอียดและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
2. หากใช้แล้วมีความผิดปกติใดๆเกิดขึ้น ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์

ขนาด : 100 กรัม

750บาท

    ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อาจจะทำให้ผิวของคุณสาวๆ เกิดปัญหาได้ง่าย และอาจจะเป็นกังวลตามมา  1.ความกังวลเรื่องผิวอาจจะทำใ...
07/07/2012

ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อาจจะทำให้ผิวของคุณสาวๆ เกิดปัญหาได้ง่าย และอาจจะเป็นกังวลตามมา
1.ความกังวลเรื่องผิวอาจจะทำให้คุณสาวๆ ไม่มั่นใจ เวลาพบเจอผู้คน วันนี้เราเลยมีคำแนะนำสำหรับข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาที่หลังได้มาฝากคุณสาวๆ ที่ชอบดูแลผิวตัวเองเป็นประจำค่ะ

2. ล้างหน้าบ่อยเกินไป ก็อย่างที่บอกไว้แล้วนั่นแหละว่า การล้างหน้าบ่อยเกินไปจำให้ต่อมน้ำมันบนผิวหน้าผลิตน้ำมันออกมาชดเชยมากเกินไป จนอาจก่อปัญหาสิวให้คุณได้

3. ใช้อะไรที่มีฤทธิ์แรง ส่วนผสมที่เข้มข้นไม่ได้ดีกับผิวหน้าเสมอไป เพราะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีฤทธิ์แรงส่วนใหญ่จะทำให้เกิดอาการระคายเคือง และทำให้ผิวแห้งได้

4. เปลี่ยนผลิตภัณฑ์บ่อยเกิน การลองใช้อะไรใหม่ๆ บ่อยๆ จะทำให้ผิวหน้าที่มีความบอบบางอยู่แล้วเกิดการปรับตัว จนทำให้ค่าความสมดุลบนใบหน้าเปลี่ยนไป ซึ่งก็หมายความว่าคุณอาจเจอะเจอกับปัญหาผิวที่ไม่เคยพบมาก่อนก็ได้
5.
ใช้แชมพูผิด ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางต่างๆ ไม่ใช่ต้นตอของอาการระคายเคืองบนผิวหน้าอย่างเดียว แชมพูและคอนดิชันเนอร์บางตัวก็มีส่วนด้วยเหมือนกัน

6. ลืมทาครีมกันแดด ตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นผลหรอก แต่ในไม่ช้า...และตลอดชีวิตของคุณ ความเสียหายจะโชว์ออกมาจนไม่สามารถหาอะไรมาปกปิดได้

Whitening Body Lotion




ไวท์ ที ไวท์เทนนิ่ง โลชั่นโลชั่นบํารุงผิวกาย มีส่วนผสมของ Lactic Acid ช่วยปรับสภาพผิวให้ขาวกระจ่าง

ใสอย่างเป็นธรรมชาติพร้อมส่วนผสมของ Yoghurt เพิ่มสารสกัดMulberry ช่วยลดความหมองคล้ำของผิว

พรรณและช่วยปรับเซลล์ผิวเสื่อมสภาพให้หลุดออกง่าย พร้อมสารสกัดชาขาว (White Tea Extract) ช่วยชะลอ

รอยเหี่ยวย่นเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว เพื่อความชุ่มชื่นและน่าสัมผัส



วิธีใช้ ลูบไล้ผิวกายหลังอาบน้ำเป็นประจําทุกวัน เช้า-เย็น

ราคา 360 บ.

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ที่มีสารแกมมา-ออไรซานอล (Gamma - Oryzanol) ในปริมาณ 9.23 มิลลิกรัม ผสานกับสารสกัดธรรมชาติอื่นๆ อ...
05/07/2012

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ที่มีสารแกมมา-ออไรซานอล (Gamma - Oryzanol) ในปริมาณ 9.23 มิลลิกรัม ผสานกับสารสกัดธรรมชาติอื่นๆ อีกหลากชนิด สกัดด้วยวิธีการสกัดเย็น 100 เปอร์เซนต์, ปราศจากสารเฮกเซนตกค้าง,ปราศจากน้ำตาล,ปราศจากโซเดียม,ปราศจากวัตถุกันเสีย

ส่วนประกอบสำคัญใน 1 แคปซูล :
- น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว 500 มก.
- แกมมาออไรซานอล 9.23 มก.
- วิตามินอี 0.41 มก.
เลขที่ อ.ย. : 10-1-01949-1-0309
วิธีบริโภค : รับประทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร
คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค
ขนาดบรรจุ : 30 แคปซูล

450 บาท

ที่อยู่

Bangkok
10320

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Domino Slimผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Domino Slim:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram