24/10/2025
เรื่องหนึ่งที่คนไม่ค่อยทราบกันคือ วิตามิน D ไม่ใช่แค่เรื่องเสริมกระดูก แต่มันช่วยสมองและภูมิคุ้มกันหลายจุด ทำให้ภาวะวิตามิน D ต่ำ สัมพันธ์กับโรคซึมเศร้า ยิ่งมีค่าต่ำ อาการยิ่งมากขึ้น
วิตามิน D เป็นวิตามินที่มี่ความเสี่ยงที่จะต่ำมากค่ะ เพราะกระบวนการสร้างต้องอาศัยถึง 3 อวัยวะ ซึ่งก็คือ ผิวหนัง - ตับ - ไต
โดยขั้นตอนที่มีปัญหาที่สุดคือ ผิวหนัง เพราะต้องใช้รังสี UVB ที่เข้มข้นพอ ซึ่งในช่วงเวลา 10-15น (แปรผันตามฤดูกาลอีก)
ทำให้หลายคนที่แทบไม่โดนแสงแดดเลย บางคนสัมพันธ์ภาวะวิตามิน D ต่ำ แต่บางคนก็ไม่ได้ต่ำ เพราะมีการแปรผันของอัตราการสร้างในแต่ละคนค่อนข้างสูง บางคนรับวิตามิน D3, D2 มาจากอาหารด้วยค่ะ
แล้ววิตามิน D มันสำคัญยังไง?
เอาที่คนทราบกันดีก่อน วิตามิน D เพิ่มจำนวน ‘ประตูแคลเซียมและฟอสเฟต’ ที่เยื่อบุลำไส้ ทำให้แคลเซียมและฟอสเฟตที่กินเข้ามา ดูดซึมเข้าสู่เลือดมากขึ้น ทำให้วิตามิน D เหมือนเป็น ผู้เปิดประตูด่านแรก ให้แคลเซียมเข้ามา ตกผลึกในกระดูก
แต่ต่อมาเราพบว่า ไม่ใช่แค่ ผิวหนัง ตับ ไต เท่านั้น ที่มีเอนไซม์ที่เอาสร้างวิตามิน D ปรากฎว่าในสมอง และในเม็ดเลือดขาว (โดยเฉพาะ macrophage) ก็มีอยู่ในปริมาณไม่น้อยเลย แสดงว่าสองอวัยวะนี้ต้องใช้วิตามิน D แน่
ต่อมาเลยมีการค้นพบว่าวิตามิน D เกี่ยวกับข้องกระบวนการอักเสบหลายจุด
✔️ กดสัญญาณอักเสบ (NF-kB) ทำให้ลดสารก่ออักเสบลงได้:
✔️ ทำให้จำนวน T cell สายพันธุ์อักเสบ (Th1, Th17) ลดลง, แต่เพิ่ม Treg ที่คอยปล่อยสารต้านอักเสบ
✔️ ทำให้กรดอะมิโน Tryptophan ถูกเปลี่ยนไปเป็น Quinolinic acid (QUIN) ลดลง ซึ่งตัวนี้เป็นพิษต่อเซลล์ประสาท
ซึ่งในโรคซึมเศร้าเอง ก็มีกลไกเซลล์ microglia สร้างสารก่ออักเสบและสาร QUIN ทำร้ายเซลล์ประสาทจนฝ่อ ดังนั้นฤทธิ์ 2 อย่างนี้ อาจลดการอักเสบในระบบประสาทได้ (Neuroinflammation)
และยังเกี่ยวกับการทำงานของสมองหลายจุด
✔️ กระตุ้นการสร้างสารงอกปลายประสาท (BDNF, NGF)
✔️ เพิ่มการสร้างเอนไซม์ TPH2 ซึ่งเอาไว้สร้าง serotonin
✔️ ช่วยควบคุมการทำงานประตู serotonin (SERT) ทำให้ serotonin หลั่งไปแล้ว คงอยู่ออกฤทธิ์นานขึ้น
ซึ่งในโรคซึมเศร้าเอง เซลล์ประสาทที่โดนทำร้ายมากๆ จะมีการสร้างสารงอกปลายประสาทลดลง และพอมันเริ่มฝ่อ เอนไซม์ต่างๆ ที่คอยสร้างสารสื่อประสาทก็ลดลง ดังนั้นฤทธิ์ของวิตามิน D ส่วนนี้อาจช่วยได้
จากงานวิจัยส่วนใหญ่ ผลลัพธ์เป็นไปในทางที่วิตามิน D ต่ำ เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า แต่ถ้าระดับวิตามิน D ปกติอยู่แล้ว การที่เพิ่มไปกว่าเดิม อาจไม่ส่งผลอะไร
สรุป: วิตามิน D มีฤทธิ์ลดการอักเสบและเสริมการงอกเซลล์ประสาท ซึ่งการอักเสบ/การฝ่อของเซลล์ประสาท ถือเป็นหัวใจหลักของโรคซึมเศร้าพอดี ดังนั้นวิตามิน D ต่ำ สัมพันธ์กับซึมเศร้า แต่ถ้าวิตามิน D ปกติอยู่แล้ว ไปรับมามากขึ้น อาจไม่ช่วย
แล้วทำยังไงดีกับเรื่องนี้?
ควรตากแดดดีมั้ย? แล้วผลกระทบอื่นของแดดล่ะ?
✅ ประเทศไทยมี UV index สูง ดังนั้นใช้แขนขารับแสงแดด โดยไม่ทาครีมกันแดด เพียง 8-10 นาที ในช่วง 10-15น จุดไหนก็ได้ เลือกช่วงที่โอเคสุดในวันนั้น ทำสัปดาห์ละ 2-3 วันก็พอค่ะ
✅ ถ้ามีเมฆปกคลุมบางส่วนจนแดดไม่จ้า มีช่วงร่มๆ อาจจะต้องเพิ่มระยะการตากแดดเป็น 2 เท่า ถ้าเมฆครึ้มฝนมาเลย อันนี้แทบไม่มี UVB ลงมาเลย
✅ อาหารหลายชนิดมีวิตามิน D3 ในรูปไม่ต้องผ่านผิวหนังแล้ว เช่น ปลาแซลม่อน (400-600 IU), ปลาทูน่า/ซาร์ดีน (200-400 IU), น้ำมันตับปลา (1,000 IU/ชช), ไข่แดง (40-50IU)
โดยคนทั่วไปต้องการวิตามิน D 600-800 IU/วัน, ส่วนผู้สูงอายุ, ผู้ที่ขาด จะต้องเพิ่มเป็น 1,000 - 2,000 IU/วัน
✅✅ ต้องกินเสริมมั้ย? ฉันแทบไม่โดนแดดเลย? ให้คิดแบบนี้ค่ะ
1️⃣ ไปโดนแดดก่อนค่ะ แต่ถ้ากลัวปัญหาผิวคล้ำ/ฝ้า ผิวบางคนไวต่อ UV มาก ให้ไปข้อถัดไป
2️⃣ กินจากอาหารมาพอมั้ย? บางคนสายกินปลาทะเลกับไข่อยู่แล้ว อาจจะพอ
3️⃣ ถ้าคิดว่าไม่พอ แนะนำให้ไป รพ. เจาะเลือดดูค่า 25-OH-D3 ก่อนค่ะ
4️⃣ ถ้าออกมาต่ำเลย → กินวิตามิน D เสริมรายวันเลยค่ะ หรือจะฉีดเป็นรายสัปดาห์ก็ได้
5️⃣ ถ้าออกมาเกือบต่ำ → ไม่มีไกด์ไลน์แน่ชัด เพียงแต่ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น อายุมากกว่า 60 ปี, หรือคนที่มีโรคซึมเศร้าอยู่ด้วย อาจให้ได้
6️⃣ ถ้าผลออกมาปกติเลย ปัจจุบันยังไม่พบประโยชน์ชัดเจนในการกินเพิ่ม รวมทั้งในคนที่มีโรคซึมเศร้าแล้ว แต่ผลวิตามิน D ปกติ ก็ไม่พบว่าช่วยให้ดีขึ้น
แต่ถึงแม้ว่าวิตามิน D ดูมีแนวโน้มที่จะช่วยซึมเศร้าหลายจุด แต่ฤทธิ์ที่บอกไป ยาต้านเศร้าส่วนใหญ่ทำได้หมดเลยค่ะ และสามารถควบคุม dose ได้ด้วย
ดังนั้นการรักษาหลักยังไงก็เป็นการกินยาต้านเศร้าค่ะ อาจมีการเสริมวิตามิน D เป็นแบบ adjuvant ได้ก็ต่อเมื่อตรวจพบว่ามีค่าต่ำ หรือ เกือบต่ำ (optional) ค่ะ